งัดพระที่บ้านไม่รู้ที่ไม่รู้วัดไม่รู้นิยมหรือไม่นิยม...มาแจมกัน...เผื่อ..มีผู้รู้...

ขอบพระคุณมากๆครับพี่ศนิวาร ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมบ้างซะแล้ว ใครมีความเห็นเพิ่มเติมบ้างเอ่ย

 

พี่ชัยหายไปคะ พี่ชัยหายไป ไม่รู้พี่ชัยไปไหน หลังจากแดนซ์หน้าฮ้างหมอลำ กะบอกว่าสิไปยิงจิ้งจก หลังจากนั้น ก็หายไปเลยคะ :'(

 

ช่วยกันเรียกพี่ชัยของเราหน่อยยยย 555

 

ต่อครับองค์เล็กเท่ากับเหรียญบาท น่าจะเป็นพระกรุครับ

 

ทรงนี้ผิวนี้..น่าจะ.ไปทาง..วัด ดักคะนน..ค่อนข้างชัวร์..นะแชมป์..ลองพิมพ์หาใน..อากู๋..ดู..สมเด็จพิมพ์เจ็ดชั้น.วัดดักคะนน...เจอแล้วส่งข่าวด้วยว่าพิมพ์เหมือนผิวเหมือนมั้ยนะ....

 

แว่วๆใครนินทาผมวะ......5555555..เดี๋ยวปั๊ด..."ไซร้..ซอกคอซะ.....

 

ใครนินทาพี่ชัยบอกผมมาพี่ 555

 

พระปิลันทน์ครับพี่ชัย พี่ชัยดูแล้วเป็นไงมั่งครับ

 

ปิลันท์พิมพ์ทรงผมไม่เคยจำนะครับ..สมัยก่อนชอบเล่น..ที่มีไขขึ้นที่ผิวอะนะ..ประมาณชอบดู.ที่ไขนะท่านสุรสิทธิ์..เข้าหาจารย์ต๋อยครับ..ท่าน..แม่น..เหมือน.จับวาง..เลยเชียวแหละ.....ขานี้...

 

ขอบพระคุณมากครับพี่ชัย

 

ยังไม่ค่อยเหมือนสะทีเดียวอะลุงชัย แชมป์ถ่ายรูปมาไม่ค่อยชัดด้วยเลยดูยาก
เด่วไว้ถ่ายใหม่ 555+ ป่านนี้ลุงจะนอนยังเนี้ยย
แต่ว่าแชมป์ลองเทียบรูปจาก Link
:พระสมเด็จหลวงปู่อยู่ วัดดักคะนน ชัยนาท หนึ่งในพระสมเด็จที่น่าบูชาที่สุด - ร้าน บารมีหลวงพ่อโม | Taradpra.com

:http://www.antigpra.com/shop/pianoe/?prdid=3006&cateid=0

แล้วก็

พระเนื้อผงก่อนปี ๒๕๐๐ : สมเด็จ 7 ชั้น กรุวัดดักคะนน ชัยนาท

มีจุดไม่เหมือนกันอยู่ประมาณ2จุดอาลุง

 

ลองพลิกไปดูหน้า4..ที่ผมลงอะนะแชมป์...หาข้อมูลดู..แต่คราบแบบนี้.ไม่รอดกรุวัดดักคะนนหรอก..ผมว่านะ

 

แล้วลุงไม่เข้าไปเฝ้าร้านให้ผมมั่งอ่ะลุง มีคนเค้าว่าร้านจะเจ๊งแล้วเนี่ยดูดิ้ ช่วยกันนั่งตบยุงมั่งจิลุง 55+

 

ห้าห้า ลุงชัยถ้าเป็นกรุวัดดักคะนนจริงๆก็ดีจิลุง
แอบไปอ่านมา ประวัติน่าสนใจไม่น้อยเลยยยลุง แต่กลัวว่าจะไปเป็นเหมือน
กรุขุนอินประมูลหรือไม่ก็กรุวังหน้าอะไรแบบนี้อาจิลุง เด่วค้นหาข้อมูลก่อน คิคิ

