การกินเนื้อสัตว์ที่ได้มาโดยมิชอบย่อมเป็นบาปกรรม

หากท่านใหนอยากจะลองทานอาหารมังสะวิรัสตลอดชีวิต ก็ลองดูเถิดครับ ลองให้มันรู้กันไปเลยว่ามันเป็นยังไง แต่ถ้าท่านทานแต่อาหารมังสะวิรัสเพียงอย่างเดียวต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ก็ให้หันกลับมาทำตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเถอะครับ ลองดูลองให้มันรู้ ส่วนผมนั้นลองมาแล้วสู้ไม่ไหวสุดท้ายหันมาทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าดีกว่า ที่ว่าทานได้ ถ้าไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่สงสัยว่าทำมาเพื่อเรา แค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับสู้ไม่ไหวจริงๆ

 

ทุกอย่างมีเหตุปัจจัยของมัน ถึงแม้ว่าจะยังทำไม่ได้ แต่ขออนุโมทนา สาธุ ในความตั้งใจ ที่ได้เคยพยายามทำครับ

ขออนุญาตแนะนำครับ หากต้องการที่จะกินมังสวิรัติตลอดชีวิตได้จริง ควรหาแหล่งโปรตีนให้เพียงพอด้วย และ ควรปฏิบัติธรรมไปด้วยครับ เพราะการปฏิบัติธรรม จนความอยากในกามต่างๆ เบาบางลง จะเป็นตัวช่วยให้ความอยากกินเนื่้อสัตว์หายไปด้วยครับ (จะรู้สึกแค่ว่า กินอาหารเพื่อให้ร่างกายอยู่ได้ จะกินอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเลือก ครับ)

 

เรื่องนี้ง่ายมาก
ทำไมพระพุทธเจ้าไม่สอนคนให้เลิกกินเนื้อสัตว์ละ..?

เลิกกินง่ายมากในสมัยนั้น มีมีลัทธิมากมาย ไม่กินเนื้อสัตว์อยู่แล้ว

 

การกินเนื้อสัตว์ ไม่เกี่ยวข้องกับการพ้นทุกข์เลยครับ

แต่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องธาตุขันธ์ และ นิวรณ์ ที่จะมากวนในสมาธิ
สำหรับการฝึกกรรมฐาน ถ้าต้องการเร่ง ต้องการเสริมปัจจัยให้ปฏิบัติได้ก้าวหน้าเร็วขึ้น ในช่วงแรกๆ งดเนื้อสัตว์ จะทำให้นิวรณ์น้อยลงได้ครับ

 

หากท่าน khomeraya มีประสบการณ์ที่ยืนยันได้ด้วยตนเอง ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นไม่เป็นความจริง เรียนเชิญแสดงความคิดเห็นครับ

 

ขอขอบพระคุณ ท่าน เนตรอิศวร เป็นอย่างยิ่งครับที่ท่านได้เมตตาบรรยาธรรมดีๆนี้มาเพื่อให้เราทั้งหลายได้พิจารณา กระผมขออนุโมทนาบุญกับท่านด้วยครับ

 

ขอบคุณท่านจขกท ที่แสดงความชัดเจน ทำให้ข้าพเจ้าทราบทิฏฐิของท่านได้ ..

 

ทิฎฐิมีอยู่ 2 ประการคือ สัมมาทิฎฐิ และ มิฉาทิฎฐิ ผมไม่รู้ว่าท่านเห็นทิฎฐิของจขกทว่าเป็นแบบไหนหรอครับ ผมสงสัย

 

ชอบอ่านเรื่องราวของท่านมากค่ะ ตรงต่อสัจธรรมค่ะ

อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ค่ะ ได้ความรู้ดีค่ะ
จะขอนำไปแบ่งปันให้เพื่อนๆอ่านค่ะ สาธุๆ

 

*****พิจารณาก่อนเถิดท่านผู้ใฝ่บุญ*****
.....ด้วยเหตุใดหรือ ที่ท่านได้กล่าวว่าลัทธิต่างๆในพุทธกาลที่มีอยู่มากมายนั้นเขาเป็นผู้ไม่กินเนื้อสัตว์ อันเรานั้นก็กำลังพิจารณาอยู่เช่นกัน ขออนุโมทนา.

 

ประเด็นไม่ใช่อยู่ตรงลัทธิต่างๆหรอก
ประเด็นอยู่ที่ความง่าย

 

ผมเห็นทิฏฐิของท่านจขกทด้วยอาศัยหลักที่มีมาในพระไตรปิฎกเปรียบเทียบตรวจสอบ ท่านโพฯมีศรัทธาในท่านจขกทก็น่าจะมีทิฏฐิสอดคล้องกัน จึงน่าจะทราบทิฏฐิของท่านจขกทได้ชัดเจนแล้ว จึงไม่ควรถามผมด้วยความสงสัยเพราะไม่เป็นประโยชน์ใดๆแก่ท่านโพฯน่ะครับ..

ท่านโพฯเล่าครับ พอจะบอกทิฏฐิของท่านโพฯเองได้หรือยังว่าเป็นทิฏฐิใด?

 

///////////////////////////////////////////////////////////////////
ท่านครับ ทิฐิของผมนั้นผมก็ยังเห็นว่ายังครองในสัมมาทิฎฐิ ผมก็ยังชื่นชอบในเหตุผลของทุกคน แต่ผมก็ยังเห็นความเป็นไปได้ในความเพียรพยายามของทุกท่าน ในเรื่องของการกินเนื้อสัตว์ผมก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ท่านเนตรอิศวรกล่าวมาก็มีเหตุมีผล ท่านเองก็กล่าวมามีเหตุมีผลก็เพราะยกคำกล่าวในพระไตรปิฎกมา แต่ผมว่าเราจะไปบอกคนนั้นคนนี้กระทำผิดกระทำถูกก็ไม่ได้ ก็เพราะในเมื่อเขายังครองตนในความดีอยู่ เช่นคนไม่กินเนื้อสัตว์ท่านไปบอกว่าคนไม่กินเนื้อสัตว์เป็นคนบำเพ็ญผิดจากคำสอนก็ไม่ได้ นั่นเพราะความศรัทธาของเขา เพราะเขาเชื่อว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของคนที่ฆ่ามาก็เพื่อเอาไปขาย บางคนฆ่ามาก็เพื่อเอาไปกิน บางคนซื้อที่เขาฆ่ามาทำกินก็เพื่อจะหวังรสชาติ ถ้าจะมีคนพูดว่าซื้อเนื้อสัตว์ที่พ่อค้าฆ่ามาขายเราเอาไปทำกินแล้วเราจะไม่บาปผมก็ว่ามันขัดอยู่ เพราะเราเป็นผู้จ้างวานเขาฆ่าเพราะเราไปซื้อเขามาถึงเราจะไม่สั่งให้เขาฆ่าแต่เราก็บอกเป็นในว่าเราชอบกินเนื้อที่เขาฆ่ามาอย่างนี้มันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเราชอบ ผมเห็นว่าคำพูดของ จขกท มีเหตุผลผมจึงรับฟัง แต่ใครจะศรัทธาแบบไหนผมไม่รู้ แต่คนกล่าวของใครกล่าวมาแล้วมีเหตุผลพิสูจน์ได้ผมก็พิจารณาจะเชื่อหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่งครับ ท่านก็ไม่ผิดที่พูดโดยอ้างอิง แต่ผมก็เห็นว่าเจ้าของกระทู้ก็พูดถูกเช่นกันครับ ถ้าท่านมีเหตุผลสามารถมาแย้งได้อย่างสมเหตุสมผลและพิสูจน์ได้ด้วยหลักการและเหตุผลผมยินดีรับฟังและวิเคราะห์ตามด้วยความยินดีครับ.

 

ขอแสดงมุทิตาจิตแก่ท่านโพฯในคำกล่าวต่อไปนี้ครับ..

ส่วนข้อความอื่น ผมขอยกให้เป็นส่วนแห่งบุญวาสนาบารมีของท่านโพฯที่ได้เคยสั่งสมมา ไม่มีใครตรวจสอบหรือช่วยเราได้ครับ พระพุทธเจ้าเท่านั้นทรงช่วยได้.. แต่ท่านก็เสด็จดับขันธ์ไปแล้วนาน สัตว์ในภายหลังไม่มีบุญพอน่ะครับ..

ขอให้ท่านโพฯรักษาสุขภาพด้วย และขอให้มีความสุขครับ