เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424

    ที่ผมฟังมา ZERO-TH TALK (www.zerothtalk.org) บอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ คุญยายแนนซี ก็บ่นไปเรื่อยล่ะครับ
     
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แนนซี่เค้าก้เหมือนเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของชาวซีต้า ซึ่งมีองค์ความรู้เยอะครับ ลำพังแนนซี่คงไม่มีพลังมากพอครับ

    <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> [​IMG]

    [​IMG]

    อะซาเลีย เป็นทั้งไม้ดัด และไม้ดอก แต่ไม่ใช้ไม้ แ..ก ครับ
    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2012
  3. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    ลับๆแล้วอาจจะมาจาก ชาวซีต้ามินาติ ก็เป็นได้ (สงสัยอยู่เพราะคร่าวๆว่ามันหลายครั้งแล้วไง)
     
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    จะว่าไป ชาวซีต้ากลุ่มนึงก็ร่วมกับอิลูมิเนติ ก็คือชาวเกรย์ครับ
    --ช่วงนี้ผมกำลังหาต้นไม้มาปลูกอยู่ ไม่ได้ไปแก้สำนวนแปลกูเกิ้ลเลย สายตาไม่ค่อยดีด้วยครับ ต้องใช้เวลาอีกเยอะมั้ง
    --ช่วงนี้ก็ดู ดอกไม้-ต้นไม้ไปก่อนครับ ช่วงนี้เขียนรวมสามเว็ป และทิ้งไปสองเว็ปครับ--คือเว็ปปาล์ม และบล็อกผม
    ZetaTalk: What Magnets Dowritten Feb 8, 2004


    <HR>
    There were big Global Quakes smack dab at the Face side, the Atlantic Rift facing Planet X, this morning, Feb 8. And there are reports from various sources that we tipped our N Pole even further toward the Sun. What do magnets do when they are held apart by Repulsion Force, moving by momentum, and cannot just snap together to form one big magnet or go end to end?
    An Analysis of the solar system and how the planets line up, as magnets, with the Sun shows a variety of positions. Earth and Mercury, both with magnetic cores and in close proximity to the Sun, align alongside of the Sun attempting to form one large magnet. Bar magnets, free to move, will snap together side by side to form one large magnet, but planets held apart from each other or their Sun by the gravity Repulsion Force cannot actually touch. The large gaseous planets, Jupiter and Saturn, are in a Reversed polarity, as we have explained, as they are simply a conduit for the flow of magnetic particles, not themselves magnets. And Neptune and Pluto align themselves with the magnetic flow lines, from afar, as iron ore shavings will do when laid next to a magnet. All the planets being, however, on the Ecliptic and none approaching the Sun to pass by sliding past its S Pole as Planet X is doing. Thus, where the alignment of Planet X to be in alignment with the Sun holds when Planet X, like the other planets, is alongside the Sun, when sliding past either of the Sun’s pole as it passes the Sun, there is likely to be a tilt. How else does a magnet move from being an end-to-end magnet, to becoming a side-by-side magnet, thence returning to an end-to-end posture? It tilts. Temporarily.
    [​IMG]
    During the late December sweep of the Sweeping Arm of the Sun the effect on Earth was that both planets were thrown against each other, magnetically, with the Earth bouncing back like a ball thrown against a wall on or about Dec 25 into a reversed orbit. It also tilted, first the S Pole of Earth pulling along with the N Pole of Planet X as it tilted toward the Sun, such that Iceland temporarily became the geological N Pole of Earth, then tilting back away as Planet X continued to rise toward the Ecliptic so that the S Poles repulsed each other and the Earth, always the lesser in this drama, Adjusted by pointing its S Pole away from the S Pole of Planet X.
    The February sweep, assumed to arrive on Feb 9-14 but never precise nor lasting merely a day, heralded itself by Feb 6 with strong Global Quakes and an increased tilt of the S Pole of Earth away from the rising S Pole of Planet X, a consequent increased tilt such that the geographic N Pole of Earth moved further into Mongolia, and the confused inhabitants of Planet Earth saw once again their Sun rising too high or low, with no explanation from their experts. The Land of Oz. The Atlantic Rift is now fully exposed to the giant magnet, Planet X, and by Feb 8 the force of this Face Grip and its anticipated effect on a slowing rotation were obvious. How far might this proceed? Might Planet X flop sideways, magnetically, on its way to the Sun’s middle where it can assume a side-by-side alignment? Might the Earth, in the Unshakable Grip of Planet X, follow suit? As we stated on the Lou Gentile hour update, there are wild cards yet to be played, which we will not reveal, as the establishment is still not alerting the common man to what they know is coming.


    ZetaTalk: พลังแม่เหล็กทำอะไรได้บ้าง 8 กุมภาพันธ์ 2004-------------------------------------------------- ------------------------------มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ทั่วโลกตีตบเบา ๆ ที่ด้านข้างใบหน้า, ระแหงแอตแลนติกหัน X Planet, เช้านี้ 8 กุมภาพันธ์ และมีรายงานจากแหล่งต่างๆที่เราปลายเสา N ของเราให้ดียิ่งขึ้นต่ออาทิตย์เป็น แม่เหล็กจะทำอย่างไรเมื่อพวกเขาถูกจัดขึ้นโดยกองทัพนอกเหนือขับออกจากการย้ายโดยโมเมนตัมและไม่สามารถเพียงแค่ชิดกันแบบหนึ่งแม่เหล็กขนาดใหญ่หรือไปจบสิ้น?การวิเคราะห์ของระบบพลังงานแสงอาทิตย์และวิธีการสายดาวเคราะห์ขึ้นเป็นแม่เหล็กมีดวงอาทิตย์แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของตำแหน่ง โลกและดาวพุธทั้งกับแกนแม่เหล็กและในบริเวณใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์จัดควบคู่ไปกับของดวงอาทิตย์ที่จะพยายามรูปแบบหนึ่งแม่เหล็กขนาดใหญ่ แม่เหล็กบาร์, อิสระที่จะย้ายจะ snap ร่วมกันเคียงข้างกันในรูปแบบหนึ่งแม่เหล็กขนาดใหญ่ แต่ดาวเคราะห์ที่จัดขึ้นนอกเหนือจากแต่ละอื่น ๆ หรืออาทิตย์ของพวกเขาโดยกองทัพขับออกจากแรงโน้มถ่วงไม่สามารถสัมผัสได้จริง ดาวเคราะห์ก๊าซขนาดใหญ่ที่ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์อยู่ในขั้วตรงกันข้ามที่เราได้อธิบายเช่นที่พวกเขาเป็นเพียงท่อสำหรับการไหลของอนุภาคแม่เหล็ก, แม่เหล็กตัวเองไม่ได้ และดาวเนปจูนและดาวพลูโตเรียงตัวกับสายการไหลของแม่เหล็กจากระยะไกลเป็นเศษแร่เหล็กจะทำอย่างไรเมื่อวางถัดจากแม่เหล็ก ดาวเคราะห์ทั้งหมดเป็นอย่างไรเมื่อสุริยุปราคาและไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ดวงอาทิตย์จะผ่านโดยการเลื่อนที่ผ่านมาขั้วโลก S เป็น Planet X จะทำ ดังนั้นที่การจัดตำแหน่งของ X โลกจะอยู่ในแนวเดียวกันกับดวงอาทิตย์ถือเมื่อ X Planet, เหมือนดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่เป็นไปพร้อมกับดวงอาทิตย์เมื่อเลื่อนที่ผ่านมาทั้งสองขั้วของดวงอาทิตย์ขณะที่มันผ่านไปอาทิตย์มีแนวโน้มที่จะเป็น เอียง ย้ายแม่เหล็กจากการเป็นแม่เหล็กแบบ end-to-end ที่จะกลายเป็นแม่เหล็กเคียงข้างกัน, ไม่มีวิธีอื่นที่จะกลับไปที่นั่นท่าทางแบบ end-to-end? มันเอียง เป็นการชั่วคราวในช่วงปลายเดือนธันวาคมกวาดแขนกวาดของดวงอาทิตย์มีผลในโลกคือการที่ดาวเคราะห์ทั้งสองถูกโยนต่อกันสนามแม่เหล็กกับโลกกำยำกลับเหมือนลูกบอลโยนกับผนังหรือเกี่ยวกับการ ธ.ค. 25 ขึ้นสู่วงโคจรกลับ นอกจากนี้ยังเอียงก่อนขั้วโลกของโลกดึงพร้อมกับขั้วโลก น. Planet X ที่มันเอียงไปทางดวงอาทิตย์เช่นที่ประเทศไอซ์แลนด์ชั่วคราวกลายเป็นเสา N ทางธรณีวิทยาของโลกนั้นเอียงกลับไปเป็น Planet X ยังคงเพิ่มขึ้นต่อ สุริยุปราคาเพื่อที่เสา S ผลักซึ่งกันและกันและโลกเสมอเลสเบี้ยนในละครเรื่องนี้ปรับการเปลี่ยนแปลงโดยการชี้เสา S มันอยู่ห่างจากขั้วโลกของโลก X.กวาดกุมภาพันธ์สันนิษฐานว่าจะมาถึงเมื่อ 09-14 กุมภาพันธ์ แต่ไม่เคยได้อย่างแม่นยำและยาวนานเพียงวัน, ประกาศตัวเองโดยมี 6 กุมภาพันธ์ไหวสากลที่แข็งแกร่งและความลาดเอียงที่เพิ่มขึ้นของขั้วของโลกอยู่ห่างจากขั้วโลกที่เพิ่มขึ้นของ Planet X, เอียงเพิ่มขึ้นเป็นผลเนื่องเช่นที่ขั้วโลกทางภูมิศาสตร์ยังไม่มีของโลกย้ายต่อไปในมองโกเลียและชาวสับสนของ Planet Earth เห็นอีกครั้งของพวกเขาเพิ่มขึ้นอาทิตย์สูงเกินไปหรือต่ำที่มีคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญของพวกเขายังไม่มี ดินแดนแห่ง Oz ระแหงแอตแลนติกขณะนี้อย่างเต็มที่ที่จะสัมผัสแม่เหล็กยักษ์ Planet X และโดย 8 ก.พ. แรงของด้ามจับใบหน้านี้และผลที่คาดว่าในวันที่ชะลอตัวหมุนอยู่อย่างเห็นได้ชัด วิธีนี้อาจจะดำเนินการต่อหรือ อาจ Planet X ตาฟล็อป, สนามแม่เหล็กบนทางของมันไปตรงกลางของดวงอาทิตย์ที่มันสามารถดำรงการจัดแนวด้านข้างโดย? อาจโลกใน Grip มั่นคงของ Planet X, ตามเหมาะสม? ขณะที่เราระบุไว้ในการปรับปรุง Lou ชั่วโมง Gentile มีบัตรป่ายังไม่ได้เล่นซึ่งเราจะไม่เปิดเผยเป็นสถานประกอบการยังไม่สามารถแจ้งเตือนให้คนทั่วไปที่จะรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาจะมาเป็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012
  5. khunfong

    khunfong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +162
  6. boomthestar2541

    boomthestar2541 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ....

