ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน พระผู้เมตตาไม่มีประมาณ.........

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wx6n5CR7ZwfE2OLb" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/a05/shZCFe.jpg" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/wx6szWrQd2C6Brip" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/9f3/dTxgBZ.jpg" /></a>

 

เหรียญรุ่นนี้ผมว่าเป็นอะไรที่งดงามมากๆครับ ดูอ่อนช้อยสวยงามจริงๆ แต่ประวัติการสร้างเหรียญรุ่นนี้ ยังไม่แน่ใจว่า พ.ศ.อะไร แจกงานอะไร

 

รู้สึกว่าจะปี 46 ครับ เห็นเวปของวัดเขาบอกไว้ครับ แต่หลวงปู่ทวดคตไม้สักนี้ซิครับ สร้าง 9 องค์ พี่ยังได้มาครอบครองสุดยอดจริงๆครับ

 

วันนี้ขออนุญาตลงข้อมูลของชนวนมวลสาร พระกริ่ง 3 รอบ ข้อมูลทั้งหมดผมนำมาจากที่คุณเตอร์โพสเอาไว้ในเว็บของวัดสันพระเจ้าแดงครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ


ชนวนสำคัญที่มีเพิ่มเข้ามาเป็นพิเศษ สำหรับพระกริ่งรุ่น 3รอบ คือ

1. ฐานพระสิงห์ เนื้อสัมฤทธิ์ อายุนับพันปี เป็นของเชียงแสน มีน้ำหนักมากถึง 5-60 กิโลกรัม

2. ขวานฟ้ากายสิทธิ์ เนื้อสัมฤทธิ์ เป็นของกายสิทธิ์ที่คณะศิษย์นำมาถวายไว้ แบบเดียวกันกับขวานฟ้าของครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

3. ยอดฉัตรโบราณ, ทองจังโก๋โบราณ

4. ทองคำ เนื้อเงินบริสุทธิ์ ทองแดง จำนวนมาก ที่คณะศรัทธานำมาถวาย


ทั้งหมดนี้ดูได้จากเนื้อพระรุ่น 3รอบ ซึ่งพระแต่ละองค์จะมีสีสันที่แตกต่างกัน อันเนื่องมาจากการใส่ชนวนเป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญคือ ชนวนเ่ก่าตั้งแต่ประมาณปี 2542 จนถึงชนวนรุ่น "พระธรรมธาตุ" ที่เหลือทั้งหมด ถูกใส่ลงไปหล่อพระรุ่นนี้ทั้งหมด

ผมเองจะลงให้ส่วนของภาพถ่ายให้ได้ชมกัน ส่วนรายละั้เอียดต่างๆ ทางพี่ๆทีมงานจะมาเสริมเพิ่มเติมให้ได้อ่านกันครับ

1. เหรียญทองคำ, ทองคำแท่งจารยันต์, ทองรูปพรรณ

 

2.ขวานฟ้าสัมฤทธิ์ โลหะกายสิทธิ์

ขวานฟ้าของครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

 

3. เงินพดด้วง และเหรียญกษาปณ์

4. แท่งชนวนเก่าของวัด ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน

5. แผ่นเงินจารยันต์ดาบสะหรี๋กันชัย

6. แผ่นจาร เนื้อทองเหลือง, เิงิน และเหรียญพระจำนวนมาก

 

7. เหรียญพระพรหมรุ่นแรกปี22 โลหะผสม ล.ป.ดู่ วัดสะแก

ฐานพระเชียงแสน จากวัดป่าบง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ก้านช่อชนวน กริ่งสุเมโธ กริ่งโพธิสัตว์นาคา. กริ่งโพธิสัตว์ กริ่งคู่บารมี ช่อเศรษฐีนวะโกฏิ ชนวนก้นเบ้ารุ่นพระธรรมธาตุ ชนวนกระกริ่งธรรมจารี ชนวนพระพุทธกวัก ชนวนสี่หูห้าตา ชนวนรูปเหมือน ชนวนรูปเหมือนครูบาศรีวิชัย

