อัพเดทสถานการณ์ปัจจุบัน ปี 2013, ดาวลึกลับ และดาวหาง ISON!!

ชักผิดปรกติละ ตอนนี้กำลังเกิดแผ่นดินไหวในอัตราความรุนแรงระดับค่อนข้างสูงในหลายจุดพร้อมกันทั่วโลก ช่วยกันภาวนา!!!

 

อย่าลืมว่า เดิมเกาหลีใต้นับถือพุทธตอนนีเปลี่ยนเป็นคริสเกือบหมดแล้ว เฮ่อๆ,

 

เดิมเกาหลีใต้นับถือพุทธตอนนี้เปลี่ยนเป็นคริสเกือบหมดแล้ว ไม่แปลกที่ไปดังถึงฝั่งอเมริกา เตรียมงานกันมานานเพื่อความขลัง เฮ้อ...

 

UPDATE : วันนี้เป็นอีกวันนึงที่น่าประหลาดใจ เพราะแผ่นดินไหวเขย่าทั่วโลกมีค่าความรุนแรงที่สูงโดยมีจำนวนเกิดหลายที่ เยอะกว่าปกติอยู่พอสมควร

 

13 นาฬิกาของวันนี้ เกิดแผ่นดินไหว 7.7 ริกเตอร์ ที่บริเวณ อลาสก้า

 

"สัญญาณจากท้องฟ้า"

ดาวหาง 2012 SI (ISON) 'ดาวหางที่สว่างกว่าดวงจันทร์'
ดาวหางดวงนี้มีชื่อว่า 2012 SI (ISON)
Comet 2012 SI (ISON)
นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวหางดวงใหม่ คาดโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในปลายปีนี้ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในเวลากลางวัน
ดาวหางดวงนี้มีชื่อว่า 2012 SI (ISON) ถูกตรวจพบครั้งแรกเมื่อตุลาคม 2012 โดยนักดาราศาสตร์ชาวรัสเซีย อาร์เทียม โนวิโชน็อก กับวิตาลี เนฟสกี แห่งไอซอน (ISON-International Scientific Optical Network) และได้รับการยืนยันโดยสหภาพดาราศาสตร์สากลแล้ว

เวลานี้ ดาวหาง 2012 เอสไอ อยู่ใกล้ดาวเสาร์ ถ้าใช้กล้องดูดาวที่มีกำลังขยายสูงจะมองเห็นเป็นวัตถุสลัวๆในทิศทางของกลุ่มดาวปู ถ้าการคำนวณของนักดาราศาสตร์ไม่ผิดพลาด เจ้า 2012 เอสไอ ดวงนี้ จะสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมีความสว่างมากกว่าดวงจันทร์ในช่วงปลายปี 2556 ต่อต้นปี 2557

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ดาวหางดวงนี้มีต้นกำเนิดจากที่ไหน แต่เส้นทางโคจรบ่งบอกว่า มันอาจหลุดออกมาจากกลุ่มเมฆออร์ต ซึ่งเป็นแหล่งชุมนุมของดาวหางนับพันล้านดวง อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ราว 50,000 เท่า หรือคิดเป็นระยะทางเกือบ 1 ปีแสงจากดวงอาทิตย์

เวลานี้ ดาวหาง 2012 เอสไอ อยู่ห่างจากโลกประมาณ 990 ล้านกิโลเมตร ระหว่างเส้นทางโคจรของดาวเสาร์กับดาวพฤหัสบดีดวงอาทิตย์กำลังดึงดูดดาวหางดวงนี้เข้าหา ต่อไปมันจะพุ่งผ่านดาวอังคารในระยะห่าง 10 ล้านกิโลเมตร ผลการคำนวณวิถีโคจรในเวลานี้ บ่งบอกว่า เราจะเห็นมันจะสว่างที่สุดในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากได้เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด ซึ่งจะตกราววันที่ 28 พฤศจิกายน 2556

เมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ในระยะประมาณ 2 ล้านกิโลเมตร ความร้อนและความโน้มถ่วงจากดวงอาทิตย์จะทำให้มันแตกตัว เราจึงเห็นมันสว่างขึ้น

ซัมรา บอกว่า ผลการคำนวณชี้ว่า มันอาจสว่างเท่ากับพระจันทร์เต็มดวง และอาจมองเห็นได้ในเวลากลางวัน หรืออาจพุ่งเข้าชนดาวดวงใดดวงหนึ่งในวิถีโคจรของมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่การคาดการณ์นี้อาจผิดพลาดก็เป็นได้ เวลาข้างหน้าจะเป็นเครื่องพิสูจน์..

