หวาดผวาผีปอบ...ตายติดต่อกัน9ศพ ที่จ.กาฬสินธุ์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พระจิรวัฒน์ ญาณวโร, 19 ตุลาคม 2012.

  1. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    ชาวบ้านหนองกุงไทย อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ตกอยู่ในอาการหวาดผวาอย่างหนัก เนื่องจากมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตอย่างกะทันหันติดต่อกัน 9 ศพ ชาวบ้านเชื่อเป็นการกระทำของผีปอบ ...
    ที่ออกอาละวาดคร่าชีวิต

    18ต.ค.2555 นายบุญช่วย น้อยเสนา สมาชิกสภาจังหวัดกาฬสินธุ์ (ส.อบจ.) เขต 2 อ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า ชาวบ้านหนองกุงไทย ทั้ง 2 หมู่ คือหมู่ 4 และหมู่ 6 ได้เสียชีวิตลงกะทันหันติดต่อกันแบบตายรายวัน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2555 จนถึงปัจจุบันรวม 9 ศพ บางรายสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว แต่อยู่ๆก็ล้มฟุบเสียชีวิต บางรายมีอาการเจ็บไข้ไม่มาก ก็มาเสียชีวิต โดยรายล่าสุดเป็นเด็กหนุ่มวัย 22 ปี ชื่อนายกิติชัย ภูนาผา นอนไหลตาย ทำให้ชาวบ้านต่างวิจารณ์ว่า เป็นการกระทำของผีปอบ บรรยากาศในหมู่บ้านจึงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและหวาดผวาอย่างหนัก ชาวบ้านไม่กล้าออกไปทำมาหากิน ส่งผลให้ทั้ง 2 หมู่บ้านเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีใครอยากเข้ามาในหมู่บ้านนี้ เพราะกลัวผีปอบ

    ขณะที่นายบุญมา เชตะวัน อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 42 ชาวบ้านหนองกุงไทย หมู่ 6 กล่าวว่า ที่หมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุการณ์ตายเรียงกันวันต่อวันอย่างนี้มาก่อน เป็นความผิดปกติที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าเป็นการกระทำของผีปอบ ประกอบกับที่หมอธรรมหรือ “ขะจ้ำ” ประจำหมู่บ้านทำพิธีตรวจดูดวงหมู่บ้าน พบว่ากำลังอยู่ในห้วงอันตราย มีผีปอบจำนวน 100 ตน ที่ไม่รู้มาจากไหน บุกเข้ามาคุกคามหมู่บ้าน ขนาดพระภูมิเจ้าที่ก็ยังอยู่ไม่ได้ ถูกกองทัพผีปอบยึดพื้นที่หมด จึงไม่อาจคุ้มครองรักษาชีวิตชาวบ้านได้ จึงทำให้ชาวบ้านตื่นกลัวกันมาก

    แต่ละวันอยู่กันอย่างหวาดผวา และหาเครื่องรางของขลังไว้ป้องกันตัว เพราะกลัวจะถูกผีปอบเข้าสิงจนเสียชีวิตอย่างไรก็ตาม ชาวบ้านก็กำลังคิดหาวิธีการแก้ไข ซึ่งในระหว่างนี้ก็อยากได้รับกำลังใจจากส่วนราชการ อาทิ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พัฒนาชุมชน เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสุขภาพ เพื่อบำรุงขวัญ และบำบัดทางจิตใจให้ชาวบ้านที่กำลังอยู่ในอาการหวาดผวาด้วย




    [​IMG]
     
  2. โลกิ

    โลกิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +21
    วันนี้ดูข่าวใน TV น่ากลัวอยู่เหมือนกัน
    แต่เมื่อก่อนก็เคยมีเหตุการณ์ผีปอบอาละวาดเหมือนกัน

    ลองพิมพ์ "ปราบผีปอบ" ในยูทูปดูครับ
    เค้ามีพิธีปราบผีปอบให้ชม สำหรับผู้สนใจนะครับ ^^
     
  3. krasin

    krasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +2,821
    ผมก็เชืีออยู่ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ ทำไมผีปอบชอบอยู่ตามชนบท และทำไมต้องเล่นงานแต่ชาวบ้าน
    หรือผีปอบมันกลัวความเจริญ ทำไมไม่มีข่าวแบบว่า ผีปอบบุกรัฐสภา เล่นงานนักการเมืองชั่วๆบ้าง
    ฝากถึงผีปอบ ไหนๆก็จะรวมตัวกัน ก็ทำสิ่งดีดีซะหน่อย ถ้าพวกท่านมีอำนาจขนาดทำให้ใครตายก็ได้
    กรุณาดลจิตใจให้พวกนักการเมือง ทำเพื่อประเทศชาติบ้างจะได้มั้ย
     
