กุศลกรรมบถ ๑๐ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเป็นทางไปสู่สวรรค์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 18 ธันวาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สมัยก่อนมีครอบครัวหนึ่ง พ่อสอนลูกสาวลูกชายและภรรยาให้ถึงกุศลกรรมบถ ๑๐ คือ ไม่ทำลายชีวิต ไม่ลักขโมย ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่โลถคอยจ้องอยากได้ของเขา ไม่คิดร้ายเบียดเบียนเขา เห็นชอบตามธรรมะ และให้ตั้งอยู่ในการเสียสละ รู้จักสงบใจแล้วคิดว่าความสงบใจนั้นเป็นสุขก็ปรารถแต่เรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตายว่า คนเราหนีไม่พ้นให้รู้จักคำว่า “อภัย สงสาร และเมตตา” เขาก็ถือกันทั้งหมดเลย

    ทุกวันก็คุยกันเรื่องกุศลกรรมบถ ๑๐ มั่นใจว่า คนถือกุศลกรรมบถ ๑๐ นี้ ตายแล้วไปเป็นเทวดาทุกคน ไม่ตกนรก ธรรมอันนี้เป็นธรรมดีทำให้จิตใจไม่เดือดร้อน คือ มองโลกในแง่ดี มีแต่เมตตาสงสาร ถือว่ามนุษย์นี่มาอาศัยอยู่ชั่วคราว เป็นช่องเรือนชานแก้วแหวนเงินทอง ร่างกายเรานี้ก็อยู่ไม่เกิน ๑๐๐ ปี ก็ต้องทิ้งทุกคน แต่สิ่งที่เอาไปได้คือความดีในใจ เมื่อคิดอย่างนี้เขาก็ไม่หลง จึงมุ่งทำแต่ความดี ต่อมาลูกชายไปไถนา ถูกงูกัดตาย แม่ไปส่งข้าวรู้ว่า ลูกชายตาย จึงบอกคนใช้ว่า

    “ไม่ต้องเอาข้าวมาส่งอีกแล้วนะ ไปบอกนายเอ็งเถอะ ข้าวนี้ฉันกินคนเดียวก็พอ อีกคนหนึ่งไม่กินแล้ว”

    คนใช้ก็ไปบอกทางบ้านตามนั้น เขาก็รู้เลยว่าลูกชายตายแล้ว จึงไม่ให้เอาข้าวไปส่ง เขาก็มาหมดทั้งครอบครัวเลย ทั้งภรรยา พ่อ พี่น้อง ก็นำศพไปเผาชายทุ่ง พวกเขาคิดว่าลูกชายไปดี แต่ไม่รู้ว่าไปไหน เพราะเขามั่นอยู่ในศีล ๕ อยู่ในกุศลกรรมบถ ๑๐ พ่อก็จัดการเอาแก่นไม้แห้งๆ มาเผาลูกที่ชายทุ่งแล้วเอาไม้ไผ่กระทุ้งร่างกายนั้นให้มันแตกออกเพื่อไฟจะได้ลุกไหม้ สมัยก่อนเผากันแบบนี้ พ่อก็คอยแหย่ไฟเอาไส้พุงตับปอดใหม้ไปเรื่อยๆ

    ส่วนลูกชายเมื่อตายแล้วไปเป็นเทวดา ความจริงไม่ได้ห่วงใยอะไรมากมาย เพียงแต่อยากแสดงว่ากุศลกรรมบถ ๑๐ นี่ น่าจะถือไว้ตลอดทุกบ้าน จึงจำแลงร่างเป็นชายคนหนึ่งมายืนอยู่ชายทุ่งและถามว่า

