ผมจะผิดศีลข้อ 3 มั้ยครับ

[FONT=&quot]คือผมมีความสัมพันธ์(มีความรู้สึกดีๆ)กับพี่ที่ทำงานคนหนึ่งคือสนิทกันมากแต่เมื่อก่อนตอนที่ผมเข้ามาทำงานแรกๆผมไม่สนิทเลยแต่ผมชอบเค้าเพราะเค้าสวยมากทุกอย่างเพอร์เฟค แล้วมาปีนี้ 54[/FONT]
[FONT=&quot]ผมกับเค้าก็คุยกันมากขึ้นแซวบ้างหยอกเล่นบ้าง ส่วนมากจะคุยผ่าน [/FONT]Face Book
[FONT=&quot]จนเกือบจะเกินเลยเค้าเคยพูดกับผมแสดงอาการว่ารัก...แต่ผมเคยบอกเค้าไปว่าผมให้ความสัมพันธ์กับพี่มากกว่านี้ไม่ได้แล้วเค้าก็ว่าผมทำร้ายจิตใจเค้ามาก สรุปคือ[/FONT]
[FONT=&quot]1. ตลอดเวลาผมไม่รู้ว่าพี่เค้ามีแฟนรึเปล่า (แต่ตลอดที่ผมทำงานผมมักจะได้ยินข่าวว่าเค้ากิ๊กกับคนนั้นคบกับคนนี้ตลอด) ซึ้งผมถามเค้าเค้าก็บอกว่าคนก็พูดไปงั้นๆล่ะ[/FONT]
[FONT=&quot]2. บางทีผมไปส่งเค้าที่บ้านบ้างหรือพาไปซื้อของบ้าง(ใกล้ๆ)[/FONT]
[FONT=&quot]จบแค่นี้สำหรับเค้า[/FONT]
[FONT=&quot]
แต่ส่วนตัวผมคือ ผมมีแฟนอยู่แล้วและผมก็รักแฟนมากผมไม่เจ้าชู้และผมไม่มีปฏิกิริยากับพี่เค้ามากแล้ว ผมให้ได้แค่คำว่าพี่น้องแต่บ้างทีจิตผมคิดไปเองและคิดไปไกลแต่พอผมดึงสติกลับมาได้ผมก็ไม่ได้คิดอะไรจนภวังค์นั้นหายไปและผมไม่ได้คิดถึงเค้าตลอดเวลานานๆจะเป็นทีหรือเวลาที่ผมคุยกับเค้านานๆ...อย่างนี้ผมจะผิดศีลข้อ 3 มั้ย ผมค่อนข้างซีเรียส เพราะผมถือปฏิบัติศีลข้อนี้อยู่[/FONT]
[FONT=&quot]คือโดยรวมแล้วจิตเลวๆคิดแต่ผมก็มีอีกจิตหนึ่งที่ไม่ให้คิดและก็ไม่กระทำผมก็ฝึกจิตให้เป็นหนึ่งเดียวอยู่แต่ผมยังไม่แข็งเพราะผมมีความสงสัยอยู่ว่าอย่างนี้ผิดมั้ยอย่างนั้นผิดมั้ยตลอดเวลาแล้ว[/FONT][FONT=&quot]อย่างนี้ผมจะผิดศีลมั้ย :'''(

ขอบคุณครับ...ขออนุโมทนาทุกท่าน ทุกคอมเม้น
[/FONT]

 

เรามีเจ้าของ
รู้ว่าตัวเองมีเจ้าของ
ปรารถนาคนอื่น
หาวิธีให้ได้คนๆนั้น
ได้คนๆนั้นสำเร็จตามที่คิดไว้

ดูแล้วไม่น่าจะผิดสักข้อนะคะ หากยังไม่มีอะไรกับเขา แต่การไปบริการก็เป็นการแสดง
ความพอใจในจุดหนึ่ง หรือทำไปเพื่อบริหารเสน่ห์ หากไม่ได้คิดหมายมั้นปั้นมือว่าจะต้อง
เอาให้ได้ ก็ไม่น่าจะผิดอะไร ศีลอาจจะด่างพร้อยไปบ้าง ตามความคิดแบบผู้ชายที่ห้าม
กันไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าจะทะลุขาดสะบั้น

