"ถนนพระราม" ที่หนุมานสร้างคือ เกาะอันดามันและนิโคบาร์จริงรึ?

ไหนใครรู้บ้างว่าถนนที่พระรามสั่งให้หนุมานไปสร้างถนนอยู่ตรงไหน?

พระรามจองถนน







ฝ่ายพระรามคิดจะปราบเหล่ายักษ์ให้เสร็จสิ้นไปโดยเร็ว ชามพูวราช ได้ทูลว่า การที่พระรามจะข้ามไปลงกาด้วยฤทธิ์อำนาจที่เหล่าทหารขันอาสานั้นย่อมทำได้ แต่จะทำให้เสียพระเกียรติยศ ควรจะให้ไพร่พลนำเอาหินไปทิ้งเพื่อสร้างถนนในมหาสมุทร พระรามจึงสั่งให้สุครีพพาไพร่พลไปเร่งสร้างถนน โดยให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน นิลพัทนั้นแค้นหนุมานมาแต่เดิมแล้ว ได้โอกาสล้างแค้นจึงแสดงฤทธิ์ เอาเท้าคีบเขาหิมวันต์ สองมือชูเขาคิรินทร เหาะมาแล้วบอกให้หนุมานคอยรับ นิลพัทจึงทิ้งภูเขาลงมาทั้งสองลูกหวังให้ถูกหนุมาน แต่หนุมานรับไว้ได้ จึงคิดแก้ลำบ้าง โดยไปหักยอดเขา และนำหินก้อนมหึมาผูกตามขน แล้วให้นิลพัทรับบ้าง นิลพัทเห็นจึงขอให้หนุมานโยนมาทีละก้อน หนุมานว่า ทีนิลพัทแกล้งทิ้งมาพร้อมกันหวังให้ตาย แล้วทิ้งหินทั้งหมดลง นิลพัทใช้มือและเท้ารับไว้ได้ หนุมานหาว่านิลพัทสบประมาทตน และได้ท้าวความถึงท้าวชมพูที่มีฤทธิ์มาก ตนยังจับมาได้ นับประสาอะไรกับนิลพัท นิลพัทโกรธท้าหนุมานต่อสู้ดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าเหล่าลิงรบกับยักษ์ ให้พระลักษมณ์ไปดู แล้วจึงพาสุครีพ หนุมาน และนิลพัท เฝ้าพระราม พระรามโกรธ สุครีพจึงทูลแก่พระรามว่า ควรจะแยกทั้งคู่ให้ห่างกัน โดยให้หนุมานอยู่กับพระราม ส่วนนิลพัทให้กลับไปช่วยท้าวชมพูดูแลเมืองขีดขิน ทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละครั้ง ถ้าขาดราชการจะประหารเสีย ฝ่ายพระรามได้สั่งให้หนุมานจองถนนไปกรุงลงกาเสร็จภายในเจ็ดวัน หากไม่เสร็จจะประหารชีวิต

 

อยู่ใน กทม.งัยท่าน

 

ก็ถนนพระราม 1 ถึงพระราม 9 ละมังคะ

 

เออ....น่าจะถูกกกกต้อง. นะคร้าบ

 

ถูกต้อง

 

มันเป็นเรื่องจริงหรอครับ เรื่อง รามเกรียน ไรพวกนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพียงนิยาย นิทาน ไรแบบนี้ซะอีก

 

ถนนที่พระรามสั่งให้หนุมานไปสร้<wbr>างตามท้องเรื่องรามเกียรติ์
ตอน "พระรามจองถนน" ตามที่บรรพชนของเราบันทึกไว้ หา
ดูได้จากแผนที่โบราณ ที่หลงเหลือเมื่อครั้งเสียกรุงฯ<wbr> ดังข้าง
ล่างนี้ ซึ่งนำมาแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมม<wbr>าเปรียบเทียบให้เห็น
จะได้ เดาได้ว่า "ถนนพระราม" ก็คือ "แนวหมู่เกาะอันดามันและ
นิโคบาร์" นั่นเอง

 

เป็นเอามาก................

 

เอาเวลาไปค้นหาประวัติของพุทธศาสนายุคต้นๆนะครับ
รามเกรียน หรือ รามายนะ เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาภายหลัง คาบเกี่ยวช่วงระหว่างเปลี่ยนชื่อศาสนาพราห์มมาเป็นฮินดูในปัจจุบัน

"หลงว่าเป็นตัวเป็นตน แล้วยึดติดอยู่ที่ตัวตนที่สมมติขึ้นมา" เข้าใจหรือยังทีนี้ ??

