อัญเชิญพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช มอบแด่ พระเจสัน ยัง

สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยฯ โดย ดร.ศุภาชัย ไพจิตร(ผ่องสวัสดิ์) เลขาธิการพร้อมเหล่าศิลปินดารานักร้อง กรรมการฯ ได้อัญเชิญพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช พระพุทธรูปที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเททองและ หนังสือธรรมมะ ประทานจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ไปมอบถวายแด่พระ เจสัน ยัง ณ วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 เมื่อวันอังคารที่ 3 กรกฏาคมที่ผ่านมาเพื่อเป็นการแสดงอนุโมทนาจิต และ เป็นขวัญกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติพรหมจรรย์สืบไป โดยพระธรรมมงคลญาณ หลวงพ่อวิริยังค์และคณะสงฆ์ได้ออกมาต้อนรับคณะ และกล่าวสัมโมทนียกถา และ บรรดาสื่อมวลชนร่วมทำเผยแพร่ข่าวจำนวนมาก



สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยฯ ประกอบพิธีถวายพระพุทธพรรณี แด่พระเจสันฯ

พระธรรมมงคลญาณพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เป็นองค์ประธานใน พิธีถวายพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และหนังสือธรรมะประทานจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ ณ กุฐิตำหนักพระธรรมมงคลญาณ วัดธรรมมงคล ซอยสุขุมวิท ๑๐๑ เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
โดยมีคณะตัวแทนจากสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในความอุปถัมภ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช นำโดย ดร.ศุภาชัย ไพจิตร เลขาธิการสภาฯ และคณะศิลปิน ดารา นักแสดง เป็นตัวแทนถวายแด่ พระเจสัน ปิยาจาโร(ยัง)
จากนั้น พระเจสัน ปิยาจาโร(ยัง) ได้ถวายพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช แด่ พระธรรมมงคลญาณพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เพื่อเป็นอริยบูชา
พระธรรมมงคลญาณพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้กล่าวให้โอวาท และมอบของที่ระลึก

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

http://www.samathi.com/content/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AF-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%AF-%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99

 

อนุโมทนาสาธุบุญกุศลด้วยค่ะ
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

 

ชื่อเสียงในความดีของท่านหอมฟุ้งขจรขจาย ขอให้ท่านมีจิตตั้งมั่น เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

 

โมทนาสาธุกับท่านเจสัน และทุกๆท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตลอดจนทุกท่านที่เข้ามาโมทนาบุญกับท่าน ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป สาธุ

 

ขอร่วมอนุโมทนาบุญ และขอเป็นกำลังใจ ให้เจริญในธรรมด้วยค่ะ สาธุ

 

ผมไม่ได้ปรามาสแต่เสียงลึกๆในใจ ถามว่าที่เกิดขึ้นนี้เพราะพระเจสัน ยัง ดังแค่นั้นหรือ?(ถ้าไม่ได้เป็นคนดังแล้วมาบวชจะเป็นอย่างไร)

 

===================================
จะดังไม่ดังหาใช้ สาระ สำคัญไม่ แต่การได้ร่วมแสดงความยินดี ด้วยการ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ถือว่า เป็นบุญใน
บุญกริยาวัตถุ 10 ประการ
รื่องของการทำบุญ 10 ประการตามหลักของชาวพุทธ ทำอย่างไรจึงจะเกิดเป็นบุญ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความสุข ความเจริญ บุญของชาวพุทธนั้น เป็นบุญกริยาวัตถุ 10 ประการ หมายถึง ที่ตั้งแห่งการทำบุญ ทำความดี มี 10 ทางด้วยกัน ซึ่งขอจำแนกออกเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ


ประการแรก บุญอันเกิดจากการทำทาน เรียกว่า ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการปันสิ่งของแก่ผู้อื่นด้วยกุศลจิตคิดช่วยเหลือ เกื้อกูล บูชา ผู้ที่ได้รับก็มีความสุข ผู้ที่ทำก็มีความสุข ขณะทำก็มีความสุข เจตนาครบทั้ง 3 ประการ เช่น การตักบาตร การบริจาคทาน การถวายสังฆทาน การมอบข้าวของเครื่องใช้ของเรา แบ่งปันให้กับผู้ที่ยากไร้ ถือว่าเป็นการทำทานทั้งหมด ทานทำกับพระสงฆ์ก็ได้ อย่าไปรวมกับคำว่า ขอทานนะครับ คนละเรื่องกัน ทานก็คือ การแบ่งปัน โดยไม่ยึดติดในสิ่งของ ข้าวของมีค่า หรือของกินเหล่านั้น

ประการที่สอง บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล เรียกว่า สีลมัย คือ การรักษาศีล ประพฤติดี ประพฤติดีทางกาย 3 อย่าง ประพฤติดีทางวาจา 4 อย่าง ที่เรียกว่า กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 กาย วาจา ใจ ให้สำเร็จด้วยศีล ก็คือรักษาศีล เป็นอย่างต่ำ คือ ศีล 5 ไม่ฆ่าสัตย์ตัดชีวิต ไม่ลักทรัพย์ ไม่เป็นชู้กับลูกเขาเมียท่าน ไม่โกหก ไม่ดื่มสุรา ในขณะที่รักษาศีล อย่างน้อย ศีล 5 ก็ทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สูงขึ้น

ประการที่สาม บุญเร็จด้วยการเจริญภาวนา เรียกว่า ภาวนามัย การฝึกฝนอบรมจิตใจให้มีความเมตตา ไม่คิดประทุษร้าย ไม่พยาบาท สวดมนต์ไหว้พระอยู่ที่บ้าน อธิษฐานจิต เดินทางไหว้พระ 9 วัด และภาวนา สวดมนต์ อธิษฐาน นั่นแหละคือ ภาวนา ในขณะที่ภาวนา จิตก็สงบ ก็เป็นบุญ
ประการที่สี่ บุญสำเร็จด้วยการประพฤติอ่อนน้อม ถ่อมตน เรียกว่า อปจายนมัย มีสัมมาคารวะ บุญสำเร็จด้วยการไม่แข็งกระด้าง ไม่ถือตัว ไม่เย่อหยิ่ง ไม่ทำตัวว่าสูงหรือดีกว่าผู้อื่น อย่างนี้ก็เป็นบุญได้เหมือนกัน คนอื่นอาจไม่รู้ว่าเป็นบุญ แต่นี่แหละเป็นบุญอย่างหนึ่ง

ประการที่ห้า บุญสำเร็จด้วยการขวนขวายรับใช้ในทางที่ชอบ เรียกว่า เวยยาวัจจมัย แปลว่า เข้าไปรับใช้ บำรุงอุปถัมภ์ ช่วยเหลือ ผู้อื่นที่เดือดร้อน จูงคนแก่ข้ามถนน อาสารับใช้ หรือว่า เก็บขยะ บุญทั้งนั้น

ประการที่หก บุญสำเร็จด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น เรียกว่า ปัตติทานมัย เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง เห็นคนอื่นเป็นกัลยาณมิตร เป็นเพื่อนร่วมโลกที่ดี

ประการที่เจ็ด บุญสำเร็จด้วยการยินดี อิ่มใจในความดีของผู้อื่น เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย แปลว่า การอนุโมทนา พลอยยินดีกับผู้อื่นที่เขาทำความดี ก็ถือว่า เป็นบุญ กุศลด้วยเช่นกัน ไม่ต้องไปตักบาตรที่ไหน เช้าตื่นขึ้นมา สาธุ วันนี้ใครทำความดี ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญนั้นด้วยเทอญ สาธุ

ประการที่แปด บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม เรียกว่า ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังคำสั่งสอน หรือข้อธรรมะ และเอาธรรมะนั้น เป็นเครื่องชโลมเลี้ยงจิตใจให้มีความสุข

