พระพม่าเตือนให้ญาติโยมสะสมอาหาร ดูตัวอย่างไทยสะสมข้าว

นอกจากนี้ ยังได้รับคำแนะนำให้ออกกำลังกายค่ะ (ในกระทู้คุณ ชยุต ก็มีกล่าวถึงเรื่องนี้นะคะ) ส่วนหนึ่งเพื่อผลให้มีความแข็งแรงรับมือภัยพิบัติ แต่อีกส่วน (ซึ่งมิตรได้มาบอกภายหลัง) ว่า เพื่อให้ฮอร์โมนดีทำงาน

 

ภาพที่ซ้อมนี่ มันเป็นการซ้อมประจำปีนี่ครับ !!!

กองเรือของอเมริกา ก็ซ้อมรบในปฏิบัติการ มาลาบา (Exercise Malabar)
มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) แล้วครับ
Exercise Malabar - Wikipedia, the free encyclopedia
ซึ่งก็เป็นการซ้อมในน่านน้ำฝั่งอ่าวเบงกอล

ก็ไม่ต่างจากการซ้อมรบ RIMPAC (Rim of the Pacific Exercise,)
ที่ปีนี้มาซ้อมที่สัตหีบ(ส่วนของการยกพลขึ้นบก) ประเทศไทยนี่แหละ
RIMPAC - Wikipedia, the free encyclopedia

เพียงแต่ว่า RIMPAC จะเน้นไปที่ด้านมหาสมุทรแปซิฟิก

ส่วน Malabar เน้นมหาสมุทรอินเดีย ครับ

ปกติก็ซ้อมกันประจำอยู่แล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับจะรบกันตรงไหนเลย

 

ถ้าจะกลัว ผมว่ากลัวมะนาวต่างดุ๊ด บุกแบบหนัง Battle Ship ยังจะดีกว่า 5 5 5 5

เรื่อง Battle Ship นี่ ก็เอาเหตุการณ์บางส่วนมาจากการซ้อม RIMPAC นี่ล่ะครับ แหมกลัวกันจริง ๆ เลย

โอบามา กับ รอมนี ยังไม่รู้เลยว่าใครจะได้เป็น ปธน. ก็จะรบกันแล้ว ผมไม่แน่ใจว่า ถ้าเกิดจะรบกันจริง ๆ สภาคองเกรสของอเมริกาจะผ่านงบประมาณมาให้ตีอิหร่านจริง ๆ หรือครับ ?

แล้วใครจะเป็นคนเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ให้พิจารณาล่ะครับ ในเมื่อยังหาตัว ปธน. ไม่ได้เลย

กระทู้เก่าก็บอกว่าฮึ่ม ๆ อิหร่านจะรบกับอิสราเอลก่อนเลือกตั้งทีแล้ว ก็ยังไม่เห็นรบเลย

 

ข้าวดีหรือเปล่า? เบื้องหลังเป็นอย่างไร?
ทำไมนักวิชาการถึงบอกว่านโยบายนี้จะมีปัญหา?
แล้วเราจะได้กินไหม?

มากมายที่ต้องวิเคราะห์ ก็คือ... ไปตามข่าว หาความโปร่งใส

ชีวิตล้วนผูกพันกับการเมือง บอกไม่โยงเข้าการเมือง
แล้วก็ เออ.. เก็บข้าวแล้วดี โชคดี ... โดยไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ???
แถมโยงเข้าการเมืองเองด้วยทัศนะตั้งแต่ตั้งกระทู้

http://www.dailynews.co.th/article/2943/152939

 

