อีก ๒๕ เรื่องเล่าหลวงปู่ดู่กับธรรมะลึกซึ้งเข้าใจง่าย ชัดเจน นำไปใช้ได้ทันที

ในห้อง 'หลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า' ตั้งกระทู้โดย 789987, 28 พฤษภาคม 2007.

  1. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    ธรรมสวัสดีครับทุกท่าน
    กลับมาอีกครั้งกับ
    "พระผู้จุดประทีปในดวงใจ - หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ"

    กระทู้นี้มีทั้งหมด ๒๕ เรื่อง
    ขณะที่ผมจะเปิดกระทู้ใหม่ๆ
    เพื่อเผยแผ่เรื่องราว-ธรรมะ-การปฏิบัติ
    ด้วยระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่ที่มอบสิ่งดีงามไว้ให้กับพวกเรา

    www.วัดสะแก.com

    www.watsakae.com


    ๑.
    สมมุติและวิมุติ


    ใน วันสิ้นปีเมื่อหลายปีก่อน ผู้เขียนได้มาค้างคืนอยู่ปฏิบัติที่วัดสะแก และได้มีโอกาสเรียนถามปัญหาการปฏิบัติกับหลวงปู่เรื่องนิมิตจริง นิมิตรปลอม ที่เกิดขึ้นจริงภายในจากการภาวนา

    ท่านตอบให้สรุปได้ใจความว่า

    ต้อง สมมุติขึ้นก่อนจึงจะเป็นวิมุติได้ เช่น การทำอสุภะหรือกสิณ ต้องอาศัยสัญญาและสังขารน้อมนึกเป็นนิมิตขึ้น ในขั้นนี้ไม่ควรสงสัยว่านิมิตนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม มาจากภายนอกหรือออกมาจากจิต เพราะเราจะอาศัยสมมุติตัวนี้ทำประโยชน์ คือยังจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ขึ้น แต่ก็อย่าสำคัญมั่นหมายว่าตนรู้เห็นแล้ว ดีวิเศษแล้ว

    การน้อมจิตตั้งนิมิตเป็นองค์พระ เป็นสิ่งที่ดีไม่ผิด เป็นศุภนิมิตคือนิมิตที่ดี เมื่อ เห็นองค์พระ ให้ตั้งสติคุมเข้าไปตรงๆ (ไม่ปรุงแต่ง หรืออยากโน้นนี้) ไม่ออกซ้าย ไม่ออกขวา ทำความเลื่อมใสเข้า เดินจิตให้แน่วแน่ สติละเอียดเข้า ต่อไปก็จะสามารถแยกแยะหรือพิจารณานิมิตให้เป็นไตรลักษณ์ จนเกิดปัญญาสามารถจะก้าวสู่วิมุติได้

    "ก็ เหมือนแกเรียนหนังสือทางโลกแหละ มาถึงทุกวันนี้ได้ ครูเขาก็ต้องหัดหลอกให้แกเขียนหนังสือ หัดให้แกอ่านโน่นนี่ มันถึงจะได้ดีในบั้นปลาย นี่ข้าเปรียบเทียบแบบโลกให้ฟัง"

    กล่าวโดยสรุป คือ ท่านสอนให้ใช้ประโยชน์จากนิมิต ไม่ใช่ให้หลงนิมิต สอนให้ใช้แสงสว่าง ไม่ใช่ให้ติดแสงสว่างหรือติดสมาธิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2009
  2. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    หลักพุทธศาสนา

    ๒. หลักพุทธศาสนา

    เล่ากันว่ามีโยมท่านหนึ่ง ไปนมัสการพระเถระองค์หนึ่งอยู่เป็นประจำ และในวันหนึ่ง ได้ถามปัญหาธรรมกับท่านว่า

    "หลักของพระพุทธศาสนาคืออะไร?"

    พระเถระตอบว่า

    "ละความชั่ว ทำความดี ทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว"

    โยมท่านนั้นได้ฟังแล้วพูดว่า
    "อย่างนี้เด็ก ๗ ขวบก็รู้"

    "แต่ผู้ใหญ่อายุ ๘๐ ก็ยังปฏิบัติไม่ได้"

    อย่างนี้กระมังที่ผู้เขียนเคยได้ยินหลวงปู่พูดเสมอว่า
    "ของจริง ต้องหมั่นทำ"

    พระพุทธศาสนานั้น ถ้าปราศจากการน้อมนำเข้าไปไว้ในใจแล้ว การ "ถือ" พุทธศาสนาก็ไม่มีความหมายแต่อย่างใด
     
  3. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    พระเก่าของหลวงปู่

    ๓. พระเก่าของหลวงปู่

    [​IMG]

    สำหรับพระเครื่องแล้ว พระสมเด็จวัดระฆังฯ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเลงพระว่า เป็นของหายากและมีราคาแพง ใครได้ไว้บูชานับเป็นมงคลอย่างยิ่ง

    หลวงปู่ได้สอนว่า การนับถือพระเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่เป็นดีภายนอกมิใช่ดีภายใน ท่านบอกว่า "ให้หาพระเก่าให้พบ นี่ซิ ของแท้ ของดีจริง"

    ผู้เขียนเรียนถามท่านว่า "พระเก่า" หมายความว่าอย่างไร

    ท่านว่า "ก็หมายถึงพระพุทธเจ้าน่ะซิ นั่น ท่านเป็นพระเก่า พระโบราณ พระองค์แรกที่สุด"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Untitled-1.jpg
      Untitled-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.8 KB
      เปิดดู:
      8,614
  4. kim_osk119

    kim_osk119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +1,598
    โมทนา กับคุณ leo_tn มีเรื่องเล่ามาให้อ่านกันอีกแล้ว

    ขอให้นำเรื่องเล่าของหลวงปู่ดู่ มาลงต่อไปเรื่อยๆครับ
     
  5. Elfen

    Elfen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2006
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +1,750
    กราบ...กราบ...กราบ พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่...ลูกขอบันทึกคำสอนของท่าน เพื่อนำมาปฎิบัติ...สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    ธรรมะในโรงพยาบาล

    ๔. ธรรมะในโรงพยาบาล

    โรงพยาบาลเป็นสถานที่บำบัดทุกข์ของมนุษย์เราอย่างน้อย ๓ ประการ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในพระสูตรสำคัญหลายเรื่องคือ

    ชาติทุกข์ - ความเดือดร้อนเวลาเกิด

    ชราทุกข์ - ความเดือดร้อนเมื่อความแก่มาถึง และ

    พยาธิทุกข์ - ความเดือดร้อนในยามเจ็บไข้ได้ป่วย

    หลวงปู่เคยบอกกับผู้เขียนว่า ที่โรงพยาบาลนั่นแหละมีของดีเยอะ เป็นเหมือนโรงเรียน เวลาไปอย่าลืมดูตัวเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในนั้นหมด

    "ดูข้างนอกแล้วย้อนมาดูตัวเรา เหมือนกันไหม"
     
  7. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    ทรรศนะต่างกัน

    ๕.ทรรศนะต่างกัน

    เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันในวงของผู้ปฏิบัติธรรม หลวงปู่ท่านได้ให้โอวาทเตือนผู้ปฏิบัติไว้ว่า "การมาอยู่ด้วยกัน ปฏิบัติด้วยกันมากเข้า ย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดาอยู่ ทิฐิความเห็นย่อมต่างกัน ขอให้เอาแต่ส่วนดีมาสนับสนุนกัน อย่าเอาเลวมาอวดกัน"

    การปรามาสพระก็ดี การพูดจาจ้วงจาบในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือท่านที่มีศีล มีธรรมก็ดี จะเป็นกรรมติดตัวเราและขัดขวางการปฏิบัติธรรมในภายหน้า ดังนั้น หากเห็นใครทำความดี ก็ควรอนุโมทนายินดีด้วย แม้ต่างวัด ต่างสำนัก หรือแบบปฏิบัติต่างกันก็ตาม

    ไม่มีใครผิดหรอก เพราะจุดมุ่งหมายต่างก็เป็นไป เพื่อความพ้นทุกข์เช่นกัน เพียงแต่เราจะทำให้ดี ดียิ่ง ดีที่สุดเท่านั้น ขอให้ถามตัวเราเองเสียก่อนว่า "แล้วเราละ ถึงที่สุดแล้วหรือยัง?"
     