ประการที่เก้า บุญสำเร็จโดยการสั่งสอนธรรม หรือเผยแผ่ธรรม เรียกว่า ธัมมเทสนามัย มีความรู้เรื่องข้อธรรมะที่ฟังแล้วเอาไปเผยแผ่ สั่งสอนให้คนอื่นเข้าใจ ได้รู้ในอย่างที่ตนเองรู้ ถือว่าเป็นบุญเหมือนกัน

ประการที่สิบ บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ตรง เรียกว่า ทิฏฐุชุกัมม์ ทำความเห็นให้ตรง มีปัญญาที่ถูกต้อง ที่เรียกว่าให้มี “สัมมาทิฏฐิ” มีความเห็นในทางที่ดี ข้อนี้เป็นข้อสำคัญ ปัจจุบันสังคมแตกแยก เพราะขาดทำความเห็นให้ตรง มีมิชฉาทิฎฐิ คิดเห็นอะไรผิด ๆ คิดเฉพาะตัวเฉพาะตน อย่างเช่น คนเขาเลือกตั้งมาเป็นส่วนใหญ่ เราก็ไปบอกว่านั่นเขาเป็นคนจน ชาวบ้านโง่ ไม่รู้เรื่อง เราเป็นคนมีความรู้ เราจึงอยากไล่ อันนี้คิดเห็นไม่ตรงแล้ว สิทธิในการทำอะไรในแต่ละคนนั้น ก็มีสิทธิเท่าเทียมกันในระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น การทำความเห็นให้ตรง ก็คิดว่า ทุกคนก็มีทาง ไม่ว่าจะเป็นคนต่ำกว่าเราด้วยความรู้ หรืออะไรก็ตามที แต่เขามีความสุข ก็ถือว่าเขาได้ โดยสิ่งที่เขาทำความเห็นให้ตรง ให้ชอบ และมีกรอบแห่งธรรม ส่วนคนที่ทำ ซึ่งเป็นผู้บริหาร หากขาดข้อธรรม สุดท้ายกรรมก็จะเล่นงานเอง

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผมอยากจะบอกให้ท่านได้รู้ ได้ทราบไว้เป็นแนวทางในการวางแผนชีวิต เรื่องบุญกริยาวัตถุ 10 ประการ ซึ่งเป็นบุญที่เกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ และไม่ได้แตกต่างกัน ขอให้ทำด้วยกายวาจาใจ อย่าลืมนะครับ ชาวพุทธนั้น ต้อง ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ นี่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา เท่านี้ ท่านก็จะสำเร็จบุญในทุกประการ ขอให้โชคดีในบุญ และมีความสุขในบุญ และรู้จักอธิษฐานบุญให้คนอื่นด้วยนะครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ด้วยเหตุ นี้ จะเป็นใครก็แล้วแต่ จะเป็น สิ่งใดก็แล้วแต่ ที่มี ชีวิตจิตใจ หากเราเห็น เรารับรู้ ว่าท่าน นั้นกระทำดี อยู่ เราควร กระทำการ สาธุ สาธุ สาธุ คือ ยินดีเห็นด้วยในการกระทำดีของเขา เท่านี้เราก็ได้บุญแล้ว ขอรับ
นั้นคือ เห็นตรงตามธรรม ตาม ประการที่สิบ บุญสำเร็จด้วยการทำความเห็นให้ตรง เรียกว่า ทิฏฐุชุกัมม์

ด้วยเหตุ อย่างนี้ อย่างนี้ หากไมปรุง อะไรไปมากกว่านี้ เรา สาธุ สาธุ สาธุ ก็จบ อย่าได้ปรุงไปเป็นอื่นกัน เลยขอรับ

ประการที่เจ็ด บุญสำเร็จด้วยการยินดี อิ่มใจในความดีของผู้อื่น เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย แปลว่า การอนุโมทนา พลอยยินดีกับผู้อื่นที่เขาทำความดี ก็ถือว่า เป็นบุญ กุศลด้วยเช่นกัน ไม่ต้องไปตักบาตรที่ไหน เช้าตื่นขึ้นมา สาธุ วันนี้ใครทำความดี ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญนั้นด้วยเทอญ สาธุ

 

ผมสังเกตุดูมานานแล้วครับว่ามันเป็นความอัศจรรย์อย่างหนึ่งในพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบว่าท่านจะห่มจีวรได้สวย ไม่ได้หมายความว่าห่มจีวรไม่สวยจะเป็นพระไม่ดีนะครับ

 

จากที่อ่านข่าวและโครงการงานของคณะสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยฯ ที่ผ่านมา..

