เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

โอ้ยักษ์ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากเรื่องเล่าด้านบน
ปีหน้ามียักษ์มา
ยักษ์มีค้อน ทุบมาพสุธาเขย่า กระแทกไป คอนกรีตคันสูงโค้งแตก ปักลงน้ำแดงข้นเหนียวทะลัก
อ้าวๆๆ เหลือเวลาอีกเท่าไรจะปีหน้าเนี่ย เฮ้ย ขอให้เหลือแต่ปีนี้ท่านจะเมตตาป่ะเนี่ย
บ้าไปแล้วว เรา

 

ต่อ#ดวงวิญญาณจอมผยอง มาตามหลวงพ่อให้ไปช่วยปลดปล่อย....ที่เขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์

“แต่มีวิธีเลี่ยงที่จะได้รับภัยอันรายจาก ยักษ์เหล่านี้เหมือนกันนะ”
“ทำไงครับ...”
<O</O
“ง่ายๆเลยให้ ท่อง นะโม อย่างน้อย 3 จบก่อนนอน พอยักษ์พวกนี้ผ่านมา เจอมนต์<O</O
นะโม 3 จบนี้แล้ว มันเดินผ่านไปเลย ไม่ทำอันตราย” หลวงพ่อกล่าวแนะนำง่ายๆ
<O</O
“เพราะที่มาของ นะโมตัสสะ เกิดจาการกล่าวคำสรรเสริญน้อมน้อม แด่องค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้าของเหล่าเทพยดาเจ้าชั้นสูงสุดของแต่ละชั้นถึง 5 พระองค์ ด้วยกัน ฉะนั้นแล้วบริวารในระดับล่างๆ จึงต้องให้เคารพความยำเกรงเช่นกัน

หลวงพ่อกล่าวปิดท้ายเรื่อง


------------------------------------------------------------

ที่มาของคำบูชาพระบรมศาสดา (นะโม ตัสสะฯ)

คนส่วนมาก ไม่ได้รู้เลยว่า ที่มาของ <O</O
"นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ"
<O</O
ไม่ได้มาจากการสวดของพระพุทธเจ้า แต่เป็นการเรียกว่านอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าจากผู้มีบารมี ถึง 5 พระองค์
มีเรื่องเล่าว่า ณ แดนหิมวันต์ประเทศ มีเทือกเขาชื่อว่า สาตาคิรี เป็นที่ร่มรื่น รมณียสถานเป็นที่อยู่ของพวกยักษ์ที่เป็นภุมเทพยดา อันมีนามตามที่อยู่ว่า สาตาคิรียักษ์มีหน้าที่เฝ้าทางเข้าหิมวันต์ ทางทิศเหนือ เป็นบริวารของท้าวเวสสุวัณ สาตาคิรียักษ์ได้มีโอกาสสดับ พระสัทธรรมจากพระบรมศาสดา จนมีจิตเลื่อมใสศรัทธา เปล่งคำยกย่องบูชาด้วยคำว่า <O</O
"นะโม" หมายถึง
พระผู้มีพระภาค ทรงเป็นใหญ่กว่า มนุษย์ เทพยดา พราหมณ์ มาร ยักษ์ และสัตว์ทั้งปวง

กล่าวฝ่ายอสุรินทราหู เมื่อได้สดับพระเกียรติศัพท์ ของพระบรมศาสดา ก็มีจิตปรารถนา
ที่จะได้ฟังธรรมของพระบรมศาสดาบ้าง แต่ด้วยกายของตนใหญ่โตเท่ากับโลก จึงคิดดูแคลน พระบรมศาสดาว่ามีพระวรกายเล็กดังมด จึงอดใจรั้งรออยู่ พอนานวันเข้า พระเกียรติคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ก็ยิ่งขจรขจายไปทั้งสามโลกจนทำให้อสุรินทราหูอดทนรออยู่มิได้ จึงเหาะมาในอากาศ
ตั้งใจว่าจะร่ายเวทย่อกาย เพื่อเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอฟังธรรม
แต่พอมาถึงที่ประทับ อสุรินทราหู กลับต้องแหงนหน้าคอตั้งบ่า เพื่อจะได้ทัศนาพระพักตร์พระบรมศาสดา
พระผู้มีพระภาคจึงทรงแสดงพระสัทธรรมชำระจิตอันหยาบกระด้าง ของอสุรินทราหู ให้มีความเลื่อมใสศรัทธาแสดงตนเป็นอุบาสกผู้ถือพระรัตนตรัยตลอดชีวิต
แล้วกล่าวสรรเสริญพระบรมศาสดาว่า <O</O
"ตัสสะ" แปลว่า ขอบูชา ขอนอบน้อม ขอนมัสการ

เมื่อครั้งที่ท้าวจาตุมหาราช ทั้ง ๔ ผู้ดูแลปกครองสวรรค์ชั้นแรก มีชื่อเรียกว่า ชั้น กามาวจร มีหน้าที่ปกครองดูแลประตูสวรรค์ทั้ง ๔ ทิศ
พร้อมบริวาร ได้พากันเข้ามาเฝ้าพระบรมศาสดา แล้วทูลถามปัญหา พระบรมศาสดา ทรงแสดงธรรมตอบปัญหา แก่มหาราชทั้งสี่พร้อมบริวาร
จนยังให้เกิดธรรมจักษุแก่มหาราชทั้งสี่ และบริวาร ท่านทั้ง ๔ นั้น จึงเปล่งคำบูชาสาธุขึ้นว่า <O</O
“ภะคะวะโต”แปลว่า พระผู้มีพระภาค
ทรงเป็นผู้จำแนกธรรมอันยิ่ง อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า

“อะระหะโต” เป็นคำกล่าวสรรเสริญ ของท้าวสักกะเทวราช เจ้าสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น
ท่านสถิตอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท้าวสักกะเทวราช ได้ทูลถามปัญหา แด่พระผู้มีพระภาค
พระพุทธองค์ทรงตรัสปริยายธรรม และ ทรงตอบปัญหา จนทำให้ท้าวสักกะเทวราช ได้ดวงตาเห็นธรรม
บรรลุเป็นพระโสดาปัตติผล จึงเปล่งอุทานคำบูชาขึ้นว่า "อะระหะโต" แปลเป็นใจความว่า อรหันต์ เป็นผู้ไกลจากกิเลส
ไกลจากเครื่องข้องทั้งปวง

สัมมาสัมพุทธัสสะ เป็นคำกล่าวยกย่องสรรเสริญของท้าวมหาพรหม
หลังจากได้ฟังธรรม จนบังเกิดธรรมจักษุ จึงเปล่งคำสาธุการ <O</O
“สัมมาสัมพุทธัสสะ”
หมายถึง ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยพระองค์เอง ทรงรู้ดีรู้จริง รู้ยิ่ง กว่าผู้รู้อื่นใด

รวมเป็นบทเดียวว่า
“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ”
แปลโดยรวมว่า
ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น

<O</O
ที่มา http://openbook.exteen.com/20081113/entry<O</O
<O</O

 

พี่ toplus99 ที่เคารพครับ ว่าแต่ว่า

ใครกันหนอ ที่เป็นคนบงการให้พระมาทำพิธีไสยศาสตร์สะกดท่านท้าวเวสสุวรรณ ?

สมาปัญญา

 

อันนี้ต้องขอตอบว่า ไม่ทราบเหมือนกัน เดี๋ยวเป็นการบ้านเอาไปถามพระอาจารย์ท่านอีกที
ว่า ใครกัน?เพราะอะไร?

...แล้วมันไปเกี่ยวข้องกับการทุบทำลาย
โบราณวัตถุเหล่าเทพทั้งหลายที่เขาพนมรุ้ง
ที่เป็นข่าว เมื่อ 2-3 ปีนี้มาด้วยดีมั๊ย?

อยากรู้เหมือนกันว่า ใครวะ?

