การทำผิดศีลข้อไหนที่จะต้องชดใช้กรรมอย่างหนักที่สุด

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สุดชล, 8 มีนาคม 2005.

  1. สุดชล

    สุดชล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +47
    อยากฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆและผู้รู้ในที่นี้ครับ เพราะว่าได้อ่านจากหลายๆที่แล้วไม่ค่อยจะตรงกัน แต่โดยส่วนตัวผมแล้วผมคิดว่าในศีลทั้งห้าข้อนั้นการฆ่าหรือการทำลายชีวิตชีวิตหนึ่งให้ดับไปนั้นน่าจะเป็นบาปอย่างมหันต์ หรือว่าในศีลทั้งห้าข้อนั้นถ้าเราละเมิดจะมีผลต้องชดใช้กรรมเท่าๆกัน
     
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ผิดแล้วสำนึก...ไม่ผิดซ้ำผิดซากจนติดเป็นสันดาน...จนเพลินหลงคิดว่าสิ่งที่คิดที่ทำนั้นมันไม่ผิดไม่บาปเลยนี่ดีนะ...คือมองตนแจ้งแล้วมาคิดมาทำกรรมดีเรื่อยๆอย่างมีสติ....กรรมที่เคยผิดยังคงผิดนะเอามาเตือนตนเป็นบทเรียน...อย่าหลงไปที่เคยผิดอีก... อย่ายึดติดให้จิตหมองว่าข้าทำผิดแล้วต้องกลายเป็นคนบาปติดตัวตลอดจนไม่กล้าคิดดี ...ให้แยกบาปกับบุญจากกัน.... เหมือนตาชั่งศาลนรกสวรรค์ ....องคุลีมาลย์ คือตัวอย่างค่ะ... พ่อรอพวกเราก้าวไปหาพ่อด้วยความดีเสมอค่ะ... พ่อรักแม้กระทั่งมาร...พ่อลงไปเทศนาได้แม้สัตว์อเวจี ...พ่อโปรดขนาดนี้แล้ว....เราจะมัวช้าหลงทางกันอีกหรือ!!!
     
  3. สุดชล

    สุดชล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +47
    ศีลห้าครับ

    ศีลห้าครับ ผมอยากทราบว่าผิดศีลข้อไหน จะได้รับกรรมหนักที่สุด ส่วนอาหารนั้นเรากินอาหารชาติไหนก็อิ่มทั้งนั้น แต่จะอิ่มนานหรือไม่อีกเรื่องหนึ่งครับ คุณกำลังจะตอบผมว่า ผิดศีลข้อไหนก็ผิดเท่าๆกันใช่มั๊ยครับ
     
  4. โมฆบุรุษ

    โมฆบุรุษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ปาณาติบาตครับ
    เพราะเป็นการตัดโอกาสที่ดวงจิตที่มาอาศัยขันธ์ ๕ นั้นอาจจะได้ทำบุญบำเพ็ญกุศลเพิ่มครับ

    แต่ขอเสริมว่า คนตกนรกเพราะละเมิดศีล ๕ นั้น
    น้อยกว่าที่ตกนรกเพราะการปรามาสพระรัตนตรัยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ
     
  5. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    อีสานครับ ข้าวเหนียวมันไปอืดต่อในท้องอ่ะๆ เเ่อ่กๆๆ :boo:
     
  6. นิรทุกข์

    นิรทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +93
    สิ่งที่ทำแล้วเกิดทุกข์ผูกพันไม่รู้จบ ฝังแน่นในอนุสติไม่มีวันลืมเลือน นั่นแหละกรรมหนักที่สุด แต่ถ้าตามบาลี จะต้องหมายถึงอนันตริยกรรม
     
  7. Catwater

    Catwater เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2005
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +142
    อือ จะว่าใช่มันก็ใช่อ่ะนะ แต่มันก็ไม่ใช่จะร้ายซะขนาดนั้นอย่างเดียวหรอกนะ มันก็มีทริกอะไรที่จะเปลี่ยนเรื่องแย่ๆนี้ให้ดีได้อ่ะ ที่พระเทวทัตทำอนันตริยกรรมนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ความโง่งี่เง่าที่ทำแต่เรื่องเลวๆ แล้วเพลอไปทำเลยตกนรกหรอกนะ มารน่ะฉลาด ทำอะไรมีที่มาและหวังที่ไปเสมอแหล่ะ โง่ๆไม่รู้ว่าทำแล้วเป็นบาปเป็นกรรมทำแล้วจะซวยน่ะ มีแต่มนุษย์แค่นั้นแหล่ะ

    วันหนึ่งบนสวรรค์เกิดเรื่องประหลาดขึ้น คือมีแผ่นดินไหวบนสวรรค์ สวรรค์สั่นสะเทือนเป็นพักใหญ่ๆโดยไม่ทราบสาเหตุ เหล่าเทพเทวดาทั้งหลายพากันแปลกใจและหวาดกลัว พระนารายณ์ ( พระศรีอารีย์ ) ก็เลยขึ้นไปถามพระเจ้าว่า " เกิดอะไรขึ้น ทำไมบนสวรรค์นี้จึงมีแผ่นดินไหว " พระเจ้าก็ตอบว่า " ตอนนี้มารกำลังเฉลิมฉลองการกำเนิดขึ้นของพระ...."
    ( ชื่อไรจำไม่ได้แฮะ -"- ซึ่งเป็นบุตรของมาร และเป็นพระเทวทัตที่มาเกิดในยุคของพระพุทธเจ้าด้วย ) เนื่องด้วยว่า ถ้ามีมารตนนี้อยู่ด้วยแล้วพระเจ้าจะทำลายโลกไม่ได้ ( รังของพวกมารอยู่ใจกลางโลก พระเจ้าทำลายพวกมารไม่ได้เพราะว่าถ้าจะฆ่า มารก็จะบีบแก่นโลกแล้วโลกก็จะแตก ถ้าจะฆ่ามารก็ต้องทำลายโลกไปด้วย ซึ่งในวันที่พระเจ้าจะทำลายทั้ง 3 โลก พระเจ้าก็จะฆ่ามารไปด้วยเลยในคราวเดียวกัน ) แต่ถ้ามีพระเทวทัตอยู่มีมารสองตนช่วยกัน จะไปกันอะไรตรงไหนได้ซักที่เนี่ยแหล่ะ แล้วพระเจ้าจะทำลายโลกไม่ได้อ่ะ
    แล้วพระเจ้าก็บอกว่า " ตอนนี้มารเลยมาเขย่าสวรรค์ เพื่อเป็นการฉลองในการกำเนิดขึ้นของบุตรแห่งมาร " ( รู้สึกว่าบุตรแห่งมารตนนี้ มารตัดหัวมาทำอ่ะมั้ง )

    หลังจากนั้นสวรรค์ก็หยุดสั่น แล้วมารก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นข้างหลังพระเจ้า มารมีหัวเป็นแพะ แขนเป็นคน ตัวเป็นงู ตัวสีดำ ดวงตาดำสนิทไม่มีตาขาว ตัวใหญ่กว่าพระเจ้าอีก ตัวขนาดบ้าน 3 ชั้นได้ ( พระเจ้าตัวเท่าบ้าน 2 ชั้น ) โผล่ขึ้นมาแล้วก็เอามือพุ่งมาเสียบพระเจ้า พระเจ้าก็หายตัวแว๊ปไปโผล่ข้างหลังแล้วปล่อยแสงใส่ มารก็กางบาเรียรับ ( โอโห ยังกะดราก้อนบอล -"- ) ตอนนั้นมารก็พูดว่า " พระเจ้า ท่านยอมแพ้ซะเถอะ รู้ทั้งรู้ว่าสู้ไม่ได้ท่านก็อย่าฝืนอีกเลย "
    พระเจ้าก็ตอบไปว่า " ศรีอริยเมตรัยบุตรของเรา จะเป็นผู้ปราบเจ้า "
    พระศรีอารีย์ก็พูดไปตอนนี้ว่า " นี่เจ้าทำอะไร คุกเข่าลงกราบพ่อเราเดี๋ยวนี้นะ "
    มารก็ตอบว่า " ศรีอริยเมตรัย... " " แม้พลังของเขาจะตื่นขึ้นมาแล้ว เขาก็จะยังเอาชนะบุตรของเราไม่ได้ " " ทำไมท่านถึงอยากให้เขาเป็นพระเจ้านักนะ เราไม่เข้าใจท่านเลย ถ้าเป็นเราเราจะให้ศิวะเป็น "
    ( จริงๆแล้วพระศิวะเก่งกว่าพระนารายณ์ แต่ที่พระนารายณ์ได้ดูแลโลกนี่เป็นเพราะเส้นเพียงอย่างเดียว ถ้าแข่งฝืมือจริงๆแล้วพระนารายณ์สู้ไม่ได้ )
    พระเจ้าก็ตอบกลับไปว่า " แต่ว่าเขากำลังจะบรรลุโสดาบัน ขณะนี้ลงไปช่วยได้ 8 ครั้งแล้ว "
    มารก็ตกใจ โอโห ลืมไปเลยว่ามันเกิดจากหัวใจของพระเจ้า ตอนนั้นมารก็ปล่อยแสงใส่พระศรีอารีย์เลย กะเอาตายเลย แต่อยู่ดีๆเกิดบาเรียขึ้นมาล้อมพระศรีอารีย์เฉยๆเลย มารทำอะไรไม่ได้ ( แบบว่าพวกที่บุญสูงๆแต่ยังไม่ได้รับผลบุญนี่ พวกมารจะแตะต้องไม่ได้อ่ะนะ จะตายก็ตายไม่ได้ห้ามตาย ต้องได้รับผลบุญก่อนแล้วค่อยตายอ่ะ )
    มารก็ทำหน้าบึ้ง แล้วก็กลับไปเลย

    พระศรีอารีย์ก็ถามพระเจ้าว่า " โอโห ทำไมเค้าตัวใหญ่อย่างนี้ แบบนี้เราจะสู้เขาได้หรือ "
    พระเจ้าก็ตอบว่า " ไม่ใช่เลยศรีอริยเมตรัย สิ่งที่เขามีมากว่าเรามีเพียงกำลังกาย แต่พลังเทพเรามีมากกว่าเขา เจ้าตัดสินเราที่ขนาดหรือ " " ไม่ต้องกังวลเลย เมื่อเจ้าบรรลุโสดาบันแล้วเจ้าจะไม่กลัวเขา "
    พระศรีอารีย์ก็ถามต่ออีกว่า " โห ตัวใหญ่ขนาดนี้จะไม่กลัวได้ไง "
    พระเจ้าก็ยัวะตอบ " เราบอกว่าไม่กลัวก็ไม่กลัวดิ "

    ส่วนมารพอกลับไปแล้วก็นั่งนึก " ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างล่ะตายแน่ๆ " " เอาอย่างนี้ละกัน " แล้วก็บอกกับบุตรของมารว่า " อีกไม่นานจะมีการจุติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะส่งเจ้าไปทำอนันตริยกรรมให้ครบทั้ง 4 ประการ เจ้าจะถูกเนรเทศไปสุดขอบจักรวาลแล้วจะกลับมาไม่ได้ ที่ๆแม้แต่พระเจ้าก็ไม่รู้ ว่ามีตัวอะไรอยู่บ้าง "
    " เจ้าไปกินมาให้หมด เมื่อกินหมดแล้วเจ้าจะกลับมาได้ เมื่อเจ้ากลับมาแล้วเจ้าจะบรรลุโสดาบันของฝ่ายมาร เป็นผู้ที่มีพลังสูงสุดของฝ่ายมาร "
    " แล้วไปสู้กับศรีอริยเมตรัย "
    โอ้ สงครามครั้งนี้นี่ วัดกันไปเลยว่า จริงๆแล้วฝ่ายดีหรือฝ่ายไม่ดี ที่มีพลังเหนือกว่ากัน
    (b-ng)
     
  8. NaCl

    NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +289
    เอามาจากไหนเนี่ย .......
     
