ขอคำแนะนำการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สุทธินันท์, 28 ธันวาคม 2012.

  1. สุทธินันท์

    สุทธินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +362
    ก่อนอื่นผมขอแจ้งความประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะจัดหาปัจจัยหรือเงินบริจาคใดๆ ทั้งนั้นนะครับ เพียงแค่อยากได้คำแนะนำจากท่านผู้มีประสบการณ์

    ที่มาและความสำคัญของปัญหา
    กระผมเองเกิดและเติบโตมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ห่างไกลความเจริญในจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่หมู่บ้านมีวัด 1 วัด ปกติชาวบ้านโดยเฉพาะคนเถ้าคนแก่ก็จะไปวัดกันในวันพระหรือวันสำคัญทางพุทธศาสนา และกิจกรรมที่ไปก็คือกราบพระประธานแล้วก็เอาข้าวไปใส่บาตรที่ทางวัดเตรียมไว้ จากนั้นก็นั่งรอจนกระทั่งพร้อมเพรียงกันแล้วมัคทายกก็นำอาราธนาศีลและก็สวดมนต์กันจนจบแล้วพระก็ฉันต์ภัตตาหารและให้ศีลให้พรจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปปกติดี และคงจะเหมือนกันวัดอื่นๆ ในทางภาคเหนือ แต่สิ่งคำถามในใจของข้าพเจ้าก็คือ ทำไมทางวัดถึงไม่มีการเทศน์สั่งสอน หรือแนะนำให้ชาวบ้านปฏิบัติกรรมฐานหรือการทำจิตใจให้สงบ หรือ เรื่องบาปบุญคุณโทษ อะไรทำนองนี้เลย ทั้งนี้ชาวบ้านก็ทราบกันดีว่า พระสงฆ์เองก็ไม่ได้ปฏิบัติเช่นกันในเรื่องดังกล่าว เพราะพระสงฆ์เองก็ปฏิบัติตัวเหมือนๆ กับชาวบ้านทั่วๆ ไป เช่น ตอนเย็นก็แอบทานข้าว ยังคงมีเครื่องเสียง โทรทัศน์ สิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนๆ กัน เบื่อๆ ขึ้นมาท่านก็ลาสิกขาบทแล้วไปเป็นฆราวาส พอท่านเบื่อทางโลกก็กลับมาบวชอีก แต่ชาวบ้านก็ไม่มีทางเลือก เพราะทุกวันนี้ หาพระประจำวัดยากจริงๆ และชาวบ้านเองก็ยากจนกัน วันๆ ก็ได้แต่ไปไร่ไปนา ทำมาหากิน จึงไม่มีเวลาที่จะไปศึกษาธรรมมะจากที่อื่นๆ

    แนวทางแก้ปัญหา
    1. อยากให้มีผู้ที่รู้และเข้าใจในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาอบรมให้กับชาวบ้าน ซึ่งกระผมก็ยังไม่ทราบว่าจะไปหาพระสงฆ์หรือฆราวาสจากที่ไหนที่ท่านจะสามารถอบรม สั่งสอนชาวบ้าน ที่ไม่มีแม้แต่พื้นฐานในการนั่งสมาธิเลย สามารถเรียกได้ว่าในหัวก็คิดแต่เรื่องทำมาหากินอย่างเดียว เรื่องปฏิบัติธรรมคือลืมไปได้เลย แต่ไปวัดตักบาตรก็แทบแย่แล้ว หากใครพอจะรู้จักพระสงฆ์ หรือ ฆราวาสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและท่านสามารถให้ความช่วยเหลือแนะนำทางสว่างให้กับชาวบ้านเหล่านั้น ว่าการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องเขาต้องทำอย่างไร ต้องเริ่มจากตรงไหน อาจจะเป็นคอร์สสั้นๆ สัก 3-5 วัน

