ฉันทะ วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

Aimee2500 · 14 พฤษภาคม 2012

นะมารวย said: ↑

อ่านแล้วงง - ไม่เข้าใจเรื่องถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ - ดูที่เวบวัดสะแกก็ไม่มีข้อความนี้ ใครรู้ช่วยบอกที
ศิษย์หลวงปู่ทั้งเก่าและใหม่ทั้งทันและไม่ทันโปรดใช้วิจารณญาณ
Click to expand...

ความเห็นส่วนตัว.....คิดว่าเป็นการบัญญัติขึ้นเอง (สำหรับผู้ที่นิยมชมชอบพิธีรีตรอง เป็นเหมือนนิกายตันตระของมหายาน) หลังจากหลวงปู่ท่านละสังขารแล้ว
เพราะหลวงปู่ท่านไม่เน้นพิธีรีตรอง
การที่ใคร ๆ จะมาสมัครตัวเป็นศิษย์จึงเน้นที่พฤติกรรม เช่น
ความนอบน้อมต่อท่าน การรับโอวาทท่านมาปฏิบัติ ฯลฯ
ส่วนทางวาจาที่จะเอ่ยว่า "ขอฝากตัวเป็นศิษย์" นี้ก็สุดแท้แต่ บ้างก็พูด
บ้างก็ไม่ได้พูด
เรื่องไม่ได้ซับซ้อน หรือต้องมีพิธีรีตรองใด ๆ
อีกประการ...เพราะเท่าที่ทราบมาท่าน พ.ธรรมรังสี (ถ้าคือท่านเดียวกับ พ.ธรรมรังสี - พระศิวพล วชิโร ในอดีต) ท่านก็ไม่ทันสังขารธรรมหลวงปู่
ผิดถูกอย่างไรก็ต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย
ขอให้ใช้สติวิจารณญาณในการอ่านค่ะ

9mm · 14 พฤษภาคม 2012

เท่าที่หาข้อมามูลนะครับ รู้สึกว่าท่านนี้ บอกว่า ทำงานรับใช้ หลวงพ่อทวด - หลวงปู่ดู่ และสามารถติดต่อหลวงพ่อทวด-หลวงปู่ดู่ ได้ครับ ปัจจุบัน ไม่แน่ใจว่าเป็นพระหรือฆารวาสครับ
ชื่อ พ ธรรมรังศรี นี้เป็นสมาชิกเว็ปเหมือนพวกเรานี่ละครับ ลองหาข้อมูลดูครับ

9mm · 14 พฤษภาคม 2012

หากข้อมูล ผิดพลาดประการใด ผมขอโทษทั้งเพื่อนสมาชิกและคุณ พ พรรณรังศรี ไว้นะที่นี้ด้วยครับ

ebankky · 14 พฤษภาคม 2012

ฉันทะ said: ↑

แจ้งส่งพัสดุ EMS ครับ 14/05/2012 เวลา 08:50:56
คุณธีระพล EI 1217 2787 9 TH ขอบคุณมากครับ
คุณชูชาติ EI 1217 2788 2 TH ขอบคุณมากครับ
คุณภูวกร EI 1217 2789 6 TH ขอบคุณมากครับ
คุณเพชรสนาน EI 1217 2790 5 TH ขอบคุณมากครับ


Click to expand...

(k) ขอบคุณมากครับ(k)

ตุ้ย ฉันทะ · 14 พฤษภาคม 2012

..วันนี้กลับมารีบถ่ายรูป ว่าจะลงรายการสักหน่อย ปรากฏว่าไม่น่าจะทัน ขอเป็นลงรายการในวันพรุ้งนี้ดีกว่า แต่ก็ไม่มั่นใจเวลาที่จะลงกลัวเวลาจะไม่ตรงตามที่บอกครับ
..เอาเป็นว่าลงรายการพรุ้งนี้ครับ ไม่กำหนดเวลาลงนะครับ:z16

Jopaa · 15 พฤษภาคม 2012

max_thonglor said: ↑

สมเด็จองค์นี้มีคนเช่าไปแล้วครับ คงเหลือแต่รูปให้ชมกัน เนื่องจากสมเด็จองค์นี้มารู้ทีหลังว่ามีซ่อมหลายจุดมาก(ดูจากฟิล์มx-ray) แต่ที่จะเล่าให้คุณโจฟังนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ผมเคยนำไปให้หลวงน้าสายหยุดดู หลวงน้านั่งกำพระสมเด็จองค์นี้อยู่นาน พอหลวงน้าลืมตา ผมก็เลยถามว่า"ทำไมนานจังครับ" หลวงน้าบอกว่า กำลังสนทนาเรื่องวิธีปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่โตว่า ที่ปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องไหม? และยังถามอีกว่า ทำไมพระสมเด็จของหลวงปู่จึงมีพุทธคุณทางเมตตาจังเลย หลวงปู่โตท่านตอบว่า "ก็เราเป็นพระ เลยก็ต้องมีเมตตาซิ" ส่วนอีกคนที่เคยสัมผัสสมเด็จองค์นี้ เป็นนายตำรวจท่านหนึ่งเป็นนักปฏิบัติกรรมฐานมา20ปี บอกว่าตอนเข้าสมาธิจะเห็น "พระคาถาชินบัญชรตัวใหญ่ๆเคลื่อนไหวเต็มห้องไปหมด".......................................................เล่าให้ฟังครับ....อัศจรรย์ [/QUOTE]

สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์นี้ ถ้าไม่เข้าฟิล์ม X-Ray ถือว่าไล่จุดซ่อมได้ยากพอสมควร ดูคร่าวๆด้านบนนี้น่าจะต่อมาทั้งชุด นอกนั้นขอบๆก็อุดซ่อมมาพอสมควร แต่ก็ถือว่าดูง่าย และฟอร์มพระยังสวย แถมได้เป็นพิมพ์เจดีย์ด้วย ถือว่าหายากสุดๆ ความจริงยากกว่าพิมพ์ใหญ่ซะด้วยซ้ำ ขนาดซ่อมๆอย่างนี้ ราคาเล่นหาก็น่าจะหลักล้านโขๆอยู่ที่เดียว

เยี่ยมครับ..ได้ชมสมเด็จวัดระฆังของคุณ Max เป็นบุญตา..สาธุ..สาธุ..ครับ

ส่วนเรื่องของหลวงน้าสายหยุดก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง..ก็แล้วแต่วิจารญาณของผู้รับฟัง..แต่ถ้าพูดด้วยความรู้สึกส่วนตัวแบบลึกๆจริงๆแล้ว..พูดจริงๆน่ะครับ ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เรื่องราวแบบนี้..

----------------------------------------------------------------------

ผมขออนุญาตินอกเรื่องสักนิด อันนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ Max หรือหลวงน้าสายหยุดน่ะครับ แต่จะเกี่ยวลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่คนอื่นๆ องค์อื่นๆ ที่บางท่านอาจได้เคยพบเห็นบ้างในปัจจุบัน

ในสายหลวงปู่ดู่ท่าน หลายๆคน หลายๆองค์ (ซึ่งเป็นซะส่วนมาก) จะติดไปในทางฤทธิ์ หรือ นิมิตร ต่างๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าอันตรายพอสมควร ถ้าเราศึกษาถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านจริงๆ ผมรู้สึกว่าหลวงปู่ฯท่านจะมีแนวทางเดียว คือ แนวทางปฏิบัติเพื่อละจากกิเลส 3 กองใหญ่ คือ ความโลภ โกรธ หลง เท่านั้น

แต่ความที่หลวงปู่ฯท่านจะค่อนข้างอนุโลมอะไรหลายๆอย่าง ลูกศิษย์ลูกหาท่านหลายๆคน จึงจับเอาเพียงกระพี้ ไม่เอาแก่น ที่สุดจึงกลายเป็นความหลงการปฏิบัติแบบผิดที่ผิดทาง ที่สุดจึงออกไปในทางฤทธิ์ ทางนิมิตรภาวนา พูดคุยเรื่องเหนือโลกต่างๆได้มาก ทั้งๆที่หากสนิทชิดเชื้อจริงๆ หลายๆคน หลายๆองค์ ผมว่าออกจะไปในทางหลงตัว หลงรู้เห็นเรื่องราวภายนอก ออกไปในแนวหลงแบบคนทรงเจ้าเข้าผี หรือเรียกว่า สะกดจิตตัวเองซะมากกว่า หรือดังจะเป็นดังคำหลวงปู่ดุลย์ท่านที่ว่า " ที่เขาเห็นน่ะ เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"

แล้วก็เช่นกัน ลูกศิษย์ลูกหาของผู้ได้ชื่อว่า อาจารย์ก็ดี หลวงตา หลวงปู่ หลวงลุงก็ดี ความที่ตนมิได้เป็นผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานของแท้ มิได้มีภูมิธรรมใดติดตัว จึงออกจะเชื่อไปในทาง " งมงาย " เสียมาก

และเมื่อศรัทธามากเชื่อมาก นานวันเข้าก็กลายเป็นหลงฤทธิ์ หลงความวิเศษ หลงความอัศจรรย์เหนือโลก ที่สุดก็หลงอาจารย์ หนักถึงที่สุดก็ตั้งอาจารย์ตัวเอง เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เป็นพระโพธิสัตว์เจ้าเสียเองเลย พร้อมแต่งเติมเอาความเชื่อส่วนตน มาขยายความอัศจรรย์ (แบบหลงๆ) มาเล่าล่อผู้หลงคนต่อๆไป

หากผู้ฟังไม่มีวิจารณาณ จิตอ่อน จิตมีความเชื่อง่าย จิตมีความงมงายอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็จะพากันหลงเตลิดเข้าไปใหญ่ บางคนแม้ท่านอาจารย์คนนั้น หลวงปู่ หลวงตาองค์นั้น ยังไม่เคยพบองค์จริงด้วยซ้ำ มิได้เห็นปฏิปทาโดยส่วนตัวใกล้ชิด มิได้พูดคุย หรือเห็นความประพฤติด้วยส่วนตัวแท้ๆ เพียงได้ยินคนอื่นเขาพูดมา โม้มา โปรโมชั่นมา ก็นำออกมาเล่าต่อ ขยายความ ตื่นข่าว แต่งเติมเข้าไปอีกเช่น องค์นั้นองค์นี่ ปัจจุบันแม้ปัสสาวะกลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น ไอ้นู้นไอ้นี่กลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ความหลงในครูบาอาจารย์ หลงมากก็งมงายมาก งมงายมากก็โปรโมชั่นมาก โปรฯไปโปรฯมา บางที่ลูกศิษย์กลายเป็นเก่งกว่า บารมีมากกว่า สูงกว่า หลวงปู่ดู่อาจารย์ท่านเสียอีก ก็หลวงปู่ดู่ท่านเอง ปัสสวะก็ยังเป็นปัสสวะธรรมดาๆ ไม่เห็นคนรุ่นหลังนำมาเล่าต่อเลยว่า บารมีสูงสุดขนาดเยี่ยวยังกลายเป็นพระธาตุได้เลย..นี่เรียกว่าเกินครูบาอาจารย์ บางทีต้องเรียกว่า เกินกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก..

หรือบางคนที่ปัจจุบันตั้งตนเป็นอาจารย์ ว่าแม้จะไม่ทันยุคหลวงปู่ดู่ท่าน แต่ความที่เคราพศรัทธาหลวงปู่ดู่ท่านมาก หลวงปู่ดู่ท่านจึงมาสอนเรื่องราวต่างๆทางนิมิตรภาวนา เรื่องราวที่เผยแพร่ก็ออกไปในทางฤทธิ์เดชต่างๆ ความอัศจรรย์เหนือโลกต่างๆเสียส่วนเดียว เน้นเรื่องพิธีกรรมพิธีการต่างๆ มิเห็นได้กล่าวถึงเรื่องการเรียนรู้ซึ่งกิเลสต่างๆ การวางจิต น้อมจิตไปในทิศทางใด เพื่อการละ วาง สะสางกิเลส อันเป็นหัวใจหลักในข้อธรรมคำสอนของท่านทั้งหมดเลย ทำให้ต้องกลับมานั่งฉงน ? ..ที่หลวงปู่ท่านเมตตามาสอนทางนิมิตรภาวนานั้น ท่านมาสอนจริงเหรอ หลวงปู่ท่านสอนแต่เรื่องราวแค่เพียงกระนั้นหรือ และเป็นเรื่องที่องค์ท่านไม่เคยส่งเสริมกระนั้นหรือ ? หรือที่แท้จิตผู้นั้นละเมอ สะกดตัวเอง เอาความคิด ความเชื่อที่ฝังในจิตส่วนลึกแห่งตน มาสอนตนเองกันแน่

ลูกศิษย์ที่ทันยุคหลวงปู่ท่าน ที่เป็นศิษย์สายปฏิบัติของจริงของแท้ ต่างพยายามบอกเล่าคำสอนหลวงปู่ดู่ท่านในแบบที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามกาลเวลา สิ่งนั้นที่พวกเรารุ่นต่อมาระลึกได้ และเห็นความเป็นหลวงปู่ดู่ได้ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การเป็นผู้เรียบง่ายในทุกสิ่ง ไร้สิ่งพิธีรีตรองใดๆ แม้พระเครื่องของท่าน ก็เรียกว่าเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยแล้วที่สร้างได้ง่ายที่สุด ถูกที่สุด ประหยัดที่สุด ไร้ซึ่งมวลสาร ไร้พิธีกรรมพิธีการใดๆ ทุกอย่างก็ปูนขาว,ปูนซีเมนต์เราธรรมดานี่ล่ะ อธิษฐานจิตเอาก็เท่านั้นเป็นเสร็จ..เรียกว่า ความเรียบง่ายในแบบ สูงสุดคืนสู่สามัญ..

หรือแม้แต่การทำบุญใดๆ หลวงปู่ท่านก็ไม่เคยจะอ้างวิธีการใดๆ ให้เสียเงินเสียทองโดยเปล่าประโยชน์ อยากถวายไฟฟ้าให้วัด ก็นู้นเสาไฟฟ้า หลอดไฟข้างทางนั้น อธิษฐานเอาให้มาที่วัดสะแก, อยากถวายดอกไม้สวยๆ เห็นดอกบัวในสระน้ำ ก็นั้น..อธิษฐานจิตเอา เอาดอกบัวในสระนั้นล่ะ มาถวายที่วัด ถวายพระพุทธเจ้าท่านเอา..กุศโลบายธรรมเหล่านั้น จะเห็นถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านที่แท้จริง ไร้พิธีกรรมพิธีการใดๆ สอนธรรมะ สอนเมตตาจิตให้ทุกคนสามารถกระทำได้ง่ายๆในชีวิตประจำวัน สอนการดำรงตนให้เป็นผู้อยู่ในวงบุญในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องมาเฉพาะเจาะจงที่วัดสะแก

เช่นนี้แล้ว..คำสอนใดๆของบุคคลผู้ได้ชื่อว่าสามารถติดต่อกับหลวงปู่ดู่ท่านได้ ถ้าผิดจากหลักการนี้แล้ว..จะเป็นการถูกต้องอยู่หรือ..?..ท่านผู้นั้นท่านติดต่อได้จริงหรือ..?..จึงเป็นคำถามที่น่าฉงน ?..

เรื่องราวลักษณะนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับผู้ได้ชื่อว่าเข้าวัดเข้าวา แต่มิได้เข้าเพื่อการปฏิบัติ มิได้เข้าเพื่อเรียนรู้วิธีเอาชนะซึ่งกิเลสทั้งหลายทั้งมวล อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา หัวใจในการปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ท่าน มีแต่เอากิเลสเข้าวัด และออกจากวัดก็เพิ่มพูนด้วยกิเลส หลงทางมากขึ้นอีกต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด..

ความโง่งมงาย พอกด้วยกองกิเลสเหล่านี้เอง ผู้ยังอยู่กับความหลง ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็มักนำมาขยายความบอกเล่าต่อแบบผิดๆ..จากที่จะเป็นการนำบุญกุศลมาฝาก ก็กลายเป็นเอากองกิเลสมาฝากเสียอีก..บาปต่อพระธรรม บาปต่อพระพุทธเจ้ากันเป็นทอดๆ...

เรื่องราวเล่านี้จึงควรพึงสังวรณ์และระมัดระวังเป็นอย่างสูงที่เดียวครับ

สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านใดที่ไม่เห็นด้วย ผมต้องขอโทษด้วยอย่างยิ่งครับ ข้อความที่เขียนเป็นเพียงความคิดเห็นสวนตัวเท่านั้น ซึ่งความเห็นแตกต่างในเรื่องใดๆ ย่อมเป็นของธรรมดา อันมีอยู่ประจำโลก ไม่มีใครถูก และไม่มีใครผิด..ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทางความคิดน่ะครับ
Click to expand...

อิฐมอญ · 14 พฤษภาคม 2012

Jopaa said: ↑

max_thonglor said: ↑

สมเด็จองค์นี้มีคนเช่าไปแล้วครับ คงเหลือแต่รูปให้ชมกัน เนื่องจากสมเด็จองค์นี้มารู้ทีหลังว่ามีซ่อมหลายจุดมาก(ดูจากฟิล์มx-ray) แต่ที่จะเล่าให้คุณโจฟังนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ผมเคยนำไปให้หลวงน้าสายหยุดดู หลวงน้านั่งกำพระสมเด็จองค์นี้อยู่นาน พอหลวงน้าลืมตา ผมก็เลยถามว่า"ทำไมนานจังครับ" หลวงน้าบอกว่า กำลังสนทนาเรื่องวิธีปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่โตว่า ที่ปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องไหม? และยังถามอีกว่า ทำไมพระสมเด็จของหลวงปู่จึงมีพุทธคุณทางเมตตาจังเลย หลวงปู่โตท่านตอบว่า "ก็เราเป็นพระ เลยก็ต้องมีเมตตาซิ" ส่วนอีกคนที่เคยสัมผัสสมเด็จองค์นี้ เป็นนายตำรวจท่านหนึ่งเป็นนักปฏิบัติกรรมฐานมา20ปี บอกว่าตอนเข้าสมาธิจะเห็น "พระคาถาชินบัญชรตัวใหญ่ๆเคลื่อนไหวเต็มห้องไปหมด".......................................................เล่าให้ฟังครับ....อัศจรรย์ [/QUOTE]

สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์นี้ ถ้าไม่เข้าฟิล์ม X-Ray ถือว่าไล่จุดซ่อมได้ยากพอสมควร ดูคร่าวๆด้านบนนี้น่าจะต่อมาทั้งชุด นอกนั้นขอบๆก็อุดซ่อมมาพอสมควร แต่ก็ถือว่าดูง่าย และฟอร์มพระยังสวย แถมได้เป็นพิมพ์เจดีย์ด้วย ถือว่าหายากสุดๆ ความจริงยากกว่าพิมพ์ใหญ่ซะด้วยซ้ำ ขนาดซ่อมๆอย่างนี้ ราคาเล่นหาก็น่าจะหลักล้านโขๆอยู่ที่เดียว

เยี่ยมครับ..ได้ชมสมเด็จวัดระฆังของคุณ Max เป็นบุญตา..สาธุ..สาธุ..ครับ

ส่วนเรื่องของหลวงน้าสายหยุดก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง..ก็แล้วแต่วิจารญาณของผู้รับฟัง..แต่ถ้าพูดด้วยความรู้สึกส่วนตัวลึกๆจริงๆ..พูดจริงๆน่ะครับ ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เรื่องราวแบบนี้..

----------------------------------------------------------------------

ผมขออนุญาตินอกเรื่องสักนิด อันนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ Max หรือหลวงน้าสายหยุดน่ะครับ แต่จะเกี่ยวลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่คนอื่นๆ องค์อื่นๆ ที่บางท่านอาจได้เคยพบเห็นบ้างในปัจจุบัน

ในสายหลวงปู่ดู่ท่าน หลายๆคน หลายๆองค์ (ซึ่งเป็นซะส่วนมาก) จะติดไปในทางฤทธิ์ หรือ นิมิตร ต่างๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าอันตรายพอสมควร ถ้าเราศึกษาถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านจริงๆ ผมรู้สึกว่าหลวงปู่ฯท่านจะมีแนวทางเดียว คือ แนวทางปฏิบัติเพื่อละจากกิเลส 3 กองใหญ่ คือ ความโลภ โกรธ หลง เท่านั้น

แต่ความที่หลวงปู่ฯท่านจะค่อนข้างอนุโลมอะไรหลายๆอย่าง ลูกศิษย์ลูกหาท่านหลายๆคน จึงจับเอาเพียงกระพี้ ไม่เอาแก่น ที่สุดจึงกลายเป็นความหลงการปฏิบัติแบบผิดที่ผิดทาง ที่สุดจึงออกไปในทางฤทธิ์ ทางนิมิตรภาวนา พูดคุยเรื่องเหนือโลกต่างๆได้มาก ทั้งๆที่หากสนิทชิดเชื้อจริงๆ หลายๆคน หลายๆองค์ ผมว่าออกจะไปในทางหลงตัว หลงรู้เห็นเรื่องราวภายนอก ออกไปในแนวหลงแบบคนทรงเจ้าเข้าผี หรือเรียกว่า สะกดจิตตัวเองซะมากกว่า หรือดังจะเป็นดังคำหลวงปู่ดุลย์ท่านที่ว่า " ที่เขาเห็นน่ะ เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"

แล้วก็เช่นกัน ลูกศิษย์ลูกหาของผู้ได้ชื่อว่า อาจารย์ก็ดี หลวงตา หลวงปู่ หลวงลุงก็ดี ความที่ตนมิได้เป็นผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานของแท้ มิได้มีภูมิธรรมใดติดตัว จึงออกจะเชื่อไปในทาง " งมงาย " เสียมาก

และเมื่อศรัทธามากเชื่อมาก นานวันเข้าก็กลายเป็นหลงฤทธิ์ หลงความวิเศษ หลงความอัศจรรย์เหนือโลก ที่สุดก็หลงอาจารย์ หนักถึงที่สุดก็ตั้งอาจารย์ตัวเอง เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เป็นพระโพธิสัตว์เจ้าเสียเองเลย พร้อมแต่งเติมเอาความเชื่อส่วนตน มาขยายความอัศจรรย์ (แบบหลงๆ) มาเล่าล่อผู้หลงคนต่อๆไป

หากผู้ฟังไม่มีวิจารณาณ จิตอ่อน จิตมีความเชื่อง่าย จิตมีความงมงายอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็จะพากันหลงเตลิดเข้าไปใหญ่ [บางคนแม้ท่านอาจารย์คนนั้น หลวงปู่ หลวงตาองค์นั้น ยังไม่เคยพบองค์จริงด้วยซ้ำ มิได้เห็นปฏิปทาโดยส่วนตัวใกล้ชิด มิได้พูดคุย หรือเห็นความประพฤติด้วยส่วนตัวแท้ๆ เพียงได้ยินคนอื่นเขาพูดมา โม้มา โปรโมชั่นมา ก็นำออกมาเล่าต่อขยายความ ตื่นข่าว แต่งเติมเข้าไปอีกเช่น องค์นั้นองค์นี่ ปัจจุบันแม้ปัสสาวะกลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น ไอ้นู้นไอ้นี่กลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ความหลงในครูบาอาจารย์ หลงมากก็งมงายมาก งมงายมากก็โปรโมชั่นมาก โปรฯไปโปรฯมา บางที่ลูกศิษย์กลายเป็นเก่งกว่า บารมีมากกว่า สูงกว่า หลวงปู่ดู่อาจารย์ท่านเสียอีก ก็หลวงปู่ดู่ท่านเอง ปัสสวะก็ยังเป็นปัสสวะธรรมดาๆ ไม่เห็นคนรุ่นหลังนำมาเล่าต่อเลยว่า บารมีสูงสุดขนาดเยี่ยวยังกลายเป็นพระธาตุได้เลย..นี่เรียกว่าเกินครูบาอาจารย์ บางทีต้องเรียกว่า เกินกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก..

เรื่องราวลักษณะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับผู้ได้ชื่อว่าเข้าวัดเข้าวา แต่มิได้เข้าเพื่อการปฏิบัติ มิได้เข้าเพื่อเรียนรู้วิธีเอาชนะซึ่งกิเลสทั้งหลายทั้งมวล อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา หัวใจในการปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ท่าน มีแต่เอากิเลสเข้าวัด และออกจากวัดก็เพิ่มพูนด้วยกิเลส หลงทางมากขึ้นอีกต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด..

ความโง่งมงาย พอกด้วยกองกิเลสเหล่านี้เอง ผู้ยังอยู่กับความหลง ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็มักนำมาขยายความบอกเล่าต่อแบบผิดๆ..จากที่จะเป็นการนำบุญกุศลมาฝาก ก็กลายเป็นเอากองกิเลสมาฝากเสียอีก..บาปต่อพระธรรม บาปต่อพระพุทธเจ้ากันเป็นทอดๆ...

เรื่องราวเล่านี้จึงควรพึงสังวรณ์และระมัดระวังเป็นอย่างสูงที่เดียวครับ

สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านใดที่ไม่เห็นด้วย ผมต้องขอโทษด้วยอย่างยิ่งครับ ข้อความที่เขียนเป็นเพียงความคิดเห็นสวนตัวเท่านั้น ซึ่งความเห็นแตกต่างในเรื่องใดๆ ย่อมเป็นของธรรมดา อันมีอยู่ประจำโลก ไม่มีใครถูก และไม่มีใครผิด..ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทางความคิดน่ะครับ
Click to expand...

กระจ่างแจ้ง.....กดไลท์
ขอบคุณพี่โจที่ได้แสดงทัศนะ หลายๆแง่มุม ให้ได้คิดได้ตรึกตรองกันครับ
Click to expand...

Chart 123 · 14 พฤษภาคม 2012

วันนี้ ป๋าโจ จัดหนัก จัดเต็ม จัดแน่น

อนุโมนาสาธุด้วยคนครับ

ตุ้ย ฉันทะ · 14 พฤษภาคม 2012

..นำภาพวัตถุมงคลหายากมากๆๆๆมาฝากครับ ราคาบูชาอาจจะดูว่าสูง แต่เมื่อเทียบแต่ละองค์พระ23องค์ที่ติดไว้ ก็จะดูราคาเบาไปเลยครับ ตั้งแต่ผมสะสมมาพบเห็นองค์เดียวครับ และชิ้นนี้ก็เป็นชิ้นที่ผมเคยได้ไปบูชาก่อนที่จะให้พี่ท่านหนึ่งไป และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็กลับมาอยู่กับผมอีกรอบ ก่อนรอผู้เจ้าของตัวจริงนิมนต์ไปอีกครั้งครับ

Jopaa · 14 พฤษภาคม 2012

ฉันทะ said: ↑

..นำภาพวัตถุมงคลหายากมากๆๆๆมาฝากครับ ราคาบูชาอาจจะดูว่าสูง แต่เมื่อเทียบแต่ละองค์พระ23องค์ที่ติดไว้ ก็จะดูราคาเบาไปเลยครับ ตั้งแต่ผมสะสมมาพบเห็นองค์เดียวครับ และชิ้นนี้ก็เป็นชิ้นที่ผมเคยได้ไปบูชาก่อนที่จะให้พี่ท่านหนึ่งไป และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็กลับมาอยู่กับผมอีกรอบ ก่อนรอผู้เจ้าของตัวจริงนิมนต์ไปอีกครั้งครับ

Click to expand...

นี่น่ะหรือ..แผ่นเดียวที่ร่ำลือ..

ในที่สุดก็กลับมาอยู่กับคุณตุ้ยอีกจนได้..

ยินดีด้วยครับ..

khanngoen · 14 พฤษภาคม 2012

..นำภาพวัตถุมงคลหายากมากๆๆๆมาฝากครับ ราคาบูชาอาจจะดูว่าสูง แต่เมื่อเทียบแต่ละองค์พระ23องค์ที่ติดไว้ ก็จะดูราคาเบาไปเลยครับ ตั้งแต่ผมสะสมมาพบเห็นองค์เดียวครับ และชิ้นนี้ก็เป็นชิ้นที่ผมเคยได้ไปบูชาก่อนที่จะให้พี่ท่านหนึ่งไป และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็กลับมาอยู่กับผมอีกรอบ ก่อนรอผู้เจ้าของตัวจริงนิมนต์ไปอีกครั้งครับ

ขอบคุณครับที่นำมาให้ชม เป็นบุญตาจริงๆ พึ่งจะทราบว่ามีพระบูชา พุทธลักษณะเช่นนี้ด้วย

Jintamuttha · 15 พฤษภาคม 2012

Jopaa said: ↑

max_thonglor said: ↑

สมเด็จองค์นี้มีคนเช่าไปแล้วครับ คงเหลือแต่รูปให้ชมกัน เนื่องจากสมเด็จองค์นี้มารู้ทีหลังว่ามีซ่อมหลายจุดมาก(ดูจากฟิล์มx-ray) แต่ที่จะเล่าให้คุณโจฟังนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ผมเคยนำไปให้หลวงน้าสายหยุดดู หลวงน้านั่งกำพระสมเด็จองค์นี้อยู่นาน พอหลวงน้าลืมตา ผมก็เลยถามว่า"ทำไมนานจังครับ" หลวงน้าบอกว่า กำลังสนทนาเรื่องวิธีปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่โตว่า ที่ปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องไหม? และยังถามอีกว่า ทำไมพระสมเด็จของหลวงปู่จึงมีพุทธคุณทางเมตตาจังเลย หลวงปู่โตท่านตอบว่า "ก็เราเป็นพระ เลยก็ต้องมีเมตตาซิ" ส่วนอีกคนที่เคยสัมผัสสมเด็จองค์นี้ เป็นนายตำรวจท่านหนึ่งเป็นนักปฏิบัติกรรมฐานมา20ปี บอกว่าตอนเข้าสมาธิจะเห็น "พระคาถาชินบัญชรตัวใหญ่ๆเคลื่อนไหวเต็มห้องไปหมด".......................................................เล่าให้ฟังครับ....อัศจรรย์ [/QUOTE]

สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์นี้ ถ้าไม่เข้าฟิล์ม X-Ray ถือว่าไล่จุดซ่อมได้ยากพอสมควร ดูคร่าวๆด้านบนนี้น่าจะต่อมาทั้งชุด นอกนั้นขอบๆก็อุดซ่อมมาพอสมควร แต่ก็ถือว่าดูง่าย และฟอร์มพระยังสวย แถมได้เป็นพิมพ์เจดีย์ด้วย ถือว่าหายากสุดๆ ความจริงยากกว่าพิมพ์ใหญ่ซะด้วยซ้ำ ขนาดซ่อมๆอย่างนี้ ราคาเล่นหาก็น่าจะหลักล้านโขๆอยู่ที่เดียว

เยี่ยมครับ..ได้ชมสมเด็จวัดระฆังของคุณ Max เป็นบุญตา..สาธุ..สาธุ..ครับ

ส่วนเรื่องของหลวงน้าสายหยุดก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง..ก็แล้วแต่วิจารญาณของผู้รับฟัง..แต่ถ้าพูดด้วยความรู้สึกส่วนตัวลึกๆจริงๆ..พูดจริงๆน่ะครับ ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เรื่องราวแบบนี้..