 

"ตลอดระยะเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียทำงานองค์การอวกาศรัสเซียเทียบเท่านาซา สำรวจระบบสุริยะ พบมีการเปลี่ยนแปลงขอบด้านนอกสุดของระบบสุริยะ โดยวัดปริมาณความสว่างสูง ขึ้น 1,000% มีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เชื่อว่ามีพลังงานบางอย่างเข้ามาในระบบสุริยะ นาซาเองก็พบการเปลี่ยนแปลง เช่นกัน ภาพถ่ายจากดาวเทียม Imax ที่โคจรรอบโลก ปรากฏพลังงานที่เล็ดลอดเข้ามาในะบบสุริยะ เดินทางด้วยความเร็วสูง แนวที่มี พลังงานรั่วใกล้กับทางช้างเผือก แล้วยังค้นพบว่า เมื่อวัดแกนพลังงานนี้มี การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในระยะ 6 เดือน ไม่ใช่ลักษณะค่อยเป็นค่อยไป นี่เป็นสิ่งที่นอกเหนือการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์"

สรุปเหตุการทั้งระบบสุริยะตอนนี้ที่มีการตรวจพบ

-ดวงอาทิตย์มีปฏิกริยาสูงสุดในรอบ 8,000 ปี
-ความเร็วลมสุริยะลดลง 20km.ต่อวินาที ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2550(ตอนนี้=0)
-ดาวพลูโต ที่พบความกดอากาศเพิ่มขึ้น 300 %
-ดาวเนปจูน ความสว่างจ้าของชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น 40 %
-ดาวยูเรนัส ความสว่างเพิ่มขึ้นพร้อมมีกลุ่มเมฆมาก
-ดาวเสาร์ มีการเปลี่ยนแปลงในแนวเส้นศูนย์สูตรและเกิดปรากฏการณ์ออโรรา
-ดาวพฤหัส สว่างขึ้น 200 % และร้อนจัด
-ดาวอังคารเกิดสภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลาย มีพายุรุนแรงขึ้น
-ดาววีนัสสว่างขึ้น 2,500 % ในระยะเวลา 30 ปี
-ดาวพุธก็ค้นพบสนามแม่เหล็กสูงมาก และเกิดน้ำแข็ง มีฝุ่นละอองที่พัดออกมา คาดมาจากความดันลมสุริยะลดลง
-โลก มีปริมาณรังสีคอสมิกสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ภายในระยะ 50 ปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีทีท่าลดลง

 

20 ข้อ คำทำนาย(ฝั่งอเมริกา) สำหรับปี 2013-2015 นี้

#1) การล่มสลายของระบบหนี้ทั่วโลกมาถึง
#2) โอบามาพยายามจะแก้ไขญัตติอีกครั้ง
#3) เกิดการขาดแคลนอาวุธปืน และกระสุนอย่างหนัก
#4) เกิดจราจลในอเมริกา ประกาศกฎอัยการศึกทั่วอเมริกา
#5) อเมริกาเริ่มโจมตีอิหร่าน โดยปราศจากการต่อต้าน หรือ "ไม่สามารถต้านทานได้"
#6) เหตุโจมตีอเมริกาครั้งใหญ่โดยองค์กรและรัฐบาลเอง โยนความผิดให้กลุ่มผู้รุกฮือ และกลุ่มก่อการร้าย
#7) เริ่มมีการตั้งด่านบนถนนสายหลักของอเมริกา
#8) เกิดการรุกฮือครั้งใหญ่ : เกิดการรวมตัวของกลุ่มต่อต้านลับทั่วอเมริกา
#9) รัฐบาลเริ่มโจมตีและควบคุมสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ
#10) หลังจากไม่มีสื่อไว้ประสานงาน อีกทั้งข่าวลือลวง พลเมืองก็เริ่มขัดแย้งและคุกคามกันเอง
#11) เริ่มเข้าสู่ระดับโลก โดยรัฐบาลทั่วโลกเริ่มมีการเคลื่อนไหว
#12) ชาติศัตรูของอเมริกาอาศัยโอกาศทองโจมตีที่มั่นต่างๆและประเทศพันธมิตรสำคัญของอเมริกา จนเหตุการณ์บานปลาย
#13) เริ่มการโจมตีสื่อหลักๆของกลุ่มพวกรักชาติ กลุ่มผู้ลุกฮือ และพวกทหารผ่านศึกที่ออกมาต่อต้าน
#14) พลเรือนส่วนใหญ่เริ่มไม่เห็นด้วยกับการกระทำต่างๆของรัฐบาลสหรัฐ
#15) โอบาม่า เร่งดำเนินกระบวนการทำลายระบบเศรษฐกิจสหรัฐ เกิดวิกฤติการข้าวยากหมากแพง การว่างงาน ขาดแคลนอาหารทั่วสหรัฐ
#16) รัฐบาลออกกฏห้ามผู้คนครอบครองอาวุธโดยการริบเก็บอาวุธปืนและกระสุนจากประชาชน
#17) เริ่มเกิดการจราจลตามตัวเมือง
#18) เริ่มการขาดแคลนอาหาร รัฐบาลใช้เป็นอาวุธในการควบคุมฝูงชน
#19) สภาพอากาศเริ่มเลวร้ายลงทั่วโลกจากอาวุธทางเทคโนโลยีลับ ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งจัด น้ำท่วมจัด หรือหนาวเย็นจัดทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศอริของอเมริกา เช่น จีน รัสเซีย
#20) คลื่นรังสีจากดวงอาทิตย์เริ่มรุนแรงขึ้น : เกิดพายุสุริยะขนานใหญ่ชนิดที่ไม่เคยบันทึกมาในประวัติศาสตร์ส่งผลต่อระบบอิเลคทรอนิกส์และการสื่อสารทั้งหมด
#21) พวกผู้คนทั่วโลกเริ่มเรียกร้องให้มีรัฐบาลใหญ่ เพื่อจัดการปัญหาต่างๆ อเมริกาจึงประกาศรวมโลกภายใต้ชื่อ New World Order

