WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

เขตพระนคร มั่นใจ ฝนถล่มไม่จมปากคลองตลาด


14 ตุลาคม 2554 เวลา 16:12 น.<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
เขตพระนคร มั่นใจ ฝนถล่มไม่จมปากคลองตลาด พร้อมรับมือน้ำทะเลหนุนบวกน้ำเหนือเต็มที่

นายสุวพร เจิมรังสี ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ฝนตกติดต่อกันกว่า 2 ชั่วโมงในพื้นที่เขตพระนครช่วงบ่ายที่ผ่านมาพบว่ายังไม่มีปัญหาพื้นที่น้ำล้นตลิ่งโดยเฉพาะในพื้นที่ปากคลองตลาด ซึ่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยพื้นที่ดังกล่าวจะมีปัญหาตรงที่น้ำท่วมขังเป็นบางจุดเนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนลงมาเป็นจำนวนมาก และได้ดำเนินการสูบน้ำออกไปจนหมดแล้ว จึงคิดว่าปากคลองตลาดไม่น่าจะเป็นห่วงแน่นอนแม้ว่าระยะนี้จะมีน้ำเหนือลงมาและน้ำทะเลหนุน

นายสุวพร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ท่าเตียน ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ ไม่พบว่ามีน้ำล้นในพื้นที่มีเขื่อนกั้นถาวรจะมีเพียงบางจุดนอกแนวกั้นน้ำที่จะประสบปัญหาบ้าง แต่น้ำที่เข้ามาไม่ได้เป็นลักษณะท่วมขังเพราะเป็นลักษณะของน้ำขึ้นน้ำลงตามปกติในแต่ละวันอยู่แล้ว

สำหรับบรรยากาศพื้นที่ปากคลองตลาดตลอดทั้งวันประชาชนยังเดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้ากันตามปกติแม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอยู่ที่ 2.13 เมตร ทำลายสถิตจากปีที่แล้ว 2.10 เมตร อย่างไรก็ตาม ได้เกิดความโกลาหลเล็กน้อยตั้งแต่เวลา 11.00-13.00น.ได้มีฝนตกลงมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดเหตุน้ำท่วมขังในพื้นที่ตลาดจำนวนมากประมาณ 20 ซม.หรือประมาณหน้าแข้ง

นอกจากนี้ ระดับน้ำด้านหลังประตูระบายน้ำบริเวณปากคลองคูเมืองเดิมมีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้ต้องเปิดเครื่องสูบน้ำระบายน้ำลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำหน้าประตูระบายน้ำสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ท่าเรือปากคลองตลาดเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมเช่นกันทำให้ต้องนำไม้มาสร้างเป็นทางเดินให้กับผู้โดยสารเรือข้ามฝากไปยังวัดกัลยาณมิตร ขณะที่การเตรียมความพร้อมของประชาชนในบริเวณนั้นได้มีการน้ำกระสอบมาทำเป็นแนวป้องกันน้ำไม่ว่าจะเป็นร้านค้าและสถาบันการเงิน


ปากคลองตลาด














เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ปภ.เผยน้ำท่วม26จ.ตาย298ราย


14 ตุลาคม 2554 เวลา 16:25 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
ปภ.เผยมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 26 จ.,ผู้เสียชีวิต 298 ราย สูญหาย 2 คน เตือน จันทบุรี-ตราดเสี่ยงดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยรวม 26 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร ตาก และราชบุรี ครอบคลุม 188 อำเภอ 1,364 ตำบล 10,443 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 761,044 ครัวเรือน 2,250,469 คน ผู้เสียชีวิต 289 ราย สูญหาย 2 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 10,023,824 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อปลา 156,238 บ่อ ด้านปศุสัตว์ สัตว์ได้รับผลกระทบรวม 11,868,448 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้รวม 247 สาย แยกเป็น ทางหลวง 71 สาย ใน 18 จังหวัด ทางหลวงชนบท 176 สาย ใน 34 จังหวัด

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ 99% เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 99% เช่นกัน ส่วนเขื่อนแควน้อยมีปริมาณน้ำ 100% และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 131%
ขณะที่สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากและระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำมูลที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา, อ.สตึก จ.บุรีรัมย์, อ.ราษีไศล อ.กันทรารมย์ อ.ทับทัน จ.ศรีสะเกษ, อ.ตระการพืชผล อ.อำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี ลุ่มน้ำชีที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น, อ.โกสุมพิสัย อ.เมือง จ.มหาสารคาม, อ.จังหาร อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ลุ่มน้ำสะแกกรังที่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ลุ่มน้ำท่าจีนที่ อ.เมือง อ.สองพี่น้อง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี, อ.บางเลน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 4,686 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,616 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,847 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำใน 10 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

นายวิบูลย์ กล่าวว่า ช่วงวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนตกอีก แต่ในปริมาณไม่มากนัก ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ต.ค.จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว และพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่จะเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำออก ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น และเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งได้
สำหรับพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ได้แก่ จ.จันทบุรี (อ.มะขาม อ.เขาคิฌกูฏ อ.ขลุง) ตราด(อ.เกาะช้าง อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่) จึงขอให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมทั้งหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ หากน้ำในลำห้วยเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ มีเสียงดังผิดปกติจากป่าต้นน้ำ ให้อพยพออกจากพื้นที่ไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย และพ้นจากแนวการไหลของน้ำ


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ตอนนี้ลาดพร้าว71ฝนตกหนักน้ำท่วมซอยแล้ว

 

น่าจะฝน ...................... ครึ้มเชียวตอนนี้

 

คุณ Falkman คะ ขออภัยนะคะที่ขัดจังหวะที่กระทู้นี้ แต่เห็นคุณเข้ามากระทู้นี้มากกว่ากระทู้ ตามรอย "พระมหาชนก" บังเอิญติดตามอยู่ และมีข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ท่านพยายามจะบอกพวกเราตลอดเวลา และเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในตอนนี้อยากให้พวกเราลองพิจารณาดูดังนี้ค่ะ

1. ใน ส.ค.ส.ของพระองค์ท่านทุกปี จะมีรหัสเลข 6 ตัวทุกครั้ง ต่อจาก กส.9 ปรุง เมื่อลองนำมาบวกกันทีละ 2 หลัก จะเป็นตัวเลขที่บวกกันแล้วไม่เกินวัน/เดือน/ปี ในทุกๆ ส.ค.ส. คือไม่เกิน 31/12/ค.ศ. และใน ส.ค.ส.ปี 2547 ซึ่งเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย มีเสา 3 เส้นค้ำ (ชาติ ศาสน์ กษัตริย์) มีคำว่า " สามัคคี เป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย" และมีระเบิดเกิดขึ้น 4 ทิศ มีรูปเรือสำเภา ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับความเพียรจากการว่ายน้ำหาฝั่งของพระมหาชนก (พวกเราก็ไม่ต่างอะไรกับพระมหาชนกค่ะ เวลานี้น้ำมากเหลือเกินเหมือนลอยคอว่าเมื่อไหร่จะถึงฝั่ง)

ตัวเลข 6 ตัวที่ว่าใน ส.ค.ส.ปี 2547 นี้ คือ 291929 เมื่อนำมาบวกกันทีละ 2 หลักแล้วจะได้ 11/10/11 ซึ่งก็คือ?? วันเดือนปีในปัจจุบัน!!!

2. ในหนังสือพระมหาชนก "ภาคผนวก" มีการระบุตัวเลขพิกัดต่างๆ มีอยู่จุดหนึ่งที่คุณเคยวิเคราะห์ว่าจุดนั้นมีการวงกลมไว้ เป็นตัวเลข ๖๐ โยชน์ = ๒๘๙.๖๘๓ กิโลเมตร ในวงกลมนั้นคือเลข ๒๘ เคยมีคนมาคำนวณดู กิโลเมตรที่ 289 จากอ่าวไทยคือ "นครสวรรค์" เมื่อนำ เลข 28 (1 โยชน์=4.828 กม. ) เมื่อนำมาคูณกัน 28 โยชน์X4.828 กม. จะได้ประมาณ 135 กม. ซึ่งบริเวณนั้นคือ "อ่างทอง " และ "ลพบุรี"