  4. คนชอบอ่าน

    คนชอบอ่าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +65
    เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นที่ "จังหวัดกาฬสินธิ์" เมื่อปี พศ.2537
    เมื่อสัมพเวสีในร่างไดโนเสาร์ มาของเศษบุญจากพระกรรมฐานถึงข้างกลด
    จนทำให้เกิดการค้นพบกองซากกระดูกในสุสานไดโนเสาร์ครั้งสำคัญที่สุดของโลก ในประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    พระอาจารย์ ก็นำมาให้อ่าน โดยส่วนตัวเเล้วคิดว่าควรที่จะหาสาเหตุในการตาย ที่เเน่ชัดก่อน(ที่ออกโดยเเพทย์) ว่าที่ตายเพราะอะไร...เเต่ที่จำได้เเม่นเมื่อราวๆ30ปี เคยเกิดเเถวบ้าน พระอาจารย์ สมัยเป็นเด็กได้ไปร่วมพิธี ไล่ปอบ1ครั้ง เเอบตามผู้ใหญ่ไปดู อิสานเรียกว่า เซียงข่อง พาคนวิ่งเข้ากอไปหนามเต็ม
    ตอนเข้า เข้าไปได้อยู่กลางก่อไผ่ เเต่ตอนออกออกมาไม่ได้ ต้องใช้คนเอามีด ไปถาง นานเลยกว่าจะออกได้...เเปลกดี ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะว่าเห็นมากับตานั้นเอง...อยากจะเล่าให้ฟัง ใครอยากฟังยกมือขึ้น....
     
  6. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]