    2. สำหรับสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้นแรกๆ อาจใช้ศาลาวัดเป็นที่พักและปฏิบัติะรรมไปก่อน ในอนาคตจะสร้างเป็นอาคารขนาดเล็กๆ ซึ่งสามารถจุคนได้สักประมาณ 20 -30 คน เพื่อปฏิบัติกรรมฐาน เช่น นั่งสมาธิ เดินจงกลม และเป็นที่สำหรับนอนพัก แยกเป็นชายหญิง มีห้องน้ำสักสี่ห้อง และมีห้องครัวสำหรับทำอาหาร เวลามีคนมาปฏิบัติธรรม ซึ่งกระผมก็ไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ หากท่านใดมีประสบการณ์ในการสร้างสถานปฏิบัติธรรมลักษณะดังกล่าว ช่วยแนะนำผมด้วยครับ ผมอยากทราบถึงปัญหาต่างๆ ที่ท่านได้พบเจอมา และหากท่านใดมีแบบสำหรับก่อสร้างอาคารลักษณะดังกล่าวก็จะดีอย่างยิ่งครับ
    3. หากท่านใดเคยเป็นเจ้าภาพเกี่ยวกันการจัดอบรมวิปัสนากรรมฐานมาก่อน แล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ช่วยกรุณาให้คำแนะนำผมหน่อยด้วยครับ เนื่องจากผมพยายามคิดหาหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับชาวบ้านที่ เขาหาเช้ากินค่ำไม่มีเวลาจะไปปฺฏิบัติธรรมที่ไหน ผมแค่คาดหวังว่าหากเขาได้รับการอบรมที่ถูกต้อง เขาจะสามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเองที่บ้านและสามารถแนะนำ หรือ อบรมให้กับคนในครอบครัวได้ ต่อๆ กันไป
    4. หากสิ่งที่ผมคิดไว้ สามารถเป็นไปได้และทำได้จริงๆ จะเป็นกุศลอย่างยิ่งสำหรับคำแนะนำทั้งหลาย เพราะหากสิ่งนี้ประสบความสำเร็จจากหมู่บ้านผม หมู่บ้านอื่นๆ ใกล้เคียงกันก็มีสภาพไม่แตกต่างกัน พวกเขาสามารถมาปฏิบัติธรรมกันได้ตลอดเวลา เพียงแต่ตอนนี้ ยังไม่มีเชื้อแห่งความดีในการเริ่มต้น


    กลุ่มเป้าหมาย
    กระผมอยากให้มีหลักสูตรปฏิบัติธรรมสำหรับเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาชั้น ป 5-6 และอีกหลักสูตรสำหรับชาวบ้านทั่วๆ ไป และผมคิดไว้คร่าวๆ ว่าใน 1 ปี อาจจัดหลักสูตรอบรมสั้นๆ สัก 6 ครั้ง ครั้งละประมาณ 20-30 คน ซึ่งแต่ละครั้งก็สำหรับหมู่บ้านใกล้เคียงที่สามารถเข้ามาใช้อบรมได้ โดยผมยินดีรับผิดชอบเรื่องค่าอาหารและค่าเดินทางของผู้ที่จะเป็นผู้นำในการอบรมซึ่งอาจจะเป็นพระสงฆ์หรือฆราวาสก็ได้ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

    สำหรับตัวกระผมเองก็ได้ปฏิบัติทั้งวิปัสนาและกรรมฐานมาได้สักระยะหนึ่งและเริ่มที่จะมองเห็นแล้วว่าทางไหนที่ควรปฏิบัติ เพียงแค่รู้ว่าควรจะปฏิบัติอย่างไรแต่ยังเข้าใจถูกตามที่พระพุทธเจ้าได้สั่งสอนเอาไว้ ซึ่งยังไม่พร้อมที่จะไปอบรมหรือสั่งสอนใคร จนกว่ากระผมจะรู้และเข้าใจในธรรมจริงๆ หากไปอบรมคนอื่นก็เพียงแค่จดจำคำพูดของครูบาอาจารย์ไปเท่านั้น หากท่านใดอยากจะสร้างกุศลตรงนี้ เชิญเข้ามาให้คำแนะนำแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านเหล่านั้นได้นะครับ

    หากกระผมตั้งกระทู้ผิดที่ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    คงให้ความเห็นได้ ไม่มากครับ

    ในเบื้องต้น หาซีดี ธรรมะ ครูบาอาจารย์ ที่ท่านเทศน์
    อบรมเกี่ยวกับ วิธี หรือ วัตรปฏิบัติ สมาธิ

    นำไปแจกจ่าย นำไปฟัง ไปอ่าน แล้ว ลองทำตามดู

    ส่วนเรื่องพระสงฆ์เป็นเรื่องใหญ่ ก็ลองปรึกษา คณะสงฆ์ ที่ดูแลในเขตนั้นดูครับ

    บางทีก็พูดยากเหมือนกัน ขอให้ สมปราถนาครับ
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ.......

    แนะนำว่า

    เราต้องวางตัวเป็น ฆารวาส ที่เข้า อุปฐากวัด

    พยายามใช้วัดเดิม และพยายามมองให้ออกว่า นั่นคือ สมบัติและ
    บริษัทของพระพุทธองค์

    แม้ว่าในวัดนั้น จะมีบุคคลากรที่อ่อนด้อยในปัจจัยบางประการ แต่
    พระพุทธองค์ ไม่เคยปฏิเสธบุคคลากรเหล่านั้น ชนเหล่านั้น ที่เข้า
    มาอาศัย รูปวัด รูปสงฆ์ พำนักอยู่ได้ นั่นก็เพราะ ย่อมเคยเป็นผู้อุปถัมภ์
    ค้ำจุนพระพุทธองค์ในกาลก่อนๆ ทั้งก่อนตรัสรู้ และ หลังจากตรัสรู้แล้ว
    แน่ๆ จึงได้มีปัจจัยให้ได้อยู่ ในร่มกาสวภัทร เช่นนั้น

    ทีนี้

    พระ วัด จะต้องอาศัย บริษัทอีกสองส่วน คือ อุบาสก และ อุบาสิกา

    ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่ บำรุงพระ ในเชิง เป็นผู้ หาอาหาร เตรียม
    อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยา และ ที่อยู่ ที่สบายให้

    เราจะต้องมี ศรัทธา ใน คนในพุทธบริษัทว่า จะต้องมีคุณธรรม
    สามรรถก่อคุณธรรมขึ้นได้แน่ๆ อย่างน้อย ท่านจะระลึกได้ใน
    คุณ มีความกตัญญู รู้คุณ ชาวแว้นแคว้น ซึ่งจัดเป็นอริยวินัยอยู่

    เราจะต้องอดทน ค่อยๆ ให้ท่านมีความรู้สึก มีสำนึก ขึ้นมาที
    ละน้อย เป็นก้าวที่เล็ก แต่ มั่นคง

    หากเราไปตั้ง ศาลาประชันกันเสียแล้ว มันมีแต่จะ สร้างความ
    ขัดแย้ง แบ่งแยก ไม่สามัคคี ไม่เคารพสังคม(ภาษาบาลี ใช้คำว่าสงฆ์)

    การเป็นฆารวาส จะไปวางตัวเหมือนเป็น ครูของพระ ผู้สั่งสอนพระ
    ผู้เป็นตัวอย่างจรณ ในทางพระพุทธศาสนาจะเรียกบุคคลนั้นว่า พวกปฏิภาณ
    ว่าตนเป็นพระ พระพุทธองค์ตรัสให้คว่ำบาตรบุคคลเหล่านี้ คือ ไม่ต้อง
    ไปรับอาหารจากคนที่ปฏิภาณเป็รพระ มาทำมีเป็นผู้สอนพระ ดังนั้น เรา
    จะต้องระมัดระวัง ..........ต้องอาศัยโอกาส และ ต้องปราวณาขอให้
    ถูกจังหวะ ........ต้องมีอุบายที่ดี...อย่าสอนพระตรงๆ เด็ดขาด

    แต่หากเราบำรุงพระได้อย่างดี ส่วนใหญ่ พระท่านก็อาจจะเอ่ยปากให้
    เราแนะนำ อันนี้ก็รู้สึกว่าจะทำได้

    แต่ก็ต้องไม่ทำจนออกนอกหน้า เพราะว่า หากพวกเดียรถีย์มาเห็นเข้า

    เขาก็จะ อาศัย ภาพการเป็น ฆารวาสที่สอนพระ ถือโอกาสยกตน
    ว่าไม่ต้องเคารพสงฆ์ อ้างว่า คุณยังข่มพระได้ พระยังต้องเรียน
    จากคุณ แล้ว ใยจะต้องเคารพสงฆ์ ....นี่ เสร็จเลย กลายเป็นตัวปัจจัย
    ในการยกอ้างของพวกเขา