3.ไม่อยากให้คิดมากกันนะคะ แต่ยังไงๆ เราก็เตรียมรับมือกันอยู่แล้ว ภาพที่มีนางมณีเมขลา มีภาพดวง มีภาพแผนที่เมืองต่างๆ มีพิกัดต่างๆ มีหย่อมความกดอากาศ ในภาพนั้น มีการกำหนดจุดต่างๆ ที่เกิดภัยพิบัติ ทั้งที่เคยเกิดขึ้นแล้ว และยังไม่เกิดขึ้น ทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน นับตั้งแต่พระองค์ท่านประทานสิ่งนี้ให้ประชาชนเห็น คือ

- YANGON "ย่างกุ้ง" เจอกับพายุ "นาร์กรีส"
- LANKA "ศรีลังกา" เจอกับน้ำท่วมใหญ่เช่นกัน
- PHUKET "เกาะภูเก็ต" เราเจอกับภัย "ซึนามิ"

และ ในแผนที่นี้ มีการกำหนดจุดนี้ด้วยคือ

- SUWARNABHUMI คือ "สุวรรณภูมิ"
- DEVAMAHANAGARA คือ "กรุงเทพมหานคร"

นอกจากนี้ยังมี

-DAMARAJANAGARA คือ "นครศรีธรรมราช"

ซึ่งในประราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" ตอนหนึ่ง มีความว่า....


"เราสงวนเรื่องนี้มาหลายเวลาแล้ว นับแต่คราวลงเรือมุ่งสู่สุวรรณภูมินั้น ก่อน"คลื่นยักษ์"มากระหน่ำนาวา เราได้ยินพาณิชชาวสุวรรณภูมิพูดกันเป็นภาษาสุวรรณภูมิว่า 'โน่นปูทะเลยักษ์สู้กับปลาและเต่า' และว่าผุ้ใดเหยียบปูนั้นได้ จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หากมีความเพียรแท้ พราหมณ์ทูลว่า 'ข้าพระองค์ก็เคยได้ยินเรื่องอย่างนี้ แต่ไม่ทราบว่ามีปูทะเลยักษ์ดังนี้ไม่'

พระราชาตรัสต่อว่า...

'มีแน่แท้หลังจากได้กระโดดจากยอดเสากระโดงเรือ ลงทะเลพ้นปลาและเต่า ก็ว่ายข้ามมหาสมุทร ได้พักเป็นคราวๆ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเหยียบพื้นทะเลได้คล้ายๆใกล้ถึงฝั่งดังเช่นบุคคล (ในอุทกูปมสูตรที่ ๕) แต่ที่แท้เป็นปูทะเลยักษ์นั่นเอง


พราหมณ์ทูลว่า...
"ที่จริงแท้คือพระบุญญาธิการ"!!

ลองพิจารณากันดูค่ะว่าใครมีความเห็นอย่างไร ?กับสิ่งที่พระองค์บอกประชาชนของท่านมาตลอด....เราจะต้องยอมสละเรือ(เมือง) แล้วพึ่ง "พระบุญญาธิการ" หันมาใช้ธรรมในอุทกูปมสูตรที่ ๕ ตามที่พระองค์ท่านเพียรพยายามพร่ำสอนพวกเรา..และสร้างเมืองแห่งเทวามหานครใหม่รึเปล่า?

 

วิเคราะห์ได้สุดยอดมาก...ครับ

 

@Toptenthailand.com
17.55น. ถนนราชพฤกษ์




18.02 น ตรงเซนทรัลแจ้งวัฒนะครับ



สภาพอากาศ ณ สมาคมสหพันธ์การกุศล "เต็กก่า" แห่งประเทศไทย ซ.วัดศรีประวัติ ถ.กาญจนาภิเษก ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

 

“เขื่อนลำตะคอง” เสริมสปิลล์เวย์เพิ่มจุ 353 ล้านลบ.ม. – เตือนล้นอีกท่วมโคราชรุนแรง !
<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">ดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">14 ตุลาคม 2554 19:09 น.</td></tr></tbody></table>ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ปริมาณน้ำเขื่อนใหญ่โคราชล้นเกินความจุสูงไม่หยุด เผย “ลำตะคอง” เสริมแผ่นเหล็กสปิลล์เวย์เพิ่มความจุอีกกว่า 38 ล้าน ลบ.ม.เป็น 353 ล้านลบ.ม. เตือนหากยังล้นอีกท่วมรุนแรงแน่ ล่าสุดจ่ออยู่ที่ 328 ล้านลบ.ม. ส่วน “ลำพระเพลิง” น้ำสูงกว่าปากช่องสปิลล์เวย์ 40 ซม. ขณะฝนตกซ้ำเติมต่อเนื่อง ด้านผอ.ชลประทานที่ 8 ย้ำเขื่อนลำตะคองไม่แตก ชี้ลุ้นหลังวันที่ 16 ต.ค.ฝนลดหนาวมาแทน ฟันธงไม่ตกหนักต่อเนื่อง 2 วัน 2 คืนโคราชพ้นวิกฤตไม่เจอน้ำท่วมใหญ่

วันนี้ (14 ต.ค.) ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของ จ.นครราชสีมา ว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ของ จ.นครราชสีมา ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างหรือในเขื่อนทุกแห่งเกินความจุหมดแล้ว และยังเพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากตัวเขื่อนทุกแห่งแข็งแรงสามารถรองรับปริมาณน้ำ ได้อย่างเต็มที่

โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว นั้นได้ทำการเสริมแผ่นเหล็กที่ช่องระบายน้ำล้นหรือสปิลล์เวย์ เพื่อเพิ่มความจุน้ำอีกกว่า 38 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากเดิมความจุตามแบบเดิม 314.49 ล้านลบ.ม. เป็น 353 ล้าน ลบ.ม. ทำให้สามารถชะลอน้ำหลากไว้ได้มาก และส่งผลให้พื้นที่ใต้เขื่อนปลอดภัยจากน้ำท่วมมากขึ้น และยืนยันว่า เขื่อนลำตะคองสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการกักเก็บสูงสุดถึง 360 ล้าน ลบ.ม. ฉะนั้นจึงขอให้ประชาชนมั่นใจในความแข็งแรงของเขื่อนและไม่มีปัญหาแตกร้าว หรือเขื่อนพังอย่างที่วิตกกันแน่นอน

สำหรับเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ล่าสุดระดับน้ำสูงกว่าปากช่องระบายน้ำล้น หรือ สปิลล์เวย์ประมาณ 40 เซนติเมตร (ซม.) ทำให้น้ำล้นออกทางสปิลล์เวย์ตลอดเวลาและทางเขื่อนได้ระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณน้ำไหลลงเหนืออ่างมีน้อยลงเพราะขณะนี้ส่วนใหญ่ฝนจะตกพื้นที่ ใต้เขื่อน จึงทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

ม.ล.อนุมาศ กล่าวต่อว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำใน จ.นครราชสีมา ทั้งปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำฯ และน้ำฝนขณะนี้ค่อนข้างสบายใจได้ จากข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ คาดการณ์ตรงกันว่าพื้นที่ จ.นครราชสีมา ปริมาณฝนจะลดลงและหยุดตกหลังวันที่ 16 ต.ค.นี้ จากนั้นมวลอากาศเย็นจะแผ่เข้ามาแทน ซึ่งจากนี้ไปหากไม่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน 2 คืน โคราชก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่เกิดขึ้นเหมือนปีที่ผ่านมาแน่นอน แต่ในช่วงนี้อาจมีน้ำมูลเอ่อท่วมพื้นที่ริมตลิ่งบ้าง เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำมูลเต็มหมดแล้วและมีฝนตกบริเวณท้ายเขื่อนจึงทำให้ น้ำมูลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม อ.โชคชัย, เฉลิมพระเกียรติ, โนนสูง และ อ.พิมาย ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร แต่ถือเป็นเรื่องปกติเพราะพื้นที่เหล่านี้ประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปีอยู่แล้ว

“ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนชาวโคราชว่าอย่าตื่นตระหนกและไม่ ต้องกังวลเรื่องน้ำท่วม เพราะเจ้าหน้าที่ชลประทานและทางจังหวัดนครราชสีมาได้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยร่วมกันวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยังมีการแจ้งเตือนภัยตาม ระดับที่วางไว้ทั้ง 4 ระดับ ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงด้วย” ม.ล.อนุมาศ กล่าว

ทางด้านโครงการชลประทานนครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ของ จ.นครราชสีมา ระบุว่า ล่าสุดวันนี้(14 ต.ค.) ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนขนาดใหญ่ 4 โครงการ ของ จ.นครราชสีมา ซึ่งทุกแห่งเกินขนาดความจุได้เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยวันนี้ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวม 1,038.49 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 104.27 % ความจุที่ระดับเก็บกักรวม 995.92 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ที่มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวม 1,029.61 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 103.38 %ความจุรวม

ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำที่สำคัญ คือ เขื่อนลำตะคอง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำ 337.29 ล้านลบ.ม. (รวมน้ำบนอ่างเขายายเที่ยง 8.94 ล้านลบ.ม.) คิดเป็น 107.25 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 314.49 ล้านลบ.ม. อยู่ในขั้นแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 3 จาก 4 ระดับ ให้ “เตรียมรับน้ำท่วม” เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้( 13 ต.ค.) ที่มีปริมาณน้ำ 332.67 ล้านลบ.ม. และ เมื่อวานมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 5.780 ล้านลบ.ม. ระบายน้ำลงใต้เขื่อนวันละกว่า 1.1 ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ตามจากที่ทางเขื่อนลำตะคองได้เสริมแผ่นเหล็กสปิลล์เวย์ เพื่อเพิ่มขนาดความจุ เป็น 353 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับอ่างเก็บน้ำบนเขายายเที่ยงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่มี ประมาณน้ำ 8.94 ล้าน ลบ.ม. ได้หยุดสูบและปล่อยน้ำแล้วทำให้ขณะนี้น้ำในเขื่อนลำตะคองมีจำนวนสุทธิ 328.35 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 104.41% ของความจุใหม่ ซึ่งหากปริมาณน้ำเกิน 353 ล้าน ลบ.ม.จะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงบริเวณท้ายเขื่อน หรืออยู่ในระดับ 4 ตามเกณฑ์ระดับการเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุดของ จ.นครราชสีมา โดยน้ำจะล้นสปิลล์เวย์ไหลทะลักเข้าสู่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ก่อนลงสู่แม่น้ำมูล

สำหรับเขื่อนลำพระเพลิง ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 115.99 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 105.80 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 109.63 ล้านลบ.ม. เพิ่มจากเมื่อวานที่มีปริมาณน้ำ 114.37 ล้านลบ.ม. ซึ่งขณะนี้น้ำในอ่างได้ล้นสปิลล์เวย์อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำ 1.14 ล้านลบ.ม. ต่อวันและเมื่อวานนี้เกิดฝนตกพื้นที่เหนือเขื่อนมีน้ำไหลลงอ่าง 2.764 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนลำมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 156.27 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 110.83 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 141 ล้านลบ.ม. ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้ประมาณ 1.250 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 4.8 แสนลบ.ม.ต่อวัน

และ เขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 280.72 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 102.08 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 275 ล้านลบ.ม. ปริมาณน้ำเท่ากับเมื่อวาน ระบายน้ำ 7 แสน ลบ.ม.ต่อวัน

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 18 แห่งของ จ.นครราชสีมา ล่าสุดวันนี้ ( 14 ต.ค.) ปริมาณน้ำในอ่างฯรวม 162.76 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 96.34 %ความจุที่ระดับเก็บกักรวม 168.94 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่มีปริมาณน้ำรวม 160.36 ล้านลบ.ม. โดยในจำนวน 18 แห่ง มีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกินความจุอยู่กว่า 11 แห่ง

ขณะที่สภาพอากาศโดยรวมของจ.นครราชสีมาวันนี้ ( 14 ต.ค.) ท้องฟ้ามืดครึ้มปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆตลอดทั้งวันและช่วงเย็นได้มีฝนตกลงมา อย่างหนักในหลายพื้นที่
Local - Manager Online -

 