    "ผีปอบ" มีต้นกำเนิดมาจากผู้ที่มีวิชา ไสยศาสตร์ มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้อำนาจอันเข้ม ขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำ เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝัง รอยเสกหนังควาย เสกตะปูเข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณ ภูตผีไปเข้าสิง วิชาไสย ศาสตร์เหล่านี้มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วย ผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ซึ่งพระ พุทธเจ้า ทรงระบุว่า เป็นเดียรฉาน วิชา จะต้องระวังไม่ให้ละเมิด ข้อห้าม ข้อปฏิบัติโดยเด็ดขาด หากกระ ทำผิด ข้อห้าม ซึ่งชาวอีสานเรียกว่า "คะลำ" ก็จะเกิดโทษหนักในข้อ "ผิดครู" วิญญาณบรมครู จะลงโทษ ให้กลายเป็น ปอบ หรืออีกประการหนึ่งของผู้ที่ กลายเป็นปอบก็คือ เล่น คาถาอาคม อย่างคลั่งไคล้ และใช้ความขลังแห่งวิชา มนต์ดำไปทำลาย ทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่กลัว บาปกลัว กรรมกระทำชั่วเป็นอาจิณกรรม กระทั่งถูกอาถรรพณ์ของไสยเวทย์ย้อนกลับมาเข้าตัวเองกลาย เป็น ปอบไปในที่สุด
    "ผีปอบ" ยังแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
    "ปอบ ธรรมดา" หมายถึงคนที่มีปอบสิงอยู่ใน ร่าง (คือตนเองเป็นปอบ ) เมื่อคนประเภทนี้ตายไป ปอบที่สิงสู่อยู'ก็จะ ตายตามไปด้วย
    ปอบเชื้อ" หมายถึงครอบครัวใดพ่อแม่เป็นปอบเมื่อพ่อแม่ตายไปลูก หลานก็จะสืบทอดให้ เป็นปอบต่อไป อีกประการหนึ่งเป็นกรรมพันธุ์ไม่ว่า จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม เรียกว่า เป็นปอบต่อเนื่องกันไปไม่รู้จบ
    "ปอบแลกหน้า" หมายถึง ปอบเจ้าเล่ห์ถนัดเอาความ ผิดไปโยนให้ผู้อื่น กล่าวคือเวลาไปเข้าสิงใคร เมื่อถูกสอบ ถามว่ามีผู้ใดเลี้ยงหรือบังคับ ปอบ จะไม่บอกความจริงหากไปกล่าวโทษว่าเป็นคนนั้นคนนี้โดยที่ผู้ถูกระบุชื่อ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เลย
    ปอบกักกึก (กึก ภาษาอีสานแปลว่า "ใบ้") หมายถึงปอบที่ไม่ยอมพูดอะไรเวลามีคน ถาม จนกว่าญาติพี่น้องจะไปตามหมอผีมาขับไล่ จึงจะยอมเปิดปากพูดว่าตนเป็นปอบของ ใครมีใครใช้ให้มา เข้าสิง ผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิงหรือที่ชาวอีสานเรียกว่า "ปอบเข้า" จะมีอาการแตกต่างกันไป บางคนแสดงกิริยาอาการ ดุร้ายบางคนจะนอนซมซึมคล้ายกับป่วยไข้อย่างหนัก บางคนจะ ร่ำไห้รำพันไปต่างๆ นานา แต่ไม่ว่าจะมีทีท่า อาการอย่างไร ...........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  7. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    .ผู้ที่ถูกปอบเข้าสิงจะเรียกร้องให้ นำอาหารสุกๆ ดิบๆ พวกหมูตับไก่ต้มมากิน เหมือนๆ กับเวลา กินก็แสดงความตะกละมูม มามและกินได้จุผิดปกติเมื่อญาติพี่น้องรู้ว่าคนป่วยถูกปอบเข้าสิง เขาก็จะไปตามหมอ ผีให้มาไล่ปอบ การไล่ปอบให้ออกจากร่างมีหลายวิธีตามแนวทางที่หมอผีได้ร่ำเรียนมา บางคนจะเอาพริกแห้ง มาเผา ให้ควันรม คนป่วยจนสำลักควันน้ำตาไหลพาก ครั้นปอบ ออกจากร่าง แล้วหมอผีจะข่มขู่สอบถามว่าผีปอบเป็นใครมาจากไหน เมื่อปอบรับสารภาพ หมอผีก็ จะปล่อยไป คนป่วยได้สติหายเป็นปกตินัยน์ตาที่แดงก่ำเนื่องจากถูกควันพริกเผา รมจะหายไปทันที แต่เจ้าของ ปอบกลับมีอาการนัยน์ตาแดงก่ำด้วยสายเลือดจนต้องหลบ หน้าอยู่แต่ในห้องไม่กลัวให้ใครพบหน้า อีกวิธีหนึ่งที่ หมอผีทั่วไปนิยมใช้ไล่ผี คือใช้หวาย เฆี่ยนไล่ปอบซึ่งก็เท่ากับเฆี่ยนคนป่วยนั่นแหละหากปอบกล้าแข็งหมอผีจะ เฆี่ยนหนักๆ กระทั่งเนื้อตัวคนที่ถูกปอบเข้าสิงเขียวช้ำด้วยรอยหวาย เมื่อปอบยอมแพ้ออกจากร่างไป ร้อยหวายก็ จะจางหายไปทันที แต่วิธีไล่ผีปอบแบบนี้เคยเป็นเรื่องเป็นข่าวมาแล้ว
    เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ถูกปอบเข้าสิง หากป่วยเป็นโรคประสาท ญาติคิดว่าปอบ เข้าจึงไปตามหมอผีมาไล่ หมอผีจัดการเฆี่ยนคนป่วยด้วยหวายได้รับบาดเจ็บบอบช้ำจน หลายครั้งหลายหน โดยคิดว่าปอบฮึดสู้ไม่ยอม แพ้ในที่สุดคนป่วยก็เสียชีวิตร้อนถึงตำรวจ ต้องมาจัดการกับหมอผีและญาติตามกฎหมายและหมอผีคงคิดคุก ติดตะรางไปตามระเบียบ
    อีกวิธีหนึ่งหมอผีจะนำสัตว์น่าเกลียดน่ากลัวบางชนิดมาข่มขู่ให้ปอบกลัวเช่น คางคก ตุ๊กแก งู ในกรณีนี้ คนที่ ถูกปอบเข้าสิงมักจะเป็นผู้หญิงหรือตัวปอบเป็นหญิง แม้จะเป็นผีปอบ (เธอ) ก็ยังขยาดแขยงสัตว์ประเภทนี้ และ มักจะยอมออกจากร่างที่ เข้าสิงง่าย ๆ
    ผีปอบที่แก่กล้าเวลาเข้าสิงใครจะอกยาก กล่าวกันว่าใครที่ผีปอบประเภทนี้ เข้าสิงมักจะถูกปอบสิงจนตาย เมื่อหมอผีดำเนินการไล่ผีปอบจากร่างที่ถูกปอบสิงมี ข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือ จะปรากฏเป็นก้อนกลมอยู่ใต้ ผิวหนังปูดนูนขึ้นมา เวลา หมอผีจี้อ้อนกลมๆนี้ด้วยไพลเสก มันจะเลื่อนหนีได้ และเมื่อก้อนกลมๆนี้หายไปหมอ ผีที่มีวิชาอาคมยังไม่เก่งนักมักคิดว่าปอบออกไปแล้ว แต่ที่แท้จริงๆ ปอบมันจะเลื่อน หนีไปซ่อนตามซอกขาหนีบ หรืออวัยวะเพศ ทำให้หาไม่พบ
    สำหรับหมอผีรุ่นครูจะจู่โจมเข้ามัดข้อมือ ข้อเท้าและรอบคอ ด้วยด้าย สายสิญจน์เพื่อไม่ให้ปอบหนีออกจาก ร่าง จากนั้นก็จะใช้ไพลเสก(เช่นว่านไฟ ใบหนาด) จี้ลงไปที่ก้อนกลมๆ ใต้ผิวหนัง เรียกว่าก้อนกลมนี้หนีไปที่ใดก็จะตามจี้ไม่ยอมปล่อย เวลาที่ถูกไพลเสกจี้ ทางอีสานเรียกว่า "แทง" ปอยจะเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส (คนที่ถูกปอบสิงจะร้องโอด ครวญดังลั่น) หมอผีจะขู่บังคับให้บอกว่าเป็นใคร ซึ่งปอบมักจะยอมสารภาพโดยดี หลังจากทรมานปอบให้หวาด กลัวเข็ดหลาบแล้ว หมอผีจึงจะแก้มัดด้วยด้ายสายสิญจน์ ปล่อยให้ปอบออกจากร่างไป หมอผีบางรายมีวิธีไล่ปอบชนิดดุเดือด ให้คนเป็นปอบอับอายขายหน้าเป็นที่เปิดเผยแก่ สาธารณชนทั่วไป โดยหมอผีจะไปหาหม้อดินของแม่ม่ายที่มีเขม่าควันไฟจับหนาๆมา แล้วเอาหม้อดินครอบศีรษะคนถูกปอบสิง ใช้มีดโกนขูดเขม่าควันไฟ คล้ายกับโกนผมให้ หมดไปครึ่งศีรษะ จากนั้นปล่อยให้ปอบออกจากร่าง วิธีการ ไล่ปอบแบบนี้จะทำให้ผู้เป็น ปอบหรือเลี้ยงปอบไว้ต้องหลบซ่อนอยู่แต่ในห้อง หรือเวลาออกนอกห้องไปไหน มาไหน ต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะตลอดเวลา เนื่องจากเส้นผมแหว่งหายไปครึ่งศีรษะ ....ขอยืนยันว่าสมัยโบราณมีจริงๆเนื่องจากโยมพ่ออาตมาเป้นหมอธรรม ชื่อธรรมลี เป็นที่รู้จักในหมู่บ้านหนองผักเเว่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  8. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เรื่องของปอบนี้จะลงความเห็นว่าเกิดจาก "ความเชื่อ" หรือความงมงายไร้สาระเอาเสียเลยก็
    คงไม่ได้ เพราะเรื่องราวประหลาด ๆ เกี่ยวกับผีปอบยังเคยปรากฎกับพระอริยสงฆ์ เช่น หลวงปู่ดู่พรหม
    ปัญโญ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาแล้ว