  8. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    อุบายธรรมแก้ความกลัว

    ๖.อุบายธรรมแก้ความกลัว

    [​IMG]


    เคยมีผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนาแล้วเกิดความกลัว โดยเฉพาะนักปฏิบัติที่เป็นหญิง ไม่ว่าจะกลัวผีสาง นิมิตในภาวนา หรือกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้เรียนถามหลวงปู่ว่า ถ้ากลัวแล้วจะทำอย่างไรดี

    หลวงปู่ตอบว่า
    "ถ้ากลัวให้นึกถึงพระ"

    ในพระไตรปิฎก ธชัคคสูตร กล่าวไว้สรุปได้ว่า
    "เมื่อพวกเธอตระหนักถึงเราตถาคตอยู่ พระธรรมอันเรากล่าวดีแล้วอยู่ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีแล้วอยู่ ความกลัวก็ดี ความหวาดสะดุ้งก็ดี ความขนพองสยองเกล้าก็ดี ที่จะมีขึ้นก็จะหายไป"

    ท่านยังฝากไว้ให้คิดอีกว่า
    "ธรรมนั้นอยู่ฟากตาย"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2007
  9. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    แนะวิธีวางอารมณ์

    ๗. แนะวิธีวางอารมณ์

    หลวงปู่เคยพูดเสมอว่า "ผู้ปฏิบัติต้องหมั่นตามดูจิต รักษาจิต" สำหรับคนที่ไม่เคยปฏิบัติแล้ว ไม่รู้จะดูที่ไหน อะไรจะดูอะไร รู้สึกสับสน แยกไม่ถูกเพราะไม่เคยดู เคยอยู่แต่ในความคิดปรุงแต่ง อยู่กับอารมณ์แต่แยกอารมณ์ไม่ได้ ยิ่งคนที่ยังไม่เคยบวช คนที่อยู่ในโลกแบบวุ่นวาย ยิ่งดูจิตของตนได้ยาก

    หลวงปู่ได้เปรียบให้ผู้เขียนฟัง โดยท่านกำมือและยื่นนิ้วกลางมาข้างหน้าผู้เขียนว่า เราภาวนาทีแรกก็เป็นอย่างนี้ สักครู่ท่านก็ยื่นนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อย ตามลำดับออกมา จนครบ ๕ นิ้ว ท่านทำมือโคลงไปโคลงมา เปรียบการภาวนาของนักปฏิบัติที่จิตแตก ไม่สามารถรวมใจให้เป็นหนึ่งได้

    ผู้ฝึกจิต ถ้าทำจิตให้มีอารมณ์หลายอย่างก็จะสงบไม่ได้ และไม่เห็นสภาพของจิตตามเป็นจริง ถ้าทำจิตให้ดิ่งแน่วแน่อยู่ในอารมณ์อันเดียวแล้ว จิตก็มีกำลังเปล่งรัศมีแห่งความสว่างออกมาเต็มที่ มองสภาพของจิตตามเป็นจริงได้ว่า อะไรเป็นจิต อะไรเป็นกิเลส อะไรควรรักษา อะไรที่ควรละ
     
  10. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,669
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542
    โมทนาสาธุครับ...ธรรมทานนี้ยิ่งใหญ่ครับ
    ขอเป็นกำลังใจให้เผยแพร่เกียรติคุณท่านสืบไปครับ

