การหลอมรวมอัลฟ่าและโอเมก้า และ 5 มหาปะลัย เพื่อการเชื่อมโยงโลกสองขั้ว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 25 มิถุนายน 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ที่รักทั้งหลาย ในเวลานี้โลกของท่าน
    ยังเป็นโลกที่มี "สองขั้ว" อยู่ แต่มัน
    กำลังจะถูกทำให้เป็น "โลกสองขั้ว"
    แต่ ไหลเวียนเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน
    อย่างที่คุณเห็น โลกขั้วตะวันออกและ
    โลกขั้วตะวันตก สองขั้วโลก, สองซีก
    โลกเข้ากันไม่ได้แต่กำลังจะเชื่อมโยง
    เข้าหากัน ลองถึงนึกระบบไฟฟ้าดูนะ
    เวลาที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีขั้วสองขั้ว มันก็
    จะเกิดการไหลเวียนของสองขั้วนั้นๆ
    สิ่งนี้จะช่วยในการขับเคลื่อนโลกได้
    ทว่า ถ้ามันถูกหลอมรวมจนกลายเป็น
    ศูนย์ คือ ไม่มีขั้วไปหมด ไม่มีประจุเลย
    มันก็จะหยุดไหลเวียนทันที เหมือนกับ
    หัวใจของโลกหยุดเต้น ไฟฟ้าหยุดไหล
    นั่นแหละ เอาละ เราจะหลอมรวมแบบนั้น
    ไม่ได้ (จะให้ทั้งโลกนี้มีเพียงระบอบการ
    ปกครองเพียงอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ได้)


    โลกสามารถขับเคลื่อนไปได้เหมือนระบบ
    ไฟฟ้าสองขั้วที่เชื่อมโยงเข้าหากันอย่างมี
    ศิลปะและวิทยาการ ไม่ใช่การทำให้มันมี
    สภาพเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดไปทั้งโลกนะ
    แบบนั้น มันจะกลายสภาพเป็น 0 ไม่มีขั้ว
    บวกและลบ และไฟฟ้าจะหยุดไหล หัวใจ
    ของโลกก็จะหยุดเต้นได้ เอาละ เรามาคุย
    เรื่องนี้กัน (ผมจะพยายามทำให้ง่ายที่สุด)
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    การไหลเวียนของ "ขั้วพลังใหม่" และ "ขั้วพลังคลาสสิค" ของโลก


    โลกจะถูกทำให้มี "สองขั้ว" คือ "ขั้วพลังงานใหม่" ซึ่งเชื่อมโยงพลังงาน
    มาจากจักรวาล (นอกโลก) เป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนโลก ไปสู่โลกอนาคต
    และคนที่จะเข้ามาอยู่ในกระบวนการนี้จะเป็น "คนกลุ่มพลังงานใหม่" และ
    "คนจากภัทรกัปหน้า" (พวกที่จะได้นิพพานในยุคนั้น) ในขณะที่อีกขั้วคือ
    "ขั้วพลังงานคลาสสิค" ที่ใช้พลังงานจากในโลกนี้ส่วนคลาสสิค เป็นพลัง
    งานที่ขับเคลื่อนโลกให้ดำรงคงไว้ซึ่ง "ความเป็นภัทรกัปนี้" ไม่ให้ภัทรกัป
    นี้สิ้นไปก่อนเวลาอันควร และคนที่จะเข้ามาทำกิจในส่วนนี้ก็คือ "คนกลุ่มที่
    มีพลังคลาสสิค หรือ คนในภัทรกัปนี้" (หรือที่จะได้นิพพานในภัทรกัปฯ นี้)
    เอาละ เพื่อให้เห็นชัดเป็นรูปธรรมมากขึ้น ก็จะกล่าวถึงพลังงานที่ใช้ในการ
    ขับเคลื่อนระบอบการปกครองสองแบบของโลกนี้ คือ "พลังงานใหม่จะใช้
    ในการขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตย" และ "พลังงานคลาสสิคจะใช้ใน
    การขับเคลื่อนระบอบตรงกันข้าม" แล้วโลกนี้จึงจะมีความสมดุล แต่เราไม่
    อาจจะหลอมรวมทั้งสองนี้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ เพราะจะทำให้มันกลายเป็น
    "ศูนย์" คือ ขั้วบวกและลบ จะถูกทำให้กลายเป็นกลางไปหมด แล้วมันจะ
    ไม่มี "ความแตกต่างเป็นแรงขับดันในการไหลเวียนของพลังงานในโลก"
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    [​IMG]
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    เชื่อมต่อ "ไฟฟ้าขั้วโลก" อย่างไร? ไม่ให้กลายเป็น "ไฟฟ้าช้อต"


