พิธีอัญเชิญวิญญาณเถ้าแก่ใหญ่ เพื่อถามไถ่เรื่องราว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ลุงมหา๑, 16 พฤศจิกายน 2012.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขออนุญาตครับ
    ก่อน ที่องค์หลวงตามหาบัว จะละสังขาร ประมาณเดือนสองเดือน
    ผมได้มีโอกาส ไปท่องอยู่ทาง อีสาน
    วันหนึ่งเพื่อนชวนไปเยี่ยมครูบาอาจารย์ฆราวาสใกล้ๆกับ "คำชะโนด"
    วันนั้นได้เจอ หมอธรรมหนุ่มท่านหนึ่ง ที่ท่านพึ่งจะกลับมาจากเกาะเต่า
    เพือนเลยเชิญ หมอธรรมท่านนั้น ไปช่วยทำพิธีเรียกวิญญาณ "เถ้าแก่ใหญ่"
    ท่านหนึ่งเพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ

    สถานที่ก็สวนยางขนาดพันกว่าไร่ ที่ว่ากันว่า เถ้าแก่ใหญ่ท่านนี้หวงมากนั่นละครับ

    เมื่อจุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่แล้ว ก็จุดธูปบูชาพระรัตนตรัย
    บังเอิญครั้งนั้น ผมก็เพิ่งจะเคยเจอ หมอธรรมหนุ่มท่านนั้นเป็นครั้งแรก
    ก็เลยไม่กล้าขอถ่าย วีดีโอ ประกอบกับ ถ่านกล้อง ก็เหลือน้อยมาก
    ก็เลยขอท่านแค่ ทันทึกเสียงเท่านั้น

    เสียงที่บันทึกได้ ก็ที่แนบมานี่ละครับ
    หมอธรรมท่านนั้น บอกว่า เป็นเสียงที่ครูบาอาจารย์ของท่าน พูดคุยกับเถ้าแก่ใหญ่
    ซึ่งเป็นภาษาจีน หมอธรรมท่านนั้น เป็นคนอีสานขนานแท้
    แน่นอน ท่านพูด ภาษาจีนไม่ได้
    เพียงแต่ครูบาอาจารย์ ของท่าน และ เถ้าแก่ใหญ่ พูดผ่านปากของท่านเท่านั้น

    หมอธรรมท่านนี้บอกว่า วิชาของท่านเป็นสาย ของลาวขนานแท้
    แม้ครูบาอาจารย์ของท่าน ส่วนมากก็อยู่ฝั่งลาว

    หลังจากวันนั้นไม่นาน หมอธรรม ท่านนี้ ก็บวชอยู่วัดใกล้บ้าน ไม่ห่างจาก คำชะโนด มากนัก นี่ก็ครบ สองพรรษาแล้ว
    ว่างๆจะโทรหาท่านว่าจะบวชอีกกี่ปี เมื่อไรจะข้ามไปฝั่งลาว

    ผมเคยคิดจะ เมล์ ไฟล์นี้ ไปให้ ลูกชายของเถ้าแก่ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ส่งไปให้
    น่าจะลบทิ้งไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ยังค้างอยู่ใน ไลแบรรี่ ของ วินโดเพลเยอร์

    ท่านผู้ใดพอฟังออกช่วยกันแปลหน่อยนะครับ
    แต่ถ้ามีชื่อเฉพาะ ระบุถึงผู้หนึ่งผู้ใด ช่วย ละไว้ด้วย

    ขอโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนา
    ลุงมหา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2012
  2. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,658
    ฟังไม่ได้เลย ไม่รู้เรื่อง มีแต่เสียงซ่าๆๆๆ
     
  3. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขออนุญาตครับ

    ต้องฟัง ตอนสอง ตอนสาม จะชัดมาก ยิ่งขึ้น

    ทำอะไรใช้ความพยายามหน่อยนะครับ

    ก็ทางเว็บ กำหนด เพดานไว้ ก็เลยต้องแยกเป็นสามตอน

    ถ้าจะให้ดี ท่านต้องเอาไปรวมเป็นตอนเดียว

    โดยใช้ โปรมแกรม มูววี่เมคเกอร์

    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่าน

    ลุงมหา

    ตอน 1-3 ดู 49
    ตอน 2-3 ดู 2
    ตอน 3-3 ดู 3

    โธ่ ท่า่นสมาชิก มีความพยายามแค่นี้กันหรือครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2012
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    หมอธรรม ประเพณี โบราณ อีสาน

    ขออนุญาตครับ

    ดูๆแล้ว คนทั่วไป มักจะไม่เข้าใจว่า "หมอธรรม" คืออะไร
    หมอธรรม ก็คือ ที่คนทั่วไปเข้าใจว่าคือ "หมอผี"
    แต่ความเป็นจริงแล้ว หมอธรรม ก็คือ หมอธรรม
    ก็คือ คนที่สืบทอดวิชาการโบราณ มาจากพราหม นั่นล่ะครับ

    ซึ่งต่างจากหมอผีมาก

    เพราะหมอธรรม จะเป็นที่พึ่งของคน อีสาน ในเรื่อง
    การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ จะมีการแต่งแก้ จัดพานกระธงบูชาเทวดา
    ให้ช่วยขจัดปัดเป่า เจ้ากรรมนายเวร ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ
    มีการ เป่า เสก ต่างๆ บางครั้งก็เขียนยันต์ ลงบนตัวผู้ป่วย

