ถามเกี่ยวกับอาการจากการทำสมาธิค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Junejuly, 5 กันยายน 2011.

  1. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    1.จิตรับรู้ดีกว่าจิตที่คิดปรุงแต่ง เพราะจิตมีหน้าที่รับรู้ ไม่ใช่มีหน้าที่ปรุงแต่ง

    2.จิตที่วางการรับรู้ดีกว่าจิตที่รับรู้ เพราะเมื่อจิตรับรู้ ย่อมต้องมีความเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็เป็นการวางรู้

    3.ให้อยู่กับคำภาวนาไปเรื่อยๆ อย่าทิ้งองค์ภาวนา ให้จิตมีที่ยึดเหนี่ยว

    4.เมื่อมีการรับรู้ถึงความไม่เที่ยง ควรทำความเข้าใจในสภาวะที่เป็นนั้น ให้เห็นตามจริง

    5.สมาธิถดถอยหรือไม่ ให้สังเกตุที่จิตใจในทุกขณะจิต ว่ามีสมาธิหรือไม่

    6.การที่ไม่ได้ยินจะมีอยู่ สองอย่าง คือ ดีขึ้น หรือ ถอยลง ควรสังเกตุ

    7.ควรที่จะทำใจยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ และ มั่นปฎิบัติไปเรื่อยๆครับ
     
  2. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    คุณDutchanee -- ขอบคุณค่ะ อนุโมทนาสาธุกับคุณด้วยนะคะ :)

    คุณOatthidet -- ตอนนี้ยังไม่ทราบ ไม่แน่ใจว่าจิตมันถดถอยหรือไม่ค่ะ แต่รู้สึกว่าเวลานั่งสมาธิมันเข้าสมาธิเร็วขึ้น สงบ แต่ในขณะเดียวกันจิตมันรู้สึกปลงๆแบบถ้าจะตายก็ช่างมัน เริ่มรู้สึกยอมรับความตายได้มากขึ้นค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กันยายน 2011
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากเข้าสมาธิได้เร็วขึ้น บ่งบอกว่ามีการพัฒนาครับ

    หากจำได้ ผมเคยบอกกล่าวไว้ถึง จิตที่ละเอียดเกินภพภูมิของโลกวิญญาณ

    จะทำให้ไม่เห็น แต่ถ้าต้องการเห็นก็จะเห็นได้ ยังจำได้ไหมครับ

    เรื่องการปรงนั้น จะมาเป็นระยะๆ ไม่ได้คงที่ครับ คอยสังเกตุดูดีดีครับ
     
  4. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    จำได้ค่ะที่คุณOatthidet เคยบอกว่าถ้าจิตละเอียดขึ้นจะไม่เห็นภพภูมิของวิญญาณ ดิฉันไม่แน่ใจค่ะว่าเป็นเพราะดิฉันถดถอยลงไหมเพราะไม่ได้นั่งสมาธิมาอาทิตย์นึงอ่ะค่ะ ก็แปลกใจค่ะที่กลับมานั่งสมาธิอีกครั้งหลังจากห่างหายไปอาทิตย์นึงดิฉันรู้สึกเข้าสมาธิเร็วขึ้น คงต้องรอดูสักพักหลังจากกลับมานั่งสมาธิค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าทำไมอยู่ๆจิตมันถึงคิดปลงและกล้าเผชิญกับความตายแบบนี้ขึ้นมาเอง ความรู้สึกปลงแบบนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไรคะ แล้วทำไมมันถึงมาเป็นระยะๆ แล้วหลังจากระยะนี้จะเป็นอย่างไรคะ (ขอโทษค่ะ ดิฉันถามเป็นเจ้าหนูจำไมอีกแล้ว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กันยายน 2011
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การปฎิบัติ ไม่ได้กำหนดไว้ที่การนั่งกรรมฐานเพียงอย่างเดียวครับ