    กล่าวคือ มีหมอผีไสยเวท ชาวเวียงจันน์คนหนึ่งมาที่วัดสะแก มานมัสการหลวงปู่ดู่ บอกท่าน
    ว่าตนมีวิชาดีเป็น วิชาบิดไส้ บิดฟัน ต้องการมอบวิชานี้ให้แก่ท่านเป็นการเฉพาะเพราะเห็นว่าไม่มีใคร
    รับถ่ายทอดวิชาเหล่านี้ได้ แล้วก็มอบคัมภีร์โบราณให้ผูกหนึ่ง หลวงปู่ดูดเห็นว่าเป็นวิชาแปลก ก็รับไว้
    โดยเสียค่าครูให้เป็นธรรมเนียม เมื่อได้คัมภีร์นั้นมาแล้ว หลวงปู่ก็ไม่ได้เปิดดูหรือให้ความสนใจเป็นพิเศษ
    ท่านนำไปวางไว้ที่โต๊ะหมู่บูชา และก็ลืม ๆ ไป ส่วนหมอผีไสยเวทชาวลาวยังไม่กลับไปทันที หากนอนพักค้างคืนที่วัดสะแก
    ต่อ 2 - 3 วัน

    คืนนั้น..... หลวงปู่ดู่เกิดฝันประหลาด ฝันว่าท่านออกไปหากินคล้าย ๆ กับเป็นปอบและไปกินควายชาวบ้าน
    ซึ่งอยู่ในตำบลใกล้เคียง เช้าวันรุ่งขึ้นท่านก็ยังไม่ฉุกคิดอะไร กระทั่งล่วงเข้าคืนที่สอง ขณะที่หลวงปู่นอนหลับ ท่านก็ฝัน
    ในลักษณะเดียวกันอีก คือ ออกไปกินไส้ควายของชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้ ๆ

    เช้าวันรุ่งขึ้น ก็ได้มีชาวบ้านมาหาหลวงปู่ดู่ เล่าถวายต่อท่านว่า เมื่อคืนนี้ควายของเขาตาย กะทันหันโดยหา
    สาเหตุไม่พบ อีกทั้งลักษณะการตาย มีสภาพน่ากลัวหลายอย่าง หลวงปู่สอบถามว่าตั้งบ้านเรือน อยู่อาศัยที่ใด
    ชาวบ้านก็กราบเรียนให้ท่านทราบ คราวนี้ หลวงปู่ดู่ถึงกับสะดุ้ง เพราะที่อยู่ของชาวบ้านคนนั้นตรงกันกับบ้านที่ท่านฝัน
    ว่าไปกินไส้ควายมานั่นเอง หลวงปู่ดู่คิดว่า "อ้ายลาวไสยเวทคนนี้เห็นทีจะเอาวิชาชั่วร้ายมามอบให้ท่านเป็น ถึงได้เกิดเหตุการณ์
    ดังกล่าวขึ้น หากท่านเกิดฝันไปกินคนเข้า อาจทำให้ใครต่อใครตายได้และวิชาที่ท่านรับมาเห็นทีจะเป็นวิชาปอบ ดังนั้น
    หลวงปู่ดู่จึงได้นำคัมภีร์ตำรา เอามาเผาไฟ

    ลาวหมอผีรู้ว่าหลวงดู่เผาวิชาตำรามันทิ้ง มันก็แสดงท่าโกรธเคืองไม่ใช่น้อย ตอนจากวัดกลับถิ่นเดิมของมัน
    มันไม่ยอมมาบอกกล่าวกราบลา แม้แต่คำเดียว และนับแต่นั้นก็ไม่หวนหลับมาที่วัดสะแก อีกเลย<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. หนูนะ

    หนูนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +199
    มีท่านครูบาท่านหนึ่งสอนว่าให้พกกระเทียมกลีบหนึ่งติดตัวไว้ หรือมะนาวก็ได้ใช้กันคุณไสยได้ค่ะ แต่ไม่รู้ว่ากันปอบได้หรือเปล่า
     
  10. ตัวเล็กจัง

    ตัวเล็กจัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +22
    :cool::cool:



    เท่ห์มาก:cool:
     
  11. userx

    userx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +1,061
    เห็นด้วยอย่างแรงงง

    ขอบวกให้ซัก 1000 เห็นด้วยอย่างแรงงงง ปอบกู้ชาติ 555
     
  12. krasin

    krasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +2,821
    อยากให้ลองจับพวกที่ปอบเข้า เอาไปปล่อยกลาง สยามพารากอน หรือ เซ็นทรัลเวิร์ด ดูว่าเค้าจะเป็นยังไง เพราะพวกนี้กลัวความเจริญ เคยได้ยินกันบ้างมั้ย ข่าวประมาณว่า
    "ผวา พนักงานพารากอนผีปอบเข้า ลงไปกินเนื้อสดๆในซุปเปอร์ หรือแบบว่า สยอง เด็กนักศึกษามาเดินพารากอน ไหลตายติดต่อกันหลายคน สิ่งเหล่านี้ผีปอบสงวนสิทธิ์เฉพาะตามบ้านนอกเหรอครับ
     
  13. mcgi

    mcgi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +33
    ไม่เชื่อครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ บ้านผมติดวัด บางเดือน ต้องรอคิวสวด
    ประชากรเกิดมากกว่าตายครับ
     