  9. vibe

    vibe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    731
    ค่าพลัง:
    +3,146
    อะรายยยเป็นอะไร
     
  10. แวะมา

    แวะมา บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คิดว่าไม่เท่ากัน แน่ ๆ ๆ

    คิดว่าไม่เท่ากัน เช่น

    > บางคนกินเหล้าไปแค่ 2 แก้วก้อสลบไปเลย ไม่ทันจะไปทำอะไรเลยก็มี จะโดนคนทำมากกว่า :)
    > การโกหก บางครั้งก้อช่วยคนได้เหมือนกัน

    > การฆ่าสัตว์ บางครั้งก้อผิดบาปไม่เท่ากันแล้ว ฆ่าสัตว์เล็ก ผิดน้อยกว่า สัตว์ใหญ่ (สัตว์ใหญ่ การฆ่าต้องใช้กำลังมาก ความตั้งใจการฆ่าต้องมีมากกว่า และบางครั้งสัตว์นั้นมีกำลังมากยังไม่ตายทันที แต่ทรมาณก่อนตาย หรือไม่ก้อต้องมีการวางแผนก่อน บางคนร่วมในการวางแผน ไม่ลงมือก้อมี)

    > การฆ่าสัตว์ บางครั้งเป็นสัตว์เล็ก เกิดจากความไม่ตั้งใจ (เช่น นั่งทับมดตายไป 1 ตัว เป็นต้น) น่าจะบาปน้อยกว่าผิดลูกเมียนะ

    บาปมาก บาปน้อย ดูแค่ผิดศีลข้อไหน อย่างเดียว คิดว่าไม่พอที่จะตัดสินใจ ถึงแม่จะตัดสินได้ ก้อต้องอาศัยความรู้สึกเข้าเกี่ยวข้อง ไม่มากก็น้อย
     
  11. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    บาปที่ต้องใช้กรรมหนักที่สุดคือ
    อนันตริยกรรม กรรมหนัก,กรรมที่เป็นบาปหนักที่สุด ตัดทางสวรรค์ ตัดทางนิพพาน
    มี ๕ อย่าง คือ
    ๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา
    ๒. ปิตุฆาตฆ่าบิดา
    ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์
    ๔. โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงยังพระโลหิตให้ห้อขึ้นไป
    ๕. สังฆเภททำสงฆ์ให้แตกกัน

    ถ้าทำสิ่งเหล่านี้เมื่อตายไปจะดิ่งลงนรกทันทีไม่ต้องรอคำตัดสินจากยมบาล


    **********************

    แต่กรรมที่ส่งผลยาวนานที่สุด คือ กรรมแบบมิจฉาทิฐิ จะตัดทางนิพพาน
     
  12. แล้ว ...

    แล้ว ... บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แล้วการเชื่อว่าตายแล้วสูญ การไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ซึ่งบางคนบอกว่าเป็นการปรามาสพระพุทธเจ้า หรือ พระรัตนตรัย จะมีบาปหนักกว่าอนันตริยกรรมหรือเปล่า ?

    อ่านจาก
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5930
     
  13. เทพผู้กล้า

    เทพผู้กล้า บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    กรรม


    ไม่เชื่อเรื่องกรรมก็คงไม่ได้นับถือพุทธ
     
  14. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790


    กรรมหนัก (ครุกกรรม)

    กรรมหนัก หรือครุกกรรม เป็นกรรมที่พลังอำนาจมากให้ผลก่อนกรรมอื่นๆ และไม่มีกรรมใดมาขวางกั้นได้ มีพลังแรงอย่างทันตาเห็นในชาติปัจจุบันและสามารถส่งผลถึงชาติหน้าได้ ในส่วนชั่ว หรือบาปหนัก นั้น เรียกว่า อนันตริยกรรม ซึ่งมีอยู่ห้าประการด้วยกัน คือ



    1. สังฆเภท คือการที่พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งหรือหลายรูป ได้กระทำการทำให้คณะสงฆ์ตั้งแต่สี่รูปขึ้นไปมีความเห็นผิดตามคำยุยงแห่งตนไปกระทำสังฆกรรมต่างหาก ไปสวดพระปาติโมกข์ต่างหาก ผู้ทำสังฆเภทได้นั้น หมายเฉพาะ พระสงฆ์ เท่านั้น แต่ถ้าผู้กระทำเป็นสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ชาวพุทธทั่วไป หรือคนภายนอกพุทธศาสนา นักปราชญ์ ขี้เหล้าเมายา ทิดบาเรียนทั้งหลาย ไม่จัดอยู่ในบาปหนัก ในข้ออนันตริยกรรมนี้ แต่บาปหนักนั้นก็เสมออนันตริยกรรม ในบรรดาอนันตริยกรรมนี้ สังฆเภทเป็นกรรมที่หนักที่สุด ให้ผลก่อนอนัตริยกรรม ประเภทอื่น และสิ้นสุดลงในชาติหน้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าหากได้ทำ อนันตริยกรรม ไว้หลายอย่าง ก็จะได้รับผลของ สังฆเภท อันเป็นกระทงที่หนักที่สุด และอนันตริยกรรมประเภทอื่นก็จะกลายเป็นอโหสิกรรม เมื่อสิ้นวาระของชาติหน้า
    2. โลหิตปาท คือ การทำร้ายพระพุทธเจ้าจนเกิดอาการห้อเลือดขึ้นไป ในสมัยพุทธกาล พระเทวทัต ได้เป็นผู้กระทำ อนันตริยกรรมข้อ โลหิตปาท นี้จนถูกธรณีสูบตกนรกอเวจีไป ในสมัยปัจจุบัน ก็มีบาปหนักเสมออนันตริยกรรม แต่ไม่ใช่อนันตริยกรรม กล่าวคือผู้มีเจตนาชั่วร้ายใฝ่หากรรมอันเป็นบาปหยาบช้า ทำลายล้างวัตถุที่พระพุทธเจ้า เช่น ทำลายพระพุทธรูป ทำลายเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทำลายต้นไม้มหาโพธิ์ นี่เองที่คนโบราณจึงไม่กล้าทำลายพระพุทธรูป หรือพระเครื่องถึงแม้ว่าจะแตกหักแล้วก็ตาม แต่ผู้มีบาปมากไม่กลัว สามารถตัดเศียรพระพุทธรูปได้ อย่างที่อยุธยา หรือทำลายทุบตัดแขนขา หรืออย่างที่พม่าเผาผลาญ พระพุทธรูปและเจดีย์เพื่อจะเอาทองคำ ในคราวสมัยอยุธยาแตก
    3. อรหันตฆาต หรือ การฆ่าพระอรหันต์ บุคคลผู้ใดมีเจตนาชั่วร้าย ฆ่าพระอรหันต์ ได้ชื่อว่าเป็นอรหันต์ฆาตทั้งนั้นคฤหัสถ์ที่บรรลุธรรมวิเศษ เป็นพระอรหันต์ แต่ยังไม่ทันได้บวชเป็นพระสงฆ์ ผู้ใดฆ่าก็เป็นอนันตริยกรรม และถึงแม้ขณะเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ท่านถูกทำร้ายด้วยอาวุธหรือยาพิษในน้ำดื่มหรืออาหาร เกิดทุกขเวทนา แล้วท่านได้กำหนดเอาทุกขเวทนามาเป็นบาทแห่งวิปัสสนา จนเกิดมรรคผลสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วดับผลสู่นิพพาน ผู้ทำร้ายย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้ฆ่าพระอรหันต์ อย่างไรก็ตาม ผู้ฆ่าพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี ถึงแม้จะไม่ได้ชื่อว่า เป็นอรหันตฆาต แต่ก็มีบาปหนักเสมอ อนันตริยกรรม
    4. มาตุฆาต คือ การฆ่าแม่บังเกิดเกล้า เท่านั้น แม่เลี้ยง แม่บุญธรรม แม่ยาย ไม่เข้าข่ายเป็นมาตุฆาต และต้องเป็นการฆ่าของลูกมนุษย์ต่อแม่มนุษย์เท่านั้น การที่สัตว์เดรัจฉานฆ่าพ่อแม่ของตนนั้นไม่จัดเป็นอนันตริยกรรม การฆ่าแม่นั้นถึงแม้ว่าจะสำคัญผิดหรือไม่รู้ก็จัดเป็นอนันตริยกรรม
    5. ปิตุมาต หรือการฆ่าพ่อบังเกิดเกล้า นัยเดียวกันกับ มาตุฆาต แต่ต่างกันตรงที่กรรมหนักใดจะเป็นผู้ให้ผลก่อน ธรรมดาแม่เป็นผู้อุ้มท้องลูกในครรภ์ และมีใจอ่อนโยนเอื้อเอ็นดูอุ้มชูเลี้ยงลูก ได้รับความลำบากมากกว่าพ่อ ถึงจะชั่วช้าเลวทรามขนาดไหน ก็ยังได้ชื่อว่า เป็นผู้มีคุณแก่ลูกมากอยู่ดี เพราะฉะนั้น ถ้า แม่กับพ่อ เป็นคนดีมีศีลธรรมเสมอกัน มาตุฆาต ย่อมให้ผลก่อนปิตุฆาต ยกเว้นในกรณีที่พ่อ เป็นผู้มีคุณธรรม มีศีลธรรมมากกว่า แม่ เท่านั้น ปิตุฆาต จึงจะให้ผลก่อนมาตุฆาต
    อนันตริยกรรม มีพลังโทษมาก เมื่อได้กระทำลงไปแล้ว และภายหลังรู้สึกสำนึกตนหวังให้พ้นทุกข์โทษในอเวจีมหานรก ด้วยการสร้างกุศลบุญใหญ่ ก็ไม่มีพลังอำนาจพอ ถึงแม้ว่าจะสร้างเจดีย์ทองคำสูงใหญ่ มากมายเต็มจักรวาล หรือจะถวายทานแก่พระสงฆ์ที่มีอยู่ในโลกทุกวันนี้ หรือโชคดีพบพระพุมธเจ้าแล้วเข้าอุปฏฐากใกล้ชิดจนสิ้นชีพ ก็ไม่มีพลังอำนาจพอที่จะลบล้าง อนันตริยกรรม ทั้งห้านี้ได้

