เด็กจากดาวอังคารกลับชาติมาเกิดพร้อมเรื่องลึกลับ

Boriska (ชื่อของเด็กคนนี้)


เด็กชาวรัสเซีย อ้างว่า ชาติก่อนเคยอาศัยอยู่ในยุค
ที่อารยธรรมดาวอังคารยังคงรุ่งเรืองก่อนที่จะเกิด
สงครามมหาประลัย

Boris Kipriyanovich เป็นเด็กอินดิโก ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในรัสเซีย
หลังจาก Gennady Belimov อาจารย์มหาวิทยาลัยในภูมิภาค Volgograd ของรัสเซีย
ตั้งแต่ Boriska อายุเจ็ดขวบ เขาทำให้ผู้ใหญ่ตกตะลึงในระหว่างการเข้าค่ายพักแรม
เป็น เวลาชั่วโมงครึ่งที่ทุกคนเคลิบเคลิ้มกับการฟังบรรยายเรื่องราวชีวิตที่ผ่าน มาของเขาบนดาวอังคารและ Lemuria เขาได้เตือนถึงหายนะที่จะมีผลกระทบต่อโลกในปี 2009 และ 2013


อาจารย์ Belimov ได้เผยแพร่บันทึกคำสนทนาโดยลำพังของ Boriska
คำสนทนานี้ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วทั่วรัสเซียจนพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ชั้นนำของรัสเซีย
ถ้อยคำถูกแปลเป็นภาษาตะวันตกผ่านทางบทความ Pravda
เมื่อต่ออินเตอร์เน็ตก็จะมีบทความสั้นๆเกี่ยวกับเขาและมีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจ
ทางเอกสารของโครงการของเราในโครงการ Camelot ตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังรัสเซียเพื่อค้นหา Boriska
และจับพยานของเขาในกล้อง ดูเหมือนว่าพวกเราชาวตะวันตกคนแรกที่ได้ทำให้การเดินทาง

ในวันที่ 8 ตุลาคมเราได้สิทธิพิเศษในการสัมภาษณ์เขาด้วย
Nadya มารดาของเขาอาศัยอยู่ใกล้ๆกรุงมอสโก Nadya
ได้นำเขาไปเข้าโรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กปัญญาเลิศ
พวกเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นเล็กหลังหนึ่ง
พ่อเขายังไม่มาเนื่องด้วยติดประชุม -- Bill Ryan


เรามุ่งหน้าไปรับ Boriska และแม่ของเขาจากกรุงมอสโก ... เราฝ่าการจราจรไปหนึ่งชั่วโมง
ในที่สุดเราก็พบตัวอพาร์ทเม้นท์
เราใช้เวลาไม่กี่นาทีในลานจอดรถเมื่อเราสังเกตเห็นเจ้าหนู peeking gangly
รอบมุมของอาคารที่เรามา ... และ เดินดุ่มๆออกไปเมื่อเขาเห็นฉันกำลังมองหา
เขาสวมหมวกเบสบอลสีแดงไปข้างหลังและการแสดงออกเหมือนผีตัวเล็กซุกซน
ฉันพอจะสังกตุเห็นได้แม้ระยะทางจะไกล
หลังจากนั้นฉันคิดว่าพวกเขาจะต้องรู้จัก Boriska อย่างแน่นอน

.. และเมื่อแม่ของเขาปรากฏ เธอโบกมือให้เราไปพบกับเขา
เขาได้ทำงานอยู่ด้านหลังพาร์ทิชันและเห็นได้ชัดถึงความขี้อาย ...
ฉันได้เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็วไปทั่วมุมและทักทายด้วยรอยยิ้ม ...
บอกกับเขาเป็นภาษาอังกฤษว่าทุกอย่างจะโอเค
เขาจับมือของฉันและยิ้มหวาน ฉันรู้ว่าเราจะเป็นมิตรต่อกัน

ต่อมาในระหว่างการสัมภาษณ์,Boriska แสดงสัญญาณทั้งหมดของเด็กสาวเป็นวัยรุ่น,
ลังเลที่จะแสดงออกมากกว่ามีความจำเป็นอย่าง .
เขาโบกมือออกไปแสดงรายละเอียดตามสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับในตอนเด็กของเขา
สภาพจิตใจของเขาต่อสิ่งอื่นๆ ชีวิตนี้ได้ยึดไว้
แววตาของเขาไม่สดใสเมื่อเขากล่าวถึงความทรงจำในอดีตของชีวิตที่ผ่านมาของเขา
บนดาวอังคารหรือแม้กระทั่ง Lemuria

แม้เขาดูมีเสน่ห์แต่บุคคลิกภาพโดยทั่วไปก็เหมือนเด็กตัวเล็กๆ
ที่ชอบซุกซนเขาอดทนที่จะตอบคำถามและให้การปฏิบัติต่อเรา
ตาของเขา เลื่อนลอย และจินตนาการของเขาเร่งเร้าค้นหาสิ่งกระตุ้น
ให้มากขึ้นกว่าห้องเล็ก ๆ นี้ ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยใหญ่หนาตากับผู้ใหญ่และกล้อง ...
เขา อยากที่จะหลบหนีไปเล่นเกมส์ที่เขาชอบเล่นเช่นแมว Avatar ส่วนหนึ่งและส่วนหนึ่ง superman ...

เขารู้สึกเบื่อกับเรา! แต่ตั้งใจจริงและสุภาพกับความผิด ..
มันดูเหมือนเป็นผิดปกติสำหรับเด็กผู้ชายวัย 11ปี
เขาพูดเกี่ยวกับสงครามที่ทำให้เกิดการสิ้นสุดของอารยธรรมดาวอังคาร,
เขาเผยถึงวิธีการที่พวกเขาพยายามที่จะเปิดดาวพฤหัสบดีเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่ 2 ...
กับบางสิ่งที่จุดประสงค์ไม่ชัดเจน
เขารู้สึกประหลาดใจในวิธีการอ่อนน้อมถ่อมตนมากที่สุดในการเรียนรู้
ว่าความเป็นเพื่อนของอาจารย์ Vladislav Lugovenko
เขาจำได้ดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ Boris tapped
ในเหตุการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นระหว่างทางกลับบ้านของเขาในรถไฟใต้ดิน


เมื่อเขากลับบ้าน Boris ถามเขาเกี่ยวกับนักเลงที่วิ่งเข้าหาและข่มขู่เขา ....
เมื่ออาจารย์ได้กล่าวว่าไม่มีอะไร "คุณกำลัง telepath"ผมบอกเขาว่า "ไม่เลย"...
เขากล่าวอย่างถ่อมตัวตอบ ...

ด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ,ฉลาดเกินกว่าวัยของเขามีความสุขุมรอบคอบและละเอียดอ่อน
เมื่อถามถึงว่าเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับมนุษย์บนโลกนี้ เขาเงียบ ๆ
แล้วถอนหายใจ แล้วกล่าวว่าเขา"ไม่ชอบที่จะพูดไม่ดีเกี่ยวกับมนุษย์บนโลก"นี้

สิ่งที่เขาพูดกล่าวมาทั้งหมด เขาอาจจะเห็นอะไรจริงๆ
ด้วยสายตาที่ชัดเจนอย่างน่าพิศวงเหล่านั้นหรือไม่
เวลานี้ยังมีไม่มากในการสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่เป็นการสำรวจของสถานที่และเวลาที่นี้
อายุ 11 ปีเด็กชายพบว่าตัวเองมีบางอย่างที่น่าแปลกใจ

เขาพูดถึงอนาคตของน้ำท่วมมาถึงกรุงมอสโกในปี 2009
เรื่องหลักความจริง ของ ... เขาจะอยู่รอดหรือไม่?
แม่ของเขาจะเป็นยังไง? เขา shrugs ...



