ใครมีวิธีแก้ พูดลามก หรือแก้ชอบมองส่วนหน้าอกของผู้หญิงบาง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย redexp14, 15 กันยายน 2012.

  1. redexp14

    redexp14 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +16
    ใครมีวิธีแก้ พูดลามก พูดว่าคนโน่นสวย คนนี้ไม่สวย ทั้งๆที่เค้าไม่ใช่แฟนเราแท้ๆ หรือ แก้ชอบมองส่วนหน้าอกของผู้หญิงบาง

    มันเป็นอะไรก็ไม่รู้น่ะครับ เหมือนมันบังคับตัวเองไม่ได้น่ะครับ บังคับ ให้ตัวเองหยุดพูดก็ไม่ได้ อยู่ๆก็ด่าในใจ อยู่ๆก็คิดเรื่องไม่ดี


    ใครมีคำตอบช่วยเราทีเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2012
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  3. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    นั้นแหล่ะส่วนลึกของจิตใจของผู้ชาย วิธีแก้ฝึกสติพิจารณาธรรม(อสุภะเยอๆะ)
     
  4. Pisitchai001

    Pisitchai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2012
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +362
    อสุภะกรรมฐานเยอะๆนะครับ
    พิจารณา ความดับไปของขันธ์ เหลือแต่ซาก
     
  5. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    คิดว่าที่เห็นนั้นเพราะ มีหนังหุ้มอยู่ และถูกปรุงแต่ง ถ้าเอาหนังที่หุ้มออกแล้วจะเป็นอย่างไรนั้นท่านยคงเข้าใจได้เองแล้วล่ะ
     
  6. namokrub

    namokrub Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +41
    เคยเป็นเช่นกันช่วงเพลอเวลาจิตตกครับ
    พูดลามก ฝึกสติ ตามลมหายใจไว้เยอะๆคับ อย่าให้จิตว่าง
    คนนู้นสวยคนนี้ไม่สวย ตามท่านๆด้านบนครับ อสุภะ
    ส่วนเรื่องมองหน้าอกผู้หญิง ถ้ามองแล้วหยุดมองอย่างอื่นมองทางต่อไม่เป็นไร เป็นธรรมดามนุษย์
    เหมือนกับที่เรามักจะมองจุดดำบนกระดาษขาว (คงมีไม่กี่คนนะครับที่มองแต่กระดาษขาวๆโดยไม่สนใจจุดดำเลย) แต่กรณีมองหน้าอกแล้วอยากจะมองเรื่อย อยากจะสแกนดูด้านในเสื้อผ้า อันนี้ปัญหาครับ
    วิธีแก้ก็คงจะอสุภะเป็นอันดับต้น หรือศึกษาธรรมให้ลึกขึ้นอีกนิดหน่อย อาจะใช้วิธีคิดว่า
    เราก็เคยเป็นผู้หญิง มีรูปร่างทุกอย่าง อย่างเขาก็เคยมาแล้ว สวยกว่าเขาก็เคยมาแล้ว
    การเกิดมาชาติๆหนึ่ง ได้ร่างกายแตกต่างกัน เปรียบเสมอวันๆที่เปลี่ยนเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ ก็เท่านั้นเอง
    จริงๆคงมีอีกหลายอย่างที่จะแก้ได้นะครับ ผมแค่ยกตัวอย่างที่ผมมักใช้บ่อยๆก็ประมาณนี้นะครับ
    หวังว่าจะไม่งงนะครับ จากประสบการ์ณของคนที่จริตคล้ายกันครับ
    เจริญในธรรมครับ ขออนุโมทนา
     
  7. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เจริญสติให้ละเอียด จะเห็นทันตั้งแต่ความคิดแว่บเข้ามา ว่าอยากมอง แล้วจะหยุดได้ที่ตรงนั้นเลยครับ
     
  8. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ในสมัยพุทธกาล ก็มีพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งได้ตรัสถามปัญหาทำนองนี้กับพระอรหันต์เถระรูปหนึ่ง เหมือนกัน

    ---------------------------------------------------

    พระเจ้าอุเทน "ท่านภารทวาชะผู้เจริญ เหตุ ปัจจัยอะไรหนอแล เป็นเครื่องให้ภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ผู้ยังเป็นหนุ่มแรกรุ่น มีผมดำสนิท เป็นหนุ่มแน่น อยู่ในปฐมวัย ยังไม่หมดความระเริงในกามทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิต และปฏิบัติอยู่ได้นาน?"