 

ยักษ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี<O</O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o</v:shapetype>referrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><Vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></Vath><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com</o:lock><v:shape style="WIDTH: 165pt; HEIGHT: 339.75pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_3 alt="http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/5d/Phu_Yak.jpg/220px-Phu_Yak.jpg" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8Chu_Yak.jpg" o:button="t" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1027"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\NBTTTBB\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.jpg" o:title="220px-Phu_Yak"></v:imagedata></v:shape><O</O
<v:shape style="WIDTH: 11.25pt; HEIGHT: 8.25pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_4 title=ขยาย alt="http://bits.wikimedia.org/skins-1.18/common/images/magnify-clip.png" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8Chu_Yak.jpg" o:button="t" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1026"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\NBTTTBB\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image002.gif" o:title="magnify-clip"></v:imagedata></v:shape><O</O
ยักษ์ เป็นอมนุษย์ชนิดหนึ่งที่มีกล่าวถึงทั้งในทางศาสนาและวรรณคดี ยักษ์ในความเชื่อของไทยมักได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ ในขณะที่ความเชื่อในบริเวณอื่นๆของโลกก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอมนุษย์ที่มีร่างกายใหญ่โต ชอบของสดคาว ซึ่งเทียบได้กับยักษ์ในความเชื่อของคนไทยเช่นกัน
<O</O
<O</O
ยักษ์ในความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์และพุทธ<O</O
ยักษ์จะมีหลายระดับขึ้นกับบุญบารมี <O</O
ยักษ์ชั้นสูง จะมีวิมานเป็นทอง มีรูปร่างสวยงาม มีเครื่องประดับ มีรัศมี แต่ผิวจะดำ ดำอมเขียว อมเหลือง ดำแดงก็มี แต่ว่าดำเนียน มีอาหารทิพย์ มีบริวารคอยรับใช้ ปกติไม่เห็นเขี้ยว เวลาโกรธจึงจะมีเขี้ยวงอกออกมา<O</O
ยักษ์ชั้นกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นบริวารคอยรับใช้ของยักษ์ชั้นสูง <O</O
ยักษ์ชั้นต่ำที่บุญน้อยก็จะมีรูปร่างน่าเกลียด ผมหยิก ตัวดำ ตาโปน ผิวหยาบ เหมือนกระดาษทราย นิสัยดุร้าย<O</O

ยักษ์เกิดได้ 3 แบบ คือ<O</O

• เกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตทันที<O</O
• เกิดแบบชลาพุชะ เกิดในครรภ์<O</O
• เกิดแบบสังเสทชะ เกิดในเหงื่อไคล<O</O

ที่อยู่ของยักษ์ มักอยู่ตามถ้ำ ตามเขา ในน้ำ ในดิน พื้นมนุษย์ ในอากาศ และมีวิมานอยู่ที่เขาสิเนรุในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกยักษ์จะอยู่ในการปกครองของท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวรมหาราชผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศเหนือ เหตุที่มาเกิดเป็นยักษ์เพราะทำบุญเจือด้วยความโกรธ มักหงุดหงิดรำคาญใจ
<O</O

ยักษี<O</O
ยักษี หรือ ยักษิณี หรือ นางยักษ์ ogress หมายถึงยักษ์เพศหญิง ซึ่งมีบทบาทอยู่ในวรรณกรรมและตำนานต่างๆมากมายหลายเรื่อง ในเย น กาหนฺติ โอวาทํ พระพุทธเจ้าท่านตรัสถึงนางยักษิณีว่า<O</O

<TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 0cm; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: dotted #CCCCCC .75pt; mso-yfti-tbllook: 1184; mso-padding-alt: 0cm 0cm 0cm 0cm" class=MsoNormalTable border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #cccccc 1pt dotted; BORDER-LEFT: #cccccc 1pt dotted; PADDING-BOTTOM: 7.5pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 7.5pt; WIDTH: 15pt; PADDING-RIGHT: 7.5pt; BORDER-TOP: #cccccc 1pt dotted; BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-TOP: 7.5pt; mso-border-top-alt: dotted #CCCCCC .75pt; mso-border-left-alt: dotted #CCCCCC .75pt; mso-border-bottom-alt: dotted #CCCCCC .75pt" vAlign=top width=20><v:shape style="WIDTH: 15pt; HEIGHT: 11.25pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_1 alt="Cquote1.svg" href="http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Cquote1.svg" o:button="t" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1025"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\NBTTTBB\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image003.png" o:title="Cquote1"></v:imagedata></v:shape><O</O

