ถ้าหมดกิเลศแล้วเราก็เจอสุขที่เป็นเที่ยงแท้อัตตาใช่ไหมครับ

ถามครับสุขจากกามคุณมันก็ไม่เที่ยง แต่ถ้าหมดกิเลศแล้วสุขก็เป็นอัตตาใช่ไหมครับ คือเที่ยงแท้แน่นอนตลอดเวลา

 

แล้วที่ดำริแบบนั้น ใครสอนคุณมาเหรอ คุณจะไปเอาสุขจากไหน จาก
การปฏิบัติทำดีถึงที่สุดแล้วไปเป็น เทวดา เป็น พรหม อย่างที่ฆารวาสเก่ง
เรื่องมุสา ปิดบังซ่อนเร้นคำสอนครูบาอาจารย์ เขาว่ากันอย่างนั้นเหรอ

มานี่ดีกว่า ฟังคำสอนของพระ การเห็นสมณะ ถือเป็นอุดมมงคลนะ

 

แล้วเน้นนะว่า หลวงพี่บอกว่า ฝึกมโนยิทธิเก่งไม่เกินครูบาอาจารย์ เก่งไม่เกินพระพุทธเจ้า
อยู่ 3 ปี หยุดก่อนเลย !!

เพราะ หลวงพ่อฤาษีเทศนชัดๆ พูดให้ฟังแบบชัดๆ มโนยิทธิไปเที่ยวแดนนิพพาน ย้ำนะว่า
ไปเที่ยวแดนนิพพานตามแบบมโนยิทธินี่แหละ ยังแช่ นรกทั้งตัว!!!

แล้วหลวงพี่สอนเด็ดขาดมากเลย แสดงธรรมะเด็ดขาดมาก ท่านฝึกอยู่ 3 ปี ท่านระบุ
ของท่านเลยหละว่า ฝึก3ปีนี่เรียกว่า ตกนรกทั้งตัวแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลย !?

 

ไอ่พวกตากะทู้หูกะทะนี่มันอ่านเอาแต่ประโยคที่พอใจเท่านั้น...พวกนี้มันสอบตกภาษาไทย เรื่องการอ่านเอาความ การอ่านสรุปเนื้อหา เอาความหมายหลักนี่มันไม่รู้เรื่องกันหนะ....ความสามารถอ่านหรือเข้าใจได้แค่คำและประโยคเท่านั้น.....หรือใจมันบอดเป็นทุนเดิมส่งผลให้ตามันบอดมองอะไรไม่เห็นไม่เข้าใจ....

วิธีท่านก็บอกชัดเรื่องการพ้นนรก ยังไม่ทันหลุดเนื้อหาข้างล่างเลย...

กลับไปอ่านดีๆก่อนดีไม....ให้เขาได้ว่าได้.....อย่าให้ด่าว่าโง่....

 

อะไร คือ ความสุขครับ แค่ไม่ทุกข์นี่เพียงพอไหมครับ

ไม่เป็นเดือด ไม่เป็นร้อน ไม่เพียงพอเหรอครับ

ผู้ปฎิบัติโดยมุ่งหวังในความสุข ก็เหมือน ผู้ที่ดิ้นรนแสวงหา

ย่อมต้องดิ้นรนแสวงหาอยู่ร่ำไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดครับ

เมื่อมีสุข ย่อมมีทุกข์ ในสถานที่นั้น เพราะเป็นสิ่งที่คู่กันครับ

สาธุครับ

 

การรักษาศลี ๕ ให้บริสุทธิ์ กรณีเอาไข่จากไก่ที่เลี้ยงซึ่งมีเชื้อฟักเป็นตัวได้มาบริโภคถือว่าผิดศลีข้อ ๑ ไหม และกรณีช่วยตัวเองกับไปเที่ยวผู้หญิงอันไหนผิดศลีข้อ ๓มากกว่ากันอย่างไร ใครรู้ชัวร์ๆ ช่วยแจงทีๆๆ ขอบคุณครับกับทุกๆบทความ สาธุๆๆ

 

จากที่ถามโอกาสตกนรกมากน้อยเพียงใดครับ หลวงพี่เล็ก ที่เคารพ เพราะหลวงปู่บางองค์บอกบาปน้อย ลืมถามว่าลงนรกชัวร์ไหมครับ...

 

บาปบุญ อยู่ที่ใจ ไม่ว่าใจเรา หรือเขา มันอยู่ที่ใจ

ให้เล่าปังอธิบาย

 

ผมว่าการไปนิพพาน ไม่ใช่เรื่องยากหรอก เเล้ว การลงนรก สำหรับคนในเวปนี้นั่นยากมากกว่า
เเค่เค้า ภาวนา พุทโธ เเค่นี้ละ ไม่มีใครลงนรกสักคนเชื่อมะ! เเต่ก็อย่าประมาทละ! พระพุทธเจ้าท่านรู้เวลานิพพาน เเต่ท่านยังระลึกถึงความตายทุกลมหายใจ
เหล่าอภิญญาเมืองไทยทั่งหลายได้ทดสอบเเล้วการไปนิพพานไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องใช้บุญ หรือ บาปไป เค้าสามารถ ส่งวิญญานไปนิพพานมาเเล้ว ไม่รู้กี่ ล้านล้านดวงจิต ไม่กี่ปีทีผ่านมานี้
ทริปนั่นก็ อยู่ในข้อ 5 ของพระครูธรรมเล็ก เท่านั่น ไม่ว่าป้า ไม่ว่าเด็ก คนเเก่ ไปได้หมด คนเลวบางคนยังไปได้เเบบสบาย ไม่ได้มาพูดมั่วๆนะ เเต่ทำทั่ง5ข้อนั่นก็สบายใจกว่าไปได้100% ตามพระครูท่านบอก ไม่ต้องรอมาเกิดอีก7ชาติเสียเวลา
เเต่อยากให้รู้ว่า ว่าใคร เบื่อเเล้วที่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิด อยู่กับสิ่งที่ไม่เที่ยง เเม้เเต่ร่างของตัวเอง..

 

๑.การนำไข่มามาบริโภค โดยไม่รู้ถึงว่ามีเชื้อที่จะฟักเป็นตัว ให้ดูที่เจตนาครับ

การจงใจ กับ ไม่จงใจ ย่อมมีผลที่แตกต่างกันครับ

๒.กรณีช่วยเหลือตนเอง มีผลน้อยกว่าการไปเที่ยวผู้หญิงครับ ด้วยจิตใจที่ลุ่มหลง

ที่แตกต่างกันครับ การแสวงหาที่แตกต่างกันครับ การช่วยเหลือตนเองมากๆ

มีผลให้สภาพทางเพศเสื่อมได้ง่ายครับ แต่การเที่ยวผู้หญิงมีแต่จะเพิ่มความลุ่มหลงครับ

และ ยังก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันตามมามากมายครับ จิตใจจะกล้ากระทำในสิ่งที่

เป้นการผิดกฎหมายครับ มีตัวอย่างให้เห็นมากมายบนโลกครับ

ลองมองดูเด็กที่กำลังจะเข้าสู่ความเป็นวัยรุ่นสิครับ ที่เริ่มรู้เรื่องเพศน่ะครับ

ผมแนะนำให้มองดูที่จิตใจ และ การนึกคิดครับ เพราะเป็นสิ่งที่จะนำพาให้ไปเกิดในภพภูมิต่างๆครับ

สาธุครับ

 

มันไม่ใช่เรื่อง ชัวร์ หรือ ไม่ชัวร์

กล่าวคือ หากทำดีได้ไปสววรคิ์ หากทำนิ่งได้ไปเป็นพรหม แต่ มันเป็นภพ

ความที่มันเป็น ภพ มันก็ต้องมี ชาติ ชรา มรณะ อยู่ ไม่พ้นทุกข์ไปได้

ทีนี้ มันก็หมายความว่า การเวียนว่ายตายเกิดเนี่ยะ ยังมีอยู่

สมมติว่า มาเกิดเป็นมะนุดสุดวิเศษในชาตินี้ และกำลังได้พบพระพุทธศาสนา
ด้วย แต่ทว่า................

มันยัง สงสัยอยู่เลยว่า เอาไข่มาจากไก่ เนี่ยะ ผิดศีลหรือเปล่า หรือแม้
กระทั่งเรื่องเล่นกีฬา กับหาใครสักคนก็ได้ข้างทางมา.......... เนี่ยะ มัน
จะทำให้สะสมอนุสัยสันดานไปในทางดีหรือเปล่า นี่เราไม่รู้

แปลว่าอะไร แปลว่า เรายังลูบๆคลำๆ ศีลอยู่

การที่เราลูบคลำศีลอยู่ ตรงนี้ จึงทำให้ ระบุได้ว่า ไม่พ้นนรก ยังแช่ในนรก
ทั้งตัว โอกาสมันมี ไม่ใช่ไม่มี

คนหลายคนเขาไปพูดว่า กำขี้(เล่นกรรมฐาน สมาบัติ อภิญญา)ได้อะไรเป็น
ชิ้นๆเป็นอัน(ไปสวรรคิ ไปพรหม)มันดีกว่า "ปรมะ สุญญัง" เนี่ยะ เพราะ
เขาอ่านไม่ออก อ่านภาษาธรรมไม่ออก ก็เลย

สวนคำสอนพระ พระอาจารย์ใหญ่ลงทุนกล่าวเองว่า วิชชา2 อภิญญา5
สมาบัติ8 หรือ แม้แต่ กรรมฐาน40 ต่อให้คล่องแค่ไหน ก็ถือว่า แช่ใน
นรกทั้งตัว มันก็เถียง คัดค้าน และ ปฏิเสธคำสอนของครูบาอาจารย์

ทำตัวเก่งกว่า ครูบาอาจารย์ ครูสอนอะไร ก็ กล่าวเถียง ไขว้ให้สับสน
ในเป้าหมายที่ครูพยายามจะสื่อว่า "ปรมะ สุญญัง" ต่างหาก ของจริง

 

ตรงนี้ท่านกล่าวได้ชัดเจนแล้วเพราะกรรมฐานที่ว่ามาหากไม่ลงที่ใจ จะพ้น นรกได้อย่างไง

สาธุ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

 

ไม่ใช่ๆ สุขแท้ต้องดับอัตตาตะหาก ไม่เชื่อคุณลองอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสนะครับ ที่ผมอ่านมาตามความเข้าใจถ้าดับอัตตาได้น่าจะพระอนาคามี ดับอัตตาคือไม่ให้มีความยึดถือว่าเราว่าเขา ภาวนาให้เข้าใจ ถ้าว่างจากความยึดถือว่าเป็นตัวตน คือว่าง.....................ก็อรหันต์ เอ...ทำไมผมยังทำไม่ได้...ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...

 

ฟางว่านเป็นพระโสดาบันอะ แล้วท่านๆล่ะขั้นไหนบ้าง...เป็นแล้ว...เป็นวันนี้แหละ...ยินดีสนทนากับกัลญาณมิตรทุกๆท่าน...

 

อนุโมทนาสาธุครับ

 

กิเลสมันดับไม่ได้จริงๆ เพราะมันต้องเกิดเเล้วดับเป็นธรรมดา ถ้าจะบอกว่าจะดับได้ไง! มันต้องถึงพระอรหันเเล้วละ.. เค้าไม่ได้ดับที่จิต เกิดดับ เเต่เค้าไปดับตัวต้นเหตุที่ทำให้จิตมันเกิดดับ ถ้าดับ จิตตัวนี้ได้ ก็น่าจะเรียกว่าพระอรหันนะ ก็มันว่างเเล้วนิ... ผมคิดว่าไม่น่ามีใครรู้น่ะว่าอารมเป็นไง

ความสุขอยู่ที่ นิพพาน เดียวนี้เค้าก็บอกทริปให้ไปได้ง่าย ไปเเบบลัดๆ ถ้าใครอยากเป็นอรหัน ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันน่าจะสงบจริงๆนะ เเล้วเเต่ว่าใครอยากไปเเบบไหน

 

สุขที่ผมว่า คือสุขที่อยู่ตลอดเวลา ไม่หนีไปไหน ผมคิดว่าสุขของพระพุทธองค์ พระปักเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่าน สุขตลอด สุขทางใจ เพราะหมดกิเลศแล้ว

 

"..ให้รู้เท่าทันวิมุตติกับสมมุติ วางตัวเป็นกลาง ปฏิบัติรู้ธรรมโดยความเป็นจริง
ไม่เหยียบย่ำอนัตตาลง ยกอัตตาขึ้น ซึ่งเป็นยกข้างออกข้าง จักรอบรู้ธรรมได้อย่างไร

อย่ารู้โลกแล้วหลงธรรม
ดุจข้ามแม่น้ำด้วยเรือ ถึงฝั่งแล้วปล่อยเรือ ไม่แบกหามเรือไปด้วย

อัตตาเหมือนคลื่นหรือสัตว์ร้ายในน้ำ อนัตตาเหมือนเรือขี่เดินทาง
เมื่อถึงฝั่งแล้วปลอดภัย ทิ้งเรือแล้วไปดังนี้ ไม่ควรยึดถือไว้โดยทั้งปวง.."


หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร

 

จขกท ยังงง ไรอยู่หรอ ถ้าเรื่องความสุขนั่น พอละ กิเลสได้เเล้ว ก็ไม่มี ทั่งสุช ทั่งทุกข์ นั่นละ จิตสงบๆ ก็เป็นสุข ไม่ใช่หรอ ..

 

เจ้าของกระทู้ ยังไม่เข้าใจ คำว่า ความสุข จากการละวางครับ
จิตเขายังต้องหาอะไรเกาะอยู่ตลอดเวลา

ว่าแต่ ถึง เจ้าของกระทู้นะ ไอ้ที่บอกให้ไปทำ แล้วบอกให้เลิกถาม เลิกสร้างวิจิกิจฉา นี่ยังไง?
ไม่เชื่อกัน ก็ไม่เป็นไรนะครับ จิตของคุณเองนะ เตือนเพิ่มไว้ด้วยนะ ว่า ตอนนี้ฟังความจากหลายข้าง แต่สรุปใจไม่ได้ แล้วยังถามต่อไม่หยุด อาการคุณจะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