หลักปฏิบัติสัมมาวาจา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แปะแปะ, 19 มีนาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    • ละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์ มีถ้อยคำเป็นหลักฐาน ควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก
    • ละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด ฟังจากข้างนี้แล้วไม่ไปบอกข้างโน้น เพื่อให้คนหมู่นี้แตกร้าวกัน หรือฟังจากข้างโน้น แล้วไม่มาบอกข้างนี้ เพื่อให้คนหมู่โน้นแตกร้าวกัน สมานคนที่แตกร้าวกันแล้วบ้าง ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันแล้วบ้าง ชอบคนผู้พร้อมเพรียงกัน ยินดีในคนผู้พร้อมเพรียงกัน เพลิดเพลินในคนผู้พร้อมเพรียงกัน กล่าวแต่คำที่ทำให้คนพร้อมเพรียงกัน
    • ละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษเพราะหู ชวนให้รัก จับใจ เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่พอใจ
    • ละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำ ที่เป็นจริง พูดอิงอรรถ พูดอิงธรรม พูดอิงวินัย พูดแต่คำมีหลักฐานมีที่อ้าง มีที่กำหนด ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันควร
    รู้จักมิจฉาวาจาว่ามิจฉาวาจา รู้จักสัมมาวาจาว่าสัมมาวาจา ความรู้นั้น เป็น สัมมาทิฐิ
     
  2. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    วาจาประกอบด้วยองค์ ๕ ประการ เป็นวาจาสุภาษิต ไม่เป็นทุพภาษิต และเป็นวาจาไม่มีโทษ วิญญูชนไม่ติเตียน คือ
    1. วาจานั้นย่อมเป็นวาจาที่กล่าวถูกกาล
    2. เป็นวาจาที่กล่าวเป็นสัจ
    3. เป็นวาจาที่กล่าวอ่อนหวาน
    4. เป็นวาจาที่กล่าวประกอบด้วยประโยชน์
    5. เป็นวาจาที่กล่าวด้วยเมตตาจิต
    อีกนัยหนึ่ง
    วาจาอันประกอบด้วยองค์ ๔ เป็น วาจาสุภาษิต ไม่เป็นทุพภาษิต เป็นวาจาไม่มีโทษ และวิญญูชนไม่พึงติเตียน
    1. ย่อมกล่าวแต่คำที่เป็นสุภาษิต ไม่กล่าวคำที่เป็นทุพภาษิต
    2. ย่อมกล่าวคำที่เป็นธรรม ไม่กล่าวคำที่ไม่เป็นธรรม
    3. ย่อมกล่าวแต่คำอันเป็นที่รัก ไม่กล่าวคำอันไม่เป็นที่รัก
    4. ย่อมกล่าวแต่คำสัตย์ ไม่กล่าวคำเหลาะแหละ
     
  3. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    สัมมาวาจา ๒ อย่าง
    • สัมมาวาจาที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญให้ผลแก่ขันธ์ คือ เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากการพูดส่อเสียด งดเว้นจากการพูดคำหยาบ งดเว้นจากการเจรจาเพ้อเจ้อ
    • สัมมาวาจาของพระอริยะที่เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค คือ ความงด ความเว้น ความเว้นขาด เจตนางดเว้น จากวจีทุจริตทั้ง ๔ ของภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิตหาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรค เจริญอริยมรรคอยู่
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    แปะแปะ เอ็งมาว่าข้า สอนลัทธิใหม่ โดยไม่พิจารณา แบบนี้พูดส่อเสียดหรือเปล่า
    เอ็งยังต้องศึกษาอีกเยอะนะแปะแปะ ไม่ใช่อ่านตำราแล้วคิดเองเออเอง
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อนุโมทนาครับ

    ที่ยากที่สุด คือพูดเพ้อเจ้อ เวลาที่พูดออกไล้ว ค่อยมารู้ว่าโลภะรับทานไปเรียบร้อย

    ส่วน ส่อเสียด ก็เหมือนกัน เวลาพิมพ์มานะ อิสสา พยาบาท มันขึ้นมาเลย

    ถ้ามีสติบ้าง พอจบรูปประโยคบางทีก็เลือกจะลบทิ้ง ไม่โพสมันลงไป
     
  6. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    หลงยังมีสามัญสำนึกในส่วนที่ดี