การพบกันเป็นครั้งที่สองทำให้เราต้องทึ่งกับการพูดจาของเด็กชาย
ที่ฟังดูโตเกินกว่าเด็กๆในวัยเดียวกัน เขามักจะใช้ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะ
และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดาวอังคารและโลกที่เขา
อ้างว่ามีประสบการณ์มา ทำให้ยิ่งทวีความน่าสนใจมากขึ้น

"ทำไมเขาจึงเริ่มพูดในเรื่องพวกนี้ และครั้งแรกที่ไหน"ผู้สัมภาษณ์เริ่มถาม
"และบางทีเขาอาจถูกจับโกหกได้ง่ายๆโดยบรรดาคนของเราที่มีความรู้และรอบด้านมาก"
เธอกล่าวต่อ

"เขาสามารถสร้างเรื่องทั้งหมดนี้ได้หรือไม่"

"ไม่น่าจะ" เพื่อนของฉันกล่าวคัดค้าน

" "สำหรับผมนี้ดูเหมือนเด็กมีลักษณะการเล่าที่มีจากความทรงจำส่วนตัวของเขาจาก
การเกิดในชาติที่แล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เรื่องราวดังกล่าว
ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มีความรู้เชื่อตาม".




วันนี้หลังการพบปะกับผู้ปกครองของ Boris และเพื่อทำความรู้จักกับเด็กให้ดีขึ้น
ฉันจะเริ่มต้นอย่างรอบคอบเช็คทุกข้อมูลที่ได้รับจากการค้นหามา
เขาเกิดในเมือง Volzhskii ในโรงพยาบาลชานเมืองในทางด้านเอกสาร
แต่บ้านเกิดของเขาเป็นเมือง Zhirnovsk ของเขต Volgograd
วันเกิดของเขาคือ 11 มกราคม 1996
(บางทีมันอาจจะมีประโยชน์สำหรับโหราศาสตร์)


พ่อแม่ ของเขาดูเหมือนจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยม Nadezhda แม่ของ Boriska
เป็นแพทย์ผิวหนังที่คลินิกรัฐ จบการศึกษาจากสถาบันการแพทย์ Volgograd
ได้ไม่นานในปี 1991 พ่อของเด็กเป็นข้าราชการเกษียณอายุ
พวกเขาทั้งสองจะมีความสุขถ้ามีคนสามารถคุยในเรื่องที่เป็นความลึกลับของลูกชาย
ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สังเกตเห็นเขาและเลี้ยงดูเขาให้เติบโตไปเรื่อยๆ


หลังจาก Boriska เกิด ฉันสังเกตเห็นว่าเขาสามารถบังคับหัวของเขาได้ใน 15 วัน,
การเรียก Nadezhda แม่ของเขาเป็น คำแรกว่า"บาบา"
เมื่อเขามีอ่ยุได้ 4 เดือนและจากนั้นไม่นานก็เริ่มพูดคุยได้
และ 7 เดือน เริ่มพูดเป็นประโยคแรกของเขาว่า"ผมต้องการหอยทาก "
เขากล่าวว่าวลีนี้โดยเฉพาะหลังจากที่สังเกตเห็นหอยทากติดอยู่ในผนัง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความสามารถทางปัญญาที่เกินวัยของเขา เอง

- ความสามารถพิเศษเหล่านี้เริ่มปรากฏให้พ่อแม่เขารู้สึกได้เมื่อไหร่

- เมื่อบอริสมีอายุเพียงหนึ่งขวบ ฉันเริ่มให้เขาอ่านตัวอักษร (ภาษา Nikitin)
ให้ทายว่าคือตัวอักษรอะไร,


1 ขวบครึ่ง เขาสามารถอ่านข้อความพาดหัวของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่
และใช้เวลาไม่นานสำหรับเขาที่จะทำความรู้จักกับสีและเฉดสีต่างๆ
และเขาเริ่มระบายสีตอนสองขวบ

จากนั้นเมื่อเขา 2 ขวบ เราพาเขาไปยังศูนย์ดูแลเด็ก
ครูทุกคนตะลึงในความสามารถและลักษณะผิดปกติของเขา
การคิดของเขา เด็กชายผู้มีความจำที่ดีและความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ เรียนรู้ได้เร็ว

แต่พ่อแม่ของเขาก็พบว่าเด็กของพวกเขาควรได้รับการดเรียนรู้
ที่เป็นเฉพาะทางของตัวเด็กเองจากสถานที่อื่นบาง ...

- ไม่มีใครเคยสอนเขาเลย ให้เรียกแม่เขาว่า Nadya
แต่ บางครั้งเขาจะนั่งในตำแหน่งดอกบัวและเริ่มต้นพูดถึงสิ่งเหล่านี้
เขาจะพูดคุยเกี่ยวกับดาวอังคารเกี่ยวกับระบบดาวเคราะห์,

อารยธรรมที่อยู่ห่างไกล ... เราไม่อยากจะเชื่อหูของเราเอง
เด็กสามารถรู้ว่าเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร จักรวาล,
เรื่องราวที่ไม่รู้จบของโลกอื่น ๆ และท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่
ราวกับเขามีเวทมนต์ตั้งแต่เขาอายุ 2 ขวบ

หลังจากนั้น Boriska ก็บอกเราเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้าของเขาบนดาวอังคาร
เกี่ยวกับความจริงที่ว่าดาวเคราะห์สีแดงนั้นเคยเป็นที่อยู่อาศัยจริง
แต่เป็นเพราะมหาภัยพิบัติที่มีความรุนแรงมากที่สุดและได้ทำลาย
จนสูญเสียชั้น บรรยากาศ และว่าในปัจจุบันชาวดาวอังคารทั้งหมดจะอยู่ในเมืองใต้ดิน
ต่อมาพวกเขาก็เคยใช้ยานอวกาศบินมายังโลกค่อนข้างบ่อยเพื่อการค้าแลก
เปลี่ยนและใช้ในวัตถุประสงค์การวิจัยอื่น ๆ

เขาเล่าราวกับว่าเป็นผู้ขับยานบินของเขาด้วยตัวเอง
ซึ่งอยู่ในสมัยที่โลกปกครองโดยอารยธรรม Lemurian(แผ่นดินในมหาสมุทรแปซิฟิก)
ซึ่งเขามีเพื่อนชาว Lemurian ที่ได้ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาของเขา ...

- และภัยพิบัติครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในโลกยุคนั้น ทวีปขนาดยักษ์ถูกคลื่นยักษ์กลืนกิน
แล้วทันใดนั้นก็มีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาทับเขาในระหว่างก่อสร้าง ...
ซึ่งนั่นก็คือเพื่อนของเขา , Boriska บอก
ผมไม่สามารถช่วยเขาได้ เราหวังว่าจะได้มาพบเจอกันในชาตินี้

เด็กชาย ถ่ายทอดเรื่องราวของโลกในยุค Lemuria ราวกับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
เขาพูดถึงการตายของเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาราวกับว่ามันเป็นความผิดของเขา



วันหนึ่งเขาสังเกตเห็นหนังสือในกระเป๋าแม่ของเขาเรื่อง"เรามาจากไหนที่ไหน"
โดยเอินส์ท มัลดาเชฟ ผู้ซึ่งมีความสุขและความหลงใหลในการค้นพบเด็กชายตัวเล็กๆ
ซึ่งกำลังเปิดอ่านหนังสือหลายชั่วโมง
การดูภาพที่สเก็ตช์ของชาว Lemurians ภาพถ่ายของทิเบต
แล้วเขาก็เริ่มพูดถึงสติปัญญาชั้นสูงของชาวLemurians ...

- แต่อารยธรรม Lemuria สิ้นสุดไปเมื่อ 800 000 ปีมาแล้ว ... ,
ชาวLemurians มีความสูง 9 เมตร! ? เขาจำเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร

- ผมจำได้จริงๆ เด็กชายตอบ

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มอ่านหนังสือเล่มอื่นๆของ Muldashev
"ในการค้นหาของเมืองแห่งเทพเจ้า."
หนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงสุสานเก่าแก่และปิรามิด
Boriska ช่วยยืนยันข้อความในหนังสือว่า ผู้คนจะพากันพบความรู้ภายใต้ปิรามิดหนึ่ง
(น่าจะเป็นคัมภีร์มรกตแห่งโธท) มันยังไม่ได้รับการค้นพบ
"ชีวิตจะเปลี่ยนไปเมื่อสฟิงซ์จะถูกเปิด(คัมภีร์มรกตของโธทถูกพบใต้สฟิงค์)
" เขากล่าวเสริมว่ามหาสฟิงซ์มีกลไกการเปิดอยู่ตรงไหนสักแห่ง (แต่เขาจำไม่ได้)
(การที่ชีวิตเปลี่ยนไปนั่นหมายถึงมนุษย์ย่อมเปลี่ยนวิธีคิดด้วย
การลุกขึ้นมาต่อต้านผู้มีสัญลักษณ์ปิรามิดเพราะเหตุนี้ - ผู้แปล)


เด็กชายยังมีพูดถึงความรักที่ยิ่งใหญ่อย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับอารยธรรมมายัน
ตามเขากล่าวมา ทำให้คิดว่าเรายังรู้น้อยมาก
เกี่ยวกับอารยธรรมอันยิ่งใหญ่นี้และพลเมืองของเขา

และที่น่าสนใจมากที่สุด Boriska คิดว่าปัจจุบันได้เวลาในการมาของ"บุรุษสำคัญผู้หนึ่ง"
ที่จะมาเกิดในโลก
การเกิดใหม่ของโลกใกล้เข้ามา องค์ความรู้ใหม่จะอยู่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง,
ความคิดที่แตกต่างทางด้านจิตใจจากโลกปัจจุบัน

เธอรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเด็กมีความสามารถพิเศษเหล่านี้และทำไมมันจึงเกิดขึ้นได้
เธอกลัวไหมที่จะถูกเรียกว่า
เด็กพิเศษ(เด็กอินดิโก้)?

- ผมรู้ว่าพวกเขากำลังมาเกิด แต่ผมยังไม่เคยเจอพวกเขาในเมืองนี้
บางทีอาจจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่อ Yulia Petrova เธอเป็นคนเดียวที่เชื่อผม
เด็กคนอื่นๆก็จะหัวเราะเยาะในเรื่องราวของผม

บางสิ่งที่จะเกิด ขึ้นในโลกใบนี้ ;
นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเด็กเหล่านี้จึงมีความสำคัญ พวกเขาจะสามารถช่วยผู้คนได้
แกนโลกจะเปลี่ยน ภัยพิบัติใหญ่ครั้งแรกจะเกิดกับทวีปหนึ่งในปี 2009
และต่อไปจะเกิดขึ้นใน 2013 มันจะทำลายล้างมากยิ่งขึ้น


เธอไม่กลัวเหรอว่าชีวิตของเธออาจจะไปสิ้นสุดเพราะผลจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น?
(หมายถึงจึงกลับมาเกิดในยุคนี้)

- ไม่ ผมไม่กลัว ผมมีชีวิตที่ผ่านภัยพิบัติบนดาวอังคารมาแล้ว
และที่นั่นยังคงเป็นที่อาศัยของคนเช่นเดียวกับเรา แต่หลังจากสงครามนิวเคลียร์
ทุกอย่างถูกเผาผลาญ คนเหล่านั้นต่างมีวิธีเพื่อความอยู่รอด พวกเขาสร้างที่พักอาศัย,
อาวุธใหม่ และยังมีการเปลี่ยนแปลงของทวีปก็มี แม้ทวีปจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก
ชาวดาวอังคารหายใจเอาก๊าซชนิดหนึ่ง ในกรณีที่พวกเขาเดินทางมาถึงโลกของเรา
ก็จะมีการยืนติดกับท่อและการมีอากาศ หายใจจากท่อนั้น


คุณหมายถึงหายใจเอาก๊าซออกซิเจน?
- เมื่อคุณอยู่ในร่างกายนี้คุณต้องหายใจเอาออกซิเจน
แต่ชาวดาวอังคารไม่ชอบอากาศนี้ อากาศของโลกเพราะ

มันทำให้พวกเขาแก่เร็วขึ้น ชาวดาวอังคารจะมีอายุประมาณ 30-35 ปี
จำนวนประชากรชาวดาวอังคาร จะเพิ่มขึ้นเป็นประจำทุกปี

- Boris, ทำไมสถานีอวกาศของเราถึงพังก่อนที่จะถึงดาวอังคาร?
- ดาวอังคารส่งสัญญาณพิเศษเพื่อทำลายมัน สถานีเหล่านั้นมีรังสีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขา

ผมต้องประหลาดใจในความรู้ของเขาเกี่ยวกับเรื่องรังสี "Fabos" นี้
ซึ่งเป็นจริงอย่างแน่นอน ย้อนกลับไปในปี 1988 ที่เมือง Volzhsky ยูริ ลุชนิเชนโก,
คนที่มีพลังสัมผัสพิเศษ พยายามที่จะเตือนผู้นำโซเวียตเกี่ยวกับการพังของสถานีอวกาศโซเวียต
สองลำแรก คือ "Fobos 1"และ"Fobos 2"
นอกจากนี้เขายังกล่าวถึง"ความไม่คุ้นเคย"
และเป็นอันตรายสำหรับการฉายรังสีไป ยังดาวเคราะห์ แน่นอนไม่มีใครเชื่อเขา

เธอรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของมิติมั๊ย?
คุณรู้ใช่ไหมว่าเราไม่ควรบินเป็นทางตรง แต่อาศัยการผ่านประตูมิติ?

Boriska ลุกขึ้นยืนทันทีและเริ่มเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับยูเอฟโอ
"เราได้ขึ้นบินและลงจอดสู่พื้นบนโลกเกือบในทันที!"
เด็กชายหยิบชอล์คและเริ่มวาดภาพวัตถุวงรีบนกระดานดำ
"มันประกอบด้วยหกชั้น" เขากล่าวว่า
25% ชั้นนอกทำจากโลหะทนทาน,
30% ชั้นที่สองที่ทำจากสิ่งที่คล้ายกับยาง,
ชั้นที่สามประกอบด้วย 30% โลหะอีกครั้ง
4% สุดท้ายประกอบด้วยแม่เหล็กชั้นพิเศษ


"ถ้าเราชาร์จพลังงานแม่เหล็กกับเครื่องเหล่านั้นจะสามารถบินได้ทุกที่ในจักรวาล."

- Boriska มีภารกิจพิเศษที่ต้องทำหรือไม่?
เขาได้ตระหนักถึงมันมั๊ย ?
ฉันตั้งคำถามเหล่านี้เพื่อถามพ่อแม่ของเขาและตัวเด็กชายเอง

- เขากล่าวว่าเขาสามารถคาดเดาได้,
แม่ของเขาบอก เขาบอกว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับอนาคตของโลก
เขากล่าวว่าผมรู้ว่าจะได้เล่นบทบาทที่สำคัญที่สุดในอนาคต ...

บอริส, เธอรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไร

- มันอยู่ข้างในสมองของผม

- Boris, ช่วยบอกเหตุผลที่ทำคนไม่สบาย?

- การเจ็บป่วยเกิดมาจากการไม่ใช้ชีวิตของผู้คนให้อยู่อย่างถูกต้องและมีความสุข
คุณต้องได้รับครึ่งหนึ่งของพลังงานจักรวาล
คุณไม่ควรไปก้าวก่ายและไปลบล้างความต้องการของคนอื่นๆ
ผู้คนไม่ควรทุกข์เพราะความผิดพลาดที่ผ่านมาของพวกเขา
แต่ควรพยายามทำสิ่งที่ถูกตั้งไว้สำหรับภารกิจของพวกเขา
และพยายามที่จะเข้าถึงสิ่งสูงสุดเหล่านั้นและไปเพื่อพิชิตฝันของพวกเขา
(คำเหล่านี้เป็นคำพูดที่เขาใช้ทั้งหมด)

คุณต้องได้รับการเพิ่มเติมกำลังใจและความอบอุ่น
ในกรณีที่มีคนต่อต้านคุณกอดศัตรูของคุณเสีย ขอโทษตัวคุณเองและเขา
ในกรณีที่มีคนเกลียดคุณ รักเขาเสียด้วยความรักทั้งหมดที่คุณมี
และความจงรักภักดีและขอขมาต่อเขา
เหล่านี้เป็นกฎแห่งความรักและความอ่อนน้อมถ่อมตน
คุณรู้หรือไม่ว่าทำไม ชาวLemurians ตาย?

นอกจากนี้ผมต้องติอยู่อย่าง พวกเขาไม่ต้องการพัฒนาจิตวิญญาณมากกว่านี้อีก
พวกเขาหลงผิดไปจากเส้นทางที่ตั้งไว้จึงถูกทำลายโลกส่วนรวมทั้งหมด
เส้นทางของพลังวิเศษคือการนำไปสู่การหยุดตาย(หยุดเวียนว่ายตายเกิด)
และ รักคือ พลังวิเศษที่แท้จริง!

สิ่งที่ต้องทำทั้งหมดนี้เธอรู้ได้อย่างไร?

- ผมรู้ ... Kailis ...

- เธอพูดว่าอะไร?

- ผม กล่าวว่า"สวัสดีครับ"นี่เป็นภาษาของดาวเคราะห์ของผม ... (Kailis)




<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/y7Xcn436tyI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

แปลโดย:
Boriska : ชาติที่แล้วผมอยู่บนดาวอังคาร
_______________



ที่มา: เรื่องลึกลับจากทั่วโลก mystery world: เด็กจากดาวอังคารกลับชาติมาเกิดพร้อมเรื่องลึกลับ

 

ขอบคุณคับ

 

ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่นำเสนอเรื่องดีๆให้อ่านกัน

 

ยังงี่ต้องเจอกับพ่อปลาบู่ หรือหมอดูอีที ที่เรื่องจริงผ่านจออุตส่าห์ถ่อสังขารไปสัมภาษณ์มา เรื่องภัยพิบัติต่างๆในโลก พูดถึงปี 2012 กันมาก พอจะสิ้นปีแล้ว ไม่เห็นจะมีอะไร ก็โบ๊ยไปปี2013 โบ๊ย...ไปเรื่อยๆยังไงก็ตัองถูกสักปี(สิน่า) เพราะเรื่องภัยพิบัติช้าเร็วก็ต้องเกิด เป็นเรื่องธรรมชาติสมัยยังไม่มีมนุษย์มันก็เคยเกิดยิ่งกว่าเรารู้ซะอีก...นี่คือยุคเกลื่อนกลาดศาสดา..บุรุษจอมปลอม และสตรีที่แอบอ้างตัวว่ามีความสามารถเหนือมนุษย์ดาษดื่น..ทั้งออกทีวีว่าเป็นร่างแห่งกวนอู บ้างก็ว่าแก้กรรม...ถ้ากรรมชั่วแก้ได้แล้วไซร้ กรรมดีจะอยู่ได้อย่างไรเล่า555....นี่คือยุค แห่งเรื่องราวจอมปลอมที่จะผลุดขึ้นมาลวงโลกทุกวี่ทุกวัน หลอกมนุษย์ขี้ตระหนกวิตกจริตไปวันๆ ดังวลีที่ว่า
"สัปปุรุษจะแพ้แก่ทรชน มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์ ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันน้อยจะถอยจม"
ยุคคนชั่วครองเมือง เดียรถึร์เกลื่อนกลาด ขึ้นเป็นใหญ่ ผู้คนโง่เขลาเบาปัญญาง่อยเปลี้ยเสียขา หากินเองไม่เป็น ร้องแรกแหกปากขอความช่วยเหลือตลอด...555

 

ขอบคุณมากค่ะที่นำมาให้อ่าน สิ่งที่เราได้จากเรื่อราวนี้ ก็คือ การให้อภัย เมตตา ต่อกัน และจิต ที่ต้องฝึกอยู่เสมอ ให้เดินไปในทางที่ถูกต้อง จนกว่าจะไม่เกิดอีก หลุดพ้นจาก การเวียนว่ายตายเกิด อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

 

อ้างอิง.. จุไรท่องดวงดาว
ดาวอาทิตย์(ไปไม่ได้ ร้อนมาก) จันทร์ และ อังคาร(มีคนไปถึงแล้ว) เสาร์ ไม่มีสิ่งที่มีชีวิต
ดาวพุธ(ด้านหลัง) พฤหัส ศุกร์ ดาวจามร(ดี) ดาวสูตู(ไม่ดี) มีสิ่งที่มีชีวิต(แต่คนยังไปไม่ถึง)

..........................................................................................................................................

บางสิ่งที่จะเกิด ขึ้นในโลกใบนี้ ;
นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเด็กเหล่านี้จึงมีความสำคัญ พวกเขาจะสามารถช่วยผู้คนได้
แกนโลกจะเปลี่ยน ภัยพิบัติใหญ่ครั้งแรกจะเกิดกับทวีปหนึ่งในปี 2009
และต่อไปจะเกิดขึ้นใน 2013 มันจะทำลายล้างมากยิ่งขึ้น

ปี 2013 ยังมาไม่ถึง
กล่าวลักษณะนี้ ต้องมีกำลังฌาน และ ญาณ เท่านั้น จึงจะสามารถหยั่งรู้ได้จริง(ปฏิบัติได้)
หากไม่มีฌาน และญาน ก็จะเป็นการย้อนเวลาได้ จึงเห็นโลกอนาคตได้(ซึ่งยากมาก)

2012 - 2013 ที่น่าห่วง ก็อาจจะมี สงครามจากกิเลสคนบนโลก(โลภ โกรธ หลง)
ซะมากกว่า.. คือ อาจจะก่อให้เกิด ภัยสงครามศาสนา....
หากเกิดขึ้นจริง ก็น่าที่จะมีความสูญเสียชีวิตที่รุนแรงกว่า สงครามโลก 1+2 ซะอีก
กรรม....

...........................................................................................................................................

ไม่ต้องเชื่อนะครับ.. เพราะว่า เหตการณ์ยังไม่เกิดขึ้นจริง
แต่ ก็ไม่พึงประมาทจนเกินไป.. ระแวด ระวัง ไว้บ้าง ก็ไม่น่าที่จะเสียหาย.. ใช่ไหมครับ

...........................................................................................................................................

 

พุทธพยากรณ์โลก

โดย องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=897

ที่มา - จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับพิเศษ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

"คลิก" ฟังเสียงของท่านทั้งหมดได้ที่นี่

1. เหตุแผ่นดินไหว คลิกที่นี่

2. โพรงดินในเมืองไทย คลิกที่นี่

3. พุทธพยากรณ์ 1 คลิกที่นี่

4. พุทธพยากรณ์ 2 คลิกที่นี่

5. ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี คลิกที่นี่<!-- google_ad_section_end -->

...................................................................................................................................................................

เนื่องด้วยคำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯวัดท่าซุง)
กล่าวไว้อันเกี่ยวกับเรื่องของสงครามศาสนาที่อาจจะพึงบังเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ในทำนองว่า....

เหตุและวิถีทางแห่งสงคราม
ที่จะเกิดขึ้นนั้นหรือไม่เกิดขึ้น (ปี 2555 / 2556) ก็เป็นไปตามกรรมใครก็บังคับไม่ได้

หากสงครามไม่เกิดขึ้นก็จะดียิ่ง..
แต่หากว่าจะเกิดขึ้นพวกเราก็ไม่พึงประมาท
ควรเตรียมการระมัดระวังเภทภัย

อันที่จะสามารถบรรเทาได้เหมือนกับผลของการสะเดาะเคราะห์คือตายเป็นบาดเจ็บ / เจ็บมากเป็นเจ็บน้อย / เจ็บน้อยเป็นแค่ตกใจ / ตกใจเหลือเพียงแค่การกล่าวเตือน

เท่าที่ได้รับฟังมาพอสรุปได้ว่า เหตุการณ์จะอาจจะเกิดขึ้นตามลำดับดังนี้..
(อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้)

1. หากอิสลามรวมตัวกันเป็นหนึ่งประกาศเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์สู้กับคริสต์
ก็แสดงว่าสงครามคงต้องเกิดขึ้นและจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ

2. หากว่าประเทศฝรั่งเศสโดนบุก.. ให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

3. ศิษย์ฯถามองค์หลวงพ่อฯว่าหากเกิดสงครามขึ้น.. คนไทยที่อยู่อเมริกาควรจะทำอย่างไรกัน

องค์หลวงพ่อฯบอกว่าถ้ามันยุ่งๆให้เข้าวอชิงตัน.. ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรที่จะรุนแรง..
แต่หากเมื่อพิจารณาให้ดีว่าอีก 51 รัฐของอเมริกาทำไมองค์หลวงพ่อฯไม่แนะนำให้เข้าไปอยู่ล่ะ..จะรุนแรงไหม

4. ประเทศไทยก็มีส่วนที่ต้องเสียหายบ้างแต่ก็ดีกว่าประเทศอื่นๆท่านฯเปรียบเทียบว่าหมากัดกันหน้าบ้านเราหญ้าแพรกก็แหลกบ้างเป็นธรรมดา (ทั้ง2 ศาสนาที่มีในไทย)โดยเฉพาะ4 จว. ภาคใต้

5. เมื่อเกิดสงคราม มหาอำนาจ เขาจะมาตั้งฐานทัพในประเทศไทย
เราเป็นประเทศเล็ก ๆ แม้ว่า เราไม่พอใจ เราก็ห้ามเขาไม่ได้
หลัก ๆ ก็ ดอนเมือง สัตหีบ อุดรธานี.. ตรงไหนมีอเมริกันชน ก็อาจจะมีการถูกโจมตี

6. ของที่พระพุทธเจ้าให้ไว้สามารถปกป้องกันภัยได้จริง“พระคำข้าวองค์เดียวแลกบ้านแลกรถ”

7. ให้ระวังจรวดที่จะมาทางน้ำหรือทางบกโรงงานอุตสาหกรรมอาจจะมีความเสียหายได้

8. เขารบกันไม่มีเวลาทำมาหากินดังนั้นเราจะสามารถขายสินค้าทางการเกษตรได้ดีราคาแพง

9. ชาวนาที่ขายที่ดินไม่ได้ก็จะดีใจเพราะสินค้าทางการเกษตรจะแพงมาก (ในหลวงก็ทรงปูพื้นฐานเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง) ชาวนาที่ไม่เคยมีเงินแสนก็จะมีเงินแสน (ตรงนี้น่าจะเป็นนัยยะที่สำคัญ)

เท่าที่สังเกตดูเดี๋ยวนี้ชาวนาเขาก็ขายข้าวได้เกินแสนกันอยู่แล้ว..
นัยยะตรงนี้ท่านฯ คงจะสื่อถึงว่า อาจะได้กินข้าว“เกวียนละแสน” กันบ้างละครับ
(เดาเองท่านไม่ได้พูดตรงๆ)

10. สมณะชีพราหมณ์ประชาชนล้มตายอย่างละครึ่ง สงครามจึงจะเลิกลา
(คริสต์ในโลก ประมาณ 1,800 ล้านคน / อิสลาม ประมาณ 2,400 ล้านคน)
ศาสนาที่เขารบกัน ต่างก็สวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าของเขา แต่ก็ช่วยไม่ได้ ศาสนาก็จะเสื่อมสลายไป..
สงคราม จะจบตรงไหน.. อาวุธ อะไร ที่จะทำให้เกิดความสูญเสีย มีความตายได้มากขนาดนั้น
(ลองอ่านหนังสือ จุไรท่องดวงดาว ตอนที่ไป ดาวอังคาร มีประเทศที่ได้นำแร่อันตรายมาด้วย)

11. พวกเราที่เห็นการตายกันมากมายไม่ทราบว่าความตายจะเข้าถึงตัวเราเมื่อไรก็ได้เกิดความเบื่อหน่ายในทุกข์พากันเร่งรัดปฏิบัติพระกรรมฐานกันมากขึ้นทำให้เกิดความเจริญในธรรมกันมากยิ่งขึ้น.. พระพุทธศาสนาจึงจะเจริญขึ้นฝ่ายเดียว

เพื่อความไม่ประมาทในการดำรงชีวิตจนเกินไป

1.เราพึงปฏิบัติพระกรรมฐานให้เป็นปกติทุกวันไม่ควรว่างเว้นจากทานศีลและภาวนา

2.จัดหาสมบัติพ่อให้คือสิ่งอันเป็นยอดมงคลที่องค์หลวงพ่อฯทำพิธีพุทธาภิเษกโดยที่ท่านฯก็บอกว่าท่านฯนั่งเฉยๆเรื่องพุทธาภิเษกเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าพระองค์ท่านเป็นผู้ทำพิธีเอง

จึงตรงกับที่องค์หลวงพ่อฯกล่าวไว้ว่า..ของที่พระพุทธเจ้าทำให้ไว้สามารถปกป้องกันภัยได้จริง
พวกเราจึงพึงมีสมบัติพ่อให้กันไว้เพื่อเป็นสรณะเป็นเครื่องป้องกันภัยให้ตัวเราและคนที่เรารัก
ยังพอหาเช่าบูชากันได้ในราคาที่ยังไม่แพงเกินไป

3.องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงตรัสไว้ว่า..
ทิฆัจฉาปะระมะโรคา..โรคหิวเป็นโรคอย่างยอด
ถ้าเราไม่หิวก็ไม่ต้องกินข้าวก็จะไม่เกิดกิเลสมากขึ้น..
ถ้ากำลังหิวอยู่ธรรมะก็ไม่สามารถปฏิบัติให้มีความก้าวหน้าขึ้นได้..
ความหิวส่งผลก่อเกิดความโมโหได้ง่ายฆ่ากันตายเพราะหิวก็มีมากมาย

แล้วถ้าหากว่าสงครามเกิดขึ้นจริง..สินค้าทางการเกษตรแพงอย่างยอดยิ่งข้าวเกวียนละแสนอย่างนี้

ชาวนาพ่อค้าที่ขายส่งออกย่อมได้ราคาที่ดีต่างก็ยินดี.. แล้วตัวเราและประชาชนที่อยู่ในประเทศหากว่ามีรัฐบาลที่ไม่ดีไม่จัดการช่วยเหลือไม่จัดโควตาข้าวให้แต่ละครอบครัวพวกเราก็แย่แน่ๆ

ดังนั้นอัตตาหิอัตโนนาโถ.... ตนแลเป็นที่พึงแห่งตนเอง....