 

ที่บริการไปผมไม่คิดอย่างอื่นเลย..ผมคิดว่าผมมีน้ำใจอย่างเดียว

ปรารถนาคนอื่น (ไม่เคยคิด)
หาวิธีให้ได้คนๆนั้น (ไม่เคยคิด)

 

ทำไปเลยครับ ถ้ามีปัญหาค่อยมาคิดที่หลัง เรื่องนี้อยู่ที่กาม ตัณหา ราคะล้วนๆครับ ศีลธรรมเก็บไว้ก่อนก็ได้ครับ

 

เหอๆๆพี่มันจะดีหรอ....พระเจ้าจะไม่คุ้มครองอ่ะดิ๊แค่คิดผมยังกลัวเลย

 

ถ้ายังไม่ได้ซั่ม และยังไม่ได้ทำให้แฟนเค้าแตกแยก ก็ยังไม่ผิดครับ แต่ถ้าครบข้อใดข้อหนึ่ง ก็ ...ผิด....

 

สมัยก่อนตอนผมเรียนอยู่นะ ผมก็เคยพาผู้หญิงที่เค้าชอบเราไปที่ห้องในวันเกิดผม ก็กะอย่างว่าแหละ ทั้งๆที่ผมก็มีแฟน เค้าก็กำลังจะเลิกกับแฟน แต่ด้วยอารมณ์และราคะ มันอยากอยู่แล้ว แต่ได้ยินป่ะว่า คนบ้างพวกจะมีบางสิ่งคอยเตือนไม่ให้ทำผิด วันนั้นเข้าห้องเสร็จล็อคห้อง จะ...แล้ว เพื่อนที่ไม่เคยมา และไม่เคยเห็นมันจะมาที่ห้อง ก็มาเคาะประตูห้องซะงั้น มาถามว่า โน้ตบุคข้าหายไปไหน ผมก็หา แล้วมันก็เห็นผู้หญิงในห้องผม สรุปวันนั้นเลยไม่ได้อะไร และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับผุ้หญิงคนนั้นเลย

 

กามตัณหาเป็นสิ่งที่ละยากที่สุด
ถ้ามีแฟนแล้วก็พยายามข่มใจไว้เถอะครับ ทุกอย่างมีผลของมันทั้งนั้น
ผมเองก็เคยล่วงเกินศีลข้อนี้มาแล้ว ผลของมันคือได้เลิกกะแฟน ผลที่ตามมาอีก คือทุกข์กายทุกข์ใจ
ขอบอกว่าสุขที่จะเกิดเำพียงชั่วครู่มันไม่คุ้มเสีย อย่าไปเชื่อกิเลสมัน กิเลสมันหลอกเรา เหมือนที่มันหลอกผมมาแล้ว

 

อืมคำพูดนี้ทำให้ผมคิดเลยอ่ะพี่(คนบ้างพวกจะมีบางสิ่งคอยเตือนไม่ให้ทำผิด)...ผมก็เคยนะพี่เหตุการณ์แบบพี่เลยแต่ตอนนั้ผมยังไม่มีแฟนเค้ามีแฟนแล้ว
เค้ามาติดผมแล้วก็ลงเอยที่ห้องนอนพี่เชื่อมั้ย....ตอนกำลังจะ...มันไม่แข็งเอาดิ้อๆๆๆ ตอนนั้นผมอายุ 18 เอง อารมณ์มาเต็มไม่แข็งเป็นไปไม่ได้แล้วโดนเค้าว่าว่าไม่มีน้ำยา...แต่มาคิดถึงตอนนี้ผมโคตรดีใจเลย

 

ครับผมยอมรับว่าทำยากมากแต่ผมพยายามข่มใจไว้ครับไม่เอาไม่เอาแน่นอน
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ

 

แต่ถ้าผมทำไปโดยเป็นการแสดงน้ำใจไม่ผิดแน่นอนนะครับ

 

ศีลข้อ กาเม ฯ ... ยังไม่ขาดครับ ครบถ้วน


แต่ขาดเบญจธรรม กามสังวร(ความสำรวมในกาม )



ทำร้ายจิตใจสาว ๆ


.