    รู้จักเลือกที่จะชนะใจตนเอง ในบางครั้งบางคราวที่มีสตืกำกับระลึกได้

    ไม่มุ่งไปเอาชนะผู้อื่น เพื่อความสะใจ จนเกินขอบเขตความพอดี

    เป็นธรรมดาของผู้ฝึกหัดทุกท่าน ย่อมมีเผลอไปบ้าง

    แต่มีการลด ละ เลิก หรือเปลียนแปลงไปในทางที่ดี
     
  7. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    อมฮอล ...... มาละซี้
     
  8. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    แต่การไม่เชื่อโดยเหตุนัยสำคัญว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้ แม้พระศาสดาก็ทรงไม่ถือว่าเป็นบาปกรรมอันใด เป็นเพราะเหตุคือปัญญาไม่ถึง เพราะเหตุปัจจัยในอันที่จะเห็นและพิจารณาได้ไม่ถึงพร้อม แต่จะเป็นบาปเป็นกรรมก็ต่อเมื่อ ไม่เชื่อแล้วยังลบหลู่ดูหมิ่นว่าร้ายให้ร้ายต่างๆนานา ดังมีพรรณามาในพระสัทธรรมในหลายบทหลายตอน ความสำคัญคือ การกล่าวสิ่งใดก็จงอย่าสำคัญว่าเขาต้องเชื่อ แต่ต้องสำคัญว่าไม่ควรกล่าวคำเท็จ คำไม่จริง คำที่กระทบต่ออารมณ์ความรูสึกของผู้อื่นหากไม่จำเป็น เพราะไม่มีสติพิจารณาในสิ่งที่ควรว่าทำไมถึงต้องใช้สิ่งนั้นและทำไมถึงไม่ใช้สิ่งนั้น ไม่ใช่เฉพาะวาจานะ กายก็ด้วย ใจก็ด้วย อย่าสักแต่ว่ารู้มากแล้วจะคิดว่านั่นคือทางหลุดพ้น เกิดมานะทิฐิ เป็นคำบาลีได้ตั้งหลายคำ เรียกรวมๆว่า ทิฐิ ที่ไม่ดี นำออกมาใช้ก็จะเกิดความโกลาหล แต่โดยมากจะเป็นกับตนเองมากกว่า ผู้อื่นหากตั้งสติพิจารณาดีๆ ไม่มีผล เว้นเสียผู้ไม่พิจารณาด้วยความมีสติและเป็นกลาง ก็จะไหลไปกับสิ่งเหล่านั้นคือ เกิดได้ทั้งเชื่อ และ ไม่เชื่อ นำไปสู่ ความยินดีและความยินร้าย หากยินร้ายแล้วลบหลู่ส่อเสียด ก็เป็นกรรมอกุศล เป็นวิบากสืบต่อไป พึงมีสติพิจารณาธรรมทั้งหลายให้ดีๆ ใครๆก็มีมานะทั้งนั้นแต่เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ก็ดี อะไรไม่ดีก็สละเสีย สละบ่อยๆ ทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่ายากสละยากเพียรระลึกรู้ว่ายาก ให้ค่อยสละทิ้งไป ..มีข้อคิดอีกอย่างคือ ครั้งหนึ่งพระศาสดาก็เคยเห็นเปรตสุกรที่เชิงเขาคิชกูช แต่ไม่ทรงปรารภสิ่งใดมาช้านาน จนกระทั่งพระโมคคัลลานมหาเถระก็เห็นประจักษ์แจ้งเช่นเดียวกันจึงทูลถามพระศาสดา...พระศาสดาจึงกล่าวว่า....(หาอ่านเอาเองครับ)
    สาธุคั๊บ
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ชอบล่ะซิ้

    หนึ่งบาทได้ฉองเม็ด นั้นแหละเอาไปแบ่งกับน้าปราบ

    เงียบนานแล้ว ปากเหม็น ^^
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    บางทีก็ต้องกระตุกต่อมอัตตากันบ้างสิ แต่เจนตนายังเหมือนเดิมครับ :cool:
     
  11. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    พี่ปราบไม่จำเป็นต้องใช้หรอก เดี่ยวเหมาเอง หมดนั้นแระ
    พี่ปราบไม่ว่างน่ะ ตอนนี้มาทำธุระอยู่ กทม มีไรฝากบอกน่าอินจาง ได้
     