    ปัญหาก็คือ จะต่อเชื่อมวงจรไฟฟ้าสองขั้วของโลกนี้อย่างไร จึงจะไม่เกิด

    "กระแสไฟฟ้าลัดวงจร"? เพราะถ้าคุณต่อเชื่อมผิดวิธี บางครั้ง มันอาจจะ
    ทำให้กลายเป็น 0 ก็ได้ หรือกลายเป็นไฟฟ้าช้อตก็ได้ เอาละ ตั้งสติดีๆ คุณ
    จะต้องเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าสองขั้วโลกนี้ใหม่ เพราะตอนนี้ "มันผิดพลาด
    ไปเล้กน้อย" และ "มันกำลังจะช้อต" เสียแล้ว เมื่อใดที่มันเกิดการช้อตขึ้น
    มันก็จะเกิดประกายไฟและใหม้ลุกลามไปทั่วโลกได้ แสดงว่าคุณกำลังต่อ
    เชื่อมมัน "ผิดจุด" เสียแล้ว อย่าเลย อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงขั้วโลกให้
    หมดความแตกต่างไป เพราะมันจะทำให้กระแสไฟฟ้าหยุดการไหลเวียน!
    หรือไม่ก็กลายเป็น "ไฟฟ้าช้อต" ไปเสียก่อน แทนที่มันจะ "ก้าวหน้า" มัน
    กลับจะต้องย้อนถอยหลังไปเริ่มนับ 0 กันใหม่อีกรอบ หวังว่าพวกคุณคงไม่
    อยากให้มันต้องกลายเป็นเช่นนั้นนะ ระหว่างที่ "โลกกำลังเชื่อมต่อกันนี้"
    คุณควรจะ "ระวังการเชื่อมต่อให้มาก" อย่าให้การเชื่อมต่อผิดพลาด เพื่อ
    ให้เกิดการไหลเวียนของไฟฟ้าขั้วโลกทั้งสองขั้วได้อย่างราบรื่น ตกลงไหม
     
  5. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    เริ่มต้นจาก "การหลอมรวมอัลฟ่าและโอเมก้า" ขึ้นมาเป็น "ต้นแบบ"


    เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด จึงใช้สิ่งที่เล็กลงเป็นต้นแบบเพื่อจะ
    ทำการทดลองให้ได้แบบที่ถูกต้องก่อน นั่นคือ การทดลองหลอมรวมระบบ
    "ไฟฟ้าสองขั้ว" ในตัวมนุษย์ที่มีวิวัฒนาการสูงที่สุด (ซึ่งมีโอกาสประสบ
    ความสำเร็จสูงที่สุด) ดังนั้น การสร้าง "มนุษย์ไฟฟ้า" สองขั้ว (อัลฟ่า -
    โอเมก้า) หรือ "ขั้วพลังงานใหม่ และ ขั้วพลังงานคลาสสิค" จึงต้องเริ่ม
    ต้นขึ้น เมื่อได้มนุษย์ต้นแบบแล้ว ก็จะนำแบบที่ได้ไปขยายผลใช้ในระดับ
    ที่ใหญ่ขึ้น เช่น ระดับประเทศและโลก ต่อไป เอาละ มนุษย์ไฟฟ้าสองขั้วนี้
    จะมีระบบพลังงานที่แตกต่างกัน คือ ทั้งระบบพลังงานใหม่และระบบพลัง
    งานคลาสิคอยู่ในตัว ทั้งนี้ เมื่อได้ "มนุษย์ไฟฟ้าต้นแบบ" แล้ว 1 คน ก็จะ
    ขยายผลไปสู่ "มนุษย์ไฟฟ้ากลุ่มแรก" ที่จะมีทั้งหมด 5 คน เรียกเป็นชื่อ
    เล่นว่า "5 มหาปะลัย" ก็แล้วกัน (หวังว่าท่านคงไม่คิดมากนะครับ) ซึ่ง
    จะมาจากการหลอมรวมของ "อัลฟ่า" (หรือพลังงานแห่งภัทรกัปหน้า)
    และ "โอเมก้า" (หรือพลังงานแห่งภัทรกัปนี้) ประกอบกันขึ้นเป็นระบบ
    ไฟฟ้าที่ไหลเวียนต่อเนื่อง "ไปในทิศทางเดียวกัน" (ก็จะไม่กระทบกัน)
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ต่อเนื่องด้วยการหลอมรวม "สองระบบ" ในระดับ "ประเทศคู่แฝด"