    ถึงแม้เราไม่ได้นั่ง แต่เวลาที่เราเคยนั่งปฎิบัติกรรมฐาน จิตก็เป็นสมาธิได้

    และหากสมาธิเกิดขึ้นแล้ว เรารับรู้ และ ปฎิบัติต่อ คือ ทำความรู้สึกต่อ

    ก็จะเป็นการปฎิบัติเช่นกันครับ เพราะขณะนั้นจะมีทั้ง สติ และ สัมปชัญญะ ที่ดี

    ส่วนเรื่องการปรงนั้น กิเลสก็จะละเอียดขึ้นมาตามที่เราละเอียด

    และจะแซงหน้าเราไป จึงทำให้ในบางระยะ ที่เผลอการปรงจะหายไปครับ

    แต่พอมีสติที่ดี การปรงก็จะหวงคืนมาครับ จนกว่าจะเริ่มเห็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

    จนมีความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อการมีชีวิต ต่อการมาเกิดเป็นมนุษย์

    จนเห็นสภาพร่างกาย เป็นสิ่งที่ธรรมดาจริงๆ และ เห็นการทำงานของจิตด้วยตนเอง

    เข้าใจในวิธีการปฎิบัติด้วยตนเองครับ เมื่อนั้นจะเห็นว่าการรักศีลเพราะเหตุใดครับ
     
  6. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    น่ามหัศจรรย์นะคะที่การนั่งสมาธิของดิฉันมันมาเป็นขั้นเป็นตอนแบบที่ผู้ปฏิบัติมาก่อนเคยประสบ ตอนที่เกิดความรู้สึกปรงแบบนี้ขึ้นมา ดิฉันก็งงว่าทำไมอยู่ๆถึงรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาเอง นึกว่าดิฉันผิดปกติอะไรเสียอีก -_- แต่บอกตรงๆค่ะ ตอนนี้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ดีครับ แต่ลองมองออกไปข้างหน้าสิครับ วันเวลาในความไม่เที่ยงรอคอยอยู่ครับ

    หลายสิ่ง หลายอย่าง ที่ยังมาไม่ถึง รอคอยเราอยู่ ความแปรเปลี่ยนที่ไม่แน่นอน

    อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่ได้รับรู้ครับ ให้วันเวลาเป็นตัวบอกกล่าว จะเข้าใจได้ง่ายกว่าครับ

    แต่ผลที่เกิดขึ้นกับคุณ บ่งบอกถึงสิ่งที่ดีครับ ควรแล้วที่จะเจริญต่อไปครับ

    เพราะในขั้นตอนต่อไป จะเริ่มเห็นในความเบื่อหน่ายนี้ล่ะครับ ต้นเหตุแห่งความเป็นทุกข์

    อย่ารีบร้อนครับ เดี๋ยวสิ่งที่ผมได้กล่าวจะค่อยๆแสดงออกมาเองครับ
     
  8. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    อนุโมทนาค่ะ

    แว๊ดก็เป็นเหมือนกัน ที่ว่าไปรู้สึกแต่กายข้างใน แต่ว่าเคยออกมาได้ครึ่งตัว มันจะรู้สึกแต่กายข้างใน กายนอกนี่ไม่รู้สึกเลย แต่ตกใจก็เลยกลับเข้าไปใหม่ แต่ก็เหมือนเขาจะพยายามออกอยู่เรื่อย ๆ

    อาการเยอะ แต่ก็ปล่อยมัน เป็นแค่ผลของสมาธิ แต่ตอนนี้ จิตเขาจะพิจารณาร่างกายกับอาหารเอง ที่ว่าเอง เพราะไม่ได้คิดหรืออยากจะจับอะไรมาพิจารณา แต่จิตพอเขาเห็นอะไรเขานำมาพิจารณาหมด อาการคือ ตอนนี้มึนศรีษะ คลื่นไส้ อยากจะนิ่ง ๆ ดิ่งอยู่อย่างเดียว
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    จะเป็นอาการแบบนั้นอยู่ในช่วงหนึ่งครับ ที่มีอาการมึนหัว