 

ชนวนพระกริ่งธัมมจารี

ชนวนที่เป็นเนื้อเงินต่างๆ
-ท่านครูบากฤษดา ได้เมตตาจารแผ่นยันต์ดวง ประสูตร-ตรัสรู้ ของพระพุทธเจ้า ตามตำราของล้านนา
-พระไภษัชยคุรุ เนื้อเงินของธิเบต
-พระยูไล เนื้อเงินของธิเบต
-ตะกรุด รุ่นเก่า เนื้อเงินของวัดวังเวียน 4 ดอก
-ชนวนพระหูยาน เนื้อเงินวัดราชบพิตร
-ชนวนพระกริ่งเนื้อเงิน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
-ตะกรุดเนื้อเงิน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
-ชนวนพระไพรีพินาศเนื้อเงิน วัดบวร รุ่นเก่า
-ชนวนพระหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เนื้อเงิน
-แหวนเงินลงถม หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
-ชนวนพระกริ่ง หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก เนื้อเงิน
-ตะกรุดเนื้อเงินเก่าสมัยต่าง
-แผ่นยันต์ จากครูบาอาจารย์ต่างๆ
-เงินพดด้วง เก่าแก่ รวมทั้งที่ขุดได้จากใต้ดินจำนวนหนึ่ง
-เหรียญเงิน สมัยรัชการที่ 5 จำนวนมาก
...................ฯลฯ

ชนวนที่เป็นเนื้อโลหะอื่นๆ รวมทั้งแผ่นยันต์ของท่านครูบาอาจารย์ต่างๆ และชนวนที่ญาติธรรมหามาร่วมสร้างพระในครั้งนี้ดังนี้..

-พระเนื้อโลหะของ ล.ป.พิศดูทุกรุ่น
-หลวงปู่พิศดู ได้มอบพระอุปคุต หล่อโบราณ ศิลปะเขมร ได้นำมาร่วมหล่อในครั้งนี้ด้วย
-ชนวนพระกริ่ง คงสวัสดี ล.พ.คง วัดวัดสรรพรส
-ล.ป.บุญหนา ธัมมะทินโน
-ล.ป.ผาง โกสโล วัดป่าภูหินแตก
-ล.พ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
-ตะกรุดวัดสะพานสูง
-ชนวนพระอุปคุต วัดอโศการาม
-ล.ป.แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
-ล.พ.จำลอง วัดเจดีย์แดง
-ล.พ.จง วัดหน้าต่างนอก
-ล.ป.เกลี้ยง วัดศรีธาตุ
-เหรียญ ล.ป. เสาร์-ล.ป.มั่น รุ่นแรก
-ล.ป.ฝั้น อาจาโร
-ฐานชนวนพระกริ่ง ล.ป.พล วัดเทียนดัด
-ห่วงเหรียญพระต่างๆ จำนวนมาก
-พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน
-ล.ป.จ้อย วัดศรีอุทุมพร
-ชนวนกริ่งเจริญลาภ ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน
-ชนวนพระบูชา ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน
-ชนวนพระกริ่ง สัมฤทธิ์ผล ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน
-แหวนปลอกมีด ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน
-ชนวนเหรียญหล่อ ล.ป.แว่น ธนปาโล
-ชนวนเหรียญหล่อ ล.พ.หนุน วัดเสม็ดโพธิ์ศรี
-ชนวนพระต่างๆ ของวัดท่าซุง
-หลวงตา พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
-ล.ป.คร่ำ วัดวังหว้า
-ล.พ.มนัส วัดทุ่งจันดำ
-ล.ป.สรวง(เทวดาเล่นดิน) รุ่นแรก
-ชนวนหล่อ องค์จตุคาม-รามเทพ มากมาย
-ล.ป.ทิม วัดพระขาว
-เหรียญ เงินสมัยรัชการที่ 5 จำนวนมาก รวมทั้งที่ขุดพบจากใต้ดินอีกจำนวนหนึ่ง
-เหรียญเงินรู รูปกงจักร
-ตะกรุด ล.พ.คง วัดวังสรรพรส
-ตะกรุด ล.ป.หมุน วัดบ้านจาน
-ล.ป.เมฆ วัดลำกระดาน
-ล.ป.มี วัดมารวิชัย
-ล.พ.ชำนาญ
-พระสมุจันทร์ วัดแพรกษา
-เหรียญของขวัญวันเกิด ล.พ.ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
-ชนวนรูปเหมือน พระเจ้าตากสิน วัดเวรุราชิน
-ตะกรุด ล.ป.แว่น ธนปาโล
-ล.ป.บุญฤทธิ์ สำนักสวนทิพย์
-ล.ป.คำคณิง วัดถ้ำคูหาสวรรค์
-ชนวน ล.พ.เงิน วัดบางคลาน หลายรุ่นมากๆ
-ชนวนพระกริ่งสาย วัดสุทัศน์ หลายรุ่นมาก
-ชนวนล.พ.เจ็ดกษัตริย์ ล.ป.สอ พันธุโล
-ชนวนพระเจ้าสิบสองปันล้าน
-หัวแหวน นอโม
-ล.พ.เงิน วัดดอนยายหอม
-ชนวนพระของหลวงปู่กาหลง หลายรุ่น
-พระหูยาน วัดราชบพิตร
-สมเด็จพระสังฆราช (อยู่) ญาโนทยฺ มหาเถระ วัดสระเกษ
-ล.พ.ดำ วัดเขาพูลทอง
-ชนวนหล่อพระ ท่านพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง และ วัดอโศการาม
-ชนวนวัวธนู ล.ป.คำแสน วัดป่าดอนมูล
-ชนวนรูปหล่อ ล.พ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
-ล.พ.แพ วัดพิกุลทอง
-ชนวนพระกริ่ง-ชัยวัฒน์ ไพรีพินาศ รุ่นชัยชนะศึก วัดบวรฯ
-ล.พ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ
-ชนวนพระนเรศวร หลายรุ่น
-ชนวนพระวัดปากน้ำภาษีเจริญ
-ชนวนพระครูบาศรีวิชัย หลายรุ่น
-ล.ป.เจียม อติสโย จ.สุรินทร์
-ตะกรุด ล.พ.คูณ วัดบ้านไร่
-ตะกรุด ล.ป.บุญตา วัดอินทรีวนาราม จ.ชัยภูมิ 5 ดอก
-ชนวน ล.พ.ชม วัดโป่งนาเกลือ
-เหรียญ ล.ป.หมุน จำนวนมาก
-ล.ป.สมชาย วัดเขาสุกิม
-ชนวนพระของ ญาท่านสวน วัดนาอุดม
-ชนวนเหรียญหล่อ ล.พ.เสาร์ วัดดอนหญ้านาง
-ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล
-ล.พ.ทองอยู่ วัดหัวสำโรง
-ล.ป.ชื้น วัดญานเสน
-ล.ป.ชอบ ฐานสโม จ.เลย
-ล.พ.เกษม สุสานไตรลักษณ์
-เหรียญโป๊ยเซียน
-ล.ป.เหรียญ วรลาโภ
-พระยอดธง สุโขทัย
-ชนวนพระ กรมหลวงชุมพร
-ชนวนพระสิวลี ล.พ.แฉ่ง วัดบางพัง
-ล.พ. ซำ วัดตลาดใหม่
-ชนวนปิดตาพังพระกาล หลายรุ่น
-ล.ป.มา โฆสโก วัดศรีประดูวนาราม
-ชนวนล.พ.ปาน วัดคลองด่าน
-ชนวนเหรียญหล่อ ล.พ.ชื่น ภิรมณ์เมือง
-ชนวน พระกริ่ง ม.ป.ร. วัดราชประดิษฐ์ชนวนรูปหล่อ ล.พ.เกษม หลายรุ่น
-พระชัยหลังช้าง
-เหรียญต่ออายุ ล.พ.ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
-ล.พ.ทองอยู่ วัดท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
-ล.ป.ตื้อ อจลธัมโม
-ชนวนพระกริ่งพุทธปริต ชินบัญชร
-ชนวนเหรียญหล่อ ล.พ.เชิญ วัดโคกทอง
-พระร่วงรางปืน ดอยสุเทพ