    เพื่อสร้าง "ต้นแบบ" ของโลก โดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ดังนั้น จึงต้องมี
    การเลือก "ประเทศฝาแฝดคู่แรกของโลก" ที่มีระบบการปกครองที่ต่าง
    กัน แบบสองขั้ว เชื่อมโยงกันเพื่อให้เกิด "การไหลเวียนของกระแสไฟ
    ฟ้า" และประเทศทั้งสองที่ได้รับการคัดเลือกแล้วนั้น อาจจะเป็นประเทศ
    "ไทย-พม่า" หรือ "เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้" ก็ได้ อย่าลืมละ ว่าเราไม่มี
    นโยบายสร้างความเป็นหนึ่งเดียวด้วยการไปล้มล้าง ความแตกต่างของ
    ระบอบการปกครองของใคร นั่นคือ สองประเทศแม้มีระบอบการปกครอง
    ที่แตกต่างกัน แต่ก็จะต้องเป็น "ต้นแบบ" ถึงการเชื่อมโยงและไหลเวียน
    ระหว่างกันให้ได้ จึงจะเป็น "ต้นแบบให้ทั้งโลกนี้ได้" จึงจะเกิดการขยาย
    ผลต่อไปทั่วทั้งโลก สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะโลกกำลังรอต้นแบบที่ว่านี้อยู่
    ก่อนที่จะกลายเป็น "การลัดวงจรไฟฟ้าในระดับโลก" และใหม้ลุกลามต่อ
    ไป เอาละ หวังว่าท่านคงเข้าใจงานที่สำคัญยิ่ง ที่ควรจะทำต่างๆ เหล่านี้
    นั่นคือ ท่านต้องเริ่มต้นด้วย "ความเคารพและไว้วางใจ" ในความต่างใน
    ระบอบการปกครองของทั้งสองประเทศ แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันแบบ
    "ตรงกันข้ามสุดขั้ว" เลยก็ตาม แต่ท่านก็ต้องใช้มัน ใช้ความแตกต่างนั้น
    ให้เกิดประโยชน์ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทำให้ความแตกต่างนั้นกลายเป็น
    "พลังขับดันให้เกิดการไหลเวียน" ขึ้นมาให้ได้ จึงจะประสบความสำเร็จ!
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ตามมาด้วยการ "ขยายผล" ไปสู่ระดับ "ภูมิภาค" เช่น ระดับอาเซียน


    เอาละ การที่ท่านคิด "ระดับโลก" นั้นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว แต่ท่านจะต้องเริ่มต้น

    จากจุดเล็กๆ คือ ระดับท้องถิ่นด้วย (Think global act local) นั่นคือ
    ก่อนที่จะขยายผลไปสู่ความสำเร็จในระดับที่กว้างใหญ่ขึ้น ท่านควรเริ่มต้น
    จากจุดเล็กๆ และที่สำคัญที่สุดคือ "เริ่มต้นจากตัวของท่านเอง" แล้วจึงจะ
    ขยายผลออกไปเป็น "ระหว่างประเทศ" หรือระดับที่กว้างยิ่งขึ้นต่อไป ได้
    สิ่งสำคัญคือท่านต้องเข้าใจว่า "เพราะมีความแตกต่างจึงมีการไหลเวียน"
    และมันเป็น "โอกาสทองที่ดีมากๆ" หากท่านมีมิตรประเทศเพื่อนบ้านที่มี
    ความแตกต่างจากท่าน นั่นแหละ มันจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการไหล
    เวียนของสิ่งต่างๆ ต่อไป โลกนี้ก็เช่นกัน มันเหมือนมีสองซีกประกอบกัน มี
    สองขั้วสำคัญประกบกันขึ้นมาเป็น "โลกหนึ่งเดียว" มันจึงเหมือนภาวะที่มี
    ความเป็น "ฝาแฝด" อยู่ในตัวเอง ฝาแฝดที่คล้ายกันมากแต่ต่างกันสิ้นเชิง
    ทว่า ทั้งสองก็ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ ไม่อาจแยกขาดจากกัน และไม่อาจที่จะ
    หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยการทำลาย หรือกลืนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดลงไป
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    จุดที่มีมาก ย่อมไหลไปสู่จุดที่มีน้อย แต่ทั้งสองจุดก็ล้วน "แตกต่างกัน"


