3 ม.ค. 56 โค้งสุดท้าย

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mzbot, 22 ธันวาคม 2012.

  1. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    ขออนุญาตยกข้อความที่เป็นคำถามทั้งหมดมาอีกครั้งครับ

    ขออภัยครับ คำถามอาจไม่ชัดเจน
    คำถามที่ตั้งใจจะถามคือ
    คุณใช้อะไรในการตัดสินใจเชื่อว่า พระท่านใดคือพระอรหันต์ หรือท่านใดคือพระโพธิสัตว์ ครับ
     
  2. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    จริงๆ คำถามไม่เกี่ยวกับ เรื่อง โลก และแรงกดทับที่เราคุย กัน เท่าไร

    ถ้า ถามธรรมะ อย่างนี้ ผม ขอตอบให้ ช่วยไป อ่าน หนังสือ ธรรมะมากๆ
    หรือ หนังสือ ประวัติ สมเด็จโต หลวงปู่ มั่น หลวงปู่แหวน ..หลวงตามหาบัว...
    ทั้งหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อฤาษี
    หวังว่า คงจะพอ ตอบคำถามได้ ถ้ายังแยกไม่ ออกอีก
    กลับไป อ่านอีกรอบ ..

    ผมอยู่ ไกลบ้านไกลเมือง แนะนำ ไปหา หลวงปู่ ไม่ได้

    โชคดีครับ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  3. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    เข้าใจว่าของวิเศษที่ว่า คงจะหมายถึง ปิระมิด นะครับ

    ในทางวิทยาศาสตร์มีงานทดลองเกี่ยวกับพลังมหัศจรรย์ของปิระมิดมากมายที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้ชัดเจนทั้งในและต่างประเทศ ลองค้นหาด้วย search engine ของคุณและศึกษาดูเองนะครับ แต่ก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับของวิเศษที่คุณพูดถึง

    สำหรับในกรณี ของวิเศษ หรือปิระมิดที่คุณพูดถึงอยู่นี้ ก็คงน่าเสียดายว่าแรงกดทับรุนแรงที่อ้างถึงไม่ได้เกิดขึ้นจริง จึงไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นของวิเศษลวงโลกหรือไม่ แต่ผมคิดว่ามีกรณีใกล้เคียงที่คุณสามารถนำมาใช้อ้างอิงเพื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นของวิเศษลวงโลกจริงหรือไม่ นั่นก็คือ เครื่องไล่หมอกควัน และเครื่องเรียกฝน พลังปิระมิด

    อันว่าทั้งเครื่องไล่หมอกควันพลังปิระมิด และเครื่องเรียกฝนพลังปิระมิด ผลงานของผู้ประดิษฐ์เดียวกันกับของวิเศษที่คุณว่านี่ ผมจำได้ว่าสลับกันออกมาเป็นข่าวหลายครั้งเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ทีออกรายการทางโทรทัศน์ก็มีหลายครั้ง คุ้นๆว่าแม้แต่สรยุทธ์ สุทัศนจินดาก็เคยนำไปเป็นประเด็นในรายการ ข่าวที่จำได้แน่นอนคือสนามบินแม่ฮ่องสอนเอาไปใช้แก้ปัญหาทัศนวิสัยในการบินขึ้นลง อีกครั้งหนึ่งที่เห็นล่าสุดเมื่อซักประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็ถูกนำไปใช้แก้ปัญหาหมอกควันมลพิษที่เชียงใหม่

    ในสมัยที่ผมเห็นข่าวเรื่องเครื่องปิระมิดไล่เมฆหมอกนี้ครั้งแรก ผมก็ฟันธงในทันทีทันใดเหมือนกับคนอื่นๆจำนวนมากครับว่าเป็นเรื่องลวงโลก แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าเครื่องที่ว่านี้ถึงอยู่มาได้นานหลายปีดีดักเหลือเกิน แถมยังเป็นข่าวออกทีวีซ้ำแล้วซ้ำเล่าในตอนนั้น เป็นข้อข้องใจสงสัยนักหนามาก ว่าทำไมถึงไม่ยอมมีใครไปทำการพิสูจน์ให้รู้แล้วรู้รอดเสียทีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง

    ดังนั้น ผมจึงขอแนะนำให้นักวิทยาศาสตร์ทุกท่าน ช่วยไปพิสูจน์เจ้าเครื่องไล่หมอกพลังปิระมิดนี่ละครับ ว่ามันจะสามารถทำงานได้ตามที่ผู้ประดิษฐ์กล่าวอ้างจริง หรือเป็นแค่เรื่องแหกตาคนดู

