อยากทราบว่าเป็นไปได้ไหมว่าคนต่างศาสนาพอตายไปจะมีวัฏจักรแตกต่างกัน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รีนาโมจัน, 30 มิถุนายน 2012.

  1. รีนาโมจัน

    รีนาโมจัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +55
    คือเราอาศัยอยู่ต่างประเทศ เมืองฝรั่งนั่นแหละ แต่ก็พบว่าแม้แต่ฝรั่งชาวตะวันตกเองจำนวนไม่น้อยก็มีความเชื่อเรื่องหลังความตายไม่ต่างจากคนไทยอย่างเมืองไทยก็ดูรายการคนอวดผี? ส่วนถ้าจะพูดถึงคนธรรมดาที่ไม่ใช่พระสงฆ์แต่มีความสามารถพิเศษเห็น หรือ สื่อสารกับวิญญาณได้ ที่ดังๆในเมืองไทยตอนนี้ก็มี หลายคน แต่ส่วนใหญ่จะนับถือพุทธและการให้คำแนะนำก็จะแบบพุทธ เช่นว่าฆ่าตัวตายจะไปนรก หรือให้ทำบุญมากๆ หรือที่สุดของความสุขคือการไปนิพพาน ฯลฯ ที่ประเทศที่ดิฉันอยู่ เมืองฝรั่งก็มีรายการสดที่คล้ายๆคนอวดผีอยู่เหมือนกัน ไม่ขอเอยชื่อแต่เป็นรายการที่ดังมากระดับประเทศในตอนนี้ ซึ่งมีเจ้าของรายการสามารถติดต่อพูดคุยตัวต่อตัวกับผีได้ นอกจากนั่นยัง
    ชนิดที่ว่าเก่งกว่า คุณริว หรือ อ.เจน เพราะรู้แม้กระทั้งว่าคู่สนธนาคิดอะไรอยู่ ไปทำอะไรมา เมื่อไร ชื่ออะไร หรือแม้กระทั้งสามารถอ่านจิตของเด็กปัญญาอ่อน หรือคนใบ้ได้ นอกจากนี้รายการนี้ยังมีการจองคิวซื้อบัตรไปเจอกับนักพลังจิตคนดังกล่าว เพื่อนบ้านดิฉันเคยไปดูกับนักพลังจิตฝรั่งมาเหมือนกัน ยังบอกว่าทึ่งเพราะรู้ชื่อพ่อชื่อแม่และทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ตายที่ญาติไม่ได้บอก ทีนี้เรามาเข้าเรื่องคำถามเลยว่าเป็นไปได้ด้วยหรือที่ฝรั่งต่างศาสนาจะมีญาณหยั่งรู้เกินอภิญญา สิบ แต่ครั้นพอถามเรื่องนรกสวรรณค์กลับตอบว่าคนที่ตาย แม้แต่ฆ่าตัวตายนั่นไม่ได้ไปนรกแต่อาศัยอยู่ในโลกวิญญาณและทำกิจวัตรต่างๆเหมือนๆกับคนในโลกมนุษย์ และวิญญาณก็ไม่ได้รับทุกทรมานหรือมียมฑูตอะไรมารับตัวอย่างของไทยเราว่าอย่างนี้ดิฉันจะทราบได้ยังไงว่าอะไรจริงไม่จริง ของไทยเราจริง?หรือของฝรั่งจริง? หรือเป็นเพราะว่าถ้านับถือพุทธวิญญาณที่ทำบาปอย่างฆ่าตัวตายต้องไปใช้กรรมในนรกแต่ถ้าวิญญาณที่ไม่ได้ได้นับถือพุทธ ไม่รู้จักศานาพุทธพอฆ่าตัวตายก็ตายที่ไหนก็อยู่ที่นั่นไม่ต้องไปใช้กรรมในนรกเพราะวิญญาณไม่รู้จักกะทะทองแดงหรือต้นงิ้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2012
  2. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แนะนำให้เข้าไปศึกษาในห้อง กฏแห่งกรรม - ภพภูมิ นรก สวรรค์ ค่ะ มีอะให้ให้น่าศึกษาและน่ารู้มากมายค่ะ
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ก็อาจจะถูกทั้งไทยและฝรั่งเลยครับ เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ที่สามารถอยู่ได้ในหลายที่พร้อมกันในเวลาเดียว เมื่อคนเราตายไปมันจะเกิดเหมือนกับการประทับคุณลักษณะที่เราเคยเป็นตลอดทั้งชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ มันเป็นลักษณะเหมือนการเล่นเทป และอีกสว่นหนึ่งก็เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่อไป ของฝรั่งที่เรียกว่า medium เขาจะสื่อสารกับส่วนที่เหมือนกับเทปดังกล่าว โดยที่ตัวจริงๆ นั้นไปเกิดเรียบร้อยแล้ว และมันก็สามารถสื่อสารโต้ตอบได้เช่นเดียวกับคนจริงๆ แต่จะมีความรู้แค่เท่าตอนมีชีวิตอยู่ ไม่มีความรู้เรื่องโลกหลังความตาย ส่วนนี้สามารถตอบได้หมดว่าชื่ออะไร ตอนมีชีวิตอยู่มีความเป็นอยู่อย่างไรก่อนตาย แต่ไม่มีความรู้ว่าตายไปแล้วเป็นอย่างไร แต่คนไทยอาจจะสนใจส่วนที่ไปเกิดซึ่งสำคัญกว่า ก็ลองพิจารณาดูครับ
     