    บ่งบอกถึงการเพ่ง การขับเคลื่อนจิตในการเพ่ง จะมีอาการมึนหัวครับ

    พอทรงตัวแล้ว อาการก็จะเป็นปกติเองครับ
     
  10. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    การรู้ทันความคิดแสดงว่าจิตมีสติมีสมาธิดีขึ้นครับ ตามธรรมชาติถ้าจิตไม่มีสติสมาธิ จิตจะจับความคิดหรืออารมณ์ต่างๆไม่ทันแน่ๆ

    ที่ถามนั้น ก็แล้วแต่ใจอยากจะปล่อยให้จิตตามรู้ทัน ๑ หรือ จะไม่สนใจโดยการกลับมารู้ที่ พุทโธ ๑

    อย่างแรกเป็นการเจริญแบบ สติปัฏฐาน
    อย่างที่สองฝึกเจริญสมาธิแบบ ฌาณ

    ถ้าตามความคิดผมๆ ก็ว่าน่าจะกำหนดพุทโธไปเรื่อยๆ ก่อน เพื่อให้จิตก้าวเข้าสู่อารมณ์ฌาณให้เต็มที่ก่อนจะดีครับ อันนี้ก็อยู่ที่ผู้ปฏิบัติด้วยนะครับ เพราะบางคนก็ทำฌาณให้เกิดง่าย อย่างคุณ stillness นี่น่าจะเป็นพวกอยู่ในกลุ่มเจริญฌาณนะครับ แล้วเราค่อยเจริญสติปัฏฐานต่อไปในตอนที่เรามีสมาธิเข้มแข็งแล้วจะง่ายกว่าครับ

    อันนี้ดีแล้วครับ เป็นธรรมชาติที่จิตพบความสงบ จิตก็จะดึงเรื่องที่เคยพิจารณาในครั้งก่อนๆ ขึ้นมาพิจารณาต่อ และทำให้ปลง เบื่อ วางเฉยได้ง่าย ก็ด้วยจากจิตที่สงบนั้นแหละครับ

    แต่อย่าเพิ่งวางใจ ช่วงนี้ยังจะขึ้นๆลงๆอยู่ ทำต่อไปครับ

    อันนี้ก็ควรจะวางความสงสัยลงก่อนนะครับ แต่ถ้ายังไม่เคลียร์ ผมแนะนำให้กำหนดจิตขอบพระคุณท่านเจ้าเสียงนั้น แล้วเราก็อุทิศบุญให้ท่านไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ขอให้ท่านใ้ห้การสงเคราะห์ทุกประการเท่าที่ท่านจะช่วยได้นะครับ

    แล้วเรื่องสมาธิถดถอยหรือไม่นั้น ก็ไม่ต้องกังวล ให้วัดกำลังในการปฏิบัติของเรา ว่าเรายังทำอยู่อย่างสม่ำเสมอหรือไม่ เรามีความพอใจในพระกรรมฐานหรือไม่ เรามีความเพียรดีขึ้นหรือไม่ เรามีความใส่ใจอยู่เนืองๆในพระกรรมฐานหรือไม่ เราได้คิดทบทวนพิจารณาหาข้อบกพร่องเสมอๆ หรือไม่ เพราะถ้ายังอยู่ในวงเขตนี้ ก็ชื่อว่าการปฏิบัติจะไม่ถดถอยแน่นอนครับ

    ระหว่างนี้ก็ลองฟังหรืออ่านเรื่องที่ผมเคยแนะนำไปดูนะครับ การเรียนกับพระอรหันต์ย่อมไม่มีที่ผิดพลาดครับผม
     