-เงินรางของลาว สมัยเก่า และเหรียญเงินต่างประเทศ จำนวนมาก
-และกำไล ชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณ และเทวรูป สมัยต่างๆ อายุต้งแต่ 400-1,000 ปี
-ฆ้องชัยโบราณ ออกศึก

 

กราบ กราบ กราบ ครูบา คราบ

 

กราบแทบเท้าครูบากฤษดาครับ เหรียญเจ้าสัวสวยมากเลยครับพี่เอท ที่วัดยังมีเหลือให้บูชาหรือป่าวครับ

 

น่าจะหมดไปนานแล้วครับ สร้างปี ๔๕ จำนวน ๔๐๐ เหรียญครับ

 

หุ่นพยนต์เล็ก

เอาไปเลี่ยมแขวนติดไว้ที่กระเป๋าไปโรงเรียน ของลูกชายครับ ครูบาท่านเมตตาจารให้ด้วย​

.

​

 

ขอร่วมแจมครับ เขาว่าล๊อกเก้ตรุ่นนี้ให้คนบูชาเมื่องานกฐินของทางวัดห้วยยาบ ที่ครูบาท่านอุปถัมภ์อยู่ครับ

 

เรียกว่า "ฟลุ๊ค"จะเหมาะกว่าครับ แหะ แหะ

 

​

ขอนำปุจฉา วิปัสนา ที่ศิษย์วัดสันพระเจ้าแดงได้สนทนาธรรมกับท่านครูบากฤษดามาให้อ่านกันครับ

ตอน ทำไมพระเครื่องแต่ล่ะสำนักขลังไม่เท่ากัน


ถาม : กราบท่านครับคือเกี่ยวกับวัตถุมงคลเห็นครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณธรรมหลายท่านกล่าวชมวัตถุมงคลเฉพาะบางรูปเท่านั้นไม่ทั้งหมดล่ะครับ เป็นไปได้ไหมที่พลังที่บรรจุไม่เท่ากันน่ะครับ



ครูบา : ถูกแล้ว พระเครื่องที่เกิดจากคาถาอาคมต่างๆปลุกเสกน่ะอิทธิฤทธิ์สู้อาจารย์ที่ได้สมาบัติไม่ได้เลยห่างกันดั่งฟ้ากับดิน เพราะท่านเหล่านั้นมีกำลังฌาณเป็นบาทเข้าฌาณให้สูงเท่าที่จะทำได้แล้วถอยลงมาอยู่ที่อุปจารฌาณเพื่อให้เกิดขุมพลังน่ะต้องอาศัยกำลังแห่งสมาบัติแล้วอธิฐานอัญเชิญคุณงามความดีทั้งหลายมีพระรัตนไตรเป็นต้น พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมาช่วยแล้วก็บริกรรมมนต์ต่างๆที่ได้เรียนมานิดหน่อยก็เต็มแล้วน่ะไม่ต้องเสกนานขนาดนั้น ส่วนคนที่ใช้อำนาจคาถาที่ตัวเองเรียนมาเสกน่ะโดยใช้กำลังตัวเองเป็นเกณฑ์กำลังสมาธิไม่พอเพียงส่วนมากไม่นานก็เสื่อมหรือไม่ก็ไม่มีอะไรเลย ต้องมีฌาณเป็นพื้นฐานน่ะถึงจะดีมาก




ข้อมูล จากเวบครูบากฤษดา http://www.khubakrissda.com

 

กราบครูบากฤษดา สวัสดีพี่เอทและสมาชิกทุกท่านครับ...