 

ไม่ค่อยกระจ่างเลย...พอมีเนื้อหาที่ผมพอหาอ่านได้มั้ยครับ

 

ศีลข้อ3มันใหญ่มากครับมันมีความหมายกว้างๆๆไม่ใช่แค่การมีเพศสัมพันธุ์กันเท่านั้น การทำร้ายจิตใจอย่างที่เฮียปอบอกก็อยู่ในข่ายศีลข้อนี้ครับ

 

ศีลข้อ ๓ มีองค์ ๔ คือ
๑. อคมนียวตฺถุ วัตถุที่ไม่ควรถึง (คือชาย หรือหญิงที่มีเจ้าของ หรือมีผู้คุ้มครองดูแลรักษา)
๒. ตสฺมึ เสวนจิตตํ จิตคิดจะเสพในวัตถุนั้น
๓. เสวนปฺปโยโค พยายามที่จะเสพ
๔. มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺติ อธิวาสนํ ทำมรรคต่อมรรคให้ถึงกัน

ถ้าครบองค์ ๔ ที่วางไว้ ศีลข้อ ๓ นี้ก็ขาด
ศีลข้อนี้ขึ้นอยู่กับเจตนา และคุณของผู้ถูกล่วงด้วย กล่าวคือ ถ้าจงใจมากโทษก็หนัก ถ้าจงใจ
น้อยโทษก็น้อย ถ้าผู้ถูกล่วงเป็นผู้มีศีลโทษก็หนัก เช่นในสมัยพุทธกาล นันทมาณพล่วงเกินนางอุบลวรรณา
อรหันตเถรี โทษถึงธรณีสูบก่อนแล้วจึงตกนรกอเวจี

 

ต่อไปภายหน้าระวัง จะโดนกรรมสนองโดยลูกน้องบริวาร และ(หรือ)คนที่เรารักทำให้เจ็บใจ



.

 

งั้นแสดงว่าผมยังไม่ขาดศีลข้อนี้อ่ะดิครับเพราะที่กล่าวมาไม่คิดเลยซักข้อเพียงแค่ผมมีน้ำใจ มีความรู้สึกที่ดี คิดดี พูดดี และตัวพี่เค้าเองตอนนี้ก็เข้าใจดี

 

เขาก็เข้าใจในสิ่งที่เป็นอยู่นะครับ...คือผมแค่มีน้ำใจ คิดดีมาตลอด ไม่อกุศลเลย

 

ขอพูดตามความรู้สึกนะว่า ในเรื่องศีลคุณอาจยังไม่ผิด แต่คุณก็ทำไม่ถูกเท่าไหร่ หมายถึงว่าคุณสร้างความเข้าใจผิดแก่เขา ให้เขารู้สึกเลยเถิดเกินเพื่อน อย่าทำร้ายจิตใจเขาเลย ควรวางระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับเขา อย่าให้เข้าใจผิด คุณจะน่ารักขึ้นอีกเยอะ

 

ผมจะสอนธรรมที่ผมไม่เข้าใจเพื่อท่านฉลาดกว่าผมอาจจะเข้าใจ

สิ่งดงามวิจิตรในโลนกี้ไม่ใช่กาม
แต่ความกําหนัดที่เกิดขึ้นเพราะการดําหริต่างหากเล่าเป็นกามของคน
เมื่อละความพอใจได้แล้ว สิ่งที่งดงามวิจิตรก็มีอยู่อย่างงั้น ก็ทําให้เป็นพิษไม่ได้

เมื่อรู้ว่าคิดก็รู้ว่าคิด การมีศีลดีแล้ว ศีลคือเสาหลักของกุศลธรรม เสาหลักของความดี ถ้าเสาหลักนั้นพังลง ความชั่ว อบายภูมิ ก็เป็นที่ไปอะครับ ต้องมีเทวธรรม หิริโอตัปปะ

ธรรมเหล่านี้ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจมาก เพื่อท่านเข้าใจก็ลองเอาไปทําครับ