ทางคณะสภาฯได้คัดเลือก ศิลปินคนในวงการบันเทิงที่มีความประพฤติปฏิบัติทางธรรม ส่งเสริมงานด้านพุทธศาสนา ฯลฯ

เพราะบุคคลเหล่านี้ ถือเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนคนรุ่นใหม่และสังคมไทย (ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง จะเป็นแบบอย่างที่เยาวชนจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า บุคคลทั่วไป)

ทางสภาฯจึงมีการจัดมอบรางวัลเพื่อสนับสนุนการทำความดี ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้แด่บรรดาศิลปิน นักร้อง และนักแสดง เสมอมา


1. เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนและสังคม

2. เพื่อแสดงอนุโมทนาจิต และเป็นขวัญกำลังใจต่อผู้ปฎิบัติดี


นักแสดงศิลปินไทย หลายท่านที่เป็นคนดีมีศีลธรรม สังคมเราก็ควรดึงตรงนี้ออกเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชน ขออนุโมทนากับโครงการของคณะสภาฯ



***************


สำหรับพระเจสัน

ขอกราบอนุโมทนา และสรรเสริญในกำลังใจของท่าน

นอกจากท่าน จะตัดสินใจบวชต่อ และละเรื่องการใช้ชีวิตคู่ กับอดีตคู่หมั้น(คู่บารมีที่เป็นคนดีเกื้อหนุนทางธรรม เป็นแรงบันดาลใจทางธรรรมให้ท่านหลายอย่าง)

ซึ่งชีวิตรักของท่านกำลังจะเต็มสมบูรณ์แล้วในทางโลก(ใกล้แต่งร่วมหอลงโรงกับคู่ชีวิตที่มีวัยละอ่อนกว่า 6 ปี)

และการพลีออกมาจากสังคมนักร้องนักแสดง ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี

ท่านมีกำลังใจสูง ในการละตรงนี้ขณะที่ชีวิตส่วนตัวทางโลกที่หอมหวานทั้งอาชีพงานแสดง การเงิน ชื่อเสียง และชีวิตรักส่วนตัว


นอกจากนี้ พระเจสัน สมัยที่เป็นฆาราวาส ก็ยังเป็นผู้ปฎิบัติธรรม และเป็นลูกกตัญญูต่อบิดามารดา

เมื่อตอนมารดาป่วยหนัก ท่านนั่งกรรมฐานส่งบุญโมทนาช่วยมารดา (รวมทั้งอดีตคู่หมั้นดาริกาก็ไปช่วยดูแลมารดาของพระเจสันด้วย)

ทำดี ได้ดี ท่านเป็นผู้ตัญญู จึงได้พบกับคู่ครองที่ดีหนุนนำทางธรรม และท่านยังมีบุญที่ได้มีครูบาอาจารย์ดีๆ

เรื่องของพระเจสัน เป็นเรื่องที่สื่อมวลชน เหมาะสมที่นำมาตีแผ่ให้เยาวชนและสังคมรับทราบ เพื่อร่วมอนุโมทนากับพระเจสัน


และ ขอโมทนาบุญกับ คณะสภาศิลปินฯ ที่ได้อัญเชิญพระพุทธพรรณีฯมอบให้ท่านเพื่อแสดงอนุโมทนาจิต.. สาธุ


อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>

สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยฯ ได้อัญเชิญพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช ประทานจากสมเด็จพระพุฒาจารย์
ไปมอบถวายแด่พระ เจสัน เพื่อเป็นการแสดงอนุโมทนาจิต และ เป็นขวัญกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติพรหมจรรย์สืบไป


</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- google_ad_section_end -->

 

"เพื่อเป็นการแสดงอนุโมทนาจิต และ เป็นขวัญกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติพรหมจรรย์สืบไป" ชอบประโยคนี้จังครับ ธรรมดาของโลกครับ ที่มีบางท่านยังมีความสงสัยในความดัง ไม่ดังของท่านอยู่(ในการเสนอข่าว) แต่ถ้าเรานึกถึงหน้าที่ ที่เราได้รับมอบหมายมา หรือ หน้าที่ ที่เราตั้งใจที่จะทำ หรือ มโนปณิธาน ก่อนมาโลกนี้แล้วละก็ เราทุกท่านทุกคน มีหน้าที่ ทุกคนครับ ในความเห็นของผม พระท่าน ตั้งใจมาก่อนแล้วแน่ ว่าจะมาสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ท่านก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ของโลกเอาไว้ก่อน เรียกง่าย ๆ ว่า "บารมีบวชยังไม่ส่งผล" จึงต้องเรียนรู้โลก ก่อนเรียนธรรม(ขั้นสุง)ฉะนั้นความดัง ความเป็นคนมีชื่อเสียงมันเป็นเรื่องของผลพลอยได้ที่แถมมา ธรรมดาครับ
ในความเห็นของผมนะครับ "ความเป็นคนดัง" ของพระท่านเนี้ยก็เป็นเกราะ "ป้องกัน" พระท่านไม่ให้คิดไม่ดี ทำไม่ดี นะครับ เพราะถ้าจะทำอะไร ๆ ก็จะเป็นจุดสนใจของประชาชน ทำให้ท่านสำรวม ระวังโดยอัตโนมัตินะครับ มีผลต่อพระท่าน และมีผลต่อญาติโยมด้วยนะครับท่าน

 

ถามตัวท่านเองก่อนเถอะว่าท่านเจ้าของกระทู้ที่โพสสามารถบวชได้มั๊ย และกำลังใจของท่านเท่ากับพระเจสัน มั๊ยครับ แค่ท่านคิดแบบนี้ก็ผิดแล้ว

 

ผู้ที่มีบุญได้มจะได้สืบพระพุทธศาสนานั้น เกิดจากบุญบารมีส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับความดัง หรือความมีชื่อเสียง

ขออนุโมทนาบุญกับพระเจสัน ยัง และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบุญกุศลครั้งนี้ ตลอดทั้งเจ้ากระทู้นี้ด้วยค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาสาธุบุญกับพระเจสัน ยัง และทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบุญกุศลครั้งนี้ครับ

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ บุญกุศลค่ะ
ดูแล้วรู้สึกแช่มชื่น ในหัวใจมากค่ะ

 

ผมว่าดีออกครับ ยิ่งมีชื่อเสียง และมาบวชปฏิบัติยิ่งทำให้คนส่วนใหญ่รับรู้ ในความดี รับรู้ว่า แม้เป็นดารา มีเงินทอง ชื่อเสียงมาก แต่ท่านก็สามารถละทางโลก มุ่งปฏิบัติได้ ใครเห็นใครได้ยิน ก็เห็นเป็นแต่สิ่งอัศจรรย์ คือ ศรัทธาอันแรงกล้า และยังเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นใหม่ฝักใฝ่ธรรมมากยิ่งขึ้น ขออนุโมทนา สาธุ ครับ ........ เปรียบเทียบง่ายๆ ดูข่าวโล้นทำผิดศีลกินเหล้า เคล้านารี กับ ข่าวพระเจสัน ยัง บวช ... ข่าวไหนให้ความปราบปลื้มใจ ข่าวไหนให้ความสลดใจ.. คุณธรรมไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียง เครื่องนุ่มห่ม สถานที่ แต่อยู่ที่ ใจ อยู่ที่การปฏิบัติ.... พระเจสัน ท่านทำให้เห็นแล้ว สาธุ

 

ผมขออนุโมทนาสาธุ ในบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งปวงด้วยครับ

 

ก็ขอบคุณทุกคำตอบนะครับที่ตอบโจทย์ในใจผม

 

ขอร่วมอนุโมทนาสาธุการด้วยครับ ขอให้ทุกผู้ที่เกี่ยวข้องจงเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป