เทวดามีทำอัตวินิบาตกรรมตัวเอง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย noom8a, 7 ตุลาคม 2012.

  1. noom8a

    noom8a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +226
    เทวดามีทำอัตวินิบาตกรรมตัวเองไม๊ครับเช่นอยู่เป็นพันปีหมื่นปีแล้วเกิอเบื่อหน่ายก่อนถึงเวลาจุติเช่นอายุขัยจริงหมื่นปีแต่อายุขัยจริงห้าพันปีแล้วรอเวลาตายอีกตั้งห้าพันปีแต่เบื่อเลยฆ่าตัวตายก่อนเขาจะไปไหนครับ
    แล้วมนุษย์อย่างผมเกิดอายุ8-100ปีแต่อายุจริง39ปีเกิดเบื่อโลกขึ้นมาทำอัตวินิบาตรกรรมตัวเองแล้วสมมุติบุญมากกว่าบาปแล้วจะไปดีไม่ใช่ตายเพราะมีปัญหาหรือจิตหดหู่นะครับรู้ทางโลกทางธรรมพอควรปทำบุญมาก็เยอะครอบครัวมีความสุขดีแต่เกิดเบื่อโลก:'(
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:เทวดามีทำอัตวินิบาตกรรมตัวเอง:cool:
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->noom8a<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6808947", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    <!-- google_ad_section_end -->


    เทวดามีทำอัตวินิบาตกรรมตัวเองไม๊ครับเช่นอยู่เป็นพันปีหมื่นปีแล้วเกิอเบื่อหน่ายก่อนถึงเวลาจุติเช่นอายุขัยจริงหมื่นปีแต่อายุขัยจริงห้าพันปีแล้วรอเวลาตายอีกตั้งห้าพันปีแต่เบื่อเลยฆ่าตัวตายก่อนเขาจะไปไหนครับ
    แล้วมนุษย์อย่างผมเกิดอายุ8-100ปีแต่อายุจริง39ปีเกิดเบื่อโลกขึ้นมาทำอัตวินิบาตรกรรมตัวเองแล้วสมมุติบุญมากกว่าบาปแล้วจะไปดีไม่ใช่ตายเพราะมีปัญหาหรือจิตหดหู่นะครับรู้ทางโลกทางธรรมพอควรปทำบุญมาก็เยอะครอบครัวมีความสุขดีแต่เกิดเบื่อโลก[​IMG]


    ตอบครับ
    <!-- google_ad_section_end -->

    มนุษย์ชั้นดี ที่สุดของโลก สู้เทวดาชั้นเลวๆยังไม่ได้เลย ไม่ต้องมานั่งขี้เยี่ยว ปี้ เหมือนกับพวกเราๆ ร่างกายท่านเป็น ทิพย์ละเอียด กว่า พวก อสูรกาย สัมพเวสี ที่อยู่ ของท่าน เทวดา นางฟ้า อาหารเป็นทิพย์ เกิดด้วย อำนาจบุญ ฆ่าตัวเอง ก็ไม่ตาย อยู่ แล้ว นอกจากเทวดา มิฏฉาฐิฏฐิ จะไปทำร้ายใคร ยากแล้ว แต่ก็มีอาจน้อยมาก มีแต่เสริมบุญ ไม่อยากจุติ กลัวบุญหมดไว ถ้าบุญใกล้หมด อาจจะจุติ ก่อน บุญหมด หนีลงมาเกิด สักครึ่ง วันของดาวดึง ก็แค่ ๕๐ ปีในเมืองมนุษย์ เท่านี้เอง ในครั้งพุทธกาลก็มีตัว อย่างอยู่แล้วครับ

    ถ้าคนฆ่าตัวตาย มันบาปอยู่แล้ว หนักด้วยครับ ถ้าเบื่อโลกจริงๆ เบื่อร่างกาย เบื่อทุกอย่างการเกิด ถ้าทำ มันก็คง ไปที่ดีได้ แต่อย่าไปทำเลย มันไม่ง่ายหรอก สมัยครั้งพุทธกาลมี แต่พระพุทธองค์ ท่านทรง ไม่ให้ทำ คือ เบื่อจริงๆ ก็ทำหน้าที่ ให้มันต่อไป หิวหาอาหารให้มันกิน หนาวหาผ้าห่มให้ ร้อน ทำความเย็นให้ ไม่สบาย หายารักษาโรค ทำตามหน้าที่ ตายแล้ว เลิกกัน มันมีอายุ ไม่ถึง ๑๐๐ ปีหรอกครับ เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด จนกว่ามันจะพัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2012
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ยุคนี้ พวกที่อยู่ข้างบน ขอลงมาเกิดสร้างบารมีกันเป็นแถวเลยนะ...
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    [​IMG]


    เรื่องของความตาย เป็นสิ่งที่ทุกชีวิตหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะเกิดดีหรือไม่ดี สุคติหรือทุคติ ก็ย่อมถึงความตายด้วยกันทั้งนั้น แต่ในครั้งนี้ขอนำการตาย หรือจุติของเทวดามาบอกนะครับ.