    ธรรมรักษา
     
  11. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    เชื่อจริงหรือไม่

    ๘. เชื่อจริงหรือไม่

    สำหรับผู้ปฏิบัติแล้ว คำดุด่าว่ากล่าวของครูบาอาจารย์ นับเป็นเรื่องสำคัญ และมีคุณค่ายิ่ง หากครูบาอาจารย์เมินเฉย ไม่ดุด่าว่ากล่าวก็เหมือนเป็นการลงโทษ

    ผู้เขียนเคยถูกหลวงปู่ดุว่า
    "แกยังเชื่อไม่จริง ถ้าเชื่อจริง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ต้องเชื่อและยอมรับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง แทนที่จะเอาความโลภมาเป็นที่พึ่ง เอาความโกรธมาเป็นที่พึ่ง เอาความหลงมาเป็นที่พึ่ง"

    หลวงปู่ท่านกล่าวกับผู้เขียนว่า
    "โกรธ โลภ หลง เกิดขึ้น
    ให้ภาวนา แล้วโกรธ โลภ หลงจะคลายลง
    ข้ารับรอง ถ้าทำแล้วไม่จริง ให้มาด่าข้าได้"
     
  12. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    คิดว่าไม่มีดี

    ๙.คิดว่าไม่มีดี

    ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่มักจะไม่พอใจในผลการปฏิบัติของตน โดยที่มักจะขาดการไตร่ตรองว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะอะไร ดังที่เคยมีลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงปู่ได้มานั่งบ่นให้ท่านฟังในความอาภัพอับวาสนาของตนในการภาวนา ว่าตนไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็นในสิ่งต่างๆ ภายใน มีนิมิตภาวนา เป็นต้น ลงท้ายก็ตำหนิว่าตนนั้นไม่มีความรู้อรรถ รู้ธรรมและความดีอะไรเลย

    หลวงปู่นั่งฟังอยู่สักครู่ ท่านจึงย้อนถามลูกศิษย์จอมขี้บ่นผู้นั้นว่า

    "แกแน่ใจหรือว่าไม่มีอะไรดี
    แล้วแกรู้จักพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเปล่า"

    ลูกศิษย์ผู้นั้นนิ่งอึ้งสักครู่จึงตอบว่า "รู้จักครับ"

    หลวงปู่จึงกล่าวสรุปว่า
    "เออ นั่นซี แล้วแกทำไมจึงคิดว่าตัวเราไม่มีดี"

    นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเมตตาของท่านที่หาทางออกทางปัญญาให้ศิษย์ผู้กำลังท้อถอยด้อยความคิด และตำหนิวาสนาตนเอง หากปล่อยไว้ย่อมทำให้ไม่มีกำลังใจในการปฏิบัติเพื่อผลที่ควรได้แห่งตน
     
  13. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    พระที่คล้องใจ

    ๑๐.พระที่คล้องใจ

    เมื่อมีผู้ไปขอของดีจำพวกวัตถุมงคลจากหลวงปู่ไว้ห้อยคอหรือพกติดตัว หลวงปู่จะสอนว่า

    "จะเอาไปทำไม ของดีภายนอก ทำไมไม่เอาของดีภายใน พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละ ของวิเศษ"

    ท่านให้เหตุผลว่า "คนเรานั้น ถ้าไม่มีพุทธัง ธัมมัง สังฆัง เป็นของดีภายใน ถึงแม้จะได้ของดีภายนอกไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร"

    "ทำอย่างไรจึงจะได้เห็นพระจริงๆ เห็นมีแต่พระปูน พระไม้ พระโลหะ พระรูปถ่าย พระสงฆ์ ลองกลับไปคิดดู"
     
  14. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    จะเอาดีหรือจะเอารวย

    ๑๑.จะเอาดีหรือจะเอารวย

    อีกครั้งหนึ่งที่คณะผู้เขียนได้มานมัสการหลวงปู่ เพื่อนของผู้เขียนท่านหนึ่งต้องการเช้าพระอุปคุตที่วัด เพื่อนำไปบูชา โดยกล่าวกับผู้ที่มาด้วยกันว่า บูชาแล้วจะได้รวย

