ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

แต่คราวนี้ มีการคาดว่าหนักหนาสาหัส เพราะจะถูกหลอกให้เป็นโล่ห์มนุษย์

 

คุณมารีน คะไม่ทราบว่ากลางเดือนนี้คุณธรจัดสัมมนาหรือเปล่าคะ

 

ไม่ทราบเหมือนกัน ถ้าจัดอาจจะมีการแจ้งให้ทราบในเวปพลังจิตนี้

 

มาร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ในวันนี้กันเถอะนะคับ
พักเรื่องกีฬาสี เรื่องภัยพิบัติชั่วคราว มาแสวงหาความสงบทางใจกันนะคับ ^-^
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=cHPHLfsw3XQ&feature=relmfu]ฟังพระพุทธมนต์ - YouTube[/ame]

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ชาวบ้านระนองหนีอลหม่านหลังเกิดแผ่นดินไหว </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>ชาวบ้านระนองหนีอลหม่านหลังเกิดแผ่นดินไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 12.40 น.วันที่ 4 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมาได้ปรากฏมีแรงสั่นสะเทือนเสียงดังอย่างรุนแรงพร้อมมีการสั่นสะเทือนของผืนแผ่นดินคล้ายแผ่นดินไหว โดยชาวบ้านที่อาศัยภายในบ้านรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนและเสียงดังอย่างรุนแรงทำให้ชาวบ้านโทรศัพท์สอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดให้คำตอบได้ ทำให้ชาวบ้านเริ่มเก็บข้าวของและอพยพขึ้นที่สูงเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดในเบื้องต้นได้รับการยืนยันจาก จนท.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนองว่าเหตุการณ์สั่นสะเทือนและเสียงดังที่เกิดขึ้นเป็นแผ่นดินไหวที่คาดว่าจุดศูนย์กลางน่าจะอยู่ที่บริเวณพื้นที่ อ.เมืองระนอง ซึ่งชาวบ้านใน อ.เมืองระนองทั้งอำเภอรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวได้ โดยเฉพาะ ต.บางนอน,ต.เขานิเวศน์,ต.ปากน้ำ,ต.บางริ้นต่างได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น รวมทั้งเสียงดังคล้ายกับฟ้าลั่นอย่างรุนแรง

นางคำ สวัสดี อายุ 72 ปี ชาวบ้าน ต.บางนอนเล่าถึงเหตุการณ์ระทึกใจว่าในขณะที่ตนและหลายสาวนอนดูทีวีอยู่ภายในบ้านปรากฏว่าได้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รวมทั้งเสียงดังน่ากลัวทำให้หลานสาวตกใจกลัวมากในขณะที่ตนก็งงไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนวิ่งออกมาหน้าบ้านพบว่าเพื่อนบ้านหลายคนต่างวิ่งออกมาหน้าบ้านเพราะตกใจกลัวว่าบ้านจะพัง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>

ขอบคุณ ระวังภัย​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เตือน12จว.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>อุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 4 มิถุนายน 2555

ร่องมรสุมได้เลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนสุดของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง

ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ทั่วประเทศ มีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้

สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันเดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้ไว้ด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ระทึกรถไฟสายน้ำตก-ธนบุรีชนสนั่นรถแก๊สรั่ว จนท.เข้าสกัด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.สมหวัง พานแก้ว สารวัตรเวรสถานีตำรวจท่าม่วง

ได้รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนรถบรรทุกแก๊ส จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุบริเวณทางตัดทางรถไฟวัดสันติคีรี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พบรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82 – 7917 ราชบุรี ภายในกระบะท้ายบรรทุกแก๊สเต็มคัน ด้านคนขับพบนายอรัญ จะแจ้ง อายุ 28 ปี อยู่ม.4 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สภาพถูกกระแทกกับพวงมาลัยรถ คิ้วขวาแตก เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ นำส่งโรงพยาบาลท่าม่วง ในที่เกิดเหตุพบถังแก๊สตกกระจัดกระจายบางถังเกิดรั่วทำให้แก๊สพุ่งออกมา ใกล้กันพบรถไฟขบวนพิเศษท่องเที่ยวสายน้ำตกจอดอยู่ โดยผู้โดยสารได้ลงมารอรถไฟ ซึ่งนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้กันให้ออกห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลัวแก๊สระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำฉีดและปิดแก๊ส โดยรถไฟไม่ได้รับความเสียหายจึงเดินรถไปยังสถานีน้ำตกต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนพิเศษสายน้ำตก-ธนบุรี

ได้เดินทางพานักท่องเที่ยวและประชาชนมาเที่ยวเนื่องในวันหยุดพิเศษวันวิสาขบูชา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณทางตัดทางรถไฟวัดสันติคีรี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้ถูกรถบรรทุกแก๊สตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้เกิดชนกันทำให้ถังแก๊สตกลงมาและเกิดแก๊สรั่ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ฉีดน้ำและปิดแก๊สได้ทัน เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมคนขับรถบรรทุกแก๊ส เพื่อดำเนินคดีต่อไป


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>สลดพ่อปกป้องลูก หลังถูกแว้นสุดโหดไล่ล่า ร้องขอชีวิต แต่กลับถูกฟัน-ยิงร่างพรุน สังเวยชีวิต </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 มิ.ย. พ.ต.ท.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย รองผกก.ป. สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี

ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกปืนยิงและโดนมีดฟันอาการบาดเจ็บสาหัส บริเวณซอยโอเค ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง พงส.(สบ3) สภ.เสม็ด และมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ เมื่อไปถึงพบ กลุ่มเด็กวัยรุ่นประมาณ 10 คน นั่งจับกลุ่มตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ใกล้กันมีร่างของ นายเมษา ตะละวัล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 7 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดที่หัวไหล่ หลังมือขวา หน้าอกซ้าย หลังหูขวา ต้นขาซ้าย ข้อมือขวา รวม 6 นัด นอนจมกองเลือดไม่ได้สติ หายใจรวยริน ข้างกันพบ นายแดง(นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และ นายดำ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ทั้งคู่เป็นชาว จ.ชลบุรี นอนร้องโอดโอยจากการโดนยิงเขาที่หัวเข้าข้างขวา คนละ 1 นัด จึงเร่งนำทั้งหมดส่งโรงพยาบาลชลบุรี เพื่อทำการรักษาแต่ปรากฏว่า นายเมษา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกตัวเด็กทั้งหมดมาสอบสวน โดยทั้งหมดให้การไปในทำนองเดียวกันว่า

เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการเขม่นกันของแก๊งเด็กแว้นในท้องที่ จ.ชลบุรี ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แก๊งใหญ่ คือ แก๊งตาลล้อม แก๊งดอนตาล และ แก๊งเนินมะกอกซึ่งเป็นแก๊งของพวกตน และมีเรื่องความบาดหมางกับทั้งสองแก๊งเป็นทุนเดิม เคยชกต่อยกันมาก่อน เหตุจากหมั่นไส้ที่เบิ้นรถใส่กัน จนกระทั่งวันนี้ได้รวมกลุ่มกัน 15 คน ขี่จยย.เล่นไปตามถนนชายหาดบางแสน แต่พอมาถึงบริเวณหน้า สภ.แสนสุข ถนนลงหาดบางแสนสาย 2 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ก็พบแก๊งเด็กแว๊นคู่อริรวมทั้ง 2 แก๊ง รวมตัวกันราว 100 คน ขับขี่จยย.ผ่านมาพอดี

จากนั้นได้มีการตะโกนด่ากันไปมา แต่เนื่องจากมีจำนวนน้อยกว่า จึงรีบบิดเร่งจยย.เพื่อหลบหนี

