เรื่องเด่น นิพพาน มีอยู่ ๓ อย่าง

ขอเสริมเรื่องการตัดกรรมว่าด้วยการอโหสิกรรม เพิ่มให้ชัดเจนอีกเล็กน้อย คือ

อย่างกรณีพระเทวทัต ได้กระทำบาบกรรมแก่พระพุทธเจ้า ถึงขั้นห้อพระโลหิตนั้น ถึงแม้พระพุทธเจ้า ท่านไม่ผูกพยาบาท ไม่โกรธ เคืองแต่ประการใด และในจิตพระองค์ก็ทรงอโหสิกรรม ให้ พระเทวทัต แต่ทว่าด้วยเป็นบาบกรรมหนัก คืออนันตริยะกรรม พระเทวทัตจึงต้องชดใช้กรรมจมลงใต้พระธรณีครับ ดังนั้นการตัดกรรมจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากจริงๆ พระองค์จึงตรัสเรื่องกรรมไว้มาก เรามีกรรมดั่งเงาติดตามตัว
ขอให้ทำปัจจุบันให้ดี จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ

 

คำว่า "นิพพาน"​

นิพพานในโลกทิพย์จึงเปรียบเสมือนอาหารในโลกมนุษย์
เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าใครอยากอิ่ม ก็ต้องทานอาหาร
หรือใครกินใครอิ่ม ใครทำใครได้

นิพพานก็เหมือนกัน ใครอยากได้นิพพาน จำเป็นจะต้องปฎิบัติ จึงมิใช่แค่ความศรัทธา หรือแค่อามิสบูชากันเท่านั้น
เข้าใจอยู่ว่า เหตุผลหลักที่คนส่วนใหญ่มักเข้าไปไม่ถึงปฎิบัติบูชากัน ก็เพราะว่า กำลังใจ หรือบุญ หรือบารมีไม่มากพอ นั่นเอง

แต่ขอให้พวกเราเริ่มกันที่ การรักษาศีลก่อน หรือรักษาศีลหยาบให้ได้กันก่อน โดยเอาตัวเจตนาเป็นตัวชีวัดก่อน และต่อๆไป เมื่อทำภาวนาไปได้สักระยะกันแล้ว
จิตจะเริ่มละเอียด และศีลจึงจะเริ่มละเอียดตามจิตของเราไปเอง
และถ้าจิตเริ่มละเอียดกันมากขึ้นไปแล้ว
เราแทบไม่ต้องรักษาศีลกันให้เมื่อย หรือไม่ต้องเกรงว่าเราจะทำผิดศีลเลย
ในครั้งแรก เราจะต้องเป็นผู้ดูแลศีลก่อน แต่ถ้าจิตละเอียดแล้ว ศีลจึงจะดูแลเราแทน

สรุปแล้ว คำว่า นิพพานนั้น
ทุกท่านก็อยากได้ทุกคนแหล่ะ!
แต่จะมีสักกี่คนที่มีความขยันหมั่นเพียร โดยการเข้าไปให้ถึงการปฎิบัตินั้น
แต่จะต้องเริ่มต้นกันที่ สนใจจิตตนเองก่อน หรือที่เขาเรียกว่า
ตามดู ตามรู้จิต นั่นเอง

แต่ก่อนพวกเราจะตามดูจิตกันนั้น เราจะต้องเริ่มต้นการสร้างสติก่อน
อันนี้สำคัญมาก ในการปฎิบัติดูจิต
การปฎิบัติธรรมนั้น จิตต้องมาอันดับหนึ่ง
แต่การดูจิตนั้น สติย่อมมาอันดับหนึ่ง เช่นกัน

ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุขกาย สบายใจ
ขอให้ทุกๆท่าน เจริญในศีล ในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ


ปล.สำหรับผู้สนใจนิพพานจริงๆ เบื่อทุกข์จริงๆ เบื่อการเกิดกันจริงๆ
พบกันได้ที่ ณ. กระทู้ จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ นะครับ
กระทู้นี้เปิดตลอด 7/24
และกระทู้นี้เน้นแก่น เน้นธรรมปฎิบัติ เน้นเดินตรงเข้ามรรคผลนิพพาน เปลือกไม่เอา เดินอ้อมไม่เอา บ้าฤทธิ์เดช บ้าอภิญญาไม่เอา เอาเหมือนแต่ไม่ไปยึด เพราะมิใช่หนทางปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น
แต่ถ้าใครไปยึดมีแต่จะสร้าง อัตตาตัวตนขึ้นมากันอีก ยิ่งกว่าเดิม คราวนี้ใครสอนตักเตือนก็ไม่ได้แล้ว เพราะท่านกำลังจะออกไปทะเลไกลโพ้นแล้ว
ช่างเขาปะไร อย่าไปดูจิตคนอื่น ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี แต่ขอให้ดูที่จิตตนเองนั้น ยังมีความเลวหลงเหลืออยู่ไหม๊? แต่ถ้ามีแก้ไขซะ
เพราะเราไม่สามารถไปแก้ไขจิตผู้อื่นๆได้

กระทู้นี้ปฎิบัติเพื่อพ้นทุกข์ และเพื่อความหลุดพ้นกันจริงๆ
และขณะนี้มีผู้ที่นิยมทำตามกันมากขึ้นแล้ว
ขอให้ทุกท่านที่สนใจไม่อยากกลับมาเกิดกันจริงๆ ขอเชิญพบกันที่กระทู้นี้
หรือยินดีแลกเปลี่ยนธรรมะกัน หรือมาช่วยโปรดสั่งสอนกัน จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง รับทุกภูมิธรรม ภูมิปัญญาครับ...

จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-136

 

ทุกข์สุขมีอยู่ แต่ไม่มีผู้เสวยทุกข์สุข
นิพพานมีอยู่ แต่ไม่มีผู้เสวยนิพพาน
ผมจึงเห็นว่า นิพพานชั่วคราว เป็นมิจฉาทิฐิ

 

สวัสดีคุณ Bumrung อยู่กรุงเทพหรือเปล่าครับ หวังว่าเราคงจะได้เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันนะครับ

 

อนุโมทนาค่ะ
พอจะทราบจากพระอาจารย์ผู้ปฏิบัติบางท่านว่า การกลับนิพพานไม่ยากเลยค่ะ ตราบที่มีลมหายใจอยู่ หากผู้นั้นทรงอานาปานสติกรรมฐานอยู่ทุกลมหายใจ เจริญมรรคแปด ปฏิบัติกรรมบถ ๑๐ ประการอย่างสมบูรณ์อยู่ไม่ขาด การกลับนิพพานนั้นอยู่ห่างเราเองแค่ฝ่ามือ อยู่ที่เราจะเอื้อมหรือไม่เท่านั้น ใครทำก็ได้คนที่ทำ ไม่มีใครสามารถทำแทนให้ใครได้ ละตัณหา(ซึ่งตัณหาเป็นผู้สร้างภพให้เราเวียนว่ายตายเกิดตามผลบุญและผลกรรมที่เกิดจากการกระทำของเราเองไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ)
นิพพานแปลว่าเย็น เมื่อจิตเรา สะอาด จะเกิดความสว่าง และจะมีความสงบ คือจิตเราจะกลับสู่ความเย็น(นิพพาน) เมื่อสังขารนี้ตายลงขอให้จิตเราผ่องใสละจากสังขารนี้ทันที มุ่งกลับสู่นิพพานโดยสุดรอบ อธิษฐานจิตดีๆจะได้ไม่ไปเกิดเป็นพรหมลูกฝัก จะทำให้เสียเวลาเปล่าๆไร้ประโยชน์ค่ะ
ดิฉันก็พยายามทำสิ่งนี้อยู่เช่นกันค่ะ เพราะต้องการกลับนิพพานเป็นที่สุดรอบ เบื่อการเกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วเช่นกัันค่ะ

 

เพราะไม่เคยเข้าถึงสภาวะจริงๆ จึงกล่าวเช่นนั้นครับ

การมีอยู่ของนิพพานชิมลอง ไม่ได้มีเพราะมีคนอยากให้มี ไม่ได้มีเพราะมีคนอยากแต่งตั้งมันขึ้นมา เพื่อให้ตัวเองดูดีกว่าคนอื่น

การจะบอกว่า ถ้าหลอดไฟดวงนึง มันสว่างแบบ ติดๆ ดับๆ เห็นหลอดไฟนี้แล้ว ไปพูดว่า หลอดไฟดวงนี้เป็นหลอดไฟที่มืดสนิท ไม่มีแสง เพราะหลอดไฟในความเห็นของคุณมีแค่สองอย่าง คือ สว่างจ้าตลอด และ มืดดับตลอด มันก็ย่อมเป็นความเห็นของคุณคนเดียว ไม่ใช่ความจริงสากล เพราะความจริงสากล ก็คือ หลอดไฟที่ติดๆ ดับๆ มีแสงบ้าง มืดบ้าง ก็คือหลอดไฟที่ไม่ได้สว่างตลอด และ ไม่ได้มืดตลอด เท่านั้นเอง

มันมีอยู่ เพราะมันมีอยู่ ตามธรรมชาติ และกลไกของมันเป็นเช่นนั้น เท่านั้นเอง

 

กราบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) กราบหนึ่ง กราบสอง กราบสาม

 

การบรรลุธรรมจำเป็นต้องเป็นไปตามลำดับขั้น พระโสดา สกิทาคา อนาคา อรหันต์หรือเปล่าคะ

 

ตั้งเป็นกระทู้ใหม่ได้หรือเปล่าครับ เพื่อว่าเราจะได้ให้ท่านผู้อื่นทั้งหลายผู้มีภูมิธรรมจะได้ช่วยกันอธิบาย จะได้ทำความเข้าใจกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ เกรงใจเจ้าของกระทู้นี้ครับผม ผมคิดว่าคำถามนี้ดีและมีประโยชน์มากสำหรับนักปฏิบัติทั้งหลายครับ

 

ไม่เรียน ก ไก่ แล้วจะอ่านภาษาไทยออกได้หรือว่ะ 555 คิดไปได้ ไม่เรียน ป 1 โว๊ย อย่างกูอะต้อง ป 3 ยังดีที่มีคนเตือน

 

เมื่อละกายสังขารนี้ ขอปรารถนา พระนิพพาน อนุโมทนา สาธุ ค่ะ

 

โมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอให้ลูกนี้พบนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด

 

นิพานไม่ใช่ที่ ไม่ไปไม่กลับ หรือแม้แต่ความหมายนิพานก็ไม่ใช่ อย่าหาความหมายเลย ปฏิบัติต่อไปกันเถอะ จิตที่ฝึกดีแล้ว ไม่นำทุกข์นำสุขมาให้ สาตุ๊

 

ทุกคน น่าจะมาอ่าน จะได้หายสงสัยซะที่ว่านิพพานอยู่ไหน พระอรหันทำไดมากกว่าการเข้าไปอยู่ในแดนนิพพาน หรือไม่ ท้ายที่สุด ก้ต้องทำให้ถึง วันนั้นแหละน้ำตามันจะไหล เพราะไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ ยังไงก้ต้องสัมผัสเอาเอง มันถึงจะสิ้นสงสัยทั้งหมด !!!

 

ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอด

 

สาธุคร้า