เสียงที่ได้ยิน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อายาตนะ, 8 กันยายน 2012.

  1. อายาตนะ

    อายาตนะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +87
    รบกวนสอบถามค่ะ

    ระหว่างนั่งสมาธิ มีเสียงหายใจแรงๆอยู่ด้านหลัง จนออกจากสมาธิแล้วก็ยังมีเสียงอยู่ แผ่เมตตาให้ทุกครั้ง บ่อยๆเข้าเสียงมาตั้งแต่ยังสวดมนตร์ไม่ทันจบ
    บางทีออกจากสมาธินานแล้ว ก็ยังมาอีก

    แผ่เมตตาไปแล้วก็ยังมาอยู่บ่อยๆ เมื่อเช้า ตี 5 .50 ฟ้าสว่างแล้วด้วยค่ะ
    เสียงใคร อุทิศบุญให้แล้วทำไมยังมาอยู่เรื่อยๆเลยคะ
     
  2. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ผมเคยเป็นคล้าย ๆ อย่างนี้ แต่ไม่ใช่เสียง เคยติดอยู่อย่างนี้เป็นปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอุปทาน หรือมีบางอย่างจริง

    ทำสมาธิก็เจออยู่นาน จนไปหาครูอาจารย์ว่า มันคืออะไร มันเป็นใคร ทำนองนี้ พระอาจารย์บอกว่า "จะอยากรู้ไปทำไมล่ะ" ได้รับคำตอบอย่างนี้ตอนแรกผมก็งง แต่ก็นิ่งไว้

    พอมาทำสมาธิ มาคิดว่า ลองเลิกสนใจสิ่งเหล่านั้น ไม่อยากรู้ ไม่สนใจ เลิกกังวล มันก็ไม่เคยเกิดปัญหาอีกเลย
     
  3. Dhamma Osoth

    Dhamma Osoth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +78
    [​IMG]

    "... ผู้ใดมีสติ อยู่ทุกเวลา
    ผู้นั้นก็จะได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้า อยู่ตลอดเวลา
    เพราะว่าเมื่อตามองเห็นรูป ก็เป็นธรรมะ หูได้ยินเสียง ก็เป็นธรรมะ
    จมูกได้กลิ่น ก็เป็นธรรมะ ลิ้นได้รส ก็เป็นธรรมะ
    ธรรมารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจ นึกขึ้นได้เมื่อใด เป็นธรรมะเมื่อนั้น
    ..."

    หลวงพ่อชา สุภทฺโท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2012
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อยานตนะ เนี่ยะ มันมี อยานตนะนอก กับ อยาตนะใน

    การฝึก หากผู้ฝึก อาศัยอยาตนะนอก ใช้ธรรมภายนอกเป็นราวเกาะ ก็เท่า
    กับฝึก วิตก ในธรรมข้างนอก เมื่อ จิตตั้งอยู่ข้างนอก มันก็สนใจแต่ เสียง
    เทศนาธรรมะ เสียงจิ้งจก ตุ๊กแก เสียงหัวเราะ สรวญเสเฮฮา คุยธรรมะก็ฮา
    คุยเรื่องฮาก็ฮา คุยเรื่องหาอะไรก็ เอาแต่ ฮา เอาแต่ โลก มีแต่โลก

    เวลามาทำสมาธิลึกๆ มันก็เลย สับสน เห็นอะไรที่เป็น ภายใน ก็เข้าใจว่า
    ไปเห็นข้างนอก

    เพราะ ไปฝึก สัญญาตั้งอยู่แต่ข้างนอก ทั้งๆที่ ลมหายใจของตัวเองมัน
    ดัง แต่ความที่ไป ฝึกฟังข้างนอกไว้จนชำนาญ คล่องแคล้ว มันก็เลยผลิก
    สัญญาไปเห็นว่าเป็นเสียงคนข้างนอก

    เพราะอะไร

    เพราะ หูเอง ก็มีนอกและมีใน หูเรานั้น คนอาจจะคิดว่า ดังมาจากสองข้าง
    ขางซ้ายข้างขวา แต่จริงๆแล้ว เสียงมันส่งมาจากประสาทสัมผัส สฬายตนะ
    ทีมาจากสมองส่วนกลาง ไม่ใช่สมองส่วนหน้า ....เวลาได้ยินเสียง หาก
    สมาธิลึกๆ ก็จะรู้สึกว่า มันดังตรงกลาง ....

    อนึ่งจิตที่เป็นสมาธิ จะเกิดจากการรู้จากส่วนหน้า ดังนั้น หากเห็นจิตเคลื่อน
    เดี๋ยวจิตทางมโนทวาร เดี๋ยวจิตเกิดทางหู ก็จะรู้สึกว่า มันเคลื่อนไปข้างหลัง

    .............

    และ กรณีที่ไปเห็น กาย อันเกิดจาก ลมหายใจ อันนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้
    ที่จะเห็น หลังลงไปอีก เพราะ สมองส่วนหลังคือสมองที่เกี่ยวข้องกับกายที่
    เป็นลมหายใจ

    แต่...............

    ทั้งหมด ไม่ได้เรื่อง

    เพราะ เป็นการไปฟังอยู่ข้างนอก ไปสร้างจิตให้ คลุกกับโลก ไม่ใช่ เนขขัมมะ

    ไม่ใช่สมาธิจิต ไม่ได้อยู่คนเดียว แต่เป็นการเอา ตัวตนไปตั้งไว้กลางโลก ทำ
    ให้ยิ่งฝึกก็ยิ่งโง่ ยิ่งรู้สึกว่า โลกเข้ามาห้อมล้อม

    วิธีการ

    ก็ฝึกอย่างเดิม แต่ให้รู้ว่า ขณะนั้น รู้อยู่ข้างนอก เมื่อฝึกบ่อยๆ ก็จะเฝ้นหา
    องค์ธรรมที่ละเอียดกว่าได้ แล้วจะเห็นว่า อยาตนะใน มันมี และไม่ใช่
    เห็นแค่นี้

    จะต้องหาอุบายนำอยาตนะออก ถ้านำอยาตนะออกไม่ได้ ก็ไม่ถือว่า ปฏิบัติธรรม

    ถ้าไม่นำอยาตนะออก ก็จเห็นแต่ อยาตนะใน สลับอยาตนะนอก

    ผลของการฝึก หรือ หยุดอยู่แค่ เห็นในเห็นนอก แต่ไม่นำออกคือ กลายเป็น

    คนปลิ้นปล้อนเก่ง
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ยกตัวอย่าง

    สมมติว่า ปากเราพูดอย่างหนึ่ง ขณะนั้น เราก็ตามรู้ตามดูว่า ปากเราพูด ซึ่งเป็น
    การเห็นอยาตนะนอก แล้ว เราก็เห็น อยาตนะในด้วย การเห็นอยาตนะใน จะรู้สึก
    ว่า เสียงที่พูดออกไปตะกี้ ปากที่ขยบตะกี้ ไม่ใช่ ตน

    พอคนถามว่า ตะกี้เราพูดอะไร ก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะตอบว่า ไม่ได้พูดอะไร

    เมื่อทำการเห็นว่า กาปฏิเสธว่าไม่ได้พูดอะไร มันก็มี ความเป็นจริงอยู่มาก เพราะ
    มันรู้สึกว่า เสียงที่เปล่ง กายที่ขยับ ล่วนไม่ได้มาจากตน ไปสำคัญว่าตนเป็นอยาตนะใน
    ก็จะทำให้ เกิดการยึดภพของ คนปลิ้นปล้อน ไปทีละน้อย

    เมื่อทำมากๆ ก็สะสมการเห็นนี้เก็บลงเป็น อนุสัย

    เมื่อเก็บเป็นอนุสัย ก็อาจจะเข้าใจว่า ชิน หรือ ชำนาญ คิดว่าเป็น ฌาณวิสัย
    ก็จะผลิกเป็น สันดาน

    พอกลายเป็นสันดาน คราวนี้เกิดภพไหน ชาติไหน มันจะรู้สึกว่า มีองค์

    คือมีนอก มีใน แต่ด้วยเพราะความไม่รู้ว่า เห็นอะไร เอาตรงส่วนไม่รู้
    เป็นตน ก็จะกดตัวเองลงต่ำ แล้วยก อยาตนะใน หรือ นอก เป็น เทพเจ้า
    หรือ ผี หรือ สาง ดักดานไปไม่มีวันสิ้นสุด
     
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    แล้ววิธีนำออก ทำอย่างไร

    ง่ายนิดเดียว พระพุทธองค์บอกว่า ก็บรรดาอะไรก็ตามที่ได้ยิ่น ได้รับรู้ สัมผัส
    สิ่งเหล่านั้น ไม่เที่ยง ทำการระลึกไปแบบนี้

