ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ผมก็เชื่อเช่นนั้นครับ เพียงแต่ไม่ประมาทเท่านั้น

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=EvJx2pNNW1E]3MIN News Sept 22, 2012 - YouTube[/ame]

 

แผ่นดินไหว : Oaxaca, Mexico ขนาด 5.4 ริกเตอร์ ลึก 35.70 กม. เมื่อ 22 กันยายน 2012 19:30:01 PM ตามเวลาท้องถิ่นไทย

 

A suspected meteorite shower over the UK prompted a flurry of 999 calls from worried members of the public across Scotland.

22 September 2012 Last updated at 12:52 GMT


Craig Usher said something caught his eye as he took pictures at Loch Thom in Greenock
BBC News - 'Meteor' sightings across Scotland prompt 999 calls

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=rxavae7Ys-Q]Meteorite Strike caught on CCTV - UK - 21/09/2012 - YouTube[/ame]

 

น่าน้อยใจจัง

ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาว บ้านข้อย เหลือน้อยกว่าเพื่อนๆ จนทางเขื่อนออกมาประกาศเตือนเกษตรกรช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด อย่าเพิ่งริเริ่มโครงการเกษตรที่ต้องใช้น้ำจากเขื่อนลำปาว

เมื่อวานไปดูงานประเพณีแข่งเรือยาวที่อำเภอกมลาไสย ปกติวันแข่งเรือ ทางเขื่อนจะปล่อยน้ำออกมาเต็มลำน้ำปาว สวยงามมาก แต่ลำน้ำเมื่อวานลดต่ำลงจากเดิมเกินครึ่งแน่ะ แต่ดีหน่อยที่มีฝนตกลงมา ช่วยลดกระแสร้อนได้บ้าง

 

เห็นใจชาวกาฬสินธุ์ครับ เขื่อนน้ำยังอยู่ในเกณฑ์น้อยอยู่ แต่อาจจะมีฝนตกเพิ่มให้นะครับ

กาฬสินธุ์ 22 ก.ย.-ที่บริเวณริมตลิ่งลำน้ำปาว ข้างที่ว่าการอำเภอกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายยงยุทธ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดงานแข่งขันเรือยาวประเพณี ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2555 โดยมีประชาชนกว่า 1 หมื่นคน เข้าร่วมชมและเชียร์จนเต็มริมตลิ่งทั้งสองฝั่งลำน้ำปาว ซึ่งการแข่งขันเรือยาวประเพณีปีนี้ จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี โดยมีการสร้างอัฒจรรย์สำหรับผู้ชมและเชียร์สองฝั่งลำน้ำปาว มีเรือยาวเข้าร่วมการแข่งขันใน 5 ประเภท ได้แก่ เรือเล็กไม่เกิน 10 ฝีพาย เรือยาวท้องถิ่น เรือโบราณไม่เกิน 40 ฝีพาย เรือยาวทั่วไปไม่เกิน 40 ฝีพาย และเรือยาวขนาดใหญ่ไม่เกิน 55 ฝีพาย.-สำนักข่าวไทย

นำคลิปแข่งเรือยาวที่อำเภอกมลาไสย มาให้ชมกันครับ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=tWdC0jsuwwM]แข่งเรือ กมลาไสย ชิงที่ ๓ กลางทั่วไป - YouTube[/ame]

 

เสมือนกับมีชีวิตเลยนะครับพายุลูกนี้....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

น้อง Sunny430 พี่ยังเป็นกำลังใจให้อยู่นะครับ !

 

ภาพจำลองคอมพิวเตอร์ เส้นทางพายุไต้ฝุ่น “เจอลาวัต” (ลาวิน) วันที่ 23 ก.ย. เวลา 15.00 (ญี่ปุ่น) หรือ 13.00 (ไทย) ของ Weather Underground ภายใต้ NOAA




ถ้าเราเชื่อตามภาพจำลองคอมพิวเตอร์นี้ จะทำให้เราเกิดความประมาท เส้นที่ลากต่อเชื่อมแต่ละจุดในเส้นทาง มาจากการคาดหมายการเดินทางของไต้ฝุ่นในเวลา 12 ช.ม. จากข้อมูลดิบและการสังเคราะห์ต่างๆ ทำให้ทิศทางการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นในปัจจุบันคงยากที่จะทำนาย เพราะหนึ่งบวกหนึ่งอาจจะไม่เป็นสองแล้ว ในสภาวะการแปรปรวนของโลกที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งศักยภาพของมนุษย์

ภาพจำลองนี้สร้างขึ้นได้อย่างไร ข้อมูลมาจากไหน ก็ลองอ่านดูจากTyphoon Jelawat : Computer Model Hurricane Forecasts | Weather Underground

 

ฝนตกหนักน้ำท่วมภาคเหนืออินเดียอีกแล้ว

ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันทางภาคเหนือของอินเดีย เมืองสิกขิม แคว้นอัสสัม ตาย 24

ข่าว CNN-IBN

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=KoYmeieUlpk]RAW FOOTAGE : Flood In Sikkim, India - YouTube[/ame]

 

คุณsunny430ผมติิดตามกระทู้นี้เพราะคุณsunnyได้ให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาดีเป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริงๆแล้วผมก็มานั้งเฝ้าอ่านกระทู้นี้ทุกวันถึงแม้ว่าคุณsunnyจะไม่ค่อยว่างช่วงหลังๆก็ตามจะขอติดตามต่อไปครับ.

 

หิมะถล่มภูเขาสูงอันดับ 8 ของโลกในเนปาล สังเวยอย่างน้อย 9 ศพ สูญหายอีก 4
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2555 19:06 น.


เทือกเขามานัสลู

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เกิดเหตุหิมะถล่มบริเวณเทือกเขามานัสลู เทือกเขาซึ่งมีความสูงเป็นลำดับที่ 8 ของโลก ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเนปาลในวันนี้ (23) เป็นเหตุให้มีนักปีนเขาเสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และสูญหายยังไม่ทราบชะตากรรมอีกอย่างน้อย 4 ราย ถือเป็นการเกิดโศกนาฏกรรมรับการเริ่มต้นของฤดูปีนเขาสูงประจำปีในเนปาล ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน เรื่อยไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

ข้อมูลของตำรวจในพื้นที่ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบร่างของนักปีนเขาชาวเยอรมัน และร่างของไกด์นำทางชาวเนปาลอีก 1 รายจากใต้กองหิมะที่ถล่มลงมาจากยอดเขามานัสลูที่มีความสูงทั้งสิ้น 26,781 ฟุต หรือราว 8,163 เมตร ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 100 กิโลเมตร ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 7 รายนั้นยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า เป็นใคร และมาจากประเทศใด

รายงานข่าวระบุว่า เหตุหิมะถล่มครั้งนี้เกิดขึ้นที่ระดับความสูงราว22,950 ฟุต หรือ7,000 เมตร ทำให้ภารกิจในการค้นหาและกู้ภัยทำได้อย่างยากลำบาก ขณะที่การค้นหาโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ก็ต้องเจอกับอุปสรรคที่สำคัญ คือ เมฆและหมอกที่หนาทึบ รวมถึงกระแสลมที่พัดแรง

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 1995 เคยเกิดเหตุหิมะถล่มครั้งใหญ่ในพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือของเนปาล เป็นเหตุให้มีผู้ถูกฝังทั้งเป็นอย่างน้อย 42 ราย รวมถึงชาวต่างชาติ 17 คน



แผ่นดินไหวที่เนปาลวันนี้ บริเวณใกล้เคียงกัน

 

เตรียมพบกับค่าอาหารแพงภายในหนึ่งปี เนื่องจากความแห้งแล้งในสหรัฐ

World on track for record food prices 'within a year' due to US drought

Brace yourself for some painful "agflation". That is the shorthand for agricultural commodity inflation, otherwise known as rising food prices.



