ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

เห็นไหมหละ..พูดยังไม่ทันขาดคำเลย..
ท่านซาลูซ่าก็ออกมาพูดเหมือนกันอีกแล้ว
synchronicity อีกแล้วหรือเปล่าเนี่ย!

อ้างอิงโพสต์ที่ 6437...

...พวกคุณสามารถเริ่มได้แล้วในตอนนี้
เพื่อให้กลายเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเอง,
ด้วยการออกไป และด้วยการเป็นผู้มีรัก
และด้วยความสามารถในอันที่จะแสดงออกถึง
ความรู้สึกที่แท้จริงของพวกคุณเอง

เพราะว่ามันนานเกินไปแล้วที่พวกคุณถูกกักขังเอาไว้ด้วยความกลัว
เกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นอาจคิดต่อพวกคุณ,
มันนานเกินไปแล้วที่พวกคุณถึงกับลังเล
ที่จะแสดงออกถึงความรักตามธรรมชาติของตัวเองต่อผู้อื่น.

จงค้นหาความเป็นเด็กภายในหัวใจของพวกคุณเอง
ที่ไม่รู้จักความสงสัยและความระแวงระวัง,
มีแต่ความสุขที่ได้แบ่งปันแสงสว่าง
และความรักอย่างเป็นอิสระออกไปเท่านั้น

พวกคุณถูกหล่อหลอมให้อยู่แต่ในสิ่งที่พวกคุณคิดว่า "เป็นตัวเอง"
ด้วยวิธีการอบรมสั่งสอนที่เลือกเฟ้นมาบางอย่าง
ตลอดช่วงเวลาที่พวกคุณถูกเลี้ยงดูมา
พวกคุณกำลังจะมีอิสระภาพในการแบ่งปันความสุขในชีวิตของตัวเอง
ให้กับผู้อื่นทุกผู้ทุกนามแล้ว ซึ่งในอนาคต
จะไม่มีใครถูกโจมตีเพราะการแสดงออกซึ่งความรักเลย
และมันก็จะกลายเป็นวิธีที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติในการทักทายซึ่งกันและกัน
เพราะว่าพวกคุณทั้งหมด ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน...

...............................................

 

เมื่อเช้านี้ก่อนจะตื่นนอน มีเสียงผู้หญิงพูดอยู่ในหัว
ให้ได้ยินซ้ำๆอยู่หลายครั้งว่า "มิรันด้าๆๆๆ" (miranda)

ก็เลยลองค้นดู ก็เห็นจะมีก็แต่ ดวงจันทร์ดวงหนึ่ง
ของดาวยูเรนัส ที่ชื่อ Miranda นี่แหละครับ
ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับกระทู้แนวนอกโลกของเรา

ใครมีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับคำนี้บ้างหรือเปล่าครับ

 

<table width=100% height=400 bgcolor='#FC3702'><tr><td valign=middle><marquee scrollamount=2 direction=left></marquee></td></tr></table>

 

(ตอนต่อจากข้อความที่ 6431 หน้าที่ 322)

TRIP TO THE MOTHERSHIP PART XII

MYTRE AND KEPIER 5

By Suzanne Lie – November 25, 2012
http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/

NIGHTLY VISITS

My next day began very early, as I received a message to meet with the Arcturian as soon as I was able. The communication seemed important, so I instantly dressed and went for our meeting. We met, as usual, at the Holosuite, as it was such a great place to learn by doing. When I arrived, the Arcturian had the Nature Program running and was sitting by the waterfall inviting me to join it. My instructions began as soon as I sat down.

วันต่อมาของผมเริ่มต้นเร็วมาก, เมื่อผมได้รับข้อความให้ไปพบกับชาวอาร์คทูเรี่ยนในทันที. การติดต่อดูเหมือนมีความสำคัญ, ผมจึงแต่งตัวทันทีและออกไป. ปกติ พวกเราจะพบกันที่ชุดสามมิติ, เนื่องจากมันเป็นสถานที่ๆดีสำหรับการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ. เมื่อผมไปถึง, ชาวอาร์คทูเรี่ยนได้เปิดโปรแกรมธรรมชาติอยู่แล้ว และกำลังนั่งอยู่ข้างน้ำตกชวนผมเข้าไปนั่งด้วย. คำแนะนำสำหรับผมเริ่มขึ้นในทันทีที่ผมนั่งลง.

“Dear Mytre, in preparation for your communicating with many different peoples and civilizations, we wish to talk to you about expanding your telepathic abilities. You are doing wonderfully with your telepathic communication with us and with Kepier. However, when you are the only one who can communicate telepathically, it will be a more difficult task.

Mytre ที่รัก, จากการเปรียบเทียบการสื่อสารของคุณกับผู้คนต่างๆมากมายและหลายๆอารยะธรรม, พวกเราอยากจะพูดกับคุณเกี่ยวกับการขยายความสามารถทางโทรจิตของคุณ. คุณกำลังทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์กับการสื่อสารทางโทรจิตของคุณกับพวกเราและ Kepier. อย่างไรก็ตาม, เมื่อมีคุณอยู่เพียงคนเดียวที่สามารถสื่อสารทางโทรจิตได้, งานจะยากขึ้น.

“Therefore, we wish to go over some of what we have already taught you to lay a firm foundation for a more advanced discussion on inter-dimensional communication. All telepathy will not be inter-dimensional, but much of your ensuing communications will be with Beings of either a higher or lower frequency of resonance. We will begin our instruction by giving you more information regarding communing with your Heart/Mind.

ดังนั้น, พวกเราปรารถนาที่จะไปให้ข้ามพ้นสิ่งที่พวกเราได้สอนคุณไปแล้ว เพื่อวางพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับความก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องการสื่อสารระหว่างมิติ. โทรจิตทั้งหมดจะไม่เป็นแค่เพียงระหว่างมิติ, แต่การสื่อสารที่ตามมาส่วนมากของคุณจะเป็นกับรูปธรรมที่มีการสะท้อนทั้งความถี่สูงและความถี่ต่ำ. พวกเราจะเริ่มคำแนะนำด้วยการให้ข้อมูลคุณมากขึ้น เกี่ยวกับการสื่อสารกับหัวใจ/จิตใจของคุณ.

“We wish to tell you more about your Heart/Mind. Yes, Heart/Mind is a combination of your heart and mind, but it is much more. Actually, your Heart/Mind is your High Heart, which has the ability to receive all frequencies of light in any pattern. Hence, your High Heart can think; which is a process of translating light patterns into a form of language. Your High Heart can also love unconditionally because unconditional love is among the highest frequencies of light.

พวกเราอยากจะบอกคุณมากขึ้นเกี่ยวกับหัวใจ/จิตใจของคุณ. ใช่, หัวใจ/จิตใจเป็นการรวมกันของหัวใจและจิตใจของคุณ, แต่มันมีมากกว่านั้น. จริงๆแล้ว, หัวใจ/จิตใจของคุณก็คือหัวใจระดับสูงของคุณ, ซึ่งมีความสามารถในการรับข้อมูลทุกความถี่ของแสงสว่างในทุกรูปแบบ. ดังนั้น, หัวใจระดับสูงของคุณสามารถคิด; ซึ่งเป็นกระบวนการของการแปลรูปแบบของแสงสว่างเข้าสู่รูปแบบของภาษา. หัวใจระดับสูงของคุณสามารถรักได้อย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะว่าความรักที่ไม่มีเงื่อนไขอยู่ในระหว่างความถี่ระดับสูงสุดของแสงสว่าง.

“Your incarnations in the lower worlds have led you to the habit of believing that your thoughts and emotions are separate. This belief is false, as both thoughts and emotions are patterns of light that are interpreted in a different manner. Thoughts are interpreted by how the patterns of light interact with each other. Conversely, emotions are interpreted by how the patterns of light interact with whatever form you are wearing.

การมาเกิดหลายชาติของคุณในโลกระดับต่ำได้ชักชวนคุณสู่นิสัยของความเชื่อที่ว่า ความคิดและอารมณ์เป็นสิ่งที่แยกขาดจากกัน. ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ผิด, ซึ่งทั้งความคิดและอารมณ์เป็นรูปแบบของแสงสว่างที่ตีความในวิธีที่ต่างกัน. ความคิดถูกตีความโดยวิธีที่รูปแบบของแสงสว่างมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน. ในทางตรงข้าม, อารมณ์ถูกตีความโดยวิธีที่รูปแบบของแสงสว่างกับรูปใดๆที่คุณกำลังสวมใส่.

“If one is free of all form, there is truly no difference at all between thoughts and emotions; they are all patterns of light. Our resonance is the carrier wave for the light patterns we send. Hence, when we send patterns of light into your consciousness, we blend our resonance with yours.

ถ้าหากผู้ใดเป็นอิสระจากรูปทั้งปวง, จะไม่มีความแตกต่างอย่างแท้จริงทั้งสิ้นระหว่างความคิดและอารมณ์; พวกเขาจะเป็นรูปแบบทั้งหมดของแสงสว่าง. การสะท้อนของพวกเราเป็นคลื่นนำพารูปแบบแสงสว่างที่พวกเราส่งให้. ดังนั้น, เมื่อพวกเราส่งรูปแบบของแสงสว่างเข้าสู่ความตระหนักรู้ของคุณ, พวกเราผสมผสานการสะท้อนของพวกเรากับของคุณ.

“The merging of our energy fields, which is all the light patterns we are sending to you, enter your Pineal Gland, which shares the light patterns with your High Heart to be translated. The informational component is what you perceive as thoughts, whereas the imagistic component is what you receive as emotions. When you separate the thoughts from the emotions in that manner, you lose much of the information.


การรวมกันของสนามพลังของพวกเรา, ซึ่งเป็นรูปแบบของแสงสว่างทั้งหมดที่พวกเรากำลังส่งถึงคุณ, เข้าสู่ต่อมไพนีลของคุณ, ซึ่งแบ่งปันรูปแบบแสงสว่างกับหัวใจระดับสูงของคุณเพื่อทำการแปล. องค์ประกอบของข่าวสารก็คือสิ่งที่คุณรับในรูปของความคิด, ในขณะที่องค์ประกอบทางจินตภาพก็คือสิ่งที่คุณรับในรูปของอารมณ์. เมื่อคุณแยกความคิดออกจากอารมณ์ในหนทางนั้น, คุณสูญเสียข้อมูลเป็นจำนวนมาก.

“On the other hand, your Heart/Mind is able to maintain the interaction of thoughts and images to create a more expanded message. That is why we ask you to meditate and release fearful memories, as fear distorts our messages. The frequency of any form of fear restricts your band of reception, cutting off the high and low peaks of information.


ในอีกด้านหนึ่ง, หัวใจ/จิตใจของคุณสามารถประคับประคองปฏิสัมพันธ์ของความคิดและจินตภาพ เพื่อก่อให้เกิดการขยายออกของข้อความ. นั่นคือเหตุผลที่พวกเราขอให้คุณทำสมาธิและปลดปล่อยความทรงจำที่เต็มไปด้วยความกลัว, ซึ่งความกลัวได้บิดเบือนข้อความของพวกเรา. ความถี่ของรูปแบบใดๆของความกลัวจะจำกัดช่วงความถี่ของการรับรู้ของคุณ, มันตัดช่วงความถี่สูงสุดและช่วงความถี่ต่ำสุดของข้อมูลออกไป.

“For example, we may send you an image of a tree. However, if you have fear when you receive that image, the top of tree would be cut off, as well as the deep root systems. Hence, any information about the life force of the tree’s new growth or the health of its roots would not be transmitted.


ยกตัวอย่างเช่น, พวกเราอาจส่งจินตนาการของต้นไม่ให้แก่คุณ. ถ้าหากคุณมีความกลัวเมื่อคุณรับภาพนั้น, ส่วนยอดของต้นไม้อาจถูกตัดออกไป, เช่นเดียวกับระบบรากใต้พื้นดิน. ดังนั้น ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับพลังชีวิตของต้นไม่ที่เติบโตใหม่ หรือสุขภาพของรากของมันจะไม่ถูกส่งผ่าน.