  11. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบคุณค่ะคุณชินนาที่กรุณามาตอบให้ความกระจ่างแก่ดิฉันเสมอ ตอนนี้ดิฉันก็ยังมีความรู้สึกชอบและอยากจะฝึกนั่งสมาธิเหมือนเดิมค่ะ(หลังจากห่างหายไปอาทิตย์หนึ่ง) ตอนแรกก็คิดว่าห่างการฝึกไปนานแบบนี้จะต้องเริ่มที่หนึ่งใหม่แน่ แต่ก็รู้สึกดีค่ะที่ยังสามารถเข้าสู่ความสงบได้ :)

    เสียงที่เคยได้ยิน ตอนแรกนึกว่าหายไปแล้ว เมื่อคืนได้ยินอีกแล้วค่ะ เป็นเสียงผู้ชาย ได้ยินชัดขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมาก(อุตส่าห์ดีใจที่ไม่ได้ยินไปพักหนึ่ง) จิตดิฉันก็ถามเสียงนั้นแต่ดิฉันจำไม่ได้ค่ะว่าถามเขาว่าอะไรแต่ดิฉันจำคำตอบของเขาได้ว่าเขาตอบว่า"ใช่"(ชัดมาก) หลังจากที่ดิฉันได้ยินเสียงนั้น ดิฉันก็แผ่เมตตาค่ะ

    มีเรื่องแปลกอีกเรื่องค่ะ ดิฉันฝันเห็นพระพุทธรูปหลายองค์สองคืนติดกันเลยค่ะ ที่จำได้..คืนแรกนั้นดิฉันฝันเห็นองค์พระพุทธรูปหลายองค์ทำด้วยไม้(ดูโบราณๆ) ในที่สลัวๆ ไม่สว่างมากนัก แปลกดีค่ะ

    ดิฉันตั้งใจว่าจะทานเจสัก3วันค่ะ(ไม่เคยทานเจจริงจังมาก่อนแต่อยากตั้งใจดูสักครั้ง) ตอนนี้ดิฉันงดทานเนื้อวัวได้มาหลายเดือนแล้วค่ะ ตั้งใจว่าจะไม่ทานเนื้อวัวอีกต่อไป มันเป็นความต้องการส่วนตัวของดิฉันเองค่ะ แค่มาเล่าสู่กันฟัง ไม่มีเจตนาไม่ดีใดๆ หากทำให้บางท่านมีความเห็นไม่ชอบก็ขออภัยและขอให้อโหสิกรรมให้กันนะคะ

    ดิฉันจะหมั่นฝึกต่อไป หากมีอะไรที่ดิฉันอาจประสบและไม่เข้าใจ ดิฉันจะมารบกวนถามอีกนะคะ

    คำสารภาพ: แหะๆ พูดตามตรงนะคะ ดิฉันไม่ทราบคำศัพท์ยากๆทางพุทธศาสนานักค่ะ ได้แต่ใช้คำง่ายๆน่ะค่ะ catt24

    ขอบคุณในความเมตตากรุณาของคุณชินนาและทุกท่านที่มาแนะนำอีกครั้งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กันยายน 2011
  12. syamK

    syamK สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +15
    สาธุ อนุโมทนากับผู้ตอบกระทู้ทุกท่านครับ ที่ทำให้ผมมีความรู้ครับ^^
    ปล. ตอนนี้ผมก็งดทานเนื้อวัว เหมือนคุณStillness ครับ ศีลข้อ 5 ลดลงมาได้เยอะแล้วไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน แต่ก่อนดื่มทุกวัน ช่วงนี้ฝึกกำลังใจครับ สามอาทิตย์ที่ผ่านมา ดื่มไป สามครั้ง ^^ ส่วนนั่งสมาธิต้องพยายามฝึกต่อไป ผมยังไม่ถึงขึ้นที่เป็นนิมิตรเลยครับ
     
  13. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    อนุโมทนากับความตั้งใจมุ่งมั่นด้วยค่ะคุณSyamK ยินดีด้วยนะคะและขอเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ ฝึกจนมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเดี๋ยวมันก็ชินไปเองค่ะ พอดิฉันไม่ได้นั่งสมาธิก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป
     