    เหตุที่ เทวดาตายด้วยเหตุ ๔ ประการด้วยกันคือ..

    ๑. ตายเพราะสิ้นอายุ คืออายุในสวรรค์ชั้นนั้นมีกำหนดเท่าใด เช่น ๕๐ ปีทิพย์ ท่านก็อยู่ในสวรรค์ชั้นนั้นจนครบอายุแล้วจึงตาย ภาษาธรรมะเรียกการตายว่าจุติ ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนจากภพ

    ๒. ตายเพราะสิ้นบุญ คือเทวดาบางองค์ทำบุญไว้น้อย เมื่อมาเกิดเป็นเทวดา ก็เกิดอยู่ได้ไม่นาน คืออยู่ไม่ครบอายุขัยของเทวดา ก็หมดบุญที่นำเกิด จึงต้องจุติคือตายลง เช่นขึ้นไปเกิดในสวรรค์ได้เพียง ๗ วันก็ตายเป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าตายเพราะหมดบุญ


    ๓. ตายเพราะอดอาหาร ที่ว่าอดอาหารนี้ไม่ใช่ว่าเทวดาไม่มีอาหารกิน ท่านมีอาหารทิพย์กิน แต่เมื่อได้รับความสุขอันเป็นทิพย์ ก็เพลิดเพลินยินดี เพราะเหตุที่ไม่เคยพบพานมาก่อน ก็หลงไหลยินดีจนลืมบริโภคอาหารทิพย์ เพียงลืมบริโภคอาหารครั้งเดียวเท่านั้นร่างกายก็ทนไม่ได้ ทั้งนี้เพราะไฟธาตุที่ย่อยอาหารของเทวดามีกำลังเผาผลาญมาก เมื่อไม่มีอาหารให้ย่อย ก็เผาผลาญร่างกายให้ทำลายไป เทวดานั้นจึงต้องตายเพราะลืมบริโภคอาหาร

    ๔. เทวดาตายเพราะโกรธ ความโกรธเผาผลาญใจเขาจนแตกสลายตายไป เทวดาพวกนี้มักมีความริษยาแรงกล้า ทั้งนี้เพราะทนเห็นเทวดาองค์อื่น มียศ มีรัศมี มีสมบัติยิ่งกว่าตนไม่ได้เป็นต้น แต่การตายของเทวดาต่างกับมนุษย์ ตรงที่ตายแล้วไม่มีซากศพปรากฎแต่หายไปทั้งร่าง เพราะฉะนั้นเมื่อเทวดาจุติ เพื่อนเทวดาด้วยกันก็ไม่ทราบ

    เทวดาก่อนที่จะจุติจะต้องมีนิมิต ๕ ประการปรากฏขึ้น คือ

    ๑. ดอกไม้ทิพย์เครื่องประดับเหี่ยวแห้ง

    ๒. ผ้าทรงเศร้าหมอง

    ๓. มีเหงื่อไหลออกจากรักแร้สองข้าง

    ๔. ทิพยอาสน์ คือที่นั่งที่นอนที่เคยสบาย กลับแข็งกระด้าง

    ๕. ร่างกายเศร้าหมอง รัศมีกายก็พลอยเศร้าหมองด้วย



    http://palungjit.org/threads/เทวดาตายด้วยเหตุ-๔-ประการ.136692/


    http://www.thaimisc.com/freewebboard...aew&topic=8549

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  5. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ตามที่ผมทราบมา เทวดาจะไม่มีความเบื่อหน่ายในเทวโลก ถ้าเกิดขึ้นแปลว่าเทวดาองค์นั้นๆกำลังหมดบุญไม่นานก็จะจุติจากเทวโลก ไม่จำเป็นต้องทำอัตวินิบาตกรรม
    -------------------------------
    ส่วนที่คุณถามว่า ฆ่าตัวตายโดยจิตไม่หดหู่...เป็นไปได้ไหม?