    ต่อไปคือ การวางระบบการไหลเวียนของกระแสไฟฟ้าระดับโลก ซึ่งใช้
    หลักการสำคัญคือ "กระแสจะไหลจากที่มากไปสู่ที่น้อยกว่า" ในขณะ
    เดียวกัน ทั้งสองขั้วโลก ก็มีสิ่งที่มีมากและสิ่งที่มีน้อย แตกต่างกันออก
    ไป ดังนั้น จึงเกิดการไหลเวียนทั้งสองสาย คือ สายที่ไหลออกและสาย
    ที่ไหลเข้า การแลกเปลี่ยนกันของสองขั้ว จะทำให้เกิดพลังงานในการ
    ขับเคลื่อนโลกโดยรวม และทำให้องค์ประกอบย่อยได้รับการขับเคลื่อน
    ให้เดินไปข้างหน้าด้วย เช่น คนแต่ละคน ก็จะได้รับพลังขับดันให้ต้องมี
    ความก้าวหน้าขึ้นไปด้วย เมื่อทำได้อย่างนี้ กระแสไฟฟ้าก็จะไม่ลัดวงจร
    ก็จะไม่เกิดประกายไฟใหม้ลุกลามออกไป และจะนำมาซึ่งประโยชน์ร่วม
    กันในที่สุด อนึ่ง ความคิดที่มองว่าโลกควรมีระบอบการปกครองหนึ่งเดียว
    นั้น นอกจากจะนำพาไปสู่ "สงครามโลกระหว่างสองระบอบ" แล้ว ยังทำ
    ให้ระบบไฟฟ้าสองขั้วนี้ สิ้นไปด้วย ทำให้โลกขาดพลัง ในการขับเคลื่อน
    ดังนั้น แม้ว่าท่านจะคิดและทำสำเร็จจริงแต่ท่านอาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ
    ในท้ายที่สุดของการกระทำนั้นๆ เพราะท่านอาจ "มองโลกผิด" ตั้งแต่แรก
    ก็ได้ ดังนั้น ขอให้ท่านระมัดระวังขึ้นอีกนิดในการเชื่อมโยงโลกเข้าด้วยกัน
     
  9. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    25 มิ.ย. 2555


    "เสียงจากสภาฯ"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ส่ง พลัง ให้ เขา ไป โดย กำหนด

    ใน พลัง ที่ ส่ง ให้ เขา ไป คือ เมื่อ

    ได้ รับ พลัง แล้ว จง ไป ใน สิ่ง ที่ ดี งาม

    พลัง นี่ คือ อะไร บ้าง ก่ เอา บทสวดมนต์

    ที่ มี พลัง งาน อ้าง อิง จาก ผู้ ประเสริฐ

    ประกอบ การ อธิษฐาน ให้

    สวดมนต์ คือ การหุง ข้าว หุงแล้วก่ ต้องทาน

    ทันที คือ อธิษฐาน ให้ ไป

    เขา อาจ เป็น ญาติ หรือ สัมเวสี หรือ อะไร ก่ แล้ว แต่

    หาก ไม่ มี พลัง ก่ เกาะ กับ เรา ต่อ ไป
     
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    คน ไม่ มี พลัง ฌาน ก่ ต้อง อาศัย การ สวดมนตรา แทน
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ว่าง สิ ทำ ตัว ให้ ว่าง ทั้ง นอก ใน มัน ก่ ไม่ ทำ อะไร

    ไม่ มี อะไร เป็น เป้า หา ไม่ เจอ
     
  13. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    จิตคือพุทธะที่ไหน? ชัวร์หรือมั่วนิ่ม