สวัสดีครับ
เล่าเรื่องชาวบ้านที่เชื่อเคารพนับถือพระอาจารย์
ที่ท่านบอกให้ชาวบ้านเก็บอาหารไว้ในปีนี้ให้มาก
ไปคุยกับคนวัยกลางๆคนที่สามารถสื่อภาษาอังกฤษได้ดี
พูดคุยกันก็ถามว่า ทำไมไม่มีข้อซักถามหรือข้อสงสัยเลยที่พระท่าน
บอกให้มีการเตรียมตัว
เขาก็หัวเราะนะแล้วก็มองหน้าผมแปลกๆ แล้วก็ถามว่าพระที่เมืองไทย
โกหกด้วยเหรอ (55555 แป๊ว เข้าตัวเลยเรา )
แล้วน้าแกก็ โม้ต่อว่า พระท่านได้ข้าวไปก็เอาไปขายไม่ได้
ได้ฟักได้แตงไปท่านก็ฉันไม่หมด
ดีเสียอีกเพราะถ้าเป็นของที่ถวายพระแล้ว ทหารจะไม่ค่อยมาขอแบ่งไปเฉยๆ
และเวลาที่เราขัดสน ไปขอเมื่อไหร่ท่านก็ให้ทุกที
ปรกติก็มีการถวายกันแบบนี้อยู่แต่ปีนี้ เมื่อพระอาจารย์บอกให้เก็บให้มาก
ก็เก็บให้มากเท่านั้นเอง ก็ย้ายจากที่บ้านไปไว้ที่วัดและก็ไม่เอาไปขาย
ก็ไม่เห็นมีอะไร
ผมถามเรื่องค่าใช้จ่าย ว่าอ้าวแล้วไม่ขายข้าวขายอาหารเอาเงินที่ใหนใช้กัน
เขาก็มองผมแบบงงๆ นะ แล้วบอกว่าปกติเขาไม่ได้เงินจากการขายข้าว
แต่จะได้จากการขายวัวขายควายขายเป็ดขายไก่ หรือไม่ก็จับปลาไปขายตลาด
คนที่ขายข้าวคือพวกที่ปลูกมากจนกินทั้งปีไม่หมด แบ่งเสียภาษีให้ทหารเป็นข้าวแล้ว
ก็จะแบ่งขาย ให้พวกพ่อค้าที่มาซื้อ
คนที่มีข้าวไม่พอกินหนะที่นี่ถือว่าเป็นคนจน
แต่คนรวยดูกันที่ใครมีวัวมีควายมากกว่ากัน
หรือไม่ก็พวกพ่อค้าในตลาดที่มีเงินมากๆ

ดูแล้วชีวิตเขาเรียบง่ายนะ
คงเหมือนรุ่นพ่อๆลุงๆของผม(คาดเดาเอา)
และความมั่นคงทางอาหารบ้านเขาสูงกว่าบ้านเรา
อาหารสัตว์ป่า ยังคงมีขายแม้เป็นตลาดในเมือง
ซึ่งบ้านเราเป็นระบบฟาร์มหมดแล้ว
ซึ่งถ้าระบบฟาร์มล้ม ก็ไม่รู้จะหาได้จากใหนเหมือนกัน

 

วิธีจัดการกับเรื่องการเมืองคือ คห.ไหนเรื่องการเมืองให้ข้ามไม่ต้องอ่านครับ วางจิตให้เป็นกลาง มีขาวมีดำ มีดีมีชั่ว มีซ้ายมีขวา และหลายๆสิ่งในโลกที่ตรงข้ามกัน เป็นธรรมชาติของโลก สัตว์โลก มนุษย์โลก .... การที่ท่านใดๆมีจิตขุ่นมัวสีเทาหรือสีดำ ก็เป็นเรื่องของบุคคลท่านนั้นๆ เรามีหน้่าที่เห็น รับรู้ และปล่อยวางเท่านั้น ... ที่นี่ไม่ใช่ทุกอย่าง ปิดเครื่องคอมก็จบกัน ไม่มีใครมาสนใจคุณและคุณก็ไม่ต้องสนใจใคร ระดับจิตพื้นฐานของมนุษย์ไม่เหมือนกัน จะให้เราเป็นแบบใครและใครเป็นแบบเราไม่ใช่เรื่องง่ายบางครั้งก็เป็นไปไม่ได้เลย ... ถอยออกมาดูชีวิตมนุษย์ที่วุ่นวายแล้วนำกลับมาใช้ในการดำเนินชีวิตตนเองให้ถูกให้ควรจะดีกว่าครับ .... เพราะบางอย่างเป็น ปัจจัตตัง รู้เฉพาะตนจริงๆ ยากที่มนุษย์ที่มีภูมิธรรมที่ต่างจะเข้าใจ
ใช้ชีวิตให้มีความสุขครับ