    อันที่จริงถ้าจะให้นักวิทยาศาสตร์คนนั้น ที่พิสูจน์เรื่องเครื่องเสาอากาศตรวจระเบิด และบั้งไฟพญานาค เป็นคนไปทำการพิสูจน์ก็น่าจะดีนะครับ เพราะคงจะดูน่าเชื่อถือดี และคงเป็นข่าวใหญ่อยู่พอสมควร

    ถ้าคนรู้ความจริงกันเยอะๆ คนที่ตาสว่างก็คงจะเยอะไปด้วยนะครับ
     
  4. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ขอขอบคุณที่พยายามตอบครับ
     
  5. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ได้อ่านอันนี้ด้วยมั้ย แล้วเเรงกดทับนั่นมันไม่ได้กดทับแล้ว ท่าทางจะกลายเป็นพวกไวรัสต่างดาวไปแล้ว ทำให้คนป่วย,เด็ก แขนขาชา ท้องเดิน

    เราคิดว่าพวกที่สนับสนุนนี่คงไม่ได้อ่านคำทำนายอย่างละเอียดซักเท่าไหร่ คลิปที่พวกตัวเองเอามาแปะไว้ก็คงไม่ได้ดู

    เอาแบบที่เห็นกันชัดๆเลยนะ ก่อนแรงที่บอกว่าจะมา ตามคำทำนายบอกว่าจะมีแผ่นดินไหวถี่ๆ แผ่นดินยุบถี่ๆ เครื่องบินตกถี่ๆ ระบบสื่อสารล่มทั้งโลก ในวันที่17 ธ.ค. หรือ 25 ธ.ค. แต่ไม่มีซักอย่าง ถ้าทำเงียบๆไปซะแล้วบอกว่าไม่มีแล้วแรงกดทับ ไอ้สัญญาณที่ว่าก็อนุโลมให้ได้ว่ามันไม่มีเพราะแรงมันไม่มาแล้ว

    แต่นี่ดันมีคำอธิบายออกมาว่าแรงกดมันมีจริงแต่เป็นแบบอ่อนๆแล้วมันก็มาแล้ว คราวนี้ก็ยุ่งสิเพราะเมื่อมาแล้ว ไอ้สัญญาณที่บอกว่าจะมีแผ่นดินไหวถี่ๆ แผ่นดินยุบถี่ๆ เครื่องบินตกถี่ๆ ระบบสื่อสารทั้งโลกจะล่ม มันหายไปไหน

    วานไปถามให้ด้วยว่าแรงกดก็มาแล้วแบบอ่อนๆ สัญญาณมันหายไปไหน


    ไอ้แรงกดทับนี่ก็อีก ตอนแรกคาดว่าคงจะให้เป็นแบบวิทย์ๆ มีคำอธิบายเยอะแยะ ลองไปหาอ่านดู
    พอคนเอะใจว่าพวกบ้าน สิ่งก่อสร้าง ไม่พังหรือ คราวนี้มีคำอธิบายไปไกลว่ามันเป็นแรงลึกลับอะไรนี่แหละ กดทับเฉพาะสิ่งมีชีวิต แล้วสิ่งมีชีวิตนั้นๆต้องมีธาตุรู้ เอาง่ายๆก็คือจะให้เหลือแต่คนมั้งที่โดนกด จะต้องโดนกดอยู่เป็นเดือน

    พอถึงวันจริง ไอ้แรงเรื่องมากนี่ดันมาแบบอ่อนๆ จากกดคนทั้งโลกเหลือแค่กดคนป่วย เด็ก คนอ่อนแอ แล้วสัญญาณก่อนที่แรงจะมาก็ดันหายไปดื้อๆ

    แล้วแรงที่มาแบบอ่อนๆนี่ก็ไม่กดแล้ว ดันไปทำให้แขน ขา ชา ปวดหัว ท้องเดิน เหมือนมันไม่ใช่แรงกดแล้ว ออกแนวเชื้อปรสิตต่างดาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  6. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    อ่านสิครับ ก็มันน่าจะเอาไปอ้างไม่ได้ไงครับว่าเป็นเรื่องแหกตา
    ก็ถ้าเขาอ้างว่าแรงกดมันมาแบบอ่อนๆ เขาก็อาจจะอ้างได้อีกสิครับ ว่ามันอ่อนจนกระทั่ง แผ่นดินไหวไม่ถี่ แผ่นดินยุบไม่ถี่ เครื่องบินตกไม่ถี่ ระบบสื่อสารไม่ล่มทั้งโลก

    ไม่เอาน่า ผมเสนอประเด็นที่คุณสามารถเอาไปพิสูจน์ฉีกหน้าได้ชัดเจน น่าสนใจกว่าตั้งเยอะนะครับ
     
  7. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อ่านดูนะ หลายๆรอบ มันคือสัญญาณก่อนแรงจะมา สัญญาณกับแรงมันไม่ได้เกี่ยวกัน

    อ่านดูคุณตอบก็รู้แล้วว่า เข้าใจไปว่าแรงกดกับไอ้พวกแผ่นดินไหวถี่ๆ แผ่นดินยุบถี่ๆ อะไรเนี่ยจะมาพร้อมกัน




    วันที่ 17 ธันวาคม และวันที่ 25 ธันวาคม 2555 อาจยังไม่ปรากฏสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นตามที่พระอาจารย์รัตน์ฯตรวจพบในนิมิตก็ได้ นั่นคือ อาจมีการเลื่อนเวลาการเกิดหายนะออกไปได้อีกระยะหนึ่ง จากการดำเนินการด้วยเมตตาของ 8 กองทัพเทพเทวาฝ่ายดี แต่ สภาวะการเฝ้าระวัง นั้น ครูบาอาจารย์ท่านให้ใช้หลัก ของ 8 – 8 – 8 เป็นสิ่งบอกเหตุเช่นเดียวกัน
    8 สิ่งบอกเหตุดังต่อไปนี้ ไม่ต้องเกิดครบ หากเกิดเพียง 4 ใน 8 ประการ ท่านต้องเริ่มเตรียมเสบียงอาหารโดยเร็ว และ เตรียมการอพยพ เหตุ 8 ประการ ที่จะปรากฏ คือ

    1. การยืน หรือ เดินของตัวเรา ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ลูกหลาน หากเริ่มปรากฏอาการโครงเครงตอนลุกขึ้นยืน หรือ ในเวลาเดิน จะมีอาการสะดุดคล้ายตกหลุมอากาศ ในพื้นที่ราบเรียบธรรมดา หรือ มีการเดินไม่ตรงทางตามปกติ เดินเอนเอียงคล้ายคนเมา หรือ มีอาการอ่อนเพลียง่าย และ/หรือ

    2. มีแผ่นดินไหวในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    3. มีภูเขาไฟระเบิดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    4. มีแผ่นดินยุบตัวลงในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    5. ระบบนำร่องของเรือเดินทะเลมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุทางเรือในสถานที่ต่างๆ และ/หรือ ระบบนำร่องของเครื่องบินมีปัญหา ทำให้เกิดเครื่องบินตก เครื่องบินชนกัน ในสถานที่ต่างๆ และ/หรือ

    6. มีไฟฟ้าดับในสถานที่ต่างๆ ในประเทศต่างๆ เป็นครั้งคราว เป็นวัน หรือ หลายวัน (เช่น ที่เกาะสมุย ไฟฟ้าดับไป 3 วัน 3 คืนทั้งเกาะ เมื่อสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นต้น)

    7. ระบบสื่อสารคมนาคมมีปัญหา ไม่ว่าทีวี โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ท ไอแผ็ด ไอโฟน จะมีการขัดข้องของระบบการสื่อสารโทรคมนาคมบ่อย สายหลุดบ่อยกว่าที่เคยปรากฏ เชื่อมอินเทอร์เน็ทไม่ค่อยได้ โดยปรากฏในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

    8. ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั่วโลกมีปัญหา มีข่าวดาวเทียมตก

    เมื่อใดก็ตาม มีเหตุเกิดถึง 4 ประการจาก 8 ประการแรกแล้ว ท่านต้อง เฝ้าสังเกตไปอีก 8 วัน ถ้า มีแรงดันที่ท้องของแต่ละคนมากขึ้น จนรู้สึกอยากโค้งตัวลง หรือ งอตัวลง จึงจะรู้สึกสบาย คือ เกิดสภาวะการยืดตัวตรงลำบาก เพราะพลังงานกดทับมีมาก นั่นคือ ในช่วงที่เรานั่งอยู่ หรือ ยืนอยู่ก็ตาม เผลอตัวหน่อยเดียว เราเองก็นั่งงอ หรือ งุ้มตัวไปแล้ว นั่นคือเมื่อไรก็ตาม เรารู้สึกอยากงอตัวลง หรือ งอตัวลงอย่างไม่รู้สึกตัว มองไปที่คนอื่นๆ ก็ทำท่างอตัวคล้ายๆกับเรา เหมือนๆกับตัวเราที่งอตัว โดยเราสามารถจะเห็นได้จากคนอื่นๆ และ ตัวของเราเองด้วย อีกทั้ง เริ่มมีการหายใจติดขัด หายใจไม่คล่องจมูกมากขึ้น

