จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

แทงคิ้วเวรี่มาก นะคะพี่ลูกพลัง
เพราะมั๊กค่ะ เพลงนี้ขอส่งลูกยุไปหาพี่พอใจหน่อย
จะได้ฟังเสียงท่านร้อง อิอิ

 

ช่ายเลยค่ะ น้องหมูหว้า..ขา น้อง ISAA โพสมาเจอ ครูน้องหมูหว้าก่อนเพื่อน รับเป็นศิษย์เลยนะคะ..ดีใจจังเลย..

 

(k)พี่พอใจแพ้..เรื่องคนขอให้ร้องเพลงจังเลยยยยยยย..
งานเข้า ๆ ๆ พี่พอใจน่ะ อยากร้องอยู่เรื่อยล่ะค่ะ..
จะลองร้องดู..แต่อาจจะนานนิดนึง..
รักแล้วรอ พอใจ ณ บ้านรากแก่น.หน่อยนะคะ..

 

อ๊ะ... หมูเป็นพี่เลี้ยงนะ
ยังไม่อยากเป็นครู.. (มันต่างกันไหมเนี่ย?)
แต่เอาเถอะ.. อยู่กับพี่ๆ
ยังดีกว่าอยู่กับงานทางโลก... ไม่หนุกเลย..

มามะ คุณ ISAA มาให้หมูกอดซะดีๆ

​

 

ไหนๆ..อ๋อ..ครูเพ็ญขอเพลง "ซุบารุ" เหรอ.. เอาไปเลย จัดหัยย..

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=-YLCV_VtT_A&feature=youtube_gdata_player]Subaru - Tanimura Shinji - YouTube[/ame]

.

 

แหมม โพสขนาดนี้ สนใจค่า เอาเมล์ฟ้าไปด้วยเลย
aiifar_thesun@hotmail.com
อยากถาม อยากปรึกษา ส่งมาคุยกับฟ้าก้อได้น้าา ฟ้าไม่กัดด้วย
5555

 

ของพี่เพ็ญปิดแล้วแต่ไม่ค่อยจะอยู่ 5555555555555
เขาดันไปเข้าช่องกบาลของคนที่โทร.มา 5555555555555
กว่าจะรู้ตัวเสียงมันดังกลบเสียงคนพูดไปแว้วววว 555555555555

 

วันนี้พี่ลูกพลังจัดเต็ม
เป็นดีเจจัดเพลงโดนใจให้พี่ๆฟัง สมกับเป็นวันหยุดจิงๆ 5555

 

เทส เทส เทศ เทศ เทศเทศ 555555+++

เป็นสีแล้วอ่ะ ขอบใจน้องลูกหมูม๊ากกกกกก

ว่าแต่พี่เพ็ญกับคุณดัช ไปโดนอะไรกันมาคะ

 

ยินดีด้วยนะจ๊ะที่ทำตัว(หนังสือ)ใหญ่ได้แล้ว
นึกว่าจะไม่ยอมโตซะแร๊ว 555555555555

พี่เพ็ญกับคุณดัชไปเจอพายุสุริยะกับเนติรุของพี่ภูเข้าอ่ะจิ
เสาอากาศเลยเฉเลย
กำลังช่วยกันตั้งเสาใหม่กับครูดัชฉองคน 5555555555555

 

ธรรมะละเอียด?.?

พี่เพ็ญไปฉกมาจากในเมล คุณจุ๋มเธอมีวิปัสสนาน่ารับประทาน(ไหม)เจง ๆ

................................

23 ก.ย. 55

กราบสวัสดีค่ะ

ตื่นมาวันนี้ไม่เห็นพระ ลุกขึ้นนั่งหลับตาสบายๆ จากนั้นเริ่มงานบ้านหลังจากดื่มกาแฟไปหนึ่งถ้วย กวาดบ้านเป็นกิจวัตรประจำวัน พื้นบ้านไม่ได้ปูพรม แต่เป็นไม้อัดแบบแข็งแผ่นยาวแบบกระดาน หยิบไม้กวาด (แบบบ้านเรานี่แหละ) อีกมือก็ถือเครื่องดูดฝุ่นตัวเล็กแบบไร้สาย พอกวาดขี้ผงมารวมกัน ก็ใช้เจ้านี่แหละดูดขี้ผงไป ขณะกวาดจิตก็เกิดการเปรียบเทียบธรรม พื้นมันอยู่ของมันแบบสะอาดดี แต่พอมีฝุ่นเลยต้องปัด กวาด เช็ด ถู (ไม่ลืมอธิษฐานจิต แผ่เมตตา จับภาพพระไปด้วย)