  14. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    - ยังพอใจในพระกรรมฐานอยู่ ยังอยากทำพระกรรมฐานอยู่ ดีแล้วครับ

    - เสียงนั้น ตามที่คุณได้กำหนดจิตถาม คุณคงมั่นใจขึ้นแล้วใช่ไหมครับ คุณลองถามเรื่องอื่นๆ ดูสิ เช่น วันนี้ พรุ่งนี้ จะมีเหตุการณ์อะไรที่จะเกิดกับเราไหม ลองดูนะครับ เพื่อความมั่นใจเข้าไปอีก

    - ความฝัน เห็นพระพุทธรูปอย่างนี้เป็นมงคลครับ ความฝันสามารถวัดระดับจิตของเราได้ดีอย่างหนึ่งนะครับ

    - กุศลเจตนาอันใดที่คุณตั้งใจไว้ ผมขออนุโมทนาครับ

    - เรื่องภาษาศัพท์บาลียากๆ นี่ ผมก็พยายามจะหลีกเลี่ยง ไม่ใช้พูดมากนัก เพราะเชื่อว่าหลายท่านไม่เข้าใจ โดยส่วนตัวผมก็ไม่ชอบพูดบาลีมากนักหรอกครับ

    - มีอะไรค่อยมาคุยกันนะครับ

    ลุย ครับ
     
  15. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    พิจารณา ทุกข์และความตาย บ่อยๆ นะครับ
     
  16. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    อาจจะนอกเรื่องนิดนึงนะคะ คือรู้ว่าที่จะเล่าให้ฟังนี้อาจเป็นเพียงนิมิตที่ไม่ควรจะยึดติดนัก แต่ดิฉันก็ยังไม่วายที่จะเกิดความสงสัย คือเรื่องมันเกิดขึ้นช่วงสองสามเดือนแรกที่ฝึกกรรมฐานเอง แล้วหลังจากเลิกนั่งสมาธิดิฉันก็นอนดูทีวีอยู่ อยู่ๆตาก็เหลือบไปมองเพดานห้อง แล้วก็เห็นเป็นภาพของฐานดอกบัว(ฐานแบบที่พระพุทธรูปประทับอยู่น่ะค่ะ)ค่อยๆก่อขึ้นมาเป็นภาพ ดิฉันเห็นแบบนั้นก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วภาพนั้นก็หายไป ดันตกใจซะก่อนที่ภาพฐานดอกบัวจะครบเต็มวง ดิฉันเลยแปลกใจว่าคนเราสามารถเห็นนิมิตนอกจิตได้เหรอคะ นิมิตที่เห็นได้ด้วยตาเนื้อแบบนี้เกิดขึ้นเพราะอะไรและทำไมถึงมาให้เห็นทางตาเนื้อคะ ดิฉันพูดด้วยความสัตย์จริงค่ะ ดิฉันไม่ได้คิดจินตนาการไปเองและระหว่างนั้นดิฉันไม่ได้คิดฝักใฝ่ถึงธรรมะหรืออะไรเลย เพราะดิฉันนอนดูทีวีอยู่จิตใจก็จดจ่อกับรายการทีวีที่นอนดูอยู่ ทุกวันนี้ดิฉันยังจำภาพที่เห็นได้ติดตาเลยค่ะ รู้สึกเป็นมงคล ไม่อยากลืมเลยค่ะ
     
  17. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    ผมเองก็ไม่เคยเห็นนิมิตอย่างที่คุณ stillness เห็นหรอกครับ

    แต่ไม่ปฏิเสธว่าไม่มี และก็เชื่อด้วยว่าเป็นไปได้ครับ

    ถ้าคุณยังติดใจอยู่ก็ไปเป็นไรครับ ก็ยังดีด้วยซ้ำ เพราะนั่นคือ นิมิตใน พุทธานุสติ(นึกถึงพระพุทธเจ้า)