อ่านรายละเอียดของข่าวที่
World on track for record food prices 'within a year' due to US drought - Telegraph

บ้านเราอาจจะพบทั้งภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง ราคาอาหารจะเป็นอย่างไร

 

ภัยจากการตกงานเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"โนมูระ"ปลดพนักงานแผนกวาณิชนกิจในยุโรปหวังลดต้นทุน ขณะตลาดผันผวน
วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2555 เวลา 17:47:52 น.
"โนมูระ"ปลดพนักงานแผนกวาณิชนกิจในยุโรปหวังลดต้นทุน ขณะตลาดผันผวน

ดอยซ์แบงก์ปลดพนักงานนับพันคน
จันทร์ที่ 24 กันยายน 2555 15:06:19 น.
ดอยซ์แบงก์ปลดพนักงานนับพันคน

ข่าวก่อนหน้านั้นภายในสองอาทิตย์ที่ผ่านมา

อเมริกัน แอร์ไลน์สประกาศอาจมีการปลดพนักงานมากกว่า 4,400 ตำแหน่งในเร็วๆ นี้

โซนี่เตรียมปลดพนักงาน 10,000 อัตรา

“ชาร์ป” ร่อแร่! จ่อปลดพนักงาน 5,000 ตำแหน่ง มี.ค.ปีหน้า

ชาร์ป พิจารณาลอยแพพนักงานอีกกว่า 3,000 คนในจีนและเม็กซิโก

โนเกียปลดพนักงาน 1,800 คน แม้กำไรเฉียด 22,000 ล้าน

 

นั่นซิ ไม่เจอพี่ Sun ฯ เลย หายไปไหนหนออ ... แฟนๆ คิดถึงนะคะ....

 

พายุในทะเลฟิลิปินส์ ปัจจุบัน ( 24 ก.ย.2555) มี 2 ลูก


พายุในทะเลฟิลิปินส์ ปัจจุบัน ( 24 ก.ย.2555) มี 2 ลูก
1. พายุไต้ฝ่น "เจอลาวัต" หรือ "ลาวิน" (Jerawat or Lawin) ศูนย์กลางอยู่ที่ 14.6N 128.1E อยู่ทางทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ (ห่างจากเมือง Virac , Catanduanes ประมาณ 375 ก.ม. เมื่อ 15.00 น. ตามเว็บไซท์ของ PAGASA)
รายละเอียดของไต้ฝุ่นตาม JMA
เคลื่อนที่ทางทิศเหนืออย่างช้าๆ มีความกดอากาศ 910 มิลลิบาร์ (เฮคโตปาสคาล) ความเร็วลมใกล้จุดศูนย์กลาง 105 น๊อต (194 ก.ม./ช.ม.) ลมกรรโชกแรง 150 น๊อต (277 ก.ม./ช.ม.) มีความรุนแรงเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 (CAT 4)
ตามภาพการพยากรณ์ของ Weather Under Ground พายุไต้ฝ่น "เจอลาวัต" จะไม่ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ และเกาะไต้หวัน แต่สำหรับการพยากรณ์ของ JMA ต้องรอดูต่อไป





2. พายุดีเปรสชั่น 19W ได้ชื่อว่า “เอวิเนียร์” (Ewiniar) ก่อตัวในทะเลฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน ตำแหน่งโดยประมาณอยู่ที่ 19.6N 138.9E หรือ ประมาณ 2,000 ก.ม.ทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือเล็กน้อย จากกรุงมนิลา เคลื่อนที่ไปทางเหนือ ด้วยความเร็ว 11 น๊อต(20 ก.ม./ช.ม.) ความเร็วลม 30 น๊อต ( 55 ก.ม./ช.ม.)