จากปัญหาน้ำท่วมปัจจุบันนี้ ซึ่งเบื้องต้นใด้ทำการกั้นกระสอบทรายแล้ว แต่จะมีกรณีที่น้ำภายนอกท่วมสูง ทำให้เหตุการณ์น้ำดัน
ขึ้นมาที่ท่อระบายน้ำภายในบ้าน เช่น ห้องน้ำ ซึ่งการแก้ปัญหาโดยใช้กระสอบทรายอุดรูท่อระบายน้ำนั้นแก้ไม่ได้ครับ ทางเรามีเทคนิคใหม่
แบบภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้แก้ปัญหาครับโดยใช้อุปกรณ์มีแค่ 3 อย่างเท่านั้นครับคือ ท่อ PVC,ดินน้ำมัน,ผ้าขาวบาง
- มีขั้นตอนการทำดังนี้ครับ
1. หาท่อ PVC ยาวประมาณ1.00-1.20 ม. มาโดยเลือกท่อให้ขนาดเท่ากับรูท่อระบายน้ำหรือเล็กกว่านิดหน่อย และ
กดตัวท่อลงไปที่รูให้แข็งแรง(ปล่อยมือแล้วท่อไม่ล้ม)
2. หาดินน้ำมันมาอุดบริเวณรอบๆรูระบายน้ำให้เต็ม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมออกมา *อุดเยอะๆเลยครับ
3. ใช้ผ้าขาวบาง หรือผ้าอะไรก็ใด้ที่อากาศสามารถผ่านได้ ลัดด้วยหนังยางเพื่อกันแมลงสาบหนีน้ำขึ้นมา ตามรูปตัวอย่าง

***เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ง่ายๆสบายมาก เราก็นอนหลับแบบมีความสุข
ปล.(ขอขอบคุณพี่เล็กฝ่ายออกแบบครับที่ให้คำแนะนำเทคนิคนี้มาให้พวกเราทราบและแก้ใขปัญหากัน)
ขอบคุณครับ
พีรวัฒน์

 

รวม link น้ำท่วม

ระบบโทรมาตร กรุงเทพมหานคร

Thailand Flood Monitoring System

ระบบตรวจวัดน้ำท่วมบนถนน

 

‘สายด่วนช่วยเหลือน้ำท่วม-ที่จอดรถฟรี’
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สายด่วนช่วยเหลือน้ำท่วมและที่จอดรถฟรี ประชาชนที่เดือดร้อนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้
สายด่วนช่วยเหลือน้ำท่วม
- ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ของรัฐบาลตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง โทร 1111 กด 5
- กทม. เปิดรับสายผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ โทร. 1555 ตลอด 24 ชม.
- กรมทางหลวง เปิดสายด่วน 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานประชาสัมพันธ์ 0-2354-6530,0-2354-6668-76 ต่อ 2014, 2031 ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง 0-2354-6551
- ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทาง โทร. 1193 ตลอด24 ชม.
- กระทรวงการคลัง สายด่วน โทร.1689
- สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ขอความช่วยเหลือน้ำท่วม โทร.1102
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)โทร.1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
-กรมชลประทาน (กรมชลฯ) สายด่วน สอบถามสถานการณ์น้ำ โทร.1460 ตลอด 24 ชั่วโมง
-บริการแพทย์ฉุกเฉิน และนำส่งโรงพยาบาล โทร.1669 ฟรี
-ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท โทร.1146
-การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690
-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129
-การท่าอากาศยานไทย กด โทร. 02-535-1111
- ไฟฟ้าขัดข้อง/เคลื่อนย้ายปลั๊กไฟฟ้า และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี 081-7014858 และ 081-8251343
สถานที่ให้บริการจอดรถยนต์ฟรี สำหรับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม
1. ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณอาคารจอดรถผู้โดยสารภายในประเทศ และ อาคารคลังสินค้าสูง 5 ชั้น รับรถได้ 3,000 คัน
2. ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สอบถามได้ละเอียดได้ที่ 0-2958-0011 กด 0
3. ห้างสรรพสินค้า ซีคอนสแควร์ เปิดพื้นที่ดาดฟ้า ชั้น 6 รองรับรถได้ถึง 750คัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-16 ตุลาคม นี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ฝ่ายสื่อสารการตลาด โทร.02-721-8888 ต่อ 313 , 314 หรือ www.seaconsquare.com / www.twitter.com/seaconsquare / www.facebook.com/SeaconSquareFanPage
4. บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา เปิดให้บริการจอดรถฟรี ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า, บางนา, พระราม 2, พระราม 3, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, รามอินทรา, เชียงใหม่ แอร์พอร์ต,เชียงราย, ขอนแก่น, อุดรธานี, ชลบุรี และเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช
5. ตลาดนัด บานาน่าสแควร์ข้างๆ โลตัสลพบุรี และตึกจอดรถของห้างโลตัสอีก 8 ชั้น รวมจอดรถได้กว่า 1,500 คัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอู้ 089- 884-4839
6. ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ รองรับรถยนต์ได้ถึง 650 คัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-787-2191

 

คิดเหมือนกันเลยค่ะ ... ยังงงๆ ว่าเงียบผิดปกติ :boo:

 

คาดซ่อมประตูคลองบ้านพร้าวไม่เสร็จวันนี้


14 ตุลาคม 2554 เวลา 18:05 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
คืบ!กู้ประตูน้ำคลองบ้านพร้าว เหลืออีก 10 เมตร คาดไม่เสร็จคืนนี้ หลังน้ำแรง เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก

สถานการณ์ความคืบหน้าล่าสุด การปฏิบัติการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ทุกคนได้เร่งมือทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ โดยนางชาญ พวงเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า การดำเนินการในวันนี้คืบหน้าไปพอสมควร ขณะนี้เหลือระยะทางที่ชำรุดอีกประมาณ 10 กว่าเมตรเท่านั้น ซึ่งการทำงานในวันนี้เป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีอุปสรรคในเรื่องกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เนื่องจากช่องทางน้ำได้แคบลงคาดว่า การดำเนินการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว จะยังไม่เสร็จภายในค่ำคืนนี้ ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้และยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ

ทั้งนี้ ยังพบว่าในขณะนี้ระดับน้ำท่วมขังในบริเวณชุมชนบ้านพร้าว ซึ่งได้รับผลกระทบจากประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว ชำรุดมีระดับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ต่างจากเมื่อ 2 วัน ที่ผ่านมา ที่ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายธีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ก็ได้เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าการซ่อมแซมประตูระบายน้ำแห่งนี้ด้วย


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

เสริมคันกั้นน้ำป้องกันนิคมฯบางปะอิน


14 ตุลาคม 2554 เวลา 19:19 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
นิคมฯบางปะอิน หวั่นน้ำทะลักเพิ่ม เร่งเสริมคนกั้นน้ำ ส่งกำลังออกตรวจพื้นที่ตลอด 20 ชั่วโมง

นายสมหวัง สมสุวรรณ ประธานชมรมผู้บริหารในกลุ่มอุตสาหกรรมบางปะอิน กล่าวชี้แจงถึง สถานการณ์ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ต่อพลโท อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ถึงภาระหน้าที่ ที่นิคมอุตสาหกรรมทำอยู่ คือ การเสริมคันกั้นน้ำและแบ่งกำลังออกตรวจตราแนวคันกั้นน้ำอยู่ตลอด 24 ช.ม. เพื่อเฝ้าระวังที่น้ำอาจจะไหลทะลักเข้ามา ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า เท่าที่รับฟังรายงานแล้ว คิดว่า นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน น่าจะสามารถรับมือได้ ซึ่งทางกองทัพได้สนับสนุนกำลังทหารจำนวน 300 นาย ที่คอยแสตนบายด์ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ ซึ่งตนได้ฝากความห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องของการรับมือน้ำท่วม โดยให้นำบทเรียนจากนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค มาเป็นตัวอย่าง ที่ควรจะมีการเตรียมการให้พร้อมทั้งวัสดุที่ใช้เป็น แนวคันกั้นน้ำ รวมทั้งการพิจารณาเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่สำคัญออกจากพื้นที่ด้วย