โดยแก๊งเด็กแว้นคู่อริไม่ลดละกลับขี่รถจยย.ไล่ตามเพื่อเข้ารุมทำร้าย ทุกคนจึงพยายามขับจยย.มุ่งหน้าไปยังบ้านของ นายเขียว (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม ที่อยู่ในซอยโอเค ซึ่งเป็นจังหวะที่ นายเมษา เห็นลูกชายแลกลุ่มเพื่อนขี่จยย.หลบหนีผ่านมาพอดีจึงเข้ามาขวางทาง และขอร้องแก๊งคู่อริว่า อย่าทำร้ายบุตรชายและกลุ่มเพื่อนๆ แต่แก๊งเด็กแว้นทั้ง 2 แก๊ง กลับไม่สนใจคำขอร้องของผู้เป็นพ่อ คว้ามีดสปาต้าฟันใส่ และยังชักปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่ นายเมษา อย่างอุกอาจ กระสุนยังพลาดไปโดน นายดำและนายแดง เพื่อนในกลุ่มของพวกตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะหลบหนีไป พวกตนจึงได้ขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเจ้าหน้าตำรวจดังกล่าว


ด้าน พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี กล่าวว่า

ในที่เกิดเหตุพบปอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 11 นัด โซ่ เหล็กท่อนยาว 1 เมตร ไม้กระบอง และปลอกมีดสปาต้า ซึ่งเป็นหลักฐานในทางคดีที่สำคัญ อย่างไรก็ตามการดำเนินการยังติดปัญหาตรงที่พยานในคดีนี้ทุกคนเป็นเยาวชน ซึ่งกฎหมายได้กำหนดไว้ว่าการสอบพยานที่เป็นเยาวชนนั้น ต้องสอบต่อหน้านักสังคมสงเคราะห์และพนักงานอัยการ ซึ่งวันนี้เป็นช่วงวันหยุดจึงต้องเลื่อนสอบพยานไปในวันอังคารที่ 5 มิ.ย. เมื่อสอบพยานเสร็จสิ้นแล้ว จึงจะขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้


อย่างไรก็ตามทราบมาว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดที่จะออกหมายจับนั้น มีคดีพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งสิ้น

ขณะนี้ตนเองได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจในบังคับบัญชาให้เฝ้าติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว คาดว่าน่าจะยังกบดานในพื้นที่ พร้อมกับประสานงานกับ สภ.แสนสุข ให้ช่วยกันตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาบน เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการทั้งในส่วนของคดีความผิดต่อชีวิต ทำร้ายร่างกาย และ ขับขี่รถจยย.ป่วนเมือง โดยขณะนี้ทราบชื่อครบทุกคนแล้ว.

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>เครื่องบินโดยสารไนจีเรียตกชนตึกตายยกลำ153ศพ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ (4 มิ.ย.) เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสาร ดานา แอร์ สายการบินภายในประเทศของไนจีเรีย ตกเมื่อวันอาทิตย์

หลังบินขึ้นจากสนามบินเมืองลากอส เมืองศูนย์กลางธุรกิจการค้า และเมืองใหญ่สุดของประเทศ ได้เพียงไม่นาน นายฮาโรลด์ เดนูเรน ผอ. สำนักงานการบินพลเรือนไนจีเรีย เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เที่ยวบินดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสาร พร้อมนักบินและลูกเรือรวม 153 คน ออกเดินทางจากลากอส มุ่งหน้าสู่กรุงอาบูจา แต่เครื่องพุ่งตกใส่อาคารขนาด 2 ชั้น ในย่านที่อยู่อาศัยเขตอิจู ไม่ไกลจากสนามบิน


จากภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น แสดงให้เห็นควันหนาทึบพวยพุ่งขึ้นจากบริเวณที่เครื่องบินตก และอาคารขนาด 2 ชั้นเกิดเพลิงไหม้

ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เห็นเครื่องบินลำดังกล่าวบินในระยะต่ำ ก่อนจะพุ่งชนอาคารดังกล่าวเสียงดังสนั่น นายเดนูเรน กล่าวอีกว่า จากการวิเคราะห์เหตุการณ์ เชื่อว่าผู้ที่อยู่ในเครื่องบินไม่น่าจะมีผู้ใดรอดชีวิต ขณะที่นายโทนี อูซิดาเมน โฆษกสายการบินดานา แอร์ กล่าวยืนยันว่าเครื่องบินของดานาตก แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ


ท่าอากาศยานนานาชาติลากอส เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการบินหลักของแอฟริกาฝั่งตะวันตก

ตัวเลขข้อมูลล่าสุดของการท่าอากาศยานไนจีเรียระบุว่า มีผู้โดยสารใช้บริการเดินทางผ่านเข้าออก 2.3 ล้านคนในปี 2552 และในเดือน ส.ค. 2553 รัฐบาลสหรัฐประกาศให้มาตรฐานด้านความปลอดภัยในการบินของไนจีเรียอยู่ในประเภท 1 ระดับสูงสุด ซึ่งมีผลให้สายการบินภายในประเทศของไนจีเรีย สามารถบินตรงเข้าสู่สหรัฐได้ และทางการไนจีเรียเผยอีกว่า ปัจจุบันไนจีเรียมีเครือข่ายระบบเรดาร์ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ.

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ฟังแล้วน่าสนใจจึงเอาเตือนกันเพื่อความไม่ประมาทไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้

วันที่26มิย.2555
ถ้าทุกคนมีเมตตารักกันให้อภัยต่อกันได้ก็อาจไม่เกิดภัยต่างๆก็ได้ มีข้อความน่าสนใจตรงที่ว่าเมื่อไฟฟ้าดับหมดจะไม่มีอะไรมาแจ้งให้คนอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องได้ทราบเลยว่าจะมีพายุมาที่ไหนอย่างไรบ้างหรือเปล่า หรือมีแผ่นดินไหวที่ไหน น้ำทะเลมาเมื่อไรถึงที่ไหนบ้างตอนนี้จะได้หนีได้ทัน(เพราะไม่มีคนใดได้คิดเตรียมการไว้ก่อนในเรื่องนี้เลยเพื่อความช่วยเหลือในเรื่องนี้ถ้ามันเกิดขึ้นจริงจะทำอย่างไรหรือตนเป็นพึ่งแห่งตน หรือต้องตัวใครตัวมัน)

เพราะเข้าตรวจดูมีคนไม่เห็นด้วย จึงขออนุญาติลบYou tube นั้นออกไป
ผมตั้งใจเอาเตือนด้วยความจริงใจนะไม่เข้าข้างใครด้วยไม่เกี่ยวการเมืองด้วยเพื่อให้ทุกคนได้พิจารณาเท่านั้นนะ

เพราะมาบอกมาเตือนหรือเปล่าไม่ทราบวันนี้โดยโดนงานมากเลยเจ้ากรรมนายเวรเขาอาจไม่พอใจก็ได้ แต่ไม่กลัวถ้าใจเป็นลูกพระได้ นั้นทุกคนเพยามไปหาฟังธรรมะกันให้มากๆนะจะได้มีปํญญามากๆและจะได้เลือกอะไรมาใช้ได้ถูกกับกาลเวลา
[MUSIC]C:\02เพลงธรรมะเลือกแล้ว\เพลงธรรมะ ชุด 2คน2.mp3[/MUSIC]

 

ขนลุกครับ เรื่องคำทำนายก็เรื่องนึง แต่เสียงผู้หญิงในวิดิโอเนี่ยมันเหมือน หุ่นยนต์คนไทย ครับ ขนลุกที่พูดแบบหุ่นยนต์เนี่ยหละ เหมือนเครื่องกดคิว ตามธนาคาร อ๊ากกกกกกกกก อิอิอิอิอิอิอิ

 

เสียงจากที่นี่ครับ Google แปลภาษา
ลองเล่นดูครับ อิอิ

 

คุณ ซันนี่ ไปลองเซิดหาดูในกุเกิ้ลสิครับ เขาเรียกโปรแกรม สาริกา ผมเคยใช้อ่านบทความเวลาขี้เกียจอ่านบางบทความนอนฟังสบายและมีหลายเสียงมาก เสียงคนแก่ยังมีเลยครับ เดียวนี้อาจจะเวอชั่นสมจริงเหมือนคนพูดสุดๆเลยนะครับ

 

ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะลองเล่นดูครับ

 

