ใครทราบบ้างคะ ยาส้ม อาจารย์ฝั้นรับแจกได้ที่ไหนบ้าง

หรือหากใครทราบวิธีทำ้ ขอนิมนต์มาสอนเจ้าค่ะ
ก่อนหน้านี้ดิฉันรับที่ วัดวะภูแก้ว อ.สูงเนิน ช่วงหลังๆ คนป่วยไปเยอะทางวัดเองก็ไม่มีทุนมากพอจะทำจ่ายแจกได้หมด ตัวดิฉันเองก็คิดว่าหากการลงทุนไม่ได้สูงมากนักก็ยากจะทำเอง เพราะหลังจากดื่มมาและเห็นประสิทธิ์ภาพแล้วว่ายาครูบาอาจารย์ท่านดีจริงๆ และหากพอเหลือพอจะแ่บ่งปันผู้อื่นได้ก็ยินดี

เท่าที่ค้นหาข้อมูลตาม google วัตถุดิบที่ใช้ก็พอได้คงไม่ยากแต่กระบวนการทำจำเป็นต้องอาศัยผู้ชำนาญทำเป็นจริงๆ มาสอน

ใครทราบข้อมูลบ้าง รบกวนแนะนำด้วยค่ะ

 

ลองติดต่อที่โรงยาวัดสังฆทาน นนทบุรี นะคะ

 

ขอบคุณค่ะ

 

ยาส้มยาครอบจักรวาล
ส่วนผสม
1)จุนสี 1 ส่วน
2)เกลือ 1 ส่วน
3)สารส้ม 1 ส่วน
4)ดินปะสิว 1 ส่วน
5)กำมะถันเหลือง 1/2 ส่วนหรือ หากเป็นกำมะถันแดงใช้ 1/4 ส่วน
ส่วนใหญ่ใช้มาตรวัดเป็น กิโลกรัม ก็ชั่งตามอัตราส่วน ด้านบน
นำมาผสม ให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ในภาชนะที่ทนร้อนได้(ห้ามใช้ วัสดุที่เป็นโลหะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะเกิดการกัดกร่อนจากยาที่จะระเหยออกมา)
ให้นำส่วนผสมที่ได้มา นำมาให้ความร้อนอ่อนๆ จนเกิดการระเหยของตัวยาออกมา แล้วทำการควบแน่น โดยใช้น้ำเป็นตัวหล่อเย็น จะได้น้ำใสๆหรืออาจจะสีออกเหลืองอ่อนๆ ระวังอย่าให้สีที่ได้มาเข้มเกินไป อันนี้ลำบากในการควบคุมครับ และให้ระวังเนื่องจากน้ำยาที่ได้มาเป็นกรดที่มีฤทธิ กัดกร่อนอย่างรุนแรง ดังที่ผมให้ข้อมูลเบื้องต้น
วิธีการกลั่นให้จินตนาการ การต้มเหล้าเถื่อนในสมัยก่อนครับ แบบเดียวกัน เน้นอีกครั้งห้ามนำโลหะมาสัมผัสเด็ดขาด อนุโมทนา

 

อ่านดูก็ไม่น่ายาก แต่สนามจริงคนละเรื่องเลยค่ะ เท่าที่อ่านมาบอกบางครั้งมีระเบิดด้วย แล้วดิฉันไม่เคยมีประสบการณ์กลั่นเหล้าเถื่อนด้วยสิ

 

วัดวะภูแก้ว ที่นั่นท่านแจกด้วยนะ มีวิธีทำด้วยนะ

 

ก่อนหน้าดิฉันก็รับที่นี่ค่ะ แต่ตอนคนป่วยไปหาท่านเยอะยาเลยไม่พอ คงติดเรื่องงบประมาณด้วยเพราะทางวัดเองก็ไม่ได้เรียกจากคนป่วย ดิฉันเลยต้องหาทางออกให้ตัวเองค่ะ

 

หัวเชื้อสมุนไพรกลั่น ที่คุณจำรัส เซ็นนิล เรียบเรียงนี้จะคล้ายยาส้มไหมครับ
มะเร็ง(หัวเชื้อสมุนไพรกลั่น)"เทพประทานสังหารโรค":จำรัส เซ็นนิล

