ภาษาของเทพเทวดา

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ปาราชิก, 19 เมษายน 2012.

  1. ปาราชิก

    ปาราชิก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +47
    อยากทราบว่ามีสมาชิกท่านใดที่เคยฝันหรือไม่ได้ฝันแล้วสามารถพูดภาษาที่ไม่ใช่ภาษามนุษย์ได้บ้างคับ เนื่องจากผมฝันว่ามีพญานาคลงเล่นน้ำแล้วอยู่ๆในฝันผมก็พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่รู้เรื่องเลยแต่ก็หยุดพูดไม่ได้มันออกมาเองเลย ฝันเห็นพญานาคมาสามวันติดกันแล้วแต่วันที่สามเนี่ยพูดอะไรก็ไม่รู้ ช่วยแนะนำที ( อย่าบอกว่ากินอิ่มมากไปแล้วฝันเพ้อเจ้อนะ สามวันติดกันแล้วไม่ธรรมดาและเนี่ย)
     
  2. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    เป็นจิตสำนึกเดิมมั้งค่ะ.........
     
  3. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    เวลาผมพูดกับ เทวดาผมก็พูดภาษใจนี่แล่ะ สื่อกันด้วยใจนี่แล่ะครับ

    เวลาบนบานก็อธิฐานด้วยใจ ก็ได้สิื่งตนขอประจำ
     
  4. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ .. แต่ไม่ได้พูดเอง
     
  5. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    พูดได้ 4 ภาษา ครับ เป็นภาษาสื่อ เรียกว่าสื่อเสียง ถ้าไม่มีการออกเสียงแต่ปรากฏว่ามีเสียงผุดขึ้นจากจิต เรียกสื่อจิต ถ้ามีการแสงออกทางกายอย่างทำท่าแปลก เรียกสื่อมือ
     
  6. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ห้ามไปหาคนทรงหรือร่างทรงเพื่อรับขันธ์นะครับ ห้ามให้ใครเจิมหน้าผาก ตบหัว จับบ่า จับหลัง
    มีข้อควรระวังหลายอย่าง ถ้าอยากทราบ ค่อยคุยเป็นการส่วนตัวครับ ตอนนี้พยามเข้าสมาธิ ทำจิตให้นิ่ง รักษาศีล หมั่นทำบุญไปก่อน ถ้าจะพูดภาษาแปลกๆเวลาอยู่บ้านคนเดียวก็พูดไปไม่ต้องตกใจ ให้จิตรับรู้อย่างมีสติไปเรื่อยอย่าไปคิดว่ามันคืออะไร หรือสงสัย ให้พูดไปจนหยุดเอง แล้วจะรู้สึกว่าจิตจะนิ่งขึ้น ต่อไปจะเข้าสมาธิได้ง่ายขึ้น แล้วจะมีนิมิตปรากฏขึ้นในจิต ให้รู้อยู่เฉย เห็นก็เห็นไป แล้วให้ผ่านไปอย่าไปยึดเพราะช่วงต่อไปต้องทำการล้างอุปทานของจิต จนจิตว่าง สมาธิก็จะนิ่ง ดิ่ง และ ลึกลงไปเป็นลำดับ เวลาออกมาจากสมาธิให้จิตอยู่กับความเป็นจริงมากที่สุด ให้จิตเป็นเหตุเป็นผล เพื่อป้องกันการติดยยึดในสิ่งที่เป็น ว่าเราเป็นโน่นเป็นหนี่ กว่าจะผ่านกระบวนการขั้นตอนต่างๆไปได้ต้องใช้เวลาครับ แต่ถ้าได้แล้วสภาวะของจิตจะมั่นคง หนักแน่น เรียกว่าฝึกร่วมกันกับอาจารย์ที่มองไม่เห็นตัว ถ้าสภาวะจิตบริสุทธิ์ขึ้นไปเรื่อยก็จะปรากฏอาจารย์ที่มีความละเอียดของจิตปรากฏขึ้นมาสอนธรรมะให้ เรียกว่าการถ่ายทอดจากจิตสู่จิต ไม่มีตำรา ไม่มีหนังสือให้อ่าน แต่จะปรากฏตัวรู้ขึ้นมาจากจิตเอง ผมขออนุญาติพอแค่นี้ก่อนครับเดี๋ยวกลายเป็นการพูดไปเพื่อนำจิตคุณไป ให้ปฏิบัติเองแล้วเกิดขึ้นเองในสภาวะของจิตดีกว่า