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย"
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 24 กันยายน 2555​

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่เข้าปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 2-3 วันนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เจอลาวัต” (JELAWAT) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวไปทางเกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 26-27 กันยายน 2555 นี้

ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.

 

อนามัยโลกสุดมึน! พบหนุ่มใหญ่กาตาร์ติดเชื้อไวรัสประหลาดคล้ายโรค “ซาร์”หวั่นเป็นไวรัสล้างโลก



รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- พบชายชาวกาตาร์ป่วยหนักนอนพักรักษาตัวอยู่ในสหราชอาณาจักร และอาจเสียชีวิต สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับโรค “ซาร์ส” สร้างความตกตะลึงให้ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขทั่วโลก รวมถึง องค์การอนามัยโลก

รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุในวันนี้ (24) ว่า ชายชาวกาตาร์รายหนึ่งซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยชื่อได้ติดเชื้อไวรัสประหลาดตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และกำลังป่วยหนัก โดยมีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอังกฤษดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นสามารถระบุได้เพียงแค่เชื้อไวรัสตัวใหม่ล่าสุดนี้มีลักษณะคล้ายกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรค “ซาร์ส” ที่เคยระบาดหนักเมื่อปี 2002 จนคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 800 คนทั่วโลก ส่วนอีกมากกว่า 8,000 คนติดเชื้อ

เกรกอรี ฮาร์เทิล โฆษกองค์การอนามัยโลกออกมาแถลงที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ว่า จนถึงขณะนี้ทางผู้เชี่ยวชาญของ WHO ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ไวรัสใหม่ล่าสุดที่ชายชาวกาตาร์ได้รับเข้าสู่ร่างกายนั้น คือไวรัสชนิดใดกันแน่ รวมถึงยังไม่มีข้อมูลว่าชายชาวกาตาร์คนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสนี้มาจากประเทศใด ขณะที่ผู้ติดเชื้อซึ่งมีอายุ 49 ปีซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของอังกฤษซึ่งไม่เป็นที่เปิดเผย ถูกระบุว่า มีอาการป่วยหนักและประสบภาวะการทำงานของไตล้มเหลว

อย่างไรก็ดี มีข้อมูลว่า ก่อนที่ชายชาวกาตาร์รายนี้จะล้มป่วยไม่นาน เขาเพิ่งเดินทางเข้าไปในซาอุดีอาระเบียทำให้หลายฝ่ายคาดว่า ต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสชนิดใหม่ล่าสุดของโลก อาจอยู่ในราชอาณาจักรกลางทะเลทรายดังกล่าวก็เป็นได้





Around the World - Manager Online - อนามัยโลกสุดมึน! พบหนุ่มใหญ่กาตาร์ติดเชื้อไวรัสประหลาดคล้ายโรค “ซาร์”หวั่นเป็นไวรัสล้างโลก

New SARS-like virus found in Middle East

UN health agency issues a global alert over a new virus similar to the one that claimed 800 lives in 2003.



New SARS-like virus found in Middle East - Middle East - Al Jazeera English

 

'ความเชื่อมั่น'ยังขาดหายจากศก.โลก แม้ธ.กลางชั้นนำอัดฉีดสภาพคล่อง


มาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (บีโอเจ) แถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า บีโอเจกลายเป็นธนาคารกลางของชาติเศรษฐกิจสำคัญๆ ของโลกรายล่าสุด ที่ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมเข้าสู่ระบบ อย่างไรก็ดี ยังเป็นที่สงสัยกันว่า มาตรการเช่นนี้จะสามารถฟื้นคืนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจได้หรือไม่

รอยเตอร์ - แม้บรรดาธนาคารกลางของประเทศชั้นนำ พากันใช้มตรการทางการเงินในรูปของการสร้างสภาพคล่องเป็นปริมาณมหาศาล โดยเฉพาะในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่ในเวลานี้ แต่พวกนักวิเคราะห์ก็ยังกังขา เพราะแม้แบงก์ชาติเหล่านี้สามารถเพิ่มสภาพคล่องได้อย่างไม่จำกัด ทว่าสิ่งที่ทุกฝ่ายตั้งตารอก็คือ เมื่อใดมาตรการเหล่านี้จะผลิดอกออกผลเป็นการฟื้นคืนความเชื่อมั่น, ดีมานด์, ผลผลิต, และการจ้างงาน, เสียที
ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ออกมาเคลื่อนไหวกระทำทุกอย่างที่ตลาดคาดหวังที่จะได้เห็นแล้ว โดยฝ่ายแรกให้สัญญาพิมพ์ธนบัตรออกมาจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลง ขณะที่ฝ่ายหลังรับปากจะทำหน้าที่เป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายในการเข้าซื้อพันธบัตรสเปนและอิตาลี
แม้กระทั่งธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ยังขยายโครงการซื้อสินทรัพย์ในปริมาณพอประมาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรียกได้ว่าในบรรดาชาติชั้นนำ มีเพียงแบงก์ชาติแดนมังกรเท่านั้นที่ยังลังเล
ดังนั้น คำถามสำหรับเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ที่เข้าสู่ปีที่ 6 ของความตึงเครียดรุนแรงด้านการเงินคือ เมื่อใดที่ความเคลื่อนไหวทางการเงินเหล่านี้จะแปรรูปเป็นอุปสงค์ ผลผลิต และตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้น
มาร์ก คลิฟฟ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี แบงก์แดนกังหันลม ชี้ว่า สิ่งที่แบงก์ชาติของประเทศต่างๆ ทำไปอาจช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งในระยะสั้น แต่ปัญหาทั้งสำหรับปีนี้และปีหน้าคือ นักการเมืองในยุโรปและอเมริกาที่ทำตัวน่าผิดหวัง
สำหรับในสัปดาห์นี้เป็นคิวที่ฝรั่งเศสและสเปนจะประกาศงบประมาณประจำปีหน้า ซึ่งจะต้องมีมาตรการรัดเข็มขัดอันเข้มงวดขึ้นไปอีก และนั่นก็จะทำให้สถานการณ์ในยูโรโซนบีบคั้นยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่นสเปนที่เพิ่งขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม อาจต้องใช้มาตรการเข้มงวดเพิ่มเติมอีก เป็นต้นว่า ระงับการจ่ายบำนาญ ทั้งนี้โดยถือเป็นการปฏิบัติตามส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อรับการสนับสนุนทางการเงินจากสมาชิกอื่นๆ ในยูโรโซน
ลีนา โคมิเลวา กรรมการผู้จัดการ จี+ อิโคโนมิกส์ บริษัทที่ปรึกษาในลอนดอน ชี้ว่า มาตรการรัดเข็มขัดในขณะที่อุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัว อาจได้รับการพิสูจน์ว่ากลายเป็นอาวุธร้ายระลอก 2 ที่กระหน่ำซ้ำเติมทำลายมาตรการฟื้นเสถียรภาพการเงินของยูโรโซน
ดูตัวอย่างจากอิตาลีที่ออกมาคาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เศรษฐกิจจะหดตัว 2.4% ในปีนี้ หรือเป็น 2 เท่าตัวของตัวเลขคาดการณ์เดิม มิหนำซ้ำยังเลิกล้มความหวังที่จะอัตราเติบโตจะสามารถฟื้นตัวได้ในปีหน้า ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ใช่ว่าสถานการณ์เลวร้ายไปหมดทุกที่ โดยในเยอรมนี ผลสำรวจของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจปรากฏว่าออกมาในแง่บวก ส่วนที่สหรัฐฯ ก็พบแนวโน้มการฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ทั้งนี้จากรายงานยอดขายบ้านของอเมริกาประจำเดือนตุลาคมที่ออกมาดีเกินคาด ส่งผลให้ตลาดคาดว่าจะมีแรงซื้อบ้านใหม่เพิ่มขึ้น
กระนั้น โรเบิร์ต ไดคลิเมนต์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาของซิตี้กรุ๊ป ยังไม่มั่นใจในแนวโน้มการเติบโตระยะสั้น เพราะไม่แน่ใจว่าสถานการณ์การเงินที่ได้รับการกระตุ้นจากเฟดจะยืนยาวเพียงใด ที่สำคัญที่สุดคือสถานการณ์เฉพาะหน้า เนื่องจากการชะลอตัวทั่วโลกกำลังบั่นทอนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอเมริกา และการตัดสินใจประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญบางอย่างอาจล่าช้าออกไปจนกว่าทิศทางนโยบายเศรษฐกิจในภาพรวมจะชัดเจนขึ้นภายหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนไปแล้ว
เจพีมอร์แกนสำทับว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกสะท้อนให้เห็นจากการส่งออกของเอเชียที่ร่วงลงถึง 15.7% ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม
อย่างไรก็ตาม เจพีมอร์แกนมองว่า ยุโรป ตัวถ่วงสำคัญของเอเชีย อาจฟื้นการเติบโตได้ตอนต้นปีหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเชิงรุกของอีซีบี
นั่นเป็นสิ่งที่อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฟินแลนด์ อยากได้ยิน เขาไม่เห็นด้วยกับกระแสการคาดการณ์เรื่องยูโรโซนแตก โดยกล่าวว่า การประชุมสุดยอดเขตเงินสกุลเดียวแห่งยุโรปที่จะมีกัน 3 ครั้งระหว่างเวลานี้จนถึงสิ้นปีนั้น มีจุดประสงค์ชัดเจนในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงขึ้นสำหรับยูโร