    สำหรับครุกรรมส่วนดีนั้น เรียกว่าบุญหนัก ได้แก่ การบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนถึงระดับ ปฐมฌาน จนถึง จตุตถฌาน ซึ่งเป็นรูปฌาน และบำเพ็ญอรูปฌาน จนถึงระดับ อากาสานัญจายตนะ (เพ่งอากาศ) วิญญาณัญจายตนะ (เพ่งวิญญาณ) อากิญจัญญายตนะ (เพ่งความว่าง) เนวสัญญานาสัญญายตนะ (เพ่งความหลุดมิหลุดแหล่) ตามลำดับ

    ซึ่งพลังอำนาจของการบำเพ็ญฌานที่สูงกว่า ย่อมให้ผลก่อน แต่การสำเร็จอรหันต์ ย่อมเหนือกว่า
     
  15. Catwater

    Catwater เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2005
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +142
    อืมมม.. จะว่าไปแล้วมันมีอนันตริยกรรม ( กรรมที่เป็นอนันต์ ) คือกรรมที่ทำเพียงน้อยนิดแต่ส่งผลมาก

    มันก็มีอนันตริยบุญเหมือนกันอ่ะนะ ที่เป็นบุญที่ทำเพียงน้อยนิดแต่ให้ผลมากเหมือนกัน คู่กันกับอนันตริยกรรม ( แต่มันคงไม่เรียกว่าอนันตริยบุญหรอกนะ เรียกว่าอะไรจำบ่ด้ายแล้ว )

    อันนี้มีไรมั่งจำบ่ด้าย แต่รู้สึกคุ้นๆจะมี ทานแก่พระอริยะ ทานแก่ผู้ที่จะบรรลุโสดาบัน ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าอะไรเนี่ยแหล่ะ วนๆเวียนๆอยู่กะพุทธๆเนี่ยแหล่ะ
     
  16. NUI

    NUI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    389
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +983
    ถ้าพูดถึงศีล ๕ นั้นว่าผิดศีลข้อไหนชดใช้กรรมหนักที่สุด ก่อนอื่นก็ต้องดูว่า
    ๑.ผู้กระทำนั้น เป็นใคร? มีศีลหรือคุณงามความดีแค่ไหน เช่นพระ คนขาดสติ คนเสียสติ คนมีสติ
    สัตว์เดรัจฉาน ฯลฯ
    ๒.การกระทำนั้นมีเจตนาแค่ไหนเพื่ออะไร เช่น ตั้งใจกระทำจนสำเร็จ ตั้งใจกระทำแต่ไม่สำเร็จ
    ไม่ตั้งใจกระทำแต่สำเร็จ ฯลฯ
    ๓.ผู้ถูกกระทำมีความดีมากน้อยเพียงไร? เช่น มีบุญ หรือมีบุญคุณมากแค่ไหน เช่นเป็นพ่อแม่ เป็นพระอรหันต์ เป็นคนดีมีศีลธรรม หรือเป็นคนทุศีล หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน แมลง ฯลฯ
    สิ่งที่กล่าวมาเบื้องต้นนี้ทำให้เกิดผลกรรมหนัก-เบา ไม่เท่ากัน
     
  17. เสาวนีย์

    เสาวนีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +251
    การเชื่อว่า ตายแล้วสูญ หรือไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม แล้วแต่ว่ามีความคิดเช่นนี้มากหรือน้อยนะ การมีความคิดเช่นนี้ ย่อมทำให้บุคคลคนนั้นการกระทำสิ่งใดๆ ก็ได้ ให้ได้ซึ่งผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงหลักของคุณธรรมความดีใด ๆ เลย ถึงมีก็อาจมีเพียงน้อยนิด ประเภทที่ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่หากเชื่อว่าตายแล้วสูญ แล้วฝังรากลึก เป็นความคิดตายแล้วสูญเป็นฝ่ายใหญ่ อันนี้น่ากลัวนะ เพราะเค้าคนนั้น จะทำทุกอย่างได้ ฆ่าคน ประทุษร้าย ยุยงให้แตกแยก ฉ้อฉล ฯลฯ ในความคิดของคนประเภทนี้"ไม่เห็นมีอะไรต้องน่ากลัวเลย เดี๋ยวก็ตายแล้ว ถูกตำรวจจับก็ไม่กลัว เพราะเดี๋ยวก็โดนประหารแล้ว ชีวิตก็จะหลุดพ้นแหละ" เพราะความเชื่อที่ตนคิดว่า ตายแล้วสูญ หรือ ไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม ทำให้กลายเป็นคนประมาทในการมีชีวิต ตัดหนทางในการสู่สุคติภูมิ ตอนอยู่ก็ลำบากเดือดร้อนจากการกระทำของตนเอง ไม่ว่าทางกายวาจาใจ
     
  18. แจมด้วยครับ (อีกครั้งหนึ่ง)

    แจมด้วยครับ (อีกครั้งหนึ่ง) บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    "พวกที่เชื่อว่า ตายแล้วสูญ หรือไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม" บาปหนักกว่าอนันตริยกรรม หรือครุกรรมหรือไม่ ?

    คิดว่า อยากมากเสมอกับอนันตริยกรรม <b>ไม่มีกรรมใดหนักไปกว่าอนันตริยกรรมนี้แล้ว </b>

    ที่ว่าเสมอเพราะจากความเชื่อดังกล่าวทำให้หลงไปทำกรรมหนักได้ แต่ที่ว่าไม่แน่ เพราะเหตุที่ไม่ก่อกรรมหนักจากความเชื่อดังกล่าว อาจเกิดเพราะมีกฎหมายคอยคุมอยู่ หรือจารีตประเพณี วิถีสังคมค่อยเป็นกรอบอยู่ก็เป็นได้

    หากโชคดีพวกเค้าเหล่ากลับใจได้ อันเนื่องจากอะไรก็ตาม น่าจะขอขมาได้ หรืออโหสิกรรมกันได้บ้าง คิดว่าคงไม่เป็นกรรมอันส่งผลเป็นอนันต์หรอก ถ้าไปทำสร้างกรรมหนักขึ้นมาซักก่อน

    หากโชคร้ายจริง ๆ ในชาตินี้หลงเชื่อผิดตัดหนทางในการสู่สุคติภูมิแล้ว คงต้องรอชาติต่อไปว่ากรรมที่ทำในชาตินี้หนักไปหรือเปล่า หรือมีผลบุญบ้างอาจทำให้ชาติหน้าไม่หลงผิดได้ หรือเจอใครซักที่มีโอกาสทำบุญโดยดึงพวกเค้าเหล่านั้นให้พ้นจากมิจฉาทิฐิ (ใช่คำนี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจ) ได้ คงไม่หลงผิดไปทุกชาติ

    อีกประเด็นหนึ่ง พวกเค้าอาจหลงผิดเอง เพราะเข้าใจผิดเอง หรือมีแรงจูงใจจากผู้อื่น ๆ ทำให้หลงผิด น่าจะส่งผลไม่เท่ากันแล้ว (อันไม่แน่ใจนัก)
     

แชร์หน้านี้

Loading...