----------------------------------------------------------------------

ผมขออนุญาตินอกเรื่องสักนิด อันนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ Max หรือหลวงน้าสายหยุดน่ะครับ แต่จะเกี่ยวลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่คนอื่นๆ องค์อื่นๆ ที่บางท่านอาจได้เคยพบเห็นบ้างในปัจจุบัน

ในสายหลวงปู่ดู่ท่าน หลายๆคน หลายๆองค์ (ซึ่งเป็นซะส่วนมาก) จะติดไปในทางฤทธิ์ หรือ นิมิตร ต่างๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าอันตรายพอสมควร ถ้าเราศึกษาถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านจริงๆ ผมรู้สึกว่าหลวงปู่ฯท่านจะมีแนวทางเดียว คือ แนวทางปฏิบัติเพื่อละจากกิเลส 3 กองใหญ่ คือ ความโลภ โกรธ หลง เท่านั้น

แต่ความที่หลวงปู่ฯท่านจะค่อนข้างอนุโลมอะไรหลายๆอย่าง ลูกศิษย์ลูกหาท่านหลายๆคน จึงจับเอาเพียงกระพี้ ไม่เอาแก่น ที่สุดจึงกลายเป็นความหลงการปฏิบัติแบบผิดที่ผิดทาง ที่สุดจึงออกไปในทางฤทธิ์ ทางนิมิตรภาวนา พูดคุยเรื่องเหนือโลกต่างๆได้มาก ทั้งๆที่หากสนิทชิดเชื้อจริงๆ หลายๆคน หลายๆองค์ ผมว่าออกจะไปในทางหลงตัว หลงรู้เห็นเรื่องราวภายนอก ออกไปในแนวหลงแบบคนทรงเจ้าเข้าผี หรือเรียกว่า สะกดจิตตัวเองซะมากกว่า หรือดังจะเป็นดังคำหลวงปู่ดุลย์ท่านที่ว่า " ที่เขาเห็นน่ะ เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"

แล้วก็เช่นกัน ลูกศิษย์ลูกหาของผู้ได้ชื่อว่า อาจารย์ก็ดี หลวงตา หลวงปู่ หลวงลุงก็ดี ความที่ตนมิได้เป็นผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานของแท้ มิได้มีภูมิธรรมใดติดตัว จึงออกจะเชื่อไปในทาง " งมงาย " เสียมาก

และเมื่อศรัทธามากเชื่อมาก นานวันเข้าก็กลายเป็นหลงฤทธิ์ หลงความวิเศษ หลงความอัศจรรย์เหนือโลก ที่สุดก็หลงอาจารย์ หนักถึงที่สุดก็ตั้งอาจารย์ตัวเอง เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เป็นพระโพธิสัตว์เจ้าเสียเองเลย พร้อมแต่งเติมเอาความเชื่อส่วนตน มาขยายความอัศจรรย์ (แบบหลงๆ) มาเล่าล่อผู้หลงคนต่อๆไป

หากผู้ฟังไม่มีวิจารณาณ จิตอ่อน จิตมีความเชื่อง่าย จิตมีความงมงายอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็จะพากันหลงเตลิดเข้าไปใหญ่ บางคนแม้ท่านอาจารย์คนนั้น หลวงปู่ หลวงตาองค์นั้น ยังไม่เคยพบองค์จริงด้วยซ้ำ มิได้เห็นปฏิปทาโดยส่วนตัวใกล้ชิด มิได้พูดคุย หรือเห็นความประพฤติด้วยส่วนตัวแท้ๆ เพียงได้ยินคนอื่นเขาพูดมา โม้มา โปรโมชั่นมา ก็นำออกมาเล่าต่อ ขยายความ ตื่นข่าว แต่งเติมเข้าไปอีกเช่น องค์นั้นองค์นี่ ปัจจุบันแม้ปัสสาวะกลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น ไอ้นู้นไอ้นี่กลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ความหลงในครูบาอาจารย์ หลงมากก็งมงายมาก งมงายมากก็โปรโมชั่นมาก โปรฯไปโปรฯมา บางที่ลูกศิษย์กลายเป็นเก่งกว่า บารมีมากกว่า สูงกว่า หลวงปู่ดู่อาจารย์ท่านเสียอีก ก็หลวงปู่ดู่ท่านเอง ปัสสวะก็ยังเป็นปัสสวะธรรมดาๆ ไม่เห็นคนรุ่นหลังนำมาเล่าต่อเลยว่า บารมีสูงสุดขนาดเยี่ยวยังกลายเป็นพระธาตุได้เลย..นี่เรียกว่าเกินครูบาอาจารย์ บางทีต้องเรียกว่า เกินกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก..

หรือบางคนที่ปัจจุบันตั้งตนเป็นอาจารย์ ว่าแม้จะไม่ทันยุคหลวงปู่ดู่ท่าน แต่ความที่เคราพศรัทธาหลวงปู่ดู่ท่านมาก หลวงปู่ดู่ท่านจึงมาสอนเรื่องราวต่างๆทางนิมิตรภาวนา เรื่องราวที่เผยแพร่ก็ออกไปในทางฤทธิ์เดชต่างๆ ความอัศจรรย์เหนือโลกเสียส่วนเดียว เน้นเรื่องพิธีกรรมพิธีการต่างๆ มิเห็นได้กล่าวถึงเรื่องการเรียนรู้ซึ่งกิเลสต่างๆ การวางจิต น้อมจิตไปในทิศทางใด อันเป็นหัวใจของท่านเลย ทำให้ต้องกลับมานั่งฉงน ? ..ที่หลวงปู่ท่านเมตตามาสอนทางนิมิตรภาวนานั้น ท่านมาสอนจริงเหรอ หลวงปู่ท่านมาสอนแต่เรื่องราวเพียงกระนั้นหรือ และเป็นเรื่องที่องค์ท่านไม่เคยส่งเสริมกระนั้นหรือ ? หรือที่แท้จิตผู้นั้นละเมอ สะกดตัวเอง เอาความคิด ความเชื่อที่ฝังในจิตส่วนลึกแห่งตน มาสอนตนเองกันแน่

ลูกศิษย์ที่ทันยุคหลวงปู่ท่าน ที่เป็นศิษย์สายปฏิบัติของจริงของแท้ ต่างพยายามบอกเล่าคำสอนหลวงปู่ดู่ท่านในแบบที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามกาลเวลา สิ่งนั้นที่พวกเรารุ่นต่อมาระลึกได้ และเห็นความเป็นหลวงปู่ดู่ได้ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การเป็นผู้เรียบง่ายในทุกสิ่ง ไร้สิ่งพิธีรีตรองใดๆ แม้พระเครื่องของท่าน ก็เรียกว่าเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยแล้วที่สร้างได้ง่ายที่สุด ถูกที่สุด ประหยัดที่สุด ไร้ซึ่งมวลสาร ไร้พิธีกรรมพิธีการใดๆ ทุกอย่างก็ปูนขาว,ปูนซีเมนต์เราธรรมดานี่ล่ะ อธิษฐานจิตเอาก็เท่านั้นเป็นเสร็จ..เรียกว่า ความเรียบง่ายในแบบ สูงสุดคืนสู่สามัญ..

หรือแม้แต่การทำบุญใดๆ หลวงปู่ท่านก็ไม่เคยจะอ้างวิธีการใดๆ ให้เสียเงินเสียทองโดยเปล่าประโยชน์ อยากถวายไฟฟ้าให้วัด ก็นู้นเสาไฟฟ้า หลอดไฟข้างทางนั้น อธิษฐานเอาให้มาที่วัดสะแก, อยากถวายดอกไม้สวยๆ เห็นดอกบัวในสระน้ำ ก็นั้น..อธิษฐานจิตเอา เอาดอกบัวในสระนั้นล่ะ มาถวายที่วัด ถวายพระพุทธเจ้าท่านเอา..กุศโลบายธรรมเหล่านั้น จะเห็นถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านที่แท้จริง ไร้พิธีกรรมพิธีการใดๆ สอนธรรมะ สอนเมตตาจิตให้ทุกคนสามารถกระทำได้ง่ายๆในชีวิตประจำวัน สอนให้ดำรงตนให้เป็นผู้อยู่ในวงบุญในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องมาเฉพาะเจาะจงที่วัดสะแก

เช่นนี้แล้ว..คำสอนใดๆของบุคคลผู้ได้ชื่อว่าสามารถติดต่อกับหลวงปู่ดู่ท่านได้ ถ้าผิดจากหลักการนี้แล้ว..จะเป็นการถูกต้องอยู่หรือ..?..ท่านผู้นั้นท่านติดต่อได้จริงหรือ..?..จึงเป็นคำถามที่น่าฉงน ?..

เรื่องราวลักษณะนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับผู้ได้ชื่อว่าเข้าวัดเข้าวา แต่มิได้เข้าเพื่อการปฏิบัติ มิได้เข้าเพื่อเรียนรู้วิธีเอาชนะซึ่งกิเลสทั้งหลายทั้งมวล อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา หัวใจในการปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ท่าน มีแต่เอากิเลสเข้าวัด และออกจากวัดก็เพิ่มพูนด้วยกิเลส หลงทางมากขึ้นอีกต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด..

ความโง่งมงาย พอกด้วยกองกิเลสเหล่านี้เอง ผู้ยังอยู่กับความหลง ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็มักนำมาขยายความบอกเล่าต่อแบบผิดๆ..จากที่จะเป็นการนำบุญกุศลมาฝาก ก็กลายเป็นเอากองกิเลสมาฝากเสียอีก..บาปต่อพระธรรม บาปต่อพระพุทธเจ้ากันเป็นทอดๆ...

เรื่องราวเล่านี้จึงควรพึงสังวรณ์และระมัดระวังเป็นอย่างสูงที่เดียวครับ

สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านใดที่ไม่เห็นด้วย ผมต้องขอโทษด้วยอย่างยิ่งครับ ข้อความที่เขียนเป็นเพียงความคิดเห็นสวนตัวเท่านั้น ซึ่งความเห็นแตกต่างในเรื่องใดๆ ย่อมเป็นของธรรมดา อันมีอยู่ประจำโลก ไม่มีใครถูก และไม่มีใครผิด..ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทางความคิดน่ะครับ
Click to expand...

มาก like ครับพี่โจ ^^
Click to expand...

SKTC · 15 พฤษภาคม 2012

ฉันทะ said: ↑

..นำภาพวัตถุมงคลหายากมากๆๆๆมาฝากครับ ราคาบูชาอาจจะดูว่าสูง แต่เมื่อเทียบแต่ละองค์พระ23องค์ที่ติดไว้ ก็จะดูราคาเบาไปเลยครับ ตั้งแต่ผมสะสมมาพบเห็นองค์เดียวครับ และชิ้นนี้ก็เป็นชิ้นที่ผมเคยได้ไปบูชาก่อนที่จะให้พี่ท่านหนึ่งไป และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็กลับมาอยู่กับผมอีกรอบ ก่อนรอผู้เจ้าของตัวจริงนิมนต์ไปอีกครั้งครับ

Click to expand...

max_thonglor · 15 พฤษภาคม 2012

สมเด็จองค์นี้มีคนเช่าไปแล้วครับ คงเหลือแต่รูปให้ชมกัน เนื่องจากสมเด็จองค์นี้มารู้ทีหลังว่ามีซ่อมหลายจุดมาก(ดูจากฟิล์มx-ray) แต่ที่จะเล่าให้คุณโจฟังนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ผม เคยนำไปให้หลวงน้าสายหยุดดู หลวงน้านั่งกำพระสมเด็จองค์นี้อยู่นาน พอหลวงน้าลืมตา ผมก็เลยถามว่า"ทำไมนานจังครับ" หลวงน้าบอกว่า กำลังสนทนาเรื่องวิธีปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่โตว่า ที่ปฏิบัติอยู่นี้ถูกต้องไหม? และยังถามอีกว่า ทำไมพระสมเด็จของหลวงปู่จึงมีพุทธคุณทางเมตตาจังเลย หลวงปู่โตท่านตอบว่า "ก็เราเป็นพระ เลยก็ต้องมีเมตตาซิ" ส่วนอีกคนที่เคยสัมผัสสมเด็จองค์นี้ เป็นนายตำรวจท่านหนึ่งเป็นนักปฏิบัติกรรมฐานมา20ปี บอกว่าตอนเข้าสมาธิจะเห็น "พระคาถาชินบัญชรตัวใหญ่ๆเคลื่อนไหวเต็มห้องไป หมด".......................................................เล่าให้ฟัง ครับ....อัศจรรย์ [/QUOTE]

สมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์นี้ ถ้าไม่เข้าฟิล์ม X-Ray ถือว่าไล่จุดซ่อมได้ยากพอสมควร ดูคร่าวๆด้านบนนี้น่าจะต่อมาทั้งชุด นอกนั้นขอบๆก็อุดซ่อมมาพอสมควร แต่ก็ถือว่าดูง่าย และฟอร์มพระยังสวย แถมได้เป็นพิมพ์เจดีย์ด้วย ถือว่าหายากสุดๆ ความจริงยากกว่าพิมพ์ใหญ่ซะด้วยซ้ำ ขนาดซ่อมๆอย่างนี้ ราคาเล่นหาก็น่าจะหลักล้านโขๆอยู่ที่เดียว

เยี่ยมครับ..ได้ชมสมเด็จวัดระฆังของคุณ Max เป็นบุญตา..สาธุ..สาธุ..ครับ

ส่วน เรื่องของหลวงน้าสายหยุดก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง..ก็แล้วแต่วิจารญาณของผู้รับ ฟัง..แต่ถ้าพูดด้วยความรู้สึกส่วนตัวลึกๆจริงๆ..พูดจริงๆน่ะครับ ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เรื่องราวแบบนี้..

ขอบคุณครับคุณโจ ข้อความที่เขียนต้องเขียนออกมาจากใจแน่ๆครับ(ไม่ธรรมดา)
ผมก็เคยฟังท่านอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าถึงหลวงปู่ดู่ ให้ฟังว่า "หลวงปู่ดู่ เคยสอนว่า คนภาวนานั้นมีกิเลสอยู่หลายชั้น กิเลสชั้นที่ละเอียดมันดูยากมาก ท่านยกตัวอย่างกิเลสชั้นละเอียดให้ดูเช่น 1)พวกบ้าอาจารย์ 2)พวกบ้าแนวทางปฏิบัติคือแนวทางของฉันดีกว่า แต่ของคนอื่นไม่บรรลุหลอก 3)พวกไปติดในความว่างๆ

นะมารวย · 15 พฤษภาคม 2012

Jopaa said: ↑

max_thonglor said: ↑

ในสายหลวงปู่ดู่ท่าน หลายๆคน หลายๆองค์ (ซึ่งเป็นซะส่วนมาก) จะติดไปในทางฤทธิ์ หรือ นิมิตร ต่างๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าอันตรายพอสมควร ถ้าเราศึกษาถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านจริงๆ ผมรู้สึกว่าหลวงปู่ฯท่านจะมีแนวทางเดียว คือ แนวทางปฏิบัติเพื่อละจากกิเลส 3 กองใหญ่ คือ ความโลภ โกรธ หลง เท่านั้น

แต่ความที่หลวงปู่ฯท่านจะค่อนข้างอนุโลมอะไรหลายๆอย่าง ลูกศิษย์ลูกหาท่านหลายๆคน จึงจับเอาเพียงกระพี้ ไม่เอาแก่น ที่สุดจึงกลายเป็นความหลงการปฏิบัติแบบผิดที่ผิดทาง ที่สุดจึงออกไปในทางฤทธิ์ ทางนิมิตรภาวนา พูดคุยเรื่องเหนือโลกต่างๆได้มาก ทั้งๆที่หากสนิทชิดเชื้อจริงๆ หลายๆคน หลายๆองค์ ผมว่าออกจะไปในทางหลงตัว หลงรู้เห็นเรื่องราวภายนอก ออกไปในแนวหลงแบบคนทรงเจ้าเข้าผี หรือเรียกว่า สะกดจิตตัวเองซะมากกว่า หรือดังจะเป็นดังคำหลวงปู่ดุลย์ท่านที่ว่า " ที่เขาเห็นน่ะ เขาเห็นจริง แต่สิ่งที่ถูกเห็น ไม่จริง"

แล้วก็เช่นกัน ลูกศิษย์ลูกหาของผู้ได้ชื่อว่า อาจารย์ก็ดี หลวงตา หลวงปู่ หลวงลุงก็ดี ความที่ตนมิได้เป็นผู้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานของแท้ มิได้มีภูมิธรรมใดติดตัว จึงออกจะเชื่อไปในทาง " งมงาย " เสียมาก

และเมื่อศรัทธามากเชื่อมาก นานวันเข้าก็กลายเป็นหลงฤทธิ์ หลงความวิเศษ หลงความอัศจรรย์เหนือโลก ที่สุดก็หลงอาจารย์ หนักถึงที่สุดก็ตั้งอาจารย์ตัวเอง เป็นผู้วิเศษ เป็นพระอรหันต์ เป็นพระโพธิสัตว์เจ้าเสียเองเลย พร้อมแต่งเติมเอาความเชื่อส่วนตน มาขยายความอัศจรรย์ (แบบหลงๆ) มาเล่าล่อผู้หลงคนต่อๆไป

หากผู้ฟังไม่มีวิจารณาณ จิตอ่อน จิตมีความเชื่อง่าย จิตมีความงมงายอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็จะพากันหลงเตลิดเข้าไปใหญ่ บางคนแม้ท่านอาจารย์คนนั้น หลวงปู่ หลวงตาองค์นั้น ยังไม่เคยพบองค์จริงด้วยซ้ำ มิได้เห็นปฏิปทาโดยส่วนตัวใกล้ชิด มิได้พูดคุย หรือเห็นความประพฤติด้วยส่วนตัวแท้ๆ เพียงได้ยินคนอื่นเขาพูดมา โม้มา โปรโมชั่นมา ก็นำออกมาเล่าต่อ ขยายความ ตื่นข่าว แต่งเติมเข้าไปอีกเช่น องค์นั้นองค์นี่ ปัจจุบันแม้ปัสสาวะกลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น ไอ้นู้นไอ้นี่กลายเป็นพระธาตุแล้ว เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ความหลงในครูบาอาจารย์ หลงมากก็งมงายมาก งมงายมากก็โปรโมชั่นมาก โปรฯไปโปรฯมา บางที่ลูกศิษย์กลายเป็นเก่งกว่า บารมีมากกว่า สูงกว่า หลวงปู่ดู่อาจารย์ท่านเสียอีก ก็หลวงปู่ดู่ท่านเอง ปัสสวะก็ยังเป็นปัสสวะธรรมดาๆ ไม่เห็นคนรุ่นหลังนำมาเล่าต่อเลยว่า บารมีสูงสุดขนาดเยี่ยวยังกลายเป็นพระธาตุได้เลย..นี่เรียกว่าเกินครูบาอาจารย์ บางทีต้องเรียกว่า เกินกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก..

หรือบางคนที่ปัจจุบันตั้งตนเป็นอาจารย์ ว่าแม้จะไม่ทันยุคหลวงปู่ดู่ท่าน แต่ความที่เคราพศรัทธาหลวงปู่ดู่ท่านมาก หลวงปู่ดู่ท่านจึงมาสอนเรื่องราวต่างๆทางนิมิตรภาวนา เรื่องราวที่เผยแพร่ก็ออกไปในทางฤทธิ์เดชต่างๆ ความอัศจรรย์เหนือโลกต่างๆเสียส่วนเดียว เน้นเรื่องพิธีกรรมพิธีการต่างๆ มิเห็นได้กล่าวถึงเรื่องการเรียนรู้ซึ่งกิเลสต่างๆ การวางจิต น้อมจิตไปในทิศทางใด เพื่อการละ วาง สะสางกิเลส อันเป็นหัวใจหลักในข้อธรรมคำสอนของท่านทั้งหมดเลย ทำให้ต้องกลับมานั่งฉงน ? ..ที่หลวงปู่ท่านเมตตามาสอนทางนิมิตรภาวนานั้น ท่านมาสอนจริงเหรอ หลวงปู่ท่านสอนแต่เรื่องราวแค่เพียงกระนั้นหรือ และเป็นเรื่องที่องค์ท่านไม่เคยส่งเสริมกระนั้นหรือ ? หรือที่แท้จิตผู้นั้นละเมอ สะกดตัวเอง เอาความคิด ความเชื่อที่ฝังในจิตส่วนลึกแห่งตน มาสอนตนเองกันแน่

ลูกศิษย์ที่ทันยุคหลวงปู่ท่าน ที่เป็นศิษย์สายปฏิบัติของจริงของแท้ ต่างพยายามบอกเล่าคำสอนหลวงปู่ดู่ท่านในแบบที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามกาลเวลา สิ่งนั้นที่พวกเรารุ่นต่อมาระลึกได้ และเห็นความเป็นหลวงปู่ดู่ได้ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การเป็นผู้เรียบง่ายในทุกสิ่ง ไร้สิ่งพิธีรีตรองใดๆ แม้พระเครื่องของท่าน ก็เรียกว่าเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทยแล้วที่สร้างได้ง่ายที่สุด ถูกที่สุด ประหยัดที่สุด ไร้ซึ่งมวลสาร ไร้พิธีกรรมพิธีการใดๆ ทุกอย่างก็ปูนขาว,ปูนซีเมนต์เราธรรมดานี่ล่ะ อธิษฐานจิตเอาก็เท่านั้นเป็นเสร็จ..เรียกว่า ความเรียบง่ายในแบบ สูงสุดคืนสู่สามัญ..

หรือแม้แต่การทำบุญใดๆ หลวงปู่ท่านก็ไม่เคยจะอ้างวิธีการใดๆ ให้เสียเงินเสียทองโดยเปล่าประโยชน์ อยากถวายไฟฟ้าให้วัด ก็นู้นเสาไฟฟ้า หลอดไฟข้างทางนั้น อธิษฐานเอาให้มาที่วัดสะแก, อยากถวายดอกไม้สวยๆ เห็นดอกบัวในสระน้ำ ก็นั้น..อธิษฐานจิตเอา เอาดอกบัวในสระนั้นล่ะ มาถวายที่วัด ถวายพระพุทธเจ้าท่านเอา..กุศโลบายธรรมเหล่านั้น จะเห็นถึงความเป็นหลวงปู่ดู่ท่านที่แท้จริง ไร้พิธีกรรมพิธีการใดๆ สอนธรรมะ สอนเมตตาจิตให้ทุกคนสามารถกระทำได้ง่ายๆในชีวิตประจำวัน สอนการดำรงตนให้เป็นผู้อยู่ในวงบุญในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องมาเฉพาะเจาะจงที่วัดสะแก

เช่นนี้แล้ว..คำสอนใดๆของบุคคลผู้ได้ชื่อว่าสามารถติดต่อกับหลวงปู่ดู่ท่านได้ ถ้าผิดจากหลักการนี้แล้ว..จะเป็นการถูกต้องอยู่หรือ..?..ท่านผู้นั้นท่านติดต่อได้จริงหรือ..?..จึงเป็นคำถามที่น่าฉงน ?..

เรื่องราวลักษณะนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับผู้ได้ชื่อว่าเข้าวัดเข้าวา แต่มิได้เข้าเพื่อการปฏิบัติ มิได้เข้าเพื่อเรียนรู้วิธีเอาชนะซึ่งกิเลสทั้งหลายทั้งมวล อันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา หัวใจในการปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ท่าน มีแต่เอากิเลสเข้าวัด และออกจากวัดก็เพิ่มพูนด้วยกิเลส หลงทางมากขึ้นอีกต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด..

ความโง่งมงาย พอกด้วยกองกิเลสเหล่านี้เอง ผู้ยังอยู่กับความหลง ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็มักนำมาขยายความบอกเล่าต่อแบบผิดๆ..จากที่จะเป็นการนำบุญกุศลมาฝาก ก็กลายเป็นเอากองกิเลสมาฝากเสียอีก..บาปต่อพระธรรม บาปต่อพระพุทธเจ้ากันเป็นทอดๆ...

เรื่องราวเล่านี้จึงควรพึงสังวรณ์และระมัดระวังเป็นอย่างสูงที่เดียวครับ

สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านใดที่ไม่เห็นด้วย ผมต้องขอโทษด้วยอย่างยิ่งครับ ข้อความที่เขียนเป็นเพียงความคิดเห็นสวนตัวเท่านั้น ซึ่งความเห็นแตกต่างในเรื่องใดๆ ย่อมเป็นของธรรมดา อันมีอยู่ประจำโลก ไม่มีใครถูก และไม่มีใครผิด..ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทางความคิดน่ะครับ
Click to expand...

โมทนาสาธุกับบทความของคุณโจด้วยครับ

(บวชแล้วสึก - สึกแล้วบวช - บวชแล้วมีปัญหาก็สึก.....แล้วบวชใหม่ตั้งตัวเป็นอาจารย์ นี่แหละคือ พ.ธรรมรังสี ครับคุณโจ)
Click to expand...

ตุ้ย ฉันทะ · 15 พฤษภาคม 2012

แจ้งส่งพัสดุ EMS ครับ 15/05/2012 เวลา 09:33:04
คุณศุภมาศ EI 4911 5985 5 TH ขอบคุณมากครับ

Chart 123 · 15 พฤษภาคม 2012

พี่ตุ้ยมาแล้ว เตรียมพร้อมพวกเรา

ตุ้ย ฉันทะ · 15 พฤษภาคม 2012

รายการที่ 1161 พระแก้วหยดน้ำวัดตะไกร เนื้อโขลก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา สร้างราวๆปี2520ครับ หลวงปู่ดู่อธิฐานจิตครับ ใช้นั่งกรรมฐานได้เลยครับ พุทธคุณเต็มเปี่ยม อารธนาขึ้นคอได้เลยครับ แท้ๆไปใช้สักองค์ดีกว่าไหมครับ ราคาบูชาเบาๆ 347.-....จัดส่งฟรีไม่ต้องโอนค่าจัดส่งเพิ่มครับ

***เงินของท่านแท้ ก็สมควรได้พระแท้ไปครับ ***

ดูองค์จริงได้ที่ชมรมพระเครื่องมรดกไทยพันทิพย์งามวงศ์วาน ชั้น3 ตู้ B104 อยู่หน้าร้านเช้งสุพรรณครับ เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์(โทรมานัดก่อนจะดีมากครับ จะได้ไม่พลาดครับ) มารับตามตู้พระที่พันทิพย์งามวงศ์วาน ลดค่าจัดส่ง 30 บาท

ราคาที่บอกไว้ได้รวมค่าจัดส่งแล้ว ไม่ต้องโอนเพิ่มครับ ทุกชิ้นมาจัดส่ง EMS ครับ หรือบูชามากกว่า 1รายการ ขึ้นไปลด 30 บาทตามจำนวนรายการที่บูชาเพิ่มครับ )

ที่อยู่ 69/36 หมู่8 ซ.ลาดกระบัง16 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540 . Email :thakul_11@hotmail.com

ชื่อบัญชี ตระกูล ฉันทพัฒน์กุล
ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เลขที่บัญชี่ 009-1-17429-5
ธนาคารกรุงเทพ สุขุมวิท77(ประเวศ) เลขที่บัญชี่ 919-004126-0
ธนาคารไทยพาณิชย์ ศูนย์การค้าเดอะพาซิโอ(ลาดกระบัง) เลขที่บัญชี่ 402-356961-3

* สนใจวัตถุมงคลพิมพ์อื่นๆของหลวงปู่ดู่เพิ่มเติม หรือสนทนารายละเอียดเพิ่มเติม โทร.081 847 7768

wanakonth · 15 พฤษภาคม 2012

งานนี้รีเฟชเป็นระวิงแน่เลย เหอๆ

ก ฯลฯ ฮ · 15 พฤษภาคม 2012

จองรายการที่ ...........................1161

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ฉันทะ วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

9mm เป็นที่รู้จักกันดี

9mm เป็นที่รู้จักกันดี

ebankky Active Member

ตุ้ย ฉันทะ ID LINE : 0818477768 ID WeChat : T8477768

Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

อิฐมอญ เป็นที่รู้จักกันดี

Chart 123 เป็นที่รู้จักกันดี

ตุ้ย ฉันทะ ID LINE : 0818477768 ID WeChat : T8477768

ไฟล์ที่แนบมา:

RIMG0048.12.jpg

RIMG0050.12.jpg

Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

Jintamuttha เป็นที่รู้จักกันดี

SKTC เป็นที่รู้จักกันดี

max_thonglor เป็นที่รู้จักกันดี

นะมารวย Active Member

ตุ้ย ฉันทะ ID LINE : 0818477768 ID WeChat : T8477768

Chart 123 เป็นที่รู้จักกันดี

ตุ้ย ฉันทะ ID LINE : 0818477768 ID WeChat : T8477768

ไฟล์ที่แนบมา:

a__01.jpg

wanakonth เป็นที่รู้จักกันดี

ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

ไฟล์ที่แนบมา:

RIMG0048.12.jpg

RIMG0050.12.jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

a__01.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา

ฉันทะ วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **