พระยามาธิราชอีกหนึ่งชาติได้เป็นพระพุทธเจ้า

เคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่ปลงใจเชื่อ

 

ทำไมพวกนี้เยอะจัง อีกชาติได้เป็นแต่ถอนก่อน
เชื่อได้ยากนะครับ...

 

ดีครับได้ประโยชน์ไม่ค้านอยู่แล้ว ใครมีความเห็นอย่างไรก็ไม่แปลก ใครรู้มากรู้น้อยนั่นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จงเคารพในธรรม สิทธิซึ่งกันและกัน ทุกอย่างย่อมมีผิดพาดได้ครับ ในโลกนี้ มันไม่แปลกสำหรับ พวกพุทธภูมิที่ลาแล้ว ครั้งพระพุทธเจ้ายังมีเลยครับ พระมหากัจจายนะท่านลาสมัยพระองค์ทรงพระชนย์อยู่ ถ้าผิดถูกขออภัย พระเจ้าโกศลเป็นหลวงปู่ปาน เป็นพ่อพระเจ้าปเสนทิโกศล ๆ คือหลวงพ่อฤาษี พระเจ้าแผ่นดิน ในสมัยโบราณ ชื่อซ้ำกันเยอะ จึงทำความเข้าใจใหถูก บางอย่างเอามาพูดในที่นี้ มันก็ไม่เหมาะครับ

หลวงพ่อฤาษี ท่านบอกว่า ลาพุทธภูมิมาช่วยประกาศพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ท่านก็ได้รับการพยาการณ์ จากพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ลา นับจากพระศรีอารย์ไป เป็นองค์ที่ ๒๒ กัปต่อๆไปครับ ท่านับพระศรีอารย์ด้วย เป็นองค์ที่ ๒๓ ครับ (อ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ) เดี๋ยวจะไขว้เขว ท่านกล่าวไว้ว่า ในหลวงของเรา ถ้าไม่ลาพุทธภูมิ (ขออภัยนะครับถ้าผิดก็ขอโทษไว้นะที่นี้ด้วยครับผม) พ่อหลวงถ้าไม่ลาพุทธภูมิ นับถ้าจำไม่ผิด จากพระศรีอารย์ไป เป็นองค์ที่ ๑๗ หรืออีก ๑๖ พระองค์ ที่พระพุทธเจ้าต้องมาตรัสรู้ ครับ

ไปทำความเข้าใจก่อนว่า ตำแหน่งกษัษย์ หรือตำแหน่งพระอินทร์ ตำแหน่งท้าวมหาราช ทั้ง ๔ ก็เหมือนกัน เป็นตำแหน่งกลาง เมื่อองค์นี้ หมดบุญไป องค์อื่นที่มีหน้าที่ มีบุญบารมีถึง จะไปทำหน้าที่แทนครับ คือตำแหน่งว่างนั่นเองครับ (ถ้าอ่านตรงนี้เข้าใจ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องอธิบายแล้วครับคุณๆท่านๆ) เพราะมันคล้ายกันครับ พวกคุณลองไปอ่านประวัติ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่หลุย หลวงปู่แหวนสิครับ ท่านจะเข้าใจกว่านี้ ประวัติหลวงพ่อฤาษี บางอย่างเราอ่านมาแล้ว ยังจำไม่ได้เลย คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้อง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันข์จะไปจำอะไรได้หมด ตามแต่ใครจะเอาไปได้แค่ไหนครับ


พระสาวก เป็นพระอรหันต์ ยังเอาไปได้ไม่หมดเลย เราจะเก่งกว่าพระพุทธองค์หรือ เป็นไปไม่ได้ นอกจากคุณไม่ลาพุทธภูมิ แล้วไปให้ถึงนั่นแหละ คุณก็จะรู้อย่างพระองค์ครับ พวกท่านพูดมามันเหตุผล แต่ความรู้ มันรู้ไม่เท่ากันนะครับ รู้มากรู้น้อย เราต้องยอมรับแห่งความเป็นจริงครับ หลวงพ่อฤาษี ผมอธิษฐาน ไปจากบ้าน ท่านยังรู้หมดเลย วันๆเราทำอะไร ท่านก็รู้ เอาคนทั้งโลก ๆไหนก็ได้ท่านบอก ท่านรู้ได้หมด เรื่องอภินิหารของท่าน ผมเจอมามากมาย ครับ จนมีคนมาหาผมให้เขียนลูกศิษย์บรรทึก ผมบอกไม่เอาครับ เพราะเรายังมีกิเลสอยู่ ให้มันตายไปกับเรา

ตอนนี้ที่เขียนเข้ามาอ่าน ก็คนที่เขาบางคนแค่เรียนมา ยังมาเปิดกระทู้เยอะแยะ ผมตัดสินใจ เข้ามา อ่านและตอบท่านๆนี่แหละครับ ผิดถูกก็ขออภัย ในความไม่ชอบใจของ คนบางคนครับ

 

..มันจะเป็นกระทู้โลกแตกซะแล้วมั้ง 555.. รู้มากทิฐิมานะตัวตนยิ่งมาก

 

อีกมุมมอง

เรื่อง ร.4ท่านทำอนันตริยกรรม

ของดีอยู่แล้ว ไปทำให้ยุ่งคิดว่าคนนั้นเป็นคนอย่างไร และผลที่ได้รับคิดว่าจะเป็นอย่างไร?

ของที่ดีอยู่แล้ว เวลาต่อมามันยุ่งมีคนเห็นว่ามันยุ่ง แล้วไปทำให้ดี คิดว่าคนนั้นเป็นคนอย่างไร? และผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร?

สังเกตุของที่ดีจริง จะเป็นของที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพและมักจะเป็นที่ยอมรับในเวลาต่อมา

แต่ของไม่ดีจริง อาจเห่อช่วงเเรก สักระยะก็จะหายไป

ยกตัวอย่างที่ได้ยินบ่อย เรื่องของพระเทวทัต ตามที่ทราบกันดีอยู่แล้ว(เผลอไปอคติในทางลบกับท่านเข้าละ) เผื่อไปเกิดร่วมชาติกับท่าน

ส่วนคณะธรรมยุติ เท่าที่เห็น ครูอาจารย์ส่วนใหญ่ก็เป็นที่ให้ความเคารพ นับถือยอมรับและยังสืบทอดมาถึงปัจจุบัน

ผลของงาน ย่อมบ่งบอกว่าคนนั้นเป็นอย่างไร? และผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร?

เคยได้ยินเวลาใกล้ตายผลที่ทำมาจะมาแสดงและส่ง

พระโพธิสัตว์เทวทัต พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบว่าอยู่ที่ไหน

ส่วนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ มีใครเคยสัมผัสกับท่านบ้าง ว่าท่านเป็นอย่างไร? หรือ สติของท่านประมาณ? :love:น๊ะ จุ๊บ.จุ๊บ.

 

เข้ามาอ่านครับ แค่เห็นว่า ร.๕ กับ หลวงพ่อฤาษีฯ เป็นคนละองค์กัน ก็ขอลาแล้วครับ ขอแนะนำให้ไปหาหนังสือหลวงพ่อและไปหาความรู้ที่วัดท่าซุงครับหรือซอยสายลม หรือ บ้านวิริยะ หรือ เขาวงศ์ สระบุรี ฯลฯ แนะนำให้แค่นี้ครับ

 

คนเราต้องเปิดใจให้กว้าง สิ่งใดเรายังไม่รู้จริง อยู่ทำใจอยู่กลางๆก่อนครับ ผมขอถามท่าน ผู้ตะแบงหน่อย ในโลกของเรา ทำไม่ถึง มี ประถม ถึงป.๔ ม.๑ถึง ม.๖ มีป.ว.ส. มีป.ว.ช. ผมยังไม่ได้เรียนเลย แล้วยังมี ปริญญา ตรี โท เอก และดอกเตอร์ คนป.๔ มันจะเสือกไปรู้ ดอกเตอร์ หรือจบครับ