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

น้ำล้นคลองเปรมจ่อท่วมศก.ปทุมฯ


14 ตุลาคม 2554 เวลา 19:35 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
น้ำล้นคลองเปรมประชากร จ่อทะลักท่วมหมู่บ้านย่านเศรษฐกิจเมืองปทุมธานี

นายเดชา กลิ่นกุสุม รองนายกเทศมนตรีนครรังสิต จ.ปทุมธานี กล่าวว่า น้ำจากพื้นที่อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ไหลทะลักเอ่อล้นคลองเปรมประชากรจ่อถล่มหลายหมู่บ้านย่านเศรษฐกิจเมืองปทุมธานี ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของไปไว้บนที่สูงเพื่อป้องกันความสูญเสีย

ขณะที่หลังหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี น้ำที่ไหลล้นจากคลองเปรมประชากร เข้ามาด้านหลังหมู่บ้าน และบางส่วนก็ไหลเข้ามาในถนนของหมู่บ้านตอนนี้ ได้นำเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครรังสิตทำการปิดกั้นโดยใช้แท่งคอนกรีตวางเรียงกันสองชั้น แล้วเทหินคลุกลงไปเป็นแนวเขื่อนเพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ซึ่งเป็นประตูน้ำที่กั้นระหว่างคลองรังสิตกับแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่ยังคงมีการเร่งสูบน้ำออกจากประตูน้ำจุฬาลงกรณ์อยู่ตลอดเวลา โดยระดับน้ำบริเวณหน้าประตูน้ำสูงกว่าระดับน้ำในประตูประมาณ 1.20 เมตร ส่วนน้ำนอกประตูน้ำนั้น สูงขึ้นจนเลยแนวคันเขื่อนด้านข้างประมาณ 10 ซม.เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งระดมกรอกกระสอบทรายมาวางเรียงเป็นแนวคันกั้นน้ำ อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าพื้นที่


น้ำท่วม


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

ปากเกร็ดเร่งเสริมคันกั้นน้ำ


14 ตุลาคม 2554 เวลา 19:43 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
ชาวบ้านเร่งเสริมกระสอบทรายคันกั้นน้ำป้องกันปากเกร็ด หลังแนวคันกั้นน้ำพังเอ่อท่วมวัดบางพูดนอก

แม่น้ำเจ้าพระยาล้นทะลักแนวคันป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่วัดบางพูดนอกในซอยวัดกู้ ติดกับประตูระบายน้ำปากคลองบางพูด จ.นนทบุรี เทศบาลนครปากเกร็ดต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งพระภิกษุเร่งระดมวางแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้นจากแนวเดิม และนำดินมาสร้างเป็นแนวป้องกันอีกชั้นหนึ่ง รองรับน้ำที่ล้นแนวป้องกันน้ำที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเกรงว่า หากน้ำทะลักเข้ามาจะทำให้ยากแก่การป้องกัน

ขณะที่ชาวปากเกร็ดจำนวนมากแตกตื่นแห่กันออกมาดูน้ำเอ่อท่วมวัดบางพูดอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลับบ้านเร่งเสริมกระสอบทรายรอบบริเวณบ้าน เพราะเกรงว่าประตูระบายน้ำจะต้านแรงดันน้ำไม่ไหว จนไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจของ อ.ปากเกร็ด รวมทั้งเมืองทองธานี และถนนแจ้งวัฒนะ

เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!

 

อุตุเตือนคนกรุงฝนหนักแค่มรสุม


14 ตุลาคม 2554 เวลา 20:24 น. <!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->
กรมอุตุนิยมวิทยา แจงฝนถล่มกรุงแค่มรสุม เตือนอย่าตื่นตระหนก ชี้เกิด 2-3 วัน สถานการณ์ปกติ

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ฝนที่กำลังตกหนักในพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้ จะเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ในอีกไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ คือกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก
ทั้งนี้ ฝนที่ตกลงมานั้น เป็นเพียงมรสุมจากฝั่งตะวันตก และภาวะเช่นนี้ จะเกิดขึ้นอีก 2-3 วัน ซึ่งชาวกรุงเทพมหานครไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ เพราะจะไม่มีผลกระทบมากนัก


เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!