ถ้าหากว่าอิสลามรวมตัวกันเป็นหนึ่ง....ประกาศสู้กับคริสต์
ถ้าหากว่า.... ฝรั่งเศสโดนบุก....

มีเงิน มีทองคำ มีสมบัติพ่อให้ อย่างมากมาย แต่ก็จะ "กิน" ไม่ได้
พวกเราจึงพึงตระเตรียมข้าวปลาอาหารแห้งที่พอเหมาะแก่ครอบครัวที่จะพอให้รับประทานได้เป็นปี.. นานแค่ไหน ก็ไม่ทราบได้.. ตายฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรา

หากเป็นไปได้อันไม่เกินวิสัย.. ขอให้เภทภัยผ่านพ้น โดยไม่เกิดสงคราม ด้วยเถิด.

...................................................................................................................................................<O</O<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

1. หากอิสลามรวมตัวกันเป็นหนึ่ง ประกาศเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ สู้กับคริสต์
ก็แสดงว่าสงครามคงต้องเกิดขึ้น และจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ
ความจริง มันคงจะคุกรุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว ภาพยนต์หมิ่นศาสดาของอิสลาม จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่เปิดทางให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ตามมา หรือไม่

2. หากว่าประเทศฝรั่งเศสโดนบุก.. ให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
ตอกย้ำด้วยวารสารของฝรั่งเศส ที่มีภาพการ์ตูน หมิ่นศาสดาของอิสลาม ซ้ำเข้าไปอีก
( วันนี้ มีข่าวว่า.. ฝรั่งเศส ปิดสถานทูติ ปืดโรงเรียน ต่าง ๆ ในต่างประเทศ กว่า 20 ประเทศ)

3. ศิษย์ฯถามองค์หลวงพ่อฯว่าหากเกิดสงครามขึ้น.. คนไทยที่อยู่อเมริกาควรจะทำอย่างไรกัน
ข่าวพิพาท จีน - ญี่ปุ่น แย่งพื้นที่เกาะกลางทะเลว่าเป็นของตนเอง
สมัยแพ้สงครามโลก ครั้งที่ 2 อเมริกาเข้าปกครองญี่ปุ่นอยู่ระยะหนึ่ง
ในห้วงเวลานั้น อเมริกา ก็ใช้อำนาจ(อะไรก็ไม่ทราบ) ยกเกาะนั้น ให้ญี่ปุ่น

เมื่อมีข่าวกรณีพิพาท จีน - ญี่ปุ่น
อเมริกา ก็ออกมาพูดเป็นกลาง ๆ ว่า ขอให้ยุติด้วยทางการทูต อย่าใช้กำลังกันเลย
(ในมุม เป็นกลางนี้.. ก็เท่ากับว่า แฝงว่าจะช่วยญี่ปุ่นอยู่ในที เพราะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน)

วันนี้ มีข่าวชาวจีน ขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ทูตอเมริกา ในจีน ไม่ให้เข้าที่ทำงานงาน
แย่งชิงธงชาติอเมริกาจากรถ และขวางปาสิ่งของไปที่ รถของคณะทูต

อเมริกา.. ตำรวจโลก จึงมีคู่กรณีมากมายหลายราย
หากเกิดสงครามศาสนา กับอิสลาม.. จึงน่าสงสัยว่า จีน.. จะสนับสนุน ใคร..

องค์หลวงพ่อฯบอกว่า "ถ้ามันยุ่งๆให้เข้าวอชิงตัน.." ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรที่จะรุนแรง..
แต่หากเมื่อพิจารณาให้ดีว่า อีก 51 รัฐของอเมริกาทำไม องค์หลวงพ่อฯไม่แนะนำให้เข้าไปอยู่ล่ะ..ที่อื่น ๆ นอกจาก วอชิงตัน มันจะรุนแรงไหม

วอชิงตัน เป็นเมืองหลวง เป็นเมืองหัวใจ.. การป้องกันจึงต้องดีกว่าที่อื่น ๆ
ความปลอดภัย จึงจะมีมากว่ารัฐอื่น ๆ

มันก็ กรรม ทั้งนั้น..

....................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

เพื่อความไม่ประมาทในการดำรงชีวิตจนเกินไป

1.เราพึงปฏิบัติพระกรรมฐานให้เป็นปกติทุกวันไม่ควรว่างเว้นจากทานศีลและภาวนา

2.จัดหาสมบัติพ่อให้คือสิ่งอันเป็นยอดมงคลที่องค์หลวงพ่อฯทำพิธีพุทธาภิเษกโดยที่ท่านฯก็บอกว่าท่านฯนั่งเฉยๆเรื่องพุทธาภิเษกเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าพระองค์ท่านเป็นผู้ทำพิธีเอง

จึงตรงกับที่องค์หลวงพ่อฯกล่าวไว้ว่า..ของที่พระพุทธเจ้าทำให้ไว้สามารถปกป้องกันภัยได้จริง
พวกเราจึงพึงมีสมบัติพ่อให้กันไว้เพื่อเป็นสรณะเป็นเครื่องป้องกันภัยให้ตัวเราและคนที่เรารัก
ยังพอหาเช่าบูชากันได้ในราคาที่ยังไม่แพงเกินไป

3.องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงตรัสไว้ว่า..
ทิฆัจฉาปะระมะโรคา..โรคหิวเป็นโรคอย่างยอด
ถ้าเราไม่หิวก็ไม่ต้องกินข้าวก็จะไม่เกิดกิเลสมากขึ้น..
ถ้ากำลังหิวอยู่ธรรมะก็ไม่สามารถปฏิบัติให้มีความก้าวหน้าขึ้นได้..
ความหิวส่งผลก่อเกิดความโมโหได้ง่ายฆ่ากันตายเพราะหิวก็มีมากมาย

แล้วถ้าหากว่าสงครามเกิดขึ้นจริง..สินค้าทางการเกษตรแพงอย่างยอดยิ่งข้าวเกวียนละแสนอย่างนี้

ชาวนาพ่อค้าที่ขายส่งออกย่อมได้ราคาที่ดีต่างก็ยินดี.. แล้วตัวเราและประชาชนที่อยู่ในประเทศหากว่ามีรัฐบาลที่ไม่ดีไม่จัดการช่วยเหลือไม่จัดโควตาข้าวให้แต่ละครอบครัวพวกเราก็แย่แน่ๆ

ดังนั้นอัตตาหิอัตโนนาโถ.... ตนแลเป็นที่พึงแห่งตนเอง....

ถ้าหากว่าอิสลามรวมตัวกันเป็นหนึ่ง....ประกาศสู้กับคริสต์
ถ้าหากว่า.... ฝรั่งเศสโดนบุก....

