โหรทำนาย"ศุกร์ทับอาทิตย์"

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 8 มิถุนายน 2012.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โหรทำนาย"ศุกร์ทับอาทิตย์"
    ระวังเกิดสึนามิ-อุทกภัย-แผ่นดินไหว

    [​IMG]

    เมื่อเวลา 05.49 น. วันที่ 6 มิ.ย. เกิดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ดาวศุกร์เคลื่อนผ่านแนวเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์ และโลก เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน เมื่อสังเกตจากโลกจะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นจุดกลมเล็กเคลื่อนผ่านดวงอาทิตย์ ตัดจากขอบฟ้าด้านตะวันออก ไปยังด้านตะวันตก รวมเวลาทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าเวลา 05.49 น. จนถึง 11.49 น. โดยเห็นได้ในทุกภูมิภาคของประเทศ

    นายวรเชษฐ์ บุญปลอด นักวิชาการสมาคมดาราศาสตร์ไทย อธิบายถึงปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ว่า ช่วงชีวิตของคนหนึ่งมีโอกาสสังเกตปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง วันอังคารที่ 8 มิ.ย.2547 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ได้เกิดปรากฏ การณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 122 ปี เห็นได้ในประเทศไทยระหว่างเวลาประมาณ 12.13-18.21 น. และวันพุธที่ 6 มิ.ย.2555 เกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ให้เห็นได้ในประเทศไทยอีกครั้ง และนับเป็นครั้งสุดท้ายในศตวรรษนี้ หลังจากนี้คู่ถัดไปจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ.2660 และ พ.ศ.2668

    นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวถึงปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ว่า ในทางโหราศาสตร์ ดวงอาทิตย์ มีความหมายถึง ผู้นำที่มีอำนาจปกครองหรือรัฐบาล ส่วนดาวศุกร์มีความหมายถึง การเงิน ความรัก ทรัพย์สิน ผลประโยชน์ หรือการต่างประเทศ ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ จึงสามารถทำนายในเชิงโหราศาสตร์ได้ว่า ให้ผู้นำระมัดระวังเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจการเงินที่อาจจะกระทบต่อประชาชน ทำให้เกิดความมัวหมองได้

    นายภิญโญกล่าวต่อว่า ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ยังมีความหมายให้เราระมัดระวังเกี่ยวกับภัยพิบัติด้วย เนื่องจากดวงอาทิตย์ เป็นธาตุดิน, ดาวศุกร์ เป็นธาตุน้ำ ปรากฏการณ์ธรรมชาติของดวงดาวในครั้งนี้ ยังมีลักษณะคล้ายกับสุริยุปราคา ที่มีจุดดำบดบังดวงอาทิตย์ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่นัยยะในทางโหราศาสตร์

    สามารถทำนายได้ว่า ให้เราควรระมัดระวังเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ ที่เกิดจากดินและน้ำ ในที่นี้คงหมายถึง แผ่นดินไหว ดินถล่ม รวมไปถึงคลื่นยักษ์สึนามิด้วย

    เนื่องจากปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ เคยเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2547 ซึ่งในปีดังกล่าวประเทศไทยประสบภัยพิบัติสึนามิทางภาคใต้ ที่สร้างความเสียหายครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำพยากรณ์ของนายภิญโญ ในเชิงโหราศาสตร์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ที่ทำนายว่า ให้ระมัดระวังเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ ที่เกิดจากดินและน้ำ คือ แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามินั้น สอดคล้องกับคำพยากรณ์ของนายโสรัจจะ นวลอยู่ โหราจารย์ชื่อดัง ที่ระบุคำทำนายไว้ใน หนังสือศาสตร์แห่งโหร 2555 ในเดือนมิ.ย. ว่า เป็นเดือนแห่งความวิปริต ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทย และจะมีอุบัติภัยทางทะเลมากกว่าในระยะใด กรุงเทพฯ อาจเกิดเหตุตึกรามบ้านช่องที่อยู่อาศัยถล่มจากแผ่นดินทรุดตัวหลายแห่ง ทางตอนเหนือและภาคอีสานของประเทศเกิดน้ำป่าไหลบ่าลงมาจนถึงภาคกลาง เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด

    <TABLE style="WORD-SPACING: 0px; TEXT-TRANSFORM: none; TEXT-INDENT: 0px; FONT-FAMILY: 'Times New Roman'; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7861 ข่าวสดรายวัน

    ที่มา http://www.khaosod.co.th
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. oil-Nudchanat

    oil-Nudchanat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +508
    น่ากลัวจังเลยค่ะ..แต่ทำใจแล้วอะไรจะเกิดก้อต้องเกิด..:boo:
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    อยู่อย่างไรใน "กาลียุค"

    [​IMG] [​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG]
    ภัยพิบัติ


    ในปัจจุบันของเรา โบราณเขาเรียกว่า “เป็นกาลียุค” กาลี เป็นชื่อของพระแม่กาลี ว่ากันว่า พระแม่กาลี ท่านดุร้าย มีแต่ความตาย และทุกข์เวทนา คนโบราณเคยวาดภาพ กาลียุคเอาไว้ เป็นภาพของการฆ่าฟันกันอย่างไร้ความปรานี คนในยุคนั้น ไม่มีคำว่าเมตตา ปรานี ไม่มีคำว่า คุณธรรม หรือศีลธรรม ซึ่งพวกเราก็คงได้เห็นภาพลางๆ ปรากฏขึ้นมาแล้วในยุคของเรา อีกทั้ง ขอให้นำภัยพิบัติในปี 2554 บางคนบอกว่าเป็นแค่ลางบอกเหตุ ยังไม่ใช่ของจริง แต่อย่างไรก็ตาม ครั้งนั้นน่าถือเป็นบทเรียน สิ่งเป็นไปไม่ได้ ก็เป็นไปแล้ว กลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่าปี 2554 เรายังเตรียมพร้อมได้มากน้อยแค่ไหน ยังขาดอะไร ยังบกพร่องอะไร คราวหน้าปีหน้า 2555 และปี ต่อ ๆ ไปเราจะเตรียมการณ์อย่างไร และภัยวิบัติยังคงเป็นเรื่องของน้ำ อยู่หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องของ “น้ำ” ก็ถือเป็นเรื่องของโชค ถือว่าดี น้ำลดยังมีเหลือ ถ้าเป็น “ไฟ” เผาผลาญสิ้นไม่มีชิ้นดี เหลือแต่ซาก ถ้าเป็น “ดิน” แผ่นดินไหว สั่นสะเทือน พินาศย่อยยับ ก็มีตัวอย่างให้เห็น เหลือแต่ซากอีก ไม่มีชิ้นดีอีก นำมาใช้ประโยชน์อีกไม่ได้ กว่าจะฟื้นตัวยาวนาน แต่เสียหายน้อยกว่าไฟ ถ้าเป็นลม ก็มีตัวอย่างให้เห็น พายุ ทอร์นาโด ก็ถล่มทะลาย แต่ยังเหลือซาก ใช้ประโยชน์ไม่ได้อีกเหมือนกัน แต่ไอ้ที่น่ารำคาญมากที่สุด ก็เรื่องการเมือง การขัดแย้งทางการเมือง สร้างความฉิบหายให้กับประเทศไทยมากที่สุด มากกว่าภัยพิบัติทั้งปวง อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ “ฟ้าเป็นผู้กำหนด“ ถามตัวท่านเองก่อนว่า จะยอมจำนนโดยไม่สู้ หรือจะสู้โดยไม่ยอมจำนน ถ้าจะสู้ต้องคิดเตรียมการณ์ เอาปัจจุบันเป็นบทเรียน “ปฎิวัติ รัฐประหาร” “น้ำท่วมภัยธรรมชาติ” มองปัญหาก็ต้องมองกันเอาปี 2554 เป็นบทเรียน ทั้งภัยจากความโลภ ความโกรธ ความหลง มาในรูปของ”ธรรมชาติ” และภัยจาก โลภะ โทสะ โมหะ จะมาในรูปแบบ”การแตกแยกทางการเมือง” คนไทยลืมง่าย บางคนอาจจะลืมปี 2554 ไปแล้วก็ได้ ขอนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์เป็นศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เหมือนกันกับพวกเรา พระราชทานไว้เมื่อปีใหม่ “อย่าประมาท มีสติ” ถ้าไม่ประมาทก็ควรเตรียมการณ์ไว้อย่างไร โดยนำเอาปี 2554 เป็นบทเรียน

    ๑.ที่พักอยู่อาศัยไม่ได้ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ปฏิวัติ รัฐประหาร มีแต่ความตาย ความวุ่นวาย ทางแก้ ต้องหาที่พักสำรองที่ ๒ อย่าหวังเป็นผู้พักพิง อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
    ๒.ที่พักต่ำเกินไป ทางแก้ ต้องหาที่สำรองที่สูง หรือไปจังหวัดอื่น
    และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
    ๓.ขาดน้ำสะอาด อาหารแห้ง ทางแก้ ต้องเตรียมสำรองอาหารแห้ง น้ำสะอาด โดยจะต้องอยู่รอดให้ได้ไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน ถ้าสมาชิกมากก็เตรียมเอาไว้ให้มาก
    ๔.ขาดแสงสว่าง ทางแก้ เตรียมตะเกียงน้ำมันก๊าซ ไม้ขีด ไฟฉาย แก๊สหุงต้ม
    ๕.อาหารเป็นพิษ เจ็บป่วย เตรียมยาธาตุน้ำขาว สามัญประจำบ้านพื้นฐาน โดยดูตัวของท่านเองเป็นหลัก ว่าท่านมีโรคประจำตัวอะไร และต้องใช้ยาอะไรอยู่เป็นประจำ
    ๖.เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์สื่อสารในครอบครัว ทางแก้ติดต่อกันให้ได้ ไปด้วยกันทั้งครอบครัว อย่าแยกกัน กำหนดจุดนัดพบหรือจุดรวมตัวเอาไว้ล่วงหน้า
    ๗.ถ้ามีรถ เติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า ก่อนเข้าบ้านทุกครั้งเติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ ถ้านึกจะใช้รถอย่าไปเสียดายเงิน ค่าน้ำมัน การบำรุงรักษา
    ๘.มุ้ง ถุงนอน อุปกรณ์กันฝน เครื่องนุ่งหุ่ม ให้เพียงพอในครอบครัว ในยุโรปที่เจริญแล้วเจอวิกฤติคลื่นความเย็น พาดผ่านตายไปเกือบ ๓๐๐ คน
    ๙.เตรียมอาวุธ หรืออุปกรณ์ป้องกันตัว
    ๑๐.ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ข้อสำคัญ อย่าประมาท พร้อมที่จะทำตามแผน ที่วางเอาไว้
    ๑๑.หมั่นทำบุญ ทำกุศล ใช้ปัญญาพิจารณาว่า ตัวเรานั้นเกิดมาชาตินี้ ยังมีบุญ มีกุศลใด ที่เรายังไม่เคยสร้างหรือเคยกระทำ ก็จงทำตามกำลังความสามารถ บุญกุศลจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้กับเราและครอบครัวแล้วใช้จิตเป็นตัวเลือกว่า “อันว่าความชั่ว อย่าทำเลยเสียดีกว่า”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  4. n_juniorkid

    n_juniorkid Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +76
    ธรรมชาติไม่เคยปราณีใคร ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่รอด
     
  5. vitcho

    vitcho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +748
    กาลี ยุค...คือ

    คำว่ากาลี ก็ คือ คำว่า กาลเวลา.กาลเวลานั้น มี ลักษณะ ของการ ทำลายล้าง สรรพสิ่งในโลกนี้ ไม่มีใคร หนี กาลเวลาพ้น และ วัตถุทุกอย่าง ก็ไม่อาจพ้น จากความวิบัติไปได้ หาก ผ่าน กาลเวลาไป

    กาลียุค จึงแปลว่า เป็นช่วงแห่งการทำลายล้าง เป็นช่วงของการ สูญสลายไป ของ แผ่นดินทั่วโลก..ให้สังเกตุว่า โลก เราประมาณ 200 ปีที่ผ่านมา มีการค้นพบ น้ำมันเชื้อเพลิง และ มีการใช้ เชื้อเพลิงน้ำมันกันอย่างฟุ่มเฟือยทำให้ โลก พบวิกฤต จาก เรือนกระจกในอากาศ โลกร้อนขึ้น บวกกับวิทยาการ ทางวิทยาศาสตร์ก็ ก้าวหน้า จน เปลี่ยนโฉม หน้าโลกไปมากมาย...แต่ลองสังเกตุดู ทุกๆอย่างกลับ
    เสื่อมโทรม และ สูญสิ้นๆไป อย่างรวดเร็ว วัฒนธรรม ใหม่ๆ เกิด และหายไป อย่างรวดเร็ว เพราะมี วัฒนธรรมใหม่ๆ มาแทนที่ตลอดเวลา ประเพณี อะไร ที่เก่าๆ ก็ เริ่มเปลี่ยนรูปแบบไป จน ประเพณีบางอย่าง ไม่เหลือ เค้าโครงเดิม

    นี่แหละ กาลียุค ยุคที่ถูกทำลาย อันเกี่ยวเนื่องด้วยกาลเวลา
    กาลเวลา เป็นสิ่งที่ ไม่มีใคร อยากให้ผ่านไปเร็วนัก มันจึงเป็น สิ่งน่ารังเกียจ ในใจของปุถุชน ทุกคน ที่ฝังในใจลึกๆ ตลอดมา...

    เพราะ กาล เวลา ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  6. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]
    พระแม่กาลี ได้แบ่งภาคจากการบำเพ็ญตบะของ พระอุมาเทวี (พระแม่อุมา)โดยทรงมีจุดประสงค์เพื่อปราบอสูรตนหนึ่ง นามว่า อสูรทารุณ

    ความเป็นมามีอยู่ว่า อสูรทารุณนี้แม้ว่าจะถูกฆ่าสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันตาย แล้วที่สำคัญกว่านั้นเมื่อเลือดตกลงพื้นเมื่อใดก็จะทวีขึ้นเรื่อยไปไม่หมดสิ้น ความที่คิดว่ามีอิทธิฤทธิ์มากมาย ฆ่าไม่ตาย จึงทำให้อสูรทารุณเกิดฮึกเหิมในความเก่งกาจของตน จึงนำอิทธิฤทธิ์ ความเก่งกาจมาใช้ในการกลั่นแกล้ง รังแกผู้คน เทวดาทั่วไป สุดท้ายก็คิดจะครอยครองโลกทั้งสาม เมื่อเป็นดังนี้แล้วเหล่าเทวดา นางฟ้า ผู้ทรงศีลทั้งมวล จึงต้องนำเรื่องเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อหาทางปราบอสูรตนนี้ เหล่าเทวดาทั้งหลาย เมื่อได้ฟังสรรพคุณของอสูร ก็ไม่มีใครกล้าอาสาออกไปสู้รบเลย

    จากนั้น พระแม่กาลี ก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณ และด้วยฤทธิ์อำนาจของทั้ง 2 ฝ่าย การต่อสู้ที่ยาวนานจึงเกิดขึ้น

    จังหวะที่พระแม่กาลีทรงใช้ดาบฟันคออสูรขาด เลือดของอสูรก็หยดลงพื้น อสูรจำนวนมากจึงผุดขึ้นมาจากหยดเลือดเหล่านั้น อสูรที่เพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆตามหยดเลือดของอสูรทารุณ พระแม่กาลีเห็นดังนั้นจึงคิดว่าคงไม่มีวันฆ่าอสูรตนนี้ให้ตายได้เป็นแน่

    พระแม่กาลีจึงคิดกลอุบายเพื่อเอาชัยชนะในครั้งนี้ให้ได้ โดยการตัดหัวของอสูรพร้อมทั้งดูดกินเลือดอสูรก่อนที่เลือดจะตกลงพื้น เมื่อกินจนหมดสิ้นแล้ว รูปกายของพระแม่กาลีจึงอ้วนใหญ่ ในมือนั้นถือหัวของอสูรที่ตัดร้อยเป็นพวงไว้ อสูรทารุณจึงสิ้นฤทธิ์ลงด้วยเหตุนี้
     
  7. 111dew

    111dew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +145
    กาลียุคกาล มหาเทพสายอินเดียท่านเป็นใหญ่ เรารับสัจจะกันมาแล้วว่าจะช่วยกันประคับประคองพุทธศาสนา เราในนามสายญาณมหาวิษณุ หรือพระนารายณ์นั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2012
  8. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ
    คนที่ อยู่ใน ศิล ในธรรม อาจจะรอด
    วันนี้ คุณ เริ่มรักษาศิล 5 กันหรือยัง...
     
  9. Noppharat

    Noppharat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +40
    เราชอบอ่าน และศึกษาแนวนี้มาก แล้วสังเกตไปด้วย มันค่อยๆเกิดนะ เป็นจริงตามนั้น
     
  10. วรางค์คณา

    วรางค์คณา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    คิดๆตามไปแล้วเหมือนเรายังยึดติดกับการหนีเอาตัวรอดอยู่ดีอ่ะมีวิธีที่ทำให้เราลดความกลัวลงกว่านี้มั้ย
     
  11. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]

    วันนี้ ( ๑๑ มิ.ย.๕๕ ) สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน จีน เกิดอุทกภัย น้ำท่วมหนัก (๑๐ มิ.ย.๕๕) แผ่นดินไหว กรีซและตุรกี ๕ ริคเตอร์ อีกไม่เกิน ๑๕ วัน หรือไม่เกิน ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ อาจเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศไทย หรือใกล้เคียงประเทศไทย เตรียมพร้อมเอาไว้ รอให้ถึงเวลาแล้วคงไม่ทันกาล ปี ๒๕๕๔ แค่เพียงขาดแคลนน้ำมันพืช ผู้คนแย่งกันซื้อ แย่งกันกักตุน ถึุงขนาดตบตีกัน อย่าประมาทเป็นดีที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2012
  12. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    ภัยพิบัติ เกิดจากการสร้างเวร สร้างกรรมของมนุษย์ จะบรรเทาเบาบางลงได้ก็ด้วยบุญ ด้วยกุศล ปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ ให้ชีวิตเพื่อตัดกรรมปาณาติบาตร สร้างบุญสร้างกุศล ธรรมทาน วิหารทาน สังฆทาน บุญใหญ่ที่ไม่ต้องลงทุนมาก หมั่นนั่งสมาธิ ภาวนา เป็นบุญใหญ่ ที่กล่าวว่าเป็นบุญใหญ่
    ๑. ขณะนั่งสมาธิ ภาวนา พุทโธ หรือสัมมาอรหัง ขณะนั้นจิตไม่ได้คิดไปฆ่าใคร ไปทำร้ายใคร ศีลข้อ ๑ ครบถ้วน
    ๒.ขณะนั่งภาวนา ไม่คิดไปลักทรัพย์ หรือคิดอยากได้ทรัพย์สินของใคร ศีลข้อ ๒ ครบถ้วน
    ๓.ขณะนั่งภาวนา ไม่ได้ไปผิดลูก ผิดเมียใคร ศีลข้อ ๓ ครบถ้วน
    .ขณะนั่งสมาธิภาวนา ไม่ได้ไปใส่ร้ายป้ายสีใคร ไ้ม่ได้ไปหลอกลวงใคร ศีัลข้อ ๔ ครบถ้วน
    ๕.ขณะนั่งสมาธิภาวนา ไม่ได้เสพของมึนเมา หรือยาเสพติด ศีลข้อ ๕ ครบถ้วน

    ด้วยเหตุนี้ สมาธิ ภาวนา จึงเป็นบุญใหญ่ ไม่ต้องลงทุนมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...