--- เหตุทำไห้เป็นผู้ที่มีปัญญาหลักแหลม คมกล้า มีญาณสุกสว่างเสมอด้วยแก้ววิเชียร!!!

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Ajahn hei, 8 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
    พระพุทธเจ้าเป็นผู้มีปัญญามาก,ผู้มีปัญญาไม่สิ้นสุด,ผู้มีปัญญากว้างดุจแผ่นดิน,เป็นสัพพัญญู,ผู้รู้ธรรมทั้งปวง.


    ผู้ปารถนาพุทธภูมิ,ถ้ามีปัญญารดำรงชีวิตในแต่ละภพ
    จะได้ทำประประโยชน์ไห้ตัวเองกับผู้อึ่นเป็นอันมาก

    หรึอทำไห้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าง่ายขึ้น เร็วขึ้น...

        
     
        
     
        
     
  2. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
         พระเถระนี้มีชื่อว่า พระสูจิทายกเถระ ย้อนไปในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้เกิดในตระกูลของช่างทอง  เมื่อเจริญวัยขึ้นก็ได้ศึกษาเล่าเรียนความรู้ทั้งหลายที่เกี่ยวกับอาชีพของตระกูล  จนมีฝีมือในเรื่องการทำทองเป็นรูปแบบต่างๆ  ท่านเป็นผู้ที่มีศรัทธาในพระศาสนามาก แม้ว่าจะมีงานมากมายเพียงใดก็ตาม  ท่านก็พยายามหาโอกาสปลีกตัวไปฟังธรรมอยู่เสมอๆ
     
         วันหนึ่ง ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา เกิดความปีติมีใจเลื่อมใสอย่างยิ่ง ปรารถนาจะถวายทาน  แต่ยังนึกอะไรไม่ออกว่าจะถวายอะไร  ขณะนั้นเองมองไปข้างหน้า เห็นพระศาสดามีพระรัศมีแผ่ออกจากพระวรกายที่ห่อหุ้มด้วยผ้ากาสายะ ก็คิดว่า “จีวรของพระศาสดานี้เป็นสิ่งที่ใช้ห่อหุ้มร่างกาย เพื่อป้องกันอากาศหนาวและร้อน กันอันตรายต่างๆ  เราอยากจะมีส่วนบุญตรงนี้”  จึงถวายเข็มสำหรับเย็บจีวรแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า  ด้วยผลบุญนั้นทำให้ท่านเสวยทิพยสมบัติอย่างยาวนาน ครั้นมาเกิดเป็นมนุษย์อีก  ก็เสวยสมบัติจักรพรรดิมีสมบัติตักไม่พร่อง  และทุกครั้งที่เกิดมา จะเป็นผู้ที่มีปัญญาหลักแหลม รู้ญาณแม่นยำในภพที่ตนเกิดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ  ทั้งหมดนี้ก็ด้วยอานิสงส์จากการถวายเข็มเย็บจีวรกับพระศาสดา นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งในผลแห่งบุญแม้จะทำเพียงเล็กน้อยก็ตาม
     
         จนมาถึงภพชาติสุดท้ายในพุทธกาลนี้ ท่านได้กลับมาเกิดในตระกูลที่มีทรัพย์มาก มีความศรัทธาในพระศาสนาอย่างยิ่ง และมีปัญญาหลักแหลมเกินกว่าคนทั่วๆไป  วันหนึ่ง ท่านได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา และส่งใจไปตามกระแสธรรม  ด้วยอำนาจบุญเก่าประกอบกับใจที่หยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตรงนั้นเอง
     
         หลังจากบรรลุธรรมแล้ว ท่านได้ระลึกชาติไปดูบุพกรรมของตนเองก็พบว่าเมื่อภพชาติก่อน ท่านเคยถวายเข็มแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า  ทำให้มีญาณดั่งแก้ววิเชียร สามารถรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง  ทั้งที่เป็นอดีต อนาคตและปัจจุบันได้อย่างไม่มีอะไรมาปิดบังญาณทัสสนะของท่าน  และในกัปที่ ๙๑ แต่กัปนี้ ก็ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๗ ครั้ง  ทรงพระนามว่า วชิราสมะ ภพชาติสุดท้ายก็สมบูรณ์ด้วยคุณวิเศษทั้งหลาย
     
         เราจะเห็นว่า  การได้สร้างบุญแม้เพียงเล็กน้อยกับเนื้อนาบุญอันเลิศนั้น  ผลบุญที่เกิดขึ้นกลับเกินควรเกินคาด  เพราะแม้เราจะทำน้อยในสายตาของคนทั่วไป แต่หากทำด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความเลื่อมใสศรัทธาแล้ว  ผลที่ได้นั้นเกินความคาดหมาย เป็นอจินไตยทีเดียว  นี้เป็นหลักในการทำบุญที่ทุกคนควรตระหนักและจดจำเอาไว้ว่า  เราจะต้องทำด้วยใจที่เลื่อมใส มีมหาปีติที่เต็มเปี่ยม หมั่นระลึกนึกถึงบุญที่ทำไปแล้วนั้นจนตลอดอายุขัย  ให้มีมหาปีติในการประกอบเหตุแห่งบุญกุศลอย่างนี้กัน

    พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
     
    * มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๓๓๔, ๓๓๖
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2013
  3. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
    เรื่องนี้มาในคัมภีรอปทาน ตอน ปิลินทวัจฉเถราปทาน คือหมายถึงเป็นเรื่องของพระปิลินทวัจฉะ ทานเป็นพระ อรหันตองคหนึ่งในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจาทรงยกยองพระปิลินทวัจฉะวา เป็นผูเลิศกวาพระภิกษุทั้งหลายในทางเป็น ที่รักแหงเทวดา คือเทวดาจะรักทานมากดวยความดีที่ทานไดสรางมาทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ เมื่อทานบรรลุเป็น พระอรหันตแลว ทานไดระลึกชาติในอดีตกาลของทานวา ในอดีตกาลผานมาแลวแสนกัป ครั้งนั้นไดมีพระพุทธเจาพระองคหนึ่งอุบัติตรัสรูเผยแผพระพุทธศาสนาอยูในโลก ทรงพระนามวา พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจา ทรงประกาศพระศาสนาตั้งหลักมั่นอยูที่พระนครหังสวดี พระปิลินทวัจฉะ เกิดเป็นผูมีทรัพยไดถวายทานแกพระภิกษุสงฆมีพระพุทธเจาเป็นประมุขดวยสิ่งของมากมายหลายอยาง อานิสงสแหง การถวายทานดวยสิ่งของตางๆ ยอมใหผลตางๆ แกทานซึ่งทานไดบรรยายไวละเอียด จะไดนํามากลาวเพื่อเพิ่มพูน ศรัทธาปสาทะแกทานสาธุชนทั้งหลายดังตอไป...

    การถวายมีดโกนยอมมีอานิสงส ๘ ประการคือ ๑.เป็นผูกลา ๒.ไมมีความเดือดรอน ๓.ถึงที่สุดในเวสารัชธรรม (ธรรมที่ทําใหเป็นผูแกลวกลาในหมูชน) ๔.เป็นผูมีธิต(ความหนักแนนอดทน) ๕.มีความเพียร ๖.มีใจอันประคองไวดวยสติ ทุกเมื่อ ๗.ยอมไดญาณอันสุขุมเครื่องตัดกิเลส ๘.มีความบริสุทธิ์อันมิอาจชั่งตวงวัดได

    การถวายมีดพรายอมมีอานิสงส ๕ ประการคือ ๑.ยอมไดความเพียรเป็นที่พึ่งพิงได ๒.มีขันติความอดทน ๓.เป็นผูมี จิตไมตรี ๔.มีปัญญาคมกลา ๕.มีญาณสุกสวางเสมอดวยแกววิเชียร

    การถวายเข็มเย็บผายอมมีอานิสงส ๕ ประการคือ ๑.เมื่อทองเที่ยวอยูในภพนอยภพใหญยอมเป็นผูอันมหาชน นอบนอม ๒.ตัดความสงสัยได ๓.มีรูปงาม ๔.มีโภคสมบัติ ๕.มีปัญญากลาสามารถพิจารณาเห็นอรรถอันเป็นฐานะอัน ละเอียดลึกซึ้งดวยญาณอันคมกลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2013
  4. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
    การถวายตะเกียงตั้งยอมมีอานิสงส ๓ ประการคือ ๑.เป็นผูมีสกุล ๒.มีอวัยวะสมบูรณ ๓.มีปัญญาอันพระพุทธเจา สรรเสริญ

    การถวายผาเช็ดสิ่งสกปรกยอมมีอานิสงส ๕ ประการคือ ๑.ถึงพรอมดวยลักษณะ ๒.มีอายุยืน ๓.มีปัญญา ๔.มีจิต มั่นคง ๕.กายพนจากความยากลําบากทุกอยางในกาลทั้งปวง

    การถวายยานัตถุยอมมีอานิสงส ๘ ประการคือ ๑.มีศรัทธา ๒.มีศีล ๓.มีหิริ ๔.มีโอตตัปปะ ๕.มีสุตะ ๖.มีจาคะ ๗.มี ขันติ ๘.มีปัญญา

    การถวายที่นอนยอมมีอานิสงส ๖ ประการคือ ๑.มีรางกายสมสวน ๒.เป็นผูออนโยนมีรูปงามนาดู ๓.ยอมไดญาณ อันประเสริฐ ๔.ยอมไดเครื่องนอนเครื่องลาดอันวิจิตร ๕.ยอมไดที่นอนขนสัตวอันออนนุม ๖.ยอมไดบรรลุฌาน

    การถวายขาวและนํายอมมีอานิสงส ๑๐ ประการคือ ๑.มีอายุยืน ๒.มีกําลัง ๓.เป็นนักปราชญ ๔.มีวรรณะ ๕.มียศ ๖.มีสุข ๗.เป็นผูไดขาว ๘.เป็นผูไดนํา ๙.เป็นคนกลา ๑๐.มีญาณรูทั่ว
     
  5. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
    การถวายธูปยอมมีอานิสงส ๑๐ ประการคือ ๑.มีกลิ่นตัวหอมฟุง ๒.มียศ ๓.มีปัญญาเร็ว ๔.มีชื่อเสียง ๕.มีปัญญาคม กลา ๖.มีปัญญากวางขวาง ๗.มีปัญญาราเริง ๘.มีปัญญาลึกซึ้ง ๙.มีปัญญาแลนไป ๑๐.ไดบรรลุนิพพาน

    http://www.palapanyo.com/files/anisong/dtan.html
    อานิสงสการถวายทานดวยสิ่งของตางๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2013
  6. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาของเราตอนเป็น โพธิสัตว
    เป็นผู้มีปัญญามาก,และเฉลียวฉลาด,มีปัญญากล้าสามารถพิจารณาเห็นอรรถอันเป็นฐานะอันละเอียดลึก ซึ้งดวยญาณอันคมกล้า
    เพราะ??
    ----------

    อานิสงสที่ชัดที่สุด

    ก็คือสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาของเราพระพุทธเจาสมัยที่ทานเกิดเป็นมหาทุกขตะคือคนที่จนมากทานเป็นคน รับใชคนอื่นเขาในสมัยนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจามีนามวาปทุมมุตตระทานเป็นคนใชเขา เจานายจะจัดกฐินก็สั่งใหมหาทุกขตะจัดการใหทุึกอยางมหาทุกขตะก็บอกวาขาแตนายขอรวมมีสวนในกฐินนี้ได หรือไม นายก็บอกวาไดซิเรามีอะไรละบอกวาเดี๋ยวขอเสาะหากอนคราวนี้เขามีแตผานุงอยูผืนเดียวแขกเขาจะมีผา นุงอยูผืนหนึ่งแลวผาหมผืนหนึ่งแตมหาทุกขตะจนมากมีผานุงผืนเดียวก็ไมทราบจะทําอยางไรดี เลยเขาไปในปาเอา ใบไมมาเย็บทําเป็นเครื่องนุงหมแทนแลวเอาผาผืนนั้นไปที่ตลาดไปถามกับพอคาวาผาผืนนี้สามารถแลกของอะไร ได บางเขาถามวาเธอจะเอาไปทําอะไรผาก็เกาเต็มทีจะแลกของอะไรไดนักหนาเชียวเขาก็บอกวานายของเรานี่จัด กฐินขึ้นมาเพื่อทอดถวายพระภิกษุสงฆในพระพุทธศาสนาเราก็อยากทําบุญดวยก็บอกวาถาอยางนั้นก็ใหเข็มไปเลม หนึ่งแลวก็ดายไปกลุมหนึ่งเพราะวาผาเกามากแลวมีคานอยมากทานก็เอาเข็มกับดายนั้นเขาไปรวมในกองกฐินแลว ตั้งใจอธิษฐานวาขอใหผลบุญที่ไดทําบุญกฐินครั้งนี้ขอใหทานบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณดังที่ปรารถนาดวยเถิด เสร็จแลวปรากฏวาพอถึงชาติปัจจุบันนี้ทานบรรลุมรรผลไดจริงๆ

    หลวงพอทานเคยเทศนถึงอานิสงสกฐินทานบอกวาบุคคลที่ ตั้งใจทําบุญกฐินพระพุทธเจาตรัสไววาแมแตทิพจักษุ แหงองคสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาซึ่งถือวาเลิศแลวที่สุดยังมองไมเห็นเลยวาอานิสงสนั้นจะไปสิ้นสุดตรงไหน สวนใหญถาเกิดเป็นมนุษยก็จะเป็นพระเจาจักรพรรดิ จะเป็นพระมหากษัตริย หรือเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เกิดแลวเกิด อีกอยูในระดับของความดีนี้ตลอดจนกระทั่งไมสิ้นสุดของอานิสงส กฐินก็จะเขานิพพานเสียกอนฟังดูแลวนาทําไหม รวมกับเขาบอยๆ
     
  7. Ajahn hei

    Ajahn hei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +142
    ประวัติหลวงพอปาน หลวงพอปานทอดกฐิน

    หลวงพอปานก็ไปทอดกฐิน๗-๘วัดแตการทอดกฐินคราวนั้นทานประกาศกับบรรดาพุทธบริษัทของทานวาจะ ตองการเอาอาหารไปชวยเขาเขาอดขาวอดอาหารนี่ทานเป็นนักสังคมสงเคราะหแตไมมีใครเขาชวยทานหรอก รัฐบาลไมไดรวมมือแตวาชาวบานชวยทานไปคราวนั้นปรากฏวานําขาวเปลือกบางขาวสารบางไป๗ลําเรือเรือลําหนึ่ง จุประมาณ๑๐เกวียนบางจุประมาณ๒๐เกวียนบางเอาไป๗ลําที่ทานไดมายังงั้นเพราะอะไรเพราะใครมาหาทานก็บอก ทานจะไปทอดกฐินแลววาการทอดกฐินคราวนี้ตองเอาขาวเอาอาหารไปสงเคราะหคนที่อดขาวคนนั้นก็ใหคนนี้ก็ให บางคนก็ใหเงินบางคนก็ใหขาวบางคนก็ใหกับพวกกรุงเทพฯก็ใหทั้งเงินใหทั้งของทะเลผาผอนทอนสไบพวกจังหวัด สมุทรสาครโยมพวงอยูที่นั่นก็เอาของทะเลมาเป็นลําๆเรือนําปลาอยางดีของทะเลตางๆแลวก็เงินทองดวยผลที่สุดนํา ไป๗ลําเรือแจกกันขนาดหนักบรรดาประชาชนสาธุไปทั่วกันวากันถึงเรื่องการทอดกฐิน

    จะพูดถึงอานิสงสกฐินใหฟังหลวงพอปานทอดกฐินคราวไรละก็ทานก็เทศนแบบนี้เทศนแบบนี้ฉันจะนําใจความมา เลาใหฟังวาการทอดกฐินอานิสงสของกฐินนี่นะใหผลทั้งชาติปัจจุบันและสัมปรายภพชาติปัจจุบันและสัมปรายภพ หมายความวาชาตินี้และชาติหนาชาติตอๆไปคนทอดกฐินสังเกตตัวดู ถาทอดแลวถึง๒-๓ครั้งความเป็นอยูจะคลอง ตัวขึ้นถึงแมวาจะไมรํารวยก็ตามแตความเป็นอยูจะคลองตัวขึ้นรูสึกวาเป็นคนโชคดีมากขึ้นหาลาภสักการคลองตัว ขึ้นทานบอกวานี่ยังเป็นเศษของความดี อานิสงสของการทอดกฐินสามารถจะบันดาลใหคนปรารถนาเป็น พระพุทธเจาก็สําเร็จผล

    ดูตัวอยางองคสมเด็จพระผูมีพระภาคเจาองคปัจจุบันสมัยนั้นเป็นมหาทุกขตะสมัยที่พระปทุมมุตตะทรงอุบัติขึ้นใน โลกแกไมมีอะไรเป็นคนจนไปชวนนายเขาทอดกฐินตัวเองก็เอาผาไปขายแลกกับดายหลอดเขามาดวยดาย๒หลอด เข็ม๑เลมเอามาผสมกับกฐินเขาแลวก็ปรารถนาพระโพธิญาณพระปทุมมุตตะก็ทรงพยากรณวาบุคคลๆนี้ตอไปจะได ตรัสรูเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาทรงพระนามวาพระสมณโคดมนี่เป็นสมุฏฐานของการปรารถนาพระ โพธิญาณของทานมีกฐินเป็นปัจจัยแลวหลวงพอก็เทศนตอไปวาบุคคลใดก็ตามทอดกฐินแลวถวายผาไตรจีวรไวใน พระพุทธศาสนาตอไปถาหากวาไปไดบรรลุพระอรหัตผลก็จะมีผาสําเร็จไปดวยฤทธิ์มาสวมตัวพระพุทธเจาทรง เรียกวาเอหิภิกขุแปลวาเจาจงเป็นภิกษุมาเถิดเพียงเทานี้ผาไตรจีวรก็จะลอยมาจากอากาศสวมตัวเองดวยอํานาจของ อานิสงสกฐิน

    สําหรับผูหญิงถาเป็นเจาภาพหรือจัดการในงานกฐินก็จะไดเครื่องมหาลดาปราสาทเครื่องประดับกายอยางนาง วิสาขามีราคาตั้ง๑๖โกฏิสวยงามมากนี่อยางหนึ่งแลวอีกอยางหนึ่งคนที่ทอดกฐินแลวถาตายจากความเป็นมนุษยจะ เกิดเป็นเทวดา๕๐๐ชาติหมายความวาเกิดแลว๑ชาติของเทวดาก็คือพันปีทิพยหมดกําลังของพันปีทิพยก็จะเกิดเป็น เทวดาใหมตอไปอยางนี้๕๐๐วาระความจริงก็ไดเปรียบมากถาอยางลูกหลานไดเป็นอยางนั้นนะไปนิพพานกันหมด เพราะพวกเรามีศรัทธาอยูแลวเป็นเทวดาก็เป็นเทวดาที่ไมประมาทยังงี้ไปนิพพานกันหมดดีไดกําไร๕๐๐ชาติ เมื่อพน จากความเป็นเทวดาแลวก็มาเกิดเป็นพระเจาจักรพรรดิถาเป็นผูชายนะถาเป็นผูหญิงก็เป็นคูบารมีของพระเจา จักรพรรดิ๕๐๐ชาติ พระเจาจักรพรรดินี่ไมใชพระเจาจักรพรรดิอยางเบาไดนะจักรพรรดิสงเดชอยางนั้นไมใชคําวา จักรพรรดินี่มีอํานาจปกครองไปทั้งโลก มีเกือกแกวแลวก็มีพระขรรคแกวแลวก็มีแกวมณีโชติมีกําลังมากเหาะไดไมมีใครมีอํานาจเทาแลวก็มีธนูศิลปศรจะใช ยังไงก็ไดเหมือนศรพระรามมีอํานาจปกครองโลกปกครองโลกไดจริงๆไมมีใครสูถาเป็นพระเจาจักรพรรดิก็มีขุนพล แกวรบเกงขุนคลังแกวหาเงินเขาคลังเกงชางแกวมาแกวนี่ใชสงรามไดดีนางแกวคือเมียดีเวลาฤดูหนาวรางกายของ เมียก็อบอุนมากขึ้นแลวเวลาฤดูรอนรางกายของเมียก็เย็นทําความสุขใหแกพระเจาจักรพรรดินี่เป็นยังงี้นี่ทานวายัง งั้นถาพนจากสวรรคก็มาเป็นพระเจาจักรพรรดิ๕๐๐ชาติแลวพนจากนั้นก็เป็นกษัตริยธรรมดาไป๕๐๐ชาติจากนั้นก็ มาเป็นมหาเศรษฐี๕๐๐ชาติแลวก็เป็นคหบดี๕๐๐ชาตินี่ทานบอกวา

    อานิสงสของกฐินคราวเดียวก็สามารถใหผลถึงเพียงนี้ทุกคนควรจะทอดกฐินกันแลวเวลาทอดกฐินก็นึกวาตนจะ สงเคราะหพระพุทธศาสนาหรือสงเคราะหพระสงฆในพระพุทธศาสนานั่นเองแตวาเนื้อนาบุญนี่สําคัญนะเวลาจะ หวานขาวลงไปดูเนื้อนาเสียดวยนี่พระพุทธเจาตรัสไวเองเนื้อนาบุญนี่สําคัญ ถานาดอนหวานขาวไมขึ้นมานหมดถา นาลุมขาวก็นําทวมนี่สําคัญมาก (แลววากันไปก็แลวกัน)ใครจะทําที่ไหนจะทอดที่ไหนก็ไมวานี่แนะนําใหฟังหลวงพอ ปานทานเทศนอยางนี้
    http://palungjit.org/threads/ขอคำแนะนำในการทำทาน-ถวายกฐินแบบละเอียดครับ.151655/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2013

แชร์หน้านี้

Loading...