    หมอธรรมบางท่าน มียาให้ไปต้ม ไปทาด้วย
    แต่ยาที่มีคุณวิเศษ ที่หายทุกโรค(ในสมัยนั้น)
    เรียกว่า "ยารากเดียว" ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นรากอะไร
    หมอธรรม จะฝนกับหินลับมีด แล้วล้างด้วยน้ำ ให้ดื่มกิน

    อีกอย่างหนึ่งที่ฮิตมากๆ ก็คือ การตามหา คนหาย ควายหาย
    ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ตายแล้ว หรือ ยังอยู่

    จึงเป็นที่มาของการ จุดธูปเรียกวิญญาณ ของเรื่องนี้

    หมอธรรมนั้น ท่านอย่าได้เอาไปสับสนปนเป กับ หมอเขมร นะครับ
    เพราะหมอธรรมนั้น ต้องเป็นคนที่มีศีลมีธรรม
    ต้องทำแต่คุณงามความดี ไม่ทำร้ายไคร

    ต้างกับหมอเขมรที่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน ตั้งแต่คุณไสย์ ยาสั่ง เสน่ห์ยาแฝด ฯลฯ

    หมอธรรมสมัยก่อนๆนั้น มักจะเป็นคนแก่ ที่เป็นที่นับหน้าถือตา
    ทำพิธีทีก็ มีค่าใช้จ่ายไม่กี่บาท ช่วยกันตามีตามเกิด
    ว่างๆท่านก็ทำไร่ไถนาไปตามเรื่องตามราว

    มาระยะหลังๆ คนมีการศึกษามากขึ้นๆ คนที่มารับการถ่ายทอดเป็นหมอธรรมก็น้อยลงๆ
    หมอธรรมก็น้อยลงๆไปตามกาลเวลา

    จนมาหลังๆผมถึงได้ทราบว่า ทางการได้คัดคนไปอบรมที่กรุงเทพ เพื่อ ทำพิธีทางพราหม อย่างน้อยจังหวัดละคนๆ

    ส่วนหมอธรรมนั้น เมื่อได้รับการถ่ายทอด ก็มักจะหนีไปอยู่ตามต่างจังหวัด
    ที่ไม่มีคนรู้จัก พอประจวบเหมาะ ก็จะเริ่มใช้วิชาช่วยเหลือผู้อื่น สร้างชื่อไปเรื่อยๆๆ
    แน่นอนก็เริ่มจากการรักษาคนอีสานด้วยกัน

    ถามไปถามมาผมจึงได้รู้ว่า การเรียนรู้ การอบรมหมอธรรมนั้น ง่ายนิดเดียว
    คือ การไปขอสมัครเป็นลูกศิษย์ท่าน มีการยกขันธ์ขึ้นครู
    แล้วทำการ "ยัด" ก็คือการอัดสรรพวิชา เอาไว้ในจิตของลูกศิษย์
    เวลาจะใช้ ก็จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ จุดธูปบูชาพระรัตนตรัย
    อัญเชิญครูบาอาจารย์ของตน แล้วกล่าวพระคาถา

    แรกๆ ครูบาอาจารย์ ก็จะมาช่วยทำพิธีต่างๆให้ดู (มาแต่จิต)
    เมื่อชำนาญแก่กล้าแล้ว ก็สามารถทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตนเอง
    โดยไม่ต้องพึ่งครูบาอาจารย์ต่างๆอีก

    เมื่อแก้กล้ายิ่งขึ้น ก็สามารถรับศิษย์ โดยยัด วิชาให้ศิษย์รุ่นต่อๆไป

    ก็หมอธรรม รุ่นโบราณ นี่ล่ะครับ ที่แก่กล้า จนบอกเล่าเรื่อง ภัยพิบัติ
    และเรื่อง การกู้ภัยพิบัติ การกู้ศรัทธามหาชน ในการนับถือพระศาสนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

    ก็เลยทำให้ คนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

    คนที่รู้ก็ต้องพวกที่เกิด พวกที่โตแล้ว ในยุคปี ๒๕๐๐ โน่นล่ะครับ

    ต่อมาเพราะความยากลำบากในการทำมาหากิน
    ทั้งหมอธรรม และหมอเขมร จึงเกิดการศึกษาปนแปกันไปมา
    ก็เพราะว่าวิชาเดียวกันแท้ๆ คนสอนก็คนเดียวกันแท้ๆ
    เมื่อมีลูกศิษย์รุ่นหลังๆ กลับเอาไปใช้ช่วยคนบ้าง
    เอาไปทำร้ายคนบ้าง

    จึงเป็นที่มาของอามีสสินจ้างเงินทอง

    แต่ก็ดูๆแล้ว ฝ่ายที่ถูกจ้างไปทำร้ายคนดูจะมีมากกว่า การเงิน การทองดีกว่า
    ส่วนฝ่ายรักษาคน ก็มีชีวิตลุ่มๆดอนๆ อดบ้าง อิ่มบ้าง

    คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจในศาสตร์แขนงนี้ ก็เลยทั้งไม่เข้าใจ ทั้งเห็นแก่ตัว
    เสกเป่าแค่นาที สองนาที แต่กลับสามารถ ถอดถอนคุณไสย์ทุกประเถทออกไปได้หมด

    เสกเป่าแค่นาที สองนาที แต่กลับสามารถ รักษาโรคต่างๆได้อย่างกับปลิดทิ้ง

    ด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความไม่เชื่อ ด้วยความเห็นแก่ตัว
    ผลสุดท้ายก็ไปลงที่ว่า จะจ่ายเท่าไร จะหายไหม หายแล้วค่อยจ่ายดีไหม ได้ไหม

    ยิ่งพวกถ้าหายจะจ่ายไม่อั้น ผมเจอมาเยอะแล้วครับ พวกนี้หายเข้ากลีบเมฆ

    เพราะฉะนั้น จะจ่ายไม่จ่าย ก็ไม่มีไครว่าหรอกครับ
    เพราะหมอนั้นเขาเจอคนทุกประเภทมาแล้ว
    ถ้าไม่เมตตา เขาไม่มาช่วยคนหรอกครับ

    หมอธรมบางท่านเรียนไปเรียนมา วิชาการแก่กล้า ข้ามไปเป็นปู่ฤๅษี ก็มี
    เพราะหมอธรรมบางท่าน เรียนกับครูหมอธรรมบ้าง
    บางท่านก็เรียนโดยตรงกับปู่ฤๅษีบ้าง
    ส่วนโอกาสเรียนกับปู่ฤๅษีใหญ่นั้น มีน้อยมากๆ เพราะท่านคัดศิษย์อย่างเข้มงวด

    ปู่ฤๅษี นั้น ก็มีสองประเภท คือ
    ปู่ฤๅษีธรรม กลุ่มนี้ บางท่านเรียนกับ พระเถระผู้ทรงอภิญญา
    บางท่านเรียนโดยตรงกับมหาปรมาจารย์ ปู่พรหมฤๅษี ผู้มีอายุเป็นหมื่นๆปี

    ปู่ฤๅษีสายไสยเวทย์ กลุ่มนี้ละครับ ที่มีปัญหา เพราะศิษย์รุ่นหลังๆ เพราะศิษย์รุ่นปลายแถว
    มักจะกลายเป็น ที่คนทั่วไปพากันเรียกว่า หมอเขมร เพราะทนกับความเย้ายวนใจของสินจ้างรางวัลไม่ไหว
    เพราะเชื่อมั่นว่า ตนเองมีเหล็กไหล อย่างน้อยก็ ๑ เม็ด ที่ครูบาอาจารย์มอบให้
    แต่ขอโทษครับ ตั้งแต่ผมเจอมา ยังไม่เคยเห็นมี ท่านผู้ใด ก้าวข้ามพ้น อายุ 70 ปีไปได้
    เพราะจะถูกครูบาอาจารย์ลงโทษ ด้วยการ ถอนของ
    ถ้าตามหา ถ้าตามไปขอขมาครูบาอาจารย์ไม่ทัน ร่างกายจะทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว
    กลุ่มนี้จึงมักจะโกหกว่า อายุตนเกินแปดสิบบ้าง
    กลุ่มนี้จึงมักจะโกหกว่า ตนเคยบวชเรียนกับครูบาอาจารย์สายธรรมยุติ ท่านนั้น ท่านนี้บ้าง

    ถ้าท่านเจอคนประเภทนี้ ท่านต้องมองให้ออก แยกให้เป็น
    ใครเป็นหมอธรรม ใครเป็นครูหมอธรรม
    ใครเป็นหมอเขมรชั้นปลายแถว ใครเป็นหมอเขมร ใครเป็นครูหมอเขมร
    ใครเป็นปู่ฤๅษีธรรม ใครเป็นปู่ฤๅษีสายไสยเวทย์
    ใครเป็นปู่ฤๅษีใหญ่ ใครเป็น ปรมาจารย์ปู่ฤๅษี
    เพราะแต่ละขั้นแต่ละระดับ มีความแตกต่างกันมาก

    แต่ไม่ว่าจะเจอท่านผู้ใดท่านต้องทั้งระมัดระวัง ท่านต้องทั้งสำรวมระวังให้มาก
    เพราะแต่ละขั้น แต่ละระดับ มีความเข้มข้นด้านต่างๆแตกต่างกัน
    และขอเตือนว่า อย่าได้เชื่อใครง่ายๆ

    ขอโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนา
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012
  5. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ใครเป็นหมอเขมรชั้นปลายแถว ใครเป็นหมอเขมร ใครเป็นครูหมอเขมร ที่แท้เป็นฉันใด

    ใครเป็นหมอเขมรชั้นปลายแถว ใครเป็นหมอเขมร ใครเป็นครูหมอเขมร ที่แท้เป็นฉันใด

    ขออนุญาตครับ

    หมอเขมรชั้นปลายแถว
    ก็คือพวกที่เรียนวิชา ได้จำนวนวิชาแค่เลขตัวเดียว
    กลุ่มนี้ละครับ ที่สร้างความเดือดร้อนให้คนทั่วไปมาก เพราะมีมากที่สุด
    ส่วนมากของกลุ่มนี้ เรียนวิชาได้ไม่กี่วิชา แต่ชอบใช้อยู่เป็นประจำ
    เช่น คนธรรมดาๆๆ ที่ไม่มีอะไรดีเด่นเลย ทั้งหน้าที่การงานและรายได้
    กลับได้ภรรยาสวยบาดใจ ใครเห็นก็มองเหลียวหลัง

    หรือ พวกที่มี ภรรยามากหน้าหลายตา ลูกเขาเมียใครไม่เว้น
    ไม่ว่าชาย หรือหญิง(ทอม)
    สร้างเวรสร่้างกรรมไม่รู้จักหมดจักสิ้น

    หรือ กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบลองของ ยกพวกไล่ตีไล่แทงกัน

    พวกนี้ทำเป็นอย่างเดียว ทำแก้ไม่ได้ ทำกันก็ไม่ได้
    หนักๆเข้า เวรกรรมตามทัน ลืมสูตร ลืมข้อห้ามต่างๆ ของเข้าตัว ช่วยตัวเองไม่ได้
    หรือไปทำใครเขาๆหมดเวรหมดกรรม เจอผู้มีคุณธรรม ผู้มีวิชาสูงกว่า ถอนของให้
    ดีไม่ดีเจอของแข็ง ของตีกลับมาฆ่าผู้ปล่อยของ ก็หมดอายุไขไปตามเวรตามกรรม

    หมอเขมร
    ระดับนี้เรียนวิชามาเป็นร้อยๆวิชา ทั้งทำ ทั้งแก้ ทั้งกันบางท่านก็เก่งจริง บางท่านก็เสือมลงๆ
    วิชาจะคงอยู่นานไม่นาน อายุขัยจะอยู่นานไม่นาน
    ขึ้นกับคุณงามความดีที่สร้างสมเอาไว้

    บางท่านก็น่าเสียดาย ทั้งใจอ่อน วางตัวได้ไม่ดี
    ใครมาขอให้ทำอะไร ก็รับทำให้หมด
    ขาดความสมถะ บุตรบริวารมาก ค่าใช้จ่ายเยอะ
    บั้นปลายกลับตัวไม่ทัน ทำความดีไม่มากพอ ก็อายุสั้น

    ครูหมอเขมร
    ระดับนี้เรียนวิชา สองร้อยวิชาขึ้นไป
    ส่วนมากเรียนตั้งแต่ช่วงอายุ 30-40 ปี
    ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ ติดต่อคนไม่มากนัก

    ลูกศิษย์ ก็พวกที่ชอบทางนี้ พวกที่ไม่รู้จริง กว่าจะรู้ตัวว่า ตัวเองเรียนวิชาอะไร
    ก็สายไปเสียแล้ว
    ถูกครอบงำจนถอนตัวไม่ขึ้น ต้องทำตามกฏเกณฑ์ที่ครูบาอาจารย์ตั้งให้
    หนีไปไหนก็ไม่ได้ ถ้าบุญเก่ามีมากพอ ก็จะสามารถ พบคนดีมีศีลธรรม ถอนของ พร้อมแก้กันให้

    ครูหมอเขมรนี้ ส่วนมาก จะทำหน้าที่คัดสรรศิษย์ชั้นดี แล้วเอาไปส่งให้ อาจารย์ของตนอีกต่อหนึ่ง

    ดูไปไล่มา ที่แท้คนกลุ่มนี้ คนสายนี้ก็คือ ผู้ดูแลพระพุทธศาสนาในยุคที่สาม
    คือยุค ปี พ.ศ.3500 - ปีพ.ศ.5000
    จะเรียกว่า ยุคของ ภูตผีปีศาจ ดูแลพระศาสนา ก็ได้
    จะเรียกว่า ยุคของ ผู้มีคาถาอาคม ดูแลพระศาสนา ก็ได้

    เพราะที่จริงแล้ว ไสยเวทย์ก็คือ พลังด้านมืด ด้านบาป ด้านอกุศล
    เวลาที่จะทำร้ายใคร ก็ร่ายพระเวทย์ บอกเล่า ความชั่วร้าย ที่คนผู้นั้นเคยทำ
    พร้อมกับบอกว่า ถึงเวลาที่คนๆนั้น ต้องชดใช้กรรมแล้ว
    ทำผิดคิดชั่วอย่างนี้ ถึงเวลาแล้วๆ ก็แค่เร่งให้รับกรรมเร็วขึ้น

    ส่วนพลัง ฐานพลังทางด้านลบทั้งหลาย ก็สิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย
    ที่ใช้กันมากก็ ดินเจ็ดป่าช้า กระดูกป่นผีตายโหง ตลอดจนวิญญาณชั่วร้ายทั้งหลาย ไปจนถึง เทพฝ่ายมารระดับต่างๆ

    แต่ไม่ว่า ไสยเวทย์จะร้ายกาจปานใด ก็ยังมี เทพสยบมาร อยู่เสมอ
    แต่ไม่ว่า ไสยเวทย์จะร้ายกาจปานใด ก็ยังมี ผู้มีบุญบารมี ที่ได้รับการช่วยเหลืออยู่เสมอ
    แต่ไม่ว่า ไสยเวทย์จะร้ายกาจปานใด ก็ยังมี ผู้มีบุญบารมี ที่รับการถ่ายทอดให้ปราบมารได้ทุกระดับอยู่เสมอ
    แต่ไม่ว่า ไสยเวทย์จะร้ายกาจปานใด ก็ยังไม่เคยเห็น ทำร้ายสายเลือดของตน
    ไม่ว่าในชาติปัจจุบัน หรือแม้แต่อดีตชาติ

    หนักๆมามากแล้ว เอาเรื่องขำๆบ้างนะครับ

    เรื่องแรก
    มีครูบาอาจารย์ทางอีสานท่านหนึ่ง พวกลูกศิษย์ใกล้ชิดพาญาติมาหาครูบาอาจารย์
    บอกเล่าท่านว่า สามีหนีไปอยู่กับภรรยาน้อย ขอให้หลวงปู่ช่วยด้วย
    ด้วยความเมตตา หลวงปู่ท่านก็แผ่เมตตาให้อยู่นาน ผ่านไปเป็นเดือนๆ
    สามีหญิงผู้นั้นก็ไม่กลับมาซักที
    จนหลวงปู่สงสัย ก็เลยเพ่งพิจารนาดู ก็เลยโอล่ะพ่อ
    ที่แท้ หญิงที่มาบอกว่า สามีตนหนีตามเมียน้อยไปนั้น
    แทัที่จริงกลับเป็นเมียน้อยเสียเอง ไปแย่งสามีของเขามา
    เขาหมดเวรหมดกรรม ก็เลยกลับไปอยู่กับภรรยาเขา

    ตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่เลยประกาศว่า ถ้าใครจะมาให้ช่วยเรื่องอย่างนี้
    ให้เอา เอกสารหลักฐานมายืนยันด้วย ทั้งบัตรประชาชน ทั้งทะเบียนสมรส

    เรื่องที่สอง
    สาวใหญ่เที่ยวไปกราบครูบาอาจารย์ไปทั่ว สามีไปทาง ภรรยาไปทาง
    ข้างสามีไปกราบครูบาอาจารย์ๆ ท่านก็เห็นว่า ฝ่ายสามีนั้นถูกของมา
    ครูบาอาจารย์ก็เลยจะถอนของให้

    ผู้สันทัดกรณี ก็เลยบอกเล่ากระซิบครูบาอาจารย์ว่า
    ท่านอาจารย์อย่าได้ไปถอนของให้เขาเลย เพราะภรรยานั่นล่ะ ระอาสามี เจ้าชู้มาก
    ก็เลยทำของใส่ ให้เลิกเจ้าชู้ รักเดียวใจเดียว รู้จักเกรงใจภรรยาบ้าง
    ถ้าเกิดไปถอนของออก แล้วกลับไปเป็นเหมือนเก่า
    มิบ้านแตกสาแหรกขาดอีกหรือ

    งานนี้ครูบาอาจารย์ ได้แต่มองตาปริบๆ อย่างนี้ ก็มีด้วยหรือ ช่างเป็นไปได้

    ขอโมทนาบุญร่วมกับทุกๆบุญ ที่มีเจตนาจะช่วยเหลือผู้อื่น
    ขออนุโมทนา
    ลุงมหา
     
  6. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ทำไมไสย์เวทย์ จึงทำร้ายคนได้ จะป้องกันแก้ไขได้อย่างไร?

    ขออนุญาตครับ

    ก็เพราะว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนทั่วๆไป มักเข้าใจเพียงแค่นี้
    แต่ถ้าใช้ บุญวาสนาบารมี ใช้สติปัญญาพิจารนาอีกซักหน่อยจะเข้าใจว่า

    กรรมนั้น สามารถ ขออโหสิกรรมกันได้ ด้วยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย

    กรรมนั้น สามารถ ทำคุณงามความดีให้มากพอ เพื่อเลื่อนการให้ผลของกรรมไม่ดี เลื่อนออกไปๆ จนไม่อาจให้ผลใดๆก็ได้

    แท้ที่จริง การเกิดผลร้ายต่อผู้หนึ่ง ผู้ใดนั้น เกิดจาก ผลกรรมที่ตนได้ทำมาแล้วทั้งสิ้น
    จะหนัก จะเบา จะมาก จะน้อย ก็แล้วแต่องค์ประกอบปลีกย่อยอีกมากมาย

    ทำไมไสย์เวทย์ จึงทำร้ายคนได้

    ไสย์เวท ที่ทำร้ายคนได้นั้น ก็เพราะว่า ไสย์เวทย์ จะมีการร่ายพระเวทย์
    เพื่อเรียกเอา เจ้ากรรมนายเวร มารวมกันให้มากที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ภพใดชาติใด
    แล้วให้เจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้น มาเอาคืนพร้อมๆกัน

    จะป้องกันแก้ไขได้อย่างไร?

    การป้องกัน ก็มีตั้งแต่ อย่างบางไปหาอย่างหนา
    การป้องกัน ก็มีตั้งแต่ อย่างนุ่มนวลไปหาอย่างหนักหน่วงรุนแรง

    อย่างบาง อย่างนุ่มนวล ก็ตั้งแต่
    การทำบุญ การให้ทาน การสร้างคุณงามความดี แล้วอุทิศกุศลผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวร

    วิธีที่ได้ผลอีกอย่างคือ ผู้ที่ปฏิบัติสมาธิภาวนา แล้วอุทิศกุศลผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวรอยู่เสมอๆ

    การทำร้ายด้วยไสย์เวทย์ต่อคนกลุ่มนี้ จะเบาบางลงมาก จนเกิดผลเพียงเล็กน้อย

    โดยปรกติ เมื่อผู้ทำร้ายผู้อื่นด้วยไสย์เวทย์ ถ้าเจอผู้สร้างคุณงามความดีมากพอ
    เขาจะถอนของออกเอง หรือ ไม่ยอมทำตั้งแต่แรก

    แต่ถ้าเขามีความอาฆาตสูง หรือ มีผู้จ้างที่คอยติดตามผลอยู่เสมอ
    เขาก็จะเร่งเร้าหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

    การป้องกัน อย่างหนักหน่วงรุนแรง

    ก็คือ การหาผู้รู้จริงที่มีคุณธรรมมากพอ ถอนของ ออกให้
    แต่ถ้าหา การหาผู้รู้จริงที่มีคุณธรรมมากพอ ไม่เจอ การถอนของ ออกให้
    ก็จะกลายเป็น ถอนของคนอื่นออก แต่เอาของๆตน ใส่เข้าไปแทน เพื่อ หาประโยชน์ ต่อไป

    การป้องกัน อย่างหนักหน่วงรุนแรงที่สุด ก็คือ
    การปล่อยของตีกลับ ไปทำร้าย ผู้ปล่อยของเอง

    วิธีนี้ ก็คือการลงโทษ ผู้ทำไสย์เวทย์ ไม่ให้เหิมเกริมจนเกินไป
    ว่า อย่าได้ทำอะไรเกินกำลังตนเอง
    เพราะถ้าไม่ตรวจดูให้ดี ไปทำร้ายคนที่เขามีครูบาอาจารย์ดีๆ เก่งๆ
    หรือ ไปทำร้ายคนที่เขามี ของรักษาที่ดีๆ เก่งๆ ตัวผู้ทำไสย์เวทย์ อาจถึงตายได้

    แต่อย่างว่าล่ะครับ งานยาก ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย มันยั่วใจเหลือเกิน

    ดังนั้น ที่มีปัญหาตามมาก็คือ
    จะไปหา ครูบาอาจารย์ที่เก่งๆ ที่มีคุณธรรมสูงส่ง ได้ที่ไหน
    จะไปหา ของรักษา ที่สุดยอด ที่กันได้ทุกระดับได้อย่างไร

    บอกใบ้ให้ก็ได้
    ถ้าท่านมีคุณงามความดีมากพอ ท่านก็จะเจอเอง

    ที่น่าสงสาร ก็ได้แก่คนรุ่นใหม่ ที่ไม่เชื่อ ไม่เข้าใจ เรื่องราวเหล่านี้
    โดนไสย์เวทย์ มนต์ดำเล่นงาน กลับไปวิ่งหารักษาตามโรงพยาบาลแผนใหม่ไปโน่น
    เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เสียทั้งสุขภาพร่างกาย

    และที่น่าสงสารที่สุด ก็ได้แก่คนที่มีผู้รู้จริง บอกเล่าแนะนำ กลับ ไม่เข้าใจ กลับไม่เชื่อ ซะอีก

    ปล่อยให้ เจ้ากรรมนายเวร มันมาทำร้ายเราอยู่นั่นล่ะ ทั้งๆที่มีวิธีจะแก้ได้

    และที่น่าสงสารที่สุดของที่สุด ก็ได้แก่คนที่โดนทำร้าย โดยไม่รู้วิธีแก้ไข
    หาคนช่วยเหลือก็ไม่ได้ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงก็ไม่เหลียวแล
    เจ้ากรรมนายเวรเขาไปตั้งนานแล้ว
    เหลือแต่สภาพร่างกาย ที่หมดสภาพเกินเยี่ยวยา
    ต้องมาเหี่ยวเฉา ลาโลกไปด้วยความขมขื่น ระทมทุกข์

    ส่วนท่านที่โดนเล่นงานด้วยไม่ว่าจะด้วยไสย์เวทย์ หรือ ด้วยเจ้ากรรมนายเวร
    ตามธรรมชาติ ตามกฏแห่งกรรม

    ทำไมไม่รู้จักคิดบ้างว่า
    เขาเล่นงานเรา เราก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะปกป้อง ตัวเราเอง
    เขาเล่นงานเพื่อน ฝูง ญาติพี่น้องของเรา เราก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะปกป้อง เพื่อน ฝูง ญาติพี่น้องของเราเอง
    หรือแม้แต่ เราก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะ สร้างคุณงามความดี ด้วยการปกป้อง ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น

    อย่าได้ท้อ อย่าได้แท้ เหมือนพวก สิ้นไร้ปัญญา ที่พากันคิดว่า
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    อย่าได้ท้อ อย่าได้แท้ เหมือนพวก สิ้นไร้ปัญญา ที่พากันคิดว่า
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมชั่วที่ตนได้ทำเอาไว้

    แต่กลับไม่มีปัญญาคิดได้ว่า
    ตนจะสร้างกรรมดี จนกรรมชั่วตามไม่ทัน
    ตนจะปกป้องตนเอง ไม่ให้มีใครมาทำร้ายตนได้

    ตนจะปกป้องญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงของตนเอง ไม่ให้มีใครมาทำร้ายได้

    และแม้แต่เมื่อตนถูกทำร้าย ก็จะหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด
    และแม้แต่เมื่อญาติพี่น้องของตนถูกทำร้าย ก็จะหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด

    หรือท่านไม่คิดว่า ตัวเรา มีสิทธิอันชอบธรรม ที่จะปกป้อง ตนเอง

    ส่วนพวกผมนั้น เราชาวมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ เรามองไกลไปถึงกระทั่งว่า

    พวกเรา มีสิทธิอันชอบธรรม ที่จะปกป้อง ที่จะแก้ไขภัยพิบัติใหญ่ๆ ให่แก่ญาติธรรมทั้งหลาย

    ส่วนท่านที่งอมือ งอเท้า รอรับชะตากรรม นั้น จะมาบอกว่า ตนเป็นผู้มีปัญญา ได้อย่างไร

    ขอโมทนาร่วมกับทุกๆบุญ ที่มีเจตนาจะช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
    ขออนุโมทนา
    ลุงมหา
     
  7. battosai

    battosai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +346
    ยากอ่านต่อจัง
     
  8. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    แฟนพันธ์แท้

    ขออนุญาตครับ

    ไม่นึกว่าข้อเขียนดีๆของผม ก็มีแฟนพันธ์แท้ตามอ่านจนเจอ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  9. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    โดนคุณไสย์ทำร้าย แก้ไขอย่างไร?

    ขออนุญาตครับ
    ผมรู้จักครอบครัวนี้สองสามปีแล้ว รู้จักสามีก่อนแล้วลามไปที่ครอบครัว
    โทรหาสอบถามสาระทุกข์สุกดิบกันอยู่เรื่อยๆ

    มีวันหนึ่งฝ่ายภรรยาไลน์มาหาผมว่า


    สามีของเธอปวดศรีษะมากจนนอนไม่หลับมา 7 วันแล้ว

    เป็นเฉพาะเมื่อมานอนที่บ้าน นอนที่อื่นไม่เป็นอะไรเลย เช้านี้จะรีบพาไปโรงพยาบาล


    ผมก็รีบไลน์กลับไปว่า

    พาไปทำไมโรงพยาบาล สามีของเธอถูกคุณไสย์แล้ว
    ถ้าถึงขั้นปวดหัวจนนอนไม่ได้ แสดงว่าเขาจะเอาให้ถึงตายแล้ว
    ให้รีบพาไปหาคุณตาโดยด่วน

    แล้วผมก็ไปอาบน้ำที่คลองชลประทานใกล้ๆกับบ้านสวนของเพื่อนที่ผมแวะไปพักด้วย
    หลังจากอาบน้ำเสร็จ มาเช็กไลน์ เธอก็บอกว่า


    พาสามีไปหาคุณตา ให้คุณตาถอนของออกให้แล้ว
    มีกระดูกป่นผีตายโหง มีดินเจ็ดป่าช้า มีเส้นผม เป็นต้น
    ตาบอกว่ายังเหลืออยู่ ให้มาทำอีกรอบจึงจะหมด


    เธอก็มีคำถามๆผมว่า

    ใครทำร้ายสามีหนู?
    ใครทำร้ายครอบครัวหนู?


    ผมก็ตอบให้ว่า เรื่องมันยากๆตรงที่ว่า คนดีๆจะไปพิจารณาได้อย่างไรว่า

    คนชั่วๆเขาพากันคิดอะไร ?
    คนชั่วๆเขาพากันทำอะไร ?
    คนชั่วๆเขาพากันทำๆไม ?

    ส่วนเหตุที่สามีของเธอ ปวดหัวเฉพาะตอนที่อยู่บ้านก็เพราะว่า
    สตรีผู้นี้ เธอมีตะกรุดทองคำ๗แผ่นพันรอบไม้แหย่แย้ ห้อยคออยู่
    ก็รุ่นเดียวกับที่ผมห้อยคออยู่ประจำนี่ล่ะครับ

    ขอโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2014
  10. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
  11. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เมื่อสาวโสดสวย เจอคุณไสย์?

    ขออนุญาตครับ

    ผมไปเจอสาวสวยท่านนี้ที่บ้านคุณตาครับ
    ด้วยวัยเลยเบญเพศมาหมาดๆ เธอก็เจอวิบากกรรมเข้าจนได้ เธอบอกเล่าว่า

    เจ้านายที่บริษัทผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่เธอทำงานอยู่ เกิดศรรักปักใจอยากได้เธอมาเป็นเบอร์๒
    อุตสาห์ลงทุนลงแรงไปจ้างหมอเสน่ห์มาทำพิธีให้
    เดชะบุญเธอเป็นเด็กดีและสนิทกับคุณแม่มากๆ
    เมื่อบอกเล่าเรื่องราวให้คุณแม่ฟัง จึงฟันธงว่าเจอคุณไสย์แน่ๆ

    ก็เลยชวนญาติๆให้พามาที่บ้านคุณตา เพื่อทำพิธีถอนของให้
    เมื่อถอนของแล้วคุณตาเลยแนะนำให้ทำตะกรุดพิเศษเพื่อกันให้ได้ถาวร
    ญาติๆสงสารเลยออกเงินค่าทำให้ไปก่อน แล้วไปจ่าย ไปผ่อนให้ทีหลัง
    เพราะสงสารอนาคตลูกหลาน

    วันที่ผมเจอเธอนั้น เธอมารับตะกรุดพอดี

    ผมก็ถามว่า เจอขนาดนี้ทำไมไม่ย้ายงานหนี
    เธอก็ตอบว่า เสียดายเงินเดือน และถ้าไปที่อื่นก็จะไกลคุณแม่อีกด้วย

    กว่าจะรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ

    แล้วสาวโสดที่อยู่ไกลบ้านล่ะ เจอแบบนี้จะช่วยตัวเองได้อย่างไรหนอ?

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  12. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    วันนี้แวะมาดูเว็ปพลังจิต เห็นลุงมหาตั้งกระทู้เลยรีบเข้ามาอ่าน ได้ความรู้มากครับ

    คงต้องมาตามอ่านบ่อยๆซะแล้ว
     
  13. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ลุงมหาครับ

    ไม่ทราบว่าวิชาที่หมอธรรมได้รับหรือได้ฝึก ส่วนใหญ่ คือ วิชาธรรมบรรลุ ใช่หรือเปล่าครับ

    หรือว่าคนละสายกัน ไม่เกี่ยวข้องกันเลย

    และ วิชาธรรมบรรลุ กับ วิชาดวงธรรม นั้นแตกต่างกันอย่างไร

    ผมและเพื่อนเคยไปพบกับฤาษีที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ไม่ขอออกนามนะครับ

    โดยที่สำนักของฤาษีท่านนี้ มีผ้าขาวมาอาศัยอยู่ด้วย ผ้าขาวท่านนี้บัจจุบันเป็นฤาษีไปแล้วครับ

    ท่านเคยชวนเพื่อนผมรับวิชาดวงธรรม โดยในการทำ

    ท่านจะเชิญ เพื่อนฤาษี 4 ท่าน มาช่วยกันอัดพลังวิชาดวงธรรมให้ครับ

    แต่สุดท้ายเพื่อนก็ไม่ไปรับครับ ด้วยยังมีอุปสรรคในเรื่องการใช้ชีวิตในทางโลกอยู่ กลัวจะทำผิดครูเข้า

    ถ้าลุงมหาพอจะทราบเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ รบกวนเอามาเล่าให้ฟังด้วยครับ
     
  14. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ลุงมหาครับ อีกเรื่องนึง

    พอจะทราบเรื่องเก้าสายศิษย์ กับ กับเรื่องสามสิบสองคัมภีร์ บ้างมั้ยครับ

    ผมเคยได้ยินมา แต่ไม่ค่อยรู้อะไรซักเท่าไหร่

    ถ้าลุงมหาพอจะทราบ รบกวนช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับ
     
  15. battosai

    battosai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +346
    คำถามแต่ละอย่าง เหมือนถามมาจาก ความง่าย แต่ตอบยากมาก นับถือ จริงๆ คุณลุงมหา หรือ ผมขอ เรียก คุณตาได้ไหม
     
  16. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อนัตตา

    ขออนุญาตครับ

    ผมเริ่มปฏิบัติมาตั้งแตสมัยเรียนที่ ม.รามคำแหง
    ก็ต่อยอดมาจาก การนั่งอ่านหนังสือ ตั้งแต่เช้าจนถึงสามทุ่มกว่า
    พอปฏิบัติได้ 4-5 ปี ก็เข้าใจธรรมปฏิบัติพอสมควร

    อายุทางจิตด้านมนุษย์โลกของผมก็หยุดอยู่เพียงแค่นั้น

    ตั้งแต่นั้นมาผมก็ลืมเรื่องอายุของตนไปเลย

    ผมก็มองโลกในแง่มุมใหม่ เพราะผมเข้าใจแล้วว่า

    ที่พากันเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่นี่ เพียงเพราะเพื่อ การสะสมบุญบารมี เท่านั้นเอง

    ผมเลิกสนใจเรื่องอายุของตนเองมาหลายสิบปีแล้วครับ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  17. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ความจริงๆๆ

    ขออนุญาตครับ

    หลายๆท่านในเว็บนี้ ขี้เกียจ หรืออย่างไรไม่ทราบ
    อ่านข้อเขียนของผม แล้วไม่ยอมสละเวลา ไล่อ่านให้เข้าใจ

    อยากรู้อะไร ก็ ถามใหม่ๆ แล้วก็เฝ้ารอคำตอบ

    ถ้าท่านที่อ่านแล้วเข้าใจผมจะทราบว่า

    ผมไม่ได้มีเจตนา จะแนะนำใคร จะส่งเสริมใครให้เดินเส้นทางสายไสย์เวทย์

    เพราะผมเห็นว่า เสียเวลาเปล่า

    เพราะผมก็บอกแล้วว่า จะรุ่งสายไสย์เวทย์ ต้อง

    ๑ เกิดวันเสาร์ปีขาล
    ๒ มีดวงนิรันทร์ตราย คือ ดาว ๕ อยู่ภพที่ ๔
    ๓ มีดวงดาวเกตุคุ้มภัย คือมีดาวเกตุ อยู่ในราษีบังคับ ๔ ราษี
    ๔ มีความสัมพันธ์ในอดีตชาติ
    ๕ มีดาวเป็นอุจจ์ ยิ่งมากยิ่งดี

    นอกนั้นต้องมีคุณสมบัติ

    ๑ ซื่อ
    ๒ เซื่อ
    ๓ โง่
    ๔ ยากจน

    จึงสมควรเดินเส้นทางสายนี้

    เมื่อมนุษย์เกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี

    แล้วจะเดินเส้นทางสายนี้ไปทำไม
    เมื่อไม่เดินเส้นทางสายนี้ แล้วจะรู้ไปทำไม

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  18. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ขออภัยด้วยครับลุงมหา

    ผมก็ถามไปตามประสาคนไม่รู้ แต่อยากจะรู้ครับ

    หากลุงมหาเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรู้ ก็จบครับ

    คงไม่มีอะไรจะถามต่อ...

    ขอโทษที่รบกวนครับ
     
  19. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    คำถามที่ไม่ควรตอบ?

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2014
  20. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570

    ครับลุงมหา ผมเข้าใจสิ่งที่ลุงมหาจะบอกนะครับ

    แต่ที่ผมถาม เพราะ ผมไม่ทราบว่า วิชาดวงธรรม วิชาธรรมบรรลุ

    วิชาเหล่านี้เป็น วิชาแบบไหน ทำให้สำเร็จทางใดได้บ้าง

    เหมือนวิชาที่หมอธรรมเข้ามีกันหรือไม่

    แล้ววิชาที่ว่ามาทั้งหมด เป็นไสย์เวทหรือไม่

    แล้วคำว่า วิชาไสย์เวท ถ้าพูดในทางธรรมก็เป็นเพียงอวิชา ไม่ใช่สิ่งดี

    แต่ถ้าพูดในทางโลก ก็ต้องมาแบ่งว่า ใช้เพื่อการช่วยเหลือ หรือใช้เพื่อการเบียดเบียนผู้อื่น จึงจะบอกได้ว่าเป็นสิ่งดี หรือไม่ดี

    ตอนนี้ผมเข้าใจว่าอย่างนั้นนะครับ

    แต่ดูเหมือนลุงมหาจะเหมารวมว่าไสย์เวทเป็นสิ่งไม่ดีทั้งหมด แล้ววิชาที่หมอธรรมใช้นั้น

    ใช้ไสย์เวทหรือไม่ครับ

    ผู้น้อยไม่รู้จริงๆครับ จึงต้องเรียนถามผู้ที่ผมคิดว่าท่านนั้นน่าจะรู้จริง หรือรู้มากกว่าผม

    แต่ถ้าลุงมหาคิดว่าไม่จำเป็นต้องรู้ ก็ไม่ต้องบอกครับ

    ผมแค่มาอธิบายครับ ไม่ได้มาถามซ้ำอีกครั้ง


    ด้วยความเคารพครับ

    ขอโมทนาบุญครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...