    จิต ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น มันบริสุทธิ์ประภัสสร เป็นเช่นนั้นเอง
    "พุทธะ" มาจากไหน? พุทธะมาจาก "วิญญาณขันธ์ปรุงแต่ง"
    พุทธะ มิใช่จิต คำว่า "จิตนั้นมีลักษณะหนึ่งเดียว" คือ ประภัสสร
    ไม่ใช่พุทธะ ไม่ใช่มาร ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่อะไรๆ เลย ที่มันเป็นนั่น
    เป็นนี่มากมาย เพราะ "วิญญาณขันธ์" ปรุงแต่งทั้งนั้น ให้เป็นเทพ
    เป็นมาร เป็นโพธิสัตว์ เป็นพุทธะ เป็นหมา เป็นแมว อะไรไป


    ดังนั้น จิตหมา, จิตมาร, จิตพุทธะ ฯลฯ มันก็ไม่ต่างกัน
     
  14. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    จิตหนึ่งแบบท่านฮวงโป ชัวร์หรือมั่วนิ่ม?


    ท่านฮวงโป กล่าวถึง "จิตหนึ่ง คือ พุทธะ"
    ทว่า จิตมันจะเป็นพุทธะไปได้อย่างไร? ใน
    เมื่อหมาก็มีจิต แล้วหมามันเป็นพุทธะหรือ
    เปล่า?


    หมามีขันธ์ห้า คือ สังขารขันธ์ เป็นหมาแน่นอน,
    วิญญาณขันธ์ เป็นหมาปกติบ้าง, เทพสุนัขบ้าง
    ปีศาจหมาจิ้งจอกบ้าง ฯลฯ มีได้หลายอย่าง แต่
    "จิตก็มีหนึ่งเดียว" ไม่ใช่ "ดวงเดียว" คำว่าหนึ่ง
    เดียว คือ "จิตประภัสสร" เป็นลักษณะแท้หนึ่ง
    เดียวของจิต ไม่ว่าจะเป็นจิตของใครในขันธ์ใด
    จิตของหมา, ของแมว, ของพุทธะ, เทพ-มาร
    อะไรๆ มันก็ไม่ต่างกันเลย ที่ต่างอยู่ที่ "ขันธ์"
    ไม่ใช่ที่จิต จิตไม่ใช่ขันธ์, ขันธ์ก็ไม่ใช่จิต แต่
    เพราะอยู่ร่วมกันนาน ขันธ์จึงปรุงแต่งจิต แต่
    จิตไม่รู้ว่าถูกปรุงแต่งห่อหุ้ม จึงไม่เข้าถึงความ
    บริสุทธิ์ที่มีอยู่แล้วในจิตนั้นเอง ไม่ต้องหาเลย
    ไม่ต้องสร้างทำ ไม่ต้องฝึก "บริสุทธิ์" อยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มิถุนายน 2012
  15. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    จิตไม่ใช่ตัวรู้หรือตัวไม่รู้ ส่วน "ตัวรู้" คือ "ตัวตนแห่งวิญญาณขันธ์" อย่างหนึ่ง


    อุปมาดังนี้ เหมือนมีโจรขโมยของผ่านไป ตำรวจตามมาถามว่า "ใครเห็นโจรบ้างไหม?"
    เจ้าจิตอยู่แถวๆ นั้นๆ ไม่ใช่โจร เป็น "ผู้บริสุทธิ์" บางทีก็เข้าไปรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ทว่า ไม่ว่า
    จิตจะรู้หรือไม่รู้ "มันก็ไม่ผิด" มันก็คือ "ผู้บริสุทธิ์อยู่ดี"


    ทว่า "เจ้าวิญญาณขันธ์" ตัวดี มันชอบทำตัว "สู่รู้" มันก็เสนอหน้าไปบอกตำรวจว่าฉันรู้ๆ
    ฉันเห็น นั่นคือ โจร คนนั้นผิด คนนี้ถูก คนนั้นดี คนนี้ชั่ว เจ้าวิญญาณขันธ์ มันเจ้ากี้เจ้าการ
    ไปหมด เพราะ "รู้มาก" มีตัวตนเป็นตัวสู่รู้ ชอบเข้าไปรู้ แล้วปรุงแต่งเรื่องมากมาย


    จิตไม่ใช่วิญญาณขันธ์ จิตไม่ใช่ขันธ์ จิตก็คือจิต ...
     
  16. PrettyCure Rouge

    PrettyCure Rouge สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +0

    แล้วจิตมันก็อยุ่ในวิญญาณขันธ์ โดนวิญญาณขันธ์ครอบงำอีกทีใช่มั้ยย.............
     