 

ตอบครับ ท่าใจเราไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ รับฟังไว้ก่อนครับ คุณไปทำความเข้าใจได้มันมันอยู่ไม่ลึก อยู่ต้นๆครับ คุณใช้ใจตามไปดู ตอนที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ โปรดพุทธมารดาครับ ส่วนใหญ่ ๙๘ เปอร์เซ็น วัดเก่าๆจะมีรูปภาพ ให้ดูครับ ตอนที่ท่านเสด็จลงมาจากสวรรค์ ใครไม่เชื่อก็ไม่ได้ห้าม ตอนนั้น เทวดา พรหม ยม ยักษ์ มาร มนุษย์ คนทั้งหลาย สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน มองเห็นกันหมด ท่านใช้ใจตรองดูว่า ไม่ว่าใคร มันเห็น ความอัศจรรย์ ของพระพุทธเจ้า

ใครๆก็ทำความปราถนา อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง ช่วงนั้นไฟนรกดับ ชั่วครู่ ท่านกล่าวว่า แม้แต่ สัตว์นรก เปรต อสูกาย สัตว์เดรัชฉาน มนุษย์ พรหมบางองค์ เทวดาบางองค์ ที่เป็นปุถุชน ทำความปราถนา เป็นพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว แม้แต่มดแดงมดดำ ยังยังทำความปราถนาเลย แล้วพวกท่านคิดดู มดมันอยู่ในรู รังหนึ่ง มีเป็นหมื่นเป็นแสนตัว ผมอยากถามพวกท่านว่า ในโลกนี้มันมีอยู่เท่าไหร่ ใครๆก็ทำความปราถนา แล้วมันทำไปถึงทุกตัว ตนหรือเปล่า ในเมื่อ พระโพธิสัตว์เต็มบ้านเต็มเมือง อย่างนี้ ไปหาค้นเอาน่ะครับ พูดไป เท่าไหร่ มันก็มีคนจำพวก ๒ จำพวก เชื่อกับไม่เชื่อ ดีกับชั่ว คนขวางกับไม่ขวาง มิจฉาทิฏฐิ กับ สัมมาทิฏฐิ สวัสดี

ต่อตอบอีกหน่อยครับ คนเราต้องเปิดใจให้กว้าง สิ่งใดเรายังไม่รู้จริง อยู่ทำใจอยู่กลางๆก่อนครับ ผมขอถามท่าน ผู้ตะแบงหน่อย ในโลกของเรา ทำไม่ถึง มี ประถม ถึงป.๔ ม.๑ถึง ม.๖ มีป.ว.ส. มีป.ว.ช. ผมยังไม่ได้เรียนเลย แล้วยังมี ปริญญา ตรี โท เอก และดอกเตอร์ คนป.๔ มันจะเสือกไปรู้ ดอกเตอร์ หรือจบครับ

 

อ่ะครับ จะลองทำตามนะครับ

แต่ยังไงก็ไม่เชื่อยู่ดีนะครับ.....
เพราะยังไงช่วงบารมีสุดท้าย ต่อให้ได้รับพยากรณ์แล้ว ก็ต้องใช้เวลาถึง4อสงไขย เป็นอย่างน้อย ถึงจะสำเร็จโพธิญาณได้
อย่างพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุปันนะครับ

ถ้าเกิดอีกหนึ่งชาติจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ก็น่าจะได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้ามาแล้ว

หรือผมเข้าใจผิดตรงใหน ชี้แจงได้นะครับ

 

ไม่ว่ายังไง ผมก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อถือ
และชอบเอาพระอ. มาอ้างว่า...
แต่การที่จะให้เชื่อโดยห้ามแย้ง ห้ามแสดงความเห็น
ยังไงก็ขัดกันวิธีของศาสนาพุทธ

