อย่างมงายในวิทยาศาสตร์

"อนุโมทนา" หมายถึง ยินดีตาม, ยินดีด้วย, พลอยยินดี
"ไม่เห็นด้วย" ความหมายก็ตามตัวอักษร

พระพุทธเจ้าทรงเคารพธรรม คุณมหาวัดใช้คำว่า "ไอ้" กับพระธรรม ผมคิดเอาเองว่า "ไม่สมควรอย่างยิ่ง"
ส่วนใครคิดว่า "สมควร" กด "อนุโมทนา" ก็แล้วแต่ครับ

คุณมหาวัดพูดคำหยาบ พูดคำด่า คุณคิดว่าดี คุณสนับสนุนว่าดีคุณกด "อนุโมทนา" ให้คุณมหาวัด ผมเผยแพร่ธรรม
คุณกดไม่เห็นด้วย คุณเห็นต่างกับผมแบบนี้ก็ไม่แปลกครับ เหมือนคุณเห็นด้วยกับคนพูดคำหยาบ คำด่าครับ
การพูดคำหยาบเป็นอกุศลกรรมครับ คุณเห็นด้วยกับคนพูดคำหยาบ คำด่า คุณเห็นด้วยกับอกุศลกรรม ผมไม่เอาด้วยครับ
เจตนานั้นคือ "กรรม" โชคดีนะครับ

 

ถกเถียงธรรมะ เห็นด้วยไม่เห็นด้วยเพราะความรู้ต่างกันไม่แปลก
แต่คุณอยากชกหน้าผมบนเว็บบอร์ดตั้งแต่หน้าแรก นักเลงทางโลกไม่พอ
เป็นนักเลงบนเว็บบอร์ดด้วย ผมเวทนาคุณจริงๆ ลูกพี่คุณด่าผม ผมไม่ด่าตอบ
ลูกพี่คุณไม่มาโพสต์ คุณเดือดร้อนแทนลูกพี่ คุณคิดปองร้ายผม
การปองร้ายเป็นอกุศลกรรม เจตนานั้นคือ "กรรม" โชคดีนะครับ

 

สำหรับคนไทย ''อย่างมงายในไสยศาสตร์'' มากเกินไป

เอะอะเห็นแปลกจุดธูปไหว้อย่างเดียว และคนนี้เดี๋ยวนี้ชอบใช้พระใช้เจ้ามาเป็นเกาะกำบังตัวเอง
พูดตามที่เห็น ตามความเป็นจริงในสังคมนะครับ โลกในตอนนี้มันไม่ได้สวยอย่างที่ใครหลายคนคิด

 

ไม่เลิกอีกคุณ ลูกพี่ผมเขาเห็นว่า คุณทำตัวทุเรสน่าสมเพสพอแล้ว เขาก็เลยไม่มาเล่นงานคุณอีก แต่ไปเล่นงานลัทธิอนุตรธรรม แทนที่จะสำนึก นะคุณ ก็เพราะสันดานคุณมันชั่วแบบนี้ไง ผมถึงอยากชกคุณ ไม่ต้องมาปัดความรับผิดชอบหรอก อีกอย่างผมไม่เคยพูดว่าอยากชกคุณ ผมบอกถ้าผมโดนคุณไส่ร้ายป้ายสี แบบคุณมหาวัดโดน เป็นผม ผมรู้ตัวนะคงชกหน้าแหกไปแล้ว ไม่แค่ด่าหรอก ก็แค่นี้ มันก็แค่คำเปรียบเปรยนะคุณ ผมใช่คู่กรณีคุณซะที่ไหนกันล่ะ...คุณซะอีกพาลที่ไม่มีเอาด้วยเรื่องคุณใส่ร้ายคนอื่น เพราะคนอื่นเขารู้ทันครับ

ผมเดือนร้อนแทนลูกพี่ผมแล้วมันหนักหัวคุณหรือครับ อย่างน้อยลูกพี่ผมก็มีคนคบ คุณมีปะล่ะ ไม่มีนะสินะ โถ่สมาชิกไม่เห็นด้วยสี่ห้าสิบคน คุณมหาวัดเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรอครับมีลูกน้องตั้งสี่ห้าสิบคน เอาเข้าไป.....คุณน้อยใจที่ไม่มีใครรักอะดิ

ชั่วแล้วโดนคนอื่นเขาแบน แทนที่จะสำนึก ที่ไหนได้ ยังรักษามาตรฐานไว้เหมือนเดิม...วันนั้นก็โดนผู้หญิงด่า แทนที่จะมีจิตสำนึกโถ่ไม่มีกะเขาเลย
ผมล่ะระอาคุณจริงๆๆ บอกผมป้องร้ายคุณผมจะปองร้ายคุณไปทำไมครับ แค่เห็นชื่อคุณผมก็อ้วกแตก.....คลื่นใส้แล้ว คิดว่าคุณมีความสำคัญขนาดที่ผมจะต้องมานั่งปองร้ายคุณเชียวหรอครับ พูดมาได้

คนที่ไม่เห็นด้วยกับอุรุเวลาในกระทู้ 555555ที่ตั้งแต่เกิดเรื่องมา
ขนาดนี้แล้วยังจะแก้ตัวอะไรอีกครับ พ่อคนดี ทำเป็นเอาดีเข้าตัวชั่วใส่คนอื่น นี่แค่บางส่วนนะเนี่ย ยังมีอีกที่ไม่ได้รวบรวมมา จะทำสถิติกินเนสบุ๊คหรือครับ...อุรุเวลา


คุรุเทพ (19-12-2012), อโศก (20-12-2012), Bhagwan Shree Rajneesh (21-12-2012), Bodhidharma (21-12-2012), Chipmunk (21-12-2012), dakini (03-01-2013), HLD (21-12-2012), Nipora (06-01-2013), Por.f.R.P.Fenyman (20-12-2012), sam.337 (18-12-2012), Shree Rajneesh buddha (19-12-2012), Snow in the Summer (19-12-2012), Sulak Sivaraksa (28-12-2012), Swami Vivekananda (20-12-2012), ThichNhatHanh (21-12-2012), กฤษณา(21-12-2012),สมบรูณ์(20-12-2012), ซงแทฮา (19-12-2012), จ่าง (20-12-2012), ตรุงปะ (19-12-2012)), ตันติปา(17-12-2012) , ทะไลลามะ (21-12-2012), นางมะลิ (19-12-2012), Iyengar (21-12-2012), ผีอีแพง (20-12-2012), ลูกหว้า(19-12-2012), ลมใต้ปีก(19-12-2012), ลมสุริยะ (20-12-2012), พรหมณี(20-12-2012), พระกฤษณะ (28-12-2012),พระเกษม (วันนี้), มหาวัด (19-12-2012), มันตระเทวะ (19-12-2012), สมภารสิน (20-12-2012), น้ำฝน(19-12-2012), ใจอะ(19-12-2012), สุมิตรา (20-12-2012), อีบีหูยาว (19-12-2012), อีแทกิล (21-12-2012), เทพสังหาร (21-12-2012), เล่าจื้อ (20-12-2012), โพธิธรรม (20-12-2012), โอโช (21-12-2012), ไสบาบา (22-12-2012)

 

อกุศลกรรมบถ ๑๐ อย่าง
๑. ปาณาติบาต [การยังสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงไป]
๒. อทินนาทาน [การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้]
๓. กาเมสุมิจฉาจาร [การประพฤติผิดในกาม]
๔. มุสาวาท [พูดเท็จ]
๕. ปิสุณาวาจา [พูดส่อเสียด]
๖. ผรุสวาจา [พูดคำหยาบ]
๗. สัมผัปปลาป [พูดเพ้อเจ้อ]
๘. อภิชฌา [ความโลภอยากได้ของเขา]
๙. พยาบาท [ความปองร้ายเขา]
๑๐. มิจฉาทิฏฐิ [ความเห็นผิด]

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑ หน้าที่ ๒๔๕/๒๘๘

 

พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า
"ดูกรจุนทะ ก็เพราะเหตุแห่งการประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนี้
นรกจึงปรากฏ กำเนิดดิรัจฉานจึงปรากฏ เปรตวิสัยจึงปรากฏ
หรือว่าทุคติอย่างใดอย่างหนึ่งแม้อื่นจึงมี ฯ"

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๔ หน้าที่ ๒๔๐/๓๓๓

 

คบคนมีจิตใจคิดแต่กุศลกรรม ๑๐ อย่าง เพียงคนเดียว ยังดีกว่า ประเสริฐกว่า
คบคนมีจิตใจคิดแต่อกุศลกรรม ตั้งสี่ห้าสิบคน ร้อยคน พันคน หมื่นคน หรือมากกว่าหมื่นคน

 

พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ย่อมคบค้ากันย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ

พวกทำปาณาติบาต ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกทำปาณาติบาต
พวกทำอทินนาทาน ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกทำอทินนาทาน
พวกทำกาเมสุมิจฉาจาร ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกทำกาเมสุมิจฉาจาร
พวกมุสาวาท ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกมุสาวาท
พวกพูดส่อเสียด ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกพูดส่อเสียด
พวกพูดคำหยาบ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกพูดคำหยาบ
พวกพูดเพ้อเจ้อ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกพูดเพ้อเจ้อ ฯ

พวกเว้นขาดจากปาณาติบาต ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากปาณาติบาต
พวกเว้นขาดจากอทินนาทาน ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากอทินนาทาน
พวกเว้นขาดกาเมสุมิจฉาจาร ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจาร
พวกเว้นขาดจากมุสาวาท ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากมุสาวาท
พวกเว้นขาดจากคำส่อเสียด ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากคำส่อเสียด
พวกเว้นขาดจากคำหยาบ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากคำหยาบ
พวกเว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับพวกเว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๑๖๕/๒๘๘