  17. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    จิต ประภัสสร ถูก แล้ว จิต เป็น แค่ เครื่อง มือ ส่ง ผ่าน ...ส่ง ผ่าน อะไร?

    จิต ประภัสสร ถูก จริง จิต หมอง เพราะ กรรม บาป ของ มนุษย์ ที่ ถูก บันทึก

    ไว้....มัน จึง แสดง ผล ออก มา

    จิต แต่ ละ มิติ จะ แตก ต่าง กัน จิต เป็น เครื่อง มือ ยื่ม ชั่ว คราว

    ฝึก จิต หา ขี้ หรือ

    ใคร ฝึก จิต ก่ หลง ประเด็น แล้ว ... รับ รอง หา ส้วม ไม่ เจอ แน่

    ผล ของ การ ฝึก จิต จึง ทำ นาย สิ่ง ต่าง ๆ มั่ว ๆ ส่ง เดช

    ทำ นาย ได้ และ เกิด ขึ้น จริง เพราะ มัน มา จาก ความคิด ปรุงแต่ง(มวลรวม)

    การ ฝึก ที่ ถูก ต้อง คือ ต้อง ฝึก ใจ
     
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ฝึก รู้ ใจ
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เรื่อง นี้ เคย ตอบ ไป แล้ว เอา อีก ก่ ได้ เพราะ คน ส่วน ใหญ่ ไม่ ไป ขี้ ใน ส้วม

    ชอบ ขี้ ราด กลาง ทาง

    รู้ ใจ เป็น อย่าง ไร

    เหตุ หรือ ปัจจัย ภาย นอก กระทบ กับ ปัจจัย ภายใน (ความรู้สึกกระทบ)

    หรือ ปัจจัย ภายใน กระทบ ปัจจัย ภายใน ตัว อื่น ๆ

    ผล กระทบ จะ ส่ง ผล มา ยัง ใจ

    ใจ สั่น

    ใจ ไม่ สั่น

    ใจ สงบ

    ใจ สงบนิ่งมั่นคง

    มอง แค่ นี้ เอง

    การ นำ ไป ใช้

    แทน อภิญญา

    คือ เวลา เรา จะ คิด ทำ อะไร ให้ ตั้ง อธิษฐาน สมมติ ว่า เรา ทำ ตรง นั่น จริงๆ

    เมื่อ เรา ตั้ง สมมติ แล้ว เรา ก่ ดู ที่ ใจ ว่า สงบ หรือ สั่นสะเทือน

    หาก สั่น สะเทือน ก่ ไม่ ควร ทำ

    หาก สงบ นิ่ง ก่ สามารถ ทำ ได้

    หรือ ว่า นำ ไป ใช้ ตรวจ สอบ ที่ ดิน ที่ อยู่ อาศัย วิธี คือ อธิษฐาน สมมติ ว่า เป็น จริง

    ได้ อยู่ บ้าน หลัง นี้ แล้ว ... จาก นั้น ก่ ทดสอบ ดู ใจ ตน เอง ว่า ควรอยู่ หรือ ไม่ควรอยู่ .... เป็น อย่าง นี้

    ใคร อยาก เป็น หมอ ดู ก่ ให้ ทำ อย่าง นี้ ได้

    .........................

    เบื้อง ต้น การ ฝึก ต้อง รู้ ใจ ตน ให้ เด่น ชัด ก่อน

    เรา จึง หนับ หนุน การ ฝึก มโนมยิทธิ แทน การ ฝึก อภิญญา

    เอา แค่ นี่ ก่ พอ


    หาก ไม่ เข้า ใจ ก่ ไป หา หนัง สือ เกี่ยว กับ ซุนวู ดู

    รู้ นอก รู้ ใน ใจ กระจ่าง แจ้ง

    หรือ

    ศึกษา เรื่อง องค์กรบริหารแบบ เปิด ดู

    ศึกษาปัจจัยแวดล้อมภายนอก ศึกษาปัจจัยแวดล้อม ภายใน องค์กร

    แล้ว สร้างกลยุทธิ์ กำหนดกลยุทธ์ นี่ ล่ะ หัวใจการบริหารองค์การแบบเปิด


    การบริหารองค์การแบบปิด คือ การฝึกจิตแบบสมถะ นิ่ง หัว โด จน ตูด ด้าน
    ฝึก ง่าว ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2012
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ภาค ขี้ กระจาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...