มือ คือสติ
ไม้กวาด คือ ธรรม
พื้นคือจิต
ฝุ่นคือกิเลส

สติ จับเอาธรรม กวาดกิเลส ออกไปจากจิต ..แล้วก็ดูดมันออกไปด้วย ไตรลักษณ์( เครื่องดูดฝุ่น)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฝุ่นหยาบถูกกำจัดไปแล้ว ดูแล้วสะอาดสบายตา แต่ฝุ่นละเอียดมันยังมีอยู่
ต้องเอาผ้าชุบน้ำเช็ดลงไป แล้วจะเห็นคราบดำๆบนผืนผ้า คราบดำๆก็คือกิเลสตัวละเอียดที่นอน
หลบอยู่ ชะ!! ชะ!! หลบได้หลบไป เจอเมื่อไร แม่จะเช็ดซะให้เกลี้ยง!!!

ธรรมะกับลูกชิ้น

มีคนโทรมาสั่ง อยากทานลูกชิ้นคุณจุ๋ม เอ้า ทำให้เค้าหน่อย เกิดมาทำกับข้าวอร่อยก็เงี้ยะ อิอิ

เอาจิตมา 1 กิโล (หมูสับ)
กิเลส 4-5อย่าง (เครื่องปรุง)
สติแตก (เคริ่องปั่น)

วิธีทำ,,,,นำจิตกับกิเลสมาผสมกัน จากนั้นเอาไปปั่นจนจิตกับกิเลสผสมกันจนเนียนเหนียวจากนั้น
เอาหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้ร้อนปานกลาง หยิบก้อนกิเลสกับจิตที่ผสมไว้มา 1กำมือ
บีบลงไปเป็นลูกเล็กๆพอคำ จนหมด พอลูกกิเลสลอยขึ้น แสดงว่าสุกแล้ว ช้อนออกพักไว้
หยิบมาชิมสักลูก อือ!! อร่อยดีนะกิเลสเนี่ย!!

น้ำในหม้อที่เคยใส ตอนนี้ขุ่นเพราะใช้ต้มกิเลส พอทิ้งไว้สักพักเริ่มตกตะกอนเป็นริ้วๆ
มันนอนนิ่งอยู่ก้นหม้อ (กิเลสละเอียด) แต่พอเอาช้อนมาคน มันขุ่นขึ้นมาในบัดดล
อยากได้น้ำใสๆไร้ตะกอน เอาไปทำน้ำก๋วยเตี๋ยว ต้องรอให้มันนอนก้นอีกหน จากนั้น
วางสติลงที่มือ ค่อยๆยกหม้อรินน้ำใสๆลงใส่ชาม พอเกือบถึงก้นหม้อ ตะกอนเริ่มฟุ้งมาอีก
ตอนนี้แหละ หยุดให้เป็น แล้วคว่ำหม้อเทน้ำที่มีตะกอนลงท่อไปเล้ยยย....

มองลูกชิ้น กิเลส +จิต มันมารวมตัวกันแบบนี้ จะแยกมันออกจากกันได้จะใดหวา???
อ้าว!!! จิตเกาะพระไง..!! แยกได้ ....แยกได้...
แยกยังไง??... ถามครู... ถามครู.... ไม่มีครู...... ทำม่ายล่าย...เอิ๊กๆๆๆๆๆ

บ่นคนเดียว..ไม่เกี่ยวกะครู
ทำไมวันนี้ จิตมันฮึกเหิมเบิกบานจริงวุ๊ย!!
ไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย ไม่ง่วง ไม่เพลีย
ไปอาบน้ำ แต่งตัว ไปทำงานต่อ
กลับมา 4ทุ่มครึ่งรีบปั่นการบ้านส่งครู
แต่ว่าทำไมมันไม่ง๊วงงงง...
อยากตะโกนดังๆว่า มีความสุขจริงว้อยยยย...

จุ๋มค่ะ..

..............................

