พื้นที่ปลอดภัยยามเกิดอภิมหันตภัย ในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย truethailove, 27 พฤศจิกายน 2011.

  1. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    อำเภอลี้ (อุทยานแห่งชาติแม่ปิง)

    ถ้ำช้างร้อง อยู่ห่างจากแก่งก้อไปทางทิศใต้ ประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดเล็ก ริมแม่น้ำปิง ภายในมีโบราณวัตถุในอดีตปรากฏหลักฐานต่าง ๆ ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน

    ถ้ำยางวี เป็นถ้ำหินปูนขนาด กลางภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงาม เมื่อกระทบกับแสงไฟจะส่องแสง เป็นประกายสวยงาม บรรยากาศภายในสดชื่นเย็นสบาย สามารถเดินทางเข้าถึงโดย การเดินเท้า และจักรยานเสือภูเขา อยู่ห่างจากทุ่งกิ๊กประมาณ 18 กิโลเมตร

    ป่าสนพระบาทยางวี เป็นสภาพผืนป่าสนสองใบผสมป่าพลวง มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ อยู่บนที่ราบสูง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 750 – 900 เมตรในพื้นที่ป่าใจกลางอุทยานแห่งชาติ สภาพป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก บริเวณป่าสนพระบาทยางวียังมีรอยพระบาทยางวี ซึ่งชาวบ้านตำบลก้อมีความเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาท ดังนั้นจึงมีประเพณี ที่ชาวบ้านตำบลก้อ เดินทางจากหมู่บ้านทำการบวงสรวง สักการะรอยพระบาทดังกล่าว เป็นประจำทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้โดยการเดินเท้าหรือใช้จักรยานเสือภูเขา ป่าสนพระบาทยางวีอยู่ห่างจากทุ่งกิ๊ก ประมาณ 14 กิโลเมตร
     
  2. truethailove

    truethailove rich kindness

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    835
    ค่าพลัง:
    +806
    พื้นที่เฝ้าระวัง

    สวนสานน้ำแร่

    ตั้งอยู่ที่เลขที่ 9 บ้านหนองหล่ม ตำบลศรีบัวบาน ไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ลำปาง
    ประมาณ 7 กิโลเมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถอาบน้ำแร่จากธรรมชาติ

    อ่างเก็บน้ำแม่ธิ
    เป็นอ่างเก็บน้ำตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
    สร้างเพื่อกั้นลำห้วยแม่ธิในเขตพื้นที่บ้านดอยเวียง หมู่ที่ 9
    ต.บ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน<sup id="cite_ref-0" class="reference">[1]</sup> ก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2528
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
    ทางเสด็จพระราชดำเนิน ในพิธีเปิด
    อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530


    อ่างเก็บน้ำบ้านธิ มีพันธุ์ปลาต่างๆ จำนวนมาก ทำให้ราษฎร
    สามารถจับปลา เพื่อบริโภค
    และจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม บริเวณ
    รอบอ่างติดกับขุนเจา ห้วย แม่ธิ มีทัศนียภาพ
    ที่สวยงาม มีทิวทัศน์เป็น
    ภูเขาสวยต้นไม้เขียวขจี มองดูน่ารื่นรมย์ และเหมาะ
    แก่การพักผ่อน
    หย่อนใจ ลึกเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร มีน้ำตกที่สวยงามมีชื่อว่า
    “น้ำตกห้วยหก” เป็นน้ำตกธรรมชาติขนาด 7 ชั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยว
    ที่สำคัญ
    อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูนที่ไม่ไกลจากตัว เมืองมากนัก
    ระยะทางจากตัวเมือง
    ลำพูนถึงอ่างเก็บน้ำแม่ธิ ประมาณ 30 กิโลเมตร

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • arngbanthi.jpg
      arngbanthi.jpg
      ขนาดไฟล์:
      5.7 KB
      เปิดดู:
      634
  3. Ajintai

    Ajintai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,638
    มารออัพเดทคร้าบทั่นเจ้าของกระทู้.....
     