    ก็จะเป็น การนำ อยาตนะออกได้ในที่สุด

    *********

    จะเห็นว่า พระพุทธองค์สอนให้ ใส่ใจระลึก ตามเห็นความไม่เที่ยง

    ไม่ใช่ไปบอกว่า ให้ทำอาการไม่สนใจ การไปทำอาการไม่สนใจ
    เป็นการฝึกให้ โง่อาบสบู่ ( อาบ คือ บัด bath , สบู่ คือ ซบ soap )

    ดังนั้น เห็นใครบอกว่า อย่าไปสนใจ ให้รู้ไว้เลยว่า อาจจะกำลังเจอพวก ปลิ้นปล้อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2012
  7. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    คิดไปในใจว่าได้ยินหน่อ ได้ยินหน่อ ได้ยินหน่อ จะกลัวทำไมหน่อ จะกลัวทำไมหน่อ จะกลัวทำไมหน่อ
    เสียงก็จะหายไปเอง หน่อ

    มนุษย์ หน้ากลัวกว่าเยอะ มนุษย์ รู้หน้าไม่รู้ใจ รู้ใจไม่รู้จิต มนุษย์ สามารถ สร้างได้ทุกอย่างแล้วก็ทำลายได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น กลัวมนุษย์ ดีกว่า
     
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ธรรม สภาวะธรรมทั้งหลายล้วนเป็นความจริง
    อุปาทานที่ใจเราสร้างขึ้นมานั่นต่างหาก ที่ไม่ใช่ความจริง
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    เสียงหายใจที่ได้ยิน.ได้ยินชัดทางหูทั้งสองข้าง หรือได้ยินข้างใดข้างหนึ่งครับ
     
  10. อายาตนะ

    อายาตนะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +87
    ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ

    เสียงที่ได้ยิน มาบ่อยค่ะ จากกลัวเป็นคุ้นชินก็แผ่เมตตาให้ทุกครั้งเพียงแต่สงสัยว่าใคร ทำไมยังมาอยู่เรื่อยๆ

    ได้ยินชัดเจนทั้งซ้ายขวาค่ะคุณ NOPPHAKAN
     
  11. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    ผมเคยได้ยินเป็นเสียงตะโกนเรียกดังมาจากด้านหลังตอนนั่งสมาธิอยู่ พอได้ยินก็เลยตั้งใจตำหนิไปว่ารบกวนกันตอนนี้มันบาปนะโว้ย แล้วก็ไม่เคยได้ยินอีกเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กันยายน 2012
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    วิหิงสาวิตก หรือ ทิฏฐิที่แล่นไปเพราะสำคัญว่า มีการเบียดเบียนเกิดขึ้น

    สภาพธรรมนี้ ทำให้เกิด ภพ คือ จะปรากฏบุคคลคู่ ผู้หนึ่งคือ ผู้รับ กับ ผู้ทำ

    ครั้งสมัยพระพุทธองค์ใกล้จะตรัสรู้ พยามารได้เข้ามาก่อกวน จริงอยู่ที่อาจจะ
    เห็นว่าเป็นธรรมภายนอกมาจริง ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฏก แต่ถ้าใครก็ตามที่
    เสพคุ้นสุญญตาสมาธิมาพอสมควรแก่ปัญญา จะพึงทราบว่า

    การที่เกิดภพ เป็นเพราะ ตัณหาไม่สิ้น และ !!!

    และ ผู้ภาวนาส่งจิตออกนอกเอง ไม่ใช่ ใครทำ หรือ ใครทำดึงออก หรือ มีใคร
    ปรากฏ จิตไม่อยู่ที่ฐาน เคลื่อนออกไปเพราะ ทนต่อ ทิฏฐิ ไม่ได้เพียงนิดเดียว
    มารย่อมสบช่องปรากฏ .......

    นั่นคือ จิตเราเคลื่อนก่อน เพราะ เกิดทิฏฐิ เป็นปัจจัย

    เมื่อจิตเคลื่อนแล้ว มารจึงปรากฏภายหลัง



    ทีนี้ ทิฏฐิที่เกิด อาจจะเป็น มโนสังขาร วจีสังขาร กายสังขาร อย่างหนึ่งอย่าง
    ใดก็ได้ เช่น เกิดอาการคัน หรือ ปิติแทรก กายก็ปรากฏ จิตก็เคลื่อนไปเสพ

    หรือ เสียงปรากฏ(วจีสังขาร ซึ่งออกมาจาก จิตอวิชชาของ ผู้ภาวนาเอง) จิต
    ก็เคลื่อน มารก็รีบเข้ามาสมอ้าง มารจึงไม่ได้ทำอะไร แค่มา ไขว้ขาปิดบัง
    วจีสังขารนั้น ให้ดูเหมือนว่า มารเป็นผู้สร้าง ทั้งๆที่ ความเป็นจริง คือ ออก
    มาจาก อวิชชา เป็นปัจจัยการ แค่นี้ ก็หลอกผู้ภาวนาให้ดักดานไม่สิ้นสุด

    ส่วนมโนสังขาร ก็เป็นเรื่องของนิมิต มีใครมาอวยชัยบ้าง มียักษ์มาตีบ้าง สาร
    พัด เมื่อจิตเคลื่อน ก็เป็นอันว่า ถูกปิดบังการเห็นว่า อวิชชา ปัจจยา สังขารา สำเร็จ

    พระพุทธองค์จึง เห็นว่า เป็นเพราะ วิหิงสาวิตก เพราะ การทิฏฐิเร่ืองการเบียดเบียน
    ยังปรากฏ จึงทำให้จิตไม่เป็นสมาธิ จิตไม่ตั้งมั่น จึงได้ จรดมือลงสู่ปฐพี เพื่อ
    ระลึกในคุณงามความดี สังสารวัฏที่ยาวนาน มาเป็นพยาน

    ไม่ใช่เพื่อเอามาตบหน้ามาร !!

    แต่ กระทำเพื่อให้ระลึกถึง กุศลธรรม ให้มั่นคง แนบแน่น ไม่สั่นคลอน
    ไม่เคลื่อนไปสู่การสำคัญว่า มีการเบียดเบียน ซึ่งทำให้จิตแล่นไปสู่การ
    มีภพ แต่ถ้า ละวิหิงสาวิตกได้ ก็เท่ากับ ละวิตก3 ได้ เมื่อนั้นคือ สัมมาสมาธิ
    ที่ "พ้นภพ" ได้อย่างสมบูรณ์

    ******************

    วิหิงสาวิตก มีอะไรบ้าง ก็

    สำคัญว่า มีคนมาเบียดเบียน

    หรือ

    สำคัญว่า เราต้องแผ่เมตตาให้กับสัตว์ ( ซึ่งก็คือ สำคัญว่ามีคนมาเบียดเบียนนั่นเอง )
    แต่ เอา ความดี มาตบตา แหกตา ตัวเอง เพื่อเอาเทห์ เอาโก้ ทั้งๆ ที่ โลกนี้มันไม่มี
    สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา แต่อย่างใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ถ้า ภาวนาแล้ว จิตรู้ไม่ถึงฐาน ก็ไม่มีวันเข้าใจ สมาธิ

    เมื่อไม่มี สมาธิ ว่าด้วยสุญญตา ก็ไม่มีวัน เกิดปัญญา

    เมื่อไม่เกิดปัญญา ก็ไม่ชื่อว่า เป็นบุคคลมี ศาสนา
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    อนึ่ง ว่าด้วย องค์ธรรมที่เป็นเครื่องประกอบ การตรัสรู้ ซึ่งก็คือ


    โพธิปักขิยธรรม หรือ โพธิปักขิยธรรม 37 เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี 37 ประการคือ
    หากสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า ไม่มีเรื่อง พรหมวิหาร4

    พรหมวิหาร4 จะเป็นเรื่องที่เฉพาะ ลงไปในเรื่องว่าด้วย การฝึกฌาณ
    เป็นเรื่องของ บุคคลที่มีจริตไปทางทิพยอำนาจ

    ดังนั้น เวลา ทบทวนการปฏิบัติ ว่า เราขาดอะไร ก็ต้องดูเป้าหมาย
    ในขณะนั้นก่อนว่า ตั้ง อธิษฐานไว้ที่การสำเร็จอะไร

    หากมุ่งสำเร็จ ฌาณ ก็แน่นอนว่า เวลาพลาดพลั้ง ก็ย่อม กลับไปทบ
    ทวน พรหมวิหาร4 ไม่พอเพียง แก่การทำสมาธิ

    แต่ถ้ามุ่งนิพพาน โลกอุดรโดยตรง อย่า ทบทวน พรหมวิหาร4 แต่ให้
    กลับไปทบทวนสติปัฏฐาน และที่สำคัญคือ สัมมัปธาน4

    ยกตัวอย่างเช่น ภิกษุรูปหนึ่ง ก่อนทำสมาธิจะต้องกวาดเรือน แต่วันหนึ่ง
    เกิดเดินตรงมานั่งทำสมาธิ ละเว้นการดวาดเรือน เหมือนมีอะไรก่อกวน
    เหมือนมีอะไรต่อว่า ว่าขี้เกียจแล้วหนอ จิตก็เลยไม่รวม ไม่เกิดเป็นสัมมา
    สมาธิ

    ภิกษุท่านนี้ ไม่ได้ ทบทวนว่า เราขาด พรหมวิหาร หนอ ( ความรู้สึกว่า
    มีอะไรมาก่อกวน หากงัดเอา พรหมวิหาร4 มาตรึก ก็จะ สำคัญไปว่า
    มี ภูมิเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง มานั่งตัดพ้อต่อว่า )

    แต่ท่าน ทบทวนไปตามโพธิปักขยิธรรม ทำให้ ทราบว่า ลืมรักษาในสิ่งที่รักษา
    ไว้ดีแล้ว คือ การกวาดเรือน ทบทวนสัมมัปธาน4ได้ ก็เกิดความ พอเพียง
    ( หากใช้ โพธิปักขยิธรรม จะไม่หลงว่า มีภูมเทวดา เจ้าที่ มาต่อว่า แต่จะเห็น
    ว่า ศีลที่ตนทำไว้ดีแล้ว พร่องไปต่างหาก ทันที )

    เมื่อเกิดความ พอเพียง ถูกต้อง อีกทั้งเป็นเครื่อง ยังให้เกิดการตรัสรู้ ท่านก็
    สำเร็จได้


    สีเลนะ สุคะติง ยันติ
    สีเลนะ โภคะสัมปะทา
    สีเลนะ นิพพุติง ยันติ
    ตัสมา สีลัง วิโสธะเย ฯ
     
  15. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    555+ พี่โดนผีหลอกแล้วล่ะ อิอิ
     
  16. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ยังไหว้ พระ ภูมิเจ้าที่ อยู่หรือไม่ ยังไหว้ สัมภเวสี หรือไม่

    แผ่เมตตาให้อย่างเดี่ยว พอครับ

    "ปูชา จะ ปูชะนียานัง" บูชาบุคคลที่ควรบูชา

    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ประเสริฐ สุด แล้ว

    สำคัญที่สุด คือ พ่อแม่

    ถ้ายังมาอีก ใช้บทสวดนี้ ครับ

    บทขัดกะระณียะเมตตะสุตตัง

    ต่อด้วย กะระณียะเมตตะสุตตัง

    รับรอง หายแน่นอน พระ อาจารย์ ธุดงค์ บอกมาครับ

    บทขัดกะระณียะเมตตะสุตตัง

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ksywDHp6k7M"]??????????????????? ????????????? - YouTube[/ame]
     
  17. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
  18. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากสนใจในทุกสิ่งมากจนเกินงาม ก็จะสงสัยในทุกสิ่งที่สนใจ

    แผ่เมตตาแต่ยังสนใจอยู่ เฝ้าคอยอย่างตั้งใจ ย่อมได้ยินอยู่เช่นเดิม

    และจะมากขึ้นทุกที ความหวาดกลัวกำลังดำเนินไปด้วยการปรุงแต่งตลอดเวลา

    หากจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาศ ก็ควรจะสังเกตุจิตที่คอยสนใจของตนเอง

    ทุกครั้งที่รับรู้ว่าได้ยินนั้น จะมีความรู้สึกก่อนทุกครั้งใช่หรือไม่ ณ ขณะนั้นหากยกจิตออก

    ก็จะไม่รับรู้เสียงที่ได้ยิน เพียงแต่ทำได้ไม่ง่ายนัก ต้องมีการฝึกที่ดีเสียก่อน

    สาธุครับ
     
  19. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    มาแต่เสียงลมหายใจ สงสัยจะหื่นจัด ลองถามไปสิครับว่า งวดหน้าออกอะไร??
    (ล้อเล่นแต่ทำจริงได้นะ)
     
  20. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ลองถามดูบ้างสิครับ

    ถามตอนที่นั่งสมาธินั่นแหละ
    ถามคนในบอร์ด
    ก็บอดจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...