  14. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    กระทู้นี้ นำเรื่องราวของผี ผี มาเล่าสู่กันฟัง ส่วนคุณโยมท่านใดจะเชื่อ หรือไม่เชื่อก็เป็นเรื่องของเเละละบุคคล คนในประเทศไทยเเละบนโลกใบนี้ บางคนก็เชื่อว่าผีไม่มีจริง..ก็ไม่เเปลกเเต่อย่างไร ส่วนคนทีเชื่อว่ามีมีอยู่จริง หรือบางคนพบเจอผีจริงๆด้วยตัวเขาเองเขาก็เชื่อ..ดังนั้น อาตมาเพียงเเต่นำมาให้อ่าน เพราะว่าอาตมาเป็นคนอิสาน เคยไปดูเขาไล่ปอบตอนเด็กๆเมื่อ30ปีก่อน ส่วนผีบอปจะมีอยู่จริงหรือ...อาตมาไม่ขอยืนยัน เพราะยังไม่เคยได้นั่งคุยกันเลยสักครั้ง ...โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน(จึงจำเป็นมากๆสำหรับทุกคน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2012
  15. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เหตุเกิดที่วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น จ.ร้อยเอ็ด ดึกสงัดกลางพรรษา ปี2554
    พระเกือบทั้งวัดได้ยินเสียงดังเหมือนคนทะเลาะกัน ต้นเสียงมาจากกุฏิหลวงมาวินัยพระบวชใหม่...ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีเลย วัดป่าบ้านหนองผักเเว่นตั้งอยู่บริเวณป่าช้าเก่า เวลากลางคืนชาวบ้านไม่มีใครกล้าเข้ามาอยู่เเล้ว คืนนั้นท่านท่านเล่าให้ฟังตอนเช้าว่า ท่านนอนไม่หลับทั้งคืน ... ท่านเล่าตอนเช้าหลังจากทำวัตรเช้าตี5ครึ่ง ท่านบอกว่า ไม่ได้นอนทั้งคืนเลย กำลังจะหลับครึ่งหลับครึ่งตื่น จะเป็นเงาดำๆมานั่งทับที่อกท่าน เเล้วเอามือจะบีบคอท่าน ท่านดิ้น สู้กัน ชกไปสองที มือขวาบวมเปล่ง เนื่องจากชกโดน เสากุฏิไม้ นิ้วบวมเห็นเเล้วหวาดเสียว อาตมาถามว่าชกทำไม...ท่านตอบว่าเห็นว่าเป็นผีเเน่ๆ เป็นผู้ชายร่างใหยญ่ๆโตๆ ไม่ใส่เสื้อ ใส่กางเกงเเบบสมัยโบราณ ท่านโกรธที่บีบคอท่าน ท่านเลยชก กะจะเอาคืน บ้างชกโดนเหลี่ยมเสาไม้เเดงเต็มๆ2ที จนมือเเตก เลือดอาบ ...มีพระรูปหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ไหนว่าหลวงตาวินัยมี คาถาดี ทำไม ไม่ท้องไล่ผี ท่านก้มหน้าตอบเบาๆ ผีมันท้องได้ทุกบทเลย หลวงปู่นั่งฟังท่านไม่พูดอะไร ส่วนอาตมาก็บอกท่าน เช้านี้ ไปจุดธูปหน้าพระพระประธาน7ดอก กล่าวขอขมาโทษ ท่านรีบทำตาม บอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในวัดในวา เจ้าที่เจ้าทางผู้ที่อยู่ก่อน(ป่าช้าเเห่งนี้ เป็นวัดเก่าสมัยโบราณ) ว่าได้ล่วงเกินทางวาจา จงยกโทษให้พระใหม่ ซึ้งยังไม่รู้ข้อวัตร ของพระ ตั้งเเต่วันนั้นมา ท่าก็อยู่ได้ เว้นเเต่วันไหนท่านขี้เกียจสวดมนต์ มาอีกเเล้ว นอนๆกำลังจะหลับมีมือมาดึงขาเลย ...ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง หากคุณโยมอยากฟังละเอียดกว่านี้ ต้องโทรไปหาเเละฟังจากปาก หลวงปู่ดี คัมภีโร เบอร์วัด043612037
    (ท่านเล่าให้ฟัง) หวย..ไม่ฝันดอก พวกไม่มีบุญเก่า บอกไปก็ไม่ถูก เซาๆถาม(เซาๆเเปลว่าหยุดพูด) ถ้ามีบุญเก่า ซื้อตัวเดิมที่มันออกเเล้วมันก็ถูก ตรงๆ ชาวบ้านตีเป็นถูกหลายคน
    เเต่ถามท่าน ท่านบอกว่าไม่ได้ตั้งใจพูดบอกหวย ท่านพูดสอนเรื่องบุญเก่า ..ผลของกรรมเเละการกระทำ<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เหตุจำเป็นต้องเลิก การสวดปาฏิโมกข์
    การลงอุโบสถ คือ การที่พระภิกษุสงฆ์ร่วมประชุมกันที่พระอุโบสถเพื่อฟังปาฏิโมกข์ตามพระวินัย เป็นการทบทวนศีล 227 ข้อ ของพระภิกษุ โดยจะมีการสวดทุก 15 วัน คือ ในวันขึ้น 15 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ ในเดือนเต็ม หรือวันแรม 14 ค่ำ ในเดือนขาด
    นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ทำอุโบสถเป็นพิเศษในคราวที่ภิกษุแตกความสามัคคี เมื่อภิกษุกลับมาสามัคคีกันอีกครั้ง แม้จะยังไม่ถึงวันปาฏิโมกข์ ก็ให้สวดปาฏิโมกข์ได้ เรียกว่า สามัคคีอุโบสถ
    การสวดปาฏิโมกข์ เป็นทั้งสังฆกรรมตามพระวินัย และเป็นกิจสงฆ์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ผู้ที่บวชในพระพุทธศาสนา ควรมีโอกาสได้ร่วมฟัง ในวินัยระบุว่า วัดหนึ่งจะต้องมีภิกษุสวดปาฏิโมกข์ได้หนึ่งรูป หากไม่มีเจ้าอาวาสต้องขวนขวายให้มี หากไม่ขวนขวายเป็นอาบัติ ถ้าขวนขวายแล้วยังไม่มี พอถึงวันปาฏิโมกข์ต้องไปร่วมฟังในวัดที่มีการสวดปาฏิโมกข์
    ถ้าในย่านนั้นไม่มีวัดที่มีภิกษุสวดปาฏิโมกข์ หรือมีภิกษุไม่ครบ 4 รูป ไม่ต้องสวดปาฏิโมกข์ แต่ให้อธิษฐานอุโบสถแทน โดยตั้งใจว่า "วันนี้เป็นวันอุโบสถ"
    ในระหว่างที่มีการสวดปาฏิโมกข์ ผู้ที่จะอยู่ในที่ประชุมสงฆ์ได้ต้องเป็นภิกษุเท่านั้น ไม่มีเหตุจำเป็น จะหยุดสวดปาฏิโมกข์ในระหว่างไม่ได้

    เหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องหยุดสวดปาฏิโมกข์มี 10 อย่าง คือ

    1.พระราชาเสด็จมา ให้เลิกสวดปาฏิโมกข์เพื่อจะรับเสด็จได้

    2.โจรมาปล้น เลิกสวดปาฏิโมกข์เพื่อหนีภัยได้

    3.ไฟไหม้ เลิกสวดปาฏิโมกข์ เพื่อไปดับไฟได้

    4.น้ำหลากมา เลิกสวดปาฏิโมกข์เพื่อหนีน้ำได้ ถ้าสวดกลางแจ้ง เกิดฝนตกในระหว่าง เลิกได้เหมือนกัน

    5.คนมามาก เลิกสวดปาฏิโมกข์ เพื่อไปต้อนรับปฏิสันถาร

    6.ผีเข้าภิกษุ เลิกสวดปาฏิโมกข์ เพื่อขับผีออกจากภิกษุ

    7.สัตว์ร้าย เช่น เสือ เป็นต้น เข้ามาในอาราม เลิกสวดปาฏิโมกข์เพื่อไล่สัตว์ได้

    8.งูร้ายเลื้อยเข้ามาในที่ชุมนุม ก็เหมือนกัน

    9.ภิกษุอาพาธด้วยโรคร้ายขึ้นในที่ชุมนุมสงฆ์ อันจะเป็นอันตรายแก่ชีวิต เลิกสวดปาฏิโมกข์เพื่อช่วยแก้ไขได้ ถ้ามีเหตุอันจะเป็นอันตรายเกิดขึ้นในที่นั้นก็หยุดได้

    10.มีอันตรายแก่พรหมจรรย์ เช่น มีใครมาเพื่อจับภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ให้เลิกสวดปาฏิโมกข์ เพราะความสับสนอลหม่าน

    ขอบคุณ ที่มาหนังสือพิมพ์ข่าวสด
     
  17. AnyaS

    AnyaS Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +33
    ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ ให้ชาวบ้านในหมู่บ้านพร้อมกัน
    ท่องคาถาว่า "อ.อุบลช่วยด้วย"
    ไม่ว่าจะเป็นผีไหนก็ต้องเผ่นอย่างแน่นอน
    (ลองดูได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ)
     
  18. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เรื่องราวของผีมีจริงหรือไม่นั้น...ตัวอาตมาเองเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัยเชื่อจากอะไร เริ่มเเรกทีเดียวเชื่อในคำเเปลของบทสวดมนต์ ถ้าไม่มีจริงพระพุทธเจ้าท่านคงไม่ตรัสไว้อย่างเเน่นอน


    กรณียเมตตปริตร หรือ กรณียเมตตสูตร
    ทำให้หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย
    เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย เทพพิทักษ์รักษา ไม่มีภยันตราย
    จิตเป็นสมาธิง่าย ใบหน้าผ่องใส มีสิริมงคล ไม่หลงสติในเวลาเสียชีวิต
    และเป็นพรหมเมื่อบรรลุเมตตาฌาน

    1. กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
    สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี .... กิจที่คนฉลาดในสิ่งที่มีประโยชน์ และมุ่งหมายจะบรรลุทางสงบ
    จะพึงทำก็คือ เป็นคนกล้า เป็นคนซื่อ เป็นคนตรง ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่เย่อหยิ่ง

    2. สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ
    สัลละหุกะวุตติสันตินท์ริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
    เป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย มีภาระกิจน้อย คล่องตัว ระมัดระวังการแสดงออก รู้ตัว ไม่คะนอง ไม่คลุกคลีในตระกูลทั้งหลาย

    3. นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
    สุขิโน วา เขมิโน โหนตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุสุขิตัตตา
    ไม่ประพฤติสิ่งที่วิญญูชนตำหนิติเตียนได้, พึงแผ่เมตตาจิตว่า ขอสัตว์ทั้งปวง จงมีความสุขกายสบายใจ มีความเกษมสำราญเถิด


    4. เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา
    อะนะวะเสสาทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา
    ขอสัตว์ทั้งหลายบรรดามี ที่เป็นสัตว์ตัวอ่อนหรือตัวแข็งก็ตาม เป็นสัตว์มีลำตัวยาวหรือลำตัวใหญ่ก็ตาม มีลำตัวปานกลางหรือตัวสั้นก็ตาม ตัวเล็กหรือตัวโตก็ตาม

    5. ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเรภูตา
    วา สัมภะเวสี วา.สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
    ที่มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม ที่อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้ก็ตาม ที่เกิดแล้ว หรือ
    กำลังหาที่เกิดอยู่ก็ตาม ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงนั้นจงสุขกายสบายใจเถิด

    6. นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง
    กิญจิพ์ยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ
    บุคคลไม่พึงหลอกลวงผู้อื่น ไม่ควรดูหมิ่นเหยียดหยามใคร ๆ ไม่ควรมุ่งร้าย
    ต่อกันและกัน เพราะมีความขุ่นเคืองโกรธแค้นกัน

    7. มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
    เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    คนเราพึงแผ่ความรักความเมตตา ไปยังสัตว์ทั้งหลายหาประมาณมิได้ ดุจดังมารดาถนอม และปกป้องบุตรสุดที่รักคนเดียวด้วยชีวิต ฉันนั้น


    8. เมตตัญจะ สัพพะโลกัส์มิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณังอุทธัง
    อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
    พึงแผ่เมตตาจิต ไม่มีขอบเขต ไม่คิดผูกเวร ไม่เป็นศัตรู อันหาประมาณไม่ได้ ไปยังสัตว์โลกทั้งปวงทั่วทุกสารทิศ

    9. ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
    เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
    ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน ตลอดเวลาที่ตนยังตื่นอยู่ พึงตั้งสติ อันประกอบด้วยเมตตานี้ให้มั่นไว้ บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า การอยู่ด้วยเมตตานี้ เป็นพรหมวิหาร (การอยู่อย่างประเสริฐ)

    10. ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน
    กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ
    ท่านผู้เจริญเมตตาจิต ที่ละความเห็นผิดแล้ว มีศีล มีความเห็นชอบ
    ขจัดความใคร่ ในกามได้ ก็จะไม่กลับมาเกิดอีกเป็นแน่แท้

    (คำแปลของ ศาสตราจารย์พิเศษ เสฐียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต)<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. aum222

    aum222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +344
    ให้ความตายเปิดตา ผู้มืดบอด ความตายยังมาไม่ถึงอย่าพึงล้อเล่นกับความตาย
     
  20. Jittangman

    Jittangman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +741
    เนื่องจากนักการเมืองก็มีผีปอบแฝงในร่างเช่นกันครับ ผีปอบที่อยู่ชนบท ก็คงกลัวผีปอบมหาอำนาจครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...