 

อ่อ...เรื่องของพุทธก็มีเหมือนกัน เพื่อแย่งมวลชนในยุคต่อมาของพระจีน
ได้แต่งเรื่อง นาจา , ไซอิ๋ว , เจ้าแม่กวนอิม ฯล ทำให้เหมือน "ฮินดู"

สมัยนี้ก็มีเพิ่มมาใหม่อีก ทฤษฏีสมคบคิด , มนุษย์ต่างดาว , พลังจักรวาล , UFO

ผ่านมา 2600 ปี ยังบิดเบือนไปขนาดนี้ แล้วจะบิดเบือนไปถึงอีกกี่พันปีก็ไม่รู้ได้..

เพราะงั้นก็ควรศึกษาเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนจะมีคนบ้ามาเขียนแล้วอ้างตำราใหม่ๆอีกเช่นทุกวันนี้ ...นะจ๊ะ

 

`ไม่ใช่ครับ---กรุงลงกา คือประเทศศรีลังกา ถ้าใช้ภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นแนวหินเป็นถนนอยู่ใต้ทะเล
--ฝรั่งถ่ายเป็นคลิปมาในยูทิ้วบ์ ปัจจุบันหาไม่เจอแล้ว และหัวข้อคลิปบอกว่า"ทุกๆสิ่งที่คุณรู้น่ะ มันผิด" Everything that you know is w rong
--พอผมเห็นรูปแทบช็อคเลย จริงหรือนี่ และคนอินเดียจริงเชื่อว่ารามเกียรติ์ คือเรื่องจริงไม่ใช่นิยาย

 

ตำนานหรือนิทานพื้นบ้านบางครั้งก็อาจจะมาจากเค้าโครงเรื่องจริงนะครับ

 

นักประวัติศาสตร์เขาว่า "ถนนพระรามที่ให้หนุมานสร้างไปก<wbr>รุงลงกา" คือ แหลม Rameswaram ทางตอนใต้ของอินเดีย ที่ยื่นไปหาศรีลังกา
แต่จากแผนที่โบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามรูปข้างล่าง ว่า เป็นแนวหินใต้น้ำ และหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์<wbr>ในปัจจุบัน

ทำไมนะ เรื่องนี้ มันช่างมีอะไรที่คล้ายๆ กัน จนทำให้ ลามไปถึงความสับสนว่า
"ชมพูทวีปอยู่ไหนแน่ ลังกาทวีปอยู่ไหนแน่"





แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในภาคกลางของไทย อยุธยา ลพบุรี สระบุรี จะมีตำนานเกี่ยวกับรามเกียรติ์ ที่ภาคใต้ ก็มีหยอดหน่อยนึงที่ "ยะลา" ว่า เป็นแหล่ง "ว่านกากยายักษ์" แห่งเดียวในโลก ตามตำนาน คือหม้อยา ที่จะเอาไปกรุงลงกา ร่วงลงไปครับ

แต่อย่างว่า พิจารณาไป ด้วยใจเบาๆ อย่าเอาเป็นสาระมาก เพราะไม่ได้ทำให้ พาไป "นิพพาน" ได้ เอาพอขำๆ นะครับ

 

คิดแบบวิทยาศาสตร์ ระดับน้ำทะเลในอดีตในบางสมัยไม่สูงเท่าปัจจุบัน

 

ผมไม่ทราบว่า เจ้าของกระทู้ ได้อ่านรามายณะ หรือไม่ หรือเอาแต่ฉบับไทยอย่างเดียวแล้วสรุปผลออกมา

ในฉบับ ของ Ramesh Menon กล่าวว่า ลงกา กับแผนดินภารตะ ห่างกัน 100 โยชน์ จากจุดที สัมพานี ชี้ทางไปกรุงลงกา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลวานรถึงกับท้อเพราะ ไม่สามารถยกทัพลงทะเลได้ จึงถาม ว่าใครสามารถกระโดดได้ไกลที่สุด ทหารวานรอาสา แต่ที่เอ่ยปากว่ากระโดดได้ไกลที่สุดคือ องคต ที่กระโดดได้ถึง 100 โยชน์ ปัญหาคือว่า ไม่มีแรงจะกระโดดกลับ ภาระจึงตก กับหนุมาน ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกระโดดได้ จน ชมพูพาน ต้องเตือนสติ ว่าหนุมานเป็นลูกใคร มีพลังอำนาจแค่ไหน (หนุมานโดนสาปว่าไม่ให้รู้ตัวเองว่า มีพลังขนาดไหน เพราะเคยเป็นลิงเกเรมาก่อนในสมัยเด็กๆ เก่งขนาด พระราหูต้องวิ่งไปฟ้องพระอินทร์ และพระอินทร์ใช้วัชระ เสกสายฟ้าฟาดใส่หนุมาน ตอนเป็นทารก เพราะหนุมานคิดว่าราหูจะมาแย่งผลไม้ของตน ผลไม้ที่ว่าคือดวงอาทิตย์)

จากระยะทางดังกล่าว ก็ลองคำนวนดูว่า มันห่างเท่าของปัจจุบันไหม และอย่าลืม เผื่อบวก เผื่อ ลบ แผ่นดินงอกแผ่นดินหด เข้าไปด้วย

ถ้าเรื่องรามายณะ มีเค้าโครงเรื่องมาจากความจริง ก็ลองหากันสนุกๆล่ะ ตัวผมไม่ได้เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวนั้นจริงหรือเท็จประการใด

เพียงแต่ขอนำเสนอข้อมูลที่แตกต่าง เพียงเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านท่านอื่นๆ ในการพิจารณาเพื่อเชื่อเรื่องใดๆก็ตาม ในโลกยุคข้อมมูลอินเทอร์เนท

 

แน่นอนล่ะครับนิทานจะให้สมบูรณ์ก็ต้องมีเรื่องจริงเข้ามาบ้าง ปนกันไป

 

ที่มาของชื่อทะเลอันดามัน / วินิจ รังผึ้ง<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หลายคนคงชอบชื่ออันไพเราะของ “อันดามัน” ที่ให้ความรู้สึกของท้องทะเลแห่งสีสัน ให้ความรู้สึกอันมีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ แม้นจะเรียกขานกันจนติดปากติดหู แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าชื่ออันดามันนั้นมีที่มาอย่างไร ซึ่งเมื่อสืบเสาะค้นหากันจริงๆ ก็มีข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่า “อันดามัน” นั้นมีต้นรากมาจากคำว่า “หัวละมาน” ในภาษาอินเดียที่หมายถึงหนุมาน ตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์วรรณกรรมยิ่งใหญ่อันเป็นมหากาพย์ของผู้คนใน แถบนี้นี่เอง แต่เอ... แล้วหนุมานจะมาเกี่ยวอะไรกับทะเลอันดามันล่ะ

เมื่อลองมาจับต้นชนปลายกันก็พอจะเกี่ยวข้องกันอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะตอนพระรามจองถนน หรือบางคนก็เรียกตอนหนุมานจองถนน ซึ่งเป็นตอนพระรามจะกรีฑาทัพไปรบกับทศกัณฐ์ที่กรุงลงกา ซึ่งจะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปนั้น ชามพูวราชได้กราบทูลว่าการที่พระรามจะใช้ฤทธิ์อำนาจยกพลข้ามไปกรุงลงกาเลย นั้นย่อมทำได้ แต่ก็จะไม่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรสมพระเกียรติ จึงเสนอให้พระรามสั่งไพรพลจองถนนข้ามมหาสมุทรไปยังกรุงลงกา นัยว่าจะเป็นถนนสายยุทธศาสตร์อย่างที่มักจะสร้างกันทำกันในพื้นที่ชายแดน หรือพื้นที่สู้รบที่ต้องช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบเหมือนที่นิยมทำกัน ในปัจจุบัน

พระรามเห็นด้วยจึงสั่งให้สุครีพเป็นผู้นำพาไพร่พลไปสร้างถนน สุครีพให้นิลพัทควบคุมไพร่พลเมืองชมพู หนุมานควบคุมไพร่พลเมืองขีดขิน ทำการขนหินจากภูเขามาช่วยกันถมทะเล แต่นิลพัทกับหนุมานซึ่งมีฤทธานุภาพด้วยกันทั้งคู่สร้างถนนไปก็เกิดเขม่นกัน ไป และมีการประลองอิทธิฤทธิ์กันไปมา กระทั่งเกิดการต่อสู้กันดังกึกก้อง พระรามได้ยินคิดว่าถูกฝ่ายยักษ์โจมตีจึงให้พระลักษณ์ไปดู เมื่อทราบความจริงจึงทรงกริ้ว เปรียบทั้งสองเหมือนช้างบ้าตกมันเห็นจะทำงานร่วมกันไม่ได้ จึงตรัสสั่งให้นิลพัทไปรั้งเมืองขีดขินทำหน้าที่ส่งเสบียงให้กองทัพเดือนละ ครั้ง หากขาดการส่งจะทำการประหารเสีย และสั่งให้หนุมานทำการจองถนนไปกรุงลงกาให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดวัน ไม่เช่นนั้นก็จะมีโทษถึงประหารชีวิตเช่นกัน