  4. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    อยากรู้ว่าอะไรจริง ไม่จริง
    ให้ฝึกอภิญญาครับ

    มัวแต่ไปถามคนอื่นก็สงสัยอยู่ร่ำไป
     
  5. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    คนที่ตายตามอายุขัย ตายแล้วก็ไปเกิดตามกรรม ซึ่งถ้าตอนมีชีวิตอยู่ทำบุญบาปชัดเจนก็จะไปเกิดตามภพภูมินั้นๆโดยที่ไม่ต้องผ่านสำนักพระยายมราชเลย ยกตัวอย่างพระเทวทัตทำบาปหนักชัดเจนก็โดนธรณีสูบไปอเวจี แต่ถ้าทำบุญบาปครึ่งๆก็จะมีเจ้าหน้าที่รับไปสำนักพระยายมคอยรับฟังคำตัดสินค่ะ หรือก่อนตายจิตคิดถึงเรื่องใดมากเช่นก่อนตายอกุศลกรรมให้ผล มีจิตใจเศร้าหมองก็ไปนรกก่อน ถ้าก่อนตายจิตคิดถึงกุศลก็ไปสุขคติก่อนค่ะ

    แต่คนที่ตายก่อนอายุขัย เช่นฆ่าตัวตายหรือตายโหง เช่น ประสบอุบัติเหตุ,โดนฆ่าตาย ในเมื่อยังไม่หมดอายุขัยก็เป็นสัมภเวสีค่ะ บาปบุญยังไม่ให้ผล ต้องอยู่อย่างลำบาก อดๆอยากๆ เร่ร่อนไปเรื่อยจนกว่าจะถึงอายุขัยก็จะไปรับกรรมตามที่ได้ทำมาค่ะ ถ้าตอนที่เป็นสัมภเวสีอยู่มีญาติที่ทำบุญถูกวิธี อุทิศบุญเจาะจงให้ สัมภเวสีเขาก็จะโมทนาบุญและไปรับผลกรรมดีจากการโมทนาบุญก่อนค่ะ ศาสนาไหนก็ตามทำบุญบาปก็ไปนรกสวรรค์ที่เดียวกันค่ะ นรก สวรรค์ พรหม เขาไม่ได้จำกัดเชื้อชาติศาสนาค่ะ อย่างเช่นทำบาปไม่ว่านับถือศาสนาไหนก็ลงนรก ก็ไปเกิดเป็นสัตว์นรกเหมือนกันค่ะ

    อภิญญาสมาบัติเขาไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในศาสนาพุทธนะคะ บางคนเขามีของเก่าติดตัวมาในชาติก่อน คือเคยฝึกอภิญญาสมาบัติมาในชาติก่อนๆ แล้วมาชาตินี้ได้ฝึกสมาธิจนอภิญญากลับมาเขาก็ใช้ฤทธิ์ได้ค่ะ ไม่แปลกอะไร ดูอย่างอาจารย์ของพระพุทธเจ้า อุทกดาบส กับอาฬารดาบสก็ได้สมาบัติแปด ตายไปเกิดที่อรูปพรหม..ค่ะ