    เหตุการณ์แบบที่ผมฉงนสนเทห์ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงวัยเด็กครับ โตมาแล้วไม่ค่อยมีแฮะ
     
  18. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    ดิฉันรู้สึกทราบเองว่าคุณชินนาฝึกกรรมฐานมานาน ไม่ทราบว่าคุณชินนาปฏิบัติมานานกี่ปีคะ แล้วคุณชินนาพอจะกรุณาเล่าประสบการณ์การจากการปฏิบัติของคุณชินนาให้ดิฉันได้ทราบเพื่อเป็นความรู้ได้ไหมคะ ดิฉันได้แต่ถามในสิ่งที่ดิฉันสงสัยแต่ไม่เคยได้ถามเพื่อทำความรู้จักคุณชินนาที่เป็นคนคอยช่วยเหลือและชี้แนะให้กับดิฉันอยู่เสมอ...ขอโทษค่ะ

    ดิฉันอาจเป็นเพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่งแต่ดิฉันรู้สึกไว้ใจและเชื่อมั่นในคำแนะนำของคุณชินนา ความรู้สึกของดิฉันเป็นแบบนี้จริงๆค่ะ แต่หากคุณชินนาไม่สะดวกใจที่จะเปิดเผยหรือเล่าเรื่องส่วนตัวก็ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันเข้าใจดีค่ะ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 กันยายน 2011
  19. ชินนา

    ชินนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +248
    ที่จริงก็ไม่ได้ไม่สะดวกใจอะไรหรอกครับ แต่ไม่สะดวกที่จะคิดย้อนกลับไปครับ เพราะมันหลายเรื่องหลายราว

    ผมปฏิบัติมาไม่นานเท่าไหร่ครับ ถ้านับแบบที่ทำจริงๆ จังๆ คือรักษาศีล ๕ จริงจังก็เกือบๆ ๔ ปีแล้วครับ ถ้านับที่ทำสมถะและวิปัสสนาจริงจังไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียวนี่ก็เกือบๆ ๒ ปีครับ

    แต่ถ้าถามว่าเลื่อมใสในพระพุทธศาสนานานเท่าไหร่ ก็ขอตอบว่าตั้งแต่รู้ประสีประสานู้นแหละครับ แต่ด้วยอกุศลกรรมที่ทำไว้ทำให้ต้องพเนจรกลายร่างเป็น "ไอ้เ_ี้ย" นี่พูดตามศัพท์สมัยใหม่ที่เวลาด่าใครที่ทำตัวเลวๆ ผมก็เลวของผมตั้งนานนะกว่าจะรู้ตัว

    ประสบการณ์การปฏิบัตินี่เล่าลำบากครับ เอาเป็นว่าผมก็ล้มลุกคลุกคลานตามประสาผู้ใคร่ในธรรม ซึ่งตอนนี้ก็ยังเลวอยู่มาก ไม่มีความดีให้ใครได้ชื่นชมหรอกครับ

    ถ้าจะลองเทียบกับความดีของพระอริยะเจ้าและพระอรหันต์แล้ว สมมติว่าฝุ่นในกำมือมีปริมาณเท่าไหร่ เปรียบเทียบปริมาณเป็นความดีของพระอริยะเจ้า แล้วหยิบเอามาหนึ่งเม็ด ผ่าครึ่งหนึ่งของเม็ดฝุ่นนั้นล้านที ความดีของผมมันก็ไม่ได้เท่าเสี้ยวหนึ่งของความดีของพระอริยะเจ้า ไม่เท่าเม็ดฝุ่นเม็ดเดียวที่ถูกผ่าครึ่งตั้งล้านครั้งเลยครับ

    ครูบาอาจารย์ของผม คือ หลวงพ่อวัดท่าซุง ครับ ท่านเป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งครูที่ผมเทิดทูนอย่างยิ่ง ผมไม่มีความรู้อะไร ได้แต่ปฏิบัติตามท่านสอน