กราบสวัสดีค่ะ

แหม ดีจังเห็นธรรมะเป็นธรรมชาติรอบตัว ทําอะไรก็รู้ว่าทํา เดี๋ยวคุณครูเพ็ญขํากลิ้งแน่ สงสัยคุณน้องจุ๋มต้องโยนเครื่องปั่นทิ้งเสียแล้วเพราะ"สติแตก"ทําให้จิตไปปนกับกิเลส หรือไม่เวลา"เคี้ยว"ฟันก็จะขบกิเลสออกจาก"จิต" (ลิ้นอย่าติดรสนะ)กลืนไปย่อยไป ออกมาเหม็นเหมือนกันหมด คืนลงสู่ดินไปตามธรรมชาติ ซึ่งไม่ช้าขันธ์๕เราก็จะคืนสู่ธรรมชาติคือโลกใบนี้ไป เพราะฉนั้น"สติ"คืนมาหนอ "เกาะพระ"ไปแน่นๆนะ
ขอให้เจริญในธรรมค่ะ ขอพรให้เสด็จพ่อคุ้มครองเธอตลอดเวลาค่ะ

พี่ต้อย





..........................................

สวัสดีค่ะ

เอ้ามามองหาตัวตนกันหน่อย

มือ คือสติ >> มีตัวตนไหม?

ไม้กวาด คือธรรม >> มีตัวตนไหม?
พื้นคือจิต >> มีตัวตนไหม?
ฝุ่นคือกิเลส >> มีตัวตนไหม?


แต่ฝุ่นละเอียดมันยังมีอยู่ ต้องเอาผ้าชุบน้ำเช็ดลงไป แล้วจะเห็นคราบดำๆบนผืนผ้า คราบดำๆก็คือกิเลสตัวละเอียดที่<WBR>นอน
หลบอยู่ ชะ!! ชะ!! หลบได้หลบไป เจอเมื่อไร แม่จะเช็ดซะให้เกลี้ยง!!!

เหมือนเดิมค่ะ ยิ่งกิเลสละเอียดมากเท่าไร สติก็ยิ่งต้องละเอียดตามให้เท่าทันกัน

กิเลสละเอียดกับสติละเอียด เจอกันเมื่อไรเป็น...รื้อบ้านออกทั้งหลัง มันจะได้ไม่มีฝุ่นเกาะอีกต่อไป 55555555

บ้านคืออะไร บ้านก็คือร่างกายที่เราจิตอาศัยอยู่นี่ไง
เพราะเรามาอาศัยสิ่งสกปรกอยู่จิตเราจึงต้องเกลือกกลั้วอยู่กับสิ่งสกปรกตลอดเวลา

กายภายนอกก็ต้องคอยชำระล้างอยู่ทุกวัน

อวัยวะภายในก็ต้องคอยหล่อเลี้ยงด้วยอาหารที่มีคราบสกปรกฝังแน่น แปรเปลี่ยนไปเป็นน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง ฯลฯ

อาหารจะอร่อยก็ต้องมีน้ำลายเป็นส่วนผสม ถ้าไม่มีน้ำลายลิ้นมันก็แห้งสาก แล้วมันจะไปรู้รสอะไร น้ำลายถ้าถ่มออกมาแล้วมีใครกล้าเก็บเข้าไปกินอีกไหม (ยกเว้นคนบ้า กับเด็กทารก)

ของอะไรก็ตามถ้าผ่านร่างกายทั้งภายนอกและภายในจะเห็นแต่คราบสกปรกและมีกลิ่นเหม็น ถามว่าในเมื่อร่างกายทั้งสกปรกและมีกลิ่นเหม็น ยังมีอะไรน่ารักน่าชมอยู่อีกหรือ

อั่ยที่หลงว่าสวยว่างามกันก็เห็นมีแต่หนังกำพร้าเท่านั้นเอง นอกนั้นดูไม่ได้ แค่ถลกหนังออกมาก็จะอ้วกแล้ว จริงป่ะ?