สำหรับผมยังไง อีกหนึ่งชาติจะได้เป็นแล้วถอน ผมว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าบอกว่าอีก1ชาติไดรับพยากรณ์แล้วถอนก่อน

อันนี้ผมว่าพอเป็นไปได้นะครับ

 

เพราะพระพุทธเจ้าในอดีตต่างก็ได้รับพยากรณ์มาแล้วอย่างน้อย4อสงไขยขึ้นไปถึงจะเป็นพระพุทธเจ้าได้

อย่างพระศรีอาย์ท่านก็ได้รับพยากรณ์มาเมื่อ16อสงไขยที่แล้ว
และพระพุทธเจ้าก็ยังไม่ได้ตรัสด้วยว่าชาติใหนเป็นชาติสุดท้ายก่อนเป็นพระศรีอารย์
กล่าวคือ ต่อให้บารมีเต็มแล้ว ก็ยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ เพื่อรอให้ถึงกัปที่พร้อม
คือรอเพียงแค่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

แต่นี้กล่าวว่า 1ชาติเป็นพระพุทธะเจ้าได้เลย

ไม่แปลกเกินไปหน่อยเหรอครับ...

 

แล้วคำว่า นิตยโพธิสัตว์
คือรับพยากรณ์มาแล้วจากพระพุทธเจ้า
คือพระพุทธเจ้ากล่าวไว้แล้วว่า
คนๆนี้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
ถ้าพระพุทธเจ้าตรัสแล้ว ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามนั้น
เพราะถ้าหากยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นไปได้
ท่านก็ไม่ทรงพยากรณ์อย่างแน่นอน

 

หยาบไปหน่อยแต่ผม

 

หลังๆ รู้สึกจะมีพวก ชอบอ้าง ลพ.ฤาษี เยอะมากๆ ประเภทเอาคำพูดที่ตัวเองจินตนาการขึ้น มาโพสลงตามเว็บ แล้วบอกลพ. ฤาษีเป็นคนพูด รู้สึกจะมีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่โดนอ้างมั่วๆแบบนี้ แต่ในเว็บพลังจิต ลพ.ฤาษี จะโดนเยอะสุด

อีกอย่าง อีตาคนเมืองบัวนี่ เก่งมาจากไหนครับ เก่งกว่าพระพุทธเจ้าเหรอ ถึงได้รู้ไปหมด ผมเคยเข้าไปอ่านเว็บแก ผมว่าแกเพี้ยนๆ ไม่เต็มบาทนะ หรือไม่ก็นั่งสมาธิ จนเกิดวิปัสนู ติดนิมิต จนหลังๆ หลุดโลกไปแล้ว

 

เห็นด้วยกับคุณอภิมารครับ เรื่องอนันตริยกรรม ถ้ารู้แล้วว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรเสี่ยง คือได้ไม่คุ้มเสีย

อนันตริยกรรม หมายถึง กรรมหนักที่สุด (ครุกรรม) ฝ่ายบาปอกุศล ซึ่งให้ผลทันที มี 5 อย่าง คือ

1. มาตุฆาต - ฆ่ามารดา
2. ปิตุฆาต - ฆ่าบิดา
3. อรหันตฆาต - ฆ่าพระอรหันต์
4. โลหิตุปบาท - ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงพระโลหิตห้อ ขึ้นไป เช่น พระเทวทัตได้ทำร้ายพระพุทธองค์ ในสมัยพุทธกาล
5. สังฆเภท - ยังสงฆ์ให้แตกกัน ทำลายสงฆ์

ในส่วนของโทษหนักเบา และลำดับการให้ผลก่อนหลัง ของอนันตริยกรรม เรียงลำดับจากแรงที่สุดลงไป ได้ดังนี้

1. สังฆเภทอนันตริยกรรม
2. โลหิตุปบาทอนันตริยกรรม
3. อรหันตฆาตอนันตริยกรรม
4. มาตุฆาตปิตุฆาตอนันตริยกรรม

