ด่วน! เบื้องบนเปิดรับตำแหน่ง

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย คนขายธูป, 6 กันยายน 2007.

แท็ก: แก้ไข
  1. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    ด่วน! เบื้องบนเปิดรับตำแหน่ง “เทพ” ว่างหลายอัตรา เฉพาะผู้ที่จุติมาช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนาในกึ่งพุทธกาล
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    ด้วยผลกรรม “สับเปลี่ยนดอกบัว” ระหว่างองค์พระศรีอาริยเมตตรัยโพธิสัตว์ และองค์พระพุทธเจ้าสมณโคดมในอดีตกาลก่อน ยังผลให้พระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมจำต้องหักกลาง โดยมีพระศรีอาริยเมตตรัยโพธิสัตว์ จุติมาค้ำยันให้พระศาสนาเดินต่อไปจนครบ ๕,๐๐๐ ปี เหล่าทวยเทพน้อยใหญ่ ตั้งแต่สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาจวบจนถึงชั้นปรนิมมิตวสวัสตี และพรหมโลก ที่ศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านอบน้อมกายถวายตัวรับใช้เพื่อร่วมกันบำเพ็ญบุญบารมีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ร่วมกัน ต่างจุติลงมาเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ต้องรับเคราะห์กรรมอันสะสมมานานนับหมื่นปี ด้วยภัยพิบัตินานัปการ เทวสภาเบื้องบนได้ประชุมพร้อมใจกันเปิดรับตำแหน่งเทพต่างๆ มากมายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยเพราะเหล่าเทวดานั้นมีความยินดีในการร่วมผลบุญบารมีมากล้นหลาม จนตำแหน่งเทพบนสวรรค์ไม่อาจรองรับได้เพียงพอ ณ บัดนี้เป็นการอันควรแล้วที่จะเปิดให้เหล่าเทพเทวดาน้อยใหญ่ได้จุติลงไปสานงานกึ่งกลางพุทธกาล เพื่อกลับมารับตำแหน่งเทพต่างๆ บนสวรรค์ดังที่ท่านทั้งหลายเคยตั้งใจร่วมกันไว้แต่ภพชาติก่อน
    <O:p</O:p
    ในการนี้ ขอเชิญเหล่าพระโยคาวจรเจ้า ผู้จุติแล้วทั้งหลายบนโลกนี้ อันได้แก่สมาชิกผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์พลังจิต ด้วยผลบุญสัมพันธ์น้อมนำมาให้ได้พบเจอกันอีกครา ได้ตั้งจิตอธิษฐานร่วมบุญบารมีทานครั้งใหญ่ร่วมกัน ดังจะกล่าวต่อไปนี้ด้วยเทอญ
     
  2. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    คำกล่าวอธิษฐานจิตเพื่อบำเพ็ญเพียร
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    ขอให้ท่านทั้งหลายตั้งจิตอันบริสุทธิ์เพื่ออธิษฐานให้มั่นคง เตรียมดอกไม้ธูปเทียนสักการบูชาต่อหน้าองค์พระพุทธรูป อันมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นองค์ประธานเบื้องหน้า และมีพระพุทธเจ้าทั่วทั้งสากลจักรวาลเป็นทิพย์พยานเบื้องหลัง มีพระปฐมพุทธเจ้าทรงเป็นทิพย์พยานเบื้องบนสุด และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งไตรภพเป็นทิพย์พยานโดยพร้อมเพรียงกัน ขอจงได้ฟังคำกล่าว “ปณิธาน” ของข้าพเจ้าร่วมกัน ณ กาลบัดนี้
    <O:p</O:p
    ข้าพเจ้า ................. (กล่าวชื่อและนามสกุลตนเอง)
    ขอตั้งจิตอธิษฐานบำเพ็ญเพียรบารมี ๑๐ ทัศ ในฐานะ ...........
    (ระบุความปรารถนา, ตำแหน่งเทพหรือโพธิสัตว์ที่ต้องการลงไป)
    อันมีบารมีธรรมอันล้ำยิ่งประกอบด้วยประการต่างๆ ดังต่อไปนี้
    (ระบุบารมีธรรมที่เราจะต้องบำเพ็ญในตำแหน่งเทพนั้นๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้)
     
  3. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    “เทพเจ้าภาคผู้สร้างใหม่” เช่น พระอมิตาภะ, มหาเทพศิวะ, พระอินทร์ ฯลฯ
    (เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบช่วยเหลือคนด้วยแก้ปัญหาภาพรวมภายใต้ความขัดแย้ง)

    <O:p</O:p

    หน้าที่ ปกครองดูแลเทวดาที่มีอยู่มากมาย ให้อยู่ในความสงบร่มเย็นเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ก่อความวุ่นวายบนสวรรค์ จะต้องเป็นนักแก้ปัญหานักเจรจาต่อรอง เพื่อสยบปัญหาระหว่างเทวดามิจฉาทิฐิ และเทวดาสัมมาทิฐิ เพราะฝ่ายมิจฉาทิฐิไม่อยู่ในฐานะที่จะสอนได้ จำต้องใช้การเจรจาแลกเปลี่ยน มีเงื่อนไขและการต่อรองเสมอเทพฝ่ายปกครองนี้มีอยู่มากมาย ตั้งแต่ พระอินทร์, พระเทวราชาทั้ง ๓๓ องค์ในชั้นดาวดึงส์ นอกจากนี้ ยังมีเขตการปกครองย่อยๆ ที่ไม่อาจเรียกได้เป็นเทวราชาอีก ด้วยเพราะเทวดาบนสวรรค์มีมากมายมหาศาลกว่าบนโลกนัก ดังนั้น ประเทศเขตแดนก็กว้างใหญ่ไพศาล และจำต้องมีเทพฝ่ายปกครองช่วยกันดูแลให้ทั่วถึงทั้งสวรรค์มากมาย <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บารมีพื้นฐาน<O:p</O:p
    ๑. ทานบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญรู้จักเสียสละส่วนตน ทั้งด้านทรัพย์, แรงงาน, ความคิด, ความรู้สึกชอบไม่ชอบส่วนตัว ฯลฯ เพื่อยังกิจให้สำเร็จ
    ๒. ศีลบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญมีความเป็น “มนุษย์ปกติมาตรฐาน” ไม่ทำสิ่งเลวร้ายตกต่ำไปกว่ามาตรฐานแห่ง “สัตว์ประเสริฐ” ได้แก่ ศีลทั้ง ๕ ข้อ
    ๓. วิริยะบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญพัฒนาความสามารถของตนให้สูงขึ้นไป อย่างไม่มีขีดจำกัด อันเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการทำงานทุกชนิด
    ๔. เมตตาบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญมุ่งกิจไปยังประโยชน์แก่มหาชน อันนำไปสู่ความเป็น “เทพ” อันแท้จริง ขาดซึ่งเมตตาธรรมเสียแล้วก็บำเพ็ญก็ไร้ผล
    ๕. ปัญญาบารมี เป็นบารมีอันเป็นที่สุดให้ผู้บำเพ็ญยังกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการบรรลุในกิจการงาน หรือ การบรรลุโพธิสัตว์ธรรมและอรหันต์ธรรม

    บารมีเฉพาะ<O:p</O:p
    ๑. จาคะบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับการเป็นผู้ปกครอง ที่ต้องเสียสละความสุขส่วนตน เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่มหาชนส่วนใหญ่ จำต้องเป็นผู้เสียสละตน
    ๒. สัจจะบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับการเป็นผู้ปกครอง พูดสิ่งใดไว้ต้องทำตามที่พูด ไม่เช่นนั้น จะไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาเชื่อถือในคำพูดใดๆ คำสั่งใดๆ ก็ไร้ผล
    ๓. อุเบกขาบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับการเป็นผู้ปกครอง ที่ต้องอยู่ระหว่างความขัดแย้งของคนสองฝ่าย จะเอนเอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้ ไม่มีใครถูกผิด
    ๔. ขันติบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับการเป็นผู้ปกครอง ที่ต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผู้ที่อยู่เหนือกว่าสั่งงานลงมา และความวุ่นวายของผู้อยู่ใต้การบังคับบัญชา
    ๕. อธิษฐานบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับการเป็นผู้ปกครอง ที่ต้องวางเป้าหมายของการทำงานให้ชัดเจน เมื่อได้รับคำสั่งจากเบื้องบนลงมา ด้วยการอธิษฐาน
    <O:p</O:p

    ข้อสังเกต: ตัดเนกขัมมะบารมีเพราะหากเป็นผู้ปกครองทางโลก ไม่จำเป็นต้องบวชเนกขัมมะ เพียงถือศีลในแบบฆราวาส แต่หากปรารถนาพุทธภูมิ ต้องบำเพ็ญทั้งทศบารมี เพราะต้องเป็น “ผู้ปกครองสงฆ์” ในฐานะพระพุทธเจ้าในอนาคตชาติ และส่วนผู้บำเพ็ญแบบมหาเทพศิวะจะต้องมีเนกขัมมะบารมีด้วย ทั้งนี้ได้เพิ่ม จาคะบารมี เพื่อให้สละตนยังประโยชน์สุขแก่มหาชน บารมีตัวนี้จะพัฒนาเป็นบารมี ๒๐ และ ๓๐ ทัศต่อได้ในอนาคต
     
  4. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2007
  5. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    “เทพเจ้าภาคผู้รักษา” เช่น พระไภษัชยคุรุ, พระพรหม, ฤษีชีวกโกมารภัทร ฯลฯ
    (เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบช่วยเหลือคนโดยรักษาโรคและทุกข์ภัยด้วยการกุศล)<O:p</O:p

    หน้าที่ ดูแลรักษามวลสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ทางร่างกายจากความยากจน, ขัดสนทางกาย และด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ด้วยโอสถสวรรค์พิเศษ ได้เรียนรู้กับท่าน “ชีวกโกมารภัทร” และเรียนรู้สมุนไพรสวรรค์สุดพิสดาร ทั้งยังเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านสมุนไพรและยาให้แก่เทวดาและเทพต่างๆ ที่จะจุติไปถ่ายทอดความรู้แก่ผู้คนยังโลกมนุษย์ตามวาระการเกิดเพื่อไปบำเพ็ญเพียรในแต่ละรุ่น ทั้งนี้หากตนเองหมดวาระบนสวรรค์ไปจุติก็จะได้เป็นนักการกุศล, แพทย์ หรือครูแพทย์ทุกชาติไป อนึ่ง ตำแหน่งเทพเจ้าภาคผู้รักษานี้ เป็นคำรวม ซึ่งรวมถึงทั้งครูบาอาจารย์, แพทย์, หมอยา, หมอสัตว์, มูลนิธิเพื่อการกุศล ฯลฯ
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    บารมีพื้นฐาน<O:p</O:p
    ๑. ทานบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญรู้จักเสียสละส่วนตน ทั้งด้านทรัพย์, แรงงาน, ความคิด, ความรู้สึกชอบไม่ชอบส่วนตัว ฯลฯ เพื่อยังกิจให้สำเร็จ
    ๒. ศีลบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญมีความเป็น “มนุษย์ปกติมาตรฐาน” ไม่ทำสิ่งเลวร้ายตกต่ำไปกว่ามาตรฐานแห่ง “สัตว์ประเสริฐ” ได้แก่ ศีลทั้ง ๕ ข้อ
    ๓. วิริยะบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญพัฒนาความสามารถของตนให้สูงขึ้นไป อย่างไม่มีขีดจำกัด อันเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการทำงานทุกชนิด
    ๔. เมตตาบารมี เป็นบารมีเบื้องต้นให้ผู้บำเพ็ญมุ่งกิจไปยังประโยชน์แก่มหาชน อันนำไปสู่ความเป็น “เทพ” อันแท้จริง ขาดซึ่งเมตตาธรรมเสียแล้วก็บำเพ็ญก็ไร้ผล
    ๕. ปัญญาบารมี เป็นบารมีอันเป็นที่สุดให้ผู้บำเพ็ญยังกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการบรรลุในกิจการงาน หรือ การบรรลุโพธิสัตว์ธรรมและอรหันต์ธรรม

    บารมีเฉพาะ<O:p</O:p
    ๑. จาคะบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับเทพผู้รักษาโรค คือ การเสียสละตนเอง ทั้งชีวิต เพื่อรักษาชีวิตผู้อื่น เหมือนดั่งแพทย์ปัจจุบันที่ต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน
    ๒. อุเบกขาบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับเทพผู้รักษาโรค คือ การวางจิตนิ่งเฉยจากทุกข์แห่งโรคภัยไข้เจ็บของสรรพสัตว์ที่ตนให้การช่วยเหลือเป็นเนืองนิตย์
    ๓. ขันติบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับเทพผู้รักษาโรค คือ การอดทนต่อการเรียนรู้ที่ยากลำบากในทางการแพทย์ และการอดทนต่อสิ่งอันน่ารังเกียจและการรักษา
    ๔. อวิภาคะบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับเทพผู้รักษาโรค คือ การมองและปฏิบัติประหนึ่งว่าทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกันและมีค่าเท่ากับชีวิตของเราไม่แบ่งแยก
    ๕. อธิโมกบารมี เป็นบารมีเฉพาะสำหรับเทพผู้รักษาโรค คือ ความเด็ดเดี่ยวกล้าตัดสินใจ กล้าเสี่ยง ณ จุดที่ไม่มีผู้ใดออกคำสั่ง ในจุดเสี่ยงตายของคนไข้
    <O:p</O:p
    ข้อสังเกต: บารมีทั้ง ๑๐ นี้ ตัดบารมีในส่วนของการเป็นผู้ปกครองและส่วนของการเป็นนักบวชออกไป เพิ่มบารมีการเสียสละประโยชน์ส่วนตน ซึ่งเป็นบารมีเฉพาะวิชชาชีพแพทย์ และการมองเห็นทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน แพทย์จะมองว่าหากพบคนเลว แล้วจะปล่อยให้ตายไม่ได้ เมื่อมาถึงมือหมอแล้ว ย่อมรักษาชีวิตทุกคนโดยเท่าเทียมกันไม่ลำเอียง และแพทย์ต้องเป็นนักตัดสินใจเพียงผู้เดียวอีกด้วยที่จะรักษาชีวิตคนไข้ได้หรือไม่ ทั้งนี้เพิ่มจาคะบารมี เพื่อเสริมทศบารมี ๑๐ ทัศให้กล้าแกร่งเป็น ๒๐-๓๐ ทัศตามลำดับ
     
  6. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    หลักการในการเลือกสายธรรมสายเทพและระดับในการบำเพ็ญเพียร<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    ระดับความยากง่ายในการบำเพ็ญเพียรตามสายธาตุธรรม<O:p</O:p

