ทำพิธีให้ผีมองไม่เห็นคน มันมีจริงรึเปล่าค่ะ

เรามีเรื่องที่สงสัยมานานมาก เกี่ยวกับเรื่องผีมองไม่เห็นคน มันมีจริงรึเปล่า รบกวนผู้รู้อธิบายให้เข้าใจ หรือบอกทีว่าเราเข้าใจผิดไปเองรึเปล่า ขอเล่าเลยนะคะ

แม่ของเราเสียชีวิตตั้งแต่ตอนเราอายุ 4 ขวบ เสียชีวิตขณะพยายามคลอดน้องที่โรงพยาบาล (พ่อไม่ได้บอกว่า น้องตายในท้องหรือคลอดแล้วตาย แต่สรุป เสียชีวิตทั้งแม่และน้อง

หลังจากแม่ตาย ชาวบ้านก็เห็นแม่ วนเวียนอยู่ที่บ้านยาย นั่งร้องให้อยู่ที่บันไดบ้าง ใต้ต้นจำปีบ้าง บนกิ่งต้นจำปีบ้าง เดินร้องให้วนเวียนรอบบ้านบ้าง (เรื่องนี้ ได้รับการยืนยันจากญาติ และชาวบ้านหลายคนว่า เห็นจริงๆ) และมาเข้าฝันญาติๆ ว่าจะขอเอาเราไปอยู่ด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าพ่อจะดูแลเราดีพอ

จากเหตุการณ์ข้างบน พ่อและญาติ เลยพาเราไปที่วัด ทำพิธี เอาผ้าเหลืองมาล้อม และสวดมนต์ พ่อบอกว่า เรียกว่าการบังผ้าตนหลวง และยกเราให้เป็นลูกของพระ

ผ่านไปหลายปี ญาติไปทำพิธี เข้าทรง เชิญวิญญาณ ญาติที่เพิ่งเสียชีวิตไป (เป็นน้าชายที่เสียไปไม่นาน) และ นอกจากน้าชาย ก็ได้เชิญวิญญาณแม่ของเรามาด้วย ตอนนั้นญาติได้อัดเทปกลับมาฟัง และเราได้มีโอกาสได้ฟังด้วย

มีการพูดคุยหลายอย่าง ทั้งเรื่องในอดีต ชีวิตหลังความตาย ซึ่งเรื่องในอดีตเราไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง เพราะเราไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่เลย

แต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่เราจำได้ติดหู คือ แม่ร้องให้ แล้วถามถึงเรา ว่าเป็นยังไงบ้าง โตรึยัง มีชีวิตยังไง และตัดพ้อต่อว่า พ่อของเราว่า เพราะพ่อเอาเราไปทำพิธีบังไว้ ทำให้แม่หาเราไม่เจอ มองไม่เห็นเรา แม่คิดถึงเรามาก

คำถามก็คือ
1.พิธีที่พ่อพาเราไปทำ คือการทำพิธีอะไร
2.เป็นไปได้หรือไม่ ที่ทำแล้ว แม่จะมองไม่เห็นเราจริงๆ แล้วถ้าเป็นจริง มีวิธีไหนที่เราจะทำให้แม่เห็นเราได้บ้าง



ภาพประกอบจาก http://palungjit.org/threads/เซียนหวยบุกบ้านผีสิง-เฮี้ยนไม่กลัว-กลัวไม่เฮี้ยน.143623/

 

อ่านแล้วสงสารคุณแม่ของคุณคะ คงคิดถึงลูกมาก ไม่น่าไปทำพิธีบังตาเลย :'(

 

เห็นใจ... เหมือนกันครับ !:'(

 

การยึดติด คือที่มาแห่งความทุกข์

พระพุทธเจ้า สอนให้เราพ้นทุกข์ โดยการปล่อยวาง

ปล่อยวาง ไม่ใช่โดยการฝืนทน แต่โดยการปฏิบัติธรรม จนเห็นตามความเป็นจริงของโลก เมื่อเห็นแล้ว ว่าทุกอย่างนั้นแท้จริงเป็นเช่นไร ก็จะปล่อยวางจากสิ่งต่างๆ ได้เอง

การตาย คือการเปลี่ยนภพภูมิ... ดวงจิตไม่ได้สูญหายไปไหน และทุกดวงจิต ก็จะต้องสละ ละออกจากร่างกายนี้เหมือนกัน

แต่แม้ดวงจิตที่พ้นจากร่างกายไปแล้ว หากยังยึดติดอยู่กับสิ่งใด ก็ย่อมเป็นทุกข์กับสิ่งนั้น

 

เห็นด้วยเช่นคุณ อินทรบุตร ครับ

คนเราเมื่อจะตาย ใครๆก็สอนให้ปล่อยวางครับ ให้ทำจิตเป็นกุศล
เพราะเมื่อตายแล้ว ถ้าจิตยังเป็นกังวล จะยึดติดไปไหนไม่ได้
ถ้ายิ่งเค้ามีใจอยากพาเราไปอยู่ด้วย เค้ายิ่งเป็นบาปครับ

ถึงวิธีนี้มันจะรุนแรงไปแต่ผมก็คุณพ่อคุณก็ต้องยอมทำนะ แม่คุณจะได้ตัดใจ หมดห่วง และก็เป็นการไม่สร้างบาปด้วย

ถ้าคุณ จขกท ไม่สบายใจ ลองทำบุญกรวดน้ำ แล้วฝากบอกผ่านน้ำไปก็ได้คับ
ส่วนวิธีบังผี เคยได้ยินอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าจะแก้มนตร์ ต้องใช้วิธีตรงกันข้ามครับ
แต่อย่าทำเลยดีกว่า ถ้าทำแล้ว แม่คุณเห็น ก็จะยังห่วง ไม่หลุดพ้นสักทีครับ

 

สงสารคุณแม่ของน้องจังค่ะ เขาคงยังไม่ถึงคราวที่จะต้องตายวิญญาณเขาถึงได้ผูกพันวนเวียนเพราะเป็นห่วงลูก ก็ขอให้คุณแม่ของน้องได้ไปสู่สุคตินะคะ ถ้าคุณแม่ของน้องได้เห็นน้องอยู่ในชีวิตที่ดีและมีความสุขเขาก็คงจะจากน้องไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไปเพราะเขาหมดห่วงแล้ว แต่นี่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นน้องทำให้วิญญาณเขายังวนเวียนเพื่อจะขอติดต่อกับน้อง อย่าให้วิญญาณท่านต้องทุกข์ทรมานเลยค่ะ เปิดทางให้ท่านได้เห็นน้องเถอะค่ะ น้องก็อธิษฐานขอให้ติดต่อวิญญาณกับแม่ได้และขอให้แม่ไปเกิดในภพภูมิที่ดีและมีสู่สุขคติต่อไปนะคะ

 

ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ แสดงว่าการบังตามันมีจริงๆ

เคยให้อาจารย์ท่านหนึ่งดูให้ว่าแม่เป็นยังไง ท่านบอกว่า ตอนนี้แม่ใช้กรรมหมดแล้ว อยู่ข้างบน ใกล้ๆกับโลกมนุษย์(ไม่ได้อยู่ชั้นสูงๆ เพราะไม่มีบุญหนุนส่งมากนัก)

จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้ยึดติดกับท่านมาก เพราะมันก็ผ่านมาหลายสิบปี ( แต่ก็คิดถึงและอยู่ในใจตลอด)

ที่อยากให้ท่านเห็นเรา เพียงแค่อยากให้ท่านรู้ว่าเราสุขสบายดี ทำอาชีพที่ญาติๆบอกว่า แม่ใฝ่ผันอยากให้เป็น ถ้ามันแก้ไขไม่ได้ เราก็คงต้องปลง

ขอบคุณทุกท่านสำหรับการเตือนสติค่ะ

 

การที่มีคนมาทำพิธีบังตาไม่ให้เห็นคุณ อันนั้นก็คือกรรมของแม่คุณเช่นกัน
เมื่ออาจารย์อีกท่านหนึ่งมาบอกว่าแม่คุณใช้กรรมหมดแล้ว ตอนนี้แม่คุณต้องเห็นคุณแล้วครับ
การที่คุณมีอาชีพที่แม่คุณไฝ่ฝัน ยิ่งเป็นข้อสนับสนุนว่าแม่คุณเห็นและคอยช่วยคุณอยู่ ให้สิ่งที่ไฝ่ฝันนั้นมาสำเร็จได้โดยคุณผู้เป็นลูก

หมั่นสร้างกุศลอุทิศให้ท่านครับ