ในชีวิตนี้ และหลังจากนี้ตลอดไป สิ่งที่ผมไม่อยากทำและกลัวมากที่สุดคือ การทำอนันตริยกรรม เพราะได้ไม่คุ้มเสีย น่ากลัวมาก (กลัวได้ไปเกิดในอเวจีมหานรกครับ)

 

อย่างพี่ชุมพรไม่ต้องกลัวหรอกครับ ^^

 

ก็ได้แต่หวังว่าชาตินี้และตลอดไป คงจะไม่ได้ไปอเวจีมหานรก
ขอบใจมากที่ให้กำลังใจกัน

 

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ผมนั่งฟังหลวงพ่อ ฤาษี พระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง อ.เมืองจ.อุทัยธานี ที่ศาลาพระพินิจ ท่านเทศเป็นวันพระ ผมจะเอา หัวใจ ที่จำได้ในวันนั้น มาพูด ณเวลานี้จนกลายเป็นเทปและหนัง ที่พระท่านอัดไว้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็สิทธิ์ของท่านอยู่แล้ว ทุกอย่างผมก็อธิบายไปแล้ว บางอย่างไม่ต้องอธิบายอีก ความรู้ที่ได้มา ไม่ใช่ อานตำราอย่างเดียว แต่ไปประสพของจริงมาด้วยครับ หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ว่า สายของท่าน อย่างน้อย ติดตามกันมา ๑๐ อสงไขย กำลัยแสนกัป แล้วท่านหยุดนิดหนึ่ง แล้วพูดว่า แต่ส่วนใหญ่ ติดตามกันมา ๑๖ อสงไขย กำลัยแสนกัป สายเรามาจาก วิริยาธิกะ


เมื่อหัวหน้าลา พุทธภูมิ ลูกหลานบริษัท บริวาร พักพวก เพื่อนพ้อง ย่อมลาตาม แต่ที่ไม่ลา กำลังใจเขายังสูงอยู่ แต่ก็อาจจะไปลาใกล้ๆตาย ก็มี ที่ไม่ลาก็เยอะนะ ก็มีเยอะ แต่ส่วนใหญ่จะลา เรื่องเหตุผล พอรู้แต่ไม่ขออธิบาย เพราะรู้ไม่หมด และพูดที่อื่นมาบ้างแล้วครับ จริงๆก็ไม่อยากจะ พูดอีก เพราะพูดมาหลายที่แล้วครับ ผมสัมผัสของจริงมาก็ไม่น้อย คนที่เป็นพระโพธิสัตว์ ผู้หญิงผู้ชาย พระฆราวาส แม้แต่ สัตว์เดรัชฉาน ที่ท่านเกิดมาเป็นพระโพธิสัตว์ และเลี้ยงมาแล้วครับ แม้คนบางคน ขอโทษ แล้ว ยังดันทุรังต่ออีก แสดงว่า มันขอไปทีครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
ทำไมพวกนี้เยอะจัง อีกชาติได้เป็นแต่ถอนก่อน
เชื่อได้ยากนะครับ...


ตอบครับ ท่าใจเราไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ รับฟังไว้ก่อนครับ คุณไปทำความเข้าใจได้มันมันอยู่ไม่ลึก อยู่ต้นๆครับ คุณใช้ใจตามไปดู ตอนที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ โปรดพุทธมารดาครับ ส่วนใหญ่ ๙๘ เปอร์เซ็น วัดเก่าๆจะมีรูปภาพ ให้ดูครับ ตอนที่ท่านเสด็จลงมาจากสวรรค์ ใครไม่เชื่อก็ไม่ได้ห้าม ตอนนั้น เทวดา พรหม ยม ยักษ์ มาร มนุษย์ คนทั้งหลาย สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน มองเห็นกันหมด ท่านใช้ใจตรองดูว่า ไม่ว่าใคร มันเห็น ความอัศจรรย์ ของพระพุทธเจ้า