มีเงิน มีทองคำ มีสมบัติพ่อให้ อย่างมากมาย แต่ก็จะ "กิน" ไม่ได้
พวกเราจึงพึงตระเตรียมข้าวปลาอาหารแห้งที่พอเหมาะแก่ครอบครัวที่จะพอให้รับประทานได้เป็นปี.. นานแค่ไหน ก็ไม่ทราบได้.. ตายฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรา

หากเป็นไปได้อันไม่เกินวิสัย.. ขอให้เภทภัยผ่านพ้น โดยไม่เกิดสงคราม ด้วยเถิด.

...................................................................................................................................................<O</O<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

จัดหาสมบัติพ่อให้คือสิ่งอันเป็นยอดมงคลที่องค์หลวงพ่อฯทำพิธีพุทธาภิเษกโดยที่ท่านฯก็บอกว่าท่านฯนั่งเฉยๆเรื่องพุทธาภิเษกเป็นเรื่องของพระพุทธเจ้าพระองค์ท่านเป็นผู้ทำพิธีเอง

จึงตรงกับที่องค์หลวงพ่อฯกล่าวไว้ว่า..ของที่พระพุทธเจ้าทำให้ไว้สามารถปกป้องกันภัยได้จริง
พวกเราจึงพึงมีสมบัติพ่อให้กันไว้เพื่อเป็นสรณะเป็นเครื่องป้องกันภัยให้ตัวเราและคนที่เรารัก
ยังพอหาเช่าบูชากันได้ในราคาที่ยังไม่แพงเกินไป

.......................................................................................................................................................

เรื่องนี้ บรรดาศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงพ่อฯ ไม่ใช่ว่า จะไม่ทราบ
เพียงแต่ แต่ละคน เขาก็มีกันเยอะ มีกันมากแล้ว จึงไม่ใคร่ขวนขวายกัน
(รอเวลา..)

แต่หากว่า.. ฝรั่งเศสโดนบุก.. นี่คนละเรื่องกัน..
สิ่งอันเป็นมงคลของ วัดท่าซุง.. น่าจะเรียบวุธ ภายในประมาณ 2 เดือน

เพราะว่า พระคำข้าว องค์ละ 1,600 บาท
1. ปกป้อง กันภัย ได้ถึง "รังสี"
2. องค์เดียวแลกบ้าน แลกรถ..
เราจะลงทุนอะไร ด้วยทุน 1,600 บาท.. แล้วมีผล แลกบ้าน แลกรถ

สำหรับ ศิษยานุศิษย์.. องค์หลวงพ่อฯ ท่านไม่ได้ห้ามการขาย เพราะว่า..
1. เป็น "สมบัติพ่อให้" ที่ลูกหลาน พึงได้รับประโยชน์ จาก มรดกของพ่อฯ
2. เป็นสัมมาชีพ ไม่ได้คดโกงใคร.. คนขาย คนซื้อ ต่างก็พึงพอใจ เสมอกัน

สำหรับ นักค้า นักขาย..
โปรดได้ อย่าโลภมาก อย่าคดโกงด้วยเล่ห์กลอุบาย หรือ ตามน้ำ
ซื้อมา ไม่รู้ว่า เลียนแบบ.. แต่พอรู้แล้ว กลับขายต่อ เพื่อถอนทุน
อย่างนี้ เท่ากับว่า อยู่ในอยู่ในขบวนการคดโกง ปล้น คนอื่น

คดโกงได้ ทำเลียนแบบได้.. ผู้คนต่างไม่เห็น ต่างไม่ทราบ..
แต่ทว่า.. ไม่สามารถหลีกหนี ไม่สามารถหลบพ้น กฎแห่งกรรมไปได้ แน่นอน..

มีผลเร็ว ถึงชาติปัจจุบัน ยันอนาคตกาล
มีสมบัติพ่อให้ มากมายเท่าใด ก็มีโอกาสสูญสลาย พินาศไป
เห็นมาแล้ว หลานราย.. ไฟไหม้บ้าน ก็มี.. แต่ก็อาจเป็น กรรมเก่าที่ตามมา ก็ได้
(ข้อความนี้.. ไม่ใช่คำสาปแช่ง.. มันเป็นไปตามกรรม)

.......................................................................................................................................................

พูดมาทั้งหมด ไม่ได้พูดเพื่อให้แตกตื่น หรือผลประโยชน์ส่วนตนเอง

แต่ เป็นการพูด เพื่อความไม่ประมาท
หากเกิดเหตุการณ์ จะได้ป้องกันได้ทัน (แต่ก็ไม่เกินกรรม ใช่ไหมครับ)

หากไม่เกิดสงคราม ก็ย่อมถือได้ว่า.. เป็นเรื่อง โชคดีอย่างที่สุดของพวกเรา

.......................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ห้อง วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ
อาจจะมีการว่ากล่าว ว่า โพสไม่ตรงกับห้อง..
ก็ขอจัดเป็น เรื่องลึกลับ ละกันนะครับ

เป็นเรื่องที่พยากรณ์ไว้ล่วงหน้า(จะลึกลับ ก็ต่อเมื่อเกิดขึ้นจริง) นั่นเอง
เพียงแต่.. ท่านฯ ก็ไม่ได้บอกว่า จะเกิด ปีไหน เท่านั้น..

................................................................................................................................................

 

วิเคราะห์สถานการณ์ ถึงปัจจุบัน....

เท่าที่ได้รับฟังมาพอสรุปได้ว่า เหตุการณ์จะอาจจะเกิดขึ้นตามลำดับดังนี้..
(อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้)

1. หากอิสลามรวมตัวกันเป็นหนึ่งประกาศเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์สู้กับคริสต์
ก็แสดงว่าสงครามคงต้องเกิดขึ้นและจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ

2. หากว่าประเทศฝรั่งเศสโดนบุก.. ให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

จากข้อ 1
อเมริกา "ตำรวจโลก" เป็นผู้สนับสนุนลับ ๆ ของกลุ่มประเทศที่รบกัน
โดยเฉพาะประเทศกลุ่มอิสลาม ที่มีสมบัติใต้ดิน(น้ำมัน)มาก
เป็นการสนันสนุนด้วยอาวุธ และอื่น ๆ ให้เขารบกันในประเทศของเขา
เท่าที่ผ่านมา ก็มีตัวอย่างจาก โคไมนี / อัลกออิดะ / บินลาดิน / ซัดดัม / กัดดาฟี / อิรัก / ซีเรีย / อียิปต์ และอื่น ๆ
กลุ่มที่อเมริกาสนับสนุนชนะ สามารถจัดตั้งรัฐบาล ก็มีโอกาสที่จะฉวยประโยชน์ของประเทศนั้นๆ
อันนี้ ก็เป็นกรรมรวม กรรมของประเทศ ส่งเสริมการรบ ทำให้เขาฆ่ากัน
ซึ่งมีมาหลายต่อหลายประเทศ

.............................................................................................................................................................