คุณ ragpon ขอบคุณมากๆนะครับที่กรุณาสมาชิกในเวป ในการใช้โปรแกรมสาริกา ผมไปโหลดมาแล้ว ติดตั้งแล้ว ใช้ดีจริงๆ คราวหน้าถ้ามมีโปรแกรมอะไรก็แนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ

 

<TABLE id=post6222440 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6222440 class=alt1>5 มิ.ย.55 ฐานผาแบ่น

ก้าวไปอีกหนึ่งขั้นด้วยการร่วมมือของแนวร่วมที่เข้ามาและผู้ใจบุญได้ช่วยกันออกปัจจัยซื้อเครื่องกรองน้ำบาดาลจนสำเร็จ

ปกติแล้วจะไม่รับปัจจัยจากบุคคลภายนอกแต่รายนี้มีจิตที่อยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจึงขอมีส่วนร่วมด้วยโดยตัวของท่านเองมีที่ไปอยู่แล้ว ขอโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย

งานต่อไปคือหาปัจจัยทำห้องสุขาอีกห้าห้องซึ่งห้าห้องแรกที่ทำเสร็จไปใช้เงินไปประมาณสี่หมื่นบาท เมื่อได้แล้วก็จะขนขึ้นฐานฯไปทีเดียว

ส่วนเครื่องสีข้าวคงรอเงินจากหลวงที่จะให้สองหมื่นแต่ไม่ทราบว่าจะได้เต็มจำนวนหรือไม่? ในส่วนนี้คงต้องใช้เงินไม่เกินห้าหมื่นบาทในการจัดซื้อ ที่จะซื้อจะเป็นเครื่องที่ใช้ทั้งไฟฟ้าและมือในการสีข้าว

ฐานผาแบ่นยังคงเปิดรับท่านที่มีความดี ถือศีล ทานเจหรือมังสวิรัต เข้ามาช่วยเหลือการทำงานออกปัจจัยช่วยซื้อของจำเป็นในการดำรงค์ชีพยามต้องหนีภัย ท่านใดสนใจก็เข้ามาคุยกัน

เคอิสรา<!-- google_ad_section_end -->
<!-- / message --></TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("6222440")</SCRIPT> </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-TOP: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt1 align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

"ขาดปัญญา"
ย่อมนำพาตนเองไปสู่ความทุกข์ ​

ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีสองพ่อลูกคนโม่แป้งเป็นเจ้าของโรงสี
แต่ยากจนมากอยู่ครอบครัวหนึ่ง
และปีนี้ด้วยจะเป็นเพราะเคราะห์หามยามร้ายบันดาล
ให้ต้องหนักขึ้นมามากกว่าเก่าเข้าไปอีก
เพราะเท่าที่ผ่านมาก็จนแสนที่จะจนอยู่แล้ว
และยังมาปีนี้ด้วยฝนฟ้า ก็ไม่ยอมตกลงมาให้เลยสักนิด
พื้นดินจึงเกิดความแห้งแล้ง และจึงเป็นผลให้ต้นข้าวสาลี
ที่เมื่อก่อนพอจะมีพวกชาวนา นำมาโม่เป็นแป้งนั้นอยู่บ้าง
ก็เกิดเหี่ยวเฉาและตายเสียจนหมดทุกไร่ไป
สองพ่อลูกจึงต้องหนักใจด้วยไม่มีใครนำข้าวสาลีมาสี
เป็นแป้งเลยสักเจ้าเดียว ลูกชายได้พูดบอกกับพ่อว่า
“ พ่อ ๆ แม้แต่แป้งที่จะมาทำเป็นขนมปังใช้กินกันก็หมดแล้วนะ
จะทำยังไงดีล่ะ” พ่อจึงพูดขึ้นว่า
“ต้นสาลีก็ตายหมด ไม่มีใครจะเอามาโม่แล้วด้วย
เฮ่อ..กลุ้มใจแหละ แต่..เดียวก่อน เรายังมีลาอยู่นี่ไง
ไม่มีแป้งโม่ เจ้าลานี่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมี
เอาลานี่ไปขายแลกเอาเงินมาใช้กินกันดีกว่า”​

<CENTER style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 15px Tahoma, Arial, Helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px"><CENTER>