ใครๆก็ทำความปราถนา อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง ช่วงนั้นไฟนรกดับ ชั่วครู่ ท่านกล่าวว่า แม้แต่ สัตว์นรก เปรต อสูกาย สัตว์เดรัชฉาน มนุษย์ พรหมบางองค์ เทวดาบางองค์ ที่เป็นปุถุชน ทำความปราถนา เป็นพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว แม้แต่มดแดงมดดำ ยังยังทำความปราถนาเลย แล้วพวกท่านคิดดู มดมันอยู่ในรู รังหนึ่ง มีเป็นหมื่นเป็นแสนตัว ผมอยากถามพวกท่านว่า ในโลกนี้มันมีอยู่เท่าไหร่ ใครๆก็ทำความปราถนา แล้วมันทำไปถึงทุกตัว ตนหรือเปล่า ในเมื่อ พระโพธิสัตว์เต็มบ้านเต็มเมือง อย่างนี้ ไปหาค้นเอาน่ะครับ พูดไป เท่าไหร่ มันก็มีคนจำพวก ๒ จำพวก เชื่อกับไม่เชื่อ ดีกับชั่ว คนขวางกับไม่ขวาง มิจฉาทิฏฐิ กับ สัมมาทิฏฐิ สวัสดี

 

ผมว่ามันไม่แปลกหรอกครับ ถ้าจะลาพุทธภูมิ อย่างพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีมา ในด้าน ปัญญาธิกะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครั้งหนึ่งใครๆก็ทำความปราถนา จะเป็นพระพุทธเจ้า พุทธภูมิออกมากมาย ลองคิดแบบคนโง่ๆ ถ้ามีแต่พุทธภูมิ เต็มทั้งโลก แล้วใครมันจะ รอคิว ให้ได้เป็นกันหมดทุกคน ก็ในเมื่อ องค์ท่านตรัส จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เมล็ดทรายในมหาสมุทร ก็ไม่เท่า สัตว์ที่เกิดมานับไม่ถ้วน ถ้าคนบารมีเต็ม รอตัรัสรู้ อย่างเดียว เอาแค่แสนองค์ มันไม่รอเกิน หลายอสงไขยหรือ

แล้ว ไหนจะพวก บำเพ็ญ ศรัทาธิกะ อีกล่ะ บำเพ็ญบารมีตั้ง ๘ อสงไขยกำไลแสนกัป แล้วไหนจะพวก ที่บำเพ็ญบารมี วิริยาธิกะอีก บำเพ็ญบารมีมาตั้ง ๑๖ อสงไขยกัป กำลัยอีกแสนมหากัป แล้วบางช่วง บางกัป มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีก มีคนทำความปราถนาอีก จนนับไม่ถ้วนบ่อยๆ แล้วพระพุทธเจ้าจะไปสอนใครที่ไหน พระพุทธองค์ทรงตรัส ไว้ว่า การเกิด ของพระพุทธเจ้านั้น เกิดได้โดยยากมาก แค่คิดเล่นๆแค่นี้ก็ปวดหัวแล้ว บ้าแล้ว


ใครคิด ถึงความเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คิดเอาเอง ท่านบอก พวกบ้า ใครคิด ว่า พระอริยะเจ้าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บ้า ใครคิดเรื่องพระอรหันต์ ถ้าทำไม่ถึง คิดไปเองบ้า ใครคิด เรื่องฌาณสมาบัติ ไม่เคยทำไม่เคยถึง ฌาณ ๑-๒-๓-๔ ท่านบอกบ้า ใครคิดถึงเรื่องโลก ต้องเกิดมาอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นโรคบ้า ไม่อธิบายละเอียด พุทธองค์ทรงตรัส ว่า แม้แต่พระญาณ ของพระองค์ ก็ยังมองไม่เห็น ถึงที่สุด