    อภิญญามีได้ก็เสื่อมได้ แต่ความเป็นพระอริยบุคคลนั้นไม่เสื่อมค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2012
  6. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ประเด็นเขาพูดจริงหรือไม่นี้ ผมไม่รู้

    แต่อภิญญา 5 คนต่างศาสนาก็บรรลุได้ (พวกเหาะเหิร, ดำดิน, หายตัว, ตาทิพย์, รู้ใจคนอื่น เป็นต้น) และก็เสื่อมได้ โดยเฉพาะถ้าใช้หาลาภในทางผิด อย่างพระเทวทัตก็ยิ่งเสื่อมเร็ว

    พระพุทธเจ้าเคยอุปมาการได้ลาภของพระเทวทัตว่า ...การนำน้ำดีหมี ไปทาที่จมูกของลูกสุนัขที่ดุร้าย ลูกสุนัขนั้นก็มีแต่ยิ่งดุร้ายขึ้น ฉันใด การได้ลาภ(ในทางผิด)ของพระเทวทัตก็เป็นไปเพื่อความเสื่อมของกุศล ฉันนั้น

    ที่คนต่างศาสนาไม่สามารถบรรลุได้คือ อาสวักขยญาณ (ญาณที่ำทำให้สิ้นกิเลสอาสวะ)

    แล้วเรื่องคนฆ่าตัวตายแล้วไปนรกนี้ในศาสนาพุทธไม่มี มีแต่ เมื่อจิตเศร้าหมอง(ด้วยความโลภ, โกรธ, หลง) ทุคติเป็นอันหวังได้ (พุทธะ)

    และจริงๆ พระพุทธเจ้าเคยตรัสให้พระชั่วๆ ตายไปซะยังดีกว่าด้วยซ้ำ

    .....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจะขอบอกเธอทั้งหลาย จะขอเตือนเธอทั้งหลาย การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรก น่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้าเป็นดังหยากเยื่อ บริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาลหรือคฤหบดีมหาศาลจะดี(ได้)อย่างไร

    (เพราะ)การที่บุรุษมีกำลังเอาขอเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเกี่ยวปากอ้าไว้ แล้วกรอกก้อนเหล็กแดง ไฟกำลังลุกโชติช่วงเข้าในปาก ก้อนเหล็กแดงนั้นจะพึงไหม้ริมฝีปาก ไหม้ปาก ไหม้ลิ้น ไหม้คอ ไหม้อก ไหม้เรื่อยไปถึงไส้ใหญ่ไส้น้อย แล้วออกทางทวารเบื้องต่ำ นี้ดีกว่า

    ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้นั้นพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย มีข้อนั้น(การกินเหล็กแดง)เห็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไปไม่พึงเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัย

    ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก..... เป็นดังหยากเยื่อ บริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา ของกษัตริย์ มหาศาล... ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน แก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น และบุคคลผู้ทุศีลนั้น เมื่อตายไปย่อมเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก....(พุทธะ)

    ป.ล ความสุขทางกายมักทำให้จิตเศร้าหมองด้วยความโลภ ,ความหลง

    ส่วนความทุกข์ก็มักจะให้ผลตรงกันข้าม คือ ทำให้เบื่อหน่ายต่อความโลภ, ความหลง


    และความโลภ ความหลง เป็นรังที่อาศัยของความโกรธ

    ดังนั้น เมื่อไม่โลภ ไม่หลง ความโกรธก็ไม่มีที่อาศัย ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้

    ขอให้เจริญในธรรมครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มิถุนายน 2012
  7. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
  8. pim_jai

    pim_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +568
    คนฆ่าตัวตาย..หลังตายไปเป็นสัมภเวสี ถ้าระหว่างนี้ไม่มีคนทำบุญอุทิศเจาะจงให้ พอถึงอายุขัยแล้วจะได้ลงโลกันตนรกค่ะ