พระกรุวัดดักคะนน

พระกรุวัดดักคะนนพระสมเด็จ กรุแตกเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2530 โดยสร้างจากผงวิเศษของสมเด็จโต หลวงปู่อยู่เอาใส่เรือพายมาวัดปากคลองมะขามเฒ่า ถวายให้หลวงปู่ศุข ปลุกเสกเป็นกรณีพิเศษ พระชุดนี้สร้างโดยหลวงพ่ออยู่ แห่งวัดดักคะนน พระผู้มีบารมีธรรมสูงส่งอีกทั้งเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์องค์หนึ่ง นอกจากนี้ท่านยังเป็นสหายสนิทกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระอาจารย์ทั้งสององค์ชาวบ้านที่ชัยนาท และจังหวัดใกล้เคียงต่างให้ความเคารพนับถือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หลวงพ่อทั้งสองต่างเดินทางไปมาหาสู่เพื่อแลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกัน เป็นประจำจนเรียกว่ากินกันไม่ลง พระชุดนี้จึงไม่แปลกที่หลวงปู่ศุข จะมอบมวลสารชั้นยอดและมีส่วนร่วมในการจัดสร้าง รวมถึงการปลุกเศกด้วย พระสมเด็จที่สร้างมีทั้งหมด 5 พิมพ์ เสร็จแล้วได้นำบรรุไว้ใต้ฐานพระประธานโบสถ์ จนกาลเวลาล่วงเลยมา พระได้แตกกรุออกมาเพราะพระประธานชำรุดเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ กรรมการวัดจึงมีมติที่จะรื้อและสร้างใหม่ จึงพบพระสมเด็จไหลทะลักออกมาจากใต้ฐานพระประธาน หลวงพ่อผลเจ้าอาวาสในขณะนั้นจึงนำมาให้ทำบุญและแจกจ่ายวัดต่าง ๆ ในละแวกนั้นเพื่อหาทุนสร้างโบสถ์ มีผู้ไม่ทราบข้อมูลเข้าใจผิดว่า เป็นพระสมเด็จของหลวงพ่อผล ภายหลังผู้ใช้ไปประสบอภินิหารหลายอย่าง จนชาวบ้านขนานนามว่า มีพระสมเด็จ "อยู่ - ศุข" จะอยู่รอด ปลอดภัยมีความสุข สมเด็จกรุวัดดักคะนนนี้คนพื้นที่เล่าว่าเป็นสมเด็จที่หลวงปู่อยู่วัดดักคะนน ชัยนาทสร้างบรรจุไว้ ซึ่งหลวงปู่อยู่ท่านนี้เป็นพระร่วมสมัยกับหลวงปู่ศุข ปากคลอง หลวงพ่อคงบางกะพี้ ท่านมีอายุพรรษากาลอ่อนกว่าทั้ง 2 องค์โดยหลวงพ่อคงถือว่ามีความอาวุโสสุด ซึ่งทั้ง 3 ท่านนิยมไปมาหาสู่กันเสมอจะเพื่อการใดไม่ทราบชัดคนแถบชัยนาทเรียกกันว่า คง-อยู่-ศุข 3 คณาจารณ์แห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน หลวงปู่อยู่ก่อนหน้าที่จะมาปกครองวัดดักคะนนท่านไปเรียนพระปริยัติธรรมที่ วัดบางขุนพรหม และได้รับมอบผงที่สมเด็จโตลบไว้และชิ้นส่วนสมเด็จที่ชำรุดจากเจ้าอาวาสวัด บางขุนพรหมในสมัยนั้นมามากพอสมควร ท่านจึงนำมาจัดสร้างสมเด็จของท่าน หลวงปู่อยู่ท่านนี้จากปากคำของคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบมาว่าท่านเก่งถึงขนาดที่ ใช้มือจับเหล็กสลักโบสถ์ที่ยังมีไฟแดงๆอยู่แทนครีมคีบและตอกด้วยมือปล่าวๆ แทนฆ้อนได้ สำหรับประสบการณ์ถือว่าแปลกกว่าสมเด็จโดยทั่วๆไปเพราะนอกจากจะมีพุทธคุณใน ด้านเมตตามหานิยมโชคลาภตามมาตรฐานตำรับสมเด็จแล้วยังมีพุทธคุณในด้านบู้ค่อน ข้างหนาหู เรื่องล่าสุดที่ได้รับฟังมาเหตุเกิดที่ จ.นครสวรรค์ ผู้ร้ายถูกตำรวจล้อมยิงในระยะใกล้ๆแบบวงรำวงเลยว่างั้น แต่ปรากฏว่ายิงไม่ออกซักกระบอกเลยในคอเจ้ากรรมมีสมเด็จดักคะนนองค์เดียว จึงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกระพันชาตรีอนึ่งพระชุดนี้จะปรากฏคราบกรุให้เห็นโดยทั่วไป ครับ