    ท่านใด หรือ ญาติพี่น้อง ลูกหลานผู้ใด ที่อยู่ต่างระเทศ จะอยู่ที่ญี่ปุ่น ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกาก็ตาม ขอให้รีบหาเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับมาเมืองไทยโดยเร็ว หากเดินทางได้ในวันที่นั่งงอตัว หรือ เดินงอตัวในวันแรกได้ ย่อมปลอดภัยมากที่สุด ค่าเครื่องบินจะสูงกว่าปกติ 10 เท่าตัวก็ควรจ่าย เพราะถ้าลังเล โอกาสการมีชีวิตอยู่รอด เพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น จะมีน้อยมากๆ ในการอยู่อาศัยในประเทศอื่นๆ หากหาตั๋วเครื่องบินไม่ได้ในวันแรก ท่านจะมีเวลาไม่เกิน 8 วันสุดท้าย ที่จะต้องหาตั๋วเครื่องบินให้ได้ ก่อนที่ทุกคนบนโลกใบนี้ จะหยุดการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด และ ต้องนอนกับพื้นถึง 42 วัน โอกาสรอดชีวิตในต่างประเทศนั้นมีน้อยมากๆ ขอให้ทุกท่านกลับมาเมืองไทย มาอยู่ในสถานที่ที่แวดล้อมไปด้วยญาติพี่น้อง ในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณ ย่อมมีความปลอดภัยมากกว่าอย่างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  8. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    1. ถ้าเป็นแบบที่ว่าจริง โรงพยาบาลทุกแห่งในโลกจะต้องมีคนป่วยอาการแปลกๆเพิ่มขึ้นแบบที่บอกมาจนเอามาเป็นข่าวกันแล้ว ในโรงพยาบาลมีคนป่วย คนอ่อนแอตั้งเยอะแยะ

    2. โรงเรียนต่างๆที่มีเด็กเรียนอยู่เป็นล้านๆทั่วโลก วันที่24ธันวาคม มีมั้ย ข่าวที่ออกมาว่ามีเด็กป่วยแขนขาชา อาเจียน ขับถ่ายอุจจาระพุ่งซักโรงเรียนสองโรงเรียน
     
  9. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    ก็นั่นเป็นข้อความการโพสต์ของใครก็ไม่รู้ หลักฐานมันไม่แน่นหนานะครับ

    แต่ข้อพิสูจน์ที่ผมเสนอ ถ้าพิสูจน์ได้ก็จะถือเป็นการฉีกหน้าเจ้าลัทธิเลยเชียวนะครับ
    ลองไปพิสูจน์ดูหน่อย จะเป็นไรไปละครับ
     
  10. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759


    อืม ท่าทางจะไม่เคยอ่านจริงๆหรือไม่ก็แกล้งไม่รู้เนอะ ข้อความข้างบนที่เอามามันขึ้นต้นว่า
    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญในยุคปัจจุบันท่านหนึ่ง ในสายสมาธิหมุน (หมุนพระธรรมจักร) ท่านศึกษารายละเอียดเชิงลึกจากสาส์นของชาวมายัน และจารึกโบราณจากสโตนเฮ้นจ์ ที่ประเทศอังกฤษ และ ทำกรรมฐานเชิงลึกขั้นถอดจิตออกจากกายได้ โดยให้ลูกศิษย์ทำการตรวจสอบ เป็นข้อมูลคู่ขนาน คือ พระชัยวัฒน์ พนมยงค์ หลานฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ และ ดร.สรัญฯ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ได้ข้อมูลตรงกัน

    เนื่องจากข้าพเจ้า นายมงคล กริชติทายาวุธ ซึ่งได้เข้ารับการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นครั้งแรกจากพระอาจารย์รัตน์ฯ และ พระอาจารย์รัตน์ฯ แจ้งว่า การอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ จะเป็นการจัดอบรมเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2555 ในระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 ณ ห้องกาหลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยได้แจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ท่านจะกลับขึ้นเขาไปที่แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อทำกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป ใครจะนินทาให้ร้ายอย่างไร จะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องที่ท่านนำมาเตือนภัยนี้ ก็สุดแต่จะพิจารณากันเอาเอง



    ข้อความทั้งหมดที่ขึ้นต้นอย่างนี้แหละ ที่เป็นที่มาของคำทำนายและทำให้สานุศิษย์โกลาหลกันใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  11. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    ก็ลองอ่านดูสิครับ ว่าคนเขียนชื่ออะไร..
     