องค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ในทำนองว่า..
1. หากอิสลาม รวมตัวกันเป็นหนึ่ง ประกาศเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์สู้กับคริสต์
คำว่า.. รวมตัวกันเป็นหนึ่ง ก็พึงพิจารณาว่า..
ไม่ได้มารวมกันที่สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง..
แต่จะเป็นการรวมความคิดให้เหมือนกัน ไปในทางเดียวกัน
ก่อนนี้ ประเทศมหาอำนาจยุยงให้เกิดการแตกแยก ให้อิสลามกลุ่มต่างๆ รบกันด้วยหวังอำนาจ
ปัจจุบัน สถานการณ์ "น้ำผึ้งหยดเดียว" คือ ภาพยนต์หมิ่นศาดาของอิสลาม
จะก่อให้เกิด "การรวมความคิดเห็น" ไปในทางเดียวกัน คือ "ศาสดา ศาสนาของเรา"
และก็มีความไม่พึงพอใจในอดีต สะสม รวมตัวกัน
เหมือนราวกับว่า สะสมเชื้อเพลิงความแค้นไว้มากมาย
รอเพียงแค่ ประกายไฟ มาสะกิดเพียงเล็กน้อย
เชื้อเพลิงความแค้นก็จะปะทุ ลามออกไปได้อย่างกว้างขวาง
หากว่าถามผมว่า ข้อ 1 เกิดขึ้นแล้วหรือยัง
(ตามความคิดของผม ผมว่า เกิดขึ้นแล้ว รวมความคิดกันแล้ว
เหมือนกับ ภูเขาไฟที่กรุ่นควัน รอเวลาที่จะประทุลาวาออกมา)

ดังนั้น ขอจงอย่าประมาทกันนะครับ
ควรระแวดระวังกันไว้บ้าง ไม่เสียหาย ใช่ไหมครับ

ส่วนข้อ 2 ทีองค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ในทำนองว่า..
หากว่าประเทศฝรั่งเศสโดนบุก..
ให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
เพราะว่า จากนั้น สงครามจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

หากถามว่า เหตุการณ์นี้ ถึงหรือยัง
ผมฯ ขอวิเคราะห์ว่า.. เกือบถึงแล้วละครับ

นิตยสาร ของฝรั่งเศส มีการ์ตูนล้อเลียน "ศาสดาของอิสลาม" เช่นกัน
ฝรั่งเศส เกรงกลัวว่า จะเกิดเหตุการณ์รุนแรง เหมือนกับซีเรีย
ที่สถานทูตอเมริกา โดนบุกฆ่าทูต และเจ้าหน้าที่ 4 ราย
ด้วยการปิดสถานทูต ที่เกี่ยวข้องกับประเทศอืสลาม 20 ประเทศ
ฝรั่งเศส ออกกฏหมายไม่ให้ผู้หญิงอิสลาม คลุมหน้า
ก็เป็นที่ไม่พอใจของอิสลามอยู่แล้ว เป็นการหมิ่นศาสนา เช่นกัน

ขอให้สังเกตุว่า..
ที่องค์หลวงพ่อฯ กล่าวว่า ถ้าฝรั่งเศสโดนบุกนั้น
หากว่า สถานทูตใด ๆ ของฝรั่งเศส โดนบุกทำลาย
ก็เข้าอยู่ในข่ายว่า ประเทศฝรั่งเศสโดนบุก ใช่ไหมครับ
เพราะว่า สถานทูตฝรั่งเศส แม้จะอยู่ในประเทศอื่นใด
แต่ทว่า ในกรอบกำแพงของสถานทูต ย่อมถือได้ว่า เป็นประเทศฝรั่งเศส
ใช่ไหมครับ

หากถึงจุดนี้ ก็ตัวใครตัวมันละครับ
น่าจะเป็นการเป่านกหวีด ให้เตรียมตัวกันอย่างเต็มพิกัด
ทั้งเรื่อง อาหารการกิน และสิ่งที่สามารถป้องกันเภทภัย
สมบัติพ่อให้ ของทางวัดท่าซุง น่าจะหมดเรียบ ภายในไม่เกิน 2 เดือน

จากนั้น พวกเราก็พึงเร่งรัดปฏิบัติธรรมกันเถิดครับ
เพราะว่า ตวามตาย มันอยู่ใกล้เรามากเหลือเกินแล้ว

..............................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

กราบขออภัย ท่านมหาหินทร์
หัวเรื่องมันมีอยู่ว่า
Boriska : ชาติที่แล้วผมอยู่บนดาวอังคาร
รบกวนพระคุณท่านตั้งกระทู้ใหม่ได้ไหมครับ เช่น
สิ่งอันเป็นมงคลของ วัดท่าซุง พระคำข้าว องค์ละ 1,600 บาท
1. ปกป้อง กันภัย ได้ถึง "รังสี"
2. องค์เดียวแลกบ้าน แลกรถ..
เราจะลงทุนอะไร ด้วยทุน 1,600 บาท.. แล้วมีผล แลกบ้าน แลกรถ
รบกวนสรุปให้ด้วยว่าที่ท่านโพสมา เพื่ออะไร มีใจความเช่นไร
ขอบพระคุณครับ

 

สมบัติพ่อให้ที่สำคัญที่สุด คือ วิชชาให้พ้นทุกข์ ครับ ไปอยู่ด้วยกันที่นิพพาน "เหน็ดเหนื่อยกันมาหลายแสนวาระ พอเสียทีนะลูกนะ หมดทุกข์หมดโศกกันเสียที ไปนิพพานกันดีกว่า"

 

จะเกิดภัยพิบัติหรือไม่ ? หรือจะเกิดสงครามหรือไม่ ? ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญที่พวกท่านได้ปฏิบัติตนอยู่ในขอบเขตของความดีงาม ปฏิบัติตนในพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และดีงามมากน้อยแค่ไหน อยากให้ทุกท่านนำเอา "ธรรม" มาประดับใจและกาย "เกิดเหตุร้าย" ก็เป็นไปตามกรรม "ไม่เกิดเหตุร้าย" ก็เป็นไปตามกรรม


พุทธดำรัส "จงทำกิจให้ถึงพร้อมด้วยการไม่ประมาทเถิด" ลึกซึ้งกินใจและครวบคลุมมากกว่าสิ่งใด ๆ อีกครับ

 

ขอทุกท่านจงรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.....

 

สิ่งที่ควรให้ความสำคัญครับ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ กับเจ้าของกระทู้ครับ

 

อ่านแล้วอย่าตื่นตะหนก แต่ก็ไม่ควรประมาท ควรตั้งสติ หากสวดมนต์และแผ่เมตตา ก็ไม่เสียหลาย นึกถึงความตายเป็นเรื่องธรรมดา ที่ๆจะไปหลังตายนี่ซิของจริง พุทธะเตือนมา ๒๖๐๐ ปีแล้วนะ อย่าประมาทๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

เหมือนเป็นเรื่องอัศจรรย์นะคับเพราะเด็กอายุแค่นั้นแล้วกลับรู้เยอะ

 

การเกิดเป็นมนุษย์นั้นความคิดเห็นย่อมไม่ตรงกันเป็นธรรมดา แต่ปัญหาจะเกอดก็ต่อเมื่อคนผู้หนึ่งไม่มีความอดทนที่จะเก็บความคิดของตนที่ต่างออกไปไว้ในใจ นำมันมาเปิดประเด็น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นต้นของความขัดแย้ง และสงครามทุกวันนี้ก็เป็นเช่นนี้ หากคุณยอมรับความคิดของผู้อื่นได้ ชอบไม่ชอบเก็บไว้ในใจ อันไหนเรื่องจริงเท็จเรารู้หรือไม่ก็เก็บไว้ในใจ เปลี่ยนเป็นยิ้มให้กันโลกจะมีความสุข บางครั้งคนฉลาดก็ไม่จำเป็นต้องอวดฉลาด บางครั้งคนโง่ก็ฉลาดกว่าคนฉลาด คนไม่พูดไม่ได้แปลว่าโง่ การสร้างความขัดแย้งหรือสงครามนั่นแหละคนโง่