    พระบิณโฑลภารทวาช "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคผู้รู้ ผู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสไว้ดังนี้ว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอ ทั้งหลายจงมาตั้งจิตว่าเป็นมารดา ในสตรีปูนมารดา
    เธอทั้งหลายจงตั้งจิตว่าเป็น พี่สาวน้องสาว ในสตรีปูนพี่สาวน้องสาว
    เธอทั้งหลายจงตั้งจิตว่าเป็นธิดา ในสตรี ปูนธิดา

    ขอถวายพระพร ข้อนี้แล เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ภิกษุเหล่านี้ผู้ยังเป็นหนุ่ม แรกรุ่น มีผมดำสนิท เป็นหนุ่มแน่น อยู่ในปฐมวัย ผู้ยังไม่หมดความระเริงใน กามทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิต และปฏิบัติอยู่ได้ นาน"

    พระเจ้าอุเทน "ท่านภารทวาชะผู้เจริญ จิตเป็นธรรมชาติโลเลบางคราว ธรรมคือ ความโลภทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้นในเหล่าสตรีปูนมารดาก็มี ปูนพี่สาว น้องสาวก็มี ปูนธิดาก็มี มีไหมหนอ ท่านภารทวาชะ ข้ออื่นที่เป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้ภิกษุเหล่านี้ผู้ยังเป็นหนุ่ม แรกรุ่น มีผมดำสนิท เป็นหนุ่มแน่น อยู่ในปฐมวัย ยังไม่หมดความระเริงในกามทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์จน ตลอดชีวิตและปฏิบัติอยู่ได้นาน"

    พระบิณโฑลภารทวาช "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคผู้รู้ ผู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัม
    พุทธเจ้า พระองค์ตรัสไว้ดังนี้ว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมาพิจารณากายนี้แหละ เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นไป
    เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงมา อันมีหนังหุ้มอยู่โดยรอบ เต็มด้วยของไม่สะอาดมีประการต่างๆ ว่า
    มีอยู่ในกายนี้ คือ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ น้ำมูตร ดังนี้ ขอ ถวายพระพร แม้ข้อนี้ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ภิกษุเหล่านี้ผู้ยังเป็นหนุ่ม แรกรุ่น มีผมดำสนิท เป็นหนุ่มแน่น อยู่ในปฐมวัย ผู้ยังไม่หมดความระเริงในกาม ทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิตและปฏิบัติอยู่ได้นาน"


    พระเจ้าอุเทน "... ท่านภารทวาชะผู้เจริญ บางคราวเมื่อบุคคล ตั้งใจอยู่ว่า เราจักทำไว้ในใจโดยความเป็นของไม่งาม แต่อารมณ์ย่อมมาโดย ความเป็นของงามก็มี มีไหมหนอแล ท่านภารทวาชะผู้เจริญ ข้ออื่นที่เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้ภิกษุเหล่านี้ ผู้ยังเป็นหนุ่ม แรกรุ่น มีผมดำสนิท เป็นหนุ่มแน่น อยู่ในปฐมวัย ผู้ยังไม่หมดความระเริงในกามทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์ บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิตและปฏิบัติอยู่ได้นาน"

    พระบิณโฑลภารทวาช
    . "ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคผู้รู้ ผู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ตรัสไว้ดังนี้ว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมาเถิดเธอทั้งหลายจงเป็น
    ผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลายอยู่เถิด

    เธอทั้งหลาย เห็นรูปด้วยตาแล้ว จงอย่าเป็นผู้ถือเอาโดยนิมิต(อย่ายึดถือลักษณะที่ปรากฎว่างาม)

    อย่าเป็นผู้ถือเอาโดยอนุพยัญชนะ(อย่าใส่ใจรายละเอียด เช่น ผมสวย ผิวสวย นมโต เป็นต้น)

    จงปฏิบัติเพื่อสำรวมจักขุนทรีย์ที่เมื่อไม่สำรวมแล้ว เป็นเหตุให้อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌา(ความเพ่งด้วยความโลภ)และโทมนัส(ความโศก คับแค้น เร่าร้อน)ครอบงำได้

    จงรักษาจักขุนทรีย์ จงถึงความสำรวมใน จักขุนทรีย์

    เธอทั้งหลายฟังเสียงด้วยหูแล้ว... สูดกลิ่นด้วยจมูกแล้ว ... ลิ้มรส ด้วยลิ้นแล้ว... ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกายแล้ว... รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว อย่าได้เป็นผู้ถือเอาโดยนิมิต อย่าได้เป็นผู้ถือเอาโดยอนุพยัญชนะ

    จงปฏิบัติเพื่อ ความสำรวมมนินทรีย์ที่เมื่อไม่สำรวมแล้ว เป็นเหตุให้อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสครอบงำได้ จงรักษามนินทรีย์ จงถึงความสำรวมในมนินทรีย์ ขอถวายพระพร แม้ข้อนี้ ก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ภิกษุเหล่านี้ผู้ยังเป็นหนุ่ม แรกรุ่น มีผมดำสนิท เป็นหนุ่มแน่น อยู่ในปฐมวัย ผู้ยังไม่หมดความระเริงในกาม ทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิตและปฏิบัติอยู่ได้นาน"


    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2012
  9. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    ฝึกสติให้เยอะๆครับ

    สติมาปัญญาเกิด

    จะพูดอะไรก็มีสติ

    จะคิดอะไรก็มีสติ

    รับลองไม่พูดชั่ว ไม่คิดชั่วแน่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _(2)_1~1.JPG
      _(2)_1~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      165 KB
      เปิดดู:
      512
  10. tuanong

    tuanong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +559
    มาจากราคะ ครับ
    เพราะยึดมั่นถือมั่นในรูปกายนี้ทั้งของตัวของคนอื่น

    ลองคิดว่ากำลังมองศพหรือเน่าสิ

    อย่างกระทู้ข้างบนๆว่า เจริญสติแบบอสุภะไว้เพราะเรายึดมั่นถือมั่นในร่างกายที่สวยๆ ลองไปดูร่างกายที่มันเน่าๆดูสิ เช่น ตามงานวันวิทยาศาสตร์ที่เขาแสดงการผ่าร่างอาจารย์ใหญ่

    คิดว่าหากเราได้เขามาครองวันนี้ต่อไปภายหน้าเขาคงจะเน่าๆแบบ ที่เรากำลังดูอยู่
    และไม่เฉพาะผู้หญิงแต่ สัตว์ คน เป็นด้วยกันทั้งสิ้น
     
  11. redexp14

    redexp14 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +16
    palungjit.org/f10/%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89-%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87-359234.html
     
  12. redexp14

    redexp14 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +16
  13. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    นมสาวๆเขาก่อตั้งขึ้นมาเอาไว้เลี้ยงลูก
    ก็ที่เราเคยดูดนมแม่เรานั่นแหละครับ อย่าไปคิดลามกให้ตัณหาอาศัยเลย
     
  14. redexp14

    redexp14 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +16
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=6mDLOEVP_18]"ธรรมหลวงตา"...018_ วิธีตัดราคะ 14 ก.ค 46 - YouTube[/ame]
     
  15. redexp14

    redexp14 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +16
    ใครมีวิธีแก้ ช่วยทีครับ
     
  16. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อ้าว ก็ทั้งหมดที่มีคนแนะนำไว้นี่แหละ ใช้ได้ทุกวิธีเลย...
    ลองทำดูก่อน ไม่ได้ผลแล้วค่อยถามหาวิธีอื่นดีไหม?
     
  17. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    อยากเป็นเกย์เหรอครับ[​IMG]
     
  18. jeenus

    jeenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,513
    ค่าพลัง:
    +3,576
    สติ.....ตัวเดียวจบ....
     
  19. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เวลาอยากดูอยากเห็นมันอยากที่ไหนละครับ มันอยากที่จิตตรงหน้าอกด้านซ้ายของคุณใช่ไหมครับมันเป็นสภาวะทุกข์ที่เกิดขึ้นมาฉะนั้นเวลาคุณนั้นจะนั่ง จะเดิน จะขี้จะเยี่ยวมันก็ไม่เกี่ยวกับความเป็นรูปทั้งปวง ในขันธ์5 แก้ที่ไหนก็ได้ ที่รูปก็ได้เพราะถ้าเข้าใจรูปจริงๆมันไม่มีตัวตนบุคคลเราเขาอยู่แล้ว ที่เวทนาก็ได้อยากดูก็ดูไปไม่ต้องพอใจไม่พอใจมันซิครับสัญญาก็ได้เมื่อไม่คิดมันก็ไม่มีตัวตนอยู่แล้ว สังขารก็ได้เมื่อรู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่ปรุงมันเพิ่มเติมมันก็ไม่มีอะไรหรือที่วิญญานเมื่อไม่รู้มันก็ไม่ทุกข์อันนี้แล้วแต่คุณแต่บังเอิญว่า อวิชชาของคุณมันเกิดขึ้นมาแล้วจากการสะสมของตัวคุณเองโดยการกระทำซ้ำๆจนเกิดเป็นความพอใจจะสมไว้ที่จิตเมื่อโดนกระทบกิเลสมันก็ปรุงขึ้นมาว่าพอใจว่าชอบมันสำหรับคุณเอาแค่2ข้อนี้ก็ได้ เห็นแล้วก็แค่เห็นไม่ต้องไปพอใจไม่พอใจมัน ความสวยมันอยู่ที่ไหนมันมีเหรอ ทำไมต้องคิดละในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นแค่ความคิดอยู่แล้วมันเคยมีตัวตนจริงๆเหรอเอาแค่นี้ละครับจนมันเชื่อว่าเออว่ะทุกอย่างในโลกมันไม่มีมันหลอกลวงมันเป็นแค่ความคิดปรุงแต่งที่กูสร้างขึ้นมาเองคนที่โง่ที่สุดก็กูคนที่เลวที่สุดก็กูนี่ละทุกอย่างมันไม่เคยเป็นอะไรเลยมีแต่กูนี่แหละเอาความเป็นไปใส่มันไม่ต้องโทษใครโทษตัวเองนี่ละพอรู้มากขึ้นก็ช่วยล้างความสกปรกเลอะเทอะที่คุณสะสมไว้ที่จิตด้วย สอนจิตเหมือนที่คุณสอนตัวเองละครับใช้เวลาหน่อยมันไม่ยากหรอก
    เข้าใจก็อนุโมทนาละกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...