อยากทราบว่าจริงหรือไม่ถ้าเคยได้ฌาณ 4 แล้วสาปแช่งคนจะเป็นจริงตามนั่น

อยากทราบว่าเป็นไปได้ไหมที่ผู้ได้ฌาณ4สามารถใช้พลังสมาธิไปในทางที่ผิดได้เช่นกัน ถึงขั้นทำให้คนตายรือมีอันเป็นไปตามคำสาปแช่งคะ?
คือเคยเจอมานะคะ มันแปลกที่ว่าผู้ที่เคยได้ฌาณสี่ที่ว่าคนนี้เวลาแช่ง เช่นขอให้เกิดอะไรขึ้น หรือแม้กระทั้งตายแบบไหน คนดังกล่าวก็จะเป็นไปตามนั่นภายในไม่กี่เดือน และมันเป็นไปตามนั้นเป๊ๆจริงๆ จึงอยากทราบว่าผู้มีสมาธิสูงนี้ก็สามารถใช้ไปในทางไม่ดีได้เช่นกันหรือไม่

 

ที่ ท่านจะให้เราได้ความรู้ ได้ชาณยากๆ ต้องฝึกจิตฝึกสมาธิกันให้แปนไปในทางที่ดีและถูกต้องก็เพราะด้วยเหตุนี้แหละคับ .....มันเกิดขึ้นจริง.....ทำได้ด้วย ถ้าบุคคลผู้นั้นเห็นผิด ผู้ที่ได้กสิณไฟ เผลอๆถ้าโกรธใครเข้าก็เผาให้วอดวายไปได้เหมือนกัน..
แต่ส่วนนใหญ่....จะไม่ค่อยมีรอกคับ เพราะกว่าจะได้วิชา ได้ชาณมานี่..จิตของบุคคลผู้นั้น ต้อง น้อมเข้ามาทางที่ดี จน ไม่คิดจะทำร้ายใครแล้ว..
แต่ก็อย่าลืม ว่าชาณ มันยังแปนแค่โลกียะ อะไรก็เกิดขึ้นได้หากตัดกิเลสยังไม่หมด แต่ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับสร้าง บาป กลายเป็นฝ่ายมารไป เว้นแต่ที่ทำเพราะอยากสั่งสอนให้รูสำนึก หรือเพื่ออะไรบางอย่างที่เป็นไปในทางที่ดีเท่านั้น ครับ

 

ชาณ มีเกิดได้มีเสื่อมได้ เหมือนกันคับ ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระโสดาบันขึ้นไป..
แต่ถึงเสื่อมได้ก็ฝึกให้มีมาใหม่ได้ เร็วด้วย เพราะรู้วิธีแล้ว.....แว้่นแต่จะไปหลงผิด ติดอะไรอยู่
แต่ถ้ามัวเมาหลงไปฝ่ายมาร ก็จะลายเป็นหมอผี ทำไสยศาสตร์ ใส่คนอื่นได้เหมือนกันนะ
ไอ้วิชาหมอพี่นี่ ยิ่งเรามืดเท่าไหร่ ยิ่งแกร่งขึ้นเท่านั้น ....ยิ่งทำชั่วยิ่งดีว่างั้นเถอะ
ฝึกง่ายกว่าทางธรรมเยอะ....แต่ก็เสื่อมง่ายเหมือนกันถ้าทำผิด ชาณนี่ อันตรายนะ ถ้าใช้ผิดๆนะ คับ ไอ้หมอผี คนทำกุญไสยนะ อย่าไปดุถูกเขานะคับ ระดับชาณทั้งนั้นแหละ

 

({) เห็นแล้วไม่ว่าจะเข้ามาอ่านเลยอดใจไม่ไหวก็เข้ามาอ่านครับ
ถ้าคุยถึงเรื่องนี้แล้ว คุยกันเป็นวันไม่จบหรอกครับ ทุกอย่างในโลกนี้มีเรื่องที่ทั้ง แปลกและไม่แปลก อีกมากมาย จะให้เราได้ศึกษา ไม่ต้องไปศึกษาโลกอื่นหรอกครับ แค่เกิดมาชาตินี้ชาติเดียว ก็ศึกษาไม่จบแล้ว ตายแล้วเกิดๆแล้วตายไม่จบสิ้น แต่ศึกษาทางธรรม มีวันจบครับ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ที่คุณโมจันว่า ผมว่าไม่แปลกหรอกครับ ที่ได้ฌาณ ๔ แช่งเป็นไปตามนั้นจริงๆ เอาแค่คนที่ยังไม่ได้ฌาณหรือญาณอะไรที่คุณว่า เอาแค่คนที่รักษาศิล ธรรมดา ปรกติ ศิล ๕ ก้แย่แล้ว ไม่ต้องอธิบายนะครับ ขอเล่าลัดเลยครับ คนที่ทำไสยศาตย์ คุณผี คุณคน ฝังรูป ฝังลอย หุ่น เสน่ยาแฝด หุ่นขี้ผึ้ง พวกนี้ ต้องได้ ฌาณ ๓-๔ ถึงจะทำได้ พวกมนต์ดำ เขาทำในทางที่ผิด ใช้ในทางผิด ถ้าไปใช้ในทางถูก จะเป็นบุญกุศล เกิดความผาสุข ต่อมนุษยื มวลชาติ สัตว์ได้มากมาย แต่ถ้าไปใช้ทำกับคนดี ไม่ได้ผล หรือเกิดผล น้อย มันก็ไปเป็นกรรมมากกว่า และเสื่อมเร็ว แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่ได้ ฌาณ น้อยคน ที่จะทำ แต่ก็ไม่เสมอไป ยาก ที่จะเข้าใจ ตราบใต ยังเป็น โลกียอยู่ คนที่ใช้ไสยเวท ฆ่าคน อาจารย์ผม บอกไว้ว่า ฆ่าคนเกิน ๓ คนขึ้น ไป จะเป็นปลอบ ทั้งๆที่มีชีวิต อยู่ครับ จริงเท็จประการใด ไปถามผู้รู้ แต่รู้แค่ทางดีก็พอ อย่าไปรู้มากเลย เสียเวลาเปล่าๆ ไร้ประโยชน์ แต่มีบางพวกอยากรู้และอยากเห็น ต้องเรียนรู้ ให้ได้ พูดไปยาว ในโลกนี้ มีทั้ง ดีและชั่ว มีมืดกับ ส่ว่าง มีตายต้องมีเกิด มีนินทา ต้องมีสรรเสริญ มีเจริญก็ต้องมีเสื่อม โลกธรรม ๘ ไง ฉนั้น มีตายมีเกิด แต่คนที่รู้ ท่านไม่กลับมาเกิดอีก ไม่ยินดีในโลกนี้