  12. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ก็ลองไปถามสานุศิษย์ดูดิว่ามันจริงมั้ย ถ้าไม่จริงนี่ผิดตั้งแต่ต้นเลย ฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  13. kasarus

    kasarus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +114
    อย่าลืมนะครับ ผมมีข้อพิสูจน์มาท้าทายคุณ
    กรุณาอย่าทำเป็นพูดจาถากถางเฉไฉไปมา แล้วไม่ยอมพิสูจน์เรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้งซะละครับ
     
  14. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ใครเขาเฉไฉไปมากั๊น ดูหัวข้อกระทู้กับเรื่องที่พูดๆกันมาดิ เขาพูดเรื่องคำทำนายกันว่ามันเพี้ยน จู่ๆคุณนั่นแหละเฉไฉจะให้ไปพูดนอกเรื่อง จะเครื่องทำลายหมอกควันหรือล้างดาวอังคาร เราไม่สนใจหรอก กระทู้นี้เค้าพูดเรื่องคำทำนายกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  15. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    วนไปวนมา
    คนไม่ยอมรับ ก็ไม่ยอมรับอยู่ นั่น
    ผมว่าปล่อยไปดีไหม ...

    อย่าตำหนิกรรมของผู้อื่น

    (โ ด ย ส ม เ ด็ จ อ ง ค์ ป ฐ ม)



    ทรงเมตตาสอนไว้เมื่อ ๒๗ กันยายน ๒๕๓๕ พิจารณาแล้วเห็นว่ามีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่อ่าน แล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดผล มีความสำคัญโดยย่อดังนี้

    ในวันนี้ข้าพเจ้าและเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรม มองเห็นชายคนหนึ่งที่แพเลี้ยงปลาของวัด จับปลาสวายตัวใหญ่ (ปลาของวัดเชื่องมาก) ขึ้นมาจากน้ำ ปลาก็ดิ้นจนหลุดจากมือตกน้ำไป เขาก็จับปลาขึ้นมาใหม่ด้วยความสนุกสนาน ในครั้งนี้ปลาดิ้นแล้วตกลงที่พื้นกระดานของแพปลา แล้วจึงตกลงไปในน้ำเมื่อพวกเราเห็นการกระทำ (กรรม) ของเขา ก็เกิดอารมณ์ปฏิฆะ (ไม่พอใจ) พูดขึ้นว่า ”บ้า” อีกท่านหนึ่งพูดว่า “ทะลึ่ง” ซึ่งเป็นการคิดชั่ว พูดชั่ว (สอบตกในมโนกรรมและวจีกรรมทั้งคู่)

    สมเด็จองค์ปฐมทรงเมตตาตรัสสอนว่า (เพื่อสะดวกในการจดจำ แล้วนำไปปฏิบัติต่อ ขอเขียนเป็นข้อๆ) ดังนี้

    ๑. "เหตุที่จิตมีอุปาทาน ยึดเอากรรมของผู้อื่นมาใส่จิตของเรา จึงกล่าวเป็นวจีกรรมหลุดออกไป เพราะเหตุไม่รู้เท่าทันอารมณ์ของจิต ที่ยึดเอาอุปาทานนั้นๆ(บุรุษผู้สร้างกรรมกับปลา) ถ้าไม่ใช่อดีตกรรมส่งผลให้เขาทำกับปลา กล่าวคือ ถ้าไม่ใช่ปลาเคยเป็นคนมาแล้ว จับคนที่เป็นปลาอยู่อย่างนี้แล้ว กรรมนี้ก็เป็นกรรมปัจจุบัน คือ มีอารมณ์ฟุ้งซ่านเหลวไหล เห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ มีอารมณ์สนุกไปกับการเบียดเบียนปลา จึงสร้างกรรมนี้ให้เกิดขึ้น ซึ่งกรรมนี้เมื่อลุล่วงไปแล้ว ก็เป็นกายกรรมอันส่งผลให้เกิดกรรมในอนาคตได้ กล่าวคือจะต้องมีชาติหนึ่งในต่อไปข้างหน้า บุรุษนี้ก็จะเกิดมาเป็นปลาสวาย และปลานั้นกลับชาติมาเกิดเป็นคนจับเงี่ยงปลาชูให้ดิ้นรน จนกระทั่งตกลงกระแทกแพอีก นี่คือกรรมภายนอก แต่เจ้าทั้งสองเอามาเป็นกรรมภายใน สร้างวจีกรรมให้เกิด เท่ากับเห็นคนผิด เห็นปลาถูก จึงไปตำหนิกรรมอยู่อย่างนั้น วจีกรรมคือนินทากับสรรเสริญนั่นเอง”