    คนที่โพส เรื่องมนุษย์ต่างดาว เรื่องเยอะจังเลยคับ อ่านไม่จบสักที:cool:
     
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ครับ ที่แปลมาเพิ่ง 8 หน้าเอง ที่เขียนที่เว็ปญาณทิพย์ ปาเข้าไป70กว่าหน้าแล้ว ตอนนี้หากระทู้เพิ่งเจอครับ


    --มะนาวพันธุ์ใหม่มาแล้วครับ แป้นวิเศษ ดกมาก ลูกโตกว่าพิจิตร1 ขั้วเหนียวกว่า ออกเป็นพวง น่า จะเกิดจากแป้นรำไพ ผสมกับพิจิตร1 งอกอยู่โคนต้น --สนใจติดต่อ คุณไพบูลย์ จ.อ่างทอง เจ้าของสวน มีคนซื้อไปปลูกเยอะแล้ว (086)765-6485 (087)519-1288 ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆครับ ใครโทรไปแล้วกิ่งไม่แพง--จงมาโพสบอกด้วยครับ

    --มีคนคิดทำครีมทาหน้าขาวจากผลหม่อนแล้วครับ คนไทยครับ คุณ ดวงดาว จารุจินดา
    --มีโฟมทาผิวขาวจากน้ำยางพารา ผลงานวิจัยของไทย
    -ขณะ นี้พื้นที่ปลูกพืชอาหารลดลง เฉพาะเมืองไทยนี้ การขยายตัวของยางพาราจะกินพื้นที่มากกว่า เพราะน้ำยาง1กก. สามรถทำถุงยางอนามัยขายได้เงินรวม สี่หมื่นบาทครับ ส่งผลให้ราคายางร้อนแรงมากครับ จีนหนุนพม่าปลูกและรับซื้อไม่อั้น
    --เปลือกมังคุดรักษาแผลได้ดี และมีผู้ผลิตเป็นครัีมกำจัดสิว สบู่ น้ำมังคุดที่ขายกันก็ปั่นรวมทั้งเปลือก
    --เลี้ยงหนอนนกเป็นอาชีพเสริม กก.ละ300 บาท--ตลาดยังต้องการเยอะ เพราะนกบอกว่า "กินไม่รู้เบื่อ"
    --ครีม จากเมล็ดลำใย ชื่อ ลองกานอยด์ ผลงานวิจัยจาก ดร.อุษณีย์ คณะแพทยศาสตร์ มช.-- รักษาการปวดหัวเข่า กล้ามเนื้อ ลดการเสื่อมของกระดูกอ่อน และกระดูกหลัก แก้กระดูกเสื่อม ข้อเสื่อม รูมาตอยด์ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ คอลลาเจน และอีลาสติน (053)944-088, (081)530-3007

    -เวียดนามตอนนี้ สนับสนุนการปลูกแอปเปิ้ลน้ำนม ส่งออก ที่จริงก็คือ แอปเปิ้ลสตาร์บ้านเรานี่เอง ผมก็ชอบกินครับ สายพันธุ์อาจจะมาจากทางมาเลย์ คงมาตั้งแต่สมัย เส้นทางสายแพรไหม(ซิ้ลค์โร้ด)แล้วหละครับ
    --ต้นไม้ที่เป็นยาดีตลอดกาล และสามารถปลูกขายได้ตลอด ใส่แคปซูล ราคาประมาณ 2บาทนะครับ บรรดา ยาขมยี่ห้อต่างๆก็คือตัวนี้ครับ
    ยา ปราศัตตรูพืชที่ดีที่สุด คือเมล็ดสะเดา หรือสะเลียมของเรา มีสารฆ่าแลงราว270 ชนิด ซึ่งแลงไม่สามรถปรับภูมิต้านทานต่อมันได้ และไม้สะเดาสามรถมาสร้างบ้่านและเครื่องเรือนได้ด้วยครับ

    --กระทำโดยการไม่กระทำ เป็นหลักของพุทธนิกายเซน มีคนนึงได้ที่ดินจากพ่อมา ก็ปล่อยไว้เฉยๆ 30-40ปีผ่านไป ตัดต้นไม้ขายได้ต้นละแสนครับ ฟูกูโอกะก็ยึดหลักนี้ครับ

    ที่บ้านผมไม่มีพื้นที่เป็นดิน มีแต่ซีเมนต์ จึงปลูกข้างถนนหน้ารั้ว ไม่ใช้ปุ๋ยแต่ใช้เปลือกผลไม้ทิ้งลงไป
    มี พริก หลายชนิด ฟักทอง และเสาวรสที่ขึ้นเอง ผมสังเกตว่ามีพันธุ์พริงแบบหนึ่งงอเป็นตะขอ แต่คงไม่ได้พันธุ์ เพราะต้นกำลังจะตายครับ ที่เด่นชัดก็มีพริกขี้หนูที่กลายพันธุ์ เพราะมันยาวผิดปกติ ใครอยากได้ก็พีเอ็มหลังไมค์มาครับ มีประมาณ5-6ฝัก ฟักทองเพิ่งจะติดลูก น่าจะเป็นพันธุ์ไต้หวันผิวเรียบสีส้มๆ พริกใหญ่ๆคือพริกแห้งธรรมดา อาจจะเป็นของอุบล หรือ จินดา ยอดสน ก็ไม่รู้ได้ เพราะโยนๆไป หรือที่เหลือจากทำอาหาร ไม่ได้แยกเพาะครับ--รูปนี้ถ่ายเมื่อกี้นี้เองครับ
    [​IMG]

    สตาร์แอปเปิ้ล
    เลขทะเบียน : 7-53000-001-0194
    ชื่อสามัญ : Star Apple
    ชื่อพื้นเมือง : สตาร์แอปเปิ้ล (กรุงเทพ); หม่าเปิ้ล (แพร่)
    ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chrysalidocarpus Cainilo L.
    ชื่อวงศ์ : SAPOTACEAE
    ลักษณะ
    ต้น : เป็นไม้ยืนต้นที่ค่อนข้างสูง มีความสูงประมาณ 4-5 เมตร
    ใบ : ใบจะมีลักษณะโตหรือยาวรีตรงปลายใบจะแหลม ขอบใบมีรอยหยักคล้ายฟันเลื่อย ใบจะมีความยาวประมาณ 4.5-10 เซนติเมตร กว้างประมาณ 3-5.5 เซนติเมตร ใบอ่อนจะมีขนอ่อน นุ่มสั้นๆ ปกคลุมอยู่
    ดอก : เป็นดอกช่อ ช่อหนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 3-7 ดอก ดอกจะเป็นสีขาวหรือชมพูเข้ม และมีกลีบเลี้ยง เป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ 5 กลีบ กลีบดอกออกอีก 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก เกสรตัวเมียมี 5 อัน
    ผล : เป็นทรงกลมออกจะแบนเล็กน้อยผลโตวัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้ประมาณ 7 เซนติเมตร
    เมล็ด : มีลักษณะเป็นเม็ดหัวท้ายเรียวแหลมตรงกลางป่อง ผิวมันค่อนข้างแข็งสีน้ำตาลหรือว่าสีดำ
    การกระจายพันธุ์
    พบทางภาคเหนือ
    การขยายพันธุ์
    ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง
    ประโยชน์
    ข้อมูลจากเอกสาร : ใบ ผล เปลือกผล ใช้เป็นยา สำหรับผลนั้นถ้ากินมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการอัดแน่น โดยเฉพาะในคนไข้ที่นอนป่วยอยู่
    ข้อมูลจากภูมิปัญญาไทย : ลำต้น ใช้เป็นเชื้อเพลิง และใช้เป็นส่วนประกอบในงานก่อสร้างต่างๆ
    เอกสารอ้างอิง นันทวัน บุญยะประภัสสร และอรนุช โชคชัยเจริญพร. 2542. สมุนไพรพื้นบ้าน . กรุงเทพ ฯ . ประชาชน จำกัด.
    ผู้สำรวจ นายอนุพล พันธ์มณีสถาบันราชภัฏอุตรดิตถ์ วันที่ศึกษา29 กรกฎาคม 2542
    ผู้ตรวจ อาจารย์ฟองจันทร์ บุญญานุภาพ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2012
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ใครปลูกต้นไม้แปลกๆได้แล้วอย่าลืมเอามาโชว์เน้อ ผมเองถ้ามีก็จะโชว์ครับ

    --ลืมเล่าเรื่องการปลูกข้าวอีกนิดนึง
    ---บางคนไม่ยอมซื้อพันธุ์ข้าว แต่สนใจข้าวที่งอกออกมาจากตอซัง ไม่ยอมใสปุ๋ย ใบข้าวก็เหลือง เหมือนกำลังจะตาย ชาวนาแปลงข้างๆก็วิจารณ์กันว่า "มันท่าจะบ้าไปแล้ว ฟันธง" แต่พอข้าวออกรวง ก็ยืดตัวเท่าๆกับข้าวทั่วไป และให้ผลผลิตดีเท่าเดิม
    --บางคนก็ใช้ยางรถเก่าหุ้มรถไถเล็ก--แล้วย่ำตอซังครับ วิธีนี้จะทำให้ข้าวที่งอกใหม่แตกยอดได้ดี เพราะตอซังรัดต้นข้าวอยู่ แบบนี้ก็เช่นกัน ไม่ต้องหว่านใหม่แต่อย่างใด ฟางข้าวเก่า และตอซังก้เป็นปุ๋ยอย่างดี
    --การเผาฟาง ก็เป็นสาเหตุของโลกร้อนเปล่าๆ นำมาคลุมดินปลูกผักก็ดีครับ บางคนนำมาคลุกกับขัี้โคลน ทำบ้านดินได้อีก
    ---ส่วนใหญ่ชาวนาก็ปล่อยให้หญ้าขึ้นในนาข้าว พอหน้านาก็ไถกลบปล่อยให้เน่าเป็นปุ๋ยไป
    --ทำไมต้นข้าวโดนน้ำท่วมกอ แต่ไม่ตาย เพราะข้าวเป็นพืชที่มหัศจรรย์มาก มีอวัยวะที่ดึงออกซิเจนลงไปเลี้ยงรากและลำต้นได้ ตราบใดที่น้ำไม่ท่วมมิดยอดข้าว ข้าวก็จะไม่ตาย ในขณะที่ต้นหญ้ากลับตายแทน-