    รู้ธรรมะพูดได้หมดทั้งพระไตรปิกฏ ถกเถียงใครไม่เคยแพ้ มิสู้พูดธรรมะไม่เก่ง เถียงใครก็ไม่เป็น แต่จิตเข้าถึงธรรมได้โดยแท้ ผู้เข้าถึงธรรมจะไม่ชนะใครด้วยคำพูด แต่ชนะจิตตัวเอง คือความวางซึ่งตัวตน คลายความยึดมั่นในการแพ้ชนะ ธรรมะที่แท้ยิ่งพูดจะยิ่งทำให้จิตปล่อยวาง จิตจะเบาสบาย สภาวะจิตที่หม่นหมองจะถูกคลาย จิตจะปรับสภาวะขึ้นไปตามลำดับ นั้นและคือธรรมะที่พระพุทธเจ้าแสดงเพื่อทำให้ ปุถุชน กลายเป็นอริยะชน โดยใช้หลักธรรมเข้าไปชำระล้างดวงจิตนั้นเพื่อให้เกิดการปล่อยวาง และเข้าถึงความบริสุทธิ์โดยพลัน จะเป็นเทพ เป็นพรหม เป็น โพธิสัตว์ หรือ เป็นอรหันต์ ก็เป็นที่จิต สำเร็จด้วยจิต หลุดพ้นก็ด้วยจิต หลักธรรมแท้ของพระพุทธเจ้าไม่ทรงสอนอย่างอื่นนอกจากการเข้าถึงความหลุดพ้นด้วยจิต ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2012
  7. Unlimited Indy

    Unlimited Indy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,228
    ค่าพลัง:
    +803
    เคยดูในคลิปอะครับ แต่ก็ยังตัดสินอะไรไม่ได้
     
  8. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    โมทนาค่ะ เรื่องคล้ายๆ กับที่คุณพูดมา เพิ่งเกิดกับตัวเองเมื่อคืนเหมือนกัน ขอบคุณที่ชี้แนะนะคะ และขอบพระคุณสำหรับธรรมที่ให้ด้วยค่ะ
     
  9. บัวทิพย์

    บัวทิพย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +38
    ขอบคุณค่ะ ที่ให้ความรู้ เพราะเรื่องแบบนี้ถามใครก็ไม่มีใครรู้เลยค่ะ ไม่สามารถให้คำแนะนำได้ เฉพาะคนที่รู้เรื่องแบบนี้เท่านั้น เข้ามาอ่านแล้ว จึงจะเข้าใจ ขอบคุณมากค่ะ
     
  10. Cute Cute

    Cute Cute สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    เคยสื่อสารทางจิตเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าจะเป็นภาษาที่ฟังแล้วไม่รุ้เรื่องและก็พูดแบบเร็ว ๆ
    แต่ก็ปล่อยผ่านไปค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ได้รับรู้อะไรแบบนี้อีกแล้ว ปกติเหมือนคนทั่วไปแล้วค่ะ
     
  11. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    เคยเจอมนุษย์นี่แหละครับ พูดภาษาที่ว่านี้คุยกัน ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลย...
    แต่ก็พอเข้าใจนะ ว่าท่านๆ ที่พูดนั้นเขาสื่อสารกันได้จริงๆ เพราะท่านนั้นปฏิบัติมา 30 กว่าปีแล้ว...
     
  12. ปาราชิก

    ปาราชิก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +47
    ปกติผมก็จะแค่ฝันเห็นเท่านั้น แต่หลังๆมานี่จะเริ่มฝันติดๆกันทุกวันเลย ครังสุดท้ายก็พูดภาษาอะไรไม่รู้ พูดเร็วมากๆฟังไม่รู้เรื่องจะหยุดพูดก็ทำไม่ได้ ในฝันมีหลายๆสิ่งที่อธิบายหรือบอกเล่าให้ฟังไม่ได้ กลัวจะโดนด่าว่า บ้า !!! ได้แต่ปล่อยให้เป็นไป อาศัยสวดมนต์นั่งสมาธิเพื่อช่วยให้เข้าใจอะไรได้บ้าง ยิ่งสวดมนต์บ่อยนั่งสมาธิบ่อย ก็ยิ่งฝันบ่อยมากขึ้น ช่วงก่อนยังนานๆครั้งที่จะฝันแล้วภาพก็เลือนลางมาก แต่หลังจากสวดมนต์นั่งสมาธิ ทุกๆอย่างก็ชัดขึ้น บางครั้งตอนที่ตื่นปกติ หูเราได้ยินเสียงเหมือนเสียงลำโพงมันลั่น หูแทบแตก ไม่รู้มันคืออะไรเหมือนกัน ???
     
  13. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    แล้วถ้ามีคนมาจับบ่า จับหลัง จะทำอย่างไรคะ แบบคนรู้จักทั่วๆไป กับคนรู้จักที่มีความสามารถพิเศษ ทำแล้วต่างกันมั้ย?
     
  14. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    อย่าไปยึดติดกับมันครับ
    ทางแห่งความหลุดพ้น ทางแห่งปัญญา คือ การ ละ วาง ซึ่งการยึดถือมั่น
    มันจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ให้กำหนดว่า เรารู้ รู้อย่างมีสติ ไม่ต้องแต่งเติมเพิ่ม ไม่ต้องถือมันเอาไว้ในใจ
    มันจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ หรือชาติก่อนๆ หน้า ท่านจะเคยเป็นภพภูมิไหนก็แล้วแต่ มันผ่านไปแล้วครับ การยึดถือสิ่งที่จบไปแล้ว คือ อวิชชา

    ผู้ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ในยุคนี้ เกือบทุกคน เป็นมาเกือบทุกภพภูมิแล้วครับ
    จะเป็นพรหม เป็นเทวดา เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นครุฑ นาค หรือไปท่องนรกทุกขุม ส่วนใหญ่ไปมากันหมดแล้ว สำคัญที่สุดคือ ปัจจุบัน เราเป็นมนุษย์ เราเปลี่ยนอดีตชาติเราไม่ได้ แต่เราเลือกอนาคตได้ครับ
     
  15. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ถ้าเป็นคนทั่วไปส่วนใหญ่จะไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าเป็นผู้ที่มีวิชา หรือเรียนวิชาเวทย์มนต์คาถามา ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคาถาที่เป็นอวิชชาอยู่ พยายามเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้พยามยกหรือปรับสภาวะของจิตให้สูงขึ้น หรือ ทำจิตให้เข้าสู่ความว่าง ทุกอย่างก็จะผ่านสภาวะของจิตไปได้ แต่ถ้าทำได้อย่างนี้ต้องอาศัยการฝึกจิตมาก่อนครับ
     
  16. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ที่เขาไม่ใช้ภาษาไทย เพราะต้องการบังสภาวะของจิตของผู้ฟังไว้จึงทำไม่ให้ร่างพูดภาษไทย เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่พอรู้อะไรแล้วปล่อยวางไม่ได้ ติดยึดในรูปลักษณ์หรือเรื่องราวต่างๆ จึงไม่ให้รู้ครับ
     
  17. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ไม่รับรู้แล้วไม่เป็นไรครับ ท่านยังอยู่ครับ ให้ปฏิบัติต่อไป ถึงแม้นผู้ที่สามารถใช้สื่อได้ สุดท้ายก็ต้องฝึกจิตจนสามารถควบคุมสภาวะของจิตตนเองได้ จนเรียกว่าจะพูดสื่อหรือไม่พูดก็ได้ สามารถอยู่ได้เป็นปกติ เพียงแต่มีอาจารย์ที่ไม่มีร่างคอยเป็นพี่เลี้ยงช่่วยในการปฏิบัติเท่านั้นเองครับ
     
  18. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    สบายๆ ผมพอรู้วันที่เทพเจ้าทุกองค์ลงมา และเช็คว่าตรงกับศาลในเมืองไทยซะด้วยไหว้บนขอพร สำเร็จง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีอะไรมากขอแค่ใจนับถือ อิอิอิอิมาโม้เสร็จและหายตัวไปละมิปๆๆชิ้ว.................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2012
  19. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    สาธุครับดีแล้วครับ ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นไปเพื่อการปล่อยวาง เพื่อความหลุดพ้น พระองค์ไม่เคยสอนเรื่องอื่นใดนอกจากจิต หลักธรรมแท้นั้นย่อมเกิดจากจิตที่ปฏิบัติตรงตามธรรมที่ท่านแสดงไว้

    เมื่อเราปฎิบัติไปตามที่ท่านสอนย่อมต้องถึงความหลุดพ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง หรือภพใดภพหนึ่งอย่างแน่นอน แต่เมื่อเรายังไม่ถึงความหลุดพ้น ธาตุขันธ์ของผู้ปฏิบัติเกิดต้องคืนกลับสู่ธรรมชาติเสียก่อนที่จะสำเร็จ ผู้ปฏิบัติย่อมไปจุติตามภพภูมิของจิตที่ปฏิบัติได้ อาจเป็นเทพ เป็นพรหม หรือ อะไรก็แล้วแต่ แต่นั้นเป็นแค่ชื่อที่เรียกเพื่อการบ่งบอกสภาวะของจิตเท่านั้น จริงๆแล้วท่านก็ยังเป็นจิตของผู้ปฏิบัติ เพียงแต่ไม่มีสังขารขันธ์เท่านั้น และด้วยอายุของเทพพรหมมีเวลายาวนานกว่ามนุษย์ ท่านจึงต้องหาผู้ที่เคยมีความสัมพันธ์กับท่าน คือมีบุญสัมพันธ์กัน หรือมีพันธะสัญญาต่อกันมา เพื่อจะลงมาอาศัยธาตุทั้ง 4 ในการปฏิบัติเพื่อให้ชั้นญานถูกปรับขึ้น ไม่มีใครอยากเป็นอะไรแบบนี้แต่บางคนก็หนีไม่ได้ โชคดีหน่อยก็ไปเจอพระที่ปฏิบัติทางจิต(ไม่ใช่เกจิปลุกเสกของขลังนะครับ) ช่วยแนะนำการปฏิบัติเพื่อให้จิตปรับสภาวะของจิตให้เข้ากันกับเขาแล้วปฏิบัติไปพร้อมกัน เรียกว่ามีพี่เลี้ยง สิ่งใดผิดถูกร่างจะถูกสั่งสอนหรือควบคุมไปในทางที่ดี เพื่อไม่ให้ร่างไปก่อวิบากกรรมเพิ่ม อีกอย่างเทพ พรหม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น จะถูกกำหนดหน้าที่ในการช่วยเหลือมนุษย์และโลกใบนี้อยู่ เรียกว่ายังต้องทำงานเพราะยังไม่จบกิจของการปฏิบัติ คือสำเร็จเป็นอรหันต์ นะครับ ผมเคยเจอบางท่านด่าว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือต่อต้านอย่างที่สุด แต่พอมองดูสภาวะของจิตผู้ที่ด่าว่ากลับเห็นแต่ความหม่นหมอง ผิดกลับจิตของสิ่งที่ไม่มีสังขารแต่ไปเสวยผลของความดีที่ทำแล้วที่คนทั่วไปเรียกว่าเทพบ้าง พรหมบ้าง กลับสว่างและสะอาดกว่าเยอะ นี้ถ้าท่านมีสังขารสักหน่อย แล้วโกนหัวห่มผ้าเหลือง ก็ไหว้ได้อย่างสนิทใจดีกว่าพระที่เป็นมนุษย์แต่ไม่มีจิตเป็นพระเสียอีก มนุษย์เองก็มีดีมีชั่ว มีสภาวะจิตแตกต่างกันเหมือน บัว 4 เหล่า สิ่งศักดิ์ก็เช่นกัน บางท่านปฏิบัติมาไม่รู้กี่พันปีจะหลุดพ้นก็ได้แต่ไม่ยอมไป รอที่จะช่วยเหลือมนุษย์อยู่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และคนดีที่ตกทุกข์ได้ยาก เพียงแต่ท่านไม่มีสังขารจึงยากที่จะช่วยในความเป็นจริงได้ บางท่านผ่านการปฏิบัติจิตมานานรู้วิธีการและอุบายธรรมในการผ่านสภาวะของจิตที่มีกิเลสต่างๆมาได้ในระดับของจิตที่ท่านปฏิบัติได้ บางท่านได้สภาวะของธรรมชั้นสูงแต่ไม่สั่งสอนธรรม เพราะธรรมของพระพุทธเจ้าที่ประทานให้ไว้แก่สรรพสัตว์ยังสมบูรณ์อยู่เพื่อการปฏิบัติให้เข้าสู่ความหลุดพ้น เพราะเมื่อตอนที่พระพุทธเจ้ายังไม่บวช เหล่าเทพก็มาช่วยให้พระองค์พบกับมรณะทั้ง 4 คือความ เกิด แก่ เจ็บ และ ตาย อันเป็นมูลเหตุหนึ่งที่ให้พระองค์ได้ตัดสินพระทัยในการออกบวช แม้นพระองค์บรรลุแล้ว แต่ยังไม่ตัดสินใจในการจะเผยแพร่หลักธรรมคำสอนของท่าน เทพเทวาที่เราต่อต้านยังช่วยให้เกิดเสียงพิณ 3 สาย เพื่อให้พระองค์ตัดสินพระทัย อันเป็นเหตุให้เกิดหลักการบัว 4 เหล่าขึ้น ไม่ทราบว่าผมพูดมากไปหรือเปล่าต้องขอโทษด้วยไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินท่านผู้ใด เพียงแต่ต้องการให้เกิดความเข้าใจด้วยเทพ พรหมที่ดีก็มี และที่ต้องการช่วยเหลือโลกใบนี้ก็มาก เหมือนมนุษย์มีดีชั่วปะปนไป เพียงแต่ท่านไม่มีสังขารเท่านั้นครับจึงไม่มีการใช้วิถีอย่างมนุษย์ ทำงานหากินเลี้ยงชีพ สร้างครอบครัว สร้างสิ่งของที่ตัวเองต้องการเพื่อหาความสุขสบาย ท่านก็เหมือนเราครับแต่ทำงานตามคำสั่ง ตามหน้าที่ไม่มีเงินเดือน บางท่านต้องการความหลุดพ้นก็พยามสร้างบารมีร่วมกันกับมนุษย์ที่บุญสัมพันธ์กับท่านเท่านั้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...