    ก็นะ

    แนะนำว่า อดทน มีขันติ มีตบะ มีอธิษฐานที่ถูก ตั้งจิตให้ถูก แล้ว
    พยายาม บริหาร วางตัวเป็น นักบริหาร ที่เก่งๆ ค่อยๆ เข้าจัดการ วัด
    ที่มีอยู่แล้ว บุคคลกรที่มีอยู่แล้ว นั่นแหละ ถ้าครั้นคร้ามเกรงว่าจะไม่ไหว
    ก็ไม่ต้องไปสร้าง ศาลาของตน มาหลอกตัวเอง ( กิเลส มันหลอก เอา )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2012
  4. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    ผมเคยบวชในสายวัดป่า ก็ยังได้ฟังคำสอนจากเทปนะครับ เดี๋ยวนี้มีซีดีคำสอนแจกจ่ายมากขึ้นนะครับ ผมว่าลองอัดไปเปิดในช่วงที่เหมาะสมโดยขออนุญาตทางวัดก่อนครับ ค่อยๆฟังแล้วซึมซับเอาครับ แต่ละคนจะพัฒนาไปเองครับ การเผยแพร่นี้เป็นงานยากอย่างหนึ่งนะครับ แต่ก็เป็นงานที่คุ้มค่าในชีวิตอย่างนึงด้วย ที่สำคัญคือประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน สองสิ่งนี้ต้องไม่ขาดไปน้อยไป
     
  5. สุทธินันท์

    สุทธินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +362
    ผมต้องขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกๆ ท่านครับ ที่ผมมีแนวคิดเช่นนี้ เพราะอยากให้ชุมชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพระพุทธศาสนาและช่วยกันทำนุบำรุงต่อไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริงๆ ครับ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เป็นผมจะบอกให้คุณอุเบกขาแบบรับรู้ครับ..เพราะคุณกำลังจะไปได้ดี..
    มาถึงจุดนี้.คุณจะถูกดึงให้ต้องมาวุ่นวายเรื่องทำนองนี้ เพื่อให้การปฏิบัติ
    ของคุณ ชงัก.เรดาห์สนามบินเราก็เอาไว้ดู แต่เครื่องบินก็พอ พวกจิ้งหรีด
    ไส้เดืิอน แมลงปอ แม้ว่าจะตรวจจับได้หมด ไม่ต้องสนใจครับ.

    วิบากกรรมชักนำพาให้เกิด ไม่อยาก
    เกิดต้องรู้กรรมนำวิถี รู้ละ รู้วาง รู้ว่าง ดีกว่าครับ..
    ไม่งั้่นเรื่องทำนองนี้..จะเป็นเชื้อให้คุณต้องกลับลงมาเกิดอีกครับ​
     
  7. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +1,116
    โมทนาสาธุคะ อนุโมทนาบุญด้วยคะ ดิฉันยินดีช่วยเหลือคะ ในเรื่องการปฏิบัติธรรม ที่ถูกต้อง ขอให้คุณ ติดต่อไปที่ 081 - 8837569 เดี๋ยวเขาจะจัดส่ง cd การปฏิบัติธรรมให้คุณคะ " การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน 4 " คะ บุญรักษานะคะ
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แนะนำว่า ใ้ห้ จขกท. บวชพระ แล้วประจำวัดนั้น ครับ
     
  9. patdorn

    patdorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +227
    การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา กับการเผยแผ่ พระธรรมคำสอน
    ถ้ารักเขามากๆ ไม่ต้องมาวัดก็ได้ครับ มันไม่พร้อมจริงๆ (สิ่งต่างๆ)
    ** เพียงจัดกิจกรรมให้ทำบุญ นานๆครั้งก็ยังดีครับ **
    การเปิดอัดคำสอน ถามว่าถ้าไม่สนใจด้านนี้จริง เขาจะเบื่อนะครับ
    ต้องสอนแบบโดนๆๆ คิดว่าคุณสอนได้แน่ครับ
    คนตจว จิตใจดีเป็นพื้นฐานมากว่าคนในเมืองเยอะแยะ

    ขอเป็นกำลังใจครับ สู้สู้ (อานิสงส์มหาศาล ..สาธุ )
     
  10. สุทธินันท์

    สุทธินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +362
    คิดว่าการนำซีดีหรือหนังสือธรรมมะไปไว้ที่วัด ทั้งให้ฟรีและแบบยืม น่าจะดีที่สุดในตอนนี้ ขอขอบพระคุณสำหรับทุกคำแนะนำครับ หากท่านใดมีหนังสือธรรมมะหรือซีดี ที่ท่านไม่ได้ใช้ และต้องการจะบริจาคให้กับทางวัด ขอเชิญส่งมาได้ที่ผมจะครับ ขอให้ท่านแจ้งความประสงค์มาแล้วผมจะส่งที่อยู่ให้ครับ สำหรับค่าจัดส่งให้เก็บเงินปลายทางนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...