    --นาข้าวที่ดีๆ ที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี จะเลี้ยงปลาในนาก็ได้ครับ ผมเองพยายามจะจับปลาตัวเล็กในนาข้าว มันสวยมากครับ มีสีฟ้าสีแดง แต่มันไวมากครับ พอมีน้ำ ปลาก็ไม่รู้มาจากไหน แม้แต่ฝนแรก ปลาก็ออกดิ้นกันโฉงเฉงแล้ว นักวิชาการว่า มันจำศีลอยู่ในโคลนครับ

    --ปลาดุก กินได้ทั้งอาหารที่เป็นพืชและสัตว์ แบบเดียวกับปลาช่อน จึงโตเร็วกว่าปลานิลมากครับ
    การเลี้ยงในธรรมชาติ ถ้าปล่อยน้อยๆ พวกเศษผักมันก็กินครับ ประหยัดค่าอาหารไปได้บ้าง หาผักตบชวามาเยอะๆ มันจะกินราก- กินใบจนเหี้ยนเลยครับ ส่วนอาหารเม็ดให้เท่าไหร่ก้ไม่พอ ถ้ากินเหลือแล้วทำให้น้ำเสียง่ายครับ

    --การเลี้ยงไก่ เราจะปล่อยใต้ต้นลำใยก็ได้ครับ ไก่จะกินแมลง ใบหญ้า อะไรต่างๆ คนนิยมเลี้ยงไก่สามสายเลือดเพราะทนทาน สองอย่างนี่เคยทำมาแล้วครับ ลงแรงขุดบ่อเอง-ไม่เทคาน ปัจจุบันน้ำฝนเยอะมันมีแรงดัน เลยกลายเป็นระเบิดทำลายบ่อไปแล้ว
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top rowSpan=2 width="15%">
    กระทู้: 663

    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]

    </TD><TD height="100%" vAlign=top width="85%"><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=left>[​IMG] [​IMG]</TD><TD vAlign=middle align=left>Re: คนเล่นของ(แปลก) ต้นมารูล่า ไม้ต่างแดนตระกูลเบอรี่-เมืองไทยมีขายครับ-ไม่ได้ขายของ
    « ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2012, 20:13:01 »
    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom noWrap align=right>[​IMG][​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">[​IMG]

    แอปเปิ้ลสตาร์พิลาคันท่า จากดอยปุย ตามนี้ครับ ส่วนลูกสีม่วงแบบของเรา ที่เมืองนอกมีครับ เคยค้นอยู่ครับ
    http://www.oknation.net/blog/print.php?id=463447
    ----------------------------------------------------
    สตาร์แอ๊ปเปิ้ลจากวิกิปีเดียครับ Star Apple--- Wikipedia ชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Chrysophyllum cainito
    --แหล่งกำเนิดอยู่ที่อเมริกากลาง และหมูเกาะเวสต์ อินดี้ มาเมืองไทยได้ไงไม่รู้ อาจจะเป็นชาวอังกฤษนำพันธุ์มา สมัยมาทำไม้สักภาคเหนือ เพราะภาคอื่นไม่ค่อยมีครับ ต้นอาจสูงถึง20 เมตรได้ ในเวียตนามน่าจะชาวฝรั่งเศสเอามา
    http://en.wikipedia.org/wiki/Chrysophyllum_cainito
    ----ใครเคยไปเที่ยวเชียงตุง ที่แถวๆกลางเมืองมีค้นไม้ยืนต้นดอกสีฟ้าๆ ชาวบ้านเรียกว่า ปอยส่าง(..ชื่อสี) อะไรสักอย่าง นี่แหละครับ นึกไปนึกมา คำว่าปอย เป็นภาษาไทยโบราณ ไม่ใช่ภาษาพม่าหรอกครับ
    และคนแถวเชียงตุงจะคิดว่าพวกเราคือคนไทยด้วยกัน คนพม่านั้นแตกต่างไปทั้งหน้าตาและภาษาพูด
    --พ่อของ พลเอกชาติชายก็เคยไปปกครองเชียงตุง ยุคนั้นพวกเขาบอกว่มีความสุขมาก--(พูดไปเดี๋ยวจะเกิดปัญหาระหว่างประเทศปล่าวๆX --ดอกไม้ต้นนั้นชื่อ แจ๊คคาแรนด้าครับ สวยสุดๆ คล้ายดอกชมพูพันทิพย์แต่เป็นสีน้ำเงิน บางต้นทิ้งใบมีแต่ดอก ถิ่นกำเนิดอยู่อเมริกากลาง มี49 สายพันธุ์ บางพันธุ์สีชมพู-- สวยแบบต้นเหลืองเชียงรายประมาณนั้น ดอกฝ้ายคำก็สวยครับ
    --แจ็คคาแรนด้า ในเว็ปของ มิสเตอร์บีนมีขายครับ คิดว่าผ่านตาแว็บๆ ผมเองสนใจโสมคน ที่คล้ายๆตัวกับขาาคนแบบนั้นครับ เพราะเมื่อก่อนหาเมล็ดยาก เดี๋ยวนี้บางคนก็เล่นปลูกพวกนี้ครับ กับพวกว่านค้างคาวดำ เขาว่ารักษามะเร็งได้(เขาว่า...ต้องเอา 5 หาร)

    http://en.wikipedia.org/wiki/Jacaranda_mimosifolia

    http://en.wikipedia.org/wiki/Jacaranda

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom><TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext colSpan=2 align=left></TD></TR><TR><TD id=modified_2921291 class=smalltext vAlign=bottom align=left>« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 มิถุนายน 2012, 23:01:10 โดย jesdath » </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ครเห็นแล้วอยากลงไปนอนดิ้นเพราะความสวย ก็แสดงว่าหลงรักต้นไม้ ดอกไม้เข้าให้แล้วครับ
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    --เกิดมีขึ้นหน้าบ้านท่านใด ต้นย่อมๆ ดอกสวยๆ นักข่าวต้องไปเยือนบ้านท่านแน่ๆครับ แฮ่ๆ

    --เทศบาล จว.ต่างๆไม่สนใจบ้างเหรอ หรือขี้เกียจกวาดถนน ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้กลางถนนเยอะๆบังสายตาคนก็ไม่ดีนะครับ ชีวิตคนสำคัญที่สุด จริงๆแล้วมีเยอะมากที่เทศบาลทำพลาดแล้วยังแก้ไม่หมด เพราะตอนทำลืมคิดก่อนเช่นฟุตบาทหินขัดมัน และฟุตบาทที่รถสามารถวิ่งขึ้นไปชนคนที่เดินอยู่ได้ง่ายๆ มีประเทศไหนเขาทำกันบ้างครับ ----อยู่ๆก็๋ขึ้นภาษีบ้านเรือน พอสอบ--ถามก็บอกว่า ขึ้นเหมือนกันทั่วประเทศ แสดงว่าคนจนต้องไปอยู่ตามป่าตามเขา อยู่ใกล้ความ้จริญขัดหูขัดตาเจ้านาย--บ่นๆครับ ใครไม่ชอบอ่านโปรดข้ามไป
     
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---สารสกัดจากใบของต้นแอปเปิ้ลสตาร์ช่วยลดเบาหวานและการช๊อคของกล้ามเนื้อหัวใจได้ครับ
    ----ว่านค้างคาวดำ ฝรั่งก็เรียกเหมือนคนไทย คือ Bat Flower

    Cercis siliquastrum, Judas Tree - Flowerstore | Amazing Flowers | Rare seeds and Plants - Rare

    [​IMG]

    สมาพันธืไม้ดอกขอโชว์ความสวย

    [​IMG]

    นกยังขอชมดอกไม้ด้วย

    [​IMG]

    อยู่ด้านหน้าหน้าผายังดูเด่น

    [​IMG]
     
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แอปเปิ้ลสตาร์ สีเขียว สีแดง ก็มีครับ รวมๆแล้วมีสามสี

    File:Chryso caini 071010-0476 jtg.jpg - Wikipedia, the free encyclopedia

    ถ้าสีชมพู จะไม่ต่างกับชมพูพันทิพย์เลยตรงดอก แต่ใบผมว่าต่างกันครับ แจคาแรนด้าจะใบเล็กๆ กิ่งของชมพูพันทิพย์จะเปราะมาก เห็นเขาเรียกว่า ตะเบบูย่า

    [​IMG]

    --อืม ใช่ครับ ศัพท์พฤกษศาสตร์เรียกว่า ตะเบบูย่าจริงๆด้วย แสดงว่าเป็นสปีซีส์ที่ต่างกัน บังเอิญดอกมันคล้ายกันเท่านั้นเอง
    ---------------------------------------------------------

    ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยมายาวนานมาก ถ้าถึงหน้าที่มันออกดอกจะสวยมากเพราะเป็นสีชมพูทั้งต้น ทุกรุ่นที่อยู่ในโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยตอนม.6 เค้าจะดูกันว่าถ้าดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ออกเยอะก็แสดงว่าเด็กม.6เอ็นติดเยอะ ต้นไม้ต้นนี้ร่มรื่นมาก เพราะสูงใหญ่เป็นระบบนิเวศที่สำคัญ

    ชื่อสามัญ Pink Trumpet, Pink Tecoma, Rosy Trumpet-tree


    ชื่ออื่น ๆ ชมพูอินเดีย, ตาเบบูยา, ธรรมบูชา

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Tabebuia rosea (Bertol.) DC.

    วงศ์ Bignoniaceae

    ชนิดพืช [Plant Type] : ไม้ต้น

    ขนาด [Size] : สูง 15-25 เมตร

    สีดอก [Flower Color] : สีชมพูอ่อน ชมพูสด ขาว

    ฤดูที่ดอกบาน [Bloom Tiem] : ก.พ.-เม.ย.

    อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : โตเร็ว

    ลักษณะนิสัย [Habitat] : ขึ้นได้ในดินทั่วไป

    ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง

    แสง [Light] : แดดเต็มวัน

    ลักษณะทั่วไป

    เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 15-25 เมตร ผลัดใบ เปลือกต้นเรียบ สีเทาหรือสีน้ำตาล ต้นที่มีอายุมากเปลือกจะแตกเป็นร่อง เรือนยอดรูปไข่หรือทรงกลมแผ่กว้างเป็นชั้นๆ ใบ เป็นใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบย่อย 5 ใบ ใบรูปขอบขนาน หรือรูปไข่แกมรูปรี ปลายใบแหลมหรือเรียวแหลม โคนใบมนหรือสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ดอก ออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยจำนวนมาก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ คล้ายรูปแตร มีหลายสี คือ สีขาว ชมพูอ่อน หรือชมพูกลางดอกสีเหลือง ดอกมักบานพร้อมๆกันและร่วงง่าย ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ผล เป็นฝัก เมื่อแก่จะแตกออก ขนาดฝัก (ยาว x กว้าง x หนา) 32.53 x 1.24 x 0.99 ซม. เมล็ด มีลักษณะแบน สีน้ำตาล มีปีกเป็นเยื่อบางทั้ง 2 ด้านของเมล็ด ขนาดเมล็ด (ยาว x กว้าง x หนา) 0.73 x 1.34 x 0.99 ซม.


    ชมพูพันธุ์ทิพย์ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Tabebuia heterophylla (DC) Briton. อยู่ในวงศ์ Bignoniaceae เช่นเดียวกับทองอุไรและศรีตรัง เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงราว ๘-๑๒ เมตร
    ใบเป็นแบบผสม มีใบย่อย ๕ ใบบนต้นเดียวกัน แผ่ออกคล้ายใบปาล์ม ผิวไม่เรียบ ปลายใบแหลม ยาวประมาณ ๑๒ เซนติเมตร กิ่งก้านสาขาแผ่ออกเป็นพุ่มค่อนข้างแน่น
    ชมพูพันธุ์ทิพย์ ใบแก่และทิ้งใบในฤดูหนาว ช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม หลังจากนั้นจะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ดอกออกเป็นช่อตามกิ่งก้าน ช่อละ ๕-๘ ดอก
    ดอกย่อยลักษณะคล้ายดอกผักบุ้งหรือปากแตร คือโคนดอกเป็นหลอดยาวปลายดอกบานออกเป็น ๕ กลีบ กลีบดอกบาง ย่นเป็นจีบๆ และร่วงหล่นง่าย จะเห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ร่วงหล่นกระจายอยู่รอบๆ ต้น งดงามพอๆ กับที่บานอยู่บนต้น ดอกย่อยแต่ละดอกกว้างราว ๘ เซนติเมตร ยาวราว ๑๕ เซนติเมตร
    สีของกลีบดอกปกติเป็นสีชมพูสดใส แต่มีความเข้มและจางแตกต่างกันไป โดยเฉพาะต้นที่เกิดจากเมล็ดจะมีความผันแปรมากมาย ตั้งแต่สีชมพูจางเกือบขาวไปจนถึงสีเข้มเกือบเป็นสีม่วงแดง
    เมื่อดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ร่วงหล่นแล้ว จะติดฝักรูปร่างคล้ายมวนบุหรี่ ยาวราว ๑๕ เซนติเมตร เมื่อฝักแก่ราวเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม จะแตกออกด้านเดียวตามยาว แล้วเมล็ดที่มีปีกก็ปลิวไปตามลมได้ไกลๆ
    ต้นกำเนิดของชมพูพันธุ์ทิพย์ อยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาได้ถูกนำไปปลูกในเขตร้อนทวีปต่างๆ อย่างแพร่หลายรวมทั้งประเทศไทย
    สำหรับประเทศไทยมีบันทึกเป็นหลักฐานว่า เป็นผู้นำเข้ามาในประเทศครั้งแรกคือ กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต และ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร จึงตั้งชื่อตามสีดอก และเป็นเกียรติแก่ผู้นำเข้าว่า ชมพูพันธุ์ทิพย์ ชื่อเดิมคือ ตาเบบูย่า มีชื่ออื่นๆ คือ แตรชมพู ธรรมบูชา ชื่อในภาษาอังกฤษคือ Pink Trumpet Tree ตามลักษณ์ของดอกนั่นเอง

    ประโยชน์ของชมพูพันธุ์ทิพย์


    ชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ทนทานต่อดินฟ้าอากาศ และโรคแมลง โตเร็ว มีดอกงดงาม จึงนิยมนำไปปลูกเป็นไม้ประดับและร่มเงาในบริเวณสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ และตามถนนหนทาง
    เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เพิ่งเข้ามาเมืองไทยได้ไม่กี่สิบปี จึงยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ทางสมุนไพรและด้านอาหาร
    เท่าที่สังเกตดูดอกของชมพูพันธุ์ทิพย์น่าจะไม่มีพิษภัย อาจจะนำมาประกอบอาหารได้ เช่น การชุบแป้งทอด เป็นต้น นอกเหนือจากการรวบรวมไปหมักปุ๋ยน้ำ หรือน้ำจุลินทรีย์ในระบบเกษตรอินทรีย์
    ไม่ว่าบรรยากาศบ้านเมืองร้อนรุ่มอย่างไร หากคนไทยมองโลกในแง่ดี มองเห็นความสดใสงดงามจากธรรมชาติและฤดูกาล ดังเช่นจากดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ในยามนี้ ก็เชื่อแน่ว่าคนไทยจะนำพาชาติบ้านเมืองผ่านพ้นทางตัน และพบความสงบ สันติสุขได้ในไม่ช้า

    ลักษณะทางชีวะภาพ


    ลักษณะนิสัย [Habitat] : ขึ้นได้ในดินทั่วไป


    อัตราการเจริญเติบโต [Growth Rate] : โตเร็ว


    ความชื้น [Moisture] : ปานกลาง


    แสง [Light] : แดดเต็มทั้งวัน

    ใบ (Foliage) : ใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบย่อย 5 ใบ ก้านใบรวมยาว 5-30 เซนติเมตร ก้านใบย่อยยาว 0.5-2.5 เซนติเมตร ใบรูปขอบขนานหรือรูปไข่แกมรูปรี กว้าง 3-7 เซนติเมตร ยาว 7.5-16 เซนติเมตร ปลายใบแหลม
    หรือเรียวแหลม โคนใบมนหรือสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาสีเขียวเข้ม

    ดอก (Flower) : สีชมพูอ่อน ชมพูสดและขาว กลางดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกที่ปลายกิ่ง มีดอก-
    ย่อยจำนวนมาก โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดปลายแยกเป็น 5 แฉก คล้ายรูปแตร ยาว 5-7 เซนติเมตร มักบาน พร้อมกัน ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-8 เซนติเมตร

    ผล (Fruit) : ผลแห้งแตก เป็นฝักกลม ยาว 15-30 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกเป็น 2 ซีก เมล็ดแบน สีน้ำตาล มีปีก

    การกระจายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดทางใต้ของเม็กซิโกไปถึงโคลัมเบียและเวเนซุเอลา ตั้งชื่อตาม ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ผู้นำเข้ามาเมื่อปีพ.ศ. 2500

    การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด

    สถานที่ท่องเที่ยว

    เที่ยว ม.รามคําแหง 2 (วิทยาเขตบางนา) ชมดอกชมพูพันธ์ทิพย์บานสะพรั่ง

    ที่ญี่ปุ่นมีดอกซากุระที่จะบานสะพรั่งในช่วงเดือนเมษายน ส่วนไทยเรามีดอกชมพูพันธ์ทิพย์ที่จะผลิดอกสีชมพูสวยงามในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เมื่อดอกชมพูพันธ์ทิพย์บานเต็มต้นเป็นบรรยากาศที่โรแมนติก น่าประทับใจมากทีเดียวค่ะ ซึ่งในไทยก็มีอยู่หลายที่เลยที่ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ วันนี้มีภาพถ่ายในม.ราม 2 ตอนที่ดอกชมพูพันธ์ทิพย์กำลังบานสวยงามมาให้ชมกันค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    อืม เหมือนว่าชมพูพันทิพย์จะดอกใหญ่กว่า แต่แจ๊คคาแรนด้าทรงเหมือนแจกัน และจะหนาแน่นกว่า
    --ต่อไป หาดูเมเปิ้ลดีกว่าครับ ใบเปลี่ยนสีตอนจะร่วง--ใครที่นั่งรถผ่านสายเชียงราย--เชียงใหม่ยุคตัดถนนใหม่(30ปีก่อนมั้ง) ช่วงใกล้ดอยสะเก็ด จะเห็นต้นไม้ผลัดใบ เหลืองๆแดงๆทั้งป่าเลย สวยมาก บางครั้งก็เห็นดอกสีน้ำเงินทั้งต้น ไม่รู้ว่าต้นอะไรครับ
    --พอดีอัดรูปใส่แผ่น เปิดดูในทีวี เจอรูปใบเมเปิ้ลสวยๆครับ