​

</TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #cccccc 1pt dotted; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0cm; PADDING-RIGHT: 0cm; BORDER-TOP: #cccccc 1pt dotted; BORDER-RIGHT: #cccccc 1pt dotted; PADDING-TOP: 0cm; mso-border-top-alt: dotted #CCCCCC .75pt; mso-border-bottom-alt: dotted #CCCCCC .75pt; mso-border-right-alt: dotted #CCCCCC .75pt">ดูก่อนภิกษุ ธรรมดาหญิงเหล่านี้ เล้าโลม ชายด้วย รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และด้วยมารยาหญิง กระทำให้อยู่ในอำนาจของตน เขาเรียกว่านางยักษิณี เพราะ เล้าโลมชายด้วยกรีดกราย ครั้นรู้ว่าชายนั้นตกอยู่ในอำนาจแล้ว ก็จะให้ถึงความพินาศแห่งศีล และความพินาศแห่งขนบประเพณี<O</O

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<O</O

 

เอ...ต่อไปจะเล่า เรื่องปริศนาธรรมหลวงปู่ละมัยทิ้งไว้ ?
ที่เพิ่งละสังขาร คืนวันที่8 ธค54

หรือว่าพญานาคตกเป็นเจ้าทุกข์ดีหว่า?

หรือว่าจะเป็นเรื่องเพิ่มเติม หลวงปู่ประสริฐ ที่เพิ่งไปมาดีว่า?

ตัดสินใจไม่ถูก...

 

ขอปรับจากรายปักษ์ เป็นรายวันได้หรือเปล่าครับ เดี๋ยวจะลงแดงรากเลือด เอาเป็นซีี่รี่ส์ เหมือนเพชรพระอุมาก็ได้

 

สำหรับผมขอโหวตหลวงปู่ละมัยครับ ยกสองมือเลย เพราะเป็นเรื่องเตือนจากท่าน ในสิ่งที่ควรกระทำครับ

 

เข้าคิวขอฟังด้วยคนครับ เรื่องลึกๆลับๆแบบนี้ชอบจริงๆ

 

ขอบคุณครับ

น้ำเปล่าแก้วเล็กๆ ทานอย่างไรก็ชื่นใจ น้ำหวานขันใหญ่ดื่มไปจะสำลัก หากมูมมาม

***บริการ แล้วแต่ผู้ส่งจะส่งมา ผู้รับ มีแค่น้ำก้นแก้ว รอการเติมอยู่ครับ***

 

เขียนดีขึ้นเยอะ ..
แล้ววันหนึ่งคงได้อ่านรวมเล่มน่ะครับ...

 

เล่าทีละเรื่องครับ แต่ใจผมอยากอ่าน เรื่องหลวงปู่ละมัยก่อนครับ

 

ขอเรื่อง หลวงปู่ละมัย ก่อนนะครับพี่ชาย

ขอโทษนะครับพี่ชาย ไม่ทราบว่าในเป้ของพี่ชาย พอจะมีเรื่องเล่าของ หลวงปู่ใหญ่ บ้างไหมครับ

ช่วยบอกทีนะพี่ชาย
สมาปัญญา

 

หลวงปู่ใหญ่ หมายถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร รึเปล่า? เรื่องนี้ละเอียดครับ..

มันเป็นเรื่องที่....ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก่อนหลัง..

คนอื่นอย่างไร ไม่ทราบ...แต่ผม..ก็ไม่รู้จะเริ่มตรงจุดไหนดี

ยากครับ..ขอให้ลองเรียบเรียงอีกครั้งดีกว่า..แต่มี...โอ๊ะ พูดยาก...

