เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณมาทำเราคืนเขาบาปไหมครับ

ผู้ที่ก่อกรรมไว้จะต้องได้รับผลของกรรม การที่เราไปก่อกรรมกับคนหรือสัตว์ไว้ในอดีต วิญญาณที่ถูกกระทำมักมีความอาฆาตและมักจะตามมาเอาคืนในสิ่งที่ตนได้เคยถูกทำไว้ นี่คือกฏแห่งกรรมที่เที่ยงแท้ การเอาคืนนั้นจึงเป็นไปด้วยความชอบธรรม

แต่ก็สงสัยว่ากรณีที่เจ้ากรรมนายเวรซึ่งเป็นวิญญาณตามมาทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วยบ้าง ประสบอุบัติเหตุบ้าง แบบนี้พวกเขาถือว่าทำบาปหรือไม่ครับ เพราะเขามาทำเราด้วยความชอบธรรมตามกฏแห่งกรรม? แล้วถ้าเราไม่ไปอาฆาตเขาตอบและแผ่เมตตาให้เป็นประจำแต่เขาก็ไม่ยอมอโหสิให้และยังคงทำร้ายเราต่อไป อย่างนี้เมื่อหมดวาระที่กรรมให้ผลแล้วพวกเขาจะต้องรับกรรมที่ทำกับเราหรือไม่ครับ?

อย่างพระอรหันต์หลายองค์ที่ได้ยินมาท่านก็โดนวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรทำร้ายทำให้อาพาตต่างๆนาๆ อย่างนี้เจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้นไม่บาปมากหรือครับที่ทำร้ายพระอรหันต์

 

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

 

ไม่รู้ว่านับถือศาสนาไหนเนี่ย สอนผิดๆ เคยไปกราบพระกับเขาบ้างไหม เจ้ากรรมนายเวร เขามีสิทธิเอาคืน แต่เขาก็ต้องรับกรรม มีบาปกรรมด้วย ดูอย่างเทวทัตกับพระพุทธเจ้า หรือนันทยักษ์ที่ตีศรีษะพระสารีบุตร ทุบทีเดียวลงอเวจีเลย เป็นต้น มันเป็นลักษณะผลัดกันเอาคืนจนกว่าอีกฝ่ายจะเลิกไปเอง แม้อีกฝ่ายจะเลิกจองเวรไปแล้วก็ยังจะมีตัวแทนเข้ามาเสียบจองเวรแทนอยู่ดี จนกว่าอีกฝ่ายจะหมดกรรม

 

ใช่แล้วครับ ตามนั้นเลย

 

ผมไม่ได้ว่าคุณนะครับ ว่าอีกคนแต่เขาลบโพสถ์ออกไปแล้ว ขออภัยด้วย ใช้มาตั้งนานพึ่งจะรู้ว่ามีการลบโพสถ์ได้ด้วย เดี๋ยวคนอื่นจะงง

 

บาปค่ะ

วัตตะ มันจึงหมุนไปได้ด้วยประการละ ฉะนี้ นี่เอง

 

ก็ถ้าเรากับเขาไม่ยอมอโหสิกรรมต่อกัน ก็จะสร้างชาติสร้างภพกันต่อไป ต้องตามไปทำร้ายกันตลอด ลองคิดเถิดว่าบาปไหม ถ้าอโหสิกรรมให้กันอาจไปนิพพาน
นิพพานัง ปะระมัง สุขัง

 

บาปแน่นอน การจองเวรทำให้ก่อกรรมไม่สิ้นสุด เวรต้องระงับด้วยการไม่จองเวรเท่านั้น ONLY

 

ต้องแยกเป็น 2 กรณีครับคือ
1. ผู้จองเวร
2. กรรม

ถึงแม้ว่าผู้จองเวร อาจจะเลิกแล้วต่อกัน ไม่จองเวรจองกรรมกันแล้ว
แต่ ผลของการกระทำ นั่นคือกรรม ก็จะยังตามเล่นงานเหมือนเดิมครับ

ยกตัวอย่างเช่น เราไปฆ่าคน แม้คนที่ถูกเราฆ่าจะไม่ติดใจเอาโทษ
แต่กฏหมายก็ยังเอาโทษเราเหมือนเดิม

 

สาธุตอนนี้ผมคิดว่าผมกำลังโดนการกระทำของกรรมตามเล่นงานอยู่สาธุกับพี่ๆทุกท่านด้วยนะครับ

 

เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณอาฆาตมาทวงกับเราเขาสร้างกรรมได้หรือไม่ ก็
ต้องดูว่ากรรมนี้ทำได้ 3 ช่องทาง ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ไม่รู้ว่าเขา
สร้างกรรมทางกาย กับวาจาได้ไหม แต่ทางใจนี่สร้างได้แน่นอนคือถ้าเขามี
ความผูกอาฆาตพยาบาทจิตเขาก็ตกอยู่ในภูมิต่ำมีแต่ความทุกข์ ส่วนใหญ่จะ
เป็นประเภทจิตดวงสุดท้ายตกในอบายภูมิยังยึดติดกับร่างกายก็เลยไปในภพภูมิที่
ดีไม่ได้ ปกติพลังงานระหว่างสิ่งต่างๆ จะแลกเปลี่ยนกันอยู่แล้ว ถ้าเจ้ากรรม
นายเวรที่เป็นวิญญาณมาใกล้กับคนที่มีกระแสเมตามากเขาก็จะได้รับส่วนนี้ทำ
ให้จิตใจของเขามีความอาฆาตน้อยลงได้ มันเหมือนกับบางทีเราอยู่ใกล้บางคน
แล้วอึดอัด แต่อยู่ใกล้บางคนแล้วรู้สึกร่มเย็นสบายใจแบบนั้น ซึ่งเจ้ากรรมนาย
เวรก็รับรู้ได้แน่นอนว่าคนที่เขาตามเล่นงานเป็นคนอย่างไรแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นปล่อย
วางได้

 

ผู้ถามเคยได้ยินคำว่า "จิตเป็นนาย - กายเป็นบ่าว" หรือไม่ครับ ถ้าเคยได้ยิน ก็ลองคิดดูนะครับว่า กรรมที่เกิดขึ้นกับเรานั้น ใครเป็นคนก่อมันขึ้นมา คนอื่น หรือตัวเราเอง เจ้ากรรม ก็คือผู้เป็นเจ้าของกรรมนั้น นายเวร ก็คือผู้เป็นนายของเวรนั้น ก็ตัวเราเองไม่ใช่เหรอครับ เพราะจิตเราอาฆาต จนสั่งให้กายเราลงมือฆ่า นี่จิตเราเป็นเจ้าของกรรม หรือผีสาง เทวดาเหรอครับ... คำตอบก็คือ ไม่เกี่ยวกับสิ่งอื่นเลย ใจตัวเองล้วนๆ เราเลือกที่จะทำเอง เราตัดสินใจเอง ดังนั้นผลกรรมจึงต้องตกเป็นของเรา สรุปง่ายๆ... เจ้ากรรมนายเวรก็คือ "ตัวของเราเอง" นั่นแหละครับ ทีนี้หากเป็นการกระทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ บาดเจ็บ เสียชีวิต และเป็นเหตุให้เกิดความเป็นไปต่างๆนาๆ นั่นก็เป็นเพราะ "กรรม" ของเราเองไม่ใช่เหรอครับ และการที่ถูกเขากระทำกลับสนองคืน แน่นอน ว่าเขาก็บาปเช่นกัน ฉะนั้นการจะหยุดวงจรนี้ไป เราเองต้องก้มหน้ารับกรรมอย่างอาจหาญ แล้วอโหสิกรรมแก่เขาเสีย ตั้งปณิธานไว้ว่า
... "ชาตินี้ ภพนี้ เราขอรับผลแห่งกรรมที่เราเคยก่อไว้ ด้วยความเต็มใจ เพื่อเป็นการชดใช้ในบาปที่เราเคยกระทำ เราขออโหสิกรรมแด่ "เหยื่อกรรม" ของเราทุกรูป ทุกนาม ทุกสรรพสิ่ง และชาติหน้า ภพหน้า เราขอไม่จงเวรกับเขาอีก ขอให้จบกันเพียงชาตินี้เถิด" ...
ตั้งปณิธานไว้อย่างนี้ แล้วยอมรับในกรรมนั้นเสีย ตั้งใจสร้างบุญใหม่ให้เกิดขึ้นอยู่สม่ำเสมอ ไม่ใช่พอเป็นนั่นเป็นนี่ แล้วเอาเรื่องราวมาทำร้ายจิตใจจนเศร้าหมอง ไม่อยากทำอะไรอย่างนั้น นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ใดแล้ว ยังจะกลับเป็นโทษของเราซะอีก ดังนั้นแล้วควรปล่อยวาง แล้วเริ่มต้นสร้างกรรมดีต่อไป ถามว่าการที่เราฆ่าเขา แล้วเขามาฆ่าเรากลับ นั่นเป็นบาปไหม.. บาปแน่ครับ แต่ถ้าเขาทำเรา แล้วเราไปทำเขาคืนอีก แล้วเมื่อไหร่มันจะจบ? มันจะเป็นการผูกเวรกันไปเรื่อยๆโดยใช่เหตุ แต่เมื่อเราเป็นคนเริ่มเหตุ ก็จงระงับเหตุ ด้วยความ... เมตตา อุเบกขา และ อโหสิ ครับ (^_^)