ประวัติวัดดักคะนน
การสร้างวัด เดิมนั้นเป็นวัดสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เรียก"วัดชีตักคะนน" คำว่า"คะนน" หมายถึง หม้อน้ำที่ใช้ตักน้ำใส่ตุ่ม เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า ข้าวยากหมากแพง มีการต้อนเชลยศึก ผู้คนทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดเพื่อหลบหนีภัยสงคราม และ อพยพไปหาที่ทำกินแหล่งใหม่ วัดนี้ได้กลายเป็นสภาพวัดร้าง ประมาณปี พ.ศ.2400 วัดชีดักคะนนจึงได้รับการบูรณะให้คืนสภาพเป็นวัดอีกครั้ง โดยมีหลวงพ่ออยู่ เป็นผู้บุกเบิกร่วมกับชาวบ้านและได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก พร้อมทั้งได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น "วัดดงคะนน" จากนั้นมาจนถึงปี พ.ศ.2483 จากนั้นได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "วัดดักคะนน" จนถึงปัจจุบัน และได้ทำการผูกพัทธสีมาในปี พ.ศ.2505 สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานในอุโบสถสมัยอู่ทองและเจดีย์(บริเวณกลางลานวัด)เป็นของเก่าอยู่คู่กับวัด

วัดดักคะนน ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านดักคะนน หมู่ที่ 3 ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท บนเนื้อที่ 85 ไร่ 2 งาน 30 ตารางวา เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย

 

กระทู้นี้มันส์นะพี่ อิอิ

 

อ่านแล้วฮา แต่ดูรูปพระแล้วมึน ครับ

 

ขอนำมาถาม 2 องค์ครับ

 

คำเตือน...อย่าอ่านอย่างเดียว..หาถั่ว..โก๋แก่..เคี๊ยวตามไปด้วย...แล้วท่านจารู้ว่า..มัม..มันส์..ทุกเม็ด..เจงๆ...5555

 

ระดับท่านทิพย์...เอามาลงถาม...แล้วผมจาถามใครต่อละคร๊าบ....แสดงว่า..ฝนตกทั้งวันไปไหนไม่ได้หละซิ....เหงา.ก็ไม่บอก..จาส่ง.เด็ก..ไปช่วย..ดูพระที่บ้านให้...รับรอง..ตำหนิใฝ.ฝ้า..ขี้แมงวัน..ตรงไหน..น้องมันบอกรุ่นได้ถูกหมด...ของผม..มันดูแล้วมันบอกอย่างเดียวว่า...ของพี่มัน.รุ่นหญ่าย..55555

 

5555..ดู่ดู๊ดู.ดูมันทำ...ทำไมถึงทำกับฉันได้....อุตส่าห์แอบไปเที่ยวเธค...กะไปหาเด็กรุ่นๆ...พอเปิดไฟหน้าคุ้นๆ..นี่มัน..ยาย.ยา..นี่หว่า..ดู่ดู๊ดู..ดูมันทำ..ทำไมถึงทำกับฉันได้....หายเมาเลยกู...55555