    -----------------
    เมื่อคืนเตรียมรูปเมเปิ้ลไว้แล้ว ดันหลับไปก่อนครับ
    ---ผมจบทางวืทยาศาสตร์ จบที่ มช.นานแล้วครับ แต่ตอนม.ปลายจบที่รร.พระโขนง กทม.ครับ
    --เคยทำงานด้านการดูแลระบบไฟสำรองคอมพิวเตอร์ของ ธนาคารใหญ่ๆ คอมพิวเตอร์พวกนี้เป็นขนาดใหญ่ หรือเรียกว่าเมนเฟรม ขนาดครึ่งสนามบอล ราคา400ล้านบาทประมาณนั้นครับ แล้วก็มาอยู่เป็นหัวหน้าคิวซีโรงงานพับแท่นเหล็กที่บางพลี ต่อมาก็ดูแลเรื่องกำเนิดรังสีเบต้า ที่ใต้ตึกอัญญมณี สีลมครับ เขาเอารังสีมายิงพลอยให้เป็นสีต่าง จากนั้นก็ตัดสินใจกลับบ้านมาดูแลแม่ ได้สะใภ้ชาว
    อยุธยามาหนึ่งคน ที่เล่ามาเพราะบางท่านอยากจะตั้งโรงงานเผื่อจะมาปรึกษากันได้
    -----------------
    ตะกี้ไปตลาดใหญ่มาครับ ได้เมล็ดข้าวโพดข้าวเหนียวมาด้วย ได้องุ่ยนดำหนึ่งแพ็ค45บาท แม่ค้าบอกว่าของเชียงใหม่ รสชาติดีครับ ไม่เปรี้ยว หอมเหมือนเหล้าองุ่น
    ------------------------
    ได้หนังสือฝรั่งมาเล่มหนึ่ง ปลูกพืชไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องดูแลมากมาย แต่ใช้วิธีการนั่งสมาธิ ไปติดต่อเทพที่ดูแลพืชนั้นโดยตรง เดี๋ยวเขาก็สั่งงานกันมา จนพืชงามเอง อันนี้แปลกมากครับ เล่าสูกันฟัง
    -----
    บางท่านคงอยากรู้เรื่องเปิดเพลงให้ต้นไม้ฟัง บางคนเป็นช่างซ่อมมาก่อน ก็ชอบเปิดวิทยุตอนทำงานในสวนครับ ปรากฏว่าต้นไม้ชอบ เติบโตดี แกเลย
    ติดลำโพวฮอร์นไว้ทั่วสวน เพลงก็มาจากวิทยุครับ
    ----แต่ที่ทางที่ฝรั่งทดลองมา ต้นไม้ชอบเพลงบรรเลง แบบเพลงคลาสสิก --ส่วนร็อค เฮฟวิ่ ไม่ชอบ --หันใบ หันยอดหนีเลย
    เพลงเหล่านี้เปิดให้วัวนมฟังจะได้ผลผลิตเกือบสองเท่า เท่าทีเขาลองกัน ก็เพลงของ ศิลปิน นิวเอจ ชิลเอ๊าท์ สปา เช่น คิตาโร่ เอนย่า โอซามุ บันดาริ ครับ ไว้ว่างๆจะเอามาลงให้ครับ

    มีเรื่องตื่นเต้นครับ ตะกี้ไปตลาดขายกับข้าวตรงสันโค้งน้อย มีแม่ค้ามาขายพริกขี้หนูด้วย ไปเจอพันธุ์หนึ่งที่พริกมันยาว
    ยาวกว่าที่ผมใส่รูปไว้เป็นเท่าตัวเลยครับ อาจจะเป็นพันธุ์ที่ปรับปรุงหรือกลายพันธุ์ เป็นพริกขี้หนุที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาครับ
    --ทีนี้ถ้าจะแจกไป ก็มีพริกสีแดงๆอยุ่ไม่กีอัน เกรงว่าพวกเขียวๆนี่จะไม่แก่นะครับ หากใครขอไปดปรดทำใจวัดดวงเอาครับ ซื้อมา 10บาทได้เกือบครึ่งโลมังครับ ไม่ใช่น้อยเลย ที่สนใจไม่ใช่พริกแต่เป็นลักษณะพันธุกรรมของมันมากกว่า
    ---ทดลองชิมแล้วครับ มันไม่ค่อยเผ็ดครับ สู้พันธุ์ของผม (พันธุ์เจษฎา)ที่เผ็ดกว่าครับ เผ็ดเท่าพริกขี้หนูสวน เป็นเพราะภรรยาผมเป็นชาวอยุธา ย้ายมาอยู่แถววิหารแดง-สระบุรี จึงกินพริกเผ็ดมากมายครับ พริกขี้หนูนี้ จะไม่มีขาดจากตู้เย็น ใส่น้ำพริกทีก็หลายกำมืออยู่ ซึ่งรู้ๆอยู่ว่าคนบ้านเฮาไม่กินเผ็ดมากนัก ไอ้ที่ปลูกไว้เต็มหน้าบ้านก็เพื่อความสวยงามเท่านั้น ไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเป็นกับข้าวเพราะมันไม่พอ

    [​IMG]
    ว่าแต่...ใครจะอาสา รวมความดีของพริกสองพันธุ์นี้ได้บ้าง ต้องมีพื้นที่ เวลา และความอดทนนะครับ
    ----ใครจะปลูกอะไรดูพื้นที่ก่อนนะครับ ทางที่ดีอย่าเอาพันธุ์ไปปนกับพันธุ์พื้นเมืองนะครับ เดี๋ยวคนรุ่นใหม่จะไม่รู้จักของเก่า
    อย่างมะเขือเทศเมืองลูกเล็กๆ เปรี้ยวๆ เอามาผัดกับข้าว เรียกข้าวส้ม หรือแกงเมืองเหนือ ซึ่ง คนรุ่นใหม่อาจนึกไม่ถึงว่า มีพันะุ์นี้อยู่
    --และโปรดสังเกตุมะเขือเทศรุ่นใหม่ จะมีผิวที่เหนียว ทนทานต่อการเน่าเสีย เชื้อรา และแมลง พี่สาวบอกว่า เขาผสมยีนส์ของปลาที่มีหนังเหนียวๆ แบบฉลาม หรือปลาสวายเข้าไป --พืชกับสัตว์เหรอ --แต่เป็นไปได้--ถ้าเราตัดต่อยีนส์กันครับ ทีคนเรายังมียีนส์ที่อ่านไม่ออกก็เยอะเรียกว่ายีนส์ขยะ แต่จริงๆมันเอาไว้เก็บสิ่งพิเศษเช่นการมีพลังจิต อะไรต่างๆ ซึ่งกว่าคนเราจะรู้ก็อีกนานครับ

    ---ไผ่จากจีน หรือญี่ปุ่นอยู่ในเขตหนาว การเติบโตเป็นแบบไม่สร้างกอ แต่จะเลื้อยไปใต้ดิน แบบที่เห็นในหนัง สู้กันตามป่าไผ่ ไม่มีกอไผ่
    ---บ้านสมัยก่อนมักมีพื้นเป็นดิน ปูฟาง-ปูเสื่อทับ มีบ่อยครั้ง ที่หน่อไม้อันสวยงามโผล่ทะลุขึ้นกลางบ้านแทงต่อทะลุหลังคาไปครับ โปรดระวังครับ การเพาะไผ่โมโสะอาจจะดูง่าย แต่กว่าจะลงดินได้ต้องอยู่ในกระถางสักสองปีครับ พวกเมล็ดสนต่างๆก็โตช้าครับ มันอยู่เมืองหนาวจนชิน

    --ไม้ดอกเมืองหนาวอย่างแม็กโนเลียก็ไม่ใช่ง่ายที่จะได้เห็นดอก แม้บนดอยอ่างขาง ตรงข้างบ้านรับรองต้นเบ้อเร่อสูงสัก5 เมตรยังออกมาแค่ไม่กี่ดอก ใครปลูกได้เห็นดอกเรียกว่ามือเซียนครับ ใครใจร้อนขอแนะนำไม้ล้มลุก เช่นทานตะวันดอกดก โฮลี่ฮ๊อกยังทันได้เห็นแน่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2012
  13. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    --มีเด็กหนุ่มชาวเขา ต้องการให้ชาวบ้านและครอบครัวมีรายได้ ได้ส่งกาแฟดอยวาวีที่ผลิตเองไปประกวดที่อังกฤษ ได้รางวัลมาครับ จนปัจจุบัน ชาวบ้านแถวนั้นออกรถกระบะกันเป็นว่าเล่น จำยี่ห้อไม่ได้ รู้สึกจะออกรายการสุริวิพา วันพุธครับ
    --คนที่ทำกาแฟดอยช้างก็เป็นคนที่มาอยู่เชียงรายนานแล้วครับ ปัจจุบันกาแฟนี้ก็ดังพอสมควรครับ

    http://www.4shared.com/mp3/RhNVqSGa/22_Kitaro_-_Silk_Road.htm
    --คิตาโร่ "ซิ้ลค์ โร้ด" เป็นเพลงประกอบสารคดี ของ เอ็น เอช เค "เส้นทางสายแพรไหม"
    http://www.4shared.com/mp3/D-Of8EuU/Kitaro_-_Caravan.htm
    คิตาโร่--คาราวาน -ของเดิมเป็นเพลงบรรเลง-- สามารถลองฟังได้ และโหลดได้ครับ--เหมือนสูตรฮอร์โมนไข่ครับ ใช้ได้ทั้งคน สัตว์ พืช

    http://www.4shared.com/mp3/HWEERkUP/Kitaro_-_Fata_Morgana.htm
    --ฟาต้า มอร์กาน่า--เพลงเหล่านี้ กล่อมเด็กได้ดีครับ

    http://www.4shared.com/mp3/3ZpxS1nz/Kitaro-Koi.htm

    โคอิ หรือผมเรียกว่า ก๋อย ครับ(ชาวชวาเวลาออกมาแสดงรามเกียร์ติ จะร้องว่า ก๋อยๆ) ทำนองเพลงงดงาม เศร้าๆ เหงาๆ บางคนฟัแล้วร้องไห้ครับ ไม่เหมาะกับคนโสด -คนขี้เหงา มันจะเปลืองเหล้า-เปลืองเบียร์ครับ เพลงนี้ดังมาก และนำมาแสดงสดบ่อยๆ คิตาโร่ยังทำเพลงประกอบหนัง เฮฟเว่น แอนด์ เอิร์ท ที่เกี่ยวกับชีวิตสาวเวียดนามยุคสงครามและหลังนั้น
    --ผมเคยไปดูเขาแสดงสดที่สวนหลวง ร.9 นักดนตรีเป็นฝรั่งหมดครับ มีนักไวโอลินสาว2 คนเท่านั้นที่เป็นคนญี่ปุ่น งานนี้บริษัทญี่ปุ่น ร้อยกว่าบริษัทลงขันจ้างมา ระบบเสียงและไฟ -เลเซ่อร์มาจากญี่ปุ่นทั้งหมด ลำโพงยักษ์มันดังมาก ทีแรกเขาจะไม่ให้คนเข้าใกล้กลัวแก้วหูจะแตก แม้ว่าจะไม่ใช้ขลุ่ย หรือเครื่องดนตรีธรรมชาติเลย ใช้แต่พวกซินธีไซเซอร์ที่เลียนเสียงเครื่องดนตรีได้เยอะมาก แต่การแต่ง เรียบเรียงเสียงประสานดีมากครับ
    --ต่อไปศิลปินหญิง ชาวไอริช "เอ็นย่า" ก็ใช้ซินธิ์บ้างครับ แต่เธอเก่งมาก เพลงของเธอกวานรางวัลมากมาย เรียกว่าดีทุกชุด และเธอแต่งเพลงเองด้วยครับ ทางฝรั่งยอมรับว่าดนตรีจากสองท่านนี้ช่วยปลอบประโลมจิตใจผู้ป่วยได้ดี "ดนตรีบำบัด"นะครับ--ใช้กับต้นไม้ได้ด้วยนะครับ เดี๋ยวจะออกนอกทาง
    http://www.4shared.com/get/MTa7GlS0/ENYA_-_Only_Time.html

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=oiFTXckh0zU"]http://www.youtube.com/watch?v=oiFTXckh0zU[/ame] จากชุดแรก

    --ลืมบอกไป ยังมีดนตรีอินเดีย โดยเฉพาะเพลงบรรเลง "ซีต้าร์" ของศิลปินชื่อดัง "ระวี ชังก้ารื"
    ซึ่งท่านมีลูกสาวชื่อ อนุชก้า ชังก้าร์ และอีกคน ชื่อ นอร่า โจนส์ คนหลังนี้โตขึ้นมาที่อเมริกา เป็นนักร้อง นักดนตรีแจ๊ซชื่อดัง
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=-KXk_8_8oLY"]http://www.youtube.com/watch?v=-KXk_8_8oLY[/ame]

    --เพลงบรรเลง กู่เจิงของจีน ก็น่าจะดีครับ สำหรับต้นไม้ เพราะว่าไพเราะมากครับ เช่น "เรือหาปลาในยามเย็น" Fishing Junks at the sunset แต่เป็นเพลงที่ ชอง มิเชล จาร์ ชาวฝรั่งเศส พ่อมดซินธ์ เล่นที่ปักกิ่งปี 1981 ร่วมกับวงใหญ่ของจีนครับ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Nfg4I-n3LAc"]http://www.youtube.com/watch?v=Nfg4I-n3LAc[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=8CnhcGpmH9Y&feature=related"]http://www.youtube.com/watch?v=8CnhcGpmH9Y&feature=related[/ame]

    ---ดีมั้ยครับ กระทู้นี้ มีทั้งภาพ -เสียง วีดิโอคลิป ใครอยากดูดวีดิโอเก็บไว้ก็บอกได้ครับ มีหลายวิธี

    จะค้นก็ใช้คำว่า Gu-zheng กู่แปลว่า โบราณ เจิงแปลว่าพิณ มีเครื่องดนตรีอีกอย่าง คือ กู่ฉิน มีสายน้อยกว่า
    ขนาดเล็กกว่า พกพาง่าย-- ที่ญี่ปุ่น เกาหลีก็มีพวกโกโตะ มีสายน้อยกว่ากู่เจิงครับขนาดจะยาวมากเหมือนกัน
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=xlFCA-1BQr4"]http://www.youtube.com/watch?v=xlFCA-1BQr4[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=2es7oZzwLWM&feature=related--"]http://www.youtube.com/watch?v=2es7oZzwLWM&feature=related--[/ame]อันนี้กู่ฉินนะครับ ยังมีปี่แป้(ผิผา) กีต้าร์จีน--ซอเอ้อหู อีกครับ คนมันจะเซียน-มีพรสวรรค์-จับเครื่องดนตรีอะไรก้เก่งไปหมด วง 12 Girls Band เป็นตัวอย่างที่นำเครื่องดนตรีจีนโบราณมาเล่นเพลงร่วมสมัยจนดังไปทั่วโลกครับ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=8-1kUEjwjrg&feature=fvwrel--"]http://www.youtube.com/watch?v=8-1kUEjwjrg&feature=fvwrel--[/ame]พิณสายเดียว
     
  14. MoonLignt

    MoonLignt สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +8
    สาระน่ารู้ทางวิทยาศาสตร์ก็น่าสนใจ ทั้งสอดแทรกความรู้ด้านอื่นเข้าด้วยก็ดีนะคะ ไม่น่าเบื่อ
    อยากถามเรื่องของสสารบนโลก ถ้าจะว่าไปแล้วสสารทุกอย่าที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจาก โปรตรอนที่มีอิเลคตรอนวิ่งรอบๆ ถ้าเปรียบ อะตอมหนึ่งอะตอม เท่ากับสนามฟุตบอล มวลของนิเคลียสจะเท่ากับลูกเทนนิส ภายในสนามฟุตบอลก็จะมีอิเลคตรอนวิ่งรอบๆนิเคลียส
    แสดงว่า สนามฟุตบอล มีมวลแค่ 0.01% นอกนั้น 99.99% คือความว่าง ถ้าเปรียบเทียบมนุษย์เราคืออะตอม 1 อะตอม ก็แสดงว่าทั้งหมดนั้นคือความว่าง จริงหรือไม่ค่ะช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ
     
  15. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ใช่แล้วครับ จริงครับ-(น่าจะมาเรียนวิทย์นะ จะได้นักวิทย์ที่เก่งอีก1 ท่าน)-(อะตอมไฮโดรเจนมีอิเล็คตรอน 1ตัว โปรตรอน1ตัว นิวตรอนไม่มี) ต่อให้ลูกเทสนิสวิ่งพล่านไปทั่วสนามฟุตบอล แต่ถ้ามีประมาณ 10กว่าลูก และมีของอะตอมอื่นลงไปวิ่งพล่านอีก 10 ลูก โอกาสที่มันจะชนกันยังมีน้อยมากเลย
    (แม้แต่ในสนามเทนนิสเอง ยังไม่ค่อยจะชนกันเลยครับ--เกิดสงครามมาหลายร้อยปีทั่วโลก โอกาสที่ลูกกระสุนจะมาชนกันมีแค่ครั้ง-สองครั้งเองครับ)

    ---ใช่ครับ ส่วนใหญ่ของอะตอมคืดพื้นที่ว่างเปล่า อิเลคตรอนที่อยู่กัน จะอยู่เป็นวันๆ ตามระดับของพลังงาน แต่ที่ดูเหมือนวิ่งพล่าน เพราะมันวิ่งเร็วมากครับ

    จนดูคล้ายเมฆหมอกครับ โปรตรอน นิวตรอน ที่รวมเป็นนิวเคลียส ก็มีการหมุนรอบตัวเอง เรียกว่า สปิน ครับ
    ---ชาวต่างดาวใช้วิธีดึงร่างคนออกมาจากรถ หรือห้องนอน ก็ใช้การแทรกผ่านของอะตอมที่มีช่องว่างมากมายนี่แหละครับ เขาใช้คอมพิวเตอร์สมรรถภาพสูงคำนวณตำแหล่งไว้หมด พอดึงผ่านออกมา ก็นำผ่านมิติไปทดลอง ส่วนใหญ่จะพาไปใต้ทะเลครับ
    ---ในขณะที่เรื่องจิต เรื่องศาสนา เราพูดถึง ความว่าง ความว่างเปล่าไร้กระแสจิต กระแสธรรม---แต่ในทางฟิสิกส์ สิ่งที่เรานึกว่าเป็นอนุภาค บางขณะมันก็เป็นคลื่น หรือมันอาจจะเป็นก้อนคลื่น ก็ได้ คลื่น คือการกระเพื่อมของสิ่งหนึ่ง เช่นคลื่นน้ำ มันก็ไม่ใช่น้ำ เป็นตัวแสดงถึงพลังงานบนตัวกลางคือน้ำ
    ---เช่นเดียวกัน อิเล็คตรอน โปรตรอน โฟตอน-(เม็ดแสง) ก็มีลักษณะเป็นนกสองหัว คือเป็นอนุภาคก็ได้ เป็นคลื่นก็ได้ คำว่าคลื่นนี้ หมายถึง "การกระเพื่อมทางสนามแม่เหล็กไฟฟ้าบนความว่างเปล่า" ความว่างเปล่า หรือที่เรียกว่า "วอยด์"-Void มันไม่มีอะไรเลยแม้แต่อะตอม แต่มันมีความแปลกนะครับ
    --ถ้ายิงอนุภาคพลังงานสูงไปบนความว่างเปล่านั้น จะกระทบอะไรไม่รู้ กระเด็นออกมาเยอะแยะเลย ช่นเกิดอิเล็คตรอน กับแอนตี้อิเลคตรอน แล้วมันก้วิ่งมารวมกัน สลายตัวหายไป--อันนี้เราเรียกว่า "ความว่างที่ไม่ว่าง" "ทะเลแห่งความไร้"
    คือเหมือนเป็นทะเลแห่งอนุภาคมืด หรือมันไร้สภาพอยู่ หรืออาจอยู่ในมิติอื่นแห่งการดำรงอยู่

    --ริชาร์ด ไฟน์แมนบอกว่า พวกอนุภาคที่เป็นปฏิสสาร เช่นแอนตี้โปรตรอน ก็คือโปรตรอนที่มันวิ่งย้อนกลับไปสู่อดีตกาล ในเวลาสั้นๆ---ดังนั้น มันจะมีสิ่งที่ตามมาอีกเยอะ เช่น ปฏิเวลา--เวลาที่ไหลย้อนกลับ ปฏิระยะทาง นอกจากปฎิอนุภาต หรือปฎิสสารแล้ว
    ---ในการทดลองทุกครั้ง เราจะแยก "ผู้สังเกต" กับ "การทดลอง"ออกจากกัน แต่ในความเป็นจริง ไม่มีระบบที่แยกขาด หรือไอโซเลทเลย --แม้แต่การทดลองรวมไฮโดรเจนกับออกซิเจนมาเป็นไอน้ำ ก้ได้ผลไม่เหมือนกันสักครั้ง
    --ดังที่เคยเล่าว่า "หยดน้ำหนึ่งหยด ยังมีปฎิกิริยาต่อคำพูด หรือตัวหนังสือ" ดังนั้น การทดลองต่างๆ มักถูกรบกวนด้วยพลังงานของพืช สัตว์ และพลังจิตของผู้ทดลองด้วย---เนื่องจากชาวต่างดาวใช้จิตที่ผูกพันกับพระเจ้า หรือกฏของจักรวาล จึงสามารถพบสิ่งแปลกๆ เช่นการเดินทางทะลุเวลา ทะลุมิติ ส่วนคนเรา มีจิตแบบที่เป็นอิสระ จึงไม่อาจหาทางพ้นไปจากวังวนการเกิด แก่ เจ็บ ตาย--วัฏฏะสังสาร หรือยังยึดมั่นอยู่ในโลกวัตถุมากเกินไป
    --ในคริสต์ศาสนา บอกว่า พระเจ้าได้สร้างสรรพสิ่งจากคำพูดเพืองหนึ่งคำ เรียกว่า พระวัจนะ หรือ-Spoken Word ทางศาสนาฮินดูกล่าวว่า คำนั้นคือคำว่า "โอม" เป็นคำพุดที่รวบรวมทุกๆคำ ทุกๆความถี่เอาไว้--(เช้าๆมา คนอินเดียจะออกเสียง โอม 21 ครั้ง)-และน่าคิดว่าอะตอมก็มีความสั่นสะเทือนตลอดเวลา ด้วยเหตุของความร้อน
    ---บางคนยังเชื่อว่า ทุกอะตอมในโลกนี้คืออะตอมเดียวกัน เพราะมันจะจดจำอะตอมอื่นได้ และมีความพัวพันกัน ในลักษณะที่เหมือนน้ำค้างแต่ละหยด ก็สะท้อนแสงของน้ำค้างอื่นทุกๆหยด เช่นถ้าให้แสงไปชนอะตอมจนอิเล็คตรอนกระเด็นออกมาสองตัว และถ้ามันแยกกันวิ่งไปไกลหลายร้อยล้านปีแสง
    ถ้าเราใช้สนามแม่เหล็กบิดแนวสปินของตัวหนึ่ง อีกตัวมันก็จะบิดสปินของมันตามไปด้วยทันที

    --------------------------------------------------------------------

    ไฮโดรเจน (อังกฤษ: Hydrogen; ละติน: hydrogenium ไฮโดรเจเนียม) เป็นธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม 1 สัญลักษณ์ธาตุคือ H มีน้ำหนักอะตอมเฉลี่ย 1.00794 u (1.007825 u สำหรับไฮโดรเจน-1) ไฮโดรเจนเป็นธาตุที่เบาที่สุดและพบมากที่สุดในเอกภพ ซึ่งคิดเป็นมวลธาตุเคมีประมาณร้อยละ 75 ของเอกภพ<sup id="cite_ref-0" class="reference">[1]</sup> ดาวฤกษ์ในลำดับหลักส่วนใหญ่ประกอบด้วยไฮโดรเจนในสถานะพลาสมา ธาตุไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหาได้ค่อนข้างยากบนโลก
    ไอโซโทปที่พบมากที่สุดของไฮโดรเจน คือ โปรเทียม (ชื่อพบใช้น้อย สัญลักษณ์ <sup>1</sup>H) ซึ่งมีโปรตอนหนึ่งตัวแต่ไม่มีนิวตรอน ในสารประกอบไอออนิก โปรเทียมสามารถรับประจุลบ (แอนไอออนซึ่งมีชื่อว่า ไฮไดรด์ และเขียนสัญลักษณ์ได้เป็น H<sup>-</sup>) หรือกลายเป็นสปีซีประจุบวก H<sup>+</sup> ก็ได้ แคตไอออนหลัง นี้เสมือนว่ามีเพียงโปรตอนหนึ่งตัวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง แคตไอออนไฮโดรเจนในสารประกอบไอออนิกเกิดขึ้นเป็นสปีซีที่ซับซ้อนกว่าเสมอ ไฮโดรเจนเกิดเป็นสารประกอบกับธาตุส่วนใหญ่และพบในน้ำและสารประกอบอินทรีย์ส่วนมาก ไฮโดรเจนเป็นส่วนสำคัญในการศึกษาเคมีกรด-เบส โดยมีหลายปฏิกิริยาแลกเปลี่ยนโปรตอนระหว่างโมเลกุลละลายได้ เพราะเป็นอะตอมที่เรียบง่ายที่สุดเท่าที่ทราบ อะตอมไฮโดรเจนจึงได้ใช้ในทางทฤษฎี ตัวอย่างเช่น เนื่องจากเป็นอะตอมที่เป็นกลางทางไฟฟ้าเพียงชนิดเดียวที่มีผลเฉลยเชิง วิเคราะห์ของสมการชโรดิงเกอร์ การศึกษาการพลังงานและพันธะของอะตอมไฮโดรเจนได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2012
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    โทษทีนะครับ มันครึ้มฝน ทำให้ไม่สบาย ยิ่งกินยา ก็ยิ่งง่วงครับ
    -------------------------------------------------------------------------

    ตะลึงไก่ออกลูกเป็น"ไก่" ไม่ใช่ "ไข่" ?!?

    บีบีซีรายงานวันที่ 19 เม.ย. ว่า เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ประเทศศรีลังกา เมื่อแม่ไก่ออกลูกมาเป็นลูกเจี๊ยบ ไม่มีไข่ เป็นปรากฏการณ์พลิกผันข้อโต้แย้งที่มีมาตลอดว่า ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน

    พีอาร์ ญาพา หัวหน้าคณะสัตวแพทย์ในเมืองเวลิมาดา พื้นที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ไม่เคยพบเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว พบว่าแม่ไก่ผลิตไข่อยู่ในตัว และฟักอยู่ภายในตัวเสร็จสรรพ ก่อนออกลูกออกมาเป็นลูกเจี๊ยบ จากนั้นแม่ไก่ก็ตาย เพราะบาดแผลที่อยู่ในอวัยวะภายใน ส่วนลูกเจี๊ยบนั้นแข็งแรงดี

    ชาร์ลส์ ฮาวิแลนด์ นักข่าวบีบีซีรายงานว่า สื่อมวลชนในศรีลังกานำเสนอเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ โดยศรีลังกา เดลี่ มิเรอร์ พาดหัวข่าวว่า "ไก่เกิดก่อน ไม่ใช่ไข่"




    Share35


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"><tbody><tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_top.gif">
    </td> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td background="images/line_left.gif">
    </td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table> </td> <td background="images/line_right.gif">
    </td> </tr> <tr> <td height="21" width="21">[​IMG]</td> <td background="images/line_bottom.gif">
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2012
  17. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    วันจันทร์ ที่ 1 มิถุนายน 2552
    ใครสนับสนุน เอเลียนสปีชีส์ รุกรานและทำลายนิเวศ-พันธุกรรมท้องถิ่นไทย
    Posted by bon09 , ผู้อ่าน : 7486 , 22:17:15 น.
    หมวด : นักข่าวอาสา
    [​IMG] พิมพ์หน้านี้ [​IMG] [​IMG] โหวต 0 คน

    <TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD><LINK rel=File-List href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CACER%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml">เอเลียนสปีชีส์ คือสิ่งมีชีวิตที่มาจากต่างถิ่น ( ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น) ซึ่งเกิดขึ้นทั้งจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจของมนุษย์ แล้วมาแย่งที่อยู่อาศัย แย่งแหล่งอาหาร นำพาเชื้อโรคมาให้สิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น หรือกินสัตว์ท้องถิ่นบางชนิดเป็นอาหารโดยตรง ซึ่งหากมันเจริญเติบโต และแพร่พันธุ์มากๆ จะทำให้ระบบนิเวศน์ของท้องถิ่นเสียไป <O:p></O:p>
    นิศากร โฆษิตรัตน์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า ขณะนี้ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศ ขยายพันธุ์อยู่ในระบบนิเวศของประเทศไทยจำนวนมาก และมีแนวโน้มการแพร่ระบาดมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีการขนส่ง การค้า การท่องเที่ยวที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว หลายครั้งที่ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นติดเข้ามากับเรือ รถขนส่งสินค้า สัมภาระของนักท่องเที่ยว แล้วยังมีชีวิตรอด สามารถแพร่กระจายในพื้นที่ใหม่ได้ <O:p></O:p>
    นอกจากนี้ยังมีชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เข้ามาจากความต้องการด้านเศรษฐกิจ โดยผู้นำเข้าไม่คิดถึงผลเสียระยะยาว เช่น ลักลอบนำปลาซักเกอร์เข้าเพื่อเลี้ยงเป็นปลาตู้ เมื่อหมดความนิยมผู้เลี้ยงนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาอย่างมากเพราะ เป็นตัวการทำลายไข่ปลาท้องถิ่นของไทยตลอดจนพืชพันธุ์ชนิดอื่นในแหล่งน้ำเดียว กัน เพราะดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป ล่าสุดกรมประมงห้ามนำเข้าแล้ว แต่ยังมีพ่อค้าแอบเพาะพันธุ์อยู่ วอนอย่าซื้อมาเลี้ยงเพราะอันตรายพอๆ กับหอยเชอรี่
    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    Sucker catfish หรือปลากดเกราะ หรือที่ประชาชนรู้จักในชื่อปลาเทศบาล<O:p></O:p>
    อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งได้แก่กุ้งน้ำจืดเครฟิช (Crayfish) ซึ่งเป็นกุ้งพื้นเมืองของประเทศออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ได้มีภาคเอกชนขออนุญาตนำพ่อแม่พันธุ์เข้ามาเพาะเลี้ยงในแถบ ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา และขณะนี้เริ่มขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงไปให้เกษตรกรใน จ.ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก และสมุทรปราการ แบบระบบลูกโซ่