    โลกันตนรก เป็นนรกขุมใหญ่ อยู่นอกจักรวาล มืดมนไม่มีแสง มองไม่เห็นอะไรเลยและเต็มไปด้วยทะเลน้ำกรดเย็น ที่ตั้งอยู่ระหว่างโลกจักรวาล 3 โลก เหมือนกับวงกลม 3 วงติดกัน บริเวณช่องว่างของวงทั้ง 3 สัตว์นรกที่มาเกิดต้องรับทุกขเวทนาเป็นเวลา 1 พุทธันดร จากผลกรรมชั่ว เช่น ทรมานประทุษร้ายต่อบิดามารดา และผู้ทรงศีล ทรงธรรมหรือทำปาณาติบาต เป็นอาจิณ ฆ่าตัวตาย เป็นต้น

    ที่มา.นรกภูมิ - วิกิพีเดีย
     
  9. รีนาโมจัน

    รีนาโมจัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +55

    เรื่องเรียนอภิญญาดิฉันก็อยากลองนะ แต่ที่มาถามก็เพราะว่าถ้าดิฉันทำได้เองก็คงไม่ต้องมาถามหรอก เพราะอยู่เมืองนอก... วัดก็ไม่มี... เวลาก็ไม่พอ ต้องเรียน ต้องรับผิดชอบหลายอย่างทั้งญาติป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แค่เวลาเข้าบอร์ดนี้ยังแทบไม่มี แต่ก็ยังต้องแวะเข้ามาคะ เพราะปัญหามันเยอะ ต้องมาอ่านธรรมะบ้างตอนอยู่เมืองไทยเคยฝึกมโนแล้วได้ประสบการณ์วิญญาณออกจากร่างครั้งหนึ่งแต่ยังไม่เก่งพอจะได้ขั้นไปเห็นนรกสวรรณค์ จึงเชื่อว่าโลกวิญญาณมีจริงแต่เรื่องนรกสวรรณค์ ภพภูมิหลังความตายดิฉันไม่แน่ใจ เพราะยังนั่งไม่ถึงขั้นนั้น ประกอบกับมาอยู่เมืองนอกก็ได้รับรับฟังความเชื่่อมาอีกแบบ ส่วนเรื่องฝึกให้ได้อภิญญา ก็อย่างที่บอกถ้ารู้ก็คงไม่มาถาม และต่อให้คนที่ฝึก จะมีกี่คนมีเวลาพอจะฝึกพอถึงขั้นเห็นนรกสวรรค์ บางคนทำทั้งชีวิตยังไม่ได้เลย



    และที่ดิฉันสนใจประเด็นฆ่าตัวตายเป็นพิเศษเพราะดูแลผู้ป่วยมะเร็งหลายคน ทั้งที่ไม่ตายแต่ทรมานมาก อยู่ไปวันๆทำอะไรไม่ได้นอนก็พลิกตัวตลอดเพราะปวด กินก็ไม่ได้เพราะข้างในมันเน่ามันบวมไปหมด คนอื่นมาแตะยังไม่ได้เลย ดังนั้นหมอมักจะยื้นขอเสนอให้คนเหล่านี้ฉีดมอร์ฟีนให้ตาย นั่นคือเหตุที่ดิฉันสงสัยว่าคนป่วยจะไปนรกไหมถ้าเขาเลือกตายแบบนั่น ก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวตาย แต่ก็ได้รับความรู้มากากทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่ตอบคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2012
  10. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ลองฝึกหรือเข้ามโนฯอีกทีสิคะ ทำบ่อยๆด้วยเห็นบอกเคยได้ฌาณสี่ ถ้าติดขัดไปกระทู้อภิญญา มีคนตอบ-แนะแนวการให้ คนที่ตั้งกระทู้ และคนได้อภิณญาในเวปฯนี้มีหลายท่าน ...บางทีศัทธาอาจกลับมาก็ได้ค่ะ ....
    ขอออกความเห็นนะว่าใจจริงๆของคุณยังไม่ได้ละออกจากพุทธศาสนาเลยแต่มรสุมของคุณนี่ 1 ในหลายพันคนดูท่าหนักเอาการ ยึดเอาหลักกลามสูตรเลยก็ดีค่ะ ไม่ลองไม่รู้ไม่ดูไม่เห็น
    วัดไทยในเมืองนอกน่ะมีค่ะ แต่คงไม่สะดวกเท่าเมืองไทย ก็ว่างๆเข้ามาศึกษาในเวปฯก็ไม่เสียหายหรอกค่ะ ขอให้คุณพบแสงสว่างไวๆค่ะ สาธุ
    ปล. น้อยคนนักจะได้ฌาณสี่และได้ฝึกมโนฯ(แม้ว่าจะไปไม่ถึงยอดก็เถอะ).
     
