จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. มณีตรี

    มณีตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,201
    อย่างนี้ก็มีด้วย นะเจ้าค่ะท่าน◎....?? ส่งสัยท่านจะเป็นมิตรกับความไม่เที่ยงแน่ๆเลย...5555
     
  2. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    เพราะโลกธรรม..!



    โลกธรรม สองส่วน ล้วนให้คิด
    ส่วนใดจิต ชอบใจ อย่าไหลหลง
    ส่วนใดล้ม ไม่สมจิต ต้องคิดปลง
    อย่างวยงง จงให้ ใช้ปัญญา

    จะมียศ เสื่อมยศ โปรดทราบเถิด
    จะลาภเกิด หรือเสื่อมลาภ ทราบเถิดหนา
    นั่นเป็นเพียง อนิจจัง ระวังนา
    มันสับเปลี่ยน เวียนมา ปัญญาดู

    จะสุขทุกข์ นินทา สรรเสริญ
    อย่ามัวเพลิน รันทด หรืออดสู
    เราเป็นเพียง พิชิต พินิจดู
    หากเรารู้ เท่าทัน พลันสบาย

    ไม่มีเรา มีเขา จะเบากว่า
    คิดเพียงว่า ต้องล้ม ไม่สมหมาย
    ทุกอย่างเกิด ก็ด้วยเคล็ด เหตุปัจจัย
    มันมาได้ ไปได้ ไม่แปลกเลย

    จงรักษา ดวงใจ ให้ใสผ่อง
    อย่าขัดข้อง ภายใน ให้วางเฉย
    หากดีใจ ก็อย่าฟู อยู่เสบย
    ฝึกให้เคย แล้วจะเห็น ความเป็นจริง


    โลกธรรม (คำกลอน)
     
  3. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ผู้บริหารระดับCEO หงษ์เหิร มังกรบิน

    ทั้งคนเกาหลี เกาเหลา เกาหลัง กล้องเกียรติ

    ทั้งมีพลัง ไม่มีปรังการ คงจะโผล่มา..ยิ้ม [​IMG]

    ปล. ปืนเล็ก ชอบอักษรใหญ่ ^^


    จบ ◎
    เรือลำนี้...


    <iframe width="120" height="75" src="http://www.youtube.com/embed/WiqDAL3wMHs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <marquee direction=right scrollamount=1><IMG src='http://4quare.mycomsci.com/images/boat.png' width=80></marquee>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  4. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    พระพุทธเจ้า ท่านได้ตรัสสอนไว้ว่า... ตนเป็นที่พึงของตนนั้นก็ถูกต้องแล้ว... ใครจะเป็นอย่างไร? ก็เป็นเรื่องของเขา...เราก็เป็นตัวเราเฝ้ามองดู(ดูที่นี่ก็คือดูใจ) ให้สดใสเท่านั้นเป็นพอ... และถ้าเราไม่ยึดอะไรแล้ว คําว่าทุกข์ก็เป็นแค่ลมจรเข้ามา(เรือโดนคลื่นไง...เรือในที่นี่เปรียบเหมือนกายเรานี่เอง) คลื่นก็จะกระทบได้เพียงแค่ภายนอก... แต่ใจที่เป็นผู้พาย... ก็ยังทําหน้าที่ต่อไปและยิ่งจะได้รู้ว่าตรงไหนมีคลื่นมาเราก็จะได้เตรียมเรือเราให้ดีจะได้ผ่านคลื่นไปได้ไง.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  5. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    เมื่อมีจงรู้จักให้ เมื่อได้จงรู้จักพอ


    เมื่อขอ จงรู้จักคุณค่า

    คนเราเกิดมา ถึงเวลาก็ต้องไป

    ถ้าใจเราเป็นโทษเสียแล้ว

    จะทำบุญทำทานอะไรก็ไม่ได้ผล

    เหมือนกับเราขนปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ที่ตายแล้วก็ไม่ได้ผล.

    ท่านพ่อลี ธมุมธโร วัดอโศการาม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  6. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ผู้จะสืบทอดพระศาสนาไว้ได้ ก็คือผู้ปฏิบัติ(หรือนักบวช) ผู้มีศีลบริสุทธิ์ และมีธรรมวินัย ฝ่ายเหตุและฝ่ายผล เพราะธรรมได้ประกาศท้าทายความจริงมามีความสมบูรณ์พูนผล นักปฏิบัติจึงให้คํานึงถึงตนว่ามีการปฏิบัติที่ขัดต่อศีลต่อธรรมไหม? ถ้าขัดต่อธรรมก็คือกีดขวางตนเอง ท่านจึงกล่าวไว้ว่า"สุปะฏิปันโน" ก็คือ "ตรงไปตรงมา"ญายะ ก็คือ "รู้แจ้งแทงตลอด" สามีจิปะฏิปันโน ก็คือ "การปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ" สมควรแก่ธรรม "มัชฌิมา" ก็คือ"ความเหมาะสม "ธรรมเป็นของกลาง ก็เหมือนกับสมบัติทางโลก ใครขยันหาก็จะได้มาตามแต่บุคคลใดจะหามาได้มากน้อย และผู้ปฏิบัติถ้าได้ลงมือปฏิบัติแล้วก็จะเกิดความสงบสุข หรือ"สมาธิ" คําว่าสมาธิแท้นั้นอยู่ที่ใจ สมาธิมีความสําคัญมาก พอเกิดความสงบคือ"จิตอิ่มในอารมณ์"แล้วก็พาออกเดินด้านปัญญา คือใช้ให้ทํางานในการพิจารณาในขันธ์ ๕ สมาธิกับปัญญาจึงแยกกันไม่ออกต้องเดินไปพร้อมกัน พอปัญญาเกิดจึงออกพิจารณาด้าน"วิปัสสนา"คือ แยกธาตุ แยกขันธ์ นั้นเอง และท่านผู้ปฏิบัติตามนี้ ชื่อว่าเดินถูกทางและเป็นผู้รักษามรดกของพระศาสนาไว้ เพราะพระศาสนาพุทธนั้นต้องปฏิบัติเอง และพระพุทธเจ้าท่านได้เป็นผู้ชี้บอกทางไว้...ใครเดินตามท่านก็เป็นผู้พ้นทุกข์. ที่มาจากเทปธรรมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน.
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  7. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ชีวิตนี้อยู่กับกฏ ๓ ข้อ

    ๑. ไม่แน่. เมื่อไม่แน่ จงทำใจ

    ๒. เื่มื่อไม่ได้ดั่งใจ จงปลงใจ

    ๓. เพราะไม่มีอะไรสมบูรณ์ แต่ถ้าจะให้สมบูรณ์ก็ต้องทำ

    เมื่อเราทำด้วยความตั้งใจ ทำในสิ่งที่ดีและทำด้วยความจริงใจด้วยความ

    พยายามสิ่งที่เราจงใจทำๆดีก็ต้องได้ดี.

    เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็ต้องรอ รอด้วยการปฏิบัติ ด้วยการปลง และปล่อย

    เมื่อเราปลงและปล่อยแล้ว การที่เราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สิ่งที่ได้ดั่งใจคือความสงบ

    แล้วสิ่งที่มีอะไรสมบูรณ์ ก็จะทำให้สมบูรณ์ได้.

    ขอให้ใช้กฏ ๓.ข้อนี้อย่างมีสติและมีปัญญา แล้วสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ก็จะพลิกล็อค

    ให้กับผู้ที่ทำและปฏิดี ปฏิบัติชอบตั้งใจทำด้วยความเพียรไม่นานเกินรอ

    ท่านจะได้พบกับความสำเร็จในสิ่งที่ท่านไม่เคยพบมาก่อนขอเป็นกำลังใจให้กับ

    ทุกๆท่านที่มีความตั้งใจไม่ว่าสิ่งใดๆขอให้ได้สมกับความมุ่งหมายค่ะ. ท่าน ว. วชิรเมธี.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  8. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,084
    ค่าพลัง:
    +10,246
    สิกขาสูตรที่ ๑

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
    อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

    [๕๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิกขา ๓ นี้ ๓ เป็นไฉน คือ อธิศีล-
    *สิกขา ๑ อธิจิตตสิกขา ๑ อธิปัญญาสิกขา ๑

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธิศีลสิกขาเป็นไฉน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทาน
    ศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิศีลสิกขา

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธิจิตตสิกขาเป็นไฉน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัด
    จากกาม ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิจิตตสิกขา

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธิปัญญาสิกขาเป็นไฉน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิปัญญาสิกขา ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิกขา ๓ นี้แล ฯ
     
  9. มณีตรี

    มณีตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2013
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,201
    อย่าเอาแต่คอยสำรวจผู้อื่น

    “ธรรมะ” ก็คือ การสำรวจตนเอง

    และย้อนมองส่องตน !

    รู้จุดบกพร่องของตนเอง

    รู้จุดผิดพลาดของตนเอง

    นี่จึงเรียกว่า “ธรรมะ”


    ธรรมะคืออะไร ?

    道是什么

    เมื่อเจ้าทำดี “ธรรมะ” นั้นก็เป็นธรรมที่เที่ยงแท้

    หากจิตใจไม่เที่ยงตรง กายไม่เที่ยงตรง

    วาจาไม่เที่ยงตรง การกระทำไม่เที่ยงตรง

    เช่นนี้ แม้ธรรมแท้ก็อาจกลายเป็นธรรมปลอมได้



    รู้หน้าที่ตน ก็คือ “ธรรมะ”

    ปฏิบัติหน้าที่ตนให้ดี นั่นก็คือ “ธรรมะ”



    ดํารงตนอยู่ในโลกนี้ ทุกแห่งหนล้วนคือความรู้

    ทุกแห่งหนล้วนมี “ธรรมะ” ต้องหมั่นตรวจตราอยู่เสมอ

    มิใช่มาสถานธรรมจึงจะมี “ธรรมะ” ถึงจะสามารถ ปฏิบัติธรรมได้

    ชีวิตไม่ว่าดำรงอยู่แห่งหนใดก็ล้วนปฏิบัติ ธรรมได้เช่นกัน



    หลักในการดำเนินชีวิต

    เมื่อถึงเวลานอนก็ต้อง นอน นี่คือ “ธรรมะ”

    ไม่ใช่ถึงเวลานอนแต่ไม่นอน ไม่ใช่เวลานอนแต่ กลับนอน นี่ไม่ใช่ “ธรรมะ”



    ขณะที่เจ้าพูดจาทิ่มแทงคนอื่น คนที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ ตัวเจ้า !

    เมื่อนั้นจะยังคงพูดจาเช่นนั้นต่ออีกหรือไม่

    นั่นคือการแสดงออกถึงจิตใจดีงามที่มีอยู่ และ นั่นก็คือ “ธรรมะ”


    ความสูงส่งล้ำค่าแห่ง “ธรรมะ” นั้น

    อยู่ที่การไม่อาจใช้ภาษาตีความได้นั่นเอง



    การดำรงตนนั้นก็คือ “ธรรมะ”

    ธรรมะนั้นแฝงอยู่ในทุกสรรพสิ่ง

    ซ่อนเร้นอยู่ในทุกอณู



    “ธรรมะ” นั้นล้ำลึก

    แท้จริงก็อยู่ในชีวิตประจำวันของเจ้า

    ไยจะต้องไป ฝึกฝนวิชาอื่นใดที่พิสดาร

    พลังลึกลับหรือปาฏิหาริย์ หาใช่ธรรมะไม่ !

    แต่ “ธรรมะ” เป็นสิ่งที่ธรรมดาสามัญไม่มีพิเศษ

    แท้จริงก็อยู่รอบกายเจ้า

    แต่อยู่ที่ตัวเจ้าจะใช้มัน หรือไม่เท่านั้นเอง



    “ธรรมะ” เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวเจ้า

    “ธรรมะ” คือหลักธรรมแห่งฟ้า คือจิตที่ดีงาม

    “ธรรมะ” นั้นง่ายแก่การบำเพ็ญ

    หากปฏิบัติตามครรลองแห่งฟ้าได้ก็จะบำเพ็ญได้ง่าย

    หลักธรรมแห่งฟ้า ก็คือ

    ใจพุทธะ ใจโพธิสัตว์

    ใจเมตตากรุณา

    ใจกว้างให้อภัย ใจจริงบริสุทธิ์



    เราทุกคนหากทำสิ่งใดควรมีจุดมุ่งหมาย

    แต่มิใช่ ใจมีแผนการเงื่อนงำ นั้นเป็นสิ่งไม่ดี

    ควรใช้จิตใจซื่อตรงจริงใจปฏิบัติต่อผู้อื่น

    ช่วยคลี่คลายปมปัญหาให้แก่ผู้อื่น

    นั่นจึงจะเป็น “ธรรมะ” !



    รักษาเวลาอันมีค่าทุกขณะ

    ในเวลานั้นเจ้าทำอะไรอยู่

    รักษาเวลาช่วงนั้นไว้

    นั่นก็คือ “ธรรมะ” เช่นเดียวกัน !



    “ธรรมะ” นั้นอยู่ท่ามกลางสรรพสิ่ง

    “ธรรมะ” อยู่ในชีวิตประจำวัน

    ใกล้แค่ตรงหน้า ไม่มีเลยที่จะห่างมัน

    เมื่อต้องการมัน มันก็จะสำแดง

    ไม่ต้องการมัน มันก็แฝงเร้น



    “ธรรมะ” คือ หนึ่ง

    หนึ่ง ก็คือต้นๆ ใช่หรือไม่ว่าสำคัญมาก

    เมื่อสำคัญก็ต้องก้าวเดิน

    หากไม่ก้าว ไหนเลยจะไปถึง



    ไม่ว่าเรื่องราวใดก็ตามต้องมีลำดับขั้นตอน

    มีขั้นตอนจึงมีระเบียบวินัย

    มีระเบียบวินัยจึงมีเหตุผล



    วันนี้เรียนรู้มาเท่าไหร่ก็ควรแสดงออกมาเท่านั้น

    เช่นนี้จึงเรียกว่าปฏิบัติ “ธรรมะ”

    สิ่งที่รู้ในวันนี้ หากรอเวลาผ่านไปแล้วค่อยกระทำ นั่นไม่เรียกว่า “ธรรมะ”

    ดังนั้น เรียนรู้และขณะเดียวกันก็นำมาปฏิบัติ จึงเรียกว่า “ธรรมะ”



    “ธรรมะ” อยู่ที่ไม่เอ่ยคำพูด

    “ธรรมะ” อยู่ที่มีสติทุกขณะ

    “ธรรมะ” อยู่ที่พยักหน้า

    หากเจ้ายิ้มออกมาสักครั้ง

    นั่นแหละคือ “ธรรมะ”



    การอยู่ร่วมกัน

    ไม่ว่าเรื่องราวหรือสิ่งต่างๆ ล้วนมีเหตุปัจจัย

    ขอเพียงใช้ใจเคารพและจริงใจซึ่งกัน

    สิ่งเหล่านี้ล้วนคือ “ธรรมะ”



    อย่าเอาแต่คอยสำรวจผู้อื่น

    “ธรรมะ” ก็คือ การสำรวจตนเอง

    และย้อนมองส่องตน !

    รู้จุดบกพร่องของตนเอง

    รู้จุดผิดพลาดของตนเอง

    นี่จึงเรียกว่า “ธรรมะ”



    ทําอย่างไรจึงจะให้ทุกคนกลับมาสู่จิตเดิม

    ทำอย่างไรให้ทุกคนมีจิตยินดี เบิกบานสำราญใจ

    ไม่แบ่งพรรค แบ่งพวก

    “ธรรมะ” ก็อยู่ตรงนี้

    ไม่ใช่ต้องคิดแผนการให้มากมาย

    ในขณะนั้นก็คือ “ธรรมะ”



    “ธรรมะ” มิใช่สิ่งแปลกประหลาด พิลึกกึกกือ

    แต่มันใกล้ชิดกับตัวเราในชีวิตประจำวันมากที่สุดต่างหาก

    อย่างเช่น ความกตัญญู ความสามัคคี

    หลักปกครอง 3 เบญจธรรม 5 คุณธรรม 8

    สิ่งเหล่านี้ล้วนคือ “ธรรมะ”



    สองตาสำรวมญาณทวาร ก็คือ “ธรรมะ”

    ทุกขณะเวลาคือ “ธรรม”

    แม้บำเพ็ญอยู่ในโลกโลกีย์ ทว่าพึงเก็บจิตกลับมา

    เพื่อให้ตนได้สงบสติอยู่เสมอ

    อย่าได้คิดว่าการนั่งเท่านั้นจึงเข้าสู่สมาธิได้

    แต่เมื่อนั่งลงไปแล้วหมื่นพันความคิดเกิดขึ้นไม่หยุด

    จะกลับกลายเป็นฟุ้งซ่าน



    ต้องฝึกเยี่ยงนี้เสมอว่า

    ไม่ใช่ของๆ เราอย่าได้โลภ

    ไม่ใช่ของๆ เรา อย่าได้เรียกร้อง

    เมื่อได้ทำอย่างเต็มกำลังของเจ้าแล้ว

    ได้มาเท่าไหร่ก็เท่านั้น

    ภาระหน้าที่อันพึงกระทำก็ต้องไปจัดการ

    และต้องรักษาวินัยเคร่งครัด
     
  10. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ธรรมของครู ๗ อย่าง
    ๑.ปิโย ทําตนให้ศิษย์รัก
    ๒.ครุ ทําตนให้เป็นที่ยําเกร่งของศิษย์
    ๓.ภาวนีโย อบรมตนให้เจริญ คือ ก้าวหน้า
    ๔.วัตตา อุตส่าห์พรํ่าสอน
    ๕.วจีนักขโม อดทนต่อถ้อยคํา
    ๖.คัมภีรัง กถัง กัตตา ขยายคําอธิบายให้ลึกซึ้งโดยลําดับ
    ๗.โน อัฏฐาเน นิโยชเย ไม่ชักนําในสิ่งที่ไม่ควร
    ที่มา หนังสือ ธรรมะสาระของชีวิต.
     
  11. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ใช้วิชาระวังอวิชา ๕
    วิชาการ วิชากิน วิชาเกียรติ วิชาเกิน วิชากิเลส การสอนวิชาทางโลก และทางธรรมก็ตาม ให้ระวังมีอวิชาครอบงําอยู่ วิชาทุกแผนก ทุกแขนงมันมีอํานาจอวิชาหุ้มห่ออยู่อย่างสมบูรณ์ ทกๆมุมของการสอน การเรียนรู้วิชา แต่ก็ยังไม่เรียนรู้อวิชาให้ชัดเจน ทางศาสนาก็เช่นกันถึงแม้ผู้สอนวิชาทางพระพุทธศาสนาก็ตามเถอะ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ก็ช่าง มันก็เจือด้วยอวิชาจึงแยกออกได้ดังนี้
    ๑.ผู้เป็นครูควรเรียนรู้อวิชาไปด้วย อย่าได้เอาแต่รู้วิชาการอย่างเดียว วิชา ๘ กับ อวิชามันสวนทางกัน เช่น กลางวัน กับ กลางคืน เหมือนฝ่ายสว่างกับฝ่ายมืด มันต้องทําลายกันอยู่เสมอไป
    ๒.ครูผู้สอนต้องใช้วิชาจรณะสัมปันโนให้เต็ม ๑๐๐% จึงแทงทะลุจากอวิชาออกไปได้
    ๓.ครูผู้สอนต้องถึงพร้อมอริยธรรมอันมีสมถะ วิปัสสนาอย่างไพบูลย์ ขบแตก ชํานาญกว่าวิชาการล้านเท่า
    ๔.ผู้สอนต้องฉลาดกว่านิวรณ์ อวิชา ทุกขณะจิตไปจึงจะได้ผลดีตามจุดประสงค์ของการแนะนํานั้นๆ
    ๕.ผู้สอนจะต้องรู้อนุตตรธรรม ๖ ถึง ๗๐%ขึ้นไปจึงจะมีฤทธิ์กว่าอวิชา ๘ได้ดีกว่าอวิชาที่จะนํามัดผูกให้เห็นตามไปด้วย
    ที่มา หนังสือ ธรรมะสาระของชีวิต (หลวงปู่ทองใบ ปภัสฺสโร) วัดนาหลวง จ.อุดรธานี
     
  12. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    คนแบกโลกยิ่งแบกก็ยิ่งหนัก

    มีคนทักว่ามันหนักก็อย่าแบกไว้

    ยึดตัวกูของกูแบกเข้าไป

    ผลสุดท้ายโลกทับตายเพราะยังแบก

    โลก...ไม่ได้มีไว้ให้แบก ความทุกข์ก็เช่นกัน

    ถ้าเรามัวแต่แบกไว้...แล้วไม่ปล่อยวาง
    แล้วจะหาหนทางหลุดพ้นได้อย่างไร.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ดีหรือชั่วมันอยู่ที่การควบคุมกำลังใจ

    ถ้าใจเราบริสุทธิ์ ผุดผ่องเสียอย่างเดียวใครจะว่าดีหรือชั่ว ไม่สำคัญ

    เขาจะประณามว่าเลว มันก็เลวไม่ได้ ถ้าใจเราบริสุทธิ์ มันก็ต้องดีตลอดเวลา

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดทุ่งช้าง.
     
  14. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    จิตที่อบรมดีแล้ว ปัญญาที่เจริญดีแล้วย่อมมีรสชาติ ภูมิชาติต่างกัน เสมือนนํ้าตาลกับนํ้าอ้อย
    จิตที่อบรมดี ปัญญาที่อบรมดีแล้วย่อมอุปมาอุปมัย ดังนี้
    ๑.เสมือนอาหารสําเร็จรูป ใช้บริโภคได้ตลอดไป
    ๒.เสมือนอาภรณ์สําเร็จรูป ใช้สอยได้ทุกกาล
    ๓.เสมือนอาคารสําเร็จรูป ใช้ทุกเวลาไม่กําหนด
    ๔.เสมือนเภสัซสําเร็จรูป ใช้บําบัดรักษาโรคได้เลย
    จิตอบรมแล้วมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เว้นพยาบาท วิหิงสา ริษยา ปฏิฆะ แน่
    จิตที่อบรมดีแล้วมี สละ ระวัง ยั้งรู้ สู้หลุดเสมอ
    วินัยอบรมดีแล้วมี เมตตา สัมมา สังวร สัจจะ สติ ครบชุด
    นิสัยอบรมดีแล้วมี สุ อุ ญา ส พร้อมสรรพ์
    กายาอบรมดีแล้วมี สะอาด สว่าง สงบ สะดวก สบาย ไพบูลย์ดี
    อัธยาศัยอบรมดีแล้วมี พุทธัง สังมิ ไพบูลย์ดี
    ที่มา หนังสือ ธรรมะสาระของชีวิต.
     
  15. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ธรรม...เป็นเครื่องปกครองสมบัติ

    และปกครองใจ ถ้าขาดธรรมเพียงอย่างเดียว

    ความอยากของใจจะพยายามหาทรัพย์

    ได้กองเท่าภูเขาก็ยังหาความสุขไม่เจอ.


    พ่อแม่ครูอาจารย์
    หลวงปู่มั่น ภูริฑัตโต.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2013
  16. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    อย่ามัวเป็นห่วง

    ว่าเขาจะตอบแทนไม่คุ้ม

    กับความดีของท่าน

    เพราะความดีของเรา

    ย่อมยิ่งใหญ่เกินกว่า

    ที่ใครจะตอบแทน หลายเท่านัก.

    ธรรมะพระพุทธทาสภิกขุ.
     
  17. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793


    ๘. โกสัมพิยสูตร




    เรื่องพระเถระวิวาทกัน



    [๕๔๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้.-
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารโฆสิตาราม
    เขตพระนครโกสัมพี.
    สมัยนั้น พวกภิกษุในเมืองโกสัมพี เกิดขัดใจทะเลาะวิวาททิ่มแทงกัน
    และกันด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ปรับความเข้าใจกัน ไม่ปรารถนาความเข้าใจ
    กัน ไม่ทำให้ปรองดองกัน ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน
    ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายอภิวาท
    แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้ทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! ขอประ
    ทานพระวโรกาส พวกภิกษุในเมืองโกสัมพี เกิดขัดใจทะเลาะวิวาททิ่มแทงกัน
    และกันด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ปรับความเข้าใจกัน ไม่ปรารถนาความเข้าใจ
    กัน ไม่ทำให้ปรองดองกัน ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน.
    ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุรูปหนึ่งมาแล้วรับ
    สั่ง ว่า "ภิกษุ เธอจงมา เธอจงเรียกภิกษุเหล่านั้นมาตามคำของเราว่า
    พระศาสดาของพวกเรารับสั่งให้หาพวกท่านผู้มีอายุ."
    ภิกษุรูปนั้นทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "อย่างนั้น พระ-
    พุทธเจ้าข้า" ดังนี้แล้ว เข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นแล้วบอกว่า พระศาสดารับ
    สั่งให้หาท่านผู้มีอายุทั้งหลาย."
    ภิกษุเหล่านั้นรับคำภิกษุนั้นว่า "อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ" ดังนี้ แล้ว
    เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควร
    ส่วนข้างหนึ่ง.

    หน้าที่ 410

    [๕๔๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามภิกษุเหล่านั้นว่า "ภิกษุทั้ง
    หลาย! ได้ยินว่าพวกเธอเกิดขัดใจทะเลาะวิวาททิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือ
    ปากอยู่ ไม่ปรับความเข้าใจกันไม่ปรารถนาความเข้าใจกัน ไม่ทำให้ปรอง
    ดอง ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน จริงหรือ."
    ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความ
    ข้อนั้นเป็นไฉน สมัยใด พวกเธอเกิดขัดใจทะเลาะวิวาททิ่มแทงกันและกันด้วย
    หอกคือปากอยู่ สมัยนั้น พวกเธอเข้าไปตั้งเมตตากายกรรม เมตตาวจี
    กรรม และเมตตามโนกรรมในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งต่อหน้าและลับ
    หลัง บ้างหรือหนอ."
    ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า "ข้อนั้นไม่มีเลย พระพุทธเจ้าข้า"
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย เช่นนี้ก็เป็นอันว่า สมัย
    ใดพวกเธอเกิดขัดใจทะเลาะวิวาททิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่
    สมัยนั้นพวกเธอมิได้เข้าไปตั้งเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม และเมตตา
    มโนกรรม ในเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ทั้งต่อหน้าและลับหลัง โมฆบุรุษทั้ง
    หลาย เมื่อเป็นดังนั้น พวกเธอรู้อะไร เห็นอะไร จึงเกิดขัดใจทะเลาะวิวาททิ่ม
    แทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ไม่ปรับความเข้าใจกัน ไม่ปรารถนาความ
    เข้าใจกัน ไม่ทำให้ปรองดองกัน ไม่ปรารถนาความปรองดองกัน โมฆบุรุษ
    ทั้งหลาย ข้อนั้นนั่นแหละ จักมีเพื่อไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ แก่เธอทั้ง
    หลายตลอดกาลนาน".
     
  18. ◎

    เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +5,154
    ผ่านความรู้สึกครับ สู้ต่อไป

    <iframe width="220" height="115" src="http://www.youtube.com/embed/iKDBiMgWFIA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="220" height="115" src="http://www.youtube.com/embed/Cx7W8HygTOA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="220" height="115" src="http://www.youtube.com/embed/Wody1ruZdJI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="220" height="115" src="http://www.youtube.com/embed/immBTkZbimo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <IMG src='http://www.retrojunkie.com/gif/byebyelarge.gif' width=70>


     
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    คุณวัท สบายดีนะคะ เก็บก้อนหินนั้นไว้หรือเปล่า?
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,064
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,044
    ทําให้นึกถึงแม่ชี Catholic คนหนึ่งที่มาทําผ่าตัดนิ่วในถุงนํ้าดี พอผ่าตัดเสร็จหมอก็เอามาให้ดู มีประมาณ 7 เม็ด เป็นสีเขียวอ่อนๆสวยมาก และที่น่าแปลกใจก็คือ ขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย กลมๆเท่ากันหมดทุกๆเม็ดเลย อีกอาทิตย์หนึ่งแกแวะมาเยี่ยมที่ Unit ICU เอามาอวด แกทํากรอบภาพเล็กๆ มีต้นไม้ ลําธาร และข้างๆลําธารแกก็เอาก้อนหินจากนิ่วแกนั่นแหละติดเอาไว้ ดูสวยงามมากเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...