“When you surrender into fearful emotions, rather than blocking or limiting them, you can perceive the emotion with your Heart/Mind. Your Heart/Mind can then garner all the information embedded within that emotion. Remember, emotions are merely a form of communication. Fearful emotions tell you that it is not safe to be receptive to incoming energy fields.


เมื่อคุณยอมอยู่ในอารมณ์ของความกลัว, มากกว่าที่จะป้องกันหรือจำกัดมัน, คุณสามารถรับรู้อารมณ์ด้วยหัวใจ/จิตใจของคุณ. หัวใจ/จิตใจของคุณจะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ฝังอยู่ภายในอารมณ์นั้น. จำไว้ว่า อารมณ์เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการสื่อสารเท่านั้น. อารมณ์ที่เต็มไปด้วยความกลัวจะบอกคุณว่า มันไม่ปลอดภัยในการรับสนามพลังที่กำลังเข้ามา.

“However, you do not want to limit your ability to receive full communications from your SELF because of events that are no longer in your life. These “past” emotional events remain as “scar tissue” in your receptive neural net. Therefore, even when there is a message filled with love, the scar tissue will distort the loving message.

อย่างไรก็ตาม, คุณไม่ต้องการจำกัดศักยภาพของตัวคุณเองในการรับการสื่อสารอย่างเต็มที่จากตัวตนของคุณ เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่มีในชีวิตของคุณอีกต่อไป. อารมณ์อันเป็นอดีตเหล่านี้ยังหลงเหลืออยู่ในลักษณะของแผลเป็นในระบบประสาทการรับรู้ของคุณ. ดังนั้น, แม้แต่ข้อความที่เต็มไปด้วยความรัก, แผลเป็นก็จะบิดเบือนข้อความแห่งความรักนี้.

“This distortion can cause you to misinterpret a loving emotion as a fearful emotion. For example, you have had many hardships in the past, which you still carry in your consciousness. It is vital that you release these memories, as well as the scar tissue that they have created.

การบิดเบือนนี้สามารถเป็นเหตุให้คุณแปลความหมายผิดๆเกี่ยวกับอารมณ์แห่งความรักว่าเป็นอารมณ์แห่งความกลัว. ยกตัวอย่างเช่น, คุณมีความยากลำบากมากมายในอดีต, ซึ่งคุณยังหอบหิ้วมันไว้ในความตระหนักรู้ของคุณ. มันมีความสำคัญที่คุณต้องปลดปล่อยความทรงจำเหล่านี้, เช่นเดียวกับ แผลเป็นที่คุณได้สร้างขึ้น.

“Since you are the creator of your reality, you have the ability to choose to release these old memories. Then call for your High Heart’s Thymus Gland to heal that area of your form, as well as your neural net. In this manner, fear from the past is released, and you are able to receive a broader frequency band of the messages that we send you.

เนื่องจากคุณคือผู้สร้างความเป็นจริงของคุณ, คุณมีศักยภาพที่จะเลือกที่จะปลดปล่อยความทรงจำเก่าๆเหล่านี้. จากนั้นร้องขอต่อหัวใจระดับสูงของคุณ ต่อมไธมัสเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ของร่างกายคุณ, เช่นเดียวกับโครงข่ายระบบประสาทของคุณ. ในหนทางนี้, ความกลัวจากอดีตจะถูกปลดปล่อย, และคุณจะสามารถรับช่วงความถี่ที่กว้างขึ้นของข้อความที่พวกเราส่งถึงคุณ.

“Also, you will be communicating with Galactics and Celestials who do not use any form of language other than telepathic projection. On the other hand, you will be communicating with ascending ones who have little or no experience with imagistic communication. Therefore you will be called upon to expand your communication skills to embrace both higher and lower frequencies of reality.

เช่นกัน, คุณจะสื่อสารกับแกแลกติกและชาวดวงดาวผู้ซึ่งไม่ใช้รูปแบบของภาษาใดๆมากกว่าการฉายออกมาทางโทรจิต. ในอีกด้านหนึ่ง, คุณจะสามารถสื่อสารกับผู้ที่กำลังยกระดับผู้มีประสบการณ์เล็กน้อยหรือไม่มีเลย ด้วยการสื่อสารทางจินตภาพ. ดังนั้นคุณจะได้รับการเรียกร้องให้ขยายทักษะการสื่อสารของคุณ เพื่อโอบรับทั้งความถี่สูงและความถี่ต่ำของความเป็นจริง.

“Your ability to remain confident and calm is important when you are assisting those who are unaccustomed to telepathic communication. Telepathic communication is received by matching your state of consciousness with the one with whom you are communicating. Hence, you may need to maintain higher or lower states of consciousness for longer than you are accustomed.

ศักยภาพในการรักษาไว้ซึ่งความมั่นใจและความสงบของคุณ มีความสำคัญเมื่อคุณกำลังช่วยเหลือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการสื่อสารทางโทรจิต. การสื่อสารทางโทรจิตจะรับด้วยการจับคู่สถานะของความตระหนักรู้ของคุณกับผู้ใดผู้หนึ่งที่คุณกำลังสื่อสาร. ดังนั้น, คุณอาจต้องการที่จะรักษาสถานะระดับสูงหรือระดับต่ำของความตระหนักรู้ ให้นานกว่าที่คุณคุ้นเคย.

“There are many who visit us in their dream state. We would like you to practice your telepathy skills with these visitors. This experience will assist you while you are also assisting them. Kepier will be joining you shortly. If you have any questions, please give us a telepathy call.”

มีคนมากมายมาเยือนพวกเราในสถานะของความฝันของพวกเขา. พวกเราอยากให้คุณฝึกฝนทักษะทางโทรจิตของคุณกับผู้มาเยือนเหล่านี้. ประสบการณ์นี้จะช่วยเหลือคุณในขณะที่คุณกำลังช่วยเหลือพวกเขาเช่นเดียวกัน. Kepier จะร่วมกับคุณเป็นเวลาสั้นๆ. ถ้าหากคุณมีข้อสงสัยใดๆ, กรุณาส่งโทรจิตมาหาพวกเรา.

The Arcturian instantly beamed away, as if it had something important to attend to and left me to turn off the hologram. After I did that, I went to the Mess Hall to get some breakfast before I began my new assignment. I was not surprised to see that Kepier was there with a cup of hot tea waiting for me.


ชาวอาร์คทูเรี่ยนหายไปในทันที, ราวกับว่าเขามีบางอย่างที่สำคัญต้องดูแลและจากผมไป โดยให้ผมเป็นผู้ปิดโปรแกรมสามมิติ. หลังจากผมปิดโปรแกรมแล้ว, ผมก็ไปที่โรงอาหารเพื่อทานอาหารเช้าก่อนที่ผมจะเริ่มทำงานที่ได้รับมอบหมายชิ้นใหม่. ผมไม่แปลกใจที่ได้เห็น Kepier อยู่ที่นั่นพร้อมกับชาร้อนถ้วยหนึ่งกำลังรอผมอยู่.

“I see you knew I was coming.” I said with a grin. “You were speaking with the Arcturian in the same moment that I was, weren’t you?”

“ผมเห็นคุณรู้ว่าผมกำลังมา”. ผมพูดพร้อมกับยิ้ม. “คุณพูดกับชาวอาร์คทูเรี่ยนในขณะเดียวกันกับผม, ใช่มั้ย?”


“Yes,” she replied. “Again, we are receiving a lesson via our experience. I think we are ready to participate in more than one reality at a time. What do you think?”

“ใช่”, เธอตอบ. “อีกครั้งที่พวกเราได้รับแบบฝึกหัดผ่านทางประสบการณ์ของพวกเรา. ฉันคิดว่าพวกเราพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการมีความเป็นจริงมากกว่าหนึ่งความเป็นจริงในเวลาเดียวกัน. คุณคิดว่ายังไง?”

“That does appear to be the lesson,” I agreed. “Do you think that we are meant to remain in this version of our SELF while we go into the fourth dimensional Astral Realm to assist the ones in dream state?”

“นั่นดูเหมือนจะเป็นแบบฝึกหัด”, ผมเห็นด้วย. “คุณคิดว่าพวกเราจะยังอยู่ในตัวตนรุ่นนี้ของพวกเรา ในขณะที่พวกเราเข้าไปสู่อาณาจักรมิติที่สี่เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในสถานะของความฝัน?”

“I was thinking the same thing. The visitors are experiencing the two realities of sleeping in their bed, as well as the one in which they are visiting the Ship. It would make sense that we should also live two realities.”

“ฉันก็คิดเหมือนกัน. เหล่าผู้มาเยือนกำลังมีประสบการณ์ของสองความเป็นจริงในขณะที่กำลังหลับอยู่บนที่นอนของพวกเขา, เช่นเดียวกับการมาเยือนยานของพวกเขา. มันก็มีเหตุผลที่พวกเราควรใช้ชีวิตสองความเป็นจริง”.

Kepier and I continued our discussion while we ate our breakfast, then we walked together to the Visitors Center. The visitors who came to us in dream state often came to the fourth dimensional counterpart of the Visitors Center. This Center resonated to a frequency lower than the Ship; hence, it was located in the Ship’s aura.


Kepier และผมพูดกันไปเรื่อยๆระหว่างที่พวกเรารับประทานอาหารเช้า, จากนั้นพวกเราก็เดินไปด้วยกันที่ศูนย์รวมผู้มาเยือน. เหล่าผู้มาเยือนมาสู่พวกเราในสถานะของความฝัน มักจะมาสู่ส่วนของมิติที่สี่ของศูนย์รวมผู้มาเยือน. ศูนย์รวมนี้สะท้อนกับความถี่ระดับต่ำกว่าระดับความถี่ของยาน, ดังนั้น, มันจึงตั้งอยู่ในออร่าของยาน.

The visitors came to this area until they learned how to expand their consciousness into the fifth dimension so that they could visit the actual body of the Ship. One of Kepier’s and my assignments would be to assist these visitors to release their attachment to their lower resonance and raise their consciousness into the fifth dimension. Once their consciousness resonated to that frequency, we could assist them to create a form in which they could visit the higher frequencies of the Ship.


เหล่าผู้มาเยือนมาสู่สถานที่นี้จนกว่าพวกเขาเรียนรู้วิธีที่จะขยายความตระหนักรู้ของพวกเขาเข้าสู่มิติที่ห้า เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเข้ามาเยือนตัวยานจริงๆ. หนึ่งในงานที่ได้รับมอบหมายชิ้นใหม่ของ Kepier และผมก็คือการช่วยเหลือเหล่าผู้มาเยือนให้ปลดปล่อยการยึดมั่นถือมั่นในการสะท้อนระดับต่ำของพวกเขา และยกระดับความตระหนักรู้ของพวกเขาเข้าสู่มิติที่ห้า. เมื่อความตระหนักรู้ของพวกเขาสะท้อนกับความถี่นั้น, พวกเราสามารถช่วยเหลือพวกเขาในการสร้างรูป ที่พวกเขาสามารถมาเยือนความถี่ที่สูงกว่าของยานได้.

This expansion of their consciousness was exactly like ascension. Therefore, they came not just to visit the Ship, but also to practice transferring their consciousness into a higher frequency container/body. Once they were wearing the fifth dimensional frequency form, they could perceive the Ship around them. Some visitors entered the Restoration Room, but that transition of consciousness was not the same as it was done via the Restoration Chair.

การขยายความตระหนักรู้นี้เหมือนกันมากกับการยกระดับ. ดังนั้น, พวกเขามาที่นี่ไม่เพียงแค่มาเยือนยาน, แต่ได้ฝึกฝนการย้ายความตระหนักรู้ของพวกเขาเข้าสู่ความถี่ระดับที่สูงกว่าของภาชนะ/ร่างกาย. เมื่อพวกเขาสวมใส่รูปของความถี่มิติที่ห้า, พวกเขาจะสามารถรับรู้ถึงยานรอบๆพวกเขา. ผู้มาเยือนบางคนเข้าสู่ห้องแห่งการฟื้นฟู, แต่การเปลี่ยนผ่านความตระหนักรู้นั้นไม่เหมือนกับที่ทำผ่านทางเก้าอี้แห่งการฟื้นฟู.

Meeting in the fourth dimension to learn how to raise their own resonance was a vital lesson for their process of ascension. It was also important to be able to raise their own resonance so that they could more clearly experience our Landings. The only correlation between “time” on the Ship and Earth time was that the Mothership could correlate to Earth Time. Therefore, we had no idea when these Landings would begin from the perspective if Earth time.


การประชุมในมิติที่สี่เพื่อเรียนรู้วิธีที่จะยกระดับการสะท้อนของพวกเขาเอง เป็นแบบฝึกหัดที่สำคัญสำหรับกระบวนการยกระดับของพวกเขา. มันมีความสำคัญเช่นกันที่จะสามารถยกระดับการสะท้อนของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถมีประสบการณ์ที่ชัดเจนในการลงจอดของพวกเรา. ความสัมพันธ์หนึ่งเดียวระหว่างเวลาบนยานและเวลาบนโลกก็คือ ยานแม่สามารถมีสัมพันธ์กับเวลาโลก. ดังนั้น, พวกเราไม่มีความเห็นว่าเมื่อใดที่การลงจอดเหล่านี้จะเริ่มขึ้น จากมุมมองของเวลาโลก.

In our perception of reality, we are already in contact with the higher expressions of many Earth Beings. It was up to those Beings to find a way to awaken their lower dimensional selves and their reality. We could easily perceive the Wave of Ascension Energy, and were assisting the ascending ones to sense it as well.

ในมุมมองความเป็นจริงของพวกเรา, พวกเราอยู่ในการติดต่อกับตัวตนที่สูงกว่าของชาวโลกเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว. มันขึ้นอยู่กับชาวโลกเหล่านั้นที่จะค้นหาหนทางที่จะปลุกตัวตนมิติระดับต่ำของพวกเขาและความเป็นจริงของพวกเขา. พวกเราสามารถรับรู้คลื่นพลังงานของการยกระดับได้อย่างง่ายดาย, และกำลังช่วยเหลือผู้ที่กำลังยกระดับให้รู้สึกถึงมันด้วยดี.

Of course, there are myriad possible realities, and many of the ascending ones will choose different ascension realities. Also, as the ascending ones remember how to simultaneously live more than one reality, they could have several experiences of ascension. Since Earth time was not out of sync with the NOW of the Ship, we were welcoming visitors from many different realities and timelines.

แน่นอน, มีความเป็นไปได้ของความเป็นจริงมากมายนับไม่ถ้วน, และผู้ที่กำลังยกระดับจำนวนมากจะเลือกความเป็นจริงของการยกระดับที่แตกต่างกัน. เช่นกัน, เมื่อผู้ยกระดับจดจำได้ถึงการมีชีวิตมากกว่าหนึ่งความเป็นจริงพร้อมๆกัน, เนื่องจากเวลาโลกไม่เคยออกจากจังหวะเดียวกันกับขณะนี้ของยานแม่, พวกเราต้อนรับผู้มาเยือนจากความเป็นจริงที่แตกต่างกันและเส้นเวลาที่แตกต่างกัน.

Kepier and I left the Mess Hall and beamed directly to the Visitors Center. We used our joint energy field to create a second reality in the Ship’s fourth dimensional aura, while we maintained our fifth dimensional expressions on the Ship’s fifth dimensional Visitors Center. Once we arrived, we went our own way in search of those in need of assistance.

Kepier และผมออกจากโรงอาหารและหายตัวตรงไปที่ศูนย์รวมผู้มาเยือน. พวกเราใช้สนามพลังงานร่วมของพวกเราเพื่อสร้างความเป็นจริงที่สองในออร่ามิติที่สี่ของยาน, ขณะที่พวกเรารักษาตัวตนมิติที่ห้าของพวกเราไว้ที่ศูนย์รวมผู้มาเยือนมิติที่ห้าของยาน. เมื่อพวกเรามาถึง, พวกเราเดินตามทางของพวกเราเพื่อค้นหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ.

As I walked through the somewhat ghostly forms of night bodies, I understood why the Arcturian had so completely briefed me about telepathy. As I telepathically projected that I was there to assist them, I realized that many of these sleeping forms were not ready for communication.

ขณะที่ผมเดินผ่านบางอย่างที่รูปแบบคล้ายผีของร่างกายเวลากลางคืน, ผมเข้าใจว่าทำไมชาวอาร์คทูเรี่ยนจึงบรรยายสรุปอย่างสมบูรณ์ให้แก่ผมเกี่ยวกับโทรจิต. เมื่อผมฉายโทรจิตที่ผมอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือพวกเขา, ผมตระหนักว่ารูปที่กำลังหลับเหล่านี้จำนวนมากไม่มีความพร้อมสำหรับการสื่อสาร.

However, there were a few who came toward me. Unlike the others, they seemed to be able to see me and realized that I might be able to help them. After a few of these “awake sleepers” gathered around me, more came into our circle, then even more. These visitors were primarily from Earth, and they came from every country, culture, age and social status.

อย่างไรก็ตาม, มีสองสามคนมาที่ผม. ไม่เหมือนกับคนอื่น, พวกเขาดูเหมือนสามารถมองเห็นผม และรู้ว่าผมอาจจะช่วยเหลือพวกเขาได้. หลังจากที่ผู้หลับที่ตื่นขึ้นจำนวนเล็กน้อยนี้เสาะหารอบๆผม, เมื่อเข้ามาใกล้สนามพลังของพวกเรามากขึ้น, จากนั้นก็มากขึ้นไปอีก. ผู้มาเยือนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากโลก, และพวกเขามาจากทุกประเทศ, วัฒนธรรม, อายุ และสถานะทางสังคม.

Of course, the children were the first to understand my telepathy, and they began to assist the adults. I could see that I would greatly enjoy this assignment. I had never met Earthlings before. That is, I could not remember meeting Earthlings. On the other hand, I was still not aware of many of my expressions of SELF.

แน่นอน, เด็กๆเป็นพวกแรกที่เข้าใจโทรจิตของผม, และพวกเขาเริ่มช่วยเหลือผู้ใหญ่. ผมสามารถเห็นว่าผมมีความสุขมากกับงานที่ได้รับมอบหมายนี้. ผมไม่เคยพบชาวโลกมาก่อน. นั่นคือ ผมไม่สามารถจดจำการพบกับชาวโลกได้. ในอีกด้านหนึ่ง, ผมยังคงไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนจำนวนมากของผม.

The Earthlings seemed eager to learn to be ready to change their world. However, I could not sufficiently answer the most asked question,
“Will I remember this meeting when I wake up?”

ชาวโลกดูเหมือนมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ เพื่อให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกของพวกเขา. อย่างไรก็ตาม, ผมไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะตอบคำถาม ที่ถามกันมากที่สุด, “ฉันจะจดจำการพบปะของพวกเราในครั้งนี้ได้หรือไม่ ตอนที่ฉันตื่นนอน?”

ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
(ตอนต่อไปข้อความที่ 6446 หน้าที่ 323)

 

พี่ๆครับผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบวงนี้ของเกาหลี เมื่อสองสามวันที่ผ่านมามีเพลงใหม่จากพวกเขาวงดงบังชินกิออกมา ก็ธรรมดาๆเฉยๆนะคับแต่พอผมไปให้พี่ๆเว็บแปลเนื้เพลงแปลแล้วก็ตะลึงนิดหน่อยใครแต่งเพลงนี้อะเนื้อหาออกแนว เข้าสู่โลกใหม่อะครับด้วยการร่วมมือของทุกคน
ลองอ่านดูครับอึ้งนิดๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเตือนผ่านเพลวรึป่าว



It’s Time. It’s Time. It’s Time. Here we go.
우릴 깨우는 걸까. Come On. TVXQ.
อูริล เกอึนนึน กอลกา Come On. TVXQ.
เราจะตื่นตัวกันได้หรือยัง?
Here we go, baby
답은 바뀌는 걸까. Come On. TVXQ.
บึน บักกวีนึน กอลกา Come On. TVXQ.
แล้วคำตอบละจะเปลี่ยนแปลงไปไหม?
태어나 처음 눈 뜰 때, 빛이 있고 내가 존재해
เตออนนา ชออึม นึน ตึล เต บิทชี อิทโก เนกา จอนเจเฮ
เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับแสงสว่างที่นำทางให้ชีวิตผม
내 손에 꽉 쥔 시간은 tick tock, 지금부턴 멈추지 않는다
เน ซอนเน กวัก จวิน ชีกันนึน tick tock, จีกึมบูทอน มอมชูจี อันนึนดา
ผมกำมือทั้งสองข้างแน่น นับจากนี้ไป จะต้องหยุดมันให้ได้

거짓에 갇혔던 공간 (간!) 진실이 없었던 순간 (간!)
กอทจิทเซ กัทยอทตอน กอนกัน กัน จินชีรี ออบซอทตอน ซุนกัน กัน
หลุดพ้นจากวังวนแห่งความตอหลดตอแหล ที่ๆไร้ซึ่งความจริงใจ
침묵 속에 빛을 갈망 (한) 이 세대는 기다려왔어 (어!) (너의 선택으로)
ชิมมึก โซเก บิทชึล กัลมังฮัน อี เซเดนึน กีดารยอวัทซอ อนเย ซอนเตกือโร ซอ
พอซะทีกับการต้องมานั่งรอความหวัง โดยไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ

* Cause we are humanoids (우릴 깨우는가, 답은 바뀌는가)
Cause we are humanoids (อูริล เกอึนนึนกา ดาบึน บักกวีนึนกา)
เพราะเราเป็นมนุษย์คนนึง (เราจะตื่นขึ้นมาได้หรือยัง? คำตอบในใจจะเปลี่ยนไปไหม?)
Yeah, we are humanoids (내가 만들어가, 나의 것이니까!)
Yeah, we are humanoids (เนกา มันดือรอกา นาเย กอทชินนิกกา!)
เราไม่ใช่ทาสใคร (ผมจะต้องทำให้ได้ เพราะนี่มันคือชีวิตผมเอง)

** 뒤틀려진 공간들을 지금 부숴
ดวิทตึลรยอจิน กอนกันดือรึล จีกึม บุทชวอ
ทำลายช่องว่างระหว่างกันให้หมด
It’s the future 파편 위에 우린 humanoids
It’s the future บับปยอน วีเอ อูริน humanoids
ในวันข้างหน้า พวกเราจะเป็นคนกำหนดทุกสิ่งเอง
너와 만들 유토피아로 넘쳐
นอวา มันดึล ยูโทเปียโร นอมชยอ
มันคืออาณาจักรที่คุณและผมร่วมกันสร้างขึ้น
It’s the future, 미랠 바꿀 우린 humanoids
It’s the future, มีเรล บักกึล อูริน humanoids
มนุษย์ชาติทั้งหลายจะร่วมเปลี่ยนแปลงอนาคตไปด้วยกัน

그들은 이미 완성했었어. 모든걸 감춘 그 시나리오
กึทดือรึน อีมี วันซองเฮทซอทซอ โมดึนกอล กัมชุน กือ ชีนารีโอ
พวกเขาทำเหมือนตัวเองดูดีไม่มีข้อบกพร่อง ทั้งที่จริงปกปิดทุกสิ่งเอาไว้ไม่ให้ใครรู้
세상이 내게 던지는 질문 이대로 정말 괜찮은건가?
เซซังงี เนเก ตอนจีนึน จิลมุน อีเดโร จองมัล กเวนชันฮึนกอนกา
โลกใบนี้ลอยแพผมด้วยคำถามที่ว่า "ทุกสิ่งมันก็ไปด้วยดีแล้วนี่จริงไหม?"
가면은 통하지 않는 (는) 틀림을 말할 수 있는 (는)
กัมมยอน ตงฮาจี อันนึน นึน ดึลรีมึล มัลฮัล ซู อินนึน นึน
มันจะต้องเป็นที่ๆ ไร้ซึ่งความหลอกลวง ที่ๆ คนผิดต้องถูกลงโทษ
내가 숨차면 쉴 수 있는 (는) Yeah, 바로 우리가 선택한 (한!) (그런 세상으로)
เนกา ซุมซัมมยอน ชวิล ซู อินนึน นึน Yeah, บาโร อูรีกา ซอกเตกคัน กือรอน เซซังกือโร คัน
ที่ๆ ผมหายใจได้โดยสะดวก เรามาเปลี่ยนโลกใบนี้กันเถอะ

Cause we are humanoids (우릴 깨우는가, 답은 바뀌는가)
Cause we are humanoids (อูริล เกอึนนึนกา ดาบึน บักกวีนึนกา)
เพราะเราเป็นมนุษย์คนนึง (เราจะตื่นขึ้นมาได้หรือยัง? คำตอบในใจจะเปลี่ยนไปไหม?)
Yeah, we are humanoids (앞으로 가는가 태어났으므로!)
Yeah, we are humanoids (อาพือโร กันนึนกา เตอนนัทซึมมือโร)
เราไม่ใช่ทาสใคร (แม้คุณจะตายแล้วเกิดใหม่ ก็จงก้าวเดินไปข้างหน้า)

진실 없는 현실들은 지금 고쳐
จินชิล ออมนึน ฮยอนชิลดือรึน จีกึม กอทชยอ
ปรับเปลี่ยนชีวิตที่ไม่เคยรับความจริงเลยซะใหม่
It’s the future 태양 위에 우린 humanoids
It’s the future แทยัง วีเอ อูริน humanoids
วันข้างหน้า พวกเราทุกคนจะต้องขึ้นไปยืนอยู่บนความสำเร็จ
미랠 가린 그림자는 지금 지워
มีเรล การิน กือริมจานึน จีกึม จีวอ
ลบล้างเงาดำทะมึนที่เป็นเหลือไรมาคอยขวางกั้นซะ
It’s the future, 역사를 쓸 우린 humanoids
It’s the future, ยกซารึล ซึล อูริน humanoids
มุ่งสู่อนาคตที่จะถูกสร้างขึ้นด้วยมือของเราเอง
뒤엉켰었던 혼돈 속에서 우린 답을 찾았어
ดวีอนกยอทซอทตอน ฮนดน โซเกทซอ อูริน ดาบึล ซาจัทซอ
เราจะได้พบคำตอบ แม้จะอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
너의 선택이 만든 이 미래 이제 날아올라가
นอเย ซอนเดกี มันดึน อี มีเร อีเจ นาราอลลาโก
คุณคือผู้ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง

(EVERYBODY MAKES SOME NOISE)

* Cause we are humanoids (우릴 깨우는가, 답은 바뀌는가)
Cause we are humanoids (อูริล เกอึนนึนกา ดาบึน บักกวีนึนกา)
เพราะเราเป็นมนุษย์คนนึง (เราจะตื่นขึ้นมาได้หรือยัง? คำตอบในใจจะเปลี่ยนไปไหม?)
Yeah, we are humanoids (내가 만들어가, 나의 것이니까!)
Yeah, we are humanoids (เนกา มันดือรอกา นาเย กอทชินนิกกา!)
เราไม่ใช่ทาสใคร (ผมจะต้องทำให้ได้ เพราะนี่มันคือชีวิตผมเอง)

** 뒤틀려진 공간들을 지금 부숴
ดวิทตึลรยอจิน กอนกันดือรึล จีกึม บุทชวอ
ทำลายช่องว่างระหว่างกันให้หมด
It’s the future 파편 위에 우린 humanoids
It’s the future บับปยอน วีเอ อูริน humanoids
ในวันข้างหน้า พวกเราจะเป็นคนกำหนดทุกสิ่งเอง
너와 만들 유토피아로 넘쳐
นอวา มันดึล ยูโทเปียโร นอมชยอ
มันคืออาณาจักรที่คุณและผมร่วมกันสร้างขึ้น
It’s the future, 미랠 바꿀 우린 humanoids
It’s the future, มีเรล บักกึล อูริน humanoids
มนุษย์ชาติทั้งหลายจะร่วมเปลี่ยนแปลงอนาคตไปด้วยกัน

 

บทความในหนังสือของ ดร.ไบรอันแอลไวส์ค่ะ
ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในกระทู้นี้หรือปล่าว
อย่างไรแล้วกรุณาทักท้วงด้วยนะค่ะ
.................................................................................
…..แทนที่จะก้าวข้ามไปสู่อนาคตในอีกสองสามปีข้างหน้า
เธอไปไกลถึงหนึ่งพันสองร้อยปี!!!
ปกติเมื่อผู้คนก้าวข้ามไปสู่อนาคตอันไหลโพ้น
พวกเขามักไม่แน่ใจว่ามันเป็นปีใด
แต่คริสตินาแน่ใจว่ามันเป็นปี 3200

.........โลกเขียวมาก...เขียวมากกว่าและอุดมสมบูรณ์กว่าตอนนี้มาก
ป่าเขียวชอุ่ม ทุ่งหญ้าเต็มไปด้วยดอกไม้
แต่ที่ตลกคือไม่มีสัตว์ ทำไมล่ะ เมื่อมีอาหารมากมายให้พวกมันกิน?
มีผู้คนไม่มาก พวกเขาสามารถติดต่อสื่อสารกับกันและกัน
ด้วยโทรจิตและร่างกายของพวกเขา ซึ่งหนาแน่นน้อยกว่าของเรา
เปี่ยมด้วยแสงสว่าง พวกเขาอยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆ
ไม่ได้อยู่ในเมือง แต่อยู่ในบ้านที่น่ารักซึ่งทำด้วยไม้หรือหิน
ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นชาวนา ฉันสามารถมองเห็นของเหลว
หรือแสงเหลวไหลเข้าสู่ต้นไม้ บางครั้งของเหลวไหลเข้าสู่ตัวผู้คน
ผู้คนมีความเป็นจิตวิญญาณสูงมาก ฉันมองไม่เห็นความเจ็บไข้ได้ป่วย
ความโกรธจริงๆ ความรุนแรง หรือสงครามใดๆทั้งสิ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างมีคุณสมบัติกึ่งโปร่งแสง แสงสว่างที่แผ่ซ่านซึ่ง
เชื่อมโยงทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่างเข้าด้วยกันในสันติสุข....

Same Soul,Many Bodies….

 

สวัสดีค่ะทุกท่าน :d
สุดสัปดาห์นี้ถ้าหากใครว่าง มีหนังที่เพิ่งเข้าอยากจะแนะนำมากๆ ค่ะ
หนังที่ว่านี้คือเรื่อง Cloud Atlas เป็นหนังที่เนื้อเรื่องการันตีว่าไม่แพ้ Inception แน่นอน
เพราะเบสมาจากนิยายดังของ David Mitchell ที่ถึงจะไม่ค่อยมีคนไทยรู้จัก
แต่แนวคิดของเรื่องนั้นเป็นอะไรที่พวกเราคงคุ้นเคยกันดี นั่นคือแนวคิดที่ว่า
EVERYTHING IS CONNECTED



หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับหนังฟอร์มยักษ์หนึ่งในหนังที่ทำเงินมากที่สุดของยุคอย่าง The Matrix
นั่นก็คือสองพี่น้อง Wachowski กับอีกหนึ่งผู้กำกับคือ Tom Tykwer
โดยที่ในงานสัมภาษณ์ Lana Wachowski หนึ่งในผู้กำกับ
ได้ให้สัมภาษณ์ว่าที่เธอตัดสินใจทำหนังเรื่องนี้ เป็นเพราะจักรวาลได้บอกเธอมาว่าเธอควรจะทำ
(Lana หรือเมื่อก่อนแปลงเพศเป็นที่รู้จักกันในนาม Larry Wachowski
เราเจอบทสัมภาษณ์นี้จาก Facebook ของ Galactic Channelings
ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ถึงช่วงเวลาที่เธอคิดจะฆ่าตัวตายและทำไมเธอถึงไม่ได้ทำใว้ในบทสัมภาษณ์เดียวกันด้วย
เราเชื่อว่าบางทีเธออาจจะเป็น Starseed ค่ะ ดูจากชีวิตที่น่าเศร้า ผลงานภาพยนต์
และความสนใจที่ดูเหมือนจะสนใจในเรื่องพวกนี้เป็นพิเศษ ดูอย่างผลงานต่อจากหนังเรื่องนี้
เธอวางแผนกำกับหนังอีกเรื่องคือ Jupiter Ascending
อ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่>>Lana Wachowski Reveals Suicide Plan, Painful Past in Emotional Speech (Exclusive Video) )

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวไซไฟและดราม่าซับซ้อนที่เล่าถึงการที่
ทุกชีวิตในโลกเกี่ยวข้องกันหมด และการกระทำของคน ๆ หนึ่งจะกระทบชีวิตของคนรอบข้างได้เสมอ
ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านเนื้อเรื่องของตัวละครหลายบทบาทที่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน
โดยได้นักแสดงดังชั้นแนวหน้าอย่าง Tom Hanks, Halle Berry, Jim Broadbent,
Hugo Weaving, Jim Sturgess และ Hugh Grant มาร่วมแสดงบทบาท

[VDO]<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/hWnAqFyaQ5s?version=3&amp;hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/hWnAqFyaQ5s?version=3&amp;hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>[/VDO]


เป็นหนังที่อยากให้ทุกคนได้ดูกันค่ะเพราะหนังไซไฟที่เอฟเฟ็ค เทคนิค และภาพสวยขนาดนี้
เหมาะที่จะดูในโรงมากๆ ไม่ต้องพูดถึงแนวคิดและเนื้อเรื่องที่ดูแค่ตัวอย่างหนัง
ก็รู้แล้วว่าคุณภาพจัดและเป็นคงจะเป็น epic และ master piece ของยุค
สามารถอ่านรายละเอียดหนังเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ>>ข้อมูลภาพยนตร์เรื่อง Cloud Atlas

เริ่มฉายไปแล้วเมื่อวานนี้ ถ้าใครว่างๆ ก็ลองไปดูกันนะคะ เราคิดว่าต้องไม่ผิดหวังแน่นอน
แต่เราอกหักไปแล้วเนื่องจากไม่เข้าโรงในจังหวัดที่เราอยู่
เศร้ามากๆค่ะ เพราะรอดูมาตั้งแต่ได้ข่าวหนังเรื่องนี้เมื่อตอนต้นปีแล้ว
วันนี้ก็เลยดู Rise of the Guardians แทน เป็นแอนนิเมชั่นที่เยี่ยมมากๆ อีกเหมือนกัน
เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน ความหวัง และเสียงหัวเราะ
ช่วยยกระดับจิตใจได้ดีมากๆค่ะ

 

ผมนั่งมอง2ภาพนี้นานพอสมควร ดูแล้วอมยิ้มเลยล่ะครับ...เป็นกำลังใจให้คุณชยุตด้วยล่ะกัน (พลังงานเก่า มันมีพลังมากมายมหาศาลทีเดียว ผมคนนึงล่ะที่กำลังห้ำหั่นกับมันอยู่ และมั่นใจว่าต้องชนะด้วยครับ แพ้ไม่ได้เด็ดขาด..อิๆ)

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation

ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey
ที่มา : Galactic Channelings - English

SaLuSa, November 30, 2012

You are about to enter the final stretch of your journey, and very soon to experience a great increase in your levels of consciousness. Most people would agree that this year has passed quicker than any time previously, and after Ascension it will be even faster. We would like to confirm again that progress is also speeding up where the many needed changes are concerned, and you will not miss out on anything that you expected. The timing has never been that critical, and for obvious reasons we look at the period immediately following Ascension. It is a time where our work and that of our allies will not be hampered by outside influences, and we can be more open about it.

คุณกำลังเข้าสู่ด่านสุดท้ายของการเดินทางของคุณ, และในไม่ช้าจะได้มีประสบการณ์ของการเพิ่มขึ้นอย่างมากของระดับความตระหนักรู้ของคุณ. คนส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่าปีนี้ผ่านไปเร็วกว่าเวลาที่ผ่านมา, และหลังจากยกระดับมันจะเร็วขึ้นไปอีก. พวกเราขอยืนยันอีกครั้งว่าความก้าวหน้าจะเร็วขึ้นเช่นกัน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่างๆ, และคุณจะไม่พลาดสิ่งใดๆที่คุณคาดหวัง. ระยะเวลาไม่เคยวิกฤติ, และเพื่อความชัดเจนพวกเรามองไปที่ช่วงเวลาทันทีทันใดหลังการยกระดับ. มันเป็นเวลาที่งานของพวกเราและพันธมิตรของพวกเราจะไม่ถูกขัดขวางจากอิทธิพลภายนอก, และพวกเราสามารถเปิดเผยเกี่ยวกับมันได้มากขึ้น.

After Ascension you will soon forget the past difficulties and delays, as there will be so much to interest you. Learning about your life in the higher vibrations will be exciting and uplifting, and joy and freedom will draw people together as true Brothers and Sisters. It is your natural inclination to share your love with others, but you have been taught that many countries and their people are your enemies. The fact is that the majority would live in peace if only there were no barriers erected between them. As trust is restored so you will see a great change take place in peoples attitude to each other. Sharing and love for what each other represents, will become the new level at which other cultures will be accepted.

หลังจากยกระดับคุณจะลืมความยุ่งยากและความล่าช้าในอดีตในไม่ช้า, ซึ่งจะมีมากมายที่ให้ประโยชน์กับคุณ. เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของคุณในความถี่ระดับสูงจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและยกระดับ, ความสุขและอิสรภาพจะดึงผู้คนไปด้วยกันในฐานะพี่น้องที่แท้จริง. มันเป็นแนวโน้มตามธรรมชาติที่จะแบ่งปันความรักของคุณกับผู้อื่น, แต่คุณถูกสอนมาว่าหลายๆประเทศและประชาชนของเขาเป็นศัตรูของคุณ. ความจริงก็คือส่วนใหญ่ควรมีชีวิตในความสันติสุข ถ้าหากไม่มีอุปสรรคถูกสร้างขึ้นระหว่างพวกเขา. เมื่อความเชื่อใจจะกลับคืนมา คุณจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในทัศนคติประชาชนแต่ละคน. การแบ่งปันและความรักสำหรับสิ่งที่แสดงออกซึ่งกันและกัน, จะกลายเป็นระดับใหม่ซึ่งอารยะธรรมอื่นๆจะได้รับการยอมรับ.

Understand that the changes we speak about, are simply the first of many that will transform your different societies. They are a stepping stone to further your advancement towards not just becoming a Galactic Being, but part of a Galactic Civilization. So even the present changes that are in hand will be short lived, because you are destined to leave the last aspects of a 3D civilization behind. However, rather than leave you confused or bewildered by moving too quickly, we do it in way that will enable you to be fully prepared. Even we are not sure what changes will come first but we do know that when they commence, as you might say, they will become fast and furious. The point is Dear Ones, that we are ready to go speeding ahead as soon as we are given the signal.

ให้เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่พวกเราพูดถึง, เป็นเรื่องปกติเรื่องแรกที่เป็นหนึ่งในหลายๆเรื่องที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมที่แตกต่างของคุณ. มันเป็นก้าวย่างที่มั่นคงไปสู่ความก้าวหน้าของคุณยิ่งขึ้น ไปสู่ไม่เพียงการกลายเป็นรูปธรรมแกแลกติก, แต่จะเป็นส่วนหนึ่งของอารยะธรรมแกแลกติกด้วย. ดังนั้นแม้แต่การเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ที่ดำเนินการอยู่ก็จะเป็นเวลาสั้นๆ, เพราะว่าคุณมีชะตาชีวิตที่ทอดทิ้งแง่มุมสุดท้ายของอารยะธรรมมิติที่สามไว้เบื้องหลัง. อย่างไรก็ตาม, แทนที่จะทิ้งคุณให้สับสนหรือหัวหมุนด้วยการเดินทางที่เร็วเกินไป, พวกเราทำมันในหนทางที่ให้คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างเต็มที่. แม้ว่าพวกเราไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงใดจะมาเป็นอันดับแรก แต่พวกเรารู้ว่าเมื่อมันเริ่มขึ้น, คุณอาจพูดได้ว่า, มันจะรวดเร็วและรุนแรง. ที่รักทั้งหลาย ประเด็นอยู่ที่, พวกเราพร้อมที่จะไปด้วยความเร็วมากกว่านี้ทันทีที่พวกเราได้รับสัญญาณ.

At present it is not so much that the dark Ones are a problem, but the size of the tasks that have been undertaken require a lot of co-ordination. Much of the plans are now in place, and to do much of it in secrecy to protect those involved has been demanding. Fortunately there are now so many Lightworkers continuing to uplift the energies, they are preventing the dark Ones from having any real impact. Their days are over to all intents and purposes, but even individuals can be troublemakers. We simply keep on reminding you the need to keep focused on Ascension, and sending your Light to any point in the world that is not at peace. Of course it can also be directed at any individual, for example one who talks against the Ascension process to distract them.

ในตอนนี้ปัญหาของฝ่ายมืดไม่ได้มีอะไรมาก, แต่ขนาดของงานที่ต้องใช้ผู้ร่วมงานจำนวนมาก. แผนจำนวนมากเข้าที่แล้วในขณะนี้, และส่วนมากต้องทำเป็นความลับเพื่อจำเป็นต้องปกป้องเหล่าผู้ที่เกี่ยวข้อง. โชคดีที่ขณะนี้มีไลท์เวิร์คเกอร์จำนวนมากยกระดับพลังงานของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง, พวกเขาป้องกันฝ่ายมืดจากผลกระทบจริงๆ. วันของพวกเขาจบลงแล้วสำหรับความมุ่งหมายและเป้าหมาย, แต่สมาชิกแต่ละคนยังสามารถสร้างปัญหาได้. พวกเราขอย้ำเตือนคุณในความจำเป็นที่ต้องรักษาความใส่ใจอยู่ที่การยกระดับ, และส่งแสงสว่างของคุณไปสู่จุดใดๆในโลกที่ยังไม่สงบ. แน่นอนมันจะตรงไปสู่คนแต่ละคนเช่นกัน, ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่พูดต่อต้านกระบวนการยกระดับเพื่อทำให้ผู้อื่นไขว้เขว.

Stay positive as you are almost at the portal that allows you to step into to 5th. dimension. You will feel the change in vibration, and it will be a most uplifting experience. Imagine never having to feel those heavy lifeless energies again, that are cold and uninviting. You will be surprised at what a vast difference there is, which is why people that have already experienced it never want to leave the higher levels. It is your more natural state of being but you have been pulled down by the lower vibrations, and it has been a hard challenge to find your way back. However, with great perseverance and determination you have found the Light again, and it will continue to grow and carry you through many dimensions.

อยู่ในพลังงานบวกที่คุณเกือบจะอยู่ที่ประตูที่อนุญาตให้คุณก้าวไปสู่มิติที่ห้า. คุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในความถี่, และส่วนใหญ่มันจะเป็นประสบการณ์การยกระดับ. จินตนาการถึงการไม่รู้สึกถึงพลังงานหนักที่ไร้ชีวิตชีวาอีกต่อไป, มันหนาวเย็นและไม่ดึงดูด. คุณจะถูกทำให้ประหลาดใจในความแตกต่างอย่างมาก, ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำไมคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้วไม่ต้องการออกจากระดับสูง. มันจะเป็นสถานะของชีวิตปกติของคุณมากขึ้น แต่คุณถูกดึงให้ตกต่ำโดยความถี่ระดับต่ำ, และมันเป็นความท้าทายที่ยากที่จะหาทางกลับ. อย่างไรก็ตาม, ด้วยความเพียรและความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ คุณได้ค้นพบแสงสว่างอีกครั้ง, และมันจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและนำคุณผ่านมิติมากมาย.

As you must know by now, love is all there is and it is what everything is created of and may be changed in form, but cannot be destroyed. It is the most powerful force in the Universe, and it is what you must learn to control and use wisely. God is that power and has shown how it can be used in the most gentle and beneficial way, and that is what you are also experiencing and learning to do. Understand that when we say you are Gods, you have the full potential to be one which tells you that you have unlimited power. Once you ascend your powers of creation will commence to be returned, and you will become co-creators with God. So do not underestimate your abilities and go forth with confidence, as it is you who are setting the scene for your time in the higher dimensions.

อย่างที่คุณรู้ในขณะนี้, ความรักคือทุกสิ่งทุกอย่าง และมันสร้างทุกๆสิ่ง และอาจเปลี่ยนรูปได้, แต่ไม่สามารถทำลายได้. มันเป็นพลังที่ทรงอำนาจที่สุดในจักรวาล, และมันเป็นสิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมและใช้อย่างฉลาด. พระเจ้าคือพลังงานนั้นและได้แสดงให้เห็นวิธีใช้ในหนทางที่สุภาพและกรุณาที่สุด, และนั่นคือสิ่งที่คุณจะได้มีประสบการณ์และเรียนรู้ด้วยเช่นกัน. ให้เข้าใจว่าเมื่อพวกเราพูดว่าคุณคือพระเจ้า, คุณมีศักยภาพอย่างเต็มที่ที่จะเป็นอย่างที่พวกเราพูด ซึ่งคุณมีพลังอำนาจไม่จำกัด. เมื่อคุณยกระดับพลังอำนาจการสร้างสรรค์ของคุณจะเริ่มหวนกลับมา, และคุณจะกลายเป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า. ดังนั้นอย่าประเมินความสามารถของตัวคุณเองต่ำเกินไปและเดินไปด้วยความมั่นใจ, มันเป็นคุณที่สร้างเรื่องราวสำหรับเวลาของคุณในมิติระดับสูง.

Even now some of you have developed powerful healing abilities, and it is belief in yourself that enables you to do so. Most of you do it subconsciously and do not even realize what you have done. When you do realize be aware that you may not necessarily be successful, as some souls do not wish to be healed and desire to go through illness as a means of experience. So do your best with a positive intention that any healing you send out will be for the best results. Instant healing has taken place many, many times as has been recorded. It may not however last unless the recipient is prepared to eliminate the causes that brought it on in the first place. Most illnesses are self inflicted even to the point of causing the bodies immune system to weaken, and making them vulnerable to disease. A healthy body often goes with a healthy mind and habits.

แม้แต่ตอนนี้พวกคุณบางคนได้พัฒนาความสามารถในการรักษาที่ทรงพลัง, และมันเป็นความเชื่อในตัวคุณเองที่ทำให้คุณทำอย่างนั้นได้. พวกคุณส่วนใหญ่ทำมันในจิตใต้สำนึก และไม่ได้ตระหนักเลยว่าคุณได้ทำมัน. เมื่อคุณตระหนัก ให้รู้ว่าคุณอาจไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จ, เนื่องจากบางวิญญาณไม่ได้ปรารถนาที่จะได้รับการรักษา และปรารถนาที่จะเจ็บป่วยในความหมายของประสบการณ์. ดังนั้นทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุดด้วยความมุ่งหมายที่เป็นบวก ซึ่งการรักษาใดๆที่คุณส่งออกไปจะเป็นไปเพื่อผลที่ดีที่สุด. การรักษาในทันทีทันใดเกิดขึ้นหลายๆครั้งซึ่งได้ถูกบันทึกไว้. มันอาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ถ้าหากผู้รับการรักษาไม่ได้เตรียมตัวที่จะขจัดสาเหตุที่ทำให้เจ็บป่วยเป็นอันดับแรก. ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะรักษาตนเองแม้ว่าจะไปถึงจุดที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอแล้ว, และทำให้พวกเขามีความเสี่ยงต่อโรค. ร่างกายที่แข็งแรงมักจะไปด้วยกันกับจิตใจและนิสัยที่แข็งแรง.

The Galactic Federation of Light is working hard to bring conclusions to a number of projects that are in their final stages. It is touch and go whether you see them this side of Ascension, but if it has to be afterwards the way will be clear for them to go quickly ahead. Be assured that events are creating their own path forwards, and are like a snowball gathering speed and mass. Nothing is clearly now going to stop progress, and we stand by ready for action. We see the Light on Earth reaching new heights as the grids are stabilized, and ready for the final input before Ascension.

สมาพันธ์แกแลกติกแห่งแสงสว่างกำลังทำงานหนักเพื่อให้ได้ข้อสรุปของกิจกรรมต่างๆที่อยู่ในขั้นสุดท้าย. มันถึงและดำเนินไปแม้ว่าคุณเห็นมันในฝั่งนี้ของการยะระดับ, แต่ถ้าหากมันจำเป็นต้องทำในภายหลัง หนทางจะราบรื่นเพื่อให้มันก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว. ให้มั่นใจว่าเหตุการณ์ต่างๆกำลังสร้างหนทางแห่งความก้าวหน้าของมันเอง, และคล้ายกับลูกบอลหิมะที่กำลังเพิ่มความเร็วและมวลของมัน. ชัดเจนว่าไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งความก้าวหน้าได้ในขณะนี้, และพวกเราอยู่ใกล้ๆเพื่อปฏิบัติการ. พวกเราเห็นแสงสว่างบนโลกขึ้นสู่ระดับความสูงใหม่ขณะที่เส้นกริดมีเสถียรภาพ, และมีความพร้อมสำหรับสัญญาณสุดท้ายก่อนการยกระดับ.

I am SaLuSa from Sirius, and send you our blessings to keep your spirits high, as we do not want to see anyone falling back at this late stage in your preparations. We love every soul, and work for each ones release from the dark energies.

I am SaLuSa from Sirius, และส่งพรมาสู่คุณเพื่อรักษาระดับวิญญาณของคุณให้สูง, ซึ่งพวกเราไม่ต้องการเห็นผู้ใดล้าหลังในการเตรียมตัวของคุณ. พวกเรารักทุกๆวิญญาณ, และทำงานเพื่อให้แต่ละคนได้รับการปลดปล่อยจากพลังงานมืด.

Thank you SaLuSa.
Mike Quinsey
ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณ คุณ animal will do

ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง Cloud Atlas
เพิ่งไปดูวันนี้ค่ะ หลังจากชีวิตไม่เคยเข้าโรงหนังมาเกือบ 10ปี
Colud Atlad เป็นภาพยนตร์ที่ให้แรงบันดาลในการดำเนินชีวิต
ของพวกเราในช่วงสำคัญของการยกระดับนี้
เนื้อหาของเรื่องแสดงให้เห็นถึงชาติภพแต่ละชาติ
ที่แต่ละคนเกิดมา ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความผูกพันและเรื่องราวต่างๆ
จุดสำคัญของเรื่องคือการเน้นให้เราเห็นถึงการตัดสินใจของตัวละคร
ที่พวกเค้าเหล่านั้นได้ตัดสินใจเลือก....ความถูกต้อง.....
ถึงแม้การกระทำของเค้าจะเป็นเพียงแค่เหตุการณ์เล็กๆ
หรือถึงแม้การกระทำของเค้าจะนำพามาซึ่งความตายของตัวเอง
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้แสดงให้เห็นว่า

ชีวิตเราไม่ได้เป็นของเราคนเดียว
เราผูกพันกับพันธสัญญา
เราผูกพันกับคนหลายคน

และไม่ว่าภาระในส่วนที่เราบางคนต้องทำจะเป็นส่วนเล็กน้อย
แต่ก็เป็นส่วนเล็กๆน้อยๆที่สำคัญ หากนำแต่ละส่วนนั้นไปรวมกัน

ไม่ว่าเราจะทำอะไร ถึงแม้จะเป็นแค่น้ำหยดเดียวในมหาสุมทร
แต่มหาสุมทรก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าน้ำหลายๆหยดมารวมกัน


ชีวิตเรามีหลายมิติ เราล้วนแล้วแต่เคยเกิดมา
เป็นหญิงและชาย ต่างเพศต่างสถานะ
เรากลับมาเกิดในทุกครั้งเพื่อมาสร้าง...จุดตัด...ที่ถูกต้อง
การกระทำในอดีตส่งผลถึงปัจจุบัน
การกระทำของเราในปัจจุบันส่งผลถึงอนาคต
และย้อนกลับไปแก้ไขอดีต


ดิฉันสรุปได้ในวันนี้ว่า :
ไม่ว่าพวกเราทุกคนจะได้ทำสิ่งใด แม้แต่จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
หรือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เช่นที่ทุกๆท่านได้ทุ่มเทในการแปลเอกสารให้พวกเราอ่าน
ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง...จุดตัด...ในภาพรวมทั้งสิ้น
เรามาช่วยกันเป็นน้ำคนละหยด เป็นน้ำคนละแก้ว เป็นน้ำคนละถัง
เพื่อประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ไกอาและจักรวาลกันดีไหมคะ....

ด้วยรักและแสง

 

ด้วยความยินดีค่ะ แนวคิดดังกล่าวนั้นเป็นเหมือนกับสัจจะธรรมของจักรวาล และเหล่าข้อความต่างมิติก็เคยกล่าวถึงอยู่เสมอๆ
เลยทำให้เราสนใจหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นโอกาสอันดีและโชคดีอย่างยิ่งสำหรับทุกๆ คน
รวมถึงบุคคลทั่วไปที่อาจไม่คุ้นเคยกับเรื่องทำนองนี้มาก่อน
ที่จะได้ทำความเข้าใจแนวคิดนี้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นผ่านทางภาพยนตร์เรื่องนี้

ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าสื่อภาพยนต์ ดนตรี งานศิลปะ และ วรรณกรรม นั้นสามารถส่งผลต่อจิตใต้สำนึกของมนุษย์ได้ดีมาก ๆ
ดังที่ท่าน โนวา อนาลัย เคยกล่าวใว้คร่าวๆ ว่า
ศิลปะนั้นเป็นสิ่งที่ถูกนำเสนอออกมาจากทั้งสองมิติ นั่นคือ มิติทางกายภาพและมิติทางจิตวิญญาณ
มันจึงเป็นสิ่งที่คาบเกี่ยวกันระหว่างมิติ ซึ่งส่งผลให้มีผลกระทบต่อจิตใจของมนุษย์

เราจึงอยากจะแนะนำให้ไปดูกัน เนื่องจากโอกาสที่จะได้ลิ้มรสภาพยนตร์คุณภาพแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ
เพราะมีการโปรโมทน้อยมาก ( และบางจังหวัดก็ไม่เข้าโรงนะจ้ะ ;_; )
และเราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ คห.เล็กๆ น้อยๆ ของเรามีประโยชน์ต่อคุณค่ะ
เพราะเราถือว่าเราบรรลุจุดประสงค์อย่างหนึ่งในการโพสต์แล้ว

ปล.ขอบคุณที่ช่วยมาขยายความต่อค่ะ เป็นคห.ที่มีพลังมากๆ


ด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขแด่ทุกคนค่ะ

 

YouTube นี้พูดถึงการเตรียมตัวรับมือกับภัยภิบัติที่กำลังจะมาถึง
สั้นๆ แค่ 2.37 นาที น่าสนใจค่ะ

เตือนภัยจากนาซ่า(ซับไทย) - YouTube

 

(ตอนต่อจากข้อความที่ 6437 หน้าที่ 322)

TRIP TO THE MOTHERSHIP PART XII

MYTRE AND KEPIER 6

By Suzanne Lie – November 28, 2012
http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/

THE VISITORS PERSPECTIVE

One of the many night body visitors awakes
with a vague memory of being on the Starship…


มีผู้มาเยือนในความฝันบางคนตื่นนอนแล้วจำได้รางๆเกี่ยวกับการอยู่บนยาน.

VISITOR

Dearest Arcturians, I surround my SELF in your great light so that you can assist me to remember my dream/visit to your Starship.

ชาวอาร์คทูเรี่ยนที่รักที่สุด, ฉันยอมให้ตัวตนของฉันอยู่ในแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ของคุณ เพื่อให้คุณช่วยเหลือฉันให้จดจำความฝันของฉัน เกี่

 

คุณ animal will do กล่าวคำพูดได้ทรงพลังจริงๆครับ
รู้สึกได้เลยว่าน้ำหลายๆหยดที่นี่กำลังรวมตัวกันสร้างจุดตัดที่ชัดเจนขึ้นแล้วนะครับ

พักนี้ก็ห่างๆจากโรงหนัง และ TV มานานพอสมควรเหมือนกัน
ละครดัง หนังข่าว ก็แทบจะไม่ได้ติดตามดูเท่าไหร่เลย...
เหมือนหลุดออกไปอีกวงโคจรนึงน่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะติดตามดูตลอด
ขอบคุณคุณ PARINDA MAI ที่แนะนำครับ
ไว้จะหาโอกาสไปดูภาพยนต์เรื่องนี้ให้ได้เลย...

นี่ก็ใกล้ถึงช่วงเวลาสิ้นสุดโลกแห่งความเป็นทวิภาวะกันแล้วนะครับ
เราก็ยังคงมีสิ่งที่เรียกว่าด้านมืด-ด้านสว่าง กันอยู่ในตัวทุกคน...
ถ้าเรามองเห็นและพิจารณาถึงทั้งสองสิ่งที่อยู่ในเราได้เมื่อไหร่
มันก็จะเผยให้เห็นถึงธรรมชาติของความเป็นจริงให้เราได้ประจักษ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ
เจ้า"ความเป็นคู่ "นี้เค้าก็ไม่เคยแยกจากกันไปไหนเลย
ยังเป็นคลื่นพลังงานที่ผสมผสานเกื้อหนุนกันอยู่ตลอดนะครับ

หลังจากนี้ไป ก็หวังว่าหมอกที่เคยหนาทึบนั้นจะจางลงเรื่อยๆนะครับ
ทำให้นึกภาพการล้างบางสิ่งให้สะอาดสะอ้านและเผยให้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามชัดเจนค่อยๆปรากฎขึ้น
ให้เป็นช่วงเวลาเหมือนเช้ามืด ที่ฟ้ากำลังจะส่องสว่างในยามรุ่งสาง
ที่จะนำมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตืนเต้นและงดงามกัน ในเร็วๆนี้....
ติดตามด้วยสงบสุขและความเบิกบานกันต่อไปครับ

ให้กำลังใจทุกข้อความที่แปลด้วยครับ
(อยากฟังประสบการณ์ส่วนตัว ของคุณ Emptyทีเคยบอกวจะเล่าให้ฟังด้วยครับ)

 

เมื่อคืนตื่นกลางดึกมีอาการเหมือนเดิมอีกแล้ว
ช่วงนี้จะเป็นบ่อยมากขึ้น
พอลืมตาขึ้นมา จะงงๆ งงว่านี่ที่ไหน
ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง....
ถึงจะจำได้ว่านี่เป็นห้องนอนของเราเอง

นั้นทำให้เราสงสัยว่า เราน่าจะใช้ชีวิตอยู่ในหลากหลายมิติ
หรือเราน่าจะไปที่ไหนมา....
แล้วพอเรากลับมาในมิติปัจจุบัน กลับมาสวมร่างนี้
จึงทำให้เรางงไปสักพัก
มีใครเป็นแบบเราบ้างไหมคะ......

 

เป็นบ่อยครับ และก็เป็นมานานแล้วด้วยครับ
เมื่อคืนในฝันก็ยังเจอกับน้องที่ทำงานด้วยกันคนหนึ่งอยู่เลย
และก็ได้พูดคุยกับเขาด้วยว่า

"แกรู้ไหมว่านี่แกกำลังฝันอยู่ และก็กำลังเจอกับพี่อยู่ด้วย
เพราะว่าพี่ถามแกทีไรแกก็บอกว่าจำความฝันไม่ได้ซักที
นี่ถ้ามีกล้องถ่ายรูปก็จะถ่ายไว้เป็นหลักฐานให้แกดูด้วยซ้ำไป
แต่ว่ามันก็คงเอารูปกลับไปไม่ได้อยู่ดีแหละ"

แล้วจากนั้นผมก็พูดกับเขาอีกว่า
"ในฝันตอนนี้แกใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้านะ คอตั้ง ทรงกระบอก
มีลวดลายสีน้ำเงินอยู่บนหน้าอก.."

สรุปว่าก็บรรยายลักษณะการแต่งกายของเขาให้เขาฟัง
เพื่อที่จะให้เขาจำไว้ว่า ในฝันเขาแต่งตัวแบบนี้อยู่หนะครับ

...............................................

 

แล้วคุณชยุต เคยไหมคะ ที่ตอนเรารู้สึกตัวในความฝัน
แล้วพลันเราก็นึกขึ้นได้ว่ามาสเตอร์ของเราเคยสอนว่า
พวกเราสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ในความฝัน
พอรู้ตัวดังนั้น ในความฝันเราเลยรีบสั่งสิ่งต่างๆที่เราต้องการ

ดิฉันเคยฝันแบบนี้หลายครั้ง แต่ก็นานๆที
ครั้งแรกที่รู้ตัวว่าตัวเองฝัน และสามารถสั่งอะไรทุกอย่างได้ในความฝัน
ดิฉันก็ขอเจอผู้ชายคนนึงที่อยู่ในจินตนาการ
ในฝันนั้นก็เป็นฉากที่ดิฉันเดินไปเรื่อยๆ
ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านผู้คนมากมายเพื่อไปตามหาเค้า
แต่ฝันนั้นก็ตื่นเสียก่อนไม่ได้เจอ
ตอนตื่นขึ้นมายังวิเคราะห์ฝันตัวเองว่า
ผู้คนที่เราเจอในโลกนี่หละเป็นชายคนนั้น
แต่ชายในจินตนาการคนนั้นอาจจะมาพบเราในหลากหลายรูปแบบ
แล้วเราจำเค้าไม่ได้เอง ฮ่าฮ่า

อีกครั้ง พอรู้สึกตัวว่าเราฝัน ตอนนี้เริ่มชำนาญ รีบเลยค่ะ
รีบสั่งตัวเองเหาะได้ ฮ่า ฮ่า อันนี้สำเร็จ เหาะได้จริงๆ
แต่ก็เป็นการเหาะ เหมือนตอนเราหัดถีบรถจักรยนต์ใหม่ๆนะค่ะ


แล้วอีกครั้งนอนคว่ำหน้าอยู่คะ แล้วหายใจ ตอนหายใจเข้าตัวจะบวมพองขึ้นมา
ตอนหายใจออกตัวจะลีบเล็กแบนลงเรื่อยๆ
ดิฉันกำลังแบบนี้ 2-3 ครั้ง ตอนที่ตัวพองใหญ่ร่างกายก็เริ่มลอย
กลายเป็นเหาะออกไปนอกบ้าน ซึ่งบ้านนั้นเป็นบ้านเก่าสมัยเป็นเด็ก
ตอนนั้นเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองฝัน เลยรีบดำเนินการเหาะเพราะกลัวจะตื่นก่อน
รีบเหาะไปเรื่อยๆ มีเสียงคนเรียกจากที่บ้าน หันกลับไปดู แต่ก็ไม่กลับ
เหาะต่อไป ตอนนั้นในใจสั่งเราอยากกลับไปบ้านเก่าที่เราจากมา
ตัวก็ลอยไปเรื่อยๆ จนเจอ บ้านแปลกๆ เป็นบ้านไม้สามสี่ชั้น รวมกันอยู่ในบริเวณเดียวกัน
หลายหลัง ตัวดิฉันเดินเข้าไปชะโงกมองที่หน้าต่าง เห็นมีคนเยอะแยะอยู่ในบ้าน
แต่ก็ไม่น่าสนใจ คือเหมือนบ้านคนจน อิอิ ไม่ค่อยชอบ
ดิฉันจึงมองกวาดสายตาไปเรื่อยๆ เห็นเป็นเนินเขา
มีบ้านเหมือนเป็นบ้านคนมีฐานะ ดูสวยดีน่าสนใจกว่าเลยเหาะไปดู
แต่พอไปถึงกลับกลายเป็นปราสาทที่มีกำแพงสูงใหญ่
ดิฉันเริ่มหมดแรง ไปนั่งเกาะอยู่บนกำแพงสูงนั้น
ในใจก็คิดว่าการที่เราจะเหาะได้หรือไม่ได้อยู่ที่ความคิดและความเชื่อ
จึงพยายามควบคุมความคิดให้มีความเชื่อมัน
แต่ก็ไม่สามารถควบคุมให้ตัวเองเหาะได้ ตัวจะตกลงมาเดินที่พื้นดิน
มองเห็นประตูปราสาทเปิดออกพอดี
มีทหารกำลังเดินออกมา ดิฉันสามารถเดินเข้าไปดูได้
แต่ในใจตอนนั้นเริ่มกลัว อิอิ กลัวว่าถ้าเข้าไปดู อาจจะเจอว่าตัวเอง
เป็นทาสหรือเป็นสาวใช้ในปราสาทก็ได้ ตอนที่เกิดความกลัวนั้นเลยรู้สึกตัว
ตื่นเสียก่อน

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation

ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey
ที่มา : Galactic Channelings - English

SaLuSa, December 3, 2012

Did you think that the 21st. December would ever come around, and now here it is on your doorstep. There are still empowerments to come before the special day, and each and every one of you planning to ascend should be perfectly ready. Have you yet realised the importance of your part in Ascension, and what an amazing occasion it is going to be. Can you comprehend what is taking place throughout the Universe, and the great changes of magnificent proportions. What powers can wield such command over the elements and all that is. Dear Ones it is no less than God who decreed that Ascension would take place at this time. The experiment of duality has run its course and you have experienced it, and come out of it with flying colours. You have not yet realised what a wonderful achievement you have made, yet in the end it was always known you would succeed.

คุณคิดว่าวันที่ 21 ธันวาคม จะมาถึงตามปกติ, และในขณะนี้ที่นี่มันจะอยู่ที่หน้าประตูของคุณ. ยังคงมีการสร้างเสริมศักยภาพที่จะมาถึงก่อนวันพิเศษ, และพวกคุณแต่ละคนที่มีแผนการยกระดับควรจะพร้อมอย่างสมบูรณ์. คุณเคยรู้บ้างหรือไม่ถึงความสำคัญของคุณในการยกระดับ, และสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจในโอกาสที่มันจะเป็น. คุณจะสามารถเข้าใจได้หรือไม่ในสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วทั้งจักรวาล, และการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของมิติที่งดงาม. พลังอำนาจอะไรที่สามารถรับคำสั่งเหนือธาตุต่างๆและมันเป็นเช่นนั้นเอง. ที่รักทั้งหลายมันไม่มีอะไรน้อยกว่าพระเจ้าผู้บัญชามาว่า การยกระดับจะต้องเกิดขึ้นในเวลานี้. การทดลองเกี่ยวกับทวิภาวะได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว และคุณได้รับประสบการณ์จากมัน, และออกจากมันด้วยการบินหลากสีสัน. คุณยังไม่รู้ถึงความสำเร็จที่น่ามหัศจรรย์ที่คุณได้ทำมัน, แต่ในที่สุดมันจะรู้อยู่เสมอว่าคุณประสบความสำเร็จ.

You have every right to be pleased with yourselves, and it would be no exaggeration to say that you have been to hell and back. When you set out you had no idea what you might face, but did so with enough confidence and belief in yourselves. Looking back now it is unnecessary to seek judgment of those who have so far failed to lift up into the Light. It was known that most souls would be drawn into the negative side at times, and it is not held against you. After all, in most cases you have already overcome your weaknesses by understanding your problems through karmic experiences. Freedom is a wonderful attribute to have but as you have found out, it comes at a price as you are responsible for your actions and even words. Your Sword of Light has been honed in the depths of darkness, and now it shines out brighter than ever.

คุณมีสิทธิ์ทุกประการที่จะแสดงความยินดีกับตัวคุณเอง, และมันไม่ได้เกินเลยไปที่จะพูดว่าคุณถูกหน่วงเหนี่ยว. เมื่อคุณตั้งเป้าหมาย คุณไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณอาจประสบ, แต่ก็ทำมันด้วยความมั่นใจเพียงพอและความเชื่อในตัวคุณเอง. เมื่อมองย้อนกลับไปมันไม่มีความจำเป็นที่ต้องแสวงหาการตัดสินต่อผู้ที่ล้มเหลวในการยกระดับเข้าสู่แสงสว่าง. มันเป็นที่รู้กันว่าวิญญาณส่วนมากจะถูกวางอยู่ในฝ่ายลบในเวลานั้น, และมันไม่ได้จัดการกับคุณ. สุดท้าย ในกรณีส่วนใหญ่คุณได้เอาชนะแล้วซึ่งความอ่อนแอของคุณ ด้วยการเข้าใจปัญหาของคุณผ่านทางประสบการณ์กรรม. อิสรภาพเป็นคุณสมบัติที่น่าอัศจรรย์ที่มี แต่เมื่อคุณค้นพบว่า, มันมาในราคาที่คุณรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณและแม้แต่คำพูดต่างๆ. ดาบแห่งแสงสว่างของคุณได้จี้ลงไปในความมืดที่ลึกที่สุด, และขณะนี้มันส่องสว่างออกมามากกว่าที่เคย.

You were already highly enlightened souls when you took on duality, but now you are even more powerful as a result of your experiences. You are ready for greater things in service to the Light, and become the Masters that was your destiny. Is it no wonder you receive accolades and praise, as you have yet to realise exactly how great you are. Beings from all over the Universe are gathering to witness your Ascension, as that in itself is quite a special occasion and is unique because you are ascending with your physical bodies. It is why recently there has been such a high concentration of Light sent to the Earth, to ensure you are well prepared. We must not of course forget to mention Mother Earth, a most beautiful and wonderful soul in her own rights. She too is all but ready to carry you forward into the higher dimensions, where you will all rightly reside.

คุณเป็นวิญญาณที่ตื่นรู้ในระดับสูงแล้วเมื่อคุณเข้าสู่ทวิภาวะ, แต่ขณะนี้คุณมีพลังอำนาจมากขึ้นไปอีกจากผลลัพธ์ของประสบการณ์ของคุณ. คุณมีความพร้อมสำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าในการรับใช้แสงสว่าง, และกลายเป็นอาจารย์ซึ่งเป็นชะตาของคุณ. ไม่สงสัยเลยว่าคุณได้รับเกียรติและการยกย่อง, ซึ่งคุณได้รู้แล้วอย่างแน่นอนว่าคุณยิ่งใหญ่แค่ไหน. รูปธรรมทั่วทั้งจักรวาลกำลังมองมาเพื่อเป็นพยานของการยกระดับของคุณ, ซึ่งในตัวของมันเองค่อนข้างเป็นโอกาสพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เพราะว่า คุณกำลังยกระดับพร้อมกับร่างกายทางกายภาพของคุณ. มันเป็นเหตุผลที่ทำไมเมื่อเร็วๆนี้ได้มีแสงสว่างความเข้มสูงมากถูกส่งลงมายังโลก, วิญญาณที่สวยงามและมหัศจรรย์ที่สุดในสิทธิของเธอเอง. เธอก็เช่นเดียวกับทุกคนแต่พร้อมที่จะนำพาคุณก้าวหน้าไป เข้าสู่มิติที่สูงกว่า, ที่ที่คุณทั้งหมดจะอาศัยอยู่อย่างชอบธรรม.

At this stage absolutely nothing can prevent Ascension taking place, which is all the more reason that we are surprised that the last cabal does not admit defeat and withdraw. Their mentality is one that means they fight to the bitter end, without any regard for their own evolution or loss of life. Yet like you regardless of how low they have fallen, they still have their immutable Godspark that can still be ignited with the flame of love. They will need a lot of help to return to the Light and they will receive it from great loving Angelic souls who serve the Will of God. You can also play your part by sending them your unconditional love, to help them awaken once again. No soul is abandoned even if it means being returned to the Godhead to be sent out once again for further experience.

ที่ระดับนี้แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดขัดขวางการยกระดับไม่ให้เกิดขึ้นได้, ซึ่งเป็นเหตุผลทั้งหมดที่พวกเราแปลกใจว่าฝ่ายมืดกลุ่มสุดท้ายไม่ยอมรับการยอมแพ้และถอนตัว. ความคิดของพวกเขาหมายความว่าพวกเขาจะต่อสู้อย่างที่สุด, โดยไม่คำนึงถึงวิวัฒนาการของตนเองหรือการสูญเสียชีวิตใดๆ. แต่เช่นเดียวกับคุณ ไม่ว่าพวกเขาจะตกต่ำแค่ไหน, พวกเขายังคงมีประกายแสงแห่งพระเจ้าที่ไม่สามารถทำลายได้ ซึ่งยังคงสามารถจุดประกายได้ด้วยเปลวไฟแห่งความรัก. พวกเขาจะต้องการความช่วยเหลืออย่างมากเพื่อกลับคืนไปสู่แสงสว่าง และพวกเขาจะได้รับมันจากเทพแห่งความรักผู้ยิ่งใหญ่ผู้รับใช้ความปรารถนาของพระเจ้า. คุณสามารถมีส่วนร่วมได้เช่นกันด้วยการส่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของคุณให้กับพวกเขา, เพื่อช่วยให้พวกเขาตื่นขึ้นอีกครั้ง. ไม่มีวิญญาณใดที่ถูกทอดทิ้งแม้ว่ามันอยู่ในหนทางของการกลับสู่การถูกส่งมาอีกครั้งสำหรับประสบการณ์ที่ยิ่งกว่านั้น.

Very soon things in your lives will change forever, and that will just be the beginning of a whole series of them. You will most certainly notice the difference, and find that the energies around you are so uplifting and that will be a permanent change. You are returning to the levels that are more in line with your true selves. Words are not easy to find that will describe the euphoria and bliss you will experience, but once you have had it you will never want to drop back into the lower energies. It is a paradox that when you have everything your mind can conceive of, your needs are simple and for exactly what you need rather than acquiring things for the sake of it. Man has tended to hoard and seek ownership for personal gain, but in the future you will have no such inclinations.

ในไม่ช้าสิ่งต่างๆในชีวิตของคุณจะเปลี่ยนแปลงตลอดไป, และนั่นจะเป็นเพียงการเริ่มต้นของกระบวนการทั้งหมดของพวกมัน. คุณจะสังเกตได้ถึงความแตกต่างอย่างแน่นอน, และค้นพบว่าพลังงานรอบๆตัวคุณยกระดับขึ้นและนั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร. คุณกำลังกลับไปสู่ระดับที่เข้าใกล้ตัวตนที่แท้จริงของคุณมากขึ้น. การอธิบายเป็นคำพูดไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับความรู้สึกสบายและพรที่คุณจะประสบ, แต่เมื่อคุณได้รับมันคุณจะไม่ต้องการที่จะตกลงไปสู่พลังงานระดับต่ำอีกเลย. มันเป็นความขัดแย้งที่ว่าเมื่อคุณมีทุกสิ่งที่ใจคุณสามารถคิดได้, ความต้องการที่ธรรมดาของคุณและสำหรับสิ่งที่คุณต้องการมากกว่าการแสวงหาสิ่งของเพื่อประโยชน์ของมัน. มนุษย์มีแนวโน้มที่จะสะสมและแสวงหาความเป็นเจ้าของเพื่อประโยชน์ส่วนตัว, แต่ในอนาคตคุณจะไม่มีความโน้มเอียงดังกล่าว.

As we have stated previously, probably the most profound realisation you will have will be how little if any laborious work you will have to do. Most of your needs will be satisfied by creation through the power of thought, and many other functions by our Super computers. They are far beyond anything you can imagine and have enormous power and capacity. In fact their level of consciousness far exceeds Man's as it is at this particular time. Perhaps having total freedom will be your joy, because as a responsible Galactic Being you will be able to travel without any restrictions. Meeting other Beings and enjoying learning about other civilizations will prove attractive as you have a natural leaning towards gathering knowledge about them.

พวกเราเคยย้ำมาก่อนหน้านี้, บางทีความตระหนักที่ลึกซึ้งที่สุดที่คุณจะมีก็คือคุณต้องทำงานหนักให้น้อยแค่ไหน. ความต้องการส่วนใหญ่ของคุณจะถูกทำให้สมหวังด้วยการสร้างสรรค์ผ่านพลังอำนาจของความคิด, และกระบวนการอื่นๆมากมายโดยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของพวกเรา. พวกมันล้ำยุคกว่าสิ่งใดๆที่คุณจะจินตนาการได้และมีพลังและความจุมากมายมหาศาล. อันที่จริงระดับความตระหนักรู้ของพวกมันก้าวล้ำกว่าของมนุษย์ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ. บางทีการมีเสรีภาพอย่างสมบูรณ์จะเป็นความสุขของคุณ, เพราะว่าการตอบสนองของรูปธรรมแกแลกติกจะสามารถเดินทางโดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ. การพบปะกับรูปธรรมอื่นและเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ด้วยการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับพวกเขา.

Until you get used to the idea that everything is in the Now you may become confused, but also excited at the opportunity to travel into any part of your previous lives or history of your Earth. Linear time is in fact limiting where you see the past and future as separated. So you will have so much to learn and endless experiences as you expand your levels to achieve Superconsciousness. By then you will have greater powers of creation, and there will be literally nothing that you could not do. You would be as Gods and have similar powers that you would be wise enough to use correctly, and for the good of all. However, we have somewhat jumped well into the future, as your evolution will not be anywhere near as fast as at present.

จนกว่าพวกคุณจะคุ้นเคยกับความคิดที่ว่าทุกๆสิ่งอยู่ภายในขณะนี้ คุณอาจจะสับสน, แต่ก็ตื่นเต้นเช่นกันกับโอกาสในการเดินทางเข้าสู่ช่วงชีวิตในอดีตชาติของคุณหรือประวัติศาสตร์ของโลกของคุณ. อันที่จริงเวลาแบบเส้นตรงมีข้อจำกัดเมื่อคุณเห็นอดีตและอนาคตแยกจากกัน. ดังนั้นคุณมีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้และประสบการณ์ที่ไม่สิ้นสุดเมื่อคุณขยายระดับของคุณจนถึงความตระหนักรู้ชั้นพิเศษ. จากนั้นคุณจะมีพลังอำนาจการสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น, และจะไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้. คุณจะเป็นเหมือนพระเจ้าและมีอำนาจคล้ายกัน ซึ่งคุณต้องมีความฉลาดพอที่จะใช้มันอย่างถูกต้อง, และเพื่อสิ่งดีๆสำหรับทุกคน. อย่างไรก็ตาม, พวกเรามีบางอย่างที่กระโดดไปด้วยดีในอนาคต, ซึ่งการวิวัฒนาการของคุณจะไม่มีที่ใดที่มีความรวดเร็วใกล้เคียงกับของปัจจุบันนี้.

I am SaLuSa from Sirius, and so pleased we can talk about your future which approaches so quickly. Have no regrets Dear Ones that you are leaving the old civilization behind, as you have spent hundreds if not thousands of lives in it. There is little if anything more it can teach you, and as a mass consciousness you all have the benefit of your collective experiences. Ahead lies more challenges and although duality still exists, at your new level of consciousness it is unlikely to be attracted by you. So you have much to look forward to and it is almost there for you now. We are sending our love as always, as you still need every help to ensure you get through Ascension.

I am SaLuSa from Sirius, และรู้สึกยินดีที่พวกเราสามารถพูดเกี่ยวกับอนาคตของคุณ ซึ่งใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว. ไม่ต้องเสียใจที่รักทั้งหลาย ที่คุณต้องทิ้งอารยะธรรมเก่าไว้เบื้องหลัง, ซึ่งคุณได้ใช้ชีวิตนับร้อยหรือนับพันชาติอยู่กับมัน. มันเป็นเรื่องเล็กถ้าหากมีสิ่งใดที่มากกว่ามันจะสอนคุณได้, และในฐานะความตระหนักรู้มวลรวม คุณทั้งหมดจะได้รับประโยชน์ในประสบการณ์มวลรวมของพวกคุณ. ความท้าทายที่ใหญ่กว่ารออยู่ข้างหน้า และแม้ว่าทวิภาวะยังคงมีอยู่ที่ระดับความตระหนักรู้ใหม่ของคุณ มันจะไม่ได้รับความสนใจจากคุณ. ดังนั้นคุณมีสิ่งต่างๆมากมายที่ต้องมองไปข้างหน้าและมันเกือบจะเป็นที่นั่นสำหรับคุณในขณะนี้. พวกเรากำลังส่งความรักของพวกเราอยู่เสมอ, ซึ่งคุณยังคงต้องการทุกความช่วยเหลือเพื่อรับประกันคุณให้ผ่านการยกระดับ.

Thank you SaLuSa.
Mike Quinsey
ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ

 

บทความนี้อ่านแล้วทำให้เกิดแรงบันดาลใจและเกิดจินตนาการ
เกี่ยวกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง
ดิฉันคิดว่าตัวดิฉันเองน่าจะรวมอยู่ที่กลุ่มคนพวกนี้
ใครคิดว่าตัวเองน่าจะรวมอยู่ในกลุ่มนี้บ้างคะ........

...........................................................................

ผมอยู่ในที่ประชุมร่วมกับพวกแคธอลิก โปรเตสแตนต์ ฮินดู พุทธ มุสลิม
รวมทั้งนักเทศน์และนักบำบัดชาวพื้นเมือง
เราพบกันบ่อยๆ อาทิตย์ละสองสามครั้ง
เพื่อทำสมาธิและสวดภาวนา สร้างพลังงานที่กลมกลืน
เพื่อต่อกรกับความเกลียดชังและความรุนแรง
ซึ่งแพร่ระบาดในหมู่ชาวโลกที่ยังไม่รู้แจ้ง
เรามีจำนวนน้อย ไม่มากกว่าห้าสิบคน
แต่อำนาจของเรายิ่งใหญ่จุดประสงค์ของเราคือ ทำให้พลังงานที่ทำลายโลก
ซึ่งผู้ที่ไม่ใส่ใจหรือไม่รู้เกี่ยวกับกฎแห่งจิตวิญญาณปลดปล่อยออกมา กลายเป็นกลางเสีย
พลังงานเหล่านั้นก่อให้เกิดแผ่นดินไหว พายุโทนาโด น้ำท่วม โรคระบาด
เราเคยคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นแบบส่งเดช
ตอนนี้เราเชื่อแล้วว่ามีการก่อหวอด หรืออย่างน้อยก็ได้รับอิทธิพล
จากความคิดและความตั้งใจของมนุษยชาติ และเราสามารถป้องกันมันได้!
กลุ่มของเราออกไปสอนเทคนิคการสวดภาวนาในด้านบวก
และการทำสมาธิในด้านบวกที่เราใช้อยู่ให้คนอื่น เรามีผู้ติดตามนับพันๆ
เดือนหน้าเป็นการประชุมสานสัมพันธ์ระหว่างศาสนาต่างครั้งที่ห้า
ซึ่งมีคนที่เชื่ออย่างเดียวกับเราเข้าร่วมมากกว่าสองหมื่นห้าพันคน
พวกเขาจะนำเทคนิคของเรากลับไปสู่ประเทศของพวกเขาทั่วทั้งโลก
การประชุมนี้อยู่เหนือเส้นแบ่งทางกายภาพและจิตใจ
เพื่อบรรลุถึงสันติภาพ ความกลมกลืน และความกรุณาต่อทุกคน
ที่พำนักอยู่บนโลกนี้ และเพื่อดาวเคราะห์เอง....

Same Soul,Many Bodies….

 

เดี๋ยวเล่าให้อ่าน(ฟัง)ครับ ผมเกือบลืมไปแล้วนะ แฟนๆขอมาเดี๋ยวจัดให้ครับ รอนิดนึง