Around the World - Manager Online - 'ความเชื่อมั่น'ยังขาดหายจากศก.โลก แม้ธ.กลางชั้นนำอัดฉีดสภาพคล่อง

 

ปีหน้าสาหัส ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ราคาสินค้าแพงขึ้น แรงงานเสี่ยงตกงานมากขึ้น

ศูนย์วิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เผยผลสำรวจ ปชช. ใน 70 จว. ปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทปีหน้า พบมีแรงงานที่เสี่ยงต่อการตกงาน 1.2 ล้านคน คาดดันอัตราว่างงานทั้งประเทศทะลุ 1.2% กระทบโครงสร้างการผลิตในท้องถิ่น หวั่นลุกลามทำลายสังคมภาคครัวเรือน



“มหาวิทยาลัยได้มีการประเมินผลว่าในช่วงต้นปีหน้าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็จะมีการปรับขึ้นราคาสินค้ารองรับนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ โดยอีกประมาณ 100 วันจากนี้ไป ก็จะทำให้ค่าครองชีพเพิ่มวันละ 15 บาท หรืออย่างน้อยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหายไปทันทีวันละ 3 ซอง และหลังไตรมาสที่ 1 หรือประมาณช่วงเดียว เม.ย. ค่าครองชีพก็จะเพิ่มขึ้นอีก 5 บาทต่อวันหรือเป็น 20 บาทต่อวัน และ ช่วงปลายปีต้นทุนทั้งหมดก็จะสัมฤทธิผลที่ชัดเจนก็จะทำให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30 บาทต่อวัน หรือเดือนละ 900 บาท ซึ่งชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนจากของแพงแน่นอน”

Business - Manager Online - โพลชี้ปรับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ 1 ม.ค. 56 ทำคนไทยตกงาน 1.2 ล้านคน

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย"
ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 25 กันยายน 2555​

ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ที่มีน้ำท่วมบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากในระยะ 1-3 วันนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 25-30 กันยายน 2555

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เจอลาวัต” (JELAWAT) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเคลื่อนตัวไปใกล้เกาะไต้หวันในช่วงวันที่ 28-29 กันยายน 2555 ส่วนพายุโซนร้อน “เอวิเนีย” (EWINIAR) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเคลื่อนตัวไปใกล้ประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 28-29 กันยายน นี้



ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.