    แม้นว่าเราจะบำเพ็ญเพียรบุญบารมีเท่าใดก็ตาม ย่อมจะมีผู้อื่นบำเพ็ญเพียรบุญบารมีและปรารถนาเหมือนเราได้เช่นกัน เมื่อจุติบนสวรรค์แล้ว เบื้องบนจะตรวจวัดและคัดเฉพาะผู้มีบุญบารมีสูงและเหมาะสมกับตำแหน่งเทพหรือมหาเทพนั้นๆ ดังนั้น เราจำเป็นต้องประมาณตนว่าจะสามารถบำเพ็ญเพียรได้เท่าไรจริงๆ ในชาตินี้ก่อน เพื่อเป็นรากฐานเบื้องต้นในการบำเพ็ญเพียรต่อบนสวรรค์ หากเลือกได้เหมาะสมกับตน ก็จะไปจุติเป็นเทพในแบบที่ตนถนัดและบำเพ็ญเพียรต่อบนสวรรค์ได้อย่างดี แบ่งออกได้ดังนี้
    <O:p</O:p
    ๑. ภาคผู้ให้ (พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า, พระพรหม, เทพเจ้าแห่งการแพทย์ ฯลฯ)
    การบำเพ็ญเพียรในสายนี้ง่ายและไม่ลำบากแก่ตนเอง เหมาะแก่ผู้มีบุญมากในชาตินี้ เช่น ร่ำรวยเงินทอง เพราะสามารถให้สิ่งที่เหลือใช้เกินตน โดยไม่ต้องเสียสละหรือเปื้อนกรรม เรียกว่าให้อย่างเดียว ไม่เกี่ยวเรื่องขัดแย้งกับใคร ภาคนี้ ขอให้ถือเอาองค์พระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2007
  7. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    ระดับความยากง่ายในการบำเพ็ญเพียรตามลำดับ

    ๑. บำเพ็ญเป็นเทวดา<O:p</O:p
    เป็นขั้นแรกของการบำเพ็ญ คือ มีศีลบริบูรณ์ (ผิดได้บ้างแต่ระลึกตลอด) มีหิริโอตตัปปะปะ, ทำบุญมากกว่ากรรม เพียงแค่ร่วมบุญกับคนอื่นไปเนืองๆ ก็สามารถได้จุติเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่งตามกำลังบุญบารมี ไม่มีหน้าที่เฉพาะ ไม่อาจบำเพ็ญบุญบารมีบนสวรรค์ต่อได้ หมดวาระบุญก็ต้องลงมาจุติใหม่อีกรอบ
    <O:p</O:p
    ๒. บำเพ็ญเป็นเทพ<O:p</O:p
    เป็นขั้นที่สองของการบำเพ็ญ คือ เพิ่มเติม บารมี และความถนัดเฉพาะด้านลงไป จะไปจุติเป็นเทพในด้านนั้นๆ ที่ตนสนใจ เช่น การบอกบุญช่วยเหลือวัดนั้นวัดนี้ ก็จะได้บริวารมากมาย และอาจได้เป็นถึงเทพผู้ดูแล “เจดีย์บนสวรรค์” ก็อาจเป็นได้ ตามแต่บุญบารมีจะส่งผลไป ซึ่งจะทำให้มีหน้าที่เฉพาะบนสวรรค์ สามารถบำเพ็ญบุญบารมีบนสวรรค์ได้ ต่ออายุตนเองด้วยผลบุญที่สะสมบำเพ็ญเพียรบนสวรรค์ได้อีกเรื่อยๆ

    ๓. บำเพ็ญเป็นมหาเทพ<O:p</O:p
    เป็นขั้นที่สามของการบำเพ็ญ คือ นอกจากจะมีความถนัดและบารมีเฉพาะของตนแล้ว ยังต้องมุ่งประโยชน์ไปยัง “มหาชน” อีกด้วย คือ ไม่เพียงแต่ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่จิตระลึกถึงผลรวมภาพรวมเสมอ จะบำเพ็ญอะไรช่วยใคร ไม่คิดแค่ช่วยตรงหน้า แต่คิดยาวไปถึงผลทั้งโลก เป็นต้น สามารถตั้งความปรารถนาเพื่อบำเพ็ญเป็นมหาเทพได้ ซึ่งจะมีอิสระเหนือเทพปกติ (ซึ่งยังต้องอยู่ในกฎสวรรค์อย่างเคร่งครัด)