สรุปว่ามีพอประมาณแล้วกัน

 

ใช่ครับพี่ชาย เรื่องของ หลวงปู่ใหญ่ หรือ หลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นแหละครับ

เรื่องของหลวงปู่ใหญ่ก็ขอให้พี่ชายเล่าเท่าที่จะเล่าได้ก็พอครับ (ตามเห็นสมควร)

แต่ก่อนจะเล่าเรื่องของหลวงปู่ใหญ่ พี่ชายจะต้องเล่าเรื่องของหลวงปู่ละมัยก่อนนะครับ ผู้ชมเข้ามาเต็มกันหมดแล้วครับ

ขออนุโมทนากับพี่ชายด้วยนะครับ
สมาปัญญา

 

ภาพปริศนาธรรมหน้าศาลาพักสังขาร ทำไม...มีรูปหมู? และเลข626 ลูกแก้วที่ปากหมู

ด้านล่างของหมู มีภาษาขอมอ่านว่าอะไร?..ใครอ่านได้..หรือแปลความหมายได้


ช่วยกันแปลความหมายภาพปริศนานี้หน่อยครับ..







บรรยากาศงานบูชาสรีระสังขาร หลวงปู่ละมัย

ละสังขารวันพฤหัส ที่ 8 ธ.ค 54 เวลา 01.50 น.

มีความสงสัย..บางอย่างว่า หลวงปู่ละมัย พระอริยสงฆ์ ระดับ สายเหนือโลก

ทำไมท่านจึง..ปล่อยให้สังขาร เน่าเปื่อย..ส่งกลิ่นเหม็น!


***โดยสั่งห้ามเด้ดขาดในการรักษาสังขาร ของท่านทุกวิธีการ


ท่านต้องการ สอนสิ่งใดในการละสังขาร...ครั้งนี้หนอ..?

 

พระอาจารย์ผมไปกราบสังขารท่านมา ท่านบอกว่าหลวงปู่ท่านไม่ให้ฉีดยา ไม่ให้ทำอะไร ไม่มีสวด ท่านบอกว่า 15 วันหลังอาจจะมีอะไรเกิดก็ได้ แล้วท่านก็ยิ้มๆ
-----------------------------------------------

 

คุณ Toplus99 ได้กลิ่นเหม็นจากร่าง ลป ลมัยหรือเปล่าครับ

อยากให้เล่าเกี่ยวกะเรื่องของ หลวงปู่ละมัยครับ สนับสนุนเรือ่งนี้อีกคน ^_^

 

อ้อ เพื่อนบ้านบอกละ ว่าร่างท่านส่งกลิ่น ก่อนมรณะท่านไม่ฉันอะไรเลย 9 วัน จิบน้ำอย่างเดียว จิบน้ำ จิบน้อยมาก

 

ในระหว่างงาน ในศาลาพักสังขาร วันที่ 12 ธ.ค 54

พระอาจารย์ท่านได้ติดต่อสาร
บางอย่างกับญาณของหลวงปู่ละมัย
ก็ได้รับทราบคำอธิบาย..เรื่องภาพปริศนานี้มา

ตอนที่ท่านพระอาจารย์ท่านอธิบายความหมายภาพปริศนานั้นแก่ลูกสาวบุญธรรม ของหลวงปู่ละมัย

แต่ผมดันไม่ทันได้บันทึกเสียงไว้
และผู้เขียนก็ดันปัญญา...มันน้อย จำได้เพียงบางส่วน

เพราะบางคำก็ได้ยินไม่ถนัด...เพราะนั่งไกลออกไป(จะทำประจบหน่อย.. ยังทำก็ลำบากเลย)

โทษทีครับจำได้แต่ ..หุ รู หุ รู หุ รู หุ รู สวาหะ หมู หมู หมู อะไรประมาณนี่

แล้วก็เลขุ 626 และลูกแก้วที่หมูปาก
จำคำอธิบายได้ไม่มาก...น่าเจ็บใจ ตัวเองจริงๆ




โดยท่านปู่ฤาษีเกศแก้ว สหธรรมมิกของท่านพระอาจารย์เองก็เพิ่งเดินทางมาก่อน 1 วัน
คือในวันที่11ธ.ค และเคยมานั่งตี ปริศนาธรรมมาแล้วเช่นกัน..

ไม่แน่ใจว่าท่านตีความหมายไว้ว่าอย่างไร?

ถ้าวันที่ 18 ธ.ค นี้ ท่านคงไปร่วมงานบรรจุโลงแก้วหลวงปู่ละมัย
ใครที่โอกาสไปร่วมงาน

ก็ลองสอบถามภาพปริศนานี้ อีกที เพราะท่านก็น่าจะตีความหมายได้เหมือนกัน