</CENTER>
<CENTER>เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว สองพ่อลูกจึงตัดสินใจ
ที่จะนำลาตัวนั้นไปขายเสียที่ในเมือง
ชายเจ้าของโรงสีและลูกชาย จูงลาเดินไปตามทางเรื่อย ๆ
อากาศก็ร้อน แดดก็เปรี้ยงเสียด้วยวันนั้น
สองพ่อลูกเดินจูงลาและเช็ดเหงื่อที่ไหล
ย้อยลงมาอย่างไม่ยอมหยุดและเดินทางไปเรื่อย ๆ
ในระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับพวกผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งกำลังซักผ้ากันอยู่ที่ริมแม่น้ำ
ผู้หญิงในกลุ่มนั้นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ดูนั่นซิ”
และยังชี้มือมาทางเจ้าของโรงสีและลูกชาย
“ช่างโง่ชะมัดเลยทั้งสองคน....เธอว่าไหม? มีลาก็ไม่ขี่”
</CENTER>
<CENTER></CENTER>
<CENTER>ผู้พ่อเมื่อได้ฟัง ดังนั้นก็เห็นด้วยกับผู้หญิงคนที่พูดนั้น
ว่าแล้วเขาก็ช่วยลูกชายให้ขึ้นนั่งบนหลังลา
แล้วทั้งสองคนเดินก็ทางกันต่อไป
ในไม่ช้าสองพ่อลูกก็พบหญิงชรานางหนึ่งมือถือไม้เท้า
และกำลังจะเดินสวนทางมาทางสองพ่อลูกเข้าอีก
</CENTER>
<CENTER></CENTER>
<CENTER>หญิงชรานางนั้นเมื่อเดินสวนมาถึงที่ใกล้ ๆ
กับสองพ่อลูก แล้วอยู่ ๆ นางก็ยกไม้เท้าที่ถือมาในมือนั้น
ขึ้นเคาะไปที่หัวของลูกชายที่นั่งอยู่บนหลังลา
แล้วพูดอย่างโมโหฉุนเฉียวว่า “อ้ายคนเนรคุณ !
จอมขี้เกียจสันหลังยาว อากาศร้อนๆออกอย่างนี้
แทนที่จะให้พ่อผู้แก่ชรานั่งบนหลังลา กลับมานั่งเสียเอง
ดูสิ ! แกนั่นแหละ ควรเป็นคนเดินไม่ใช่พ่อแก”
ลูกชายตกใจมากที่อยู่ดี ๆ ก็มาโดนเคาะหัว
แล้วยังแถมโดนหญิงชราดุสั่งสอน
แต่เขาก็คิดเห็นด้วยกับคำพูดของหญิงชราผู้นั้น
ว่าแล้วลูกชายก็กระโดดลงจากหลังลา
แล้วเปลี่ยนที่ให้พ่อนั่งบนหลังลาบ้าง แล้วจึงเดินทางต่อไปอีก
</CENTER>
<CENTER></CENTER>
<CENTER>เมื่อเดินทางต่อมาได้อีกไม่ไกลนัก
ก็ได้พบกับคนเดินทางเดินสวนทางผ่านมา
คนเดินทางผู้นั้นมองสองพ่อลูก แล้วพูดเปรย ๆให้ได้ยิน
ทั้งๆหัวเราะว่า “โง่ชะมัดเลยทั้งพ่อทั้งลูก ทั้ง ๆที่ร้อนออกอย่างนี้
มีลาอยู่ทั้งตัว ก็จะมามัวเดินจูงอยู่ทำไมก็ไม่รู้
ก็ขึ้นไปนั่งทั้งสองคนก็หมดเรื่อง” เจ้าของโรงสีและลูกชาย
ก็เห็นด้วยตามที่คนเดินทางผู้นั้นพูดอีกนั่นแหละ
ว่าแล้วผู้พ่อก็ช่วยให้ลูกชายขึ้นมานั่งลงที่ข้างหลังของเขา