    ตอบ ไม่ได้ครับ เพราะเมื่อจิตผ่องใส กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม จะไม่สามารถน้อมไปเพื่อการเบียดเบียนตนเองหรือผู้ได้อื่นเลย

    จิตผ่องใสนี้มีแต่ทำให้ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม น้อมไปเฉพาะสิ่งอันเป็นประโยชน์ เกื้อกูลทั้งตนเองและผู้อื่นเท่านั้น

    เมื่อจิตเศร้าหมอง ทุคติเป็นอันหวังได้ (พุทธะ)
    เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้
    (พุทธะ)

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2012
  6. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สงสัยอย่างครับ แล้วเทวดาแบบพระโพธิสัตว์อย่างงี้

    เบื่อความสุขของพรหม แล้วจุติลงมาเกิด (คืออธิฐาน อ่านมาต้องเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับคําทํานายแล้วว่าจะได้มาตรัสรู้แน่นอน) มีไหมครับ หรือว่าเป็นของมหายาน
     
  7. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    ถาม - มีคนบอกว่าเทวดายังเบื่อหน่ายทิพยสมบัติ อยากลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็มี ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?

    จิตของมนุษย์แต่ละคน และจิตของเทวดาแต่ละองค์นั้น เสพสมบัติด้วยความยินดียินร้ายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการสั่งสมกรรม การสั่งสมกิเลส และการสั่งสมปัญญา
    เหตุผลทางใจที่ทำให้เทวดาหมดความไยดีในสมบัติทิพย์ของตนมีอยู่หลักๆ ตามที่ปรากฏบันทึกอยู่ในคัมภีร์พุทธ เรียงตามลำดับความน่าจะเป็น คือ

    ๑) ทนริษยาเพื่อนเทวดาไม่ได้

    ทิพยสมบัติของเทวดานางฟ้าไม่เหมือนกัน มีความวิจิตรพิสดารผิดกัน ขึ้นอยู่กับบุญที่แต่ละองค์ทำๆกันมา
    ยามเทวดาเยี่ยมชมวิมานของเพื่อนแล้วประจักษ์ในความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ก็เป็นทำนองเดียวกับที่คุณเรียนจบมาพร้อมเพื่อน แต่ได้งานต่างกัน สิบปีให้หลังเพื่อนมีทั้งคฤหาสน์หลังโต โรงรถมีเก๋งใหญ่กับรถสปอร์ตขึ้นเงาวับ ในขณะที่คุณผ่อนทาวเฮาส์กับรถมือสองหัวหูยุ่ง คุณก็คงเริ่มคิดมาก บังเกิดความไม่พอใจในสมบัติและฐานะของตนเองขึ้นมา

    ที่แสลงใจเด็ดขาดกว่านั้น คือเมื่อเทวดาเห็นนางฟ้าของเพื่อนงดงามบาดตาเกินนางฟ้าของตน ก็คงประมาณคุณแอบหลงรักแฟนเพื่อน รูปร่างหน้าตาเธอเย้ายวน แต่ห้ามแตะต้อง เท่านั้นไม่พอ เมื่อหันกลับมามองเมียคุณเอง ก็เจอแบบเตี้ยล่ำดำปี๋เหมือนกระปุกออมสินเก่าๆ อันนี้แหละคุณอาจถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ความทรมานใจในเรื่องพรรค์นี้มีเพียงใดบนโลกมนุษย์ ยังนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับความทรมานใจบนสรวงสวรรค์ เพราะคุณไม่มีทางลักลอบมีชู้โดยเจ้าของไม่ล่วงรู้ อีกอย่างเทวดาถือกำเนิดขึ้นด้วยมหาปีติ มหาโสมนัสในบุญกุศล จึงยากที่จะก่อเรื่องอัปยศอดสูประเภทลักกินขโมยกินได้ไหว

    เมื่อเกิดความกลัดกลุ้มริษยา เทวดาทำได้มากกว่าเอาแต่คิด พวกเขาทราบทางมาแห่งสวรรค์ มีสัญชาตญาณรู้ละเอียดกระทั่งว่าสมบัติชิ้นใดได้มาจากกรรมแบบไหน ถ้าไม่รู้ก็ถามเพื่อนที่รู้ เช่นว่าเพื่อนเคยทำอย่างไรมาถึงได้บ้านใสพร้อมเมียสวยเห็นปานนั้น เทวดาด้วยกันก็มักบอกเล่าโดยไม่เห็นความจำเป็นต้องปิดบัง เขาย่อมทราบว่าสมบัติทิพย์จะเกิดขึ้นได้นั้น ที่มาเดียวคือบุญอันสั่งสมไว้ชอบแล้วขณะเป็นมนุษย์