(ลงชื่อ) สมศรี ฮั่นตระกูล

(นางสาวสมศรี ฮั่นตระกูล)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

เตือนระวัง กทม.จมน้ำ หวั่นตุลาคม น้ำเหนือ น้ำฝน น้ำหนุน เจอกัน


ขอบคุณข้อมูลจาก ทีวีไทย / ภาพ MThai News

นายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์วิกฤติน้ำในประเทศไทยปี 2555 ว่า ปีนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีร่องมรสุมและพายุพาดผ่านประเทศไทย นานผิดปกติโดยยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ ซึ่งตามปกติแล้วร่องมรสุมจะอยู่ประมาณ 4-7 วัน แต่ปีนี้อยู่มาเกือบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งร่องมรสุมที่พาดผ่านนานก็จะทำให้ฝนตกหนัก จึงถือว่ากรุงเทพมหานคร มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมที่มาจากน้ำฝน

สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีพายุเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคม เหมือนปี 2533 ,2539 และ 2549 ที่ทำให้น้ำท่วมภาคกลางซึ่งมีโอกาสสูงมาก และประมาณวันที่ 29 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ คาดว่า จะมีฝนตกหนักซึ่งต้องจับตามองว่ากรุงเทพมหานคร จะรับมืออย่างไร ขณะที่ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร กับรัฐบาลยังไม่บูรณาการแผนงานร่วมกัน

ส่วนข้อแนะนำนั้นขณะนี้มีวิธีเดียวคือพร่องน้ำในคลอง เพราะการขุดลอกคูคลองอาจไม่ทันการ พร้อมทั้งต้องหารือกับรัฐบาลว่า จะต้องไม่ปล่อยน้ำเหนือผ่านเข้ามา นอกจากนั้น การที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณสร้างพนังกั้นน้ำให้สูงขึ้น อาจจะยิ่งทำให้กรุงเทพมหานครมีความเสี่ยงมากขึ้น หากฝนตกหนักเป็นเวลานาน และเขื่อนก็เริ่มปล่อยน้ำลงมา ซึ่งอาจเกิดปัญหาเหมือนกับเมืองนิวออร์ลีนส์ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อเกิดพายุกำแพงก็จะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำ

สำหรับน้ำท่วมภาคกลางนั้นมีหลายปัจจัยไม่ใช่เฉพาะน้ำเหนือเท่านั้น ซึ่งปีนี้น่าห่วงเรื่องร่องมรสุมที่อยู่นานผิดปกติ อีกทั้งน้ำเหนือก็คาดว่าจะมาถึงกรุงเทพมหานคร ประมาณเดือนตลุาคมนี้เช่นกัน และช่วงนั้นก็อาจจะมีน้ำทะเลหนุนด้วยซึ่งถ้า 3 น้ำมาเจอกันกรุงเทพฯ ก็อาจต้องเจอปัญหาใหญ่

ส่วนในระยะยาวกรุงเทพมหานครจะต้องปรับท่อระบายน้ำให้ใหญ่ขึ้นจากที่ระบายได้ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงเป็น 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงและขุดลอกคูคลองให้ลึกขึ้น ขณะที่แนวคิดที่จะก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้นคิดว่าเขื่อนไม่ใช่มาตรการเบ็ดเสร็จที่ให้แก้ปัญหาทั้งหมด แต่จะต้องมีการบริหารจัดการน้ำที่ดีหากบริหารจัดการไม่ดีเขื่อนอาจจะกลายเป็นปัญหา รัฐบาลต้องให้คำตอบเรื่องความคุ้มค่าให้ได้