หนุมานจึงตั้งหน้าตั้งตาควบคุมไพร่พลขนหินมาจองถนนกันอย่างสุดฤทธิ์ แต่ไม่ว่าจะสร้างเท่าไหร่ถนนที่ทำไว้ก็ยุบพังทลายหายไปในท้องทะเลเสียทุกที ทั้งที่ไม่ได้มีการทุจริตคอรัปชั่นกรวดหินดินทรายกันสักนิด หนุมานจึงขันอาสาพระรามดำดิ่งลงไปดูใต้ท้องทะเล เห็นไหมครับกองทัพพระรามก็มีหน่วยมนุษย์กบหรือหน่วยจู่โจมทำลายใต้น้ำมา ตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว หนุมานดำลงไปก็พบนางสุพรรณมัจฉา บุตรีของทศกัณฐ์ที่มีแม่เป็นปลากำลังนำพลพรรคปลานานาชนิดช่วยกันขนหินที่ ฝ่ายลิงถมลงมาไปทิ้งเสีย หนุมานโกรธจึงจับนางสุพรรณมัจฉาไว้ และขู่จะทำร้ายเสีย นางสุพรรณมัจฉาจึงเกิดความกลัวร้องขอชีวิตและยอมสารภาพความจริงว่าทศกัณฑ์ เป็นผู้สั่งให้มาปฏิบัติการ

เมื่อสอบสวนไปสอบสวนมาที่สุดหนุมานก็ได้นางสุพรรณมัจฉาเป็นเมีย ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากนางสั่งให้ปลาทั้งหลายช่วยกันขนหินมาคืนตาม เดิม หนุมานจึงทำการจองถนนเสร็จในเจ็ดวันตามที่พระรามสั่ง และยังมีลูกด้วยกันกับนางสุพรรณมัจฉาเกิดเป็นมัจฉานุอีกด้วย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เรื่องราวของหนุมานจองถนนเริ่มจะเกี่ยวข้องกับทะเลอันดามันอยู่นิดๆ แต่ก็ยังไม่เห็นว่าน่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่ กระทั่งเมื่อครั้งไปพิจารณาดูแผนที่ของท้องทะเลอันดามัน อันเป็นทะเลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเบงกอลและเป็นส่วนหนึ่ง ของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเริ่มจากตอนบนบริเวณปากแม่น้ำอิระวดีของพม่าเรื่อยลงมาตามแนวชายฝั่ง ตะวันตกด้ามขวานทองของไทยลงไปยังช่องแคบมะละกาไปสิ้นสุดบริเวณเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย ส่วนด้านตะวันตกซึ่งเป็นขอบอีกด้านหนึ่งของทะเลอันดามันนั้นไม่ใช่แนวชาย ฝั่งของผืนแผ่นดินแต่กลับเป็นแนวยาวของหมู่เกาะกลางมหาสมุทรอินเดียที่ชื่อ ว่าหมู่เกาะอันดามันที่ทอดเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ ลงไปเชื่อมต่อกับแนวของหมู่เกาะนิโคบาร์ ทั้งสองหมู่เกาะอยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย

หากมองจากแผนที่ซึ่งแสดงเป็นภาพสามมิติแล้วจะเห็นว่าแนวของหมู่เกาะ อันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์นั้นเป็นแนวภูเขาที่ทอดเชื่อมต่อจากแนวสันเขา ของผืนแผ่นดินในเขตพม่าลงมากลางมหาสมุทรอินเดียราวกับเป็นแนวถนนที่ธรรมชาติ หรืออาจจะเป็นหนุมานและพลพรรคมาสร้างสรรค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ หมู่เกาะอันดามันหรือหมู่เกาะของหนุมานจึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อทะเล อันดามันที่น่าจะมีความเกี่ยวพันกันและน่าจะมีน้ำหนักอยู่มาก เอาไว้โอกาสหน้า หากเป็นไปได้ผมจะเดินทางไปค้นหาที่มาของชื่อทะเลอันดามันกันให้ถึงถิ่นหมู่ เกาะอันดามันกันสักครั้ง</td></tr></tbody></table>
Travel - Manager Online - ที่มาของชื่อทะเลอันดามัน / วินิจ รังผึ้ง