  11. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,851
    อภิญญานั้นมีแค่ ๖ ครับ ไม่ได้มี ๑๐อย่างที่ จขกท เข้าใจนะครับ

    อัชฌาสัยฉฬภิญโญ (อภิญญา ๖)

    อัชฌาสัยของท่านที่ชอบมีฤทธิ์มีเดช ทำอะไรต่ออะไรเกินกว่าสามัญชนจะทำได้ เรียกว่า
    อัชฌาสัยของท่านผู้มีฤทธิ์ หรือท่านผู้ทรงอภิญญา ๖
    อภิญญา ๖ นี้ เป็นคุณธรรมพิเศษสำหรับนักปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจะต้องฝึกฝนตนเป็นพิเศษ ให้ได้คุณธรรมห้าประการก่อนที่จะได้บรรลุมรรคผล หมายความว่าในระหว่างที่ทรงฌานโลกีย์นั้น ต้องฝึกฝนให้สามารถ ทรงคุณสมบัติห้า ประการดังต่อไปนี้
    ๑. อิทธิฤทธิ์ แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
    ๒. ทิพยโสต มีหูเป็นทิพย์ สามารถฟังเสียงในที่ไกล หรือเสียงอมนุษย์ได้ยิน
    ๓. จุตูปปาตญาณ รู้การตายและการเกิดของคนและสัตว์
    ๔. เจโตปริยญาณ รู้ความรู้สึกในความในใจของคนและสัตว์
    ๕. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติต่างๆ ที่ล่วงมาแล้วได้
    ทั้งห้าอย่างนี้ จะต้องฝึกให้ได้ในสมัยที่ทรงฌานโลกีย์ ต่อเมื่อฝึกฝนคุณธรรม ห้าประการนี้
    คล่องแคล่วว่องไวดีแล้ว จึงฝึกฝนอบรมในวิปัสสนาญาณต่อไป เพื่อให้ได้อภิญญาข้อที่
    ๖. อาสวักขยญาณ ได้แก่การทำอาสวะ ให้หมดสิ้นไป



    จากหนังสือ กรรมฐาน ๔๐ โดยพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง


    เรื่องอภิญญานั้น เป็นเรื่องปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนครับ ใครทำใครรู้ ส่วนที่บอกว่า คนที่ฆ่าตัวตายนั้น ไม่ตกนรก เป็นไปได้ยากครับ เว้นไว้เสียว่าเวลาตายนั้น จิตสะอาดโปร่งใส เช่นเดียวกับพระโคธิกะ ที่เชือดคอตาย แล้วพญามัจจุราชหาวิญญาณท่านไม่เจอ เนื่องจากท่านไปนิพพานแล้ว แต่โดยมากแล้วคนที่ฆ่าตัวตายนั้น จิตประกอบไปด้วย โทสะ และโมหะ พระพุทธองค์ท่านกล่าวเอาไว้ว่า หาก จิตดวงสุดท้าย มีความเศร้าหมอง ก็มีทุคติวินิบาติเป็นที่ไปแน่นอนครับ อยากให้ลองศึกษาพระพุทธศาสนาแบบปฏิบัติด้วยนะครับ อย่าศึกษาเพียงแค่ไปฟังเขาเล่ามา แล้วเราก็มาตีความหมายเอาเอง ลองศึกษาและปฏิบัติไปด้วย ผมเชื่อว่า คุณจะเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น รู้อะไรที่ไม่เคยรู้อีกเยอะเลยครับ

