ข้อความจากต่างมิติ - ปฏิทินมายาและปี 2012 และข้อมูลในกะโหลกแก้วคริสตัลทั้ง 13

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 18 พฤศจิกายน 2012.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ปฏิทินมายา - ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    กระทู้นี้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมในหลายๆเรื่อง และก็ยาวมากด้วยนะครับ
    เพราะว่ามันเป็นเนื้อหาจากการถาม - ตอบ ระหว่างผู้รับสาส์น
    กับท่านมหาเทพเมตาตรอน

    ดังนั้น ท่านใดที่สนใจเนื้อหาแนวนี้จริงๆ ก็อาจจะค่อยๆอ่านไปก็ได้นะครับ
    เพราะว่าเดี๋ยวผมจะขอร้องให้คุณเดรดมาช่วยโพสต์เนื้อหาในกระทู้นี้ให้
    แบบค่อยๆโพสต์ไปทีละเล็กละน้อย อะไรแบบนั้นหนะครับ

    เนื้อหาในกระทู้นี้ จะเกี่ยวกับ ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง จากท่านเมตาตรอน
    ที่เกี่ยวกับ "ปฏิทินมายา" ผู้โด่งดัง, เกี่ยวกับกาลเวลาอีกแล้ว,
    และเกี่ยวกับ "หัวกระโหลกแก้วคริสตัล" ทั้ง 13 หัว
    โดยเฉพาะหัวที่ 13 ที่ชื่อว่า MAX

    ท่านว่าหัวกระโหลกแก้วคริสตัลเหล่านี้ พวกมันคืออุปกรณ์อย่างหนึ่ง
    สำหรับเก็บบันทึกข้อมูลทุกๆอย่าง ที่เกี่ยวกับมนุษย์โลก
    และดาวเคราะห์โลกเอาไว้ และท่านก็ว่า มันคือบันทึกในรูปแบบสามมิติ
    ที่ในตอนนี้ มนุษย์โลกเรายังไม่มีอุปกรณ์ใดที่จะสามารถอ่านข้อมูลในนั้นได้ด้วย
    นอกจากจะใช้ "จิต" เท่านั้นเอง อะไรทำนองนั้นหนะนะครับ

    แต่อย่างไรก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลเอาเองนะครับ
    พวกเราก็แค่ผู้ที่แปลเขามา แล้วนำมาโพสต์เพื่อแบ่งปันให้ท่าน
    ได้อ่านด้วยเท่านั้นเองนะครับ หาใช่เจ้าของข้อมูลแต่อย่างใดไม่

    เดี่ยวเนื้อหาทั้งหมด รอคุณ kindred มาช่วยโพสต์ให้อ่านนะครับ

    ....................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2014
  2. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time

    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 1

    สวัสดี! ฉันคือ เมตาตรอน เทพแห่งแสงสว่าง!
    ฉันขอโอบกอดพวกคุณทุกคนเอาไว้ในอ้อมแขนแห่งแสงสว่างและความรัก
    ที่รักทั้งหลาย ฉันรู้จักพวกคุณมากกว่าที่พวกคุณจะรู้ซะอีก
    และพวกเราก็จะมาทำให้ในชั่วขณะที่พวกเราได้มาอยู่ร่วมกันแบบนี้มีความหมายมากขึ้น


    และนี่ก็เป็นชั่วขณะอันมีค่าอีกช่วงหนึ่ง ที่ได้นำพวกเราให้มาพบกัน
    ให้กระแสความคิดของพวกเรามารวมตัวกันในเมทริกซ์ของ “สนามรวม” (unified field) นี้
    ให้กระแสความคิดรูปทรงเรขาคณิตของพวกเรา รวมเข้ากับความปรารถนา รวมเข้ากับความตระหนักรู้
    และรวมเข้ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่มาอยู่ด้วยกันด้วยวิธีการเดียวกันนี้
    เพราะว่ากระแสความคิดทั้งมวล สรรพสิ่งทั้งปวง และทุกๆรูปธรรมชีวิต
    ก็คือตัวแทนของแสงสว่าง, คือตัวแทนของจิตสำนึก ,คือตัวแทนของปรากฏการณ์ ,
    และคือตัวแทนของทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมีอยู่เป็นอยู่ หรือที่จะมีอยู่เป็นอยู่ในอนาคต


    มนุษย์ที่รักทั้งหลาย จักรวาล และเอกภพ มีความสมบูรณ์แบบอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว
    โดยไม่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่อยู่ในแต่ละมิติจะตีความหรือรับรู้มันไปอย่างไร
    เพราะว่าในระดับควอนตัมแล้ว ทุกสรรพสิ่งที่อยู่ภายในสนามรวมคริสตัลไลน์นี้
    กำลังเป็นไปตามธรรมชาติของพวกมันเองอยู่
    กำลังเป็นไปตามบูรณภาพทางสถาปัตยกรรมของพวกมันเองอยู่ อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ และอย่างสมบูรณ์แบบดีอยู่แล้ว
    แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยคลื่นความถี่ที่สูงกว่า, หรือที่ระดับการสั่นสะเทือนที่สูงกว่าอย่างอื่นอยู่ก็ตาม
    และเช่นเดียวกันกับถ้อยคำในข้อความนี้ ดังนั้นพวกเราก็จะเริ่มบทสนทนาที่น่าสนใจที่สุดนี้กัน
     
  3. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 2

    Question to Archangel Metatron :

    ตามความหมายที่ได้จากการตีความปฏิทินมายาของคนยุคใหม่บอกว่า
    ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในท่ามกลางช่วงเวลาที่มีการเร่งเร็วขึ้นของระดับจิตสำนึก อย่างที่ไม่มีช่วงเวลาไหนเสมอเหมือนเลย
    จริงๆแล้วนักวิจัยกล่าวกันว่า อัตราการเร่งของระดับจิตสำนึก จะเร่งเร็วขึ้นด้วย ปัจจัยเลข 20 (factor of 20...***) ภายในปี 2011
    ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของระดับจิตสำนึก ที่เคยใช้เวลานานเป็นปีเมื่อปี 1999 ก็จะใช้เวลาเพียงแค่ 20 วันเท่านั้นในปัจจุบันนี้
    และปัจจัยเลข 20 นี้ ก็จะมีศักยภาพเต็มที่ ในวันที่ 9 มีนาคม จนถึงวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2011
    ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แท้ที่จริงแล้วมันมีความหมายว่าอย่างไร?

    …………………………………………………………………………………………..
    ***factor of 20...เลข 20 เป็นเลขที่ชาวมายาถือกันว่าเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์
    มนุษย์ในปัจจุบันนิยมใช้เลขฐานสิบเป็นหลัก โดยยืนพื้นอยู่บนนิ้วมือทั้งสิบ
    แต่ชาวมายากลับแตกต่างกันไปเพราะพวกเขารวมนิ้วเท้าอีกสิบเข้าไปด้วยเป็นเลข ฐาน 20
    ความสัมพันธ์อีกประการของปฏิทินของชาวมายาก็คือ หนึ่งอุยนัลหรือเดือนของพวกเขามีอยู่ 20 คิน หรือ 20 วัน
    ปฏิทินของชาวมายาตั้งอยู่บนค่าของเลข 20 เป็นหลัก

    [​IMG]
    ที่มา ชนเผ่ามายา(MAYAS) ผู้กำหนดวันสิ้นโลก 2012!!!

    …………………………………………………………………………………………..

    Archangel Metatron:

    เพื่อเป็นการเริ่มต้นการสนทนานี้ พวกเราก็จะบอกว่า ศักยภาพของจิตสำนึกที่จะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น กำลังเกิดขึ้นอยู่จริงๆ ณ.ขณะนี้
    ด้วยอัตราเร็วของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นที่ได้ถูกตั้งค่าเอาไว้ก่อนแล้ว
    แต่อย่างไรก็ตาม อัตราเร็วของการเลื่อนระดับขึ้นของแต่ละบุคคล ก็จะแตกต่างกันไป
    และดังนั้นจึงไม่สามารถให้ค่าคงที่ของการเร่งให้เร็วขึ้นนี้ได้จริงๆ


    ก่อนที่พวกเราจะให้ความคิดเห็นเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องการเร่งให้เร็วขึ้นของระดับจิตสำนึกนี้
    พวกเราอยากจะขอเพิ่มเติมประเด็นที่น่าสนใจในการสนทนานี้ก่อนสักหน่อยว่า
    ปฏิทินที่น่าทึ่งที่มนุษย์ในปัจจุบันเรียกว่า “ปฏิทินมายา” นี้ ไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้น
    และไม่ได้ถูกเขียนขึ้นโดยชาวมายัน อย่างที่พวกคุณคิดกันในตอนนี้แต่อย่างใด
    เพราะว่า อันที่จริงแล้ว มันมีมาก่อนที่จะมีชนเผ่ามายันซะอีก ไม่ต่ำกว่า 18,000 ปี
    มันถูกเขียนขึ้นครั้งแรกโดยผู้รู้แจ้งชาวโพซีด้าแห่งแอตแลนติส ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก สมาพันธ์ Sirian-Pleiadean
    และถูกมันเก็บรักษาไว้โดยใช้เทคโนโลยีด้านคริสตัลไลน์ (Crystalline technology)
    ที่เรียกกันว่า “กะโหลกแก้วคริสตัล” (Crystal Skulls)

    แม้แต่ นักมานุษย์วิทยาผู้สร้างสรรค์ยิ่งของพวกคุณ ก็ยังรู้กันเลยว่า
    ชนเผ่าชาวมายันที่เก่าแก่ที่สุด เพิ่งจะเริ่มมีขึ้นมาเมื่อประมาณ 2,000 ก่อนคริสตศักราชนี้เอง
    แต่พวกเราขอยืนยันกับพวกคุณได้เลยว่า ปฏิทินนี้มีอยู่ก่อนแล้วและก็ถูกใช้งานมานานแล้วในรูปแบบที่กว้างขวางกว่านี้มาก
    และถูกใช้งานมานานมากแล้วก่อนที่จะมีชนเผ่ามายันเกิดขึ้นซะอีก
    และสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ปฏิทินของชาวมายา” (Mayan calendar)ในปัจจุบันนี้นั้น
    ก็คือเศษเสี้ยวเล็กๆของสิ่งที่เคยมีอยู่ ก่อนที่จะมีชนเผ่ามายันเท่านั้นเอง
     
  4. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time

    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 3


    พวกคุณรู้ไหมว่า ดินแดนที่บรรพชนชาวมายันเคยอาศัยอยู่ ซึ่งก็คือพื้นที่ในแถบยูคาทานในเม็กซิโก และในกัวเตมาลานั้น
    มันเคยมีส่วนของแผ่นดินที่เชื่อมต่ออยู่กับเกาะโพซีดาของอาณาจักรแอตแลนติสอยู่ด้วย
    ก่อนเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและน้ำท่วม อันเนื่องมาจากเหตุอุกทกภัยครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของอาณาจักรแอตแลนติสจะจมลงไปสู่ใต้น้ำ

    และวัฒนธรรมจากอาณาจักรแอตแลนติสที่มีความก้าวล้ำทางวิทยาการขั้นสูงเหล่านี้
    ก็เคยมีอยู่ในแถบอเมริกากลางและในอียิปต์มานานมากแล้วด้วย ก่อนที่จะเกิดการล่มสลายครั้งสุดท้ายของอาณาจักรแอตแลนติส
    ในสมัยนั้นมีดินแดนที่เป็นอาณานิคม และมีวัฒนธรรมมากมายที่อยู่ในแถบอเมริกากลาง, อเมริกาใต้ (พวกอ็อก - OG) และในอียิปต์
    ที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวแอตแลนติส และเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวแอตแลนติส
    กลุ่ม 'the Law of One' ผู้ที่มีระดับจิตวิญญาณสูงส่ง มานานหลายพันปี
    ก่อนที่อาณาจักรแอตแลนติสจะล่มสลายลง


    ชุมชนเหล่านี้จะมีกลุ่มของอภิสิทธิ์ชน (elite) และกลุ่มของผู้ที่มีความก้าวล้ำทางจิตวิญญาณชั้นสูงอยู่กลุ่มหนึ่ง
    ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็น “นักบวช-นักวิทยาศาสตร์”
    บรรดานักปราชญ์ในกลุ่ม Atla-Ra เหล่านี้ จะมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก ในศาสตร์ด้านการควบคุมสสารโดยใช้อำนาจจิต
    บรรดาคุรุเหล่านี้ จะปฏิบัติการโดยใช้ “ฟิสิกส์ทางจิต” (mental physics)
    และจะปฏิบัติการด้วยความตระหนักรู้ที่เต็มเปี่ยม และในความหลากมิติที่ละเอียดอ่อนที่สุด


    ดังนั้นในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ในสมัยแอตแลนติส ซึ่งไม่เคยได้รับการฝึกฝนทางด้านนี้มาก่อนเลยจะขาดทักษะทางด้านนี้
    ดังนั้นรูปแบบการคมนาคมของพวกเขา พวกเขาจึงได้แต่อาศัยสะพานข้าม และอาศัยการคมนาคมรูปแบบอื่นๆที่ล้ำหน้าน้อยกว่า
    เพื่อเดินทางไปมาระหว่างดินแดนอาณานิคมต่างๆของอาณาจักรแอตแลนติส
    และรวมถึงไปมาระหว่างดินแดนของพวกอ็อก, Yucatan และอียิปต์ด้วย

    แต่สำหรับกลุ่มคนวงในที่เป็นพระนักวิทยาศาสตร์แล้ว พวกเขาจะมีวิธีการอื่นๆในการเดินทาง
    เช่น โดยการไปด้วยกายทิพย์แบบอยู่ในสองสถานที่ในเวลาเดียวกัน (etherically bi-locate)
    และโดยการไปด้วยกายเนื้อ โดยอาศัยการเนรมิต เป็นต้น
    ซึ่งพวกเขาสามารถเดินทางไปได้ ไม่เพียงแต่ภายในอาณาจักรทางกายภาพบนโลกใบนี้เท่านั้น
    แต่พวกเขายังสามารถเดินทางไปได้ทั้งในระดับจักรวาล และในระดับกาแล็กซี่ อีกด้วย


    เหล่านักปราชญ์ในกลุ่ม Atla-Ra นี้ เคยมีปฏิสัมพันธ์อยู่กับรูปธรรมชีวิตนอกโลก
    ชาวสมาพันธ์ Sirian-Pleiadean
    และอันที่จริงแล้วเหล่านักปราชญ์เหล่านี้แหละ ที่เป็นผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงของปฏิทินวงกลม
    ที่ปัจจุบันนี้ พวกคุณเรียกกันว่า “ปฏิทินมายา” นั่นเอง


    หลังเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่แล้ว สังคมเล็กๆของเหล่าคุรุพระนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้หลายกลุ่มก็ยังคงอยู่มาได้อีกนานนับพันปี
    และได้เก็บความรู้ของปฏิทินนี้เอาไว้ รวมทั้งได้ทำการก่อสร้างปีระมิดต่างๆขึ้น
    โดยได้รับความช่วยเหลือจากเหล่ารูปธรรมชีวิตจากนอกโลกดังที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว
    แต่ว่าสังคมโดยรวมของชาวมายัน ก็ไม่ได้มีแต่พระนักปราชญ์เหล่านี้อยู่หรอกนะ
    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมชาวมายันจึงดูเป็นปริศนาลึกลับสำหรับพวกคุณเหลือเกิน จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

    นั่นก็เพราะว่าบางส่วนของความสำเร็จที่ดูเหมือนว่าน่าจะมาจากพวกเขาได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการอันยิ่งใหญ่
    ทั้งๆที่สังคมโดยรวมของพวกเขากลับเป็นแค่ชุมชนชาวชนบทเท่านั้นเอง
    มิหนำซ้ำพวกเขาก็ยังถูกใส่ร้ายอีกด้วยว่ามีพิธีกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการบูชายัญมนุษย์
    และเกี่ยวกับความวิปริตอื่นๆที่อยู่ภายใต้ระบบเผด็จการที่บิดเบือนอีกด้วย
    ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว มันจะดูมีเหตุผลค่อนข้างมากพอหรือยัง
    ที่จะทำให้เข้าใจได้ว่าปฏิทินนี้ น่าจะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีอารยะธรรมของชาวมายา?


    และเมื่อมันเป็นดังนั้นแล้ว มันก็จะทำให้เกิดความเข้าใจตามมาอีกว่า พระนักวิทยาศาสตร์ของชาว OG, ยูคาทาน, อียิปต์
    และวัฒนธรรมอื่นๆที่ถูกลืมเลือนไปแล้วทั้งก่อนและหลังจากวัฒนธรรมของพวกเขานั้น
    มีความเข้าใจทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ทางจิต และมีความรู้เป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับวัฏจักรทางด้านดาราศาสตร์และวัฏจักรของมิติต่างๆอีกด้วย

     
  5. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011

    ตอนที่ 4



    มีเพียงเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เคร่งครัด ที่เป็นผู้ริเริ่มจารีตประเพณีและชุมชนเหล่านี้ขึ้นมาเท่านั้นที่รู้เรื่องพวกนี้
    แม้ว่าจะมีหลักฐานของสิ่งต่างๆเหล่านี้หลงเหลืออยู่น้อยมากในปัจจุบันนี้แล้วก็ตาม
    มิหนำซ้ำ สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ไม่เป็นที่รู้จัก หรือยังไม่เป็นที่เข้าใจซะอีก

    ความเข้าใจในด้านวิทยาศาสตร์ของฟิสิกส์ทางจิตและความสามารถในการนำความรู้ต่างๆเหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์
    คือสิ่งที่ใช้บ่งบอกถึงความแตกต่างระหว่างความรู้ทางด้านวิชาการ
    และทางด้านเทคโนโลยีของพวกคุณกับของคนในอดีตที่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมาก
    เพราะว่ามนุษย์ในยุคปัจจุบันนี้ ยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องของอิทธิพลของกระแสความคิดที่เที่ยงตรงแม่นยำ
    ที่จะไปมีผลกระทบต่อสสารได้ เพราะว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ที่ถูกลืมเลือนไปแล้ว



    แต่เหล่าพระนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น รู้ดีถึงศิลปะในการ “แยกสลายมวลสารของสสารทางกายภาพ” (physical de-materialization)
    แล้ว “เนรมิตมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง” (re-manifestation)
    ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่เพียงแต่จะสามารถเดินทางไปได้ โดยใช้กายทิพย์ ด้วยวิธีการ bi-location เท่านั้น
    แต่พวกเขายังสามารถเดินทางไปได้ โดยใช้กายเนื้อ ซึ่งเป็นสสารทางกายภาพอีกด้วย..

    และด้วยวิธีการเดียวกันนี้แหละ ที่พวกเขาใช้สร้างปีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขึ้นมา
    ซึ่งยังคงเป็นปริศนาสำหรับพวกคุณอยู่จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

    กลุ่ม Atla-Ra และบรรดาผู้ที่ลงมาช่วยพวกเขา (descendants)
    มีความสามารถในการจัดโครงสร้างวิทยาศาสตร์ของฟิสิกส์ในระบบ 3d ได้ด้วยจิต
    โดยการเคลื่อนย้ายสสารจากมิติที่ 3 ให้เข้าไปอยู่ในสนามพลังงาน
    ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น “สนามต้านแรงโน้มถ่วง” (anti-gravity field)
    เพื่อที่จะแยกสลายมวลสารของมัน (dematerialize) แล้วประกอบมันขึ้นมาใหม่
    และเนรมิตมันขึ้นมาใหม่ ให้เป็นสสารที่ปราศจากความหนาแน่น และภายใต้สภาวะที่เหมาะสม
    พวกเขายังสามารถเปลี่ยนแปลงโลกแห่งความเป็นจริง และมิติของพวกเขาได้ด้วย



    เหล่าพระนักวิทยาศาสตร์ผู้มีความชำนาญสูงเหล่านี้ ใช้กระแสความคิดที่มีความเข้มข้นสูงๆ
    เพื่อแปรสภาพสสารให้กลายไปเป็นสสารที่อยู่ในแถบสเปคตรัมที่แตกต่างกันได้
    พวกเขามีความเข้าใจดีว่า สสารเองก็อยู่ในรูปของคลื่นที่มีช่วงสเปคตรัมด้วย เช่นเดียวกันกับแสง
    และก็สามารถที่จะเปลี่ยนรูปแบบเข้าไปอยู่ในช่วงคลื่นอื่น หรือออกจากช่วงคลื่นอื่นได้ด้วย
    ดังนั้นสสารในระดับอะตอมจึงสามารถที่จะถูกแปลงสภาพให้ไปอยู่ในสภาวะของการสั่นสะเทือนที่ไร้น้ำหนักได้
    ซึ่งในสภาวะนี้ไม่เพียงแต่มันจะมีมวลกึ่งแข็ง (semi congealed mass) โดยปราศจากความหนาแน่นเท่านั้น
    แต่มันยังมีอิทธิพลแบบทันทีทันใด ต่อความหนาแน่นของช่วงสเปกตรัมที่เป็นสสาร
    และช่วงสเปกตรัมที่เป็นปฏิสสารของมันเองอีกด้วย


    มันจะไปมีผลกระทบเสมือนเป็นสเปกตรัมเดียวจริงๆ แทนที่จะเป็นสเปกตรัมที่ตรงกันข้ามกันหรือขนานกัน
    เพราะว่าสสารและปฏิสสาร ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรเดียวกัน
    ที่อยู่ภายใน “สเปกตรัมสมบูรณ์” ที่อยู่ในความเป็นหลากมิติของมัน

    ความสำคัญของสิ่งที่ฉันได้กล่าวถึงนี้
    ก็คือ ประชาชนส่วนใหญ่ของชนเผ่า Olmec, Aztec, Mayan, และรวมทั้งชาวเมโส-อเมริกันด้วย
    ไม่มีชนเผ่าไหนเลยที่มีความสามารถในเรื่องพวกนี้ตามที่มีบางอย่างปรากฎให้เห็นในวัฒนธรรมของพวกเขาเลย

    ดังนั้นประเด็นของเราก็คือกลุ่ม Atla-Ra ต่างหากที่เป็นผู้พัฒนาปฏิทินนี้ขึ้นมา
    ส่วนชาวมายันบางส่วน คือผู้ที่ทำหน้าที่เก็บรักษาความรู้นั้นไว้
    และได้สร้างบันทึกและเขียนตำราขึ้นมาใหม่เพื่ออนุรักษ์มันเอาไว้
    แต่ก็เหมือนกับในยุคสมัยของอาณาจักรแอตแลนติสนั่นแหละ
    ที่แม้ว่าเหล่าพระนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ จะได้รับการเคารพนับถืออยู่
    แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ผู้ปกครองชุมชน และก็ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนแต่อย่างใดเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2012
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron2012 - The Mayan Calendar & Time
    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 5


    Question to Archangel Metatron:
    นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม การเปลี่ยนแปลงต่างๆจึงดูเหมือนว่าไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นเร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
    แต่ยังเกิดขึ้นอย่างเข้มข้นรุนแรงอีกด้วย ใช่หรือไม่ ?

    Archangel Metatron:

    ถูกต้องแล้ว ดังนั้นในตอนนี้ เพื่อกลับไปยังคำถามของคุณ และกลับไปยังหัวข้อเรื่อง 'ปัจจัยที่ทำให้จิตสำนึกเพิ่มขึ้น "...

    พวกเราจะบอกว่า มันเป็นเพราะว่าการเพิ่มขึ้นของระดับการสั่นสะเทือนด้านความถี่
    ที่กำลังทำให้ทุกๆคนมี 'ศักยภาพ' เพิ่มมากขึ้น เพื่อยกระดับไปสู่การมีความตระหนักรู้ด้านจิตสำนึกที่มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆอยู่
    การเลื่อนระดับขึ้นอยู่ภายใต้การสนับสนุนของ และอันที่จริงแล้ว มันถูกกำหนดโดยการขยายตัวด้านมิติของโลก
    เพื่อขึ้นไปรวมกับ 'อาณาจักรแห่งคริสตัลไลน์' ทั้งหลาย

    คุณลักษณะพิเศษของในการเลื่อนระดับ คือ มันทำให้หน่วยของจิตสำนึกมีพลังชีวิต'ใหม่ๆ'ขึ้นมา
    ซึ่งคนสมัยโบราณของพวกคุณเรียกหน่วยของจิตสำนึกนี้ว่า 'Akash'
    (อะ-คะ-ฉะ เป็นคำสันสกฤตที่แปลว่า Aether หมายถึงอากาศธาตุ…ผู้แปล)
    หรือ “ธาตุแก่นแท้อดามันทีน” (Adamantine Essence)
    ซึ่งโดยตัวของมันเองแล้ว มันก็คืออนุภาคของแสงสว่างอันทรงพลังที่มีศักยภาพในการเนรมิตโลกแห่งความเป็นจริงให้เกิดขึ้นมาได้
    (พวกเราเรียกมันว่า “หน่วยของจิตสำนึก” หรือ Consciousness Unit)

    ถ้าอธิบายตามความเข้าใจของมนุษย์ที่เกี่ยวกับเรื่อง “โลกทุกโลก” (Omni-Earth) แล้ว
    อาณาจักรแห่งคริสตัลไลน์ จะเริ่มตั้งแต่มิติที่ 5 เป็นต้นไป
    แล้วขยายขึ้นไปถึงมิติที่ 15 และก่อนที่จะมีการขยายตัวด้านมิติของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้
    สิ่งที่มีอยู่แล้วที่มนุษยชาติจะสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ได้ ก็คือ “หน่วยของจิตสำนึก”
    เวอร์ชั่นที่ถูกแปลงสัญญาณหรือถูกแปลงคลื่นความถี่ไปแล้ว หรือ ถูกลดเกรดลงมาแล้วนั่นเอง
    ที่อาจเรียกชื่อใหม่ว่า “หน่วยของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า” (electromagnetic energy units)
    หน่วยของจิตสำนึกเวอร์ชั่นนี้แหละที่ถูกมอบไว้ให้เป็นทุน เพื่อให้ทำงานอยู่ในสนามพลังงานแห่งความเป็นขั้ว
    และในช่องว่าง-กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรง ของมิติที่ 3 ซึ่งเป็นมิติทางกายภาพนี้


    แต่หน่วยของจิตสำนึกคริสตัลไลน์ (Crystalline consciousness units) จะปฏิบัติการอยู่ในช่วงความถี่ที่เร็วกว่ามาก
    และกำลังถูกกระตุ้นโดยจิตใจที่สูงส่งกว่า ในส่วนที่พวกคุณเรียกกันว่า “จิตใต้สำนึก”
    ให้เข้ามาเนรมิตโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นอย่างสร้างสรรค์

    โดยธรรมชาติแล้ว ขอบเขตของจิตสำนึกของมนุษย์โลก และโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 ของมนุษย์โลก
    จะไม่สามารถมี และไม่สามารถรองรับสภาพแวดล้อมที่มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าของหน่วยของจิตสำนึก ที่อยู่ในมิติแห่งคริสตัลไลน์ได้

    ด้วยเหตุนี้ ความเข้มข้นของพลังงาน ความเข้มข้นของการเปลี่ยนแปลงด้านจิตสำนึกและการเร่งเร็วขึ้นของกาลเวลาทั้งหมดนี้
    จึงเป็นคุณสมบัติของการสั่นสะเทือนที่ทรงพลังอำนาจนี้

    ดังนั้น ณ.จุดนี้ พวกเราจึงอยากจะพูดให้กระจ่าง และอยากจะขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า
    เหตุการณ์ที่พวกคุณเรียกกันว่า “การเลื่อนระดับขึ้น” (ascension) นั้น
    ในความเป็นจริงแล้ว และในแง่มุมที่ยิ่งใหญ่กว่าแล้ว มันคือการเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์โลกในมิติที่ 3 ให้สูงขึ้น
    เพื่อไปสู่มิติที่สูงกว่า ซึ่งก็คือมิติคริสตัลไลน์นั่นเอง

    ซึ่งความสามารถดังกล่าวนี้ มนุษย์โลกผู้ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพที่หนาแน่นทึบตันนี้
    ไม่สามารถใช้งานมันได้มานานหลายพันปีแล้ว

    แต่แม้ว่ามันจะมีการขยายตัวของพลังงาน ที่จะทำให้การเลื่อนระดับขึ้น เกิดขึ้นได้อยู่ก็ตาม
    แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า มนุษย์โลกแต่ละคน จะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ได้รับมาใหม่(อีกครั้ง)นี้ ได้ในทันที
    เพราะว่าอันที่จริงแล้ว ทางเลือกที่จะเลื่อนระดับขึ้นหรือไม่นั้น ก็ยังคงเป็นของมนุษยชาติในระดับจุลภาคอยู่
    มันคือทางเลือกที่มนุษย์แต่ละคนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง ด้วยความสุขุมรอบคอบ

    เพราะฉะนั้นแล้วกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ จึงเป็นทางเลือกส่วนบุคคล ที่ขึ้นอยู่กับสภาพความพร้อม
    ขึ้นอยู่กับเจตนาอันบริสุทธิ์ และขึ้นอยู่กับปริมาณแสงสว่างในแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง
    ที่รักทั้งหลาย การเลื่อนระดับขึ้นนี้ จะเกิดขึ้นทีละหัวใจ ทีละจิตใจ มันเป็นเช่นนั้นเสมอมา
    เพราะว่าดาวเคราะห์โลก คือสถานที่ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี เป็นดาวเคราะห์แห่งเจตจำนงค์เสรี

    การเลื่อนระดับขึ้น ไม่ใช่ละอองมหัศจรรย์แห่งดวงดาว (magical star-dust)
    ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในทันที่ทันใด
    กับทุกสิ่งที่ถูกมันสัมผัสโดน...
    แต่มันคือประตูแห่งคลื่นความถี่บานใหม่
    ที่เพิ่งถูกเปิดขึ้น
    ที่แต่ละคนสามารถที่จะเลือกที่จะผ่านเข้าไปได้
    เมื่อมีความพร้อมแล้ว


    ในตอนนี้ พวกเราจะเพิ่มเติมให้อีกว่าการผสมผสานของพลังงานที่กำลังเกิดขึ้นอยู่บนโลกในเวลานี้
    จะเพิ่มโอกาสให้จิตสำนึกพัฒนาขึ้นไปอีกผ่านทาง 'ประตู' บานนี้
    โดยอาศัยการผสมผสานกันอย่างมากมายของความถี่ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งกำลังเกิดขึ้นบนโลกอยู่ในขณะนี้
    พลังงานของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ
    กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นและการชำระล้างให้บริสุทธิ์ ที่อลังการและสำคัญยิ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่จริงๆในขณะนี้

    มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องระลึกไว้ด้วยว่า...ถึงแม้ว่าปฏิทินของชาวมายัน
    จะสามารถคำนวณวัฏจักรต่างๆของโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณในปัจจุบันนีได้อย่างถูกต้องแม่นยำอย่างมากก็ตาม
    แต่มันก็อาจจะถูกวิเคราะห์ออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ด้วย
    ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และปริมาณแสงสว่างของผู้ตีความแต่ละคนด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงจะถูกต้องมากกว่า
    ถ้าจะกล่าวว่า...
    ปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงจิตสำนึก จะถูกกำหนดโดยจิตสำนึกของแต่ละบุคคล
    และไม่ได้ถูกกำหนดโดยปัจจัยด้านตัวเลข
    ที่ตั้งค่าเอาไว้ล่วงหน้าแล้วแต่อย่างใดเลย


    สิ่งที่สำคัญพอๆกันที่ต้องเพิ่มเติมลงไปในการสนทนานี้ก็คือ
    มีตำราของชาวมายันหลายเล่ม ที่ได้ถูกนักบวชชาวสเปนทำลายไปแล้วนั้น
    ซึ่งตำราเหล่านั้นได้บรรจุข้อมูลสำคัญที่อาจจะทำให้ได้ความคิดต่างๆจากปฏิทินมายามากกว่านี้มาก
    และพวกเรายังจะขอเพิ่มเติมอีกด้วยว่าก่อนที่จะมีชนเผ่ามายันเกิดขึ้นนานหลายศตวรรษ
    ยังมีตำราเล่มอื่นๆอีกที่มีความสำคัญไม่แพ้ปฏิทินมายา และได้หายสาบสูญไปแล้วตามยุคสมัย และตามกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้

    การตีความความหมายปฏิทินมายาในปัจจุบันนี้ ไม่ได้นำเอาความเป็นหลากมิติมาพิจารณาด้วยสักเท่าไหร่
    ซึ่งนั่นเป็นการตีความที่คับแคบอย่างมาก และอันที่จริงแล้ว...
    เป็นการตีความที่มองข้ามข้อมูลที่เป็นภูมิปัญญาที่กว้างไกลกว่า ที่บรรจุอยู่ในคัมภีร์แห่งการรู้แจ้งนี้แต่ดั้งเดิมไป

    คุณสมบัติของการเร่งให้เร็วขึ้น ที่มีอยู่ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนั้น
    ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ด้วยอัตราแน่นอนตายตัวใดๆทั้งสิ้น
    แต่อัตราของการเร่งให้เร็วขึ้นนี้ จะถูกกำหนด และถูกกระตุ้นโดยเจตจำนงค์และความสามารถในการยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้ขึ้นไปสู่
    และให้อยู่ในระดับของพลังงานที่กำลังขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆอยู่นี้ของแต่ละบุคคลต่างหากหละ

    แนวคิดเรื่อง “คลื่นลูกที่ 9” (ninth wave) นั้น เป็นแต่เพียงการตีความของคนสมัยนี้เท่านั้น
    หาได้เป็นสิ่งที่ถูกพยากรณ์เอาไว้แล้วจริงๆ ในปฏิทินมายา ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชาวแอตแลนติสไม่
    แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นก็ไม่ได้ไปบั่นทอนความสำคัญหรือความถูกต้องของเจตนาของมันให้ลดน้อยลงไปได้เลย

    [​IMG]
    ภาพจาก... Mayan Majix - Learning Lab
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2012
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกันนะคะ
    ทั้งหมดที่โพสต์ไปได้ประมาณ 12 หน้า จากทั้งหมด 40 หน้า
    ค่อยๆอ่านกันไปดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะตาลายไปเสียก่อน

    แล้ววันนี้โพสต์ไม่สนุกเลย จัดหน้าวางตัวหนังสือ วางสี วางฟอนต์ลำบากมาก
    ช่องตอบข้อความไม่โชว์ preview มีแต่รหัส ปกติ ใช้ IE ไม่เป็นนิ
    เลยไม่รู้ว่าเป็นที่เครื่องตัวเองหรือเป็นทีเวบ หรืออะไร...
    ข้อความเลยแน่นๆ ทำให้อ่านกันไม่สบายตาเลย ขออภัยนะคะ
     
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time
    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 6


    Question to Archangel Metatron

    : ท่านจะกรุณาบอกถึงลักษณะของการเร่งให้เร็วขึ้นนี้ได้หรือไม่ และมันจะให้อะไรแก่มนุษย์บ้าง?

    Archangel Metatron:
    โลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 บนดาวเคราะห์โลกใบนี้
    ถูกโปรแกรมมาให้มีลักษณะเป็นกาลเวลาแบบที่มีลำดับก่อนหลัง ที่พวกคุณจะรับรู้มันว่า มันเป็นเส้นตรง
    ซึ่งถ้าเรียกตามศัพท์ทางคอมพิวเตอร์ของพวกคุณแล้ว มันก็คือ “โปรแกรม” โปรแกรมหนึ่ง
    ที่ปฏิบัติการอยู่บนเซิฟเวอร์ตัวหนึ่งนั่นเอง และเซิฟเวอร์ในกรณีนี้ก็คือ “โครงข่ายคริสตัลไลน์ 144” ของโลกนั่นเอง

    โปรแกรมย่อยที่ชื่อ “กาลเวลา” นี้ จะถูกติดตั้งเข้าไปในโครงข่ายคริสตัลไลน์ 144
    เพื่อให้มันทำหน้าที่เป็น โลกแห่งความเป็นจริงแห่งภาพสามมิติ (hologramic reality)
    และนอกจากนี้มันก็ยังมีโปรแกรมที่ชื่อว่า “ยุค”
    และ “สมัย” และ “อารยธรรม”ต่างๆมากมาย ที่ถูกติดตั้งเข้าไปใน Server ดังกล่าวนี้อีกด้วย

    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม อารยธรรมหลายๆอารยธรรม ที่ได้วิวัฒน์ไปจนถึงจุดสูงสุดแล้ว
    เช่น อารยธรรมของชาวมายา เป็นต้น
    จึงได้ดูเหมือนกับว่า มันผุดขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้อย่างทันทีทันใดแล้วเข้ามาอยู่ใน
    “ท้องทะเลแห่งสิ่งสร้างสรรค์อันกว้างใหญ่ไพศาล” นี้
    และอยู่ภายในกระแสแห่ง ”จิตไร้สำนึกมวลรวม” (collective unconsciousness) ของคนทั้งโลก
    ซึ่งเป็นโครงข่ายพลังงานแห่งจิตสำนึก ที่จะทำให้โลกแห่งความเป็นจริงที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วทั้งหลาย สามารถทำงานได้


    กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้ คือมายาการชนิดพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีวัตถุประสงค์
    แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว โปรแกรมทุกๆโปรแกรม จะกำลังทำงานอยู่พร้อมๆกันหมดก็ตาม
    ด้วยเหตุนี้ ในระดับของ “ตัวตนรวม” (Oversoul) แล้ว พวกคุณจึงกำลังมีประสบการณ์อยู่ในหลายๆอารยธรรม
    และในทุกๆชาติภพ พร้อมกันหมด ในเวลาเดียวกัน
    ภายใน “สนามรวมของพหุจักรวาลแห่งคริสตัลไลน์” (Unified Field of the Crystalline Multiverse) นี้

    คุณสมบัติอย่างหนึ่งของการเลื่อนระดับขึ้นก็คือ...
    การเรียงตัวกันในแบบที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกันของกาลเวลาทุกๆกาลเวลา
    ดังนั้นในภาพรวมที่กว้างกว่าแล้ว
    การเร่งเร็วขึ้นของกาลเวลาที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกอยู่ในขณะนี้
    เป็นเพราะว่าช่องเปิดรับสัญญาณ
    ที่อยู่ในโปรแกรมภาพสามมิติแห่งกาลเวลาที่มีอยู่พร้อมกันหมดทั้งหลายนี้
    กำลังเปิดทางให้ภาพโฮโลแกรมทั้งหมด
    สิ้นสุดตัวมันเองลงภายในวัฏจักรนี้

    เพราะเหตุนี้ สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า 'แสงสว่าง'
    จึงกำลังเร่งเร็วขึ้นอยู่
    และมันก็จะไปส่งผลกระทบต่อทุกแง่ทุกมุมของประสบการณ์
    ณ ปัจจุบันนี้ของพวกคุณ
    ..........................
     
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron2012 - The Mayan Calendar & Timechanneled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 7
    Question to Metatron:
    มันจะส่งผลกระทบต่อกาลเวลาอย่างไร? และกาลเวลาจะหายไปหรือไม่?

    Archangel Metatron:


    พวกเราจะบอกว่า กาลเวลาที่พวกคุณรู้จัก กำลังเร่งเร็วขึ้นอยู่จริงๆ
    กาลเวลาและช่องว่าง (Time and Space) คือแง่มุมที่แตกต่างกันของพลังงานชนิดเดียวกัน
    และทั้งสองอย่างนี้ต่างก็เป็นแง่มุมหนึ่งของพลังงานแสงสว่างด้วย
    ซึ่งในตอนนี้ความเร็วของแสงที่อยู่รอบๆดาวเคราะห์โลกของพวกคุณก็กำลังเร่งเร็วขึ้นอยู่ด้วย

    อันที่จริงแล้วดาวเคราะห์โลกของพวกคุณกำลังสร้างตัวมันเองขึ้นมาใหม่อยู่
    แต่ว่าท่านคุรุทั้งหลาย มันไม่ใช่แค่จังหวะการกระพริบของห้วงกาลเวลาเท่านั้นหรอกนะที่กำลังเพิ่มเร็วขึ้นหนะ
    เพราะว่าอันที่จริงแล้ว ระดับความสั่นสะเทือนของมนุษย์โลกเองก็กำลังเพิ่มสูงขึ้นด้วย

    ที่รักทั้งหลาย อย่างที่พวกเราได้เคยบอกกับพวกคุณไปแล้วว่า
    ตอนนี้โลกของพวกคุณกำลังสร้างตัวมันเองขึ้นมาใหม่อยู่
    ในขณะที่แรงเฉื่อยของ “ลำดับกาลเวลา” ของวันนี้ ก็เร่งความเร็วขึ้นและผ่านพ้นไปเร็วกว่าของเมื่อวานนี้

    ในลำดับเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงแบบนี้ ด้วยเหตุนี้ ในปี 2011 และปี 2012 นี้
    การเดินทางของแสงก็จะถูกผลักดันให้เร่งความเร็วขึ้นต่อไป
    และจิตสำนึกของพวกคุณก็จะถูกกระตุ้นให้ตีความได้อย่างกระจ่างชัดเร็วขึ้นต่อไปด้วย

    ด้วยการถาโถมเข้ามาของพลังงานแบบนี้ก็จะทำให้กระบวนการรับรู้ความเป็นไปของชีวิตของพวกคุณเปลี่ยนแปลงไปด้วย
    ในแบบที่มีจังหวะที่เร็วขึ้น พวกคุณรู้ไหมว่า ความเร็วของแสงได้เพิ่มขึ้นแล้ว
    แม้ว่ามนุษย์อย่างพวกคุณ ซึ่งมีระดับความรู้ทางวิชาการ เท่าในปัจจุบันนี้
    จะไม่สามารถวัดค่ามันได้อย่างถูกต้องแม่นยำก็ตาม

    แต่เพราะด้วยเหตุนี้ พวกคุณหลายๆคนก็สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเร่งเร็วขึ้นอยู่ กาลเวลากำลังเร่งเร็วขึ้นอยู่
    ในขณะที่การเลื่อนระดับขึ้นก็กำลังใกล้เข้ามาแล้วด้วย
    ช่วงขณะใดๆของพวกคุณ ชั่วโมง และ วัน ของพวกคุณ ก็กำลังกระพริบเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

    และด้วยเหตุที่กาลเวลากำลังเปลี่ยนรูปแบบของตัวมันเองอยู่นี้
    ดังนั้นมันจึงจะไปเปลี่ยนรูปแบบของประสบการณ์ชีวิตของมนุษยชาติด้วย
    รวมถึงมันจะไปเปลี่ยนรูปแบบของพลังธรรมชาติทั้งที่มองเห็นและที่มองไม่เห็นด้วย
    และมันก็จะไปเปลี่ยนรูปแบบของโฉมหน้าของดาวเคราะห์โลกเองด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  10. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 8

    กาลเวลาที่เป็นเส้นตรงเป็นแนวคิดที่อยู่ภายใต้ความเป็นทวิภาวะ
    และเป็นนามธรรมที่จะแปรผันไปตามการขยายออกและการหดตัวของคุณสมบัติต่างๆ
    ของความเป็นทวิภาวะ-ความเป็นขั้วของมิติที่ 3 และของมิติแห่งคริสตัลไลน์ทั้งหลาย ซึ่งเริ่มต้นจากมิติที่ 5 เป็นต้นไป

    ดังนั้นเพื่อความชัดเจน พวกคุณจะต้องมีความเข้าใจซะก่อนว่า มิติทุกๆมิติที่อยู่สูงกว่ามิติที่ 3 ขึ้นไป
    โดยเริ่มต้นตั้งแต่มิติที่ 5 แต่ละมิติจะมีกฎทางฟิสิกส์เป็นของตัวมันเองโดยเฉพาะ
    และจะมีจังหวะของกาลเวลาเป็นของตัวมันเองโดยเฉพาะด้วย
    และ ณ ที่ระดับของมิติที่ 5 เป็นต้นไป แสงสว่างก็จะเริ่มกลายเป็นแสงสว่างที่อัดตัวกันแน่นในแบบคริสตัลไลน์
    และจะมีความเร็วและความถี่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆระดับชั้นของมิติที่เพิ่งสูงขึ้น
    และเมื่อถึงระดับหนึ่งแล้ว “กาลเวลาก็จะหายไป "

    ดังนั้น “กาลเวลา” อย่างที่มันกำลังถูกวัดค่าอยู่ในมิติที่ 3 นี้ จึงไม่สอดคล้องกับจังหวะการกระพริบจริงๆของกาลเวลาเลย
    อันที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องของฟิสิกส์ และเกี่ยวข้องกับความโค้งของช่องว่าง-กาลเวลา
    ที่จังหวะการกระพริบของกาลเวลาจะต้องขยายตัวหรือหดตัวด้วยอัตราส่วน
    ที่สอดคล้องสัมพันธ์กับควอนตัมของแสงที่มีอยู่ในเขตของอวกาศนั้นๆอย่างพอดิบพอดี

    ดังนั้น จังหวะการกระพริบของกาลเวลาจึงกำลังเพิ่มความเร็วขึ้นอยู่จริงๆ
    ในขณะที่ดาวเคราะห์โลกก็กำลังเปลี่ยนรูปร่างของมันเองใหม่อยู่ด้วย ภายใต้พลังงานแห่งการเลื่อนระดับขึ้นนี้

    เพราะฉะนั้นการเร่งเร็วขึ้นของจังหวะการกระพริบของกาลเวลาที่พวกคุณกำลังได้รับผลกระทบอยู่นี้
    จึงเกิดจากความเร็วแสงที่เพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่


    ดังนั้นพวกเราจะบอกพวกคุณว่า ถ้าแสงสว่างที่อัดตัวกันแน่นนี้มีควอนตัมมากขึ้น
    จังหวะการกระพริบของกาลเวลาก็จะเร่งเร็วขึ้นด้วย ทั้งแบบไปข้างหน้าและแบบถอยหลัง
    ตามการรับรู้กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงของพวกคุณ

    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกคุณหลายๆคนจึงรู้สึกว่าจำนวนชั่วโมงต่อวันจึงดูเหมือนน้อยลงกว่าเดิม
    และรู้สึกราวกับว่าตัวเองไม่สามารถทำงานจำนวนเท่าเดิมให้เสร็จทันได้ภายในเวลาเท่าเดิม
    ตามวิธีการวัดค่ากาลเวลาแบบเดิมได้ พวกเราจะบอกพวกคุณว่า
    ตอนนี้อัตราการกระพริบของกาลเวลาได้เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 25% แล้ว
    และความสามารถของพวกคุณในการปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้ ยังช้าอยู่
    จึงทำให้พวกคุณรู้สึกราวกับว่า กาลเวลากำลังผ่านไปอย่างรวดเร็ว
    เร็วกว่าที่เคยเป็นมาเมื่อเทียบกับสามทศวรรษที่แล้ว แต่มันก็เป็นความเข้าใจผิดที่พอจะเข้าใจได้

    ข้อเท็จจริงในอีกแง่มุมหนึ่ง การเร่งเร็วขึ้นของจังหวะการกระพริบของกาลเวลานี้
    จะไปช่วยลดความกว้างของวงสวิงของความเป็นทวิภาวะลง
    ซึ่งผลลัพธ์โดยรวมของมันก็คือ การมีประสบการณ์ที่อัดแน่นมากขึ้น
    ซึ่งหมายถึงประสบการณ์ ที่ความเป็นทวิภาวะ มีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น และผสานกลมกลืนกันอย่างไม่มีรอยต่อ
    และเพราะเหตุนี้ มันจึงจะเป็นประสบการณ์ที่ประณีตมากขึ้น และมีความหยาบน้อยลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  11. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 9


    โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลก กำลังทำการเปลี่ยนรูปแบบของแสงสว่างอยู่
    โดยอาศัยอนุกรมของช่องว่าง-กาลเวลาที่กำลังเร่งเร็วขึ้นนี้ อย่างที่มันกำลังเกิดขึ้นในมิติของพวกคุณอยู่ในขณะนี้
    และมันก็กำลังส่งผลกระทบต่อรูปกายทางกายภาพของดาวเคราะห์โลกอยู่จริงๆ
    ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษนี้ กำลังส่งผลให้แกนของโลกหมุนเร็วขึ้นอยู่
    ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของคลื่นความถี่ของแสง

    แกนคริสตัลของโลกกำลังหมุนเร็วขึ้น และอัตราสัดของการหมุนภายใน ต่อการเอียงของแกนโลกนี่แหละ
    ที่เป็นตัวกำหนดความเร็วในการเคลื่อนที่ของกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงบนโลกใบนี้จริงๆ

    แล้วมันเป็นการเหมาะสมที่จะกล่าวว่า นาฬิกาและมาตรวัดเวลาทั้งหลายที่มีอยู่บนโลกใบนี้
    จะไม่สามารถวัดค่าของกาลเวลาได้อย่างถูกต้องแม่นยำอีกต่อไปแล้ว
    เพราะว่าเครื่องมือเหล่านี้จะอาศัยการวัดค่าจากกระแสที่กระพริบอย่างเป็นจังหวะของอนุกรมของโลกแห่งความเป็นจริง
    ซึ่งต่างจากการรับรู้ของสมอง (ที่มีความถูกต้องแม่นยำมากกว่า – ผู้แปล)

    สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่พวกคุณรับรู้ได้ในโลกกายภาพของพวกคุณ ภายใต้กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้
    และ แง่มุมต่างๆของชีวิต ในแบบที่พวกคุณในฐานะมนุษย์โลกเข้าใจกันโดยทั่วไปนั้น
    ล้วนคือ มายาการที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีวัตถุประสงค์ทั้งสิ้น

    มายาการที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีวัตถุประสงค์นี้ จะถูกแปลความหมายและถอดรหัสโดยสมอง
    ซึ่งสมองก็จะทำหน้าที่แปลความหมายและถอดรหัสสัญญาณต่างๆ
    ที่ “จิต” (mind) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับสัญญาณเหล่านี้มาเป็นคนแรกส่งต่อไปให้
    และก็เช่นเคย ที่มันจะเป็นการแปรสัญญาณด้วย “ความเร็วแสง”

    มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่า สมองนั้นค่อนข้างแตกต่างจากจิต
    เพราะว่าสมองของมนุษย์นั้น คือส่วนที่เป็นวัตถุธาตุทางกายภาพของจิต
    สมองต้องอาศัยสสารและพื้นที่ทางกายภาพ ดังนั้นมันจึงแปรความหมายและดำรงอยู่ภายใต้กาลเวลา.. แต่จิตไม่ใช่

    จิตหรือจิตใจไม่กินพื้นที่ เพราะว่าแก่นแท้ของมันไม่มีการดำรงอยู่ภายใต้กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้
    โลกแห่งความเป็นจริงของจักรวาลภายใน ไม่จำเป็นต้องครอบครองพื้นที่ทางกายภาพใดๆเลย
    และรวมทั้งแก่นแท้ที่อยู่ภายในของมัน ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้ด้วย

    ในทางตรงกันข้าม โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพที่เป็นมายาการของพวกคุณต่างหากหละที่กินพื้นที่
    และมีตัวตนที่ดำรงอยู่ภายใต้กาลเวลาจริงๆ แต่มันก็ไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริงที่แท้จริง
    ที่เป็นที่สถิตของจิตวิญญาณและจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเองแต่อย่างใดเลย
    และการรับรู้ถึงมันก็ถูกกำหนดโดยพลังของเอกภพที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอยู่นี้ด้วย

    อย่างที่พวกเราได้บอกไปแล้วว่า
    กาลเวลาและช่องว่าง (time and space)
    ก็คือแง่มุมที่แตกต่างกันของกลไกเดียวกันนั่นเอง


    ดังนั้น ถ้าจะพูดอีกแบบหนึ่งก็จะได้ว่า
    “ช่องว่าง” (space) ก็คือ.. กาลเวลาที่อัดตัวกันแน่น และอยู่ในรูปแบบของแมตริกซ์ของพลังงานจลน์
    ที่อยู่ภายใต้ระบบทวิภาวะนี้ ซึ่งจะทำให้การแบ่งแยก และการโปรแกรมของแมตริกซ์ของกระแสแห่งกาลเวลา
    ซึ่งก็คือมายาการ ที่ถูกโปรแกรมขึ้นมาอย่างมีวัตถุประสงค์ สามารถเกิดขึ้นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  12. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 10

    ดังนั้น และภายใต้บริบทนี้ “กาลเวลาจึงเป็นส่วนผกผันของช่องว่าง” ที่มีการเคลื่อนที่แบบไหลอย่างเป็นอิสระและต่อเนื่องนั่นเอง
    แต่ทั้งช่องว่างและกาลเวลา ต่างก็เกิดขึ้นผ่านการกระพริบอย่างสอดคล้องกลมกลืนกันของ “หน่วยของจิตสำนึก” (consciousness unit)
    ผ่านทางกลไกการกระเพื่อมเข้าและออกอย่างเป็นจังหวะของสสารไปเป็นปฏิสสาร ที่ผ่านเข้า-ออกหลุมดำและหลุมขาวทั้งหลาย


    การกระพริบเข้าและออกอย่างเป็นจังหวะนี้ จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างสสารและปฏิสสาร
    ซึ่งสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ปฏิสสาร” (anti-matter) นั่นแหละ ที่เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของเอกภพหละ
    ซึ่งการกระพริบที่ว่านี้ไม่ใช่แค่เพียงเกิดขึ้นในจุดที่ช่องว่างและกาลเวลามาผสานรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันดุจโฟมเท่านั้นนะ
    แต่มันยังเป็นตัวกำหนดอัตราเร็วในการรับรู้ของ “หน่วยของจิตสำนึก” ด้วย
    ที่ดึงดูดความสนใจของความตระหนักรู้เข้าไปสู่แต่ละชาติภพซึ่งกำลังมีอยู่และเป็นอยู่พร้อมๆกันหมด

    การกระพริบเข้าและออกของสสารและปฏิสสารที่ว่านี้ จะเกิดขึ้นด้วยอัตราเร็วที่ไม่น่าเชื่อ
    แต่ก็เป็นอัตราเร็วที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า “ค่าคงที่ของพลังค์” (Planck Number)
    เพราะว่ามันเกิดขึ้นด้วยอัตราเร็ว 10 ยกกำลัง -43 ต่อวินาทีพอดีๆ
    ซึ่ง ณ จุดนี้ กาลเวลา และ ช่องว่าง จะผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
    และกลายเป็น ความไร้กาลเวลา (nonlinear) และจะเกิดคุณลักษณะของ Torus ขึ้น**
    ..........................................

    หมายเหตุ**
    1). ค่าคงที่ของพลังค์ (Planck Number) = 6.625 x 10 ยกกำลัง -34 Js นะครับ
    แต่ในข้อความนี้ ไม่รู้เป็นเพราะว่าเขาพิมพ์ผิด หรือเป็นเพราะว่าเขาใช้หน่วยต่างกันกันแน่
    จึงทำให้มันกลายเป็น -43 ไปได้ และอันที่จริงแล้ว ในข้อความนี้เขาก็ไม่ได้บอกหน่วยเอาไว้ให้ด้วย
    ดังนั้นผมจึงละหน่วยเอาไว้ ให้เหลือแต่ “ต่อวินาที” เท่านั้นด้วย – ชยุต

    2). Torus = ทอรัส หรือ โทรัส หรือ ทรงห่วงยาง คือผิวของการหมุนรอบชนิดหนึ่ง
    สร้างขึ้นจากการหมุนรูปวงกลมในปริภูมิสามมิติ รอบแกนเส้นตรงที่อยู่ในระนาบเดียวกันกับรูปวงกลม
    แต่ไม่ได้สัมผัสหรือตัดกับรูปวงกลม ตัวอย่างของวัตถุที่มีพื้นผิวอย่างทอรัส
    เช่น โดนัท และยางในของรถยนต์ (ห่วงยาง) ทรงตัน
    หรือที่ว่างซึ่งบรรจุอยู่ภายในพื้นผิวจะเรียกว่า ทอรอยด์ (toroid)

    รูปวงกลมที่หมุนรอบคอร์ด (เส้นตรงที่ตัดรูปวงกลม) อาจถูกเรียกว่าทอรัสในบางบริบท
    ซึ่งไม่ใช่การใช้งานโดยปกติในทางคณิตศาสตร์

    รูปร่างที่เกิดขึ้นจากรูปวงกลมที่หมุนรอบคอร์ดจะมีลักษณะคล้ายหมอนกลมที่บุ๋มตรงกลาง
    ซึ่งคำว่า torus ในภาษาละตินแปลว่าหมอนนั่นเอง

    ที่มา...http://th.wikipedia.org/wiki/ทอรัส_(เรขาคณิต)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 11


    ณ.จุดนี้ ช่องว่างจะเกิดการผกผัน โดยจะหมุนกลับเข้าหาตัวมันเอง
    และหน่วยของกาลเวลาทั้งหลาย ก็จะลอยอยู่อย่างไม่เป็นเส้นตรง
    และอย่างไม่ต่อเนื่องในบ่อแห่งควอนตัมของสิ่งที่พวกคุณเรียกกว่า อดีต, ปัจจุบัน และอนาคต

    ณ.จุดนี้ อาจจะพูดได้ว่า ห้วงกระแสของช่องว่างและกาลเวลาจะสูญสลายไป
    และจะกลายไปเป็นหน่วยของพลังงานที่มีความตระหนักรู้ ที่จะถูกเปลี่ยนรูปแบบให้กลายไปเป็นสสารและปฏิสสารต่อไป
    โดยที่พวกมันจะถูกดึงดูดเข้าไป แล้วถูกปล่อยออก อย่างเป็นจังหวะที่สอดคล้องกลมกลืนกัน จากหลุมดำและหลุมขาวตามลำดับ

    ทุกๆเวอร์ชั่นของ “โลกทั้งมวล” หรือ Omni-Earth จะดำรงอยู่ร่วมกันบนโปรแกรมเชิงเส้น (linear programming) ทั้งหมด
    แต่สัจพจน์แห่งความเป็นจริงในข้อนี้ อาจจะยากมากสำหรับมนุษย์อย่างพวกคุณที่จะรับรู้ ได้
    หรือที่จะทำความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ โดยอาศัยมุมมองจากมิติที่ 3 นี้


    นั่นเป็นเพราะว่า ความหนาแน่นทึบตันของร่างกายเนื้อของมนุษย์โลก ซึ่งเป็นผลผลิตของความเป็นทวิภาวะ ในมิติที่ 3 นี้
    จะปฏิบัติการอยู่ภายใต้และได้รับอิทธิพลจากโปรแกรมกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้
    ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้สามารถมีประสบการณ์บนระนาบแห่งโลกใบนี้ได้

    ดังนั้น พวกคุณจึงถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า
    จะต้องรับรู้ประสบการณ์ชีวิตบนระนาบแห่งโลกใบนี้ ในแบบที่เป็นเส้นตรงแบบนี้
    โปรแกรมการรับรู้แบบเป็นเส้นตรงนี้ มีส่วนอย่างมากในการกำหนดแพทเทิร์นของชนิดของประสบการณ์ที่สอดคล้องกัน
    บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ทั้งหลาย ที่เรียกว่าเป็นประสบการณ์แบบ “ปกติธรรมดา”
    ที่มนุษย์เป็นผู้เลือก, ฉายออกมา และรับรู้ ในขณะที่กำลังวิวัฒน์ไปสู่การมีระดับจิตสำนึกที่สูงขึ้น
    จากระดับจิตสำนึกที่ต่ำสุด เพราะอยู่ในโลกทางกายภาพที่หนาแน่นทึบตันนี้

    แต่พวกเราจะบอกพวกคุณว่า โลกแห่งความเป็นจริงต้นกำเนิด ที่ซึ่งทุกๆชาติภพอุบัติขึ้นนั้น ไม่ได้ถูก'จารึกไว้บนศิลา'
    ดังนั้นในความเป็นจริงแล้ว ประสบการณ์ชีวิตของพวกคุณ จึงไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแต่อย่างใดเลย
    เพราะว่า พวกคุณเป็นคนเลือกสรรประสบการณ์ที่พวกคุณต้องการจะมี มาจากกลุ่มของเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ทั้งหลาย
    ที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์นั้นๆ และเพราะว่าทั้งตัวเอกภพเอง และทุกสรรพชีวิต
    ที่อยู่ทั้งภายใน และภายนอกเอกภพนี้ทั้งหมด ล้วนกำลังถูกสร้างขึ้นมา ณ ปัจจุบันขณะนี้เสมอ

    และถึงแม้ว่า เงื่อนไขที่ถูกกำหนดเอาไว้ให้สำหรับพวกคุณในมิติที่ 3 นี้ จะคือการรับรู้แบบเป็นเส้นตรงก็ตาม
    แต่พวกคุณก็ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถที่จะหลุดพ้นจากโปรแกรมทางกายภาพนี้ไปได้เท่านั้น
    แต่พวกคุณยังตั้งเป้าหมายสูงสุดเอาไว้ ว่าจะต้องทำเช่นนั้นให้ได้อีกด้วย
    ในขณะที่อยู่ในจิตสำนึกแบบมนุษย์นี้ ร่างกายเนื้อทางกายภาพของพวกคุณ
    จะทำหน้าที่เป็นเป้าหมายๆหนึ่ง ให้พวกคุณจดจ่อประสบการณ์ทางโลกลงไปอย่างเข้มข้น กลุ่มของจิตสำนึกที่รวมตัวกันอยู่ ในทุกๆระดับ
    ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ จะจดจ่ออยู่กับเครือข่ายแห่งการรับรู้ความรู้สึกและเครือข่ายแห่งการสื่อสารที่กว้างใหญ่ไพศาลของมันเอง
    ทั้งในระดับปกติธรรมดา และในระดับพิเศษด้วย

    ซึ่งในกรณีหลังนี้ ก็จะทำให้พวกคุณมีการรับรู้อยู่ตลอดเวลา
    ในแบบที่พวกคุณจะไม่สามารถรับรู้ได้เลย ด้วยประสาทสัมผัสทางกายภาพแบบปกติธรรมดา

    เพราะว่ามันมีกลุ่มของ สี, เสียง, รหัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, และความรู้สึกทางประสาทสัมผัสต่างๆอยู่มากมาย
    ที่พวกคุณสามารถมองเห็น และรู้สึกได้ ทั้งในระดับเซลล์ และในระดับคริสตัลไลน์ (ในระดับทิพย์ – ผู้แปล)
    ของระบบเครือข่ายจักระของพวกคุณ ซึ่งสี,เสียง,รหัส
    และความรู้สึกต่างๆเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจาก “จิตสำนึกในระดับควอนตัม” (Quantum Consciousness)
    ซึ่งกำลังส่งอิทธิพลด้านรูปทรงเรขาคณิตและด้านคลื่นความถี่ต่อพวกคุณอยู่

    ระบบเครือข่ายจักระนี้ จะเชื่อมต่ออยู่กับระบบเครือข่ายอื่นๆทั้งหมด
    ที่เหมือนกันกับมัน ด้วยจังหวะการสั่นสะเทือนที่สอดประสานกลมกลืนกันพอดี


    แต่มนุษยชาติในช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่แล้ว ยังไม่สามารถตระหนักรู้ถึงการเชื่อมต่อในระดับที่ไม่ธรรมดานี้ได้
    ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างสเป็กตรัมทุกๆสเป็กตรัมของร่างกายเนื้อ
    ไม่ว่าจะเป็นสเป็กตรัมในระดับ คริสโต-อิเล็กโตรแมกเนติก (crysto-electromagnetically)
    หรือ สเป็กตรัมในระดับกายภาพของร่างกายเนื้อก็ตาม
    การเชื่อมต่อกันนี้เกิดขึ้นใน “กายแห่งแสงสว่างของ Crysto Mer-Ka-Na”
    และเป็นอะไรที่ยากเกินกว่าที่มนุษยชาติส่วนใหญ่จะตระหนักรู้ได้

    แต่ว่าเซลทั้งหลายในร่างกายเนื้อของมนุษย์ กลับสามารถตอบสนองซึ่งกันและกันได้และก็กำลังตอบสนองซึ่งกันและกันอยู่ด้วย
    และกิจกรรมการตอบสนองซึ่งกันและกันของพวกมันนี้ ก็จะไปกระตุ้นให้จิตสำนึกของศูนย์กลางของ “กายแห่งแสงสว่างคริสตัลลีน”
    ที่อยู่ระดับสูงกว่าขึ้นไป ที่เชื่อมต่อเข้ามาในกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้ และที่เชื่อมต่ออยู่เหนือกาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนี้
    หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ที่เชื่อมต่อเข้าไปในระบบหลากมิติ ให้เกิดการทำงานขึ้นมาได้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 12



    Comment to Metatron
    :

    มีแหล่งความรู้แหล่งหนึ่งกล่าวไว้ว่า
    พวกเราไม่เพียงแต่กำลังอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านจิตสำนึกครั้งสุดท้ายเท่านั้น (มันเคยมีมาก่อนหน้านี้ 8 ครั้งแล้ว)
    แต่มันยังเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านจิตสำนึกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย
    ของจิตสำนึกที่ได้ขับเคลื่อนวิวัฒนาการมานับหลายพันปีแล้ว และปฏิทินมายาก็สิ้นสุดลงในปี 2012 ด้วย
    และคลื่นจากกาแล็กซี่ระลอกสุดท้าย หรือ underwold ได้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 มีนาคม ปี 2011
    และจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงในวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2011 ณ วันที่ดังกล่าวนี้ คลื่นลูกที่ 9 (the ninth wave) ก็จะถูกกระตุ้นให้ทำงานขึ้น

    Question to Archangel Metatron:

    คลื่นลูกที่ 9 (the 9th wave) ก็คือคลื่นแห่งความเป็นหนึ่งเดียว (Unity wave) ใช่หรือไม่?
    ถ้าใช่ พวกเรากำลังถูกขอให้เริ่มต้นทำหน้าที่เป็นผู้สร้างร่วมจริงๆสำหรับจิตสำนึกอันเป็นเอกภาพอยู่ใช่หรือไม่ ?

    Archangel Metatron :
    สิ่งที่เรียกกันว่า “คลื่นระลอกที่ 9” (the 9th wave) ตามแนวคิดสมัยใหม่นั้น
    ด้วยตัวมันเองแล้ว มันมีความสามารถในการสร้างจิตสำนึกในการจดจ่อแบบกลุ่มที่มากพอ ขึ้นมาได้จริงๆ
    เพื่อไปกระตุ้นให้กระบวนการเร่งให้เร็วขึ้น ซึ่งในตอนนี้
    ในขณะที่กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นกำลังใกล้เข้ามาแล้วนี้ ก็กำลังเกิดการเร่งให้เร็วขึ้นอยู่แล้วนี้ มีความเร็วมากขึ้นไปอีก
    เพราะฉะนั้นแล้ว คลื่นระลอกที่ 9 นี้ จึงเป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นมา ตามคุณค่าและวัตถุประสงค์ที่พิเศษเฉพาะของมัน


    ในตอนนี้..
    สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่าคลื่นระลอกที่ 9 นั้น
    ในความเป็นจริงแล้ว
    มันคือทฤษฎีที่ถูกสร้างขึ้นมาตามแนวคิดและตามแบบแผนดั้งเดิม
    บนรากฐานของการตีความของผู้ที่มีระดับวิวัฒนาการสูงส่ง
    และเป็นนักทฤษฎีที่น่าทึ่งคนหนึ่ง
    ซึ่งพวกเราจะบอกว่า...
    สิ่งที่ถูกต้องตรงตามการตีความหมายของผู้เขียนท่านนี้ก็คือ
    ช่วงเวลาของการเกิดปรากฏการร์ทางโหราศาสตร์นี้
    ก็คือระหว่างวันที่ 9 มีนาคม ถึงวันที่ 28 ตุลาคม ปี 2011 จริงๆ


    อย่างไรก็ตาม แนวคิดและทฤษฎีเรื่อง 'คลื่นระลอกที่ 9' นี้ ก็เป็นการตีความของคนสมัยนี้เท่านั้น
    และมันก็ไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในปฏิทินมายาจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความถูกต้องหรือคุณค่าดั้งเดิมของมันลดลงไปเลย
    เพราะว่าอันที่จริงแล้ว มันมีคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงมากๆอยู่
    ดังนั้นจงเข้าใจไว้ด้วยว่า ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการตีความของคนร่วมสมัยก็ตาม
    แต่มันก็มีความสมเหตุสมผลอยู่ในนั้นด้วย

    แต่เพื่อเป็นการตอบคำถามของคุณ พวกเราจะบอกว่าคลื่นระลอกที่ 9 นี้ กำลังถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในขณะนี้
    และเพราะผลจากการมีความเชื่อและมีการจดจ่อร่วมกันของกลุ่มคนดังกล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น
    จึงจะทำให้มันเกิดขึ้นมาได้ด้วยความถูกต้องดีงาม


    แต่พวกคุณจะต้องเข้าใจให้ถูกต้องด้วยว่า
    โมเมตั้มของความสั่นสะเทือน
    ของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นเองต่างหากหละ
    ที่ทำให้พลังงานต่างๆเร่งเร็วขึ้น
    ซึ่งถ้าไม่มีต้นเหตุนี้แล้ว คลื่นระลอกที่ 9 นี้
    ก็จะไม่มีศักยภาพที่จะเกิดขึ้นได้
    ดังนั้น ต้นเหตุสำคัญที่ว่านี้ ก็คือ
    การกระตุ้นจนถึงจุดวิกฤติของแรงเฉื่อย และโมเมนตั้มเชิงบวก
    อันเกิดจากการเรียงตัวไปอยู่ในศูนย์กลางของสนามพลังงาน
    ของกาแล็กซี่ของดาวเคราะห์โลก

    เพราะเหตุนี้ นอกเหนือจากทฤษฎีเรื่อง “คลื่นระลอกที่ 9” ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านจิตสำนึกที่ว่านี้แล้ว
    จริงๆแล้ว มันยังมีอิทธิพลด้านโหราศาสตร์อื่นๆอยู่อีกมากมาย ซึ่งเดี๋ยวพวกเราจะกล่าวถึงต่อไป
    ที่มีบทบาทอย่างแท้จริงต่อกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น

    อันที่จริงแล้ว วันครีษมายัน (equinox), วันเหมายัน (Solstice)
    และวันที่มีการเกิดคราสทั้งหลายในปี 2011 และปี 2012
    คือแหล่งกำเนิดและเป็นต้นตออันทรงพลังอำนาจที่แท้จริง
    ที่จะให้พลังงานกับ “สนามพลังงานแห่งจิตสำนึกที่เป็นเอกภาพ” (the field of unity consciousness)
     
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ข้อความการสื่อสารจาก Archangle Metatron
    2012 - The Mayan Calendar & Time


    channeled by Tyberonn
    Friday, 17 June, 2011


    ตอนที่ 13


    การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอิทธิพลด้านต่างๆจำนวนมากมายก่ายกอง
    ที่กำลังทำให้เกิดการเร่งเร็วขึ้นของพลังงานของการเลื่อนระดับขึ้นอยู่นี้
    คือรากฐานที่สำคัญจริงๆสำหรับโอกาสที่จะมีระดับจิตสำนึกที่สูงขึ้น
    และปัจจัยหรืออิทธิพลเหล่านี้ ก็จะเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “คลื่นระลอกที่ 9” หรือไม่ก็ตาม

    แต่อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของแนวคิดเรื่องคลื่นระลอกที่ 9 นี้ ก็อย่างที่พวกเราได้บอกไปแล้วว่า
    มันก็มีคุณค่าอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้ว และมันก็สามารถที่จะทำให้โมเมนตั้มเพิ่มขึ้นได้
    และสามารถช่วยให้จิตสำนึกแบบเป็นเอกภาพสามารถเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว

    ถ้ามันมีผู้เข้าร่วมมากเพียงพอพวกเราอยากจะขอเพิ่มเติมให้อีกว่า มันจะมีแนวคิดที่สำคัญอื่นๆอีกมากมาย
    ที่จะถูกคิดขึ้นมา นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 21 ธันวาคม ปี 2012
    และทุกๆแนวความคิดดังกล่าวนี้ ก็จะมีที่ๆให้มันไปเกี่ยวข้องด้วยอย่างมากมาย
    ภายในกระบวนการสถาปนาด้านพลังงานที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

    ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเลือกที่จะเรียก แรงเฉื่อยที่ต่อเนื่องนี้ว่า “คลื่นระลอกที่ 9”
    หรือ “คลื่นระลอกที่ 10” หรือชื่ออื่นใดก็ตาม
    มันก็คือผลจากการตีความของแต่ละบุคคลจริงๆ และมันก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของปฏิทินมายาจริงๆ

    ดังนั้น เรื่องของคลื่นระลอกที่ 9 นี้จึงเป็นแค่การตีความซะมากกว่า
    และจากมุมมองอันนั้น มันก็มีคุณประโยชน์ในตัวของมันเองอยู่
    เพราะว่ามันสามารถดึงดูดวิถีการจดจ่อให้เข้ามาหามันได้
    และ เพราะเหตุนี้ มันจึงสามารถสร้างให้เกิดคลื่นแห่งความเป็นหนึ่งเดียวขึ้นมาได้
    ซึ่งนั่นแหละคือจุดประสงค์ที่เหมาะสมและน่ายกย่องของมันหละ


    ในทางธรณีคณิตศาสตร์ (geo-mathematical) แล้ว
    กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นกำลังเกิดขึ้นภายใต้ระบบเลขฐาน 12 อยู่
    ซึ่งชาวแอตแลนติสก็เคยใช้ระบบเลขฐาน 12 และระบบเลขฐานอื่นๆด้วย ขึ้นอยู่กับว่าใช้งานอยู่ในมิติไหน

    บางทีมันอาจจะถูกต้องมากกว่า ที่จะกล่าว่า การเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบคริสตัลไลน์
    ซึ่งเป็นแก่นแท้ของการเลื่อนระดับขึ้นในครั้งนี้ กำลังเกิดขึ้นอยู่ในคลื่นทั้ง 12
    ซึ่งก็คือจาก 01-01-01 ไปจนถึง 12-12-12 มันเป็นเลขฐาน 12 พวกคุณเห็นไหม

    การขยายตัวของโลกในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้จะมีอยู่ 12 มิติ และโครงข่ายคริสตัลไลน์ 144
    ก็กำลังถูกกระตุ้นด้วยขั้นตอน 12 ขั้นตอน โดยอาศัยปรากฎการณ์ของวันที่ๆเป็นเลขตองซึ่งเป็นประตูมิติ 12 ประตู
    จะเห็นว่าทั้งสองอย่างนี้ล้วนใช้ประโยชน์จากเลขฐาน 12 ด้วยกันทั้งคู่

    แผนการที่กำหนดให้มีคลื่นทั้ง 12 ซึ่งมาจากเลขฐาน 12 นี้ เป็นแผนการใช้คลื่นความถี่ที่มีความเหมาะสม
    กับการสั่นสะเทือนของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นดีแล้ว และมันก็ยังมีประตูมิติ 'Sun-Disc' หลักๆบนโลกอยู่ 12 ประตูอีกด้วย

    ซึ่งในแต่ละประตูทั้ง12 นี้
    จะมีเป้าหมายเฉพาะเป็นของใครของมัน
    และพวกมันก็กำลังได้รับรหัสคริสตัลไลน์ใหม่อยู่ด้วย
    ประตูมิติ Sun Disc ทั้ง 12 นี้
    แต่ละอัน จะทำหน้าที่เป็นดาวเทียม 12 แห่ง


    Note : ตรงจุดเรื่องดาวเทียมนี้ยังไม่ค่อยแน่ใจกับการตีความของพวกเรานัก
    คุณชยุตให้เดรดลองไปค้นเพิ่มเติมดู sun disc เป็นคล้ายๆโหนดพลังงาน
    ทำหน้าที่เป็นเหมือนportal เพราะฉะนั้นส่วนตัวจึงคิดว่า น่าจะเป็นทางเข้าออกของพลังงาน
    ทั้ง12ประตูจึงเหมือนจุดรับส่งพลังงานแบบโยงเป็นข่าย ทำหน้าที่คล้ายดาวเทียมยิงพลังงาน
    ที่เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่าย...ประมาณนี้


    .................................................

    ดังนั้นเมื่อเชื่อมต่อกันทั้ง 12 Sun Disc แล้ว ก็จะได้เครือข่ายด้านภูมิศาสตร์ที่มีความสมมาตรกัน 144 จุด
    ซึ่งนั่นก็เข้ากันได้กับเลขฐาน 12 ของโลกพอดีด้วย และ อันที่จริง
    มันก็คือโครงข่ายคริสตัลไลน์ 144 ที่ถูกสร้างขึ้นจากเลขฐาน 12 นั่นเอง


    ชาวมายันมีการใช้ระบบเลขฐาน 20 อยู่ ซึ่งเรื่อง “จิตสำนึกอันเป็นเอกภาพ” (Unity Consciousness) นี้
    ก็เป็นความมุ่งมาดปราถนาที่สูงส่งทีเดียว และก็มีความเหมาะสมอย่างยิ่งทีเดียว
    แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหรือว่าขึ้นอยุ่กับเรื่องคลื่นระลอกที่ 9 นี้จริงๆเลย
    ความหมายของ “เลข 9” ก็คือ การเสร็จสิ้นสมบูรณ์ หรือ การเปลี่ยนแปลง
    แต่ก็อีกนั่นแหละ นั่นคือความรู้ความเข้าใจที่ตั้งอยู่บนเลขฐาน 10 ไม่ใช่เลขฐาน 12


    ....................................................

    วันนี้จบแค่นี้นะคะ มาครึ่งทางแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  16. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    ขอบคุณ นะครับ:cool:
     
  17. ธรรมจิตต์

    ธรรมจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +419
    ขอบคุณครับคุณเดรด
     
  18. SBJ05

    SBJ05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +106
    ขอบคุณมากคะคุณเดรด พรุ่งนี้อ่านต่อ
     
  19. vajeemun

    vajeemun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +34
    เห็นตัวเลข 11.44 และ 144 บ่อยมาก..วันที่ 11.11 ยกนาฬิกาดูก็เห็นเวลา 11.11 คงมีสัมพันธ์กับข้อมูลเหล่านี้ ขอบคุณค่ะ..ตามอ่านอยู่นะค่ะ
     
  20. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    [​IMG]



    ขอบคุณฮ๊าฟฟฟฟฟฟฟ
     

แชร์หน้านี้

Loading...