อาหารอร่อยมีอยู่จริงไหม สิ่งที่ปรุงแต่งอยู่นอกกายก็เป็นเพียง รูป ที่ตาไปเห็นแล้วปรุงแต่งด้วยกิเลสคือความอยากทำให้หลง หลงรูปว่ามันสวยน่ากิน แต่สุดท้ายสิ่งที่เห็นว่าสวยและน่ากินก็ต้องสลายตัวไปตามธรรมชาติ ถึงเราไม่กินมันก็ต้องเน่าบูดสลายไปตามธรรมชาติอยู่ดี ควรหรือที่เราจะไปยึดว่า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ว่าเป็นของเราจิต

แม้แต่ร่างกายของเราก็ยังไม่เที่ยง เช้าสกปรก กลางวันแต่งตัวสวย เย็นก็กลับมาสกปรกอีก มีสักเวลาไหมที่มันจะสะอาดจริง

สิ่งที่ตั้งอยู่บนความสกปรกก็ย่อมต้องสกปรกตามกันไปวันยังค่ำ ในเมื่อรู้ว่าสิ่งนั้นสกปรก แล้วจิตเราจะไปจมอยู่กับความสกปรกหรือ จริงอยู่ว่าร่างกายไม่สามารถละออกจากความสกปรกได้ แต่จิตเราไม่ได้เป็นตัวเป็นตนเกาะอยู่ในร่างกายนี่นา แล้วทำไมเราจะเอาจิตออกมาจากความสกปรกไม่ได้

ทำไง? ก็แค่แยกจิตออกมาดูให้เห็นชัด ๆ ซิว่าร่างกายมันสกปรกจริงไหม ถ้าจิตยอมรับว่าร่างกายสกปรกจริง จิตจะเป็นผู้ปล่อยวางร่างกายออกไปเอง โดยปัญญาแสดงธรรมเรื่องกฎไตรลักษณ์ให้จิตเห็นว่า ร่างกายก็ดี อาหารก็ดี รูปก็ดี รสก็ดี กลิ่นก็ดี เสียงก็ดี สัมผัสก็ดี ธรรมารมณ์ก็ดี ล้วนไม่ใช่ไม่ใช่ตน ไม่ใช่เราไม่ใช่เขา ธรรมดาเป็นอยู่เช่นนั้นเอง ที่คิดว่าเป็นตัวเป็นตนเป็นเราเป็นเขาเพราะจิตมันหลงไปยึดเอาปรุงแต่งมาเป็นอารมณ์ทั้งสิ้น

คุณจุ๋มลองพิจารณาดูซิว่า "อารมณ์" เป็นสิ่งมีตัวตนไหม?

ถามเองตอบเองนะเออ

พี่เพ็ญ

 

อ่าว ไปพัดกันตอนไหน ตกลงยอมเรียนเร้อ ส่งเมล์มาเป็นวิทยาทานหน่อยจิ...

อิอิ อากู๋ไม่ยอมให้โตอ่ะดิ ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว คำแนะนำของน้องหมูน่ะ ต้องขอขอบใจมาณ.โอกาศนี้ด้วย ค่า

 

เพลงนี้ขอมอบให้ท่านพี่ภู..
เพื่อบ้านรากแก่น.. ของทุกๆคน..

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=1yZttAqUAuM&feature=youtube_gdata_player]สามัคคีชุมนุม - YouTube[/ame]

โอเค..ไปแว้วว.. จะไปนั่งฉะมาทิเข้าฌานก่อนเลี้ยว..

 

ป่าว ไม่มีใครมาเรียน พี่เพ็ญทำมึนตาใส ไม่งั้นเดี๋ยวงานเข้า อิอิ

"กรุณาใช้ช่องถัดไป"

"สต๊อกเต็ม"

5555555555555

ที่กำลังปรับอยู่น่ะ เสาอากาศของพี่เพ็ญเองแหละ
มันเฉตอนโดนพลังจักรวาลเทลงมาบนหัวอ่ะ
โอ่ย มึนแปดด้าน
ตอนนี้ปิดแร๊ะ

พลังจักรวาลโปรดทราบ

"กรุณาใช้ช่องถัดไป"

555555555555555555555

 

หวัดดีฮะ จิตเกาะพระนี่ฝึกกันยังไงครับ วิธีฝึกต้องไปหาอ่านหน้าไหนฮะ

 

คุณต้องมีครูสอนค่ะ แล้วจะไปได้เร็ว ดีกว่าทำคนเดียวเยอะค่ะ สู้ๆๆนะ ถึงฝั่งแน่นอนคุณเนี่ย