    โมทนาในกุศลกรรมครับ

    เรื่องอภิญญาที่ฝรั่งทำได้นั้น เป็นของเก่าที่เขาสั่งสมมาครับ แต่หากอภิญญานั้น เป็นไปเพื่อลาภสักการะ หรือเพื่ออวดชาวบ้านนั้น รับรองเสื่อมแน่นอนครับ





     
  12. รีนาโมจัน

    รีนาโมจัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +55
    แต่ก่อนดิฉันก็ไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะมีชาวต่างชาติมีญาณสูงขนาดนั่นดิฉันเคยไปหามาหลายที่ในเมืองไทยแต่ก็ไม่เคยเจอคนที่มีญาณสูงรู้ร้อยเปอร์เซนต์แบบพวกมีเดี่ยมของฝรั่ง และมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ที่นั้นเขาจะต่างจากเมืองไทยตรงที่ใครจะออกมาทำงานด้านนี้จะต้องผ่านการทดสอบมาแล้วว่ารู้จริง ประมาณว่าเวลาคนไปหาจะต้องบอกได้ทันทีว่าเรามาด้วยเรื่องอะไรโดยที่ไม่ต้องถามวันเดือนปีเกิดหรืออะไรทั้งสิ้น และสามารถดิฉันทึ่งตรงที่เขาบอกได้หมดแม้กระทั้งพี่น้องกี่คน ตัวเราชื่ออะไร และสามารถรู้ถึงรูปร่างหน้าตาชุดเสื้อผ้าของคู่สนทนาได้แม้กระทั้งทางโทรศัพท์ และยังมีคดีหลายคดีที่ต่างประเทศซึ่งใช่พวกมีเดี่ยมเหล่านี้หาตัวคนร้ายหรือคนตายอีกด้วย

    คุณโมขทัพย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤษีฯ ดิฉันก็ศรัทธาท่านมากคะ เคยนั่งสมาธิได้ก็จากสายท่านนี้แหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2012
  13. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    คนไทยที่มีญาณคล่องตัวขนาดนั้น ไม่มีใครโง่พอที่จะทำแบบนั้น
    คุณถึงได้ไม่เคยเจอ

    คุณฝึกตามสายหลวงพ่อฤๅษี และศรัทธาท่านมาก
    แต่สิ่งที่ท่านบอกท่านสอนคุณยังไม่เชื่อ
    แล้วมาถามแถวนี้คุณจะเชื่อหรือ

    คุณต้องฝึกแล้วไปดูด้วยตัวเองเท่านั้น ใจคุณจึงจะเชื่อ
     
  14. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    ไม่ต่างจ่ะ

    คุณริว หรือ อ.เจน เค้าทั้งสองเก่ง บางครั้งที่เสื่อมก็มี ถ้าคนติดตามแล้วจะรู้ว่ามีอยู่ช่วงตอนสองตอนที่เค้าสำผัสไม่ได้ แต่โดยต้องการทำรายการ จะต้องจำเป็นกล่าวเท็จ ด้วยก็มี

    แต่ผมชอบ หมอกฤษณ์ แลเทพกว่าสองคนนี้นะ(เก่งกว่า)ถามว่าเพราะอะไร ต้องลองติดตามกันเองครับแล้วจะรู้
    แค่ส่งรูปให้พี่แกดู ก็รู้ว่า ตาคนนี้ต้องตาย เพราะถูกยิงตาย ภรรยาเป็นคนคริสต์ ถึงกับอึ้ง ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2012
  15. รีนาโมจัน

    รีนาโมจัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +55

    ดิฉันเชื่อเรื่องการนั่งสมาธิแต่ไม่เชื่อเรื่องบางเรื่องในพระไตรปิฏกคะ และอีกอย่างหนึ่งคนไทยที่คุณว่ามีญาณสูงนะ ถ้าเขาดีจริงไม่เอาความสามารถมาช่วยคนละ จะเก็บเอาไว้ทำไม ไม่มาแสดงให้คนอื่นรู้จะได้รู้กันไปเลยว่าอะไรจริงไม่จริงจะได้เ็นการได้บุญไปด้วยถ้าคนไม่เชื่อหันมาปฏิบัติตาม
     