แล้วทั้งสองก็เดินทางต่อ โดยขึ้นขี่หลังลาไปด้วยกันทั้งสองคน<CENTER>
<CENTER></CENTER>
<CENTER>พวกเขาเกือบไปถึงเมืองแล้ว แต่ก็ยังได้ไปพบกับผู้ชาย
ที่เป็นชาวนาคนหนึ่งเข้า “นี่ลาของคุณหรือ” “ใช่”
เจ้าของโรงสีตอบ “เราจะเอาไปขายที่ตลาด คุณถามทำไมล่ะ”
ชายชาวนาจึงตอบกลับมาว่า “ก็ในไม่ช้า เจ้าลาที่น่าสงสารนี่
คงหมดแรงลงแน่ ๆ ถ้าต้องแบกคุณสองคนไปตลอดทาง เชื่อสิ”
ชายชาวนาคนนั้นตอบ “แล้วตอนนั้นใครเขาจะอยากซื้อมัน
จริงไหม เราคิดว่าถ้าพวกท่านจะช่วยแบกมันแทนล่ะก็น่าจะดีกว่านะ”
เจ้าของโรงสีและลูกชายมองตากันและเห็นด้วยกับชาวนาคนนั้น
ที่พูดทักขึ้นทันที
</CENTER>
<CENTER></CENTER><CENTER>“นี่ก็เป็นความคิดที่ดี” เจ้าของโรงสีเอ่ย แล้วเขาก็หาไม้
และเชือกมาช่วยกันผูกลากับไว้ท่อนไม้และหามเจ้าลา
เข้าไปในเมือง ผู้คนในเมืองไม่เคยเห็นสิ่งที่ตลกเท่านี้มาก่อนเลย
คนในเมืองพากันหัวเราะท้องคัดท้องแข็งจนน้ำตาไหล
ทีนี้ก็ถึงตาเจ้าลาบ้างแล้ว ลาไม่ว่าอะไรหรอกที่ต้องถูกหามแบบนี้
แต่มันไม่ชอบให้ใครมาหัวเราะเยาะ ดังนั้นมันจึงพยศขึ้น
คือมันทั้งดิ้นสะบัดตัวและทั้งเตะทั้งถีบ
จนในที่สุดเชือกก็เลยขาดออก
แล้วบังเอิญตรงนั้นเป็นสะพานข้ามคลองเข้าพอดี
ลาเลยตกลงไปในน้ำและจมหายไปในน้ำนั้นทันที
เจ้าของโรงสีและลูกชายจึงจำต้องเดินหน้าเศร้ามือเปล่า
กลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้ และต้องเสียลาไปโดยเปล่าประโยชน์

</CENTER><CENTER>

</CENTER></CENTER></CENTER></CENTER>

คติธรรมสอนใจ จากนิทานอีสปเรื่อง "สองพ่อลูกกับลา"
ที่มา Bloggang.com : tasserio : ​

 

โปรดอย่าดึงหลวงตา มาเป็นหัวข้อการวิจารณ์ ในเรื่องการเมือง

ปํญหาของสังคมที่เกิดขึ้นเพราะทุกคนคิดว่า ตัวเองดี ตัวเองถูก จึงไม่ยอมเปิดใจรับฟังใคร

น่าสงสารตัวเองที่สุด

 

ต้องขออภัยด้วยครับ ที่ผมต้องหยิบยกคำพูดของหลวงตา มาโพสต์

เพราะผมเชื่อว่าคำพูดของพระอรหันต์ ย่อมปราศจากอคติใดๆทั้งสิ้น

ความจริงเป็นเช่นไร ท่านก็พูดไปเช่นนั้น อีกทั้งเป็นคำพูดที่ผ่านสื่อต่างๆ

ผ่านการรับรู้ของคนไทย ที่เคารพนับถือท่านนับเป็นล้านๆ คนมาแล้ว

จึงไม่ได้ถือว่าเป็นความลับแต่อย่างใด และผมคิดว่าหลวงตาพูดก็เพื่อให้

"เขาคนนั้น" กลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใดทั้งสิ้นครับ

 