    ๒. "ถ้าจิตยังละการตำหนิกรรมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมโนกรรมหรือวจีกรรม ก็เท่ากับสร้างผลกรรมให้ต่อเนื่องกันไป ในการตำหนิกรรมไม่รู้จักสิ้นสุด ในเมื่อโลกนี้มันเป็นวัฏจักรอยู่อย่างนี้ ผิดถูกในโลกนี้ไม่มี มันมีแต่กรรมล้วนๆ”

    ๓. "ในเมื่อเจ้าทั้งสองตำหนิกรรมอย่างนี้แล้ว พอไปชาติหน้าก็ประสบมาเป็นคน จากคนที่เป็นปลาก็ต้องมาตำหนิกรรมอีก เมื่อมัวแต่ตำหนิธรรมหรือกรรมของผู้อื่น อันสืบเนื่องเป็นสันตติประดุจกงกำกงเกวียน หมุนเวียนต่อเนื่องกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แล้วพวกเจ้าจะเอาชาติไหนมาตัดสินว่าใครผิด-ใครถูก โลกทั้งโลกมันเป็นอยู่อย่างนี้ เพราะกิเลส-ตัณหา-อุปาทาน-อกุศลกรรมเป็นเหตุ ทำให้จิตของคนกระทำกรรมให้เกิดแก่มโน-วจีและกายได้อยู่เป็นอาจิณ”

    ๔. "เจ้าต้องการพ้นกรรม ก็จงหมั่นปล่อยวาง มองเห็นเหตุแห่งกรรม อะไรจักเกิดก็ต้องคิดว่า กรรมใครกรรมมัน รู้สันตติของกฎแห่งกรรมว่ามันเป็นอย่างนี้ ถ้าเขาไม่ทำกรรมกันมาก่อน กรรมนี้ก็จักไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นมาได้ ตถาคตจึงได้ตรัสยืนยันว่า กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ เมื่อเรารู้เหตุก็จงดับที่เหตุแห่งกรรมนั้น จงอย่ามองว่าใครผิดใครถูก กรรมถ้าไม่ใช่เขาก่อขึ้นเอง มันก็เกิดขึ้นไม่ได้เองหรอก”

    ๕. "เมื่อพวกเจ้าเข้าใจดีแล้ว ก็จงหมั่นทำจิตให้พ้นจากการตำหนิธรรมเถิด ค่อยๆวางค่อยๆทำ กายกรรม-วจีกรรม-มโนกรรม ก็จะละเอียดขึ้นตามลำดับ กำหนดจิตให้ตั้งมั่นอยู่ในวิมุติธรรม ทำอารมณ์สังขารุเบกขาญาณ ยอมรับนับถือกฎของกรรมให้เกิดขึ้นในจิต ทำบ่อยๆเข้ามรรคผลก็จะปรากฏขึ้นเอง อย่าละความเพียรเสีย กระทบเท่าไหร่-เมื่อไหร่-ที่ไหนก็ต้องรู้ อย่าตำหนิธรรมให้เกิดขึ้นกับจิต เห็นกรรมที่เป็นสภาวะอย่างนี้อยู่ให้ชัดเจนอยู่ตลอดเวลาอยู่กับจิต ผู้ไม่รู้ย่อมกอปรกรรมให้เกิดด้วยจิตอุปาทานในกรรมนั้น ๆ กรรมใครกรรมมัน พวกเจ้าอย่าไปเกาะยึดเอากรรมนั้นๆมาตำหนิดีเลว เพราะเท่ากับว่ามีอุปาทานเห็นกรรมนั้น ๆ ว่าดี-เลว เมื่อจิตมีอุปาทานตำหนิดี-เลวจนเป็นมโนกรรม แล้วยับยั้งไม่อยู่ ก็ออกปากตำหนิดี-เลว จนเป็นวจีกรรมอีก”