  16. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ดิฉันเชื่อเรื่องการนั่งสมาธิแต่ไม่เชื่อเรื่องบางเรื่องในพระไตรปิฏกคะ
    - ก็ถึงได้บอกว่าต้องฝึกเอง หลวงพ่อฤๅษีบอกให้เชื่อพระไตรปิฎกคุณยังไม่เชื่อเลย แล้วจะไปถามใครอีก พระสูตรและพระอภิธรรมพระอานนท์เป็นผู้ตอบ พระวินัย พระอุบาลีท่านเป็นผู้ตอบ คุณจะถามคนอื่นไปทำไม ในเมื่อไม่เชื่อแม้แต่พระอสีติมหาสาวก
    และอีกอย่างหนึ่งคนไทยที่คุณว่ามีญาณสูงนะ ถ้าเขาดีจริงไม่เอาความสามารถมาช่วยคนละ จะเก็บเอาไว้ทำไม ไม่มาแสดงให้คนอื่นรู้จะได้รู้กันไปเลยว่าอะไรจริงไม่จริงจะได้เ็นการได้บุญไปด้วยถ้าคนไม่เชื่อหันมาปฏิบัติตาม
    - ความสามารถเหล่านั้นท่านก็ใช้สงเคราะห์คน เพียงแต่ช่วยในคนละความหมายกับคุณ เพราะสิ่งที่คุณเข้าใจว่าเป็นการช่วยความจริงมันเป็นการช่วยซ้ำเติม การแสดงให้รู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริงพระปิณโฑลภารทวาชะท่านเคยทำมาแล้ว และก็ถูกพระพุทธเจ้าตำหนิ
    การจะปฏิบัติตาม ควรจะเกิดจากการเล็งเห็นในประโยชน์ ในความดี
    ไม่ใช่ทำเพราะอยากได้ฤทธิ์ไปออกทีวี หรือไปฝืนกรรมคนอื่น นอกจะไม่ได้บุญแล้วยังจะได้บาปด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 กรกฎาคม 2012
  17. รีนาโมจัน

    รีนาโมจัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +55
     
  18. elizacobra

    elizacobra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +1,005
    ก็นะครัีบคือผมพอจะเข้าใจแล้วว่ามันต่างคนต่างศาสนา ผมขอแสดงความคิดเห็นแบบนี้่ละกันนะครับ

    อย่างแรกคือไม่ว่าจะคนไทยหรือฝรั่งต่างชาติ เป็นมนุษย์เหมือนกันไหมครับ? ถ้าคุณมองว่าเป็นมนุษย์เหมือนกัน ข้อนี้เก็บไว้ก่อนครับ

    ข้อ2 เข้าสู่เรื่องทางศาสนา เขานับถือศาสนาไหนครับ พุทธเหมือนเราหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ ก็อย่างนี้เลยครับ ต่างศาสนา ต่าง"คำสอน" ศานาพุทธก็อีกอย่างนึง สอนว่ามีอภิญญานู่น ญาณนี่ แต่ถ้าศาสนาอื่น เขาไม่ได้สอนไว้ครับ เขาสอนแค่เบื้องต้น พวกตายแล้วไปไหน เกิดมาทำไม ฯลฯ คนที่พวกคุณกล่าวมาอาจจะได้อภิญญามาโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาสามารถใช้งานได้ เขาเข้่าใจกับมันได้


    ข้อสุดท้าย ถามถึงความ"เป็นไปได้" ให้คุณเอาข้อ 1 กลับมาคิดครับ เขาเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเราใช่ไหมครับ? พระพุทธเจ้าทรงเคยตรัสไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะมนุษย์ สัตว์ เทวดา พรหม หรือแม้แต่พระองค์เอง ก็ไม่สามารถอยู่เหนือกฏแห่งกรรมได้ ตัวกฏแห่งกรรมเนี่ยแหล่ะครับที่จะโยงเข้าสู่"วัฏจักร" เพราะอะไรน่ะหรือครับ เพราะว่าตัววัฏจักรเนี่ยแหละครับตัวเดียวกับภพภูมิ ภพภูมิจะเกิดขึ้นได้เพราะกฏแห่งกรรมปรุงแต่ง ข้อเข้าใจได้ไม่ยากครับ

    ขอแสดงความคิดเห็นแค่นี้ครับ
    เจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...