ไม่รู้ความหมาย เกิด-ดับ

ผมใช่ชื่อเดียวครับ แต่ถ้าเป็น เวป ธรรมจักร ผมใช้ชื่อ ฝึกจิต ผมไม่ได้เข้ามาอวดตน ปิดบังตน แล้วจะอายทำไม
และที่แก้ไขข้อความนั้น เพราะ บางที่ตอบแล้ว มาอ่านใหม่ เพราะอ่านแล้ว มัน งง แล้วมาอ่านอีกที นึกคำตอบได้อีก ก็มาแก้เพิ่มเติ่มครับ

แต่ขอโทษหากทำให้ขุ่นมัว

 

ผมไม่ได้ขุ่นมัวครับ ในบางคำนั้น มีผู้ที่บอกกล่าวผมเอาไว้ก่อนแล้ว

เพียงแต่ใช้คนละชื่อ ผมไม่ได้มีเจตนาที่ร้ายครับ เพียงแค่เตือนในบางสิ่ง

การสนทนานั้น สื่อถึงน้ำใจที่ควรมี หากจะขุ่นมัวคงต้องเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันครับ

ในเว็บนี้ ขุ่นมัวได้ยากครับ เพราะผมไม่รู้จักใครในนี้ครับ ไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องขุ่นมัว

เพราะจะทำให้เสียจริตครับ เมื่อถึงพร้อมแล้วความรู้ก็จะแตกฉานเองครับ

สาธุครับ

 

ผมไม่ฉลาดนักครับ หรือว่าโง่เลยก็ได้ เพราะผมไม่เข้าใจที่ท่านสื่อ
ท่านว่าท่านหยุดการอยากรู้ แล้วท่านก็ว่า ไปอ่านปฏิจจสมุปบบาทมา แล้ว
แล้วท่านไม่อยากรู้ แล้วท่านเข้า เวปนี้มาเพื่ออะไร อ่านกระทู้เพื่ออะไร
ท่านว่าท่าน ไม่ปรุงแต่ง แต่อ่านกระทู้ไป ตอบไป แล้วมาว่าผมใช้หลายชื่ออีก แบบนี้ปรุงแต่งมั้ยละหนอ


อ่านแล้วเห็นใจมันกระเพื่อม มั้ยครับ

หากเกิด อุปทานขึ้น ก็ วาง มันเสีย แต่ผมว่าท่านคงตอบว่า ไม่

สาธุครับ

 

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างล้วนมีเหตุและปัจจัยมารวมกันชั่วคราวแล้วก็แยกออกจากกัน ไม่มีสิ่งใดที่มีตัวตนเป็นของตนเองเลยครับ
"ไม่เที่ยง เกิด ดับ"

 

ทุกๆคนที่เิกิดมาล้วนแล้วแต่ต้องการไปถึงนิพพานซึ่งฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของพวกเราทุกๆคนทุกๆท่าน แต่ที่เราไม่รู้นั้น..เพราะว่า โลภ โกรธ หลง มันบังตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราอยู่ทุกขณะ..ถ้าเราขจัดมันออกไปได้บ้าง เราก็จะมองเห็นความจริงอันนี้ชัดเจนเลยว่าที่เราเิกิดมานั้นพื่อต้องการนิพพานอย่างแท้จริง...เพราะอวิชชา(โลภ โกรธ หลง)เป็นตัวที่ทำให้เราเวียนว่ายตายเิกิดในวัฏฯ นับภพนับชาติไม่ถ้วน ดังนั้นถ้าเราดับความเกิดได้ ความตายก็ไม่มีตามคำสอนของพระพุทธองค์ครับที่ท่านได้ตรัสว่า..ทุกข์เิกิดขึ้นที่ไหน..ก็ให้ดับในที่มันเิกิด...
เจริญธรรมครับ
"ไม่เที่ยง เกิด ดับ"

 

ยิ่งอธิบายก็ยิ่งไปกันใหญ่ ใจกระเพื่อมแล้วได้ประโยชน์อะไรครับ

เมื่อบอกกล่าวไม่ได้ก็ไม่มีอะไรจะบอกครับ เมื่อไม่รับฟังก็ไม่เกิดประโยชน์

ต่อให้อธิบายมากกว่านี้ก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ คงต้องพอเพียงเท่านี้นครับ

ไม่ต้องการทำให้เหมือนการเล่นหมากรุกครับ ที่ต้องคอยไล่จนกว่าจะจนมุม

สาธุครับ

 

อนุโมทนาครับ เป็นสิ่งที่ควรแล้วครับ

สาธุครับ

 