    ๔. บำเพ็ญเป็นโพธิสัตว์<O:p</O:p
    เป็นขั้นที่สี่ของการบำเพ็ญ คือ นอกจากจะมุ่งประโยชน์แก่มหาชนแล้ว ยังต้องมุ่งไปสู่การหลุดพ้นทุกข์อย่างแท้จริง หากไม่มีจิตพุ่งตรงต่อนิพพาน ว่าเป็นทางหลุดพ้นทุกข์ที่แท้จริง เป็นสุขแท้แล้ว การบำเพ็ญเพื่อช่วยคนก็ได้เพียง “มหาเทพ” แต่หากมีจิตระลึกเนืองๆ ว่าจะช่วยคนเพื่อถึงฝั่งพ้นทุกข์ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ช่วยตรงหน้าเรื่องๆ หนึ่งให้พ้นๆ ไปเท่านั้น แต่ช่วยให้ถึงที่สุดพ้นฝั่งแห่งทุกข์ จะยังผลให้จุติเป็นโพธิสัตว์บนสวรรค์ชั้นดุสิต ได้รับการทะนุถนอมดูแลจากมหาโพธิสัตว์รุ่นพี่มากมาย
    <O:p</O:p
    ๕. บำเพ็ญเป็นมหาโพธิสัตว์<O:p</O:p
    เป็นขั้นที่ห้าของการบำเพ็ญ คือ นอกจากจะมุ่งผลให้มหาชนถึงฝั่งพระนิพพานแล้ว ยังไม่หยุดการบำเพ็ญเพียร ตั้งปณิธานจะช่วยสรรพสัตว์ตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด

    ๖. บำเพ็ญเป็นพระยูไล<O:p</O:p
    เป็นการบำเพ็ญเพียรของพระมหาโพธิสัตว์เท่านั้น ในบางชาติอาจแบ่งภาคจิตเป็นนักรบกู้ชาติ ซึ่งเปื้อนกรรมมากมาย แต่สูงสุดแห่งการบำเพ็ญเพียรของมหาโพธิสัตว์ คือ การบรรลุธรรมขั้นยูไล สามารถหมุนกงล้อธรรมจักรให้หมุนเคลื่อนต่อไปได้
     
  8. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    หลักการเลือกสายธรรมและระดับการบำเพ็ญเพียรที่เหมาะสมกับตน

    ๑. ให้เลือกเข้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ในสามภาคนี้ ก็จะเข้าระบบการจัดการของจักรวาลสามภพ อันมีพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์เป็นองค์ประธานเบื้องสุด ดูแลเราให้ทำกิจต่างๆ โดยสะดวกปลอดภัย ไม่แตกแถว เมื่อตายลง จะได้มีพรรคพวกบนสวรรค์คอยต้องรับ และได้ไปเข้าเฝ้าเบื้องพระบาทพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

    ๒. ให้เลือกระดับในการบำเพ็ญเพียร ในห้าระดับนี้ ก็จะเหมาะสมกับชาติหนึ่งของตนที่สามารถพยายามไปถึงได้ ขอให้เลือกที่เรามั่นใจว่าเมื่อพยายามถึงที่สุดแล้วเราจะสามารถเดินไปถึงได้ ทำให้เราไม่ท้อแท้และมีความท้าทาย ไม่เลือกอะไรที่ง่ายเกินไป เพราะเมื่อตายลง อาจพบว่าตนจุติในภพภูมิที่ต่ำลงกว่าเดิน ไม่คุ้มค่าเลยที่อุตส่าห์เอาผลบุญบารมีติดตัวมาเกิด เท่ากับมาผลาญบุญบนโลกไปเท่านั้น