    “ลุงทำอะไร?”
    “เผาศพ”
    “เผาศพใคร?”
    “เผาศพลูกชาย”
    “ทำไมเผาศพลูกชายทำเหมือนไม่รักเลย กระทุ้งเอาๆ ตับไตไส้พุงไหลออกหมด เกลียดโกรธอะไรเขาหรือ?”
    “เปล่า ไม่ได้เกลียด ไม่ได้โกรธเลย แต่ทำตามหน้าที่ของพ่อที่ต้องทำอย่างนี้กับลูก”
    “แล้วไม่เสียใจหรือ?”
    “เสียใจหรือ?… ถ้าเสียใจเขาฟื้นคืนมาได้ก็จะเสียใจ ถ้าร้องไห้แล้วเขาฟื้นคืนได้ก็จะร้องไห้แม้น้ำตาเป็นสายเลือดก็จะร้อง ถ้าลูกชายฟื้นแต่นี่คิดแล้วว่าเขาตายไปดีร้องไปก็ไม่เกิดประโยชน์จึงไม่อยากจะร้อง เผาให้เขาไปเพราะร่างกายนี้เขาทิ้งแล้ว แต่จิตใจเขาไปดี ลูกฉันต้องไปเกิดดี อย่างน้อยก็ต้องไปเกิดเป็นเทวดา ถ้าเทวดนั้นมีจริง”

    พอถามแม่ว่า “ทำไมลูกตายทั้งคนไม่เห็นร้องไห้ล่ะ?”
    นางตอบว่า “ร้องก็ไม่มีประโยชน์อะไร เก็บน้ำตาไว้ดีกว่า เพราะเสียใจเขาก็ไม่ฟื้นคืนมา จึงไม่อยากร้องไห้ เชื่อว่า ลูกเราตายไปดี รัก! ไม่ใช่ไม่รัก แต่ไม่อยากจะเสียใจ เพราะคิดว่ายังไง เขาก็ไปดี”

    แล้วก็หันมาถามภรรยาว่า “เป็นอะไรกัน?”
    “เป็นภรรยา” นางตอบ
    “สามีตายทั้งคนไม่เห็นมีน้ำตาเลยไม่รักหรือ?”
    ชายคนนั้นถามขึ้นอีก
    นางตอบว่า “รัก รักที่สุดในชีวิต ไม่เคยรักใครเท่าสามี”
    “แล้วทำไมไม่ร้องไห้?”
    “ร้องเขาก็ไม่ฟื้นคืนมา เหมือนเด็กๆ ร้องเอาเดือนเอาตะวัน เดือนมันก็ไม่ตกลงมา เหมือนหม้อที่แตก ร้องไปมันก็ไม่ติดอย่างเก่า แล้วร้องไปทำไม เราก็ทำจิตใจของเราให้เป็นบุญกุศลให้เขาไปดี”

    เมื่อฟังอย่างนี้แล้ว ชายคนนั้นจึงถามพี่น้องทุกๆ คน ก็ได้คำตอบเดียวกันหมด ทุกคนต่างกลั้นน้ำตาด้วยความรู้ ความเข้าใจว่า เขาตายไปดี คิดว่าร้องไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำจิตใจเของเราเศร้าหมองเปล่าๆ และคนตายก็จะไม่ได้รับบุญกุศลอะไรจากเรา ทำให้วิญญาณของเขาเศร้าหมองทุกคนเลยไม่ร้อง เพราะเชื่อว่ากุศลกรรมบถ ๑๐ ที่ถือกันมาแต่เล็กจนตายนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่จะนำวิญญาณไปสู่ที่ดี ทุกคนมั่นใจอย่างนั้น

    ชายผู้นั้นจึงสาธุแล้วจำแลงกายเป็นเทวดาบอกว่า “ฉันนี่แหละคนตายล่ะ ! พ่อแม่ทำไว้เถอะนะ กุศลกรรมบถ ๑๐ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนี้เป็นทางไปสู่สวรรค์ พอลูกตายลูกก็นึกถึงบุญที่ทำไว้ ก็ไม่มีเวทนาเจ็บปวดเลย”

    เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ฟังว่า สิ่งที่ทำไว้นั้น เป็นเครื่องรองรับ เพราะคนเราตายแต่เพียงร่างกาย ใจนั้นยังไม่ตาย ถ้าเราคิดก็คิดว่าเขาไปดี

    หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ
    คัดลอกมาจากหนังสือ “คิดไม่ถึง”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ผู้คนส่วนใหญ่ ทางพุทธศาสนา ก็มีความเข้าใจอยู่
    แต่สมุทัย ที่เป็นกิเลศ โลภะ โทสะ โมหะนี่...มันก็ค่อนข้างทำใจยาก....
    ...อีกอย่าง ผมเชื่อว่า คนทำบุญ ทำดีนี่ เฉพาะสมัยนี้ ที่กิเลศมันยั่วยวนมากมาย
    ดังนั้น คนบางคน บางกลุ่ม บางเหล่า ก็น่าจะต้องมีที่ทำอกุศลกรรมสลับกันไปด้วย...และเหตุนี้แหละ ผมเชื่อว่า เขา ในจิตสุดท้าย ก็ต้องไปอุบัติในภพภูมิทุคติ เป็นเบื้องต้นก่อน...หลังจากนั้นจึงไปอุบัติเป็นเทวดา ยกเว้นผู้ถึงพร้อม ก็ไปเป็นเทวดาเลยหลังตาย..
     
  3. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    เป็นเรื่องที่ดีนะครับ
    นางวิสาขามหาอุบาสิกา ลูกตายยังร้องไห้เลย
    ครอบครัวในเรื่องนี้กำลังใจเข้มแข็งมาก
    ปัญญาสูง
     
  4. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    อนุโมทนา สาธุด้วยครับ
    ทำความดีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองครับ
     
  5. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    อนุโมทนาค่ะ เป็นครอบครัวที่เด็ดเดี่ยวและเข้าถึง ธรรม อย่างแท้จริงทีเดียว สาธุธรรมค่ะ และขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วย สาธุค่ะ
     
  6. ่jiky8808

    ่jiky8808 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +97
    ความตายทุกคนไม่อาจหลีกหนีได้ แต่จะมีสักกี่มากน้อยที่เข้าใจในความตายอย่างลึกซึ้งเท่าครอบครัวที่หลวงพ่อท่านกล่าวถึง ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
  7. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ผู้เข้าถึงธรรม ย่อมไม่เป็นทุกข์
    ธรรมะ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม (ตามสมควรแก่ธรรม)
     
  8. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณมากครับ
    จะรักษาศีล 5 ไม่บกพร่องมากขึ้น แล้วค่อยเลื่อนไปเป็นกรรมบถ 10
     
  9. นิลขาว

    นิลขาว ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +961
    **สาธุ โมทนาบุญด้วยจ๊ะ และขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำสิ่งดีๆมาเพิ่มความรู้**
     
  10. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  11. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    จิตที่ฝึกดีแล้วนำความสงบมาให้...ขอบคุณ จขกท.ครับ
     
  12. เปาชุนไหล

    เปาชุนไหล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +2,240

    ขนาดนางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน ยังร้องให้

    ดังนั้น

    แนวทางการเป็นพระโสดาบัน
    ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ก็ไม่ยากเกิน ปุถุชน จะ ทำตามคำสอนท่าน
    1.โดยมีศีล๕ บริสุทธิ์ (ที่ผ่านมาอย่าไปนึกถึงว่าเราเคยผิดศีล)
    ถ้าจะให้ดี ก็ ถือ กรรมบท ๑๐ ซึ่งไม่ได้ยากเกินไปที่จะตั้งใจทำให้ได้
    2.เคารพ นับถือ ยึดพระรัตนไตร พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ตลอดชีวิต และตลอดไปทุกภพทุกชาติ
    3.คิดว่าชีวิตนี้เราจะต้องตายอย่างแน่นอน ไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่ตาย
    จะได้ไม่ประมาทในความตาย ไม่กล้าทำบาปทั้งปวง

    เท่านี้เราก็หนีนรกได้ตลอดชาิติ
    ________________

    ขอบคุณ และ อนุโมทนาในธรรมทานมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...