    บนสวรรค์นั้น แม้ริษยากันเพียงใดก็ซื้อหาเพิ่มเติมมาแข่งขันกันไม่ได้ เพราะการเป็นเทพคือภพที่เอาไว้เสวยวิบากตายตัวตั้งแต่ผุดเกิดจนแตกดับ โอกาสที่จะเพิ่มเติมบุญบารมีนั้นยากกว่ามนุษย์มาก เนื่องจากเทวดาต่างก็ไม่ต้องการการช่วยเหลือ ต่างมีสมบัติที่ผุดขึ้นให้ตนใช้เฉพาะตัว ดังนั้นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจึงไม่มี และเมื่อไม่มีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่มีที่ตั้งของการทำทาน ต่างฝ่ายต่างเสวยบุญของตนเป็นหลัก
    อีกประการหนึ่ง เมื่อสมบัติทิพย์เป็นสิทธิ์ขาดเฉพาะตน ก็ไม่จำเป็นต้องคิดแย่งชิงหรือฆ่าฟันกันให้เมื่อย เมื่อไม่มีเหตุบีบคั้นให้ทำบาป ก็ไม่ต้องตั้งใจรักษาศีล ๕ เมื่อไม่มีความยากลำบากในการรักษาศีล ๕ ทางมาแห่งบุญใหญ่ก็ถูกตัดไปอีกหนึ่ง

    อีกประการ แม้เทวดามีโอกาสทำบุญอยู่บ้าง เช่นไปฟังอริยเจ้าเทศนา หรือไปใส่บาตรพระธุดงค์กลางป่า แต่โดยทิพยสภาพนั้น ไม่เอื้อให้เหล่าเทวดานางฟ้าได้ใช้กำลังใจมากนัก คือเมื่อจะเดินทางไปฟังธรรมก็ไม่ต้องเตรียมตัว ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง แค่คิดอยากไป ตั้งใจไปจริงๆ แวบเดียวก็ถึงแล้ว หรืออย่างเมื่อคิดจะถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้าและพระอริยสาวก ก็เพียงเนรมิตอาหารอันเป็นรูปหยาบขึ้นมาด้วยฤทธิ์ทางใจ ไม่ต้องตระเตรียมหุงหา ไม่ต้องคิดว่ามีสตางค์พอจ่ายค่ากับข้าวเผื่อพระหรือเปล่า

    อันว่ากำลังใจในการทำบุญนั้น มีส่วนสำคัญยิ่ง ที่จะเป็นตัวกำหนดรัศมีแห่งบุญว่ามากหรือน้อย บนโลกมนุษย์เต็มไปด้วยข้อบีบคั้นให้ต้องคิดมาก อยากสละทรัพย์หรือสละแรงให้ใครแต่ละที อาจหมายถึงการชักเนื้อให้ตนเองมีน้อยลง ลำบากมากขึ้นได้ทั้งสิ้น ธรรมชาติแห่งบุญนั้น จะทวีสูงขึ้นเมื่อยอมมีน้อยลงเพื่อให้คนอื่นมีมากขึ้น ตลอดจนยอมตัวลำบากมากขึ้นเพื่อให้คนอื่นลำบากน้อยลง

    นี่แหละครับ ที่มาข้อแรกของการ กลั้นใจตาย แห่งเทวดา เขาจะกำหนดจิตอย่างแน่วแน่เพื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ยอมลืม ยอมไม่รู้ ยอมลำบาก ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาจากสวรรค์ไป ก็เพื่อมาทำบุญเพิ่ม รูปชีวิตของเขา นับแต่การได้มาเกิดกับพ่อแม่แบบหนึ่งๆ ตกอยู่ภายใต้ความกดดันแบบหนึ่งๆ จะสอดคล้องกับแรงอธิษฐานขอบำเพ็ญบารมีแบบนั้นๆก่อนสละสวรรค์

    พวกคุณบางคนเพิ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยเหตุคือหมดบุญ ช่วงต้นชีวิตอาจจะยังติดอยู่กับวิสัยทัศน์เทวดา อะไรๆดีหมด สบายหมด สุดท้ายก็โดนความเหลิงแบบมนุษย์เอาไปกิน แต่พวกคุณบางคนเพิ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยเหตุคืออยากบำเพ็ญบุญเพิ่ม ช่วงต้นชีวิตจะชมชอบเรื่องการทำทาน การรักษาศีล การไหว้พระสวดมนต์ โดยไม่ต้องมีใครขู่เข็ญบังคับ แค่เห็นแบบอย่างดีๆก็อยากเอาตามทันที และยิ่งโตขึ้นความตั้งใจจะยิ่งเด่นชัดอย่างประหลาด ตั้งใจทำแต่ความดี มีความผูกพันกับสวรรค์อย่างลึกซึ้ง แค่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเทวดานางฟ้าแล้วเกิดปีติอย่างใหญ่ราวกับสัมผัสทิพยสภาพได้ ที่สำคัญคือเคยอธิษฐานตั้งใจทำดีแบบใด แรงอธิษฐานนั้นจะแปรเป็นสัญญาณนำร่อง เกิดความอยากทำ และตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเทด้วยชีวิตจิตใจทั้งหมด
    ยกตัวอย่างเช่นเทวดาที่จุติด้วยแรงอธิษฐานอยากได้นางฟ้างามพิลาศทัดเทียมเพื่อน เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ก็จะแสวงหาหญิงที่ดี หรือพร้อมจะดี ไม่สนใจรูปร่างหน้าตามากนัก เพียงเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง และร่วมทำบุญแบบไปไหนไปกัน เท่าไหร่เท่ากัน จิตทั้งส่วนตื้นส่วนลึกจะมองเลยไปข้างหน้า เลื่อมใสในบุญ เชื่อในผลบุญ และไม่ไยดีกับฐานะทางโลกมากนัก ผลสุดท้ายเขากับเธอย่อมรักและผูกพันกันด้วยอำนาจบุญทั้งในชาติปัจจุบัน และไปครองวิมานร่วมกันอีกในปรโลก สมความปรารถนาแต่ดั้งเดิมของ เขา

    ๒) ทนรับฐานะต่ำต้อยของตนเองไม่ได้
    เทวดาบางองค์ต้องตกไปเป็นบริวารของเพื่อน เพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ต้องให้เพื่อนฉุดลากถูลู่ถูกังไปทำบุญ หรือต้องให้เพื่อนหว่านล้อมตะล่อมให้ศึกษาธรรม หรือต้องให้เพื่อนเกลี้ยกล่อมเป็นวรรคเป็นเวรกว่าจะยอมเลิกผิดศีลผิดธรรม เช่นนั้นจึงได้ชื่อว่าพึ่งบุญ พึ่งบารมีเพื่อน หาใช่เป็นเครดิตบุญบารมีของตนเองไม่

    แม้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์จะทำดี สั่งสมบุญไว้ไม่น้อย แต่ก็เป็นไปด้วยกำลังใจที่อ่อน ขาดเพื่อนพยุงเมื่อไรก็ดีดตัวออกจากวงจรบุญเมื่อนั้น ในที่สุดแม้จิตจะถึงสวรรค์ แต่ก็เป็นการถึงสวรรค์ตามเพื่อน เลยต้องไปอยู่ในวิมานของเพื่อนในฐานะบริวาร ไม่มีวิมานแสดงความเป็นเจ้าของบุญของตนเอง
    ถ้าคุณเคยสนิทสนมกับใคร ชนิดเล่นหัวกันได้ไม่ถือสา แล้ววันหนึ่งคุณต้องตกไปเป็นลูกน้องของเขา รับคำสั่งเขา เห็นเขาพูดจาวางฟอร์มเจ้านายกับคุณ คุณคงอยากลาออกจากงานไวๆ ซึ่งนั่นก็เช่นกัน การ กลั้นใจตาย ของเทวดาประเภทที่ตกไปเป็นบริวารเพื่อน คือวิธีหลบหน้าที่ดีที่สุด
    โดยมากเทวดาที่ลาสวรรค์ด้วยอาการทำนองนี้ จะไม่มีเจตนาที่แน่วแน่นัก อย่างมากแค่อยากไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อริเริ่มทำบุญด้วยตนเองบ้าง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นบุญประเภทไหน รู้แต่ว่าถือกำเนิดเกิดมาพร้อมกับความทระนง ไม่ชอบอยู่ใต้อาณัติใคร แตกเป็นแตก หักเป็นหัก พร้อมจะตบเท้าลาออกทันทีที่ไม่ชอบหน้าเจ้านาย

    บางทีโทสะและความอยากเป็นตัวของตัวเอง ก็แปรเป็นแรงผลักดันให้ทำบุญยิ่งใหญ่ได้เอง แต่หากจับพลัดจับผลู เข้าช่องความถือดีนำหน้า ก็อาจทำบุญแบบคนใจแคบ อยากเอาหน้าเอาตา และเผลอทำบาปประการต่างๆโดยมีความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นตัวบีบได้

    แต่ถ้าโชคดี เทวดาผู้เป็นเพื่อนยังเมตตาสอดส่อง ก็อาจได้เปรียบ คือใช้ชีวิตแบบมีเหล่าทวยเทพผู้เป็นเพื่อนเก่าคอยให้ความช่วยเหลือในรูปของแรงดลใจ หรือดลเหตุการณ์บางอย่างที่มีผลกับการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ เช่นถ้าจะตกลงร่วมมือกับโจร ก่อนหน้านั้นจะมีฝันเห็นความวิบัติของตนล่วงหน้าเป็นฉากๆ สมเหตุสมผล สมจริงสมจัง ตื่นขึ้นจึงเลิกคิดคบโจร หันมาคบปราชญ์แทน เป็นต้น

    ๓) พระโพธิสัตว์ปรารถนาจะบำเพ็ญบารมีต่อ
    พระโพธิสัตว์คือผู้ที่อยู่ในระหว่างการบำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ท่านจะรู้ด้วยอภิญญาจิตแบบเทวดา ว่าตนเองมีรัศมีแห่งโพธิญาณแก่กล้าเพียงใดแล้ว นั่นเป็นเหตุบันดาลใจให้ฮึกเหิม ไม่กลัวความลำบากในโลกมนุษย์ เสวยสวรรค์เพียงครู่เดียวก็ทุรนทุราย ใคร่อยากลงมาเป็นมนุษย์เพื่อเติมบารมีที่พร่องให้เต็มไวๆ

    พระโพธิสัตว์ประเภททิ้งความสุขบนสวรรค์มาลำบากในโลกมนุษย์ได้นั้น มักเป็นเทวดาชั้นดุสิต ซึ่งเป็นแหล่งรวมเทวดาผู้ใหญ่ ผู้พร้อมจะเสียสละตนเองเพื่อสรรพสัตว์ หรือไม่อีกทีก็เป็นพรหมซึ่งถือกำเนิดจากการบำเพ็ญเพียรเยี่ยงนักบวชผู้แผ่เมตตาได้ระดับอัปปมัญญา คือจิตใหญ่และแผ่กว้างได้ไม่มีประมาณ

    การตัดสินใจลงมาบำเพ็ญบารมีแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยและเหตุผลหลายๆอย่าง แต่โดยหลักก็คือ พระโพธิสัตว์จะลงมาด้วยความตั้งใจช่วยคน แต่การช่วยคนของพระโพธิสัตว์ก็มีเรื่องของมุมมองเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกท่านอาจเป็นพระเอกในหลายครั้ง แต่บางคราวเป็นวายร้ายอันดับหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปก็มี บุญใหญ่กับบาปหนักบางทีก็มาด้วยกันเหมือนเหรียญสองด้าน

    ๔) เห็นความไม่เที่ยง
    การเห็นความไม่เที่ยงบนสวรรค์นั้น ไม่อาจเกิดขึ้นขณะกำลังสนุกอยู่กับการเสพกาม อย่างน้อยต้องเคยบำเพ็ญเพียร เจริญวิปัสสนามาเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เห็นความเกิดดับ เห็นความไม่ตัวตนในรูปนามทั้งปวง กระทั่งจิตเกิดแรงดัน ปรารถนานิพพานแน่นอนแล้ว เพียงแต่อายุไม่ยืนพอจะบรรลุมรรคผล มีอันเป็นไปเสียก่อน

    มนุษย์เหล่านี้เมื่อตายลง แล้วไปอุบัติบนสวรรค์ ก็อาจตื่นเต้นในสภาพแวดล้อมใหม่ ตลอดจนยินดีในนางทิพย์และสมบัติทิพย์ได้บ้าง แต่หากแรงดันจากความปรารถนานิพพานที่สั่งสมมามีมากพอ ก็จะชนะความตื่นเต้นยินดีเสียได้ เห็นว่าภพแห่งเทวดาก็ยังมีน้ำตา และเกิดสัญชาตญาณรู้ขึ้นเองว่า ที่ใดมีน้ำตา ที่นั่นยังไม่สุขจริง

    เทวดาอื่นอาจเพ่งเล็งกามสุขชั้นเลิศ แต่เทวดาที่เอาวิปัสสนาญาณติดตัวมาด้วย จะเพ่งเล็งไปที่ความไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นไม่ควรวางใจ ไม่ควรฝากใจไว้ ใจจะน้อมไปสรรเสริญก็แต่การเข้าถึงมรรคผลเพื่อพ้นจากปวงทุกข์โศก พ้นจากความพรากจากแล้วๆเล่าๆไปเสีย

    หากวิปัสสนาญาณยังแจ่มจ้า เพราะเห็นความเกิดดับเข้ามาได้ถึงสภาพจิตเป็นขณะๆ เทวดาตนนั้นก็อาจบำเพ็ญเพียรต่อบนสวรรค์ได้เลย แต่หากวิปัสสนาญาณยังมีกำลังอ่อน ไม่อาจเอาชนะความยวนใจของทิพยสภาพได้ ท่านก็อาจตัดสินใจลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง พวกนี้เกิดเป็นมนุษย์อีกทีจะใกล้วัด ใกล้พระ ใกล้ธรรมขั้นสูงตั้งแต่เด็กๆ ต่อให้ใช้ชีวิตอย่างไร ในที่สุดโตขึ้นรู้ความก็ต้องเบื่อโลก เห็นความไร้แก่นสารของสรรพสิ่ง และอยากประพฤติธรรมเพื่อความหลุดพ้นสถานเดียวครับ


    -ดังตฤณ-

    ปล. ผมก็เป็นหนึ่งในพวกที่อธิษฐานมาเกิดก่อนกำหนด ผมเป็นตาม ข้อที่ 4 ครับ
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ผมว่า ไม่มีเทวดา พรหม องค์ไหน อยากเกิดหรอกครับ เพราะอะไรหรือ ก็เพราะ มนุษย์ ชั้นดีที่สุด ยังมีขี้เยี่ยว อยู่ ยังสู้เทวดา ชั้นต่ำไม่ได้เลย แล้วใครเล่า อยากจะเกิด เป็นคน เทวดา พรหม เขาไม่อยากเข้าใกล้ คนและสัตว์อยู่แล้ว เพราะคนและสัตว์ เหม็นเหมือน ซากศพ ( แต่ เทวดาและพรหม เขาชอบกลิ่นหอมของศิล) ไอ้ที่ต้องเกิด เพราะหมดบุญ หรือกลัวบุญหมด รีบลงมาต่อก่อน และยิ่งพระโพธิสัตว์ ต้องรีบจุติ เกิดบ่อย ๆ ก็เพราะเป็นเทวดา พรหม เขาไม่คิดให้ ต้องเกิดมาสร้างบารมีระหว่างคนกับสัตว์เท่านั้น ต้องขยันเกิดขยันตาย ระหว่างคนและสัตว์ ถ้าบารมียังไม่มาก พาดพรั้ง ก็ลงต่ำ


    และอีกอย่าง ตัวเราก็ได้เอาง่ายๆ แค่เกิดเป็นคนแม้ป่วยใกล้จะตายยังมิอยากตายเลย ยังหวงแหนร่างกายทั้งๆก็รู้ไม่ใช่เราของเรา ก้ยังหลงอยู่ทุกตัวคน แม้ผมเองก้เช่นกัน แล้วยิ่งเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม ใครบ้างอยากเกิด เพราะมีความสุขทุกอย่าง แต่เพราะมันไม่เที่ยง มันจึงต้องเครื่อนหรือจุติ จากภพชาติ นั้นๆ พระพุทธองค์ ถึงสอนให้เราไม่ยึดติด ในการเกิด อีก สัตว์คน เทวดา พรหม ท่านจึงสอน ให้ตัดกิเลส ไปนพพาน ถ้าไปไม่ถึง อย่างน้อยก็ให้ไปที่เทวดาหรือพรหม เพราะยังไงๆ ก็ดีกว่าเกิดมาเป้นคน ไม่รู้กี่ล้านเท่า

    ไปไหนก็เหาะไป แต่คนและสัตว์ แค่ทำมาหากินยังทนแทบไม่ได้เลย และคนที่สร้างบารมี ไปไม่ถึงเทวดา พรหม ก็ยังมีอย่างอื่นอีก ที่ทำให้ไปเกิดกันอีก เช่น พยาครุฑ พยานาค คนธรรย์ กินนร กินรี พวกบังบด เมืองลับแลต่างๆ พวกอสูร กรึ่งเทวดา กรึ่งอสูร ที่อยู่ใกล้กับมนุษย์ ที่เป็นสัตว์ไม่ต้องคิดแล้ว ทุกยิ่งกว่าคน ยังอยู่ในอบายภูมิ อยู่ อีก จะหนักขนาดไหน

    คนที่เบื่อร่างกายจริงๆเท่านั้นนั้นที่จะตัดกิเลส และไปนิพพานได้ คนเรานั้น เปรียบเสมือน นักแสดง อยู่ในละครโรงใหญ่ สังเกตุดูก็ได้ ทุกตัวคน ทุกวันมันแสดงละคร ไม่เคยซ้ำหน้า เดี๋ยวคิด เป็นนักบวช เดี๋ยวคิดเป็น พระเอก นางเอก ตัวร้าย ตัวโกง เป็นพ่อ เป็นแม่ มันแสดง ทุกบท ที่มันคิด แสดงบทดีก็ดีไป ถ้าแสดงบทไม่ดี ใจเราก้เป็นทุกข์ โลกนี้ เปรียบเหมือนโรงละคร โรงใหญ่ ที่ใครๆก็แสดงได้ทุกบท แต่ใครจะละทิ้งมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง หรือละมากหรือน้อย ก็อยู่ที่บารมีของแต่ละคนๆนั้นๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2012
  9. noom8a

    noom8a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +226
    อนุโมทนาครับ:cool:แล้วได้ยินว่ามีแต่เทวดาชั้นดุสิตเท่านั้นใช่ไม๊ครับที่สามารถอธิฐานจิตมาจุติได้โดยไม่จำกัดอายุแต่เทวดาชั้นอื่นต้องรอจุติหรือหมดบุญเอง
     
  10. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    เทวดาส่วนโลกไม่ค่อยเบื่อ ตามธรรมดาโลกเทวดา
    แต่ถ้าเทวดาได้ปฏิบัติวิปัสสนาญาณมามาก เมื่อครั้งอยู่โลกมนุษย์
    จักหลีกหนี ไปปฏิบัติ ณ ที่ดินแดนแห่งหนึ่งในสวรรค์ชั้นนั้น ๆ
    เพื่อพัฒนาจิตสู่ความเป็นอริยภูมิต่อไป

    คนที่รู้จักคนหนึ่งเขาเห็นตัวเอง สวมชุดพระนั่งเรียงกันเป็นชั้น ๆ บนเขา
     
  11. ฉัตรชัย พรหมแก

    ฉัตรชัย พรหมแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +590
    ลองตายแบบสมัครเล่นดูสัก 7 วัน ไม่ต้องกินเข้ากินน้ำ จะรู้ว่าตัวเองเบื่อจริงหรือเปล่า ถ้าอารมณ์เข้าถึงนิพพิทาญาญ ก็ไปเลย แต่ผมกลัวว่าจะไปนรกเสียก่อนนะซิ หากไม่ใช่พระอริยะบุคคลขั้นใดขั้นหนึงแล้ว โอกาสลงนรกสูง 1000 % เพราะก่อนตาย จิตกังวล หือ ห่วง หรือ กลัว แม้ นิดเดียว มีหนทางไป อยู่ 4 ทาง เปรต อสูรกาย สัตว์นรก และ เดรัจฉาน
    เพราะฉะนั้น ควรบำเพ็ญให้เข้าถึง อริยะก่อน แล้วค่อยตายก็ยังไม่สายนะครับ เหมือน คุณ บุญทรง ว่าเลี้บงมันไปก่อนเถอครับ
     
  12. Nine_09

    Nine_09 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +28
    เทวดาที่จุติลงมาก่อนหมดอายุขัยได้ มี่แต่พระโพธิสัตว์ที่อยู่บนดุสิตบุรีเท่านั้นครับ เทวดาชั้นอื่นไม่สามารถทำได้ ส่วนคุณถ้าขณะใกล้ตายไม่บรรลุอรหันต์ก็ทุคติภูมิครับเพราะการทำปาณาติบาตตัวเองเป็นกรรมหนัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...