    ๓. ในการบำเพ็ญเพียรนี้ไม่เหมาะสำหรับ “สาวกภูมิ” ที่ต้องการเข้านิพพานในชาตินี้ เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถเข้านิพพานได้ในชาตินี้ด้วยเหตุผลต่างๆ ก็จะต้องเดินทางในสังสารวัฏต่อไป จึงต้องมีแผนที่ในการเดินทางที่แน่นอน ไม่เป็นคนเดินทางที่ไร้จุดมุ่งหมายไปวันๆ เพื่อรอคอยความตายที่กำลังมาเยือนเท่านั้น
    </O:p
    ตัวอย่างการเลือกสายธรรมและระดับการบำเพ็ญเพียร<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ตัวอย่างที่หนึ่ง<O:p</O:p
    “มหาเทพนาราย” คือ บำเพ็ญชาตินี้ในระดับมหาเทพ ช่วยคนให้มากที่สุด มุ่งผลประโยชน์แก่มหาชน เช่น เปิดตัวในหนังสือเพื่อให้คนรู้จัก และพร้อมช่วยเหลือหมดทุกคน โดยจะเดินตามสายภาคผู้ปราบ ปราบมิจฉาทิฐิและผีร้ายที่รบกวนคนให้หมดไป
    <O:p</O:p
    ตัวอย่างที่สอง<O:p</O:p
    “ยูไลนาราย” คือ บำเพ็ญชาตินี้ในระดับพระยูไล มุ่งการบรรลุโพธิสัตว์ธรรม เพื่อหมุนกงล้อธรรมจักรให้เคลื่อน ยังประโยชน์แก่มหาชนจนถึงที่สุดคือฝั่งพระนิพพาน โดยจะเดินตามสายภาคผู้ปราบมาร คือ ปราบมิจฉาทิฐิให้สิ้นไป ด้วยการเทศนาสอนธรรม
    <O:p</O:p
    ตัวอย่างที่สาม<O:p</O:p
    “มหาโพธิสัตว์ศิวะ” คือ บำเพ็ญชาตินี้ในระดับมหาโพธิสัตว์ มุ่งการยังประโยชน์แก่มหาชนแต่ไม่อาจนำสู่ฝั่งพระนิพพานได้ ขอเพียงให้มีความร่มเย็นเป็นสุขปรากฏแก่มวลประชาราษฎร์ โดยจะเดินตามสายภาคผู้สร้างใหม่ หรือผู้ปฏิรูปหรือผู้ปกครองประเทศ แต่ไม่ขอปฏิบัติจิตเจริญภาวนาจนบรรลุอรหันต์ ไม่ขอเทศนาธรรมเพื่อช่วยคนสู่ฝั่งนิพพาน จะขอเพียงจัดการระบบระเบียบการปกครองของประเทศให้กลับมาเรียบร้อย
     
  9. โคมฉาย

    โคมฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    3,058
    ค่าพลัง:
    +26,744
    ถึงขั้นหมิ่นพระพุทธานุภาพแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมเชียวเหรอ ไอ้เรื่องเปลี่ยนดอกบัวอะไรนะ มีที่มาจากไหนละ อยากจะทราบจริงๆ
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ
     
  10. Robert

    Robert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2005
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +3,118
    ขออภัยอย่างยิ่ง ผมเลือกที่จะเดินบน "วิถีเซียน" ครับ จำต้องปฏิเสธในสิ่งคุณเสนอมา ไม่อาจร่วมสนองได้

    ผมไม่ใช่ โพธิสัตว์
    ผมไม่ใช่ พุทธภูมิ
    ผมไม่มี หน้าที่สงเคราะห์ใครทั้งสิ้น

     
  11. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,790
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เคยได้รับรู้มาว่า...

    หลังจากสองพันห้าร้อยปีผ่านไปแล้ว เทพเทวา จะลงมาสานต่อไปอีกหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบปี
    หลังจากสามพันเจ็ดร้อยห้าสิบปีผ่านไปแล้ว มารยักษ์ จะสืบสานต่อ จวบจนผ่านถึงห้าพันปี

    หลังจากนั้นจึงค่อยๆลืมเลือนไปตามกาลเวลา...
     
  12. wayubut

    wayubut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +40
    ผมก็ได้ยินมาอย่างนั้นแล
     

แชร์หน้านี้

Loading...