  4. กรึงไกร

    กรึงไกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +295
    ผมรอให้มนุษย์ต่างดาวมาช่วยงะ อิอิ
     
  5. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ขอโทษนะค่ะ ที่หายไปนาน ไม่สบายร่วมเดือน
    แถมช่วงนี้ภาระกิจเข้ามาเยอะมาก แต่จะทยอย
    ลงให้อ่านเรื่อย ๆ ช่วงนี้กำลังเตรียการในเรื่อง
    ต่าง ๆ อยู่ การทำงานอย่างเป็นรูปธรรม
    กำลังเริ่มต้นแล้วค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
     
  6. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ประวัติจังหวัดลำปาง

    จังหวัดลำปาง เป็นจังหวัดที่มีอายุเก่าแก่ไม่น้อยกว่า 1,300 ปี มีชื่อเรียกขานกันหลายชื่อ ซึ่งปรากฏหลักฐานตามตำนานต่าง ๆ รวม 11 ชื่อ ได้แก่ กุกกุฏนคร ลัมภกับปะนคร ศรีนครชัย นครเวียงคอกวัว เวียงดิน เขลางค์นคร นครลำปางคำเขลางค์ อาลัมภางค์ เมืองลคร และเมืองนครลำปาง จากการที่เรียกขานกันว่า “ กุกกุฏนคร ” แปลว่าเมืองไก่ ดังนั้น ตราประจำจังหวัดลำปาง คือ “ ไก่ขาว ”
    จังหวัดลำปาง สร้างเมื่อ พ.ศ.1223 จากหนังสือพงศาวดารโยนกกล่าวว่า “ สุพรหมฤาษี ” สร้างเมืองเพื่อให้ เจ้าอนันตยศ โอรสพระนางจามเทวี ครองคู่กับเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) ให้ชื่อเมืองว่า “ นครเขลางค์ ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ นครอัมภางค์ ” และเปลี่ยนชื่อเป็น “ นครลำปาง ” ในภายหลัง
    ในสมัยโยนกเชียงแสน นครลำปางเคยตกอยู่ภายใต้อำนาจของขอม เคยเป็นเมืองประเทศราชของพม่าและเมืองเชียงใหม่ ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี “ เจ้าทิพย์ช้าง ” สามารถขับไล่พวกพม่าออกจากเมืองลำปางได้สำเร็จ จึงได้รับการสถาปนาเป็น “ พระยาสุวลือไชยสงคราม ” ขึ้นครองนครลำปางในปี พ.ศ.2279
    ในปี พ.ศ.2307 “ เจ้าแก้วฟ้า ” พระโอรสของเจ้าทิพย์ช้างได้ขึ้นครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง ณ ลำพูน รวมทั้ง ณ เชียงใหม่ ในเวลาต่อมา และมี “ เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต ” เป็นผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย
    จังหวัดลำปางได้ประกาศจัดตั้งเป็นจังหวัด ในปี พ.ศ.2435 (สมัยรัชกาลที่ 5) โดยขึ้นอยู่กับมณฑลพายับสมัยหนึ่ง (พ.ศ.2443) ต่อมาแยกเป็นมณฑลมหาราษฎร์ ในปี พ.ศ.2458 ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีประกาศยกเลิกมณฑลทั่วราชอาณาจักร ลำปางจึงมีฐานะเป็น “ จังหวัดลำปาง ” ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการอาณาจักรสยาม พ.ศ.2476
     
  7. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    1. ที่ตั้งและอาณาเขต

    จังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินสายพหลโยธิน ประมาณ 602 กม. ตามทางรถไฟประมาณ 625 กม. มีเนื้อที่ประมาณ 12,533.961 ตร.กม. หรือประมาณ 7,833,726 ไร่ มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของภาคเหนือ รองจากเชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน และเพชรบูรณ์ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดข้างเคียงถึง 7 จังหวัด ดังนี้

    ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา
    ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดตาก
    ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดแพร่ และสุโขทัย
    ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดลำพูน

    2. สภาพภูมิประเทศ

    จังหวัดลำปาง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 268.80 เมตร พื้นที่มีลักษณะเป็นรูปยาวรี ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง มีภูเขาสูงอยู่ทั่วไป ทอดตัวยาวตามแนวทิศเหนือไปทางทิศใต้ของจังหวัด และในบริเวณตอนกลางของจังหวัดบางส่วนมีที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ และตามลักษณะทางกายภาพทางด้านธรณีสัณฐานวิทยา จังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นที่ราบล้อมรอบด้วยภูเขา มีลักษณะเป็นแอ่งแผ่นดินที่ยาวและกว้างที่สุดในภาคเหนือ เรียกว่า “ อ่างลำปาง ” ลักษณะภูมิประเทศแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ

    บริเวณตอนบนของจังหวัด เป็นที่ราบสูง ภูเขา และเป็นป่าค่อนข้างทึบ อุดมสมบูรณ์ด้วยไม้มีค่า ได้แก่ พื้นที่อำเภอเมืองปาน แจ้ห่ม วังเหนือ และงาว

    บริเวณตอนกลางของจังหวัด เป็นที่ราบและที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญของจังหวัด ได้แก่ พื้นที่อำเภอห้างฉัตร เมืองลำปาง เกาะคา แม่ทะ และสบปราบ

    บริเวณตอนใต้ของจังหวัด เป็นป่าไม้รัง บางส่วนเป็นทุ่งหญ้า ได้แก่ พื้นที่อำเภอเถิน แม่พริก บางส่วนของอำเภอเสริมงาม และแม่ทะ


    http://www.lampang.go.th/t_lampang/L6.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lpa.gif
      lpa.gif
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      61
  8. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระบรมธาตุดอนเต้า วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม
    (พระเกศาธาตุพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์, พระบรมธาตุหัวใจ)

    ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง

    ประวัติวัดพระแก้วดอนเต้า ตำนานฉบับพื้นเมือง กล่าวว่า ครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนมายุอยู่ องค์สมเด็จพระบรมครูเสด็จประทับ ณ พระเชตวันมหาวิหาร พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ๑,๕๐๐ รูป ในคราวนั้น พระสงฆ์ทั้งหลายได้สนทนากัน ถึงเรื่องในอดีตกาลที่ผ่านมา คือปรารภเรื่องพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์เป็นที่บำเพ็ญสมณธรรม พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงเสด็จออกมาจากพระคันธกุฏิ แล้วตรัสถามพระภิกษุทั้งหลาย พระอานนท์ก็กราบทูลตามที่สนทนากัน

    องค์สมเด็จพระภควันต์จึงตรัสว่า การบำเพ็ญธรรมในป่าอันสงบเช่นนั้น มิใช่มีแต่พระภิกษุรูปนั้นรูปเดียว แม้เราตถาคตเองครั้งเสวยพระชาติเป็นพญานกแขกเต้า ก็ได้ม่อนดอนเต้า เป็นที่อาศัย เพราะ “ม่อนดอนเต้า” เป็นสถานที่อันประเสริฐ เป็นที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายได้อยู่สร้างบารมีธรรมมานานแล้ว ในวันนี้เราตถาคตก็จักเสด็จไปที่นั้นพร้อมกับพวกเธอทั้งหลาย พระองค์ตรัสดังนี้แล้ว จึงเสด็จพร้อมกับพระภิกษุทั้งหลายไปสู่ม่อนดอนเต้าด้วยอิทธิฤทธิ์ แล้วทรงทรมานพวกยักษ์และคนพาลทั้งหลายที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั้น ด้วยพระธรรมคำสั่งสอน จนมีผู้บรรลุมรรคผลมากมาย แล้วจึงได้ตรัสเล่าต่อไปอีกว่า


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • prajd35m1.jpg
      prajd35m1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.7 KB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  9. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    “พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า กกุสันโธ ได้เอาพระเกศา ๘ เส้น มาบรรจุไว้ในที่นี้ พระพุทธโกนาคม ก็เอาพระเกศามาบรรจุไว้ ๑๖ เส้น และพระพุทธกัสสป ได้นำพระเกศามาบรรจุไว้ ๓๒ เส้น เมื่อพระพุทธเจ้าเหล่านั้นปรินิพพานแล้ว อัครสาวกทั้งหลายก็นำเอาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์มาบรรจุไว้ที่นี้ และเราตถาคตก็จักเอาพระเกศา ๑๐๘ เส้น มาบรรจุไว้ ณ ที่นี้

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สถานที่นี้ต่อไป จะเป็นบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรือง จักเป็นสถานที่เคารพสักการบูชาแก่คน ๑๐๑ ภาษา เมื่อเราตถาคตปรินิพพานไปแล้ว พระสาวกของเรามีพระเจ้าอโศกมหาราช พร้อมด้วยพระมหินทร์จะได้นำเอาพระธาตุมะแกว (หัวใจ) ของเรามาบรรจุไว้ที่พระบรมธาตุดอนเต้านี้”


    ที่มา วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม อ.เมือง จ.ลำปาง (พระเกศาธาตุพระพุทธเจ้า ๔ องค์,พระบรมธาตุหัวใจ) - ข้อมูลพระบรมธาตุ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • prajd35m2.jpg
      prajd35m2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.2 KB
      เปิดดู:
      76
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  10. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีเนื้อที่ 51 ไร่ 2 งาน 61 ตารางวา เป็นวัดที่เก่าแก่และสวยงามมีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1979 เป็นเวลานานถึง 575 ปี

    เหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่า นางสุชาดา ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (หมากเต้า) และนำมาถวายพระเถระรูปนั้นจึงจ้างช่างให้นำมรกตนั้นไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปซึ่งก็คือ พระแก้วดอนเต้า ซึ่งต่อมาได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงสาเหตุจากตำนานบอกว่า มีผู้ไปฟ้องเจ้าเมืองลำปางในขณะนั้นว่า พระเถระและนางสุชาดาเป็นชู้กัน เจ้าเมืองลำปางจึงให้จับนางสุชาดาไปประหารชีวิต ส่วนพระเถระองค์นั้นทราบข่าวก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปหนีไป โดยได้นำไปฝากไว้ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    ส่วนสถานที่ตั้งบ้านของนางสุชาดาก็ได้มีผู้มีจิตศรัทธาในคุณงามความดีของนาง บริจาคเงินสร้างวัดขึ้นชื่อวัดสุชาดาราม แต่มีบางสันนิษฐานบอกว่าเนื่องจากวัดพระแก้วดอนเต้า และ วัดสุชาดาราม นั้นร้างลง แต่บางที่ก็มีการสันนิษฐานเพิ่มว่า น่าจะเป็นเพราะย่านนี้เป็นสวนหมากเต้า และเป็นที่ดอน จึงชื่อพระธาตุว่า พระบรมธาตุดอนเต้า และชื่อวัดว่า วัดพระธาตุดอนเต้า และต่อมาเมื่อมีการประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า จึงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระแก้วดอนเต้า

    วัดพระแก้วดอนเต้า เป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุดอนเต้า ซึ่งเป็นพระเจดีย์องค์ใหญ่ บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า มณฑปศิลปะพม่า ลักษณะงดงาม ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ พอๆกับการสร้างวัดนี้ นอกจากนี้ยังมีวิหารหลวงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติล้านนา และวิหารพระเจ้าทองทิพย์


    ที่มา วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม - วิกิพีเดีย

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดนาเมืองเพชร
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...พ-ย-2555-ณ-วัดนาเมืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  12. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    สำหรับรายละเอียดในการเตรียมการเรื่องภัยพิบัติ
    กำลังเริ่มอย่างเป็นรูปธรรมที่วัดนาเมืองเพชร อ. เมือง จ. ตรัง
    โดยความเมตตาของท่านพระครูปัญญาวัชราภรณ์
    เจ้าอาวาสวัดนาเมืองเพชร และเจ้าคณะตำบลนาโต๊ะหมิง
    รวมทั้งนายหัวเสรี (คุณชาลี เชยชื่นจิตร) ลูกศิษย์เอก
    ที่เป็นกำลังหลัก โดยจะใช้วัดนาเมืองเพชรเป็นต้นแบบ
    ในการทำงาน และในการนี้หมายรวมถึง การเตรียมการในเรื่อง
    ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งผู้เขียนได้เขียนไว้หลายปีแล้ว
    อันเป็นการทำงานทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติร่วมกัน
    โดยใช้แนวทางพระราชดำรัสของในหลวงท่านเป็นหลักนำ
    โดยเฉพาะพระองค์ท่านทรงเน้นถึงความสามัคคีของคนในชุมชน
    ของคนในชาติและเป็นพลังสามัคคีอันแท้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  13. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596

    ผู้เขียนจะใช้หลักการในการรับมือภัยพิบัติต่าง ๆ
    รวมทั้งภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ โดยใช้หลักที่ว่า
    เราจะเตรียมการอย่างไร โดยใช้เงินในการทำงาน
    ให้น้อยที่สุด แต่ให้ได้ผลมากที่สุด โดยไม่จำเป็น
    ต้องใช้เงินนับแสน ๆ ล้านบาทเลย เอ เราจะทำกันได้อย่างไร
    อยากทราบมั้ยค่ะ ซึ่งผู้เขียนจะเขียนสลับกับเนื้อหา
    พื้นที่ปลอดภัยฯ ไปพร้อม ๆ กับกระทู้เรื่องการเตรียมการ
    รับมือภัยพิบัติทางเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน
     
  14. Ajintai

    Ajintai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,638
    กลับมาแล้วพร้อมร่างซูเปอร์ไ:cool:
     
  15. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    สวัสดีค่ะคุณอจินไตย และญาติธรรมรวมทั้งกัลยณมิตรทุก ๆ คนค่ะ
    ต้องขอโทษทีที่ทั้ง pm กันเข้ามาและโทรมาหา แต่ไม่มีเวลาคุยกับใคร
    เลยค่ะ ช่วงนี้ยุ่งมาก เพราะต้องทำทั้งงานธุรกิจ และ งานของวัดนาเมืองเพชร
    ซึ่งต้องมาประจำการที่วัดแต่หัวรุ่ง กว่าจะกลับก็ค่ำมืด แถมต้องหอบงาน
    กลับไปทำที่บ้านต่ออีก ตอนนี้อยากมีสิบมือ สิบแขน สิบหัวแล้วละค่ะ
    เพราะคิดงาน ทำงานไม่ทันแล้ว ถ้าเพื่อน ๆ ในจังหวัดตรัง อยากจะมาร่วม
    ทำงานบุญ งานกุศล เชิญได้เลยนะค่ะ ตอนนี้ต้องการกำลังคนในการทำงาน
    เป็นอย่างมาก รับรองเลี้ยงดูอย่างดีค่ะ ติดต่อไอยได้ที่ T. 088-2891013


    ขอเชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดนาเมืองเพชร จ. ตรัง
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/page-3#post6967326
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2012
  16. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    ตามโมเดลการเกิด pole Shift และ reverse rotation ระดับคลื่นจะสูงมาก

    จว. ตรัง น่าจะเสี่ยงมากๆ นะครับ น้ำจะทะลักจากอันดามันขึ้นก่อน แล้ว ไหลย้อนกลับ

    ความสูงอาจจะถึง 200 เมตร โปรดพิจารณาครับ
     
  17. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596


    ขอบคุณค่ะ แต่เรื่องนี้เราทราบกันอยู่แล้ว
    จังหวัดตรังเหลือเพียงเกาะเล็ก ๆ เท่านั้น
    แต่พวกเราบอกจุดปลอดภัยไว้ให้แล้ว
    แต่ขึ้นอยู่กับบุญกรรมของแต่ละคนด้วยค่ะ
    ในจังหวัดตรัง เราใช้วัดนาเมืองเพชร
    เป็นศูนย์กลางในการเตรียมการรับมือภัยพิบัติ
    อยู่แล้วค่ะ แต่กำลังดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
    และเป็นแบบแผนมากกว่านี้ เพราะเดิม ๆ
    ทำงานแบบพระ แบบชาวบ้าน แต่ผู้เขียน
    กำลังวางระบบให้เป็นหลักการ เพื่อรองรับ
    การทำงานในภาคส่วนรวมระดับประเทศ
    ระดับสากล เพื่อการทำงานต่าง ๆ จะได้
    สอดคล้องกันได้กับทุกผู้ทุกนาม ไม่ว่าจะเป็น
    ชาติใด ๆ ซึ่งคงต้องรอหลังงานกฐินของทางวัด
    ก่อนนะค่ะ

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพร่วมงานกฐินสามัคคี ณ วัดนาเมืองเพชร จ. ตรัง
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...55-ณ-วัดนาเมืองเพชร-จังหวัดตรัง.367685/page-3
     
  18. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    ดีใจจัง ถึงคิวลำปางแล้ว
    เป็นกำลังใจให้คุณไอยนะค่ะ อย่าลืมพักผ่อน รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
     
  19. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    พระธาตุวัดม่อนธาตุ
    ต. กล้วยแพะ อ. เมือง จ.ลำปาง

    วัดพระธาตุม่วงคำ หรือดอยม่วงคำ (เกศาพระธาตุ)
    ต. พระบาท อ. เมือง
    วัดพระธาตุดอยม่วงคำ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่ทะ หมู่ 1 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง อยู่ห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ 17 กิโลเมตร ซึ่งมีบันไดขึ้นที่ชันมาก ประมาณ 484 ขั้น และถ้าขึ้นไปชั้นสูงสุดจะมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ก่อนจะถึงบันไดชั้นสูงสุดจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่นอนอยู่ที่ศาลา ซึ่งเป็นที่สักการะของผู้ที่มาเที่ยววัดดอยม่วงคำ

    วัดพระธาตุม่วงคำ หรือเรียกว่า วัดดอยม่วงคำ ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดชั้นราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่วัด 13 ไร่ 2 งาน เดิมพื้นที่วัดเป็นป่าเขา ต่อมามีการค้นพบฐานเจดีย์เก่าซึ่งสอดคล้องในตำนานหมาขนคำของคนโบราณ พระครูรัตนโสภณ (หลวงพ่ออิ่น) อดีตเจ้าคณะอำเภอแม่ทะ อดีตเจ้าอาวาสวัดเมืองศาสน์ ร่วมกับ หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดลำปางได้ทำการสร้างวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2468 และได้รับความอุปถัมภ์สมณะศรัทธา เช่น พระครูสุเวทกิตติคุณ (หลวงปู่บุญชุบ) วัดเกาะวารลุการาม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง และชาวบ้านทั่วไป ตลอดจนถึงคณะศรัทธาอำเภอแม่ทะ และคณะศรัทธาตำบลกล้วยแพะ และศรัทธาทั่วสารทิศจำนวนมาก โดยหลวงพ่อพระครูรัตนโสภณ ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสรูปแรก ตั้งแต่ พ.ศ.2468-2512 เป็นเวลา 44 ปี จนท่านมรณภาพ จากนั้นวัดพระธาตุม่วงคำ ก็เป็นวัดร้างถึง 21 ปี ต่อมาก็มี พระอธิการทินพันธ์ ทินฺนวโร จากวัดเมืองศาสน์ อ.เมืองลำปาง มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ.2533 จนถึงปัจจุบัน และที่วัดพระธาตุดอยม่วงคำนี้จะจัดงานสรงน้ำพระธาตุทุกปี ซึ่งงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุประจำปีจะตรงกับ วันแรม 8 ค่ำ เดือน 9 เหนือ ซึ่งมีงานสมโภชอย่างใหญ่โตและวัดพระธาตุดอยม่วงคำนี้ ก็เป็นแหล่งกำเนิดตำนานที่ลือลั่นแห่งหนึ่งของเมืองลำปาง เรียกกันว่าตำนานหมาขนคำ หรือหมาขนสีทองคำ ซึ่งตำนานหมาขนคำมีความเป็นมาดังนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.png
      untitled.png
      ขนาดไฟล์:
      352.2 KB
      เปิดดู:
      45
  20. ไอย_

    ไอย_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +1,596
    สำหรับตำนานหมาขนคำที่ดอยม่วงคำนี้ เล่าว่า นานมาแล้วมีนายพรานคนหนึ่งได้เลี้ยงหมาตัวเมียมีขนสีทองจึงเรียกกันว่าหมาขนคำไว้หนึ่งตัว และในย่านนั้นไม่มีหมาตัวผู้อยู่เลย วันหนึ่งแม่หมาเกิดตั้งท้องขึ้นมา นายพรานเกรงจะถูกชาวบ้านครหาว่ามีเมียเป็นหมา จึงคิดจะกำจัดแม่หมา บ้านของนายพรานอยู่ในย่านบ้านเหล่าปลดริมป่า คือบ้านเสาสูงแบบเรือนต้นไม้ ราวบันไดปลดเก็บขึ้นไว้บนเรือนเพื่อป้องกันมิให้สัตว์ร้ายขึ้นเรือนไปทำร้ายชีวิตคนบนบ้านได้ เย็นวันหนึ่ง นายพรานปลดบันไดบ้านเก็บไว้บนบ้านโดยทิ้งแม่หมาไว้ข้างล่าง โดยหวังที่จะให้เสือมาคาบแม่หมาเอาไปกิน แม่หมาก็วิ่งหนีไปถึงดอยผาสามเส้า ริมดอยวัดม่วงคำ (เขตอำเภอแม่ทะ) แล้วคลอดลูกแฝดเป็นเด็กหญิงน่ารักสองคน ในแต่ละวันแม่หมาก็ไปหาอาหารมาเลี้ยงลูกน้อย และคาบเสื้อผ้าที่ชาวบ้านตากไว้บนราวตากผ้านำไปให้ลูกสาวสวมใส่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปลูกสาวฝาแฝดทั้งสองคนเติบโตเป็นหญิงสาว คนพี่ชื่อนางเจตะกา คนน้องชื่อนางบัวตอง กิตติศัพท์ความสวยงามของหญิงสาวทั้งสองกระฉ่อนไปถึงในเมือง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...