บอกกล่าวได้ครับ แต่สิ่งที่ท่านบอกกล่าวท่านน่าจะบอกเหตุวิธี ด้วยซิครับ ผมถามท่านกลับ เพราะไม่เข้าใจจริงๆ แต่ท่านไม่ตอบมา แล้วจะให้ผมเข้าใจยังไง แค่บอกว่า หยุด และ ไม่ปรุงแต่ง ถ้าแค่ 2 คำนี้ทำให้ หลุดพ้นกันหมด พระพุทธองค์คงไม่ต้องขยาย วิธีปฏิบัติ การเดินมรรค8 ถึง 84000 พระธรรมขันธ์ มังครับ
ผมไม่ฉลาด ขนาดนั้นหรอกท่าน และผมไม่ได้มีเจตนา รุกให้ท่านจนมุม แต่ท่านกลับมองแต่คนอื่น จนไม่ยอมรับ ตนเอง จะให้อย่างเดียว ไม่รับเลย พอตอบไม่ได้ เลยมองว่าจนมุม ไป

แต่อย่างว่า อะไรๆมันก็ไม่แน่ ท่านอาจใช้แค่ หยุดการปรุงแต่ง เข้ามรรคผล นิพพานได้ ผมก็ อนุโมทนา สาธุด้วย ครับ

 

ก่อนหยุด ต้องรู้จักตัวมัน รู้จักการเกิดก่อน ขั้นแรกต้องอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์(การมีอยู่ของทุกข์ ความเศร้าโศกความเสียใจ ความผิดหวัง การพลัดพราก ความเกลียด ความอิจฉา ความวิตก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ทั้ง 5 ล้วนเป็นทุกข์) การเกิด(ปฏิจจสมุทปบาทสายเกิด) การดับ(ปฏิจจสมุทปบาทสายดับ) หนทางการดับทุกข์(มรรค ๘) อยู่ๆ มาบอกให้หยุด เมื่อไม่เห็นอริยสัจแล้วจะหยุดอะไรครับ

 

ใจกระเพื่อม ได้อานิสงค์มากๆ ค่ะ ถ้าปฏิบัติเป็น
อานิสงค์นี้ก็เป็นกุศลเพื่อเป็นทางให้ถึงมรรคผลนิพพานในที่สุดค่ะ

 

^
^
เฮ้อ!!!!
จะพูดอะไรมั่วๆออกมาหนะ
คิดเองเออเองหรือมีพระพุทธพจน์รองรับ

ยังจะด้านอีกนะว่า"อ่านให้เคลียร์ๆ นะครับ"
พูดเองชัดๆว่า เกิดคือหน้าที่ ดับคือหยุดหน้าที่
เกิดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักขโมยด้วยราคะ โทสะ โมหะฯลฯ
แบบนี้หรือที่เรียกว่าเกิดเป็นหน้าที่

ไม่ว่าปรมัติสัจะขนาดไหน ล้วนมาจากสมมุติสัจจะทั้งนั้น
หัดรู้จักรับผิดชอบบ้าง อยากพูดอะไรคิดให้รอบคอบก่อน
แบบนี้พระพุทธพจน์เสียหายหมด
จำเอาไว้นะ

สนทนาธรรมสมควรแก่ธรรม

 

ว้า งานนี้คิดว่าจะมี นักเลงเมืองชลลูกซองแฟด จะถ้าดวลกับ ก๊อกหกหมื่นสอง ซะแล้ว

ไม่ทันไร บอกศาลากันเสียแล้ว แต่ก็ดี เนาะ

นี่ๆ ใครถือก๊อกหกหมื่นสอง เวลาที่ เรายังไม่รู้อะไรถูกอะไรผิด แล้ว เราเดาสุ่มส่งสวด
ไปว่า เขาคงถูกมั้ง แต่กลับไปกล่าว วาจาเป็น วจีกรรมด้วยอาการไม่รู้ชักจูงอยู่ อะไรแบบ
นี้พึงทราบไว้ว่า กำลังขอเป็นแบบเขาในวันข้างหน้า และ จะต้องเป็นโดยเลี่ยงไม่ได้
ด้วยเพราะ อนุโมทนา ไปแล้ว เป็นกรรมไปแล้ว

อะไรแบบนี้ ลองพิจารณาดูสิว่า สมควรถือก๊อกหกหมื่นสองอีกนานแค่ไหน

อะไรที่ไม่รู้ ไม่แน่ใจ แทนที่จะ ลูบคลำ พระท่านว่า เห็น สงสัยไปมีประโยชน์
กว่าจะไปเที่ยวสร้างกรรมทำเข็ญแก่ตัวด้วยการ อนุโมทนา ไปแบบสุ่มสี่สุ่มแปด

อีกสำนวนหนึ่ง

ปุถุชน มักจุดไฟ แต่เป็นการ เผาเรือนตัวเอง อยู่ตลอดเวลา

 