    เพื่อนของผู้เขียนท่านนั้นแทบตะลึง เมื่อมากราบหลวงปู่แล้ว ท่านได้ตักเตือนว่า "รวยกับซวยมันใกล้ๆ กันนะ"

    ผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่ว่า
    "ใกล้กันยังไงครับ"

    ท่านยิ้มและตอบว่า "มันออกเสียงคล้ายกัน"

    พวกเราต่างยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ สักครู่ท่านจึงขยายความใหเพวกเราฟัง

    "จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ จะรักษามันก็ทุกข์ หมดไปก็เป็นทุกข์อีก กลัวคนจะจี้จะปล้น ไปคิดดูเถอะมันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอาดี ดีกว่า"

    คำว่า ดี ของหลวงปู่ มีความหมายลึกซึ้งมาก ผู้เขียนขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของในหลวงของเราในเรื่องทำความดี มาเปรียบ ณ ที่นี้ ความตอนหนึ่งว่า

    "...ความดีนี้ ไม่ต้องแย่งกัน ความดีนี้ ทุกคนทำได้ เพราะความดีนี้ทำแล้วก็ดี ตามคำว่า ดี นี้ ดีทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้าช่วยกันทำดี ความดีนั้นก็จะใหญ่โต จะดียิ่ง ดีเยี่ยม..."
     
  15. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    "พ พาน" ของหลวงปู่

    ๑๒."พ พาน" ของหลวงปู่

    หลวงปู่เคยปรารภธรรมกับผู้เขียนว่า
    "ถ้าแกเขียนตัว พ พาน ได้เมือไร นั่นแหละจึงจะดี"

    ผู้เขียนถามท่านว่าเป็นอย่างไรครับ พ พาน

    ท่านตอบว่า
    "ก็ตัว พอ น่ะซี"

    คนเราจะมีชีวิตอยู่ในโลก
    ไม่จำเป็นต้องร่ำรวย มีฐานะ แล้วจึงจะมีความสุข
    มีคนที่ลำบากอีกมาก
    แต่เขารู้จักว่า อะไรคือสิ่งที่พอตัว
    ก็สามารถอยู่อย่างเป็นสุขได้
    นี่ก็อยู่ที่คนเรา รู้จักคำว่า "พอ" หรือไม่
    รู้จัก "พอ" ก็จะมีแต่ความสุข
    ไม่รู้จัก "พอ" ถึงแม้จะร่ำรวย มีเกียรติ ตำแหน่งใหญ่โตอะไร
    มันก็ไม่มีความสุขได้เหมือนกัน
    คนที่มีเงิน ก็ยิ่งอยากมีเพิ่มขึ้นอีก
    คนที่ทำงาน ก็อยากกินตำแหน่งสูงขึ้น

    มีสิ่งใดก็เป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด
     
  16. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    การสอนของท่าน

    ๑๓.การสอนของท่าน

    วิธีวัดอย่างหนึ่งว่าผู้ใดปฏิบัติธรรมได้ดีเพียงใดนั้น ท่านให้สังเกตดูว่า ผู้นั้นสามารถฝึกตน สอนตัวเองได้ดีเพียงใด การเตือนผู้อื่นไม่ให้หลงผิดได้นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การเตือนตนให้ได้ย่อมดีกว่า

    การสอนของหลวงปู่ท่านจะทำให้เราดูเป็นตัวอย่าง ท่านสอนให้เราทำอย่างที่ท่านทำ มิได้สอนให้ทำตามที่ท่านสอน ทุกอย่างที่ท่านสอน ท่านได้ทดลองทำและปฏิบัติทางจิตจนรู้ จนเห็นหมดแล้วทั้งสิ้น จึงนำมาอบรมแก่ศิษย์