 

เห็นด้วยกับคุณ บุญทรงพระเครื่อง ค่ะ เอาแค่เรามีศีล ๕ ศีล ๘ แค่คิดไม่ดีกับเราเขาก็แย่แล้วค่ะ
การไปสาปแช่งคนไม่ดีหรอกค่ะ แช่งไปเข้าเขาได้ แต่ก็ย้อนมาหาตัวเหมือนกัน เอาแค่โกรธ โมโห แค่นี้ใจเราก็ไม่สงบแล้ว ถ้าคุณได้ฌาณ ๔ จริง เก็บรักษาเอาไว้ทำประโยชน์ดีกว่าค่ะ ของดีมีกับตัวก็ใช้ไปในทางที่ดีดีกว่า สาธุ

....................................................................................

ไผได้ไปงานครูบา สิทธิ ขอเอาฮูปมาลงฮื้อกำเน่อเจ้าจะเป๋นพระคุณอย่างสูง บ่าได้ปิกก่ขอผ่อหน้าเวปฯก่ยังดี

 

ได้สิคะ แต่ครูบาอาจารย์ท่านว่าฌานทางโลกนี้ เกิดขึ้นได้ก็เสื่อมได้ค่ะ

 

ที่ผมเคยได้ยินมาและอ่านมาก็ประมาณนั้นครับว่าทำได้ แต่ความเป็นจริง.ปกติถ้าทำถึงจุดนั้นจริงๆ..กายกับจิตเค้าแยกกันได้ชั่วคราว..การรักษาอารมย์ให้อยู่จุดนั้นโดยไม่เกิดนิวรณ์เนี่ยก็ถือว่าเก่งแล้วครับ...ไหนจะต้องเจอกับการที่ต้องคอยควบคุมตัวจิดให้อยู่ในร่างกายโดยไม่ให้ออกไปไหนจากการฝึกเจริญสติก็หนักแล้ว​

..

และกว่าจะไปถึงจุดนั้น ต้องผ่านทั้งเพิ่มเมตตาต่อคนและสัตว์ การลดความอยาก สำรวมอายตนะทั้ง 6 การเพิ่มความเสียสละต่างๆ..อดทนต่อสิ่งกระทบต่างๆทั้งภายในภายนอก ต่อจิตตัวเอง.​

กิเลสทั้ง 4 ตัวแทบจะไม่มีตัวไหนเลย ณ อารมย์นั้น.ค่อนข้างที่จะยากมากๆนะครับ..ที่จะคิดทำอย่างนั้น.เพราะว่าอารมย์นั้นถ้าคิดไว้ก่อนมันจะเข้าไม่ได้ ต้องใช้การวางอารมย์ถึงจะคิดอะไรได้นะจุดนั้น...อย่าว่าแต่คิดไปแช่งคนเลยครับ...ขนาดยุงยังไม่คิดจะตบเลย..ด่าคนอื่นยังไม่เคยคิด เค้าดูแต่ใจตัวเองทั้งวันแทบไม่ยุ่งกับใคร จะเอาอะไรไปคิดว่าจะแช่งคนอื่นๆครับ​

แต่!!!!ถ้าหากเป็นการสะสมอารมย์กับคนใดคนหนึ่งมานานมากๆและจิตอยู่ในช่วงที่เป็นทิพย์แบบที่เรียกว่าอุปจารสมาธินี้ไม่แน่ครับ.....

 

คือที่เห็นมาก็คือพวกคนที่โดนแช่งนั่นไปทำเลวอย่างหนักกับผู้ที่ได้ฌาณสี่ก่อนนะคะ เอหรือว่าจะเป็นกรรมสนองกรรมคืน

 

ตามนั้นครับ

ถ้าคนได้ ไม่มี ศีล ไม่มี ธรรม ก็ไปใช้ใน ทาง อกุศล ครับ

มีมาทุกยุค ทุกสมัย ครับ เรื่องปรกติ