ซึ่งตอนนั้นอเมริกาจะก้าวเข้ามาเสนอการจัดระเบียบโลกใหม่ ภายใต้รัฐบาลเดียว มันคือการรวมทุกประเทศเข้าด้วยกัน ซึ่งในขณะนั้นทุกประเทศต่างบอบช้ำอย่างที่สุดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ขาดแคลนอาหาร และการลุกฮือจราจล สิ่งที่อเมริกาเสนอมานั่นคือ การรวมโลกเข้าด้วยกัน เรียกว่า "New World Order" นั่นเอง


จะเห็นได้ชัดว่าในอนาคตจะเกิดปรากฏการครั้งใหญ่ขึ้นเริ่มจากปี 2013 นี้ โดนจุดเริ่มต้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ลุกลามไปถึงตะวันออกกลางและลามไปทั่วโลก จากสงครามใหญ่ถึงแม้จะไม่ใหญ่มากพอที่จะเรียกว่าสงครามโลก แต่สิ่งที่รุนแรงยิ่งกว่าก็คือสภาพอากาศที่วิปริตเลวร้ายเหลือคนา นั่นจะส่งผลให้ทั้งโลกเกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักหน่วง ไม่มีการปลูกพีชทำปศุสัตว์ อาหารก็ผลิตไม่ได้ ประชาชนทั้งโลกลุกฮือ ประเทศต่างๆล่มสลาย ซึ่งตอนนั้นอเมริกาจะก้าวเข้ามาเสนอการจัดระเบียบโลกใหม่ ภายใต้รัฐบาลเดียว มันคือการรวมทุกประเทศเข้าด้วยกัน ในขณะนั้นทุกๆประเทศต่างบอบช้ำอย่างที่สุดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ขาดแคลนอาหาร และการลุกฮือจราจล และสิ่งที่อเมริกาเสนอมานั่นคือ การรวมโลกเข้าด้วยกัน เรียกว่า "New World Order" และถ้าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเกมส์เกมส์หนึ่งของอเมริกาแล้วล่ะก็ มันช่างเป็นเกมส์ที่แยบยลมาก สุดเหนือจะคาดคิด และหากประเทศต่างๆเริ่มจะคิดได้ ผมบอกได้เลยว่ามันก็คงสายเกินไปแล้ว และเมื่อถึงตอนปิดเกมส์นี้ พลเรือนของโลกจะเหลือรอดซักกี่เปอร์เซนต์กันเชียว.. Welcome to 2013, Welcome to "NEW WORLD ORDER"


Credit : จำไม่ได้ พอดีเซฟไว้ก่อนหน้านี้

 

เหตุการณ์กราดยิงนักเรียนที่ Sandy Hook, USA. เมื่อ ธ.ค. ปีที่แล้ว ก็เป็นการจัดฉากขึ้นเช่นกัน เพื่อวาระการควบคุมอาวุธปืนของพลเรือนอเมริกัน อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่กรุยทางไปสู่การจัดระเบียบโลกใหม่