    สิ่งที่ผมแนะนำคุณ stillness ก็เป็นความรู้ที่มาจากท่าน และท่านก็ไม่เคยบอกว่านี่เป็นความรู้ของท่าน ความรู้ทั้งหมดที่นำมาสอนลูกหลานก็ได้มาจากพระพุทธเจ้า

    เมื่อพ่อพูดแบบนี้ ผมเป็นลูกท่าน ผมก็พูดตามท่าน ผมเอาอย่างท่านครับ

    (รู้นะคิดอะไรอยู่ คิดได้ในใจ แต่เฉยๆ ไว้นะครับ):cool:
     
  20. Junejuly

    Junejuly Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +38
    อนุโมทนาในความเพียรและความมุ่งมั่งของคุณชินนาค่ะ ดิฉันคิดว่าจะปฏิบัติมานานแค่ไหนก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมาวัดอะไรได้ดีเท่ากับการที่เรามีความตั้งใจจริงในการปฏิบัติดีตามคำสอนของพระพุทธองค์เนอะคะ

    แล้วคุณชินนานึกอย่างไรถึงได้มาช่วยกรุณาชี้แนะให้แก่ดิฉันคะ ปกติจะไม่ค่อยมีใครมาคอยติดตามช่วยเหลือแนะนำแปลกหน้าอย่างดิฉันหรอกค่ะเพราะดิฉันชอบซักชอบถามมากมายไม่รู้จบ เป็นคนอื่นคงหนีไปหมดแล้ว..อิ อิ

    ก่อนดิฉันจะมาเริ่มปฏิบัติจริงจัง ก็มีเพื่อนพาไปหาร่างทรงพ่อปู่ฤาษีนารอด(คนรู้จักของเพื่อนเป็นร่างท่านค่ะ แต่เขาไม่เปิดเผยตน รู้กันเฉพาะคนสนิทใกล้ชิดเท่านั้น) ท่านก็เคยทักว่าเมื่อวันก่อนดิฉันเกือบโดนรถชนแต่ได้หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านมาช่วยไว้(บอกตรงๆค่ะตอนนั้นดิฉันไม่รู้จักท่านเลยค่ะ) ดิฉันก็งงว่าร่างทรงท่านรู้ได้อย่างไร เพราะวันนั้นกำลังจะข้ามถนนในซอยแถวถนนประชาชื่นกับเพื่อนแล้วมีรถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วตรงมาที่ดิฉันกับเพื่อน แล้วก็เฉี่ยวไปอย่างไม่น่าเชื่อ ดิฉันเกือบโดนชนจริงๆค่ะ

    พอหลังจากที่ถูกทักมาก็เลยเริ่มศึกษาว่าท่านคือใคร แล้วทำไมท่านถึงมาช่วยดิฉัน ...แล้วก็เริ่มศึกษาอ่านหนังสือธรรมะมากขึ้น(จนชอบอ่านไปเลยค่ะ) หลักจากนั้นก็เลยหาโอกาสไปไหว้ท่านที่วิหาร100เมตร สวยมากเลยค่ะ รู้สึกตื้นตันใจในความกรุณา ความเมตตาของท่านมาก(น้ำตาคลอเลยตอนไปไหว้ท่าน) น่าเสียดายค่ะที่ดิฉันไม่เคยได้พบท่านตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ คิดว่าถ้ามีโอกาสกลับไปเมืองไทยอีก ดิฉันก็อยากจะไปไหว้ท่านอีกค่ะ

    ดิฉันอยากฝึกวิปัสนากรรมฐานค่ะ แต่ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรบ้าง เคยศึกษาอ่านดู รู้ว่าต้องพิจารณาสังขาร หรือความคิดที่เกิดขึ้นในจิต แล้วปัญญามันจะเกิดเองโดยไม่ได้ไปบังคับ แต่ก็ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ยังไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติอย่างถ่องแท้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...