นี่ๆ คุง "ทำมาพูด" สนทนากับ พยักร้ายทริปเปิ้ลอี อันนี้ผมบอกก่อนนะว่า

เขาเคยกล่าวว่า เป็น จนท อยู่ภาคใต้

ดังนั้น หากจะดำริว่า รายนี้เป็น ป ป ป ก็ขอให้...............ออกไปดูก่อน

ไม่ใช่หาเรื่องวดภาพว่าเป็น ป ป ป เสร็จแล้วก็เลยละเลงซะเละในฐานะเป็น
พวก ป ป ป

เพราะหากคุณทำอย่างนั้น ช่วยกรุณาสงสารผมที่หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
อยู่กับอาการกระเหี้ยนกระหือรือกระสือกระสังยัดเยียดความเป็น ป ป ป จน
มั่วทั่วประเทศไปหมด ไม่ได้ ดูตาม้าตาเรือในกระดานหมากรุกทำ...โอ๊ดโอ๊ดอ๊อดอ๊อด

 

^
^
แล้วอะไรหละที่ไปพระนิพพานได้?

เจริญในธรรมทุกท่าน

 

^
^
นิวรณ์เอ๋ย
เพื่อรักษาพระสัทธรรมไว้ ยังกลัวตายอยู่อีก
กลับไปนอนซะ อย่าเสียเวลาเล่นอยู่ในบอร์ดเลย
ก็ดีแต่เสี้ยมไปวันๆ เอามันเข้าว่าเท่านั้น

เฮ้อ!!!เจริญในธรรมหวะ

 

กั๊กๆๆ

นิพพานบ้าน ทำมาพูด แบ่งเป็น ชั้นๆ มี ไป มี มา เว้ยเฮ้ยยยย


ฮิววววววส์


เคย อึ๊ก อึ๊ก อึ๊ก กับเขาบ้างไหมนี่

"อึ๊ก อึ๊ก อึ๊ก" "ประจักษ์นิโรธน เจริญมรรค" เนี่ยะ ยังต้องมีไปมีมา อะไรอีกเหรอ

 

สงสัย ทำมาพูด อดนอน เล่นอะไร จนฟ้าเหลือง แน่เลย

อะไรกันครับ กลัวตงกลัวตาย อยู่ดีๆ ไปงัดมาจากไหนนี่

ผมไม่ได้พูดเรื่อง กลัวตงกลัวตาย อะไรสักกะคำ

กล่าวให้ เข้าใจพื้นเพแลประวัติของเขาให้ถูก เพื่อ รักษา
ประโยชน์ในการปล่อยไก่ของทำมาพูดไว้ มันเป็นเรื่องเสี้ยมตรงไหนหละนี่

ฮิวววววส์

 

ู^
^
อย่ามัวแต่แทงกั๊กๆๆ
แบบนี้สันดานชอบเอาเปรียบเจ้ามือ

ถ้าพระนิพพานเป็นชั้นๆ อันนั้นน่าจะเป็นสวรรค์ วิมานมากกว่าเว้ยเฮ้ยยยย


ฮิววววววส์


"ประจักษ์นิโรธน เจริญมรรค" ที่พูดหนะเอาอวัยวะส่วนไหนพูดมั่วออกมาได้

"มันต้องเจริญมรรคโว้ย จึงจะประจัษ์นิโรธได้"

เจริญในธรรมทุกท่าน

 

ู^
^
เหรอ!!!

อดหลับหนะใช่ แต่ไม่เคยอดนอน

รู้หรือเปล่าว่าเป็นเรื่องเสี้ยมตรงไหน? แกล้งไม่รู้จริงๆหรือ?

ก้เล่นเอาประวัติชาวบ้านมาขู่เล่นๆซะงั้น

แค่นิวรณ์เคยคุยเรื่องปืนกับเค้าไปนิดหน่อยเองไม่ใช่หรือ?

เรื่องแค่นี้นิวรเสียแล้ว ยังแกล้งโ..ได้เลย

ถ้ารู้ประวัติเค้าดีนัก ก็ชวนมามีสติ้งสิ

คิดว่าวิษณุคงไม่ขัดข้องหรอก

แต่อย่าเป็นอีแอบ(เสี้ยม)ลับๆล่อๆ ก็เท่านั้น

เจริญในธรรมทุกท่าน

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อุรุเวลา
จิต มโน วิญญาณ ไปนิพพานไม่ได้ครับ

^
^
ก็ลองหัดอ่านที่ตนเองลงไว้ สักหลายรอบดูสิก็จะรู้ว่าอะไรที่บรรลุพระนิพพาน
เจริญในธรรมทุกท่าน