    ๖. "ถ้าบุคคลไม่รู้อุปาทานนี้ ทำกรรมโดยลงแพไปต่อว่าต่อขานคนที่จับปลาเข้า ถ้ายังอารมณ์ปฏิฆะให้เกิด ก็จะทะเลาะกัน ดีไม่ดีก็จักทำร้ายร่างกายกัน จนเป็นกายกรรมสืบเนื่องต่อกันไปได้ ดังมีตัวอย่างมามากมาย คนอื่นเขาทะเลาะกัน สร้างกรรมกัน คนนอกเข้าไปสอดแทรก เป็นกรรมการห้ามปราม คู่กรณีไม่ยอมฟังเกิดอารมณ์โทสะขึ้นหน้า ลงมือทำร้ายกรรมการเสียจนตายไปด้วยความหมั่นไส้ เพราะฉะนั้น เมื่อพวกเจ้าปรารถนามรรคผลนิพพาน ก็ไม่ควรต่อกรรมกันไปอีก ยุติการตำหนิกรรมลงเสียให้ได้ ไม่ว่าจักเป็นกายกรรม-วจีกรรม-มโนกรรม ก็ต้องยุติลง ใช้ศีล-สมาธิ-ปัญญาอันเกิดแก่จิต พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงในสันตติวงล้อวัฏจักรกรรมว่ามันเป็นอยู่อย่างนี้เอง พยายามทำจิตให้ยอมรับกฎของกรรมโทษของกรรมไม่ว่าดีหรือเลวนั้นไม่มี เห็นแต่กงกำกงเกวียนหมุนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด จงยอมรับกฎของกรรมซึ่งยุติธรรมที่สุด ใครทำใครได้ อย่าไปมีหุ้นส่วนกรรมกับใครๆเขาโดยการตำหนิกรรมเป็นอันขาด จำไว้นะ ”

    ขอยกตัวอย่างอารมณ์ที่สอบตกสัก ๒ เรื่อง

    เรื่องแรก...มีความโดยย่อว่า มีคนมาเล่าให้ฟังว่า หญิงแก่คนหนึ่งว่าจ้างรถจากในเมืองให้มาส่งที่วัดท่าซุงในราคา ๕๐ บาท พอรถมาส่งที่วัด หญิงแก่กลับให้ค่ารถเพียง ๑๐ บาท บอกว่าฉันมีแค่นี้จะเอาหรือไม่เอา คนรถก็ตำหนิหญิงคนนั้นว่า อะไรกัน คนมาปฏิบัติธรรมที่วัดใหญ่โต แต่ไม่มีสัจจะ พอได้ยินเขาเล่าเพียงแค่นี้ จิตก็ปรุงแต่งตำหนิหญิงแก่นั้นเสียยืดยาว คือ ร่วมวงนินทาปสังสากับผู้เล่าเสียเพลิน กว่าจะรู้ตัวว่าสอบตก ผิดทั้งมโนกรรมและวจีกรรม ก็ว่าไปครบสูตรแล้ว จึงต้องขอขมาพระรัตนตรัย

    เรื่องที่ ๒ คือ ตัวของข้าพเจ้าเอง พอขอขมาพระรัตนตรัยเรื่องการตำหนิกรรมของบุรุษผู้สร้างกรรมกับปลาแล้ว ตาก็เห็นหนังสือพิมพ์พาดหัวโต ๆ ว่า เมืองไทยมีคดีฆ่าคนตายมากเป็นอันดับ ๒ ของโลก จิตก็ตำหนิกรรมทันทีว่าไม่จริง เป็นอุปาทานของนักข่าวเอง เพราะประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศที่มีคดีฆ่าคนมากกว่าเรา แต่หนังสือพิมพ์เขาไม่ประโคมข่าวในหนังสือพิมพ์หน้าแรกเหมือนเมืองไทย เมืองไทยชอบประโคมข่าวชั่วร้ายข่าวไม่ดีในหน้าแรกตัวโตๆ ชอบขายข่าวบนความทุกข์ของชาวบ้าน ว่าเสียยาวกว่าจะรู้ตัวว่าสอบตก ผลก็คือต้องขอขมาพระรัตนตรัยอีกครั้ง: หมายเหตุ

    นี่คือตัวอย่างเมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว ผู้อ่านพระธรรมบทนี้แล้วหากหวังก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม เมื่อรู้ตัวเองว่าผิดก็ควรจะละอายแก่ใจ (มีเทวธรรมหรือหิริ - โอตตัปปะ) ให้ขอขมาพระรัตนตรัยทุกครั้งจนเป็นนิสัย

    ผมขออาราธนาบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง ขอให้ผู้อ่านด้วยความศรัทธาทุกท่าน จงโชคดีในธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ ในชาติปัจจุบันนี้



    รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวนที่มาhttp://www.tangnipparn.com/page4_b00k3.html




    __________________
    ขอเชิญร่วมบุญโรงทานในนามเว็ปพลังจิตเนื่องในวันทำบุญวันที่ระลึกวันคล้ายวันเกิดของ
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วันที่ ๗ ต.ค ร่วมบุญโรงทานเนื่องในวันทำบุญวันระลึกวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ - PaLungJit.com

    _________________

    Top

    Display posts from previous: All posts1 day7 days2 weeks1 month3 months6 months1 year Sort by AuthorPost timeSubject AscendingDescending
    Page 1 of 2
    [ 13 posts ] Go to page 1, 2 Next
     
  16. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    คือคนมันกะจะมาโชว์พาวไง แต่ข้อมูลมันไม่แน่น คำทำนายก็ไม่เคยอ่าน โพสท์มายังเข้าใจไปว่าแรงกดทับกับไอ้พวกสัญญาณแผ่นดินไหวถี่ๆ แผ่นดินยุบถี่ๆ ระบบสื่อสารล่มทั้งโลกมันมาพร้อมกัน เถียงไม่ได้ก็เฉไฉจะให้ไปพูดเรื่องเครื่องสลายหมอกควันอะไรก็ไม่รู้

    เราอยากจะเอาคลิปจากYoutube แล้วมาโต้ให้ดูเป็นจุดๆไปก็ได้ ก็กลัวว่ามันจะเกินไป เห็นว่ายังไงท่านก็ยังเป็นพระ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  17. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    สรุป อ. และ ลูกศิษย์ สร้างกรรมกันมา
    เราควรใช้ ศีล-สมาธิ-ปัญญาอันเกิดแก่จิต พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงในสันตติวงล้อวัฏจักรกรรมว่ามันเป็นอยู่อย่างนี้เอง พยายามทำจิตให้ยอมรับกฎของกรรมโทษของกรรมไม่ว่าดีหรือเลวนั้นไม่มี เห็นแต่กงกำกงเกวียนหมุนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด จงยอมรับกฎของ
    กรรม

    พวกเราจะได้ไม่สร้างผลกรรมให้ต่อเนื่องกันไป
     
  18. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ปั้ดโถ่!!! ที่แท้ก็สานุศิษย์มาเองนี่หว่า มาทำแกล้งโง่ทำไก๋ไม่รู้จักว่าคำทำนายเป็นการโพสท์ของใคร เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เฮ้อ! คนเราทำไปได้

    ส่วนเรื่องแรงกดกับสัญญาณอันไหนควรมาก่อน คงไม่รู้จริงนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jjj.jpg
      jjj.jpg
      ขนาดไฟล์:
      881.2 KB
      เปิดดู:
      73
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  19. samrung

    samrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +1,258
    "ปั้ดโถ่!!! ที่แท้ก็สานุศิษย์มาเองนี่หว่า มาทำแกล้งโง่ทำไก๋ไม่รู้จักว่าคำทำนายเป็นการโพสท์ของใคร เหมือนไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เฮ้อ! คนเราทำไปได้

    ส่วนเรื่องแรงกดกับสัญญาณอันไหนควรมาก่อน คงไม่รู้จริงนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า "



    เก่งมากครับ ที่ไปค้นพบ
    ผมไม่มีเวลา กับเรื่องนี้แล้ว ต้องทำงาน ต่อ ตอนนี้ 12.08 PM
    ขอสร้างกรรมครั้งสุดท้าย


    อภัย ให้กันได้ ไม่เป็นไร
    ดิ้นมาก ผลเสีย จะ ตกกับ อาจารย์
    บอกแล้ว บาป ก็ส่วนหนึ่ง บุญก็ส่วนหนึ่ง
    ลบล้างไม่ได้ ละลายรวมกันก็ไม่ได้
    พยายาม เอา บุญ มาละลายบาป
    ถ้าทำได้ ทักษิณ คงไม่หนี ไปไหนหรอก







    ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  20. Reflect

    Reflect เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    887
    ค่าพลัง:
    +1,439
    ผมนับถือคุณเลยจริงๆนะครับที่กล้าไปนัวกับสาวกตัวพ่อ พูดไปมันก็ไม่ฟังหรอกครับ เพราะมันเกิดมาเพื่อแถ!!! ไม่ได้เกิดมาเพื่อทำอย่างอื่น คนมันไม่ยอมรับมันก็จะหลอกตัวเองอยู่เรื่อยไป ใครจะพูดยังไงมันก็จะแถ มันทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วนอกจากแถ
     

แชร์หน้านี้

Loading...