  12. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    ต้องเข้าในนะขันธ์ ที่เรียกตัวเองว่านักปฏิบัติ
    และคำว่าปฏิบัตินั้นก็ คือ ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์
    ส่วนธรรมะหมายถึงคำสั่งสอนที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง
    ดังนั้นการปฏิบัติธรรมจึงหมายความว่า เป็นการปฏิบัติไปตามคำสอนที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ นั้นเอง
    จึงขึ้นว่านักปฏิบัติ ถ้าไปเอาคำสอนของพระพุทธองค์มาแสดง ถึงจะถูกต้องตามที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ก็ยังไม่ชื่อว่านักปฏิบัติ
    ก็คงเป็นนักแสดง เมื่อจะคิดเป็นนักแสดงก็ควรศึกษาธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ให้ได้อย่างถูกต้อง จะได้ไม่ต้องเบี่ยงเบนว่า
    ปฏิบัติเองเห็นเอง ว่ามันเป็นปัจจัตตัง มันจะสรุปง่ายไปไหม

    การพูดส่อเสียดกับการพูดจริงต่างกันตรงไหน ? พูดจริงแต่ผู้ฟังไม่ยอมรับความจริงก็จะกลายเป็นพูดส่อเสียด
    พูดจริงแล้วยอมรับตามนั้นว่า เป็นจริงดังที่เขาพูดก็คงพูดไม่ใช่ส่อเสียดเออเขาพูดจริง จริงป่าว

    คงเป็นจริงอย่างดังที่ขันธ์ว่านั่นแหละ แปะแปะยังต้องศึกษาอีกมาก
    แม้พระอริยะบุคคลเบื้องต่ำ ๓ ก็ยังต้องเป็นบุคคลที่ยังต้องศึกษาอยู่ เรียกอีกอย่างว่า พระเสขบุคคล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2012
  13. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    สัมมาวาจา เป็นองค์มรรค เป็นหนึ่งในจำนวนมรรค ๘
    เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากการพูดส่อเสียด
    งดเว้นจากการพูดคำหยาบ งดเว้นจากการเจรจาเพ้อเจ้อ
    หากยังงดเว้นไม่ได้ ยังเป็นผู้เพ้อเจ้อ พูดไร้สาระ เอาแต่สนุกสนานเข้าไว้
    ก็ยังเป็นผู้ห่างไกลต่อมรรค ๘ เพราะสัมมาวาจาก็จะต้องเป็นมรรคสมังคีย์ด้วยเช่นกัน
     
  14. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    เจตนาอะไร ยังติดใจ คาใจ อยู่แค่ตะกรุดริงโทน นั่นกระมัง :cool:

    เห้อ ชาวพุทธ จะแกะได้ไหมน้อ เพื่อความไม่โศกา
     
  15. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนาสาธุ กับธรรมที่ยกมาครับ

    สาธุครับ
     
  16. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    <TABLE style="WIDTH: 483px; HEIGHT: 210px" border=1 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=483><TBODY><TR><TD bgColor=#ffece3 height=55>
    น อนฺตลิเข น สมุทฺทมชฺเฌ น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวีสํ
    น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส ยตฺรฏบิตํ นปฺปสเหยฺย มจฺจุ

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้
    ถึงจะเหาะขึ้นไปอากาศ ก็ไม่พ้นกรรมชั่วได้
    ถึงจะดำลงไปในทะเล ก็ไม่พ้น
    ถึงจะเข้าไปหลบบนซอกเขา ก็ไม่พ้น
    เพราะไม่มีแผ่นสักส่วนหนึ่ง ที่เขายืนอยู่แล้ว
    จะไม่ถูกความตายครอบงำได้


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เป็นเช่นนี้จริงๆครับ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  18. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    <TABLE style="WIDTH: 483px; HEIGHT: 146px" border=1 cellSpacing=0 cellPadding=2 width=483><TBODY><TR><TD bgColor=#ffece3 height=55>
    อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ ปาปา จิตฺตํ นาวารเย
    ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ ปาปสฺมึ รมติ มโน
    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    บุคคลควรรีบขวานขวายใกรทำความดี ควรห้ามจิตจากบาป
    เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจจะยินดีในบาป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...