    เหมือนเป็นแบบอย่างให้เราได้ยึดถือตามครูอาจารย์ว่า การแนะนำ อบรม หรือสอนธรรมผู้อื่นนั้น เราต้องปฏิบัติจนแน่ใจตนเองเสียก่อน และควรคำนึงถึงสติปัญญาความสามารถของตน ถ้ากำลังไม่พอแต่จะรับภาระมาก นอกจากผู้มาศึกษาจะไม่ได้รับประโยชน์แล้ว ตนเองยังจะกลายเป็นคนเสียไปด้วย ท่านว่าเป็นการไม่เคารพธรรม และไม่เคารพครูบาอาจารย์อีกด้วย
     
  17. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    [​IMG]
    พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงกับกระทู้ต่อไป
    กับ
    ๑๗ อภิญญาสมาบัติ ทิพย์แห่งจิต หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    - พระโพธิสัตว์-หน่อพุทธภูมิ-การแบ่งภาค
    - ความเป็นมา ความเป็นไป
    - พุทธนิมิต - ภูตพระเจ้า
    เรื่องนี้เหมาะแก่คนที่อยากรู้ว่าหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่เกี่ยวข้องกันอย่างไร
    - การเกิดพระธรรมธาตุ
    - น้ำใจของหลวงปู่ต่อในหลวง
    - สุดยอดการฝึกอภิญญาจิตของหลวงปู่
    ฯลฯ
    ตามเซฟให้ดีครับเพื่อนๆ หลังปฏิบัติธรรมวันวิสาขบูชานี้
    จะเริ่มต้นครับ

    วันวิสาขบูชาที่จะถึงนี้
    อย่าลืมปฎิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยนะครับ
    ขอโมทนา....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,843
    อนุโมทนาครับ รออ่านต่อ ขอบคุณจากใจจริง ผมเคารพท่านมากสวดคาถาท่านตลอดแม้ว่าจะไม่มีบุญได้กราบองค์จริงของท่าน
     
  19. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    หัดมองชั้นลึก

    ๑๔.หัดมองชั้นลึก

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา ล้วนมีความหมายชั้นลึกโดยตัวของมันเองอยู่เสมอ ไอน์สไตน์มองเห็นวัตถุ เขาคิดทะลุเลยไปถึงการที่จะสลายวัตถุให้เป็นปรมาณู สองพี่น้องตระกูลไรท์มองเห็นนกบินไปมาในอากาศ ก็คิดเลยไปถึงการสร้างเครื่องบินได้

    พระพุทธเจ้าแต่ครั้งเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ทรงพบคนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนตาย ท่านก็มองเห็นถึงความไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

    หลวงปู่เคยเตือนสติลูกศิษย์รุ่นหนุ่มที่ยังมองเห็นสาวๆ ว่าสวย ว่างาม น่าหลงใหลใฝ่ฝันกันนักว่า

    "แกมันดูตัวเกิด ไม่ดูตัวดับ
    ไม่สวย ไม่งาม ตาย เน่า เหม็น
    ให้เห็นอย่างนี้ได้เมื่อไร ข้าว่าแกใช้ได้"
     
  20. 789987

    789987 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +11,476
    เวลาเป็นของมีค่าเ

    ๑๕.เวลาเป็นของมีค่า

    หลวงปู่เคยบอกว่า
    "คนฉลาดน่ะ เขาไม่เคยมีเวลาว่าง"

    เวลาเป็นของมีค่า เพราะไม่เหมือนสิ่งอื่น แก้วแหวนเงินทอง สิ่งของทั้งหลาย เมื่อหมดไปแล้วสามารถหามาใหม่ได้

    แต่สำหรับเวลาแล้ว หากปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ ขอให้ตั้งปัญหาถามตัวเองว่า "สมควรแล้วหรือ กับวันคืนที่ล่วงไปๆ คุ้มค่าแล้วหรือกับลมหายใจที่เหลือน้อยลงทุกขณะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...