 

อย่างงี้ไม่ฟลุ๊คหรอกครับ มีวาสนาจึงได้ครอบครอง พระท่านเลือกแล้วครับ

 

น้องใหม่พึ่งเริ่มสะสมวัตถุมงคล ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆๆลูกศิษย์ครูบากฤษดา ทุกท่านด้วยครับ

 

​

ตอน ท่านที่ทรงสมาบัติมีอิทธิฤทธิ์ไหม ?
ถาม : ท่านครูบาครับ พระหรือ อาจารย์ฆารวาสที่ทำสมาธิจิตจนได้ฌานสมาบัติสามารถที่จะแสดงฤทธิ์ได้เหมือนกันทุกๆท่านหรือไม่ครับครูบา
ครูบา : ท่านที่ได้สมาบัติฌานไม่สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ได้เหมือนกันทั้งหมดหลอกน่ะโยม บางครั้งมันก็ขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญทางสมถะด้วยว่าจะเข้มข้นขนาดไหนจิตผ่านทางสมาธิมากน้อยเพียงไร บางท่านบำเพ็ญทางสมถะน้อยแต่ใช้สติควบคุมจิตพิจารณาวิปัสสนากรรมฐานไปเลยจนเกิดเป็นสมาธิจิตก็ทรงฌานไปด้วยพิจารณากำหนดรู้ไปเรื่อยๆจนเกิดปัญยาความรู้แจ้งแทงตลอดในความจริงทั้งหลาย แบบ สุขวิปัสสโก น่ะ มีฌานสมาบัติแต่ไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆได้ แต่เข้านิพพานได้น่ะ ผิดกับบางท่านฝึกทางสมถะแบบเข้มข้น ฝึกฌาน ฝึกธาตุกสิน ต่างๆ ชนิดที่เข้มข้นแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยขอให้ได้มีฤทธ์เถอะเอาหมด เกจิท่านเหล่านี้ส่วนมากมีการฝึกอาคมต่างๆเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว บวกกับการฝึกกสินเข้าไปอีก จนบรรลุฌาน อย่างน้อยต้องได้จตุฌาน 4 เป็นบาทฐาน การแสดงฤทธิ์ต่างๆถึงจะเข้าเท่าเข้าทีไม่อายใครแล้วก็ทำไปเรื่อยๆจนถึงสมาบัติ 8 ทีนี้แหละ ถือว่า สุดยอดในทางโลก แต่ไม่สุดยอดในทางธรรมน่ะเพราะถือว่าวิปัสสนากรรมฐานยังไม่เท่าไหร่ถ้าพลาดไปฌานก็เสื่อมได้เช่นกัน ถ้าตายในสมาบัติก็ได้พรหมสมบัติ แต่ไม่ใช่พรหมอริยะน่ะ

ท่านที่ผ่านทางสมาธิจิตมาอย่างเข้มข้นส่วนมากมีฤทธิ์มากทีเดียว บางครั้งก็เป็นของเก่าแต่ปางก่อนด้วยที่ติดตัวมาเพราะเขาเคยได้มาฝึกอีกมันก็ง่ายและเร็วกว่าคนอื่นที่พึ่งจะฝึกน่ะ
ถาม : ดังนั้นก็แสดงว่าการเป็นพระอริยะก็มีฤทธิ์บารมีไม่เท่ากันสิ๊ครับท่าน
ครูบา : ใช่ แล้ว ไม่มีก็ไม่แปลกหาใช่เรื่องสำคัญไม่ จิตหมดกิเลสก็พอแล้วนิพพานเลยสบาย

ข้อมูล จากเวบครูบากฤษดา ครูบากฤษดา สุเมโธ , วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) อ.บ้านธิ จ.ลำพูน [Engine by iGetWeb.com]

 

​

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2549 จัดสร้างตามดำริของท่านครูบากฤษดา สุเมโธ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้สมทบทุนร่วมสร้างวิหารพระนอนและวิหารทานต่างๆของทางวัดสันพระเจ้าแดง ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยท่านครูบาได้นำเอาชนวนมวลสารวัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านตั้งแต่การสร้างยุคแรกสมัยยังเป็นสามเณร(วิเศษ)จนถึงปัจจุบัน มาหลอมรวมในพระกริ่งมังกรฟ้านี้ ด้วยความปรารถนาที่จะให้ กระแสอานุภาพของวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างมารวมอยู่ในพระชุดนี้ทั้งหมด เรียกได้ว่าใส่องค์เดียวเหมือนมีวัตถุมงคลของท่านอยู่ด้วยทุกองค์ ทั้งยังได้ชนวนมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และจากครูบาอาจารย์ต่างๆอย่างคับคั่ง ทั่วทั้งแผ่นดินในหลายยุคสมัย ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะ จีน ธิเบตอันเป็นปฐมกำเนิดของตำนานพระกริ่ง ท่านได้รวมชนวนมวลสาร แร่ธาตุต่างๆทั้งหมด หล่อหลอมรวมอยู่ในพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าชุดนี้ล้วนๆ รวมทั้งประกอบพิธีหล่อหลอมชนวนทั้งหมดเป็นแท่งๆ และนำมาเสกตั้งธาตุปรับกระแสก่อน จึงนำมาเทเป็นองค์พระโดยกรรมวิธีเทหล่อแบบโบราณ โดยได้ควบคุมงานทุกอย่างด้วยองค์ท่านเองทั้งหมด
พระชุดนี้เดิมทีคณะศิษย์ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีเททอง คาดการกันว่ากระแสเนื้อขององค์พระจะต้องออกมาแบบวรรณะคล้ายเนื้อทองแดงหรือเนื้อนวะ แต่พอเทเป็นองค์พระโดยสมบูรณ์แล้วกลับต้องแปลกใจไปตามกันหมด เนื่องจากกระแสเนื้อขององค์พระกลับออกเป็นสีทองอร่ามทุกองค์ มองเผินๆอาจคล้ายเนื้อทองเหลือง แต่หากสังเกตุดีๆแล้วจะทราบได้ชัดเลยว่าไม่ใช่..!! เพราะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่พระชุดนี้กระแสนั้นออกคล้ายเนื้อทองมหาสัมฤทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า เนื้อทองสัมฤทธิ์ม้าฬ่อ (โล่โก๊ะแตก) ซึ่งเป็นเนื้อสูตรเดียวกันกับพระกริ่งจีนนอก สมัยราชวงศ์ถัง แต่จะแตกต่างกันตรงที่ว่า เนื้อของพระกริ่งมังกรฟ้าจะมีความแข็งแกร่งมีน้ำหนักมาก และมีวรรณะอยู่หลายกระแสนั่นเอง ตามที่ท่านครูบาท่านได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน " ให้พระกริ่งชุดนี้บังเกิดมีฉัพพรรณรังสี " ที่สำคัญที่สุดพระกริ่งมังกรฟ้านี้จะเกิดฉัพพรรณรังสีให้เห็นได้ตามผิวขององค์พระ และจะเปลี่ยนแปลงไปตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง

สำหรับวัตถุมงคลชุดนี้ได้ชื่อว่าพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า ก็เนื่องมาจาก เป็นอีกสมญานามหนึ่งของท่านครูบากฤษดา ที่พระบูรพาจารย์และผู้ศรัทธาชาวจีน ฮ่องกง เรียกขานท่านในนามพระเถระมังกรฟ้า(เทียนหล่งซีฝู) และท่านก็ยังมีสำนักอยู่ที่ฮ่องกง ที่ลูกศิษย์รู้จักกันดีในชื่อ "สำนักมังกรฟ้า" เพราะฉะนั้นพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์รุ่นนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าเปรียบเสมือนองค์แทนของท่านครูบากฤษดา อีกนัยยะหนึ่งมังกรยังเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีบุญญาธิการสูง เช่นพระเจ้าจักรพรรดิ์ และมังกรฟ้ายังเป็นสิ่งคู่บารมีขององค์พระมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้ที่ได้ก้าวล่วงเข้าสู่ความเป็นพระอริยะมหาโพธิสัตว์ขั้นปรมัตถบารมี(บารมีเต็ม) อาทิ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม พระมหาไภสัชยคุรุพุทธ ...ฯลฯ เป็นต้น

และพระกริ่งชุดนี้ท่านครูบายังได้ตั้งใจอธิษฐานจิตทุกวันยาวนานเป็นพิเศษกว่า 3 ปีเต็ม ในระหว่างนั้นเมื่อท่านมีกิจนิมนต์เข้าพิธีที่ไหนท่านก็จะนำไปร่วมพิธีนั้นๆด้วย เพื่อให้บังเกิดความหลากหลายในอิทธิมหาพุทธานุภาพอย่างเปี่ยมล้นเป็นที่สุด (จริงๆแล้วท่านครูบาเวลาเสกพระนั้นใช้เวลาเพียงแค่อึดใจเดียวก็เกินพอแล้ว แต่ชุดนี้ตั้งใจทำให้พิเศษจริงๆ) และเวลาที่ท่านครูบามากราบเยี่ยมองค์หลวงปู่พิศดูที่วัดเทพธารทองท่านยังได้นำพระกริ่งชุดนี้ติดมาด้วยแทบทุกครั้ง เพื่อขอบารมีองค์หลวงปู่ร่วมอธิษฐานฝากกระแสเอาไว้ด้วยอีกหลายวาระ และเมื่อคราวที่วัดเทพธารทองได้จัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ท่านครูบาก็ยังได้นำพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า และล็อกเก็ตรุ่นพระธรรมธาตุ เข้าพิธีพุทธาภิเษก พร้อมกันในตลอดราตรีของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 อีกด้วย โดยมีองค์หลวงปู่พิศดูเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยท่านครูบากฤษดาเป็นผู้ร่วมสวดพุทธมนต์พระธัมจักรกัปปวัตตนสูตร พระบารมี 30 ทัศน์ และสวดพุทธมงคลคาถาสำคัญต่างๆ ซึ่งจะช่วยหนุนนำส่งเสริมกันกับองค์หลวงปู่ได้อย่างลงตัวที่สุด
ในพิธีพุทธาภิเษกกระทำอย่างเรียบง่ายที่สุด แต่ดูมีความขลังศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และเป็นครั้งแรกที่องค์หลวงปู่ท่านได้ตั้งใจใช้สายสิญจน์ในการประกอบพิธีอธิษฐานจิต (ปกติเพียงสวดมนต์ให้เท่านั้น)

พุทธลักษณะของพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า มีอยู่ด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ
พิมพ์พระกริ่งใหญ่ มีลักษณะอิ่มเอิบสมบูรณ์ เหมาะมากสำหรับไว้แช่ในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ ขนาดความสูง 4.6 ซ.ม.

พระกริ่งพิมพ์กลาง ขนาดความสูง 4.2 ซ.ม. ครับ องค์นี้สำหรับใช้บูชาติดตัว เพราะขนาดกำลังพอเหมาะ

ส่วนอีกพิมพ์หนึ่งเป็นพระชัยวัฒน์ ขนาดความสูง 1.4 ซ.ม. ขนาดองค์เล็กมากเหมาะสำหรับสุภาพสตรี เด็ก และผู้ที่ชอบพกพระชุดเล็ก
จำนวนสร้าง ทั้งหมด รวมกันทั้งสามพิมพ์เพียง 900 องค์เศษ



ข้อมูลจากพี่ทุเรียนทอดครับ ครับ