 

ถ้าจขกท.ยังมีโอกาสได้ไปก็รบกวนฝากคำถามไปถามท่านหน่อย
(งงที่บอกว่าชาวพม่าไม่มีข้อสงสัยอะไรเลยเหรอ แล้วเค้าบอกว่าพระไม่โกหก ผมว่าไม่เห็นเกี่ยวเลย ถามหาเหตุผลแปลว่าไม่เชื่อฟังคำสั่งอย่างนั้นหรือ)
- ที่ให้เก็บข้าวมากขึ้นเพราะอะไร
- เริ่มเก็บเมื่อไหร่ จะต้องเก็บนานแค่ไหน
- เก็บอย่างอื่นหรือไม่นอกจากข้าว

เท่าที่จขกท.เล่ามาก็มีประโยชน์ในแง่ให้คนรวยมีข้าวเหลือใช้มาทำทานเพื่อแบ่งปันคนยากจน และเป็นแหล่งเก็บข้าวที่ดีทำให้ทหารไม่มาขอไป(หมายถึงทหารมาขูดรีด หรือหมายถึงไม่ต้องเสียภาษีกันแน่ไม่แน่ใจ)

เช่น ถ้าบอกว่าที่ต้องเก็บข้าวเพราะต่อไปน้ำจะท่วมทำไร่ทำนาไม่ได้ก็จะได้รู้ว่าจะท่วมถึงบ้านเรามั้ยจะได้เตรียมตัวกันถูก ถ้าแค่บอกเก็บตุนข้าวผมว่ารายละเอียดมันน้อยไปหน่อยนะ เพราะเก็บมากแค่ไหนก็ไม่รู้ ใครจะมาดูแลข้าวให้ก็ไม่รู้

 

ครั้งหนึ่ง
......ขณะทำธุระในห้องน้ำ และเปิดน้ำทิ้งไว้ในถัง ......ฉับพลันก็มองไปเห็นขบวนมด ณ มุมหนึ่งของห้องน้ำนั้น ........เมื่อวิเคราะห์ และคาดคะเนดูแล้วด้วยตาคนที่อยู่สูงกว่ามดเหล่านั้น....ก็เห็นว่า....อีกไม่นานน้ำที่ได้เปิดใส่ถังทิ้งไว้ก็จะเต็ม และล้นออกมา จนไหลไปท่วมพวกมดเหล่านั้นเป็นแน่แท้ .............. แต่ด้วยไม่อาจเอื้อมไปปิดก๊อกน้ำนั้นได้ จึงพยายามเป่าลมแรง ๆ ฟู่ ๆ ๆ ไปที่พวกมด...หลายต่อหลายครั้ง แม้แต่กระทืบพื้นแรง ๆ เพื่อให้มดเหล่านั้นหนีไป...... ปรากฏว่ามดเหล่านั้นกลับเกาะพื้นกันแน่น และเมื่อลมหมดไป พื้นนิ่งแล้ว มดก็แค่นิ่งๆ งงๆ อยู่แป๊ปเดียว แล้วก็พากันเดินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ......อนิจา....มดไม่เข้าใจสิ่งที่เราพยายามสื่อสารไป ก็เลยได้แต่ปลง..........กรรมของสัตว์โลก..........ก็ไม่มีอะไร เล่าเล่นๆ ให้ฟังเฉยๆ ไม่มีแก่นสาร สาระอะไร อิ อิ อิ