Sandy Hook Hoax ผ่าน Google หรือ Youtube เพื่อคำตอบที่กระจ่างขึ้น

 

แต่งนิยายเก่งนะครับ เมื่อไหร่จะรวมเล่มขายล่ะครับ เป็นตุเป็นตะเชียว

 

ดูเหมือนว่า วันสิ้นโลกที่แท้จริง คงจะไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติเพียงอย่างเดียวซะแล้วว

 

ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้แต่งนะ แค่ยืมเค้ามาลงให้เห็นถึงความแตกต่าง อีกความน่าจะเป็นต่างหาก ถ้าลงอะไรเดิมๆมันก็คงซ้ำซากจำเจน่าเบื่อ แถมยังเหมือนอยู่ในกะลาปิดหูปิดตาอยู่เรื่อยไป ผมขอมองโลกในหลายๆมุมดีกว่า ฮิฮิ

 

สรุปว่า คุณไม่ได้มีความคิดเป็นของตัวเองว่างั้น แม้แต่เรื่องหลุดโลก คุณก็ไม่ได้คิดเอง กรรมล่ะ คุณต้องหัดจินตนาการบ้างนะ จะได้ฉลาดๆๆเหมือนปู่ไอสน์ไตน์ไง จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ไง อีกอย่างผมเกรงว่าถ้าเสพข้อมูลทำนองนี้มากๆๆโลกแตก องค์กรมหาภัย แผนลับโอบาม่า มนุษย์ต่างดาว ปาจิโก๊ะ สู้อยู่แต่ในกะลาปิดหูปิดตาไม่รับข้อมูลทำนองนี้จะดีกว่าปะ ถึงแม้จะไม่ฉลาดขึ้น แต่ก็ไม่โง่ไม่เพี้ยนมากขึ้นไง เอาเถอะ มุมนี้ก็ฮาไปอีกแบบ จัดเต็มไปเลย ผมชอบนิยายไซไฟล์ แนวกึ่งเท็จกึ่งจริงผสมๆๆกัน นี่จุดขายเลยนะคุณ นิยายพวกนี้มีทั้งข้อมูลจริงเท็จผสมๆๆ ใครที่รู้ก็แยกออกไม่รู้ก็แยกไม่ออก ไง

ยกตัวอย่างยี่สิบข้อคำทำนายนะ บางข้อก็จริงนะ แต่บางข้อมันก็หลุดโลกไปนิดเป็นไปไม่ได้แน่นอน ผมมีเหตุผลนะ อีกอย่างถ้าในระยะยาวกว่านี้คือมากกว่าสามสี่ปีอย่างที่คุณอ้าง บางข้อ ก็มีสิทธิ์จะเกิดขึ้นได้จริงเพิ่มขึ้นมานะ

 

ขอบคุณอีกครั้ง เราเชื่อครับว่าท่านมีเหตุผล ทุกข้อล้วนจริงได้นั้น ไซร้ไม่จริงได้ทุกข้อเช่นกัน

 

ผมชอบคุณนะ มามาดนิ่งๆๆๆ ต่อปากต่อคำผมได้ คมคายดี อย่างคุณน่าจะเรียกว่า นักลึกลับวิทยา ซึ่งในเมืองนอกก็มีอยู่เยอะไม่ใช่เรื่องแปลกระหลาดอันใด แต่จุดอ่อนอยู่ที่การขาดความรู้จริงๆๆ จังๆๆในศาสตร์สาขาต่างๆๆ นั้นแหละ เวลาโยงข้อมูลมันเลยเท็จ ผสมจริง ผสมจินตนาการมากไปหน่อย .....โดยออกแนวตีความตามใจชอบมากว่าศึกษาจริงๆๆ จังๆๆอย่างเป็นระบบ เสียด้วยซ้ำ ทั้งศาสตร์ทางวิทยาศาสตร์ ทางจิตวิญญาณ และก็อื่นๆๆ เช่นประวัติศาสตร์ ภูมิรัฐศาสตร์ ทำนองนี้มันก็เลยดูหลุดๆๆเกินๆๆไปนิดนะ

จริงๆๆ ไม่ใช่ว่าแนวคิดพวกนี้มันหลุดโลกจนไม่อาจจะเป็นจริงได้หรอกนะ ประเด็นอยู่ที่ว่า มันหลุดโลกเกิดฝันถึงพอหรือเปล่าล่ะ สำหรับจักรวาลใบนี้....

 

ขอบคุณนะครับ ผมขอตอบรวมแบบสั้นๆเลยละกัน สำหรับจักรวาลฟองนี้ สิ่งที่พวกเราได้เห็นและได้รู้มีเพียงไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์ขององค์ความรู้รวมทั้งหมดของมัน หากแต่ว่ามีบางคนที่ยังพอจะเข้าใจองค์รวมของมันได้บ้าง ถึงแม้ว่าไม่เข้าใจระบบยิบย่อยส่วนใหญ่ทั้งหมดก็ตาม ดังเช่นเรื่องที่หลุดโลกที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง มันก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดั่งคำกล่าวของผม "โลกแบนในอดีต แต่กลับกลมในปัจจุบันอย่างน่าฉงน" มันเป็นคำเปรียบเปรย ตีความให้ดีนะครับ บางเรื่องของจักรวาลที่อยู่ในระดับที่ลึกเกินไปผมขออนุญาตไม่อธิบายใดๆ แต่สามารถตอบท่านได้บ้าง ถ้าอยากจะรู้

จริงอยู่ผมอาจจะขาดความรู้ในสายต่างๆ แต่ก็คิดว่าคงไม่มาก

ส่วนเรื่องจิตวิญญาณที่ท่านกล่าวมา ว่ายังขาดการศึกษา หรือรู้จริงนั้น ผมว่าผมรู้และเข้าใจมันในแบบของผมมากกว่านะ

 

คนอย่างไอน์สไตล์ยังกล่าวว่าจินตนาการ สำคัญกว่าความรู้.. ฉะนั้นแล เรื่องหลุดโลกมันจึงต้องเกิดบ้าง ใช่ไหมล่ะครับ เพราะมัน เต็มไปด้วย จินตนาการ ..แต่สำหรับบางคนน่ะนะ แต่สำหรับผม มันคือ ความเป็นไปได้

 

"ผมว่า คุณขาดความรู้ในสายต่างๆๆมากนะครับ ยกเว้นว่าคุณจะเป็นพวกหลงตัวเองเอามากๆๆๆ ก็อย่างที่คุณบอกว่า จักรวาลฟองนี้ สิ่งที่พวกเราได้เห็นและได้รู้มีเพียงไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นส์ ถ้าคุณบอกว่าคุณขาดความรู้ในสายต่างๆ แต่ก็คิดว่าคงไม่มาก

ก็เท่ากับว่าตอนนี้คุณกำลังพูดจาขัดแย้งในเชิงตรรกะกับคำพูดของคุณเสียเอง .......ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณเรียกว่าจักรวาลฟองนี้ มันดูเปล่งๆๆทางภาษา คำว่าฟองน่าจะเอามาใช้กับไข่กับอะไรมากกว่านะ

ส่วน"โลกแบนในอดีต แต่กลับกลมในปัจจุบันอย่างน่าฉงน" ควรจะพูดเสียใหม่ว่า "โลกกลมมาตั้นแต่ในอดีต แต่เพราะอวิชชาของมนุษย์ทำให้เรา เผลอไปทึกทักเอาเองว่ามันแบนต่างหาก ตอนนี้รู้แล้ว จากความเข้าใจผิดไปไกลก็กลายเป็นเข้าใจมากขึ้นว่ามันกลมโปร่งออกเล็กน้อยตรงศูนย์กลางเพราะผลจากการหมุนรอบตัวเอง"

ดังนั้น ที่คุณพูดว่า "ส่วนเรื่องจิตวิญญาณที่ท่านกล่าวมา ว่ายังขาดการศึกษา หรือรู้จริงนั้น ผมว่าผมรู้และเข้าใจมันในแบบของผมมากกว่านะ " ก็หวังว่าคงไม่ใช่การทึกทักว่าไปเองเหมือนคนบางคนในสมัยก่อนที่ทึกทักว่าโลกแบนนะครับ"

 

ครับๆๆ ผมกลัวแต่ว่ามันจะเป็นเพ้อเจ้อมากกว่า จินตนาการนะสิครับ55555

 

อัพเดตสถานการณ์ปัจจุบัน : ขณะนี้มีการพ่นสายเคมีโปรยเหนือท้องฟ้าทั่วโลกตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเป็นต้นมา ผมเห็นด้วยตัวเองว่าในประเทศไทยก็ด้วย ตอนนี้ไม่ทราบถึงเหตุผลนั้น แต่บางคนว่า เพื่อซ่อนอะไรบางอย่างบนท้องฟ้า?? คงต้องรอดูต่อไป...