ยกย่อง"หลวงพ่อปัญญา"ผู้สูงอายุแห่งชาติ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 4 เมษายน 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,173
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] กผส.ยกย่อง
     
  2. tat_gun

    tat_gun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +324
    หลวงพ่อปัญญา เป็นพระที่ดีมากๆเลยครับ ผมเคยไปนมัสการท่ายแล้วซึ้งในจริงๆ ธรรมเรียบๆง่ายๆแต่ลึกซึ้ง
    ตอนนั้นท่านสอนว่า (แต่ผมบรรยายไม่ค่อยเก่งนะครับ)
    " รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องยึดติด ยึดแล้วมันก็เป็นทุกข์ ปล่อยเขาไป อย่ายึดติด "
    ประมาณนี้อ่ะครับ แต่ว่าตอนนั้นซึ้งมากๆเลย ^^

    ท่านย้ำให้ผมฟังบ่อยๆครับ
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    อนุโมทนาครับผม
    -------------------------------------------------------------------------
    ทำดี ต้องได้ดีครับ ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ดูเป็นตัวอย่างนะครับ เกียรติยศ ชื่อเสียง ได้มาง่าย แต่ก้อไปง่ายเ้หมือนกัน อย่าไปยึดติดเลยครับ ที่มันวุ่นวายทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะไปยึดมั่น ถือว่าว่าตัวกู ของกู เหรอครับ หยุดเถอะครับ สงสารในหลวงบ้างเถอะครับ
     
  4. ณัฐสิทธิ์

    ณัฐสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +1,916
    ท่านหลวงพ่อปัญญาฯ ท่านเป็นสหายธรรมรุ่นน้อง ของท่านพระอาจารย์พุทธทาส แห่งวัดธารน้ำไหล (หรือ สวนโมกขพลารามในปัจจุบัน) รวมทั้งท่าน บ.ช.เขมาภิรัต พระราชญาณกวี อดีตเจ้าคณะจังหวัดชุมพร ในปี พ.ศ. 2480
    ท่านเป็นสหายธรรมร่วมเผยแพร่ธรรมที่ถูกต้องและต่อสู้เพื่อแก้ไขความงมงายในยุคนั้นๆ ท่านเล่าให้ฟังในหนังสือชีวประวัติหลวงพ่อปัญญานันทเถระ (พระผู้กล้าพูดความจริงกับประชาชน) ตอนหนึ่งว่า สมัยที่ท่านได้รับนิมนต์ให้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดอุโมงค์ ที่เชียงใหม่นั้น ท่านต้องต่อสู้กับความงมงายของชาวเชียงใหม่ที่เฝ้ารอใส่บาตรกับพระอุปคุต (พระบัวเข็ม) ตอนเที่ยงคืนของวันพุธที่เป็นขึ้น ๑๕ ค่ำ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้บังเกิดโชคลาภ ท่านเล่าว่าชาวเชียงใหม่เมื่อเกือบ ๖๐ ปีก่อนได้รับอิทธิพลความเชื่อนี้มาจากชาวพม่า (ชาวพม่านับถือพระอุปคุตเป็นอย่างมาก แต่คติทางฝ่ายไทยไม่ค่อยเผยแพร่นัก) ท่านแก้ต่างด้วยปัญญาอันเฉียบคมของท่านว่าเป็นการปฏิบัตินอกคำสอนของครูอาจารย์ใหญ่ซึ่งก็คือพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ท่านถือบิณฑบาตรเพียงช่วงเช้าเพียงหนึ่งเที่ยวเท่านั้น และพระที่ฉันหลังเที่ยงแล้วถือเป็นอาบัติ แล้วศีล ๒๒๗ ข้อจะบริสุทธิ์ได้อย่างไร ทุกอย่างจึงเป็นอันเรียบร้อยเข้าที่
    ตลอดชีวิตแห่งการเป็นนักบวชของท่านจะสอนแต่เรื่อง การคิดดี..พูดดี..ทำความดี..การคบคนดี เป็นธรรมะที่เรียบง่าย เข้าใจได้ในทุกชนชั้น อีกทั้งไพเราะทั้งในเบื้องต้น - ในท่ามกลาง - และในที่สุด
    ขอกราบแทบเท้าท่านพระอาจารย์ปัญญานันทะ อย่างสุดจิตสุดใจครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...