 

การวิปัสสนาหรือการพิจารณาธรรมทั้งหลายทั้งปวง ในขณะลืมตา ในขณะที่ทำงานต่างๆ หรือแม้นกระทั่งกายนอนหลับก็ตามที ขอให้ลงกฎไตรลักษณ์ให้หมด โดยเฉพาะธรรมตัวสุดท้ายก็คือ อนัตตา อันนี้สำหรับคนที่ทำเก่งแล้ว แต่ถ้ายังหรือมีอินทรีย์ยังไม่แก่กล้า ก็ให้เริ่มตัดลงที่อนิจจัง ก็คือ มองเห็นทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เที่ยง ไม่มียั่งยืน นอกจากความตาย เป็นความทุกข์ทั้งสิ้น โดยเฉพาะความสุขทางโลก เพราะเป็นความสุขแค่ชั่วคราว ไม่ยั่งยืน แต่สุขนิรันดรนั้นจะต้องปราศจากทั้งทุกข์และสุขทางโลก และถึงตามด้วยอนัตตานั้น ก็คือ ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา ไม่มีตัวตนอยู่จริง เพราะไม่มีสิ่งใดที่เราจะไปบังคับได้ แม้นกระทั่งร่างกายของเราเป็นได้แค่ให้ดวงจิตอาศัยชั่วคราว ร่างกายเป็นสมบัติของโลก เพราะอีกไม่นานนักก็ต้องตายอย่างแน่นอน ไม่มีผู้ใดก้าวพ้นแห่งความตายไปได้สักคนเดียว

*จิตเกาะพระ ก็เป็นกรรมฐานกองหนึ่งที่มีอยู่ในกรรมฐานทั้งหมด 40 กองของพระพุทธองค์นั่นเอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้จิตนิ่งสำหรับผู้ปฎิบัติเท่านั้นเอง เพียงแต่การระลึกถึงพระนี้ทำให้จิตของผู้ปฎิบัติรวมไว อันเป็นเหตุทำให้จิตทรงฌานได้ไวขึ้น และทรงฌานได้อย่างต่อเนื่องด้วย และตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของการเจริญสติภาวนาในเวลานี้

*จิตเกาะพระ ซึ่งประกอบด้วย 2 กรรมฐาน ก็คือ พุทธานุสสติ และกสิณ

*จิตเกาะพระไม่ต้องใช้คำภาวนาใดๆทั้งสิ้น เพราะการระลึกถึง/นึกถึงพระอยู่นั้น ก็เหมือนกับการเจริญสติภาวนา หรือกำลังภาวนา คำว่า พุท-โธ ยุบหนอ-พองหนอ นะมะพะทะ หรือตามดูลมหายใจตามแบบฉบับของอานาปานสติ นั่นเอง

ที่มาจากกระทู้จิตพร้อม? รับภัยพิบัติหน้า 260#5199



ลองอ่าน "หลักการทั่วๆไปของจิตเกาะพระ สำหรับผู้มาใหม่"

 

สวัสดีฮะ

ท่านสามารถหาอ่านวิธีฝึกจิตเกาะพระอย่างละเอียดได้ที่กระทู้นี้แห่งเดียวในโลก

สามารถอ่านคำแนะนำเบื้องต้นได้ตั้งแต่หน้า 1-20

นอกนั้นเป็นธรรมทานเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติ

และคำแนะนำของครู

ลองไปอ่านศึกษาดูก่อนนะฮะ

เพราะที่นี่เราเน้น "คนจริง"

ไม่สนับสนุนให้เดินตามแฟชั่น

เพราะมันวับๆแวมๆล่อแหลมเสี่ยงต่อการไม่ประสบความสำเร็จ

งงไหมอ่ะ 55555555555555

 

<TABLE id=threadslist class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY id=threadbits_forum_178><TR><TD id=td_threadtitle_334019 class=alt1 title=""> จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ (44 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
ภูทยานฌาน2
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 5,691, จำนวนอ่าน: 177,374">

วันนี้ 07:26 PM
โดย natthapatpun ​

</TD><TD class=alt1 align=middle>5,691</TD><TD class=alt2 align=middle>177,374</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หวัดดีค่ะทุกท่าน ตามลิ๊งค์ของพี่พอใจมาค่ะ