    [​IMG][​IMG]
    <O:p></O:p>กุ้งน้ำจืดเครฟิช
    กุ้งเครฟิช เป็นกุ้งน้ำจืดที่มีสีสันสวยงาม ลำตัวสีฟ้าสดใส ตัวใหญ่ขนาดครึ่งฟุต มีก้ามใหญ่เป็นคู่เหมือนกับก้ามปู สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการนำพ่อแม่พันธุ์มาเลี้ยงรวมกันในบ่อ ก็จะได้ลูกกุ้งออกมาจำนวนมาก เฉลี่ยขายกินเนื้อกิโลกรัมละ 400 บาท และตัวละ 100-300 บาทสำหรับการนำไปเลี้ยงดูเล่น
    นายจรัลธาดา กรรณสูต รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า<O:p></O:p>
    "น่าเป็นห่วงต่อสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนาข้าวที่อยู่รอบพื้นที่บ่อเลี้ยงกุ้ง เนื่องจากผลวิจัยค่อนข้างชัดเจนแล้วว่ากุ้งชนิดนี้จะกัดกินต้นข้าว พืชน้ำ กุ้งฝอย และหอยขมของไทย เมื่อนำทดลองไปเลี้ยงรวมกัน โดยเฉพาะกุ้งที่มีขนาดความยาวเฉลี่ย 30.42 ซม.น้ำหนักเฉลี่ย 11.3 กรัมเพียง 2 ตัวในบ่อซีเมนต์กลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เมตรสามารถกัดกินทำลายต้นข้าวที่มีอายุ 20 วันสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกุ้งฝอยและหอยขมจะถูกกัดกินจนเหลือแต่ส่วนหัว ดังนั้นจึงพิจารณาว่าหากปล่อยให้มีผลการขยายพื้นที่เพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้น ในอนาคตกุ้งที่หลุดลอดไปในแปลงนาจะมีอานุภาพทำลายข้าวสูงมาก ทั้งนี้จะดูว่าจะใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือกฎหมายของกรมประมง มาใช้กับกรณีนี้"
    สำหรับแนวทางในการควบคุมและดูแลพืช-สัตว์ต่างถิ่นนั้น เลขาธิการ สผ.ระบุว่า ขณะนี้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องมาตรการป้องกัน ควบคุม และกำจัดชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ฯลฯ เฝ้าระวังชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน ทั้งที่เข้ามาแล้วและยังไม่ได้เข้ามาในไทยอย่างเป็นระบบ ซึ่งแต่ละหน่วยงานต้องจัดทำแผนและมาตรการป้องกันที่เข้มข้นในการจัดการชนิด พันธุ์ต่างถิ่นโดยเร่งด่วน<O:p></O:p>
    นอกจากนี้ สผ. ได้จัดทำทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ควรป้องกัน ควบคุม และกำจัดของไทย แบ่งออกเป็น 4 รายการ คือ
    รายการ 1 ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานแล้ว (82 ชนิด) เช่น สาบหมา ปืนนกไส้ หงอนไก่ฝรั่ง สาบเสือ ผักตบชวา หญ้ายาง สาหร่ายหางกระรอก แว่นแก้ว หญ้าคา ผกากรอง กระถินยักษ์ ไมยราบเลื้อย ไมยราบยักษ์ จอก บัวตอง ไส้เดือนฝอยรากปม มดน้ำผึ้ง เพลี้ยจักจั่นฝ้าย ผีเสื้อหนอนเจาะสมอฝ้าย หอยแมลงภู่เทียม หอยเชอรี่ ปลาช่อนอเมซอน ปลาดุกรัสเซีย ปลาซักเกอร์ ปลานิล เต่มแก้มแดง เป็นต้น<O:p></O:p>
    [​IMG]
    ผักตบชวา

    [​IMG]
    ดอกบัวตอง

    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    ทุ่งบัวตอง

    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    หอยเชอรี่
    [​IMG]
    ไข่หอยเชอรี่


    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    ปลาช่อนอเมซอน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    รายการ 2 ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่มีแนวโน้มรุกราน (52 ชนิด) เช่น ปลาพาคู(เปคู-สายพันธุ์ปิรันย่า) กบบุลฟร้อก หญ้าเนเปียร์ กุ้งขาว ปลาหางนกยูง ปลาหมอสียักษ์



    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    กบบุลฟร้อกรายการ 3 ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่มีประวัติว่ารุกรานแล้วในประเทศอื่น แต่ยังไม่รุกรานในไทย
    เช่น บุหงาส่าหรี ปูขนจีน มดคันทุ่ง หอยนักล่าสีชมพู อีกัวน่า นกหงษ์หยก

    [​IMG]
    รายการ 4 ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานที่ยังไม่เข้ามาในไทย (91 ชนิด) เช่น กระถินดำ น้ำนมราชสีห์ ผักไผ่ญี่ปุ่น ธูปฤาษี หญ้าเจ้าชู้ทะเล ปูเขียวยุโรป ยุงก้นปล่อง หอยหวานจีน นกปรอดก้นแดง กระรอกสีเทา


    [​IMG]
    <O:p></O:p>
    <O:p> ต้นธูปฤาษี</O:p>
    ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาสัตว์แปลกๆมาเลี้ยงไว้ในครอบครอง ควรจะต้องตระหนักและมีจิตสำนึกรับผิดชอบที่จะไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตนั้นๆ หลุดรอดสู่ธรรมชาติ จนสามารถขยายพันธุ์และรุกรานสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่เดิมตามธรรมชาติ และหน่วยงานราชการเองยิ่งต้องตระหนักต่อเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ รองจากการตัดไม้ทำลายป่า

    <O:p></O:p>
    โปรดติดตามอ่าน การใช้ภูมิปัญญาเพื่อแก้ปัญหาเอเลียนสปีชีส์ด้วย พลังและวิธีการของคนในชุมชน <O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    <O:p> </O:p>
    อ้างอิงจาก<O:p></O:p>
    http://www.thaipost.net/sunday/240509/5152<O:p></O:p>
    http://www.kanchanaburi.com/kannews/01548.html<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    http://webboard.mthai.com/52/2007-11-29/357929.html<O:p></O:p>
    sucker picture<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    http://chm-thai.onep.go.th/webalien/species.html#<O:p></O:p>
    รูปชนิดพันธุ์พืชต่างถิ่น<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88<O:p></O:p>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2012
  18. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---ข่าวใหญ่ ประเทศเกาหลีเปลี่ยนตำราเรียนใหม่ ถึงระดับด็อคเตอร์ บอกว่า ทุกๆสิ่งนั้นพระเจ้าเป็นผู้สร้าง ไม่ได้เกิดจากการวิวัฒนาการ---โดยมีกลุ่มนักวิชาการที่เชื่อเรื่องเหล่านี้คอมให้เหตผล และกดดันต่อทางการ---หรือคนเราจะเลิกใช้เหตุผลในการคิดอะไรๆ ---ก็ง่ายดีครับ
    --ทำไมพระเจ้าถึงสร้างนักเรียนนักเลงที่ชอบตีกันครับ ทำไมไม่สร้างมนุษย์ให้ดีพร้อม--อะไรๆก็โทษพระเจ้าน่ะง่ายดีครับ--สำหรับมนุษย์ที่ชอบทำร้ายสังคม เสนอให้ลงโทษ แล้วลบรายการ -ลบสิทธิการเป็นคนไทย แล้วใส่เรือเนรเทศไปกลางมหาสมุทรครับ ยุติธรรมดี ไม่งั้นก็ให้เดินหากับระเบิดตามชายแดน เพราะกล้าแบบหมาบ้าน่ะครับ

    ---ด้วยแรงแห่งศาสนาที่แตกต่าง และยังต่างเชื้อชาติ ไม่มีทะเบียน ไม่สามารถครองที่ดิน ทำให้ชาวโรฮิงยา รบกับชาวอาระกันในเมืองยะไช่ ทหารต้องเข้าควบคุม ขณะที่นานาชาติกลัวทหารจะเข้ารอยเดิมส่งผลให้ประชาธปไตยพม่ามาช้าอีก10 ปี ตอนนี้ซูจีทัวร์ยุโรปอยู่ ได้ทีเที่ยวเดินสายซะเลย
    ----ชาวโรฮิงยาเป็นแขกอิสลาม สายเลือดนักรบ ส่วนพม่ารบกับไทยเคยชนะ2ครั้ง แต่รบกับชาวอาระกันซึ่่งเป็นชาวพุทธ แต่พม่ายังไม่เคยชนะเลย
    --การเมืองในมาเลเซียออกมาคล้ายไทย คือจะทำลายฝ่ายตรงข้ามโดยสร้างเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล และช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนในมาเลย์มีมากยิ่งกว่าไทยเยอะ ฝรั่งว่ามาอย่างนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    -ขออภัย เว็ปค้างและข้อความหายไปครับ กินยาแก้หวัด และง่วงด้วยครับ

    ทุกๆสิ่งที่คุณรู้และเรียนมาน่ะ---มันผิด Everything you know is wrong! (ยังไม่จบ มีต่อเรื่อยๆ)
    โลก คือศูนย์กลางของดวงดาวต่างๆ ที่เป็นโลกวัตถุ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=KYFqeuV_F3U&feature=fvwrel"]The Earth IS the center of the visible Universe. - YouTube[/ame]

    ข้อพิสูจน์ของพวกที่บอกว่าพระเจ้ามีจริง
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=E5Bkz8pz8Vg&feature=related"]God Exists. Want Proof? Try This! - YouTube[/ame]


    เริ่มต้นรู้จัก ปฎิสสาร(ถ้าอ่านครบพันหน้าจะได้ปริญญาทางไสยเวท-Magic และจานบินวิทยา-UFOlogy)

    เราเรียนมาเรื่องรามเกียรติ์ มีลิงรบกับยักษ์ มีการทำถนนไปกรุงลงกา ที่เป็นเกาะกลางทะเล เรานึกว่าเป็นนิยายใช่ไหม แต่จากภาพถ่ายดาวเทียม มันมีถนนนั้นจริงๆ แต่น้ำทะเลท่วมมิด จึงมองไม่เห้นนะครับ ถ้าได้เห็นคลิปเหมือนที่ผมเห็น ผู้อ่านก็คงจะช็อคเหมือนกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2012
  20. MoonLignt

    MoonLignt สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +8
    ต้องขอขอบคุณกับคำอธิบายที่ยาวค่ะ ตัวเองเข้าใจบ้างและไม่เข้าใจบ้าง แต่ที่แน่ๆต้องบอกก่อนว่าไม่ได้เรียนทางสายวิทย์มา ( ตอนที่ท่านตอบเหมือนรู้ว่าเรียนไรมา ) เมื่อก่อนมองว่าน่าปวดหัว เรียนยาก และไม่ชอบ แต่ตอนนี้ชักอยากรู้ ส่วนตัวชอบพุทธศาสตร์ แต่อยากมองพุทธศาสตร์เป็นวิทย์บ้างจะเข้าใจหรือเปล่าก็เลยลองศึกษาค้นคว้า หาหนังสืออ่านบ้าง ทาง net บ้าง ความจริงแล้วทั้งสองแขนงวิชาเป็นอันเดียวกัน มองอย่างนี้ผิดไหมคะ วิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเรา ธรรมะ หรือธรรมชาติก็อยู่รอบๆตัวเรา ต่างกันที่ คำสมมุติขึ้นมาว่าจะใช้หรือตั้งชื่อให้มันว่าอะไรดี และวิทย์ใช้สมองของมนุษย์คิดวิเคราะห์แต่อาจถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่พุทธศาสตร์ ต้องใช้ จิตคือสติวิเคราะห์ให้เห็นตามความเป็นจริง(ที่เค้าเรียกว่า วิปัสสนากรรมฐาน)ประมาณนี้หรือเปล่าคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...