เห็นด้วนครับ สิ่งที่พี่เกษมเอามาเผยเเพร่นั้นเป็นสิ่งที่ท่านพูดผ่านสื่อมามากมายแล้วครับ จึงไม่ควรจะทำเป็นปิดบังหรือมองข้ามครับ อีกนัยยะหนึ่งคือหลวงตาท่านกล่าวไว้อย่างมีมูล พระที่มีบุญานุภาพระดับนี้ท่านไม่กล่าวถึงหรือติติงสิ่งใดพร่ำเพรื่อครับ ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ

 

หลวงตาท่านไม่มีเจตนาร้ายกับใครดอกครับ ความข้อนี้ทุกคนรู้อยู่

แต่เขาคนนั้นมีคนพอใจ รัก ชอบ อยู่พอสมควร

กระจายทั่วไปทุกสังคม แทบจะทุกครอบครัว และคงไม่เว้นแม้แต่ในเวบนี้

ถ้าคนที่เชื่อเรื่องบุพกรรมก็อาจเชื่อว่า คนเรามีบุพกรรมเก่าร่วมกันมา

บางคนเห็นหน้ากันครั้งแรกก็ชอบใจ ลางคนเห็นครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย

เมื่อเอาข้อความตำหนิ สิ่งที่เขารักเขาชอบ เขาก็ย่อมไม่พอใจ

คนที่มีธรรมะ ก็คงไม่เท่าไหร่

แต่บางคนอาจพากันปรามาสหลวงตาเอาได้

 

ที่กล่าวเช่นนั้น เพราะอาจทำให้หลาย ๆ คนตกนรก โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

ผมคิดว่า พระอริยสงฆ์นั้นท่านมีคุณอนันต์ และมีโทษมหันต์จริงครับ

ถ้ารู้ว่าเรากระทำกับพระอริยสงฆ์ ด้วยกายวาจาใจ เช่นใด ก็จะได้รับผลเช่นนั้น

เราจึงไม่ควรไปปรามาส หรือลบหลู่ ด้วยประการใดๆทั้งสิ้น

การที่ผมนำเทศนาของหลวงตา มาโพสต์ในกระทู้นี้

ก็เพื่อแสดงให้เพื่อนๆ สมาชิกในกระทู้นี้ ได้รู้ถึงกฏแห่งกรรม

ที่หลวงตาได้เทศนาตักเตือน"เขาคนนั้น" ให้หยุดการสร้างกรรมกับประเทศไทย

เพราะผลกรรมนั้นร้ายแรงมาก เปรียบได้กับพระเทวทัตเลยทีเดียว

จึงไม่ได้เป็นการไปปรามาส หรือล่วงเกินหลวงตาแต่ประการใด

แต่กลับเป็นการทำให้คนที่หลงผิด สร้างกรรมกับประเทศชาติ ได้รู้สำนึก

และเกรงกลัวต่อบาปกรรมอันร้ายแรง ที่ได้ทำกับประเทศไทย

ตามที่หลวงตาได้เทศนาตักเตือนเอาไว้ครับ

 

...........

จากประสบการณ์ชีวิตน้อยๆ ที่ผ่านมา

เมื่อผู้ใดตกอยู่ในกระแสแห่งกรรม ย่อมหลุดออกมาได้ยาก
แล้วเขาทำการตอบสนองกิเลสตนไปจนกว่าหมดกระแส

แต่หากมีบุญเก่า บุญนั้นจะมาช่วยตักเตือนให้หยุดการก่อกรรมไม่ดีได้

ดังนั้นการตักเตือนดี แต่ขึ้นกับผู้นั้นเขาถึงเวลาพร้อมหรือไม่

เหมือนพระพุทธองค์ ยามเช้าพระองค์จะเล็งญาณดูสัตว์โลก ว่า
มีผู้ใดที่มีเกณฑ์เข้าถึงธรรมได้ พระองค์จะไปโปรดเขา

ตัวอย่าง องค์คุลีมาล ที่ฆ่าคนมาถึง 999 คน แล้วกำลังจะฆ่าแม่
พระองค์เล็งเห็นแล้ว ว่า เขาโปรดได้ จึงไปโปรด แล้วองค์คุลีมาล ได้บวช จบ........