-> ตีแผ่ --> สมเด็จวังหน้า + สมเด็จวัดพระแก้ว + สมเด็จพระธาตุพนม

มันมีมาเรื่อยๆๆ

เพราะคนที่เข้าไปอ่านนิยายในเวบหลอกขายพระ

แล้วเชื่ออย่างงมงาย หัวปรักหัวปรำ


​

 

โรคหลงกรุหลงทาง (ที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเพียงแต่เรื่องสมมุติ หากทำให้ท่านใดรู้สึกไม่ดีก็ขออภัยด้วยนะครับ)

โรคหลงกรุหลงทางเป็นกันมานานหลายสิบปี ซึ่งลักษณะของโรคชนิดนี้จะเป็นกันมากในหมู่ประชากรที่ชื่นชอบของถูกๆถึงถูกมากๆแต่มีความฝันยึดติดอยู่กับของแพงๆแสนแพงหรือโคตรแพง และผมคิดว่า เนื่องด้วยแรงพลักดันดังกล่าวก็ทำให้เกิดภาวะของ การสร้างความเชื่อบางอย่างเพื่อนำมาใช้ในการบรรเทาอาการความผิดหวัง ซึมเศร้า หดหู่ จากความฝันที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในโลกของความจริง ....นี่คือที่มาของโรคหลงกรุหลงทาง ในทัศนะของผม

ความเชื่อของผู้ที่เป็นโรคกลุ่มนี้ ในระยะแรกๆ จัดเป็นภาวะอยู่ในเกณท์ปกติทั่วไปเสมือนความศรัทธาต่อสิ่งๆหนึ่ง เป็นความเชื่อสามารถที่จะให้คำชี้แนะ แก้ไข ปรับปรุงขึ้นมาให้บุคคลเหล่านั้นเป็นปกติได้ หรือมีทางนำท่านเหล่านั้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้ในที่สุด

แต่หากความเชื่อเหล่านี้ ประกอบร่วมด้วยกับ การจับพลังพระเครื่อง บุคคลที่มีทั้ง2อย่างประกอบร่วมกันแล้ว จะเป็นบุคคลที่ไม่สามารถรับข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติม หรือแทรกแซงข้อมูลเดิมได้เลย เสมือนโดนปลูกฝังความคิดชนิดที่คล้ายกับเชื้อไวรัส ที่นอกจากบุุคคลเหล่านี้จะรักษาไม่ได้แล้ว ยังสามารถเป็นพาหะแพร่ความเชื่อชนิดนี้สู่คนรอบข้างได้อีกด้วย
(หากท่านใดที่เคยดูหนังเรื่อง Inