ใครที่เก่งเรื่องพลังจิต ช่วยมาบอกผมหน่อยนะครับ

ทุกคนเกิดมา มีพลังทั้งหมดนั้นแหละครับ เพียงแต่ว่า คุนไม่เคยได้ใช้ ไม่เคยได้สนใจมันเท่านั้นเอง จึงทำให้เราลืมมันไป
คุณควรเรียน วิชชา 3 วิชชา 6 นะครับ ลองศึกษาดู
หรือฝึกการใช้กสินให้เข้าถึง ฌาณ นะครับ เป็นหนทางหนึ่งในการควบคุมพลังรอบๆตัว
แต่เมื่อได้ฌาณมาแล้ว คุณจะสามารถใช้ฌาณนั้น สั่งฟ้า สั่งฝน หรือทำการใดก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ถ้าอยากไปสู่นิพพาน เมื่อได้ฌาณมาแล้วก็ไม่ต้องไปตื่นตัวกับพลังของมัน ละและปล่อยมันไป...

ถ้าอยากจะได้พลัง ในทางพุทธศาสนา ก็ต้องลองศึกษาเรื่อง วิชชา 3 วิชชา 6 และฌาณดูนะครับ

 

ในการที่จะได้พลังมา มีหลายรูปแบบนะ แต่ละรูปแบบนั้นก็ไม่เหือนกัน ใช้แตกต่างกัน และจุดประสงค์ในการใช้ก็ไม่เหมอนกันนะครับ

ก่อนที่จะเรียนรู้ที่จะรับ ต้องเรียนรู้ที่จะให้ก่อนนะครับ

 

ช่วยบอกเป็นขั้นตอนได้ไม๊ครับ อย่างเช่น 1 ทำไร 2 ทำงี้ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ

 

ไอ้ที่คุณพูดถึงมาน่ะ ผมลองทำได้หมดแล้วครับ ในความฝันนะ ยกเว้น ล่องหน ยังทำไม่เป็น แต่เห็นพระล่องหนในฝัน หายตัวในฝันน่ะ เห็นมาแล้วครับ เมื่อคืนก็ยัง ตัลังกาท่าแปลกๆ เล่นในฝันอยู่เลยครับ ปล่อยพลังในฝัน เหาะในฝัน ต่อสู้ ทั้งมีด ปืน ดาบ พลังจิต เคยมาแล้วครับ ถ้า สติท่านฝึกมาดี จน รู้ตัวทันในฝัน รู้ว่าตนเองฝันอยู่นะครับ

 

เอาตามURL ข้างต้นที่บอกไว้ก่อนนะ
ปฐวีกสิน
กสิณนี้ท่านให้เพ่งดิน เอาดินมาทำเป็นรูปวงกลม โดยใช้สะดึงขึงผ้าให้ตึงแล้วเอาดินทา
เลือกเฉพาะดินสีอรุณ แล้วท่านให้วางไว้ในที่พอเหมาะที่จะมองเห็นไม่ใกล้และไกลเกินไป เพ่งดูดิน
ให้จำได้แล้วหลับตานึกถึงภาพดินนั้น ถ้าเลือนไปจากใจก็ลืมตาดูดินใหม่ จำได้ดีแล้วก็หลับตานึกถึง
ภาพดินนั้น จนภาพนั้นติดตา ต่อไปไม่ต้องดูภาพดินภาพนั้นก็ติดตาติดใจจำได้อยู่เสมอ ภาพปรากฏ
แก่ใจชัดเจน จนสามารถบังคับภาพนั้นให้เล็ก โต สูง ต่ำ ได้ตามความประสงค์อย่างนี้เรียกว่าอุคหนิมิต
หยาบ ต่อมาภาพดินนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนสีไปที่ละน้อย จากสีเดิมไปเป็นสีขาวใส จนใสหมดก้อน และ
เป็นประกายสวยสดงดงามคล้ายแก้วเจียระไน อย่างนี้เรียกว่าถึงอุปจารฌานละเอียด ต่อไปภาพนั้น
จะสวยมากขึ้นจนมองดูระยิบระยับจับสามตา เป็นประกายหนาทึบ อารมณ์จิตตั้งมั่นเฉยต่ออารมณ์
ภายนอกกายคล้ายไม่มีลมหายใจ อย่างนี้เป็นฌาน ๔ เรียกได้ว่าฌานปฐวีกสิณเต็มที่แล้ว
เมื่อได้อย่างนี้แล้ว ท่านผู้ทรงอภิญญาท่านนั้นเล่าต่อไปว่า อย่าเพิ่งทำกสิณกองต่อไป เรา
จะเอาอภิญญากัน ไม่ใช่ทำพอได้ เรียกว่าจะทำแบบสุกเอาเผากินไม่ได้ต้องให้ได้เลยทุกอย่าง
ได้อย่างดีทั้งหมด ถ้ายังบกพร่องแม้แต่นิดหนึ่งก็ไม่ยอมเว้น ต้องดีครบถ้วนเพื่อให้ได้ดีครบถ้วน
ท่านว่าพอได้ตามนี้แล้ว ให้ฝึกฝนเข้าฌานออกฌาน คือเข้าฌาน ๑. ๒. ๓. ๔. แล้วเข้าฌาน ๔. ๓.
๒. ๑. แล้วเข้าฌานสลับฌาน คือ ๑. ๔. ๒. ๓. ๓. ๑. ๔. ๒. ๔. ๑. ๒. ๓. สลับกันไปสลับกันมา
อย่างนี้จนคล่อง คิดว่าจะเข้าฌานระดับใดก็เมื่อใดก็ได้
ต่อไปก็ฝึกนิรมิตก่อน ปฐวีกสิณเป็นธาตุดิน ตามคุณสมบัติท่านว่า สามารถทำของอ่อน
ให้แข็งได้ สำหรับท่านที่ได้กสิณนี้ เมื่อเข้าฌานชำนาญแล้ว ก็ทดลองการนิรมิต ในตอนแรก
ท่านหาน้ำใส่แก้วหรือภาชนะอย่างใดก็ได้ ที่ขังน้ำได้ก็แล้วกัน เมื่อได้มาครบแล้วจงเข้าฌาน ๔
ในปฐวีกสิณ แล้วออกฌาน ๔ หยุดอยู่เพียงอุปจารฌาน คือ พอมีอารมณ์นึกคิดได้
ในขณะที่อยู่ในฌานนั้น นึกคิดไม่ได้ เมื่อถอยจิตมาหยุดอยู่ที่อุปจารฌานแล้วอธิษฐานว่า
ขอน้ำตรงที่เอานิ้วจิ้มลงไปนั้น จงแข็งเหมือนดินที่แข็ง แล้วก็เข้าฌาน ๔ ใหม่
ถอยออกจากฌาน ๔ หยุดอยู่เพียงอุปจารฌาน ลองเอานิ้วมือจิ้มน้ำดู ถ้าแข็งก็ใช้ได้
แล้วก็เล่นให้คล่องต่อไป ถ้ายังไม่แข็งต้องฝึกฝนฌานให้คล่องและมั่นคงกว่านั้น เมื่อขณะฝึก
นิรมิต อย่าทำให้คนเห็น ต้องทำที่ลับเฉพาะเท่านั้น ถ้าทำให้คนเห็น พระพุทธเจ้าท่านปรับโทษไว้
เราเป็นนักเจริญฌาน ต้องไม่หน้าด้านใจด้านจนกล้าฝ่าฝืนพระพุทธอาณัติ เมื่อเล่นน้ำในถ้วยสำเร็จ
ผลแล้ว ก็คำว่าสำเร็จนั้น หมายความว่าพอคิดว่าเราจะให้น้ำแข็งละน้ำก็แข็งทันที โดยเสียเวลาไม่ถึง
เสี้ยวนาที อย่างนี้ใช้ได้ ต่อไปก็ทดลองในแม่น้ำและอากาศ เดินบนน้ำ บนอากาศ ให้น้ำในแม่น้ำ
และอากาศเหยียบไปนั้น แข็งเหมือนดินและหิน ชำนาญดีแล้วก็เลื่อนไปฝึกกสิณอื่น ท่านว่าทำคล่อง
อย่างนี้กสิณเดียว กสิณอื่นพอนึกขึ้นมาก็เป็นทันที อย่างเลวสุดก็เพียง ๗ วัน ได้กอง เสียเวลาฝึก
อีก ๙ กองเพียงไม่เกินสามเดือนก็ได้หมด เมื่อฝึกครบหมดก็ฝึกเข้าฌานออกฌานดังกล่าวมาแล้ว
และนิรมิตสิ่งต่างๆ ตามความประสงค์ อานุภาพของกสิณ จะเขียนไว้ตอนว่าด้วยกสิณ ๑๐

ในบรรดากสิน กสินที่ทรงอานุภาพมากที่สุดและอันตรายมากที่สุดคือ กสิน ไฟ เพราะ ถ้าไม่มี ครู อาจารย์ควบคุมการฝึก อาจไร้ประโยชน์ แต่มีโทษอย่างมากแทน

เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นนะ กสินอื่นๆ

 

สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด มักมีราคาแพงเสมอ
จงเตรียมใจยอมรับกับมัน

 

ของฟรีไม่มีเลยหรือครับ ท่านครับ เพราะถึงจะมีราคาแพงแค่ไหน ก็ จะแพงเท่าที่คนกำหนดราคา ขึ้นมาครับ แต่ของฟรี นี่สิครับ กำหนดราคาไม่ได้เลย ทั้งผู้ให้และผู้รับครับ

 

ในที่นี้ ราคาแพง มิได้หมายความว่าเป็นราคาที่คนหรือ มนุษย์ตั้งขึ้นครับ แต่เป็นสิ่งที่จะเสียไป หรือสิ่งตอบแทนที่จะแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ต้องการครับ

 

แล้วมันอะไรบ้างล่ะครับ ที่ใช้แลกได้ น่ะครับ

 

อันนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสิ่งที่ต้องการนะครับ ว่าเราต่้องการอะไร แล้วสิ่งที่เสีไปคืออะไร
อย่างเช่น ความรู้จากหนังสือ ก็ต้องเสียเวลาที่อ่าน ต้องเสียเวลาที่จะซื้อ ครับ

 

ท่านไม่ฆ่าพวกเขาเด็ดขาด งท่านจะค่อยๆโน้มน้าว ถ้าแบบนี้ท่านไม่ต้องคิดทำหรอกครับ เพราะ คนที่เขาทำแต่ทำไม่ได้ทำไม่เป็นก็มีอยู่แล้วครับ ดังนี้
1.พ่อแม่ ยังสั่งสอนคนพวกนั้นไม่ได้
2.เข้าโรงเรียน ครูอาจารย์ ยังสั่งสอนเขาไม่ได้
3.พระ เข้าวัด ก็ยังสั่งสอนคนพวกนี้ไมได้
4.กฏหมาย พวกมันก็ไม่กลัว กฏหมายจัดการกับคนพวกนี้ไม่อยู่ครับ

เหลือทางเลือกเดียวครับ คือ ให้กฏแห่งกรรมหรือธรรมชาติลงโทษครับ หรือถ้าผม เป็นเหมือนอรหันต์ซูเปอร์แมน มีพลังและรู้ใจคนรู้ว่า ใครดีใครชั่วมากน้อยแค่ไหน ผมก็จะ จัดการ เหมือนกัน แต่ไม่ทำเหมือนคุณหรอกครับ อิอิ

 

โห ได้ฟังคำตอบของท่านแล้ว ผมหนาวยะเยือกเลยครับ ทำไมเป็นยังงี้นะ คำตอบที่ท่านตอบดูเหมือนจะเป็นคำตอบง่ายๆ ที่คนทั่วไปทั้งหลายล้วนรู้ดี แต่ทำไม ผมอ่านคำตอบแล้ว ผมเสียวสันหลังวาบเลยครับ สงสัย เป็นสิ่ง ที่ น่ากลัวสุดๆ นะครับ แต่ทำไมคนทั่วๆ ไปเขาไม่กลัวกันเลยครับ เพราะ แค่ เสียเวลาเท่านั้นเอง

 

ส่วนพวกกลุ่ม Illuminati ผมก็หมายตาไว้เหมือนกัน ขอร้องล่ะ ช่วยสอนผมด้วยเถอะครับ

 

ตอนนี้ท่านก็เชื่อกฏแห่งกรรมเอาไว้สิครับ
เพราะ ภัยพิบัติต่างๆ นี่แหล่ะ คือสิ่งที่ คนทั้งโลก กลัว กว่า นรก สวรรค์
ท่านไม่ต้อง เป็น อะไรทั้งสิ้นหรอกครับ เพราะ ฆ่าคนชั่ว ท่านยังทำไม่ได้
ถ้ามีคนชั่วจะมาปล้นฆ่าท่าน ท่าน จะไม่ฆ่าพวกมันหรือครับ
ท่านสอบไม่ผ่านหรอกครับ เปาบุ้นจิ้นยังสั่ง ตัดหัวคนชั่ว
แล้วท่าน จะโน้มน้าว เอาอะไรมิทราบครับ
ทุกวันนี้ คนทั้งหลายมันพูดว่า บาป เวรกรรม ไม่ขี่ช้างสูบยา มาหรอก

เดี่ยว ผม จะขี่ช้างสูบยา ไปเยี่ยมพวกมัน ให้ถึงที่เลยครับ ทุกตัวคน
ในนามของ พยาธรรมมิกราช อกุศลทั้งหลายจงส่งผล เต็มที่

 

คืออย่าไปฟังไอ้เจ้าขจรศักดิ์มันเลยครับ(abcd efg) ทุกวันนี้ยังเอาตัวไม่รอดเลย งานการก็ไม่ทำ ขอตังค์แม่ยายมานั่งดื่มลีโอ แล้วก็หลอกชาวบ้านไปเรื่อย.....
เขาหาเงินด้วยการหลอกเอาเงินบริจาคตามกระทู้ นะจ๊ะนะจ๊ะ

 

ผมไม่เคยกลัว พวกภัยพิบัติอะไรเลยครับ สำหรับผมมันทำให้ผมตื่นเต้นมากกว่า อย่างเรื่อง 2012 มันทำให้ผมอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ ผมน่ะไม่ได้คิดที่จะใช้คำพูดปลอบอย่างเดียวหรอกครับ สำหรับคนชั่วที่มันชั่วจิงๆ ชั่วช้าต่ำสุดสันดานเลวทรามไรอย่างงี้ ผมไม่ปล่อยไว้เเน่ครับ
ผมน่ะไม่เคยกลัวตายเลย การที่ผมได้จ้องหน้าสิ่งที่มันคิดร้ายกับผม มันจะทำให้ผมตื่นเต้นตลอดเวลาเลย ตอนนี้สิ่งที่ผมรอคอยคือ ภัยพิบัตืที่รุนเเรง พ่อเเม่บอกกับผมตลอดว่า มันน่ากลัว เเต่สำหรับผมนั้น มันเฉยๆครับ เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกมากกว่า เเต่ที่ผมอยากมีพลังมากมายขนาดนั้นก็เพื่อปกป้องโลกในเเบบของผม ผมน่ะอยากจะทำประโยชน์ให้กับโลกนี้ที่ให้ผมอยู่เเละได้เดินบนดินนี้สักครั้งหนึ่ง นั่นก็หมายความว่า ผมก็อยากจะเป็น ฮีโร่ สักครั้งหนึ่งในหลายๆชาติ ของผม ขอเเค่ให้มีสักชาติเถอะครับ ช่วยสอนผมหน่อยเถอะ

 

"จรจัด" พยายามหาเหยื่อ

ร้อนรน หา แ_ก อีกแล้ววว

นะจ๊ะ

(||)(||)(||)(||)(||)

 

แค่คุณได้ไปถึง พระนิพพาน คุณก็เป็น ฮีโร่ แล้วครับ

 

ตอนนี้ ชั่วโมงเน็ตหมด คงปั่นจักรยานแวะร้านค้า ซื้อลีโอกลับบ้านแล้วหล่ะ
ไม่กล้าเล่นนาน เดี่ยวตังค์ไม่เหลือซื้อเบียร์ แม่ยายให้ตังค์มาจำกัด
(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)

 

อาการ หนักจริงๆๆ ไปหาหมอบ้างนะจรจัด ช่วงนี้แม่ยายไม่ค่อยให้เงินล่ะสิ หิวโหยเลย555 มาผิดกระทู้ล่ะสิกระทู้นี้เขาหาคนเก่งเรื่องพลังจิตไม่ใช่โรคจิตแบบเอ็ง

http://palungjit.org/threads/จับหนุ่มแสบเปิดเฟสบุ๊ค-อ้างเป็นนรต-ตุ๋นเงินเหยื่อร่วมทำบุญ.326899/

เอ็งก็ระวังตัวไว้ล่ะ