 

ด้วยความสงสัยก็เลยไปหาอ่านค่ะ

"ตอนนี้ยาส้มและน้ำมันผึ้งยังมีอยู่ครับ แต่คนที่ทำได้นั้นมีอยู่เพียงไม่กี่คน เพราะอย่างที่บอกว่ากรรมวิธีการทำนั้นยากมาก และไม่ใช่ว่าวิธีการทำที่ต้องละเอียดทุกขั้นตอนแล้ว คนที่ทำต้องมีความอดทนสูงมากคือ ต้องยอมอดหลับอดนอนเฝ้าการกลั่นตัวของยากด้วย เพราะตลอดเวลาที่เฝ้าดูยานั้นจะต้องดูไฟให้สม่ำเสมอตลอด ถ้าไฟมอดเกินไปยาจะไม่กลั่นตัว ถ้าไฟแรงเกินไปตัวยาจะพุ่งออกจากทางกลั่นมากเกินไปจะอันตราย เพราะตลอดเวลาที่ทำนั้นถ้าผิดพลาดนิดเดียวยาอาจจะใช้ไม่ได้เลยก็ได้ หรือถ้าความร้อนสูงเกินไปหม้อกลั่นอาจจะระเบิดได้ทุกเวลา การกลั่นยาส้มและน้ำมันผึ้งต้องใช้หม้อที่พิเศษดัดแปลงขึ้นมาเองจะจะใช้ได้สะดวกและกลั่นยาได้ดี ส่วนน้ำมันผึ้งก็ต้องเป็นหม้อเหล็กที่ทนต่อแรงอัดสูงมากเพราะภายในหม้อที่ตั้งไฟไว้มีแรงอัดสามารถระเบิดแรงมาก ในเวลากลั้นน้ำมันผึ้งถ้ามีน้ำหยดลงไปในหม้อแม้เพียงนิดเดียวจะระเบิดขึ้นทันที และคุณสมบัติพิเศษของนำมันผึ้งอีกอย่างคือดินไฟได้ดีด้วย
คุณพิเศษของยาส้มนั้นครอบจักรวาลจริงๆ แต่ที่ใช้ได้ดีมากๆเลยคือช่วยปรับระบบเลือดให้เลือดที่ไม่ปรกติในร่างกายเป็นปรกติใช้ได้ทั้งกินและทา ยิ่งถ้าเป็นแผลจะแผลสดหรือแผลเน่าก็รักษาได้ โดยเฉพาะแผลเน่านั้นถ้าใส่แผลๆจะแห้งไม่เน่าเฟะอีกเลย อีกทั้งยังแก้พิษต่างๆของสัตว์มีพิษทั้งหลายด้วย
โดยส่วนตัวผมเองเคยใช้มาแล้วทั้งยาส้มและน้ำมันผึ้งเลยครับ เป็นยาที่ใช้ประโยชน์ได้สาระพัดอย่างและมีจำนวนจำกัดมากๆเลย เพราะการกลั่นยาออกมายาจะค่อยๆออกมาเป็นหยดๆจากการกลั่นตัวของไอระเหยของตัวยา และใช้เวลาการกลั่นนาน คือ 1 ครั้งจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน 3 คืน กว่าจะได้ยาสักโหลย่อมๆโหลนึง จึงถือว่าเป็นยาที่หายากมากในปัจจุบันและมีคนรู้จักน้อยมากเลยครับ เพราะเหลือคนรู้วิธีทำอีกไม่มากนัก "

ที่มา ...ท่านผู้ใดมีความรู้เกี่ยวกับยาส้มของพระอาจารย์ฝั้น - ลานธรรมเสวนา

 

พ่อผมทำอยัึู่ับเห้็็่าจะทำจำหน่ายด้วยวนรค

 

ขออนุญาตดันกระทู้นะคะ เห็นมีคนสนใจอ่านค่ะ

 

ขอบคุณคุณติงติงค่ะ
สามารถหาได้ที่ไหนคะ อยากได้แบบหัวเชื้อค่ะ

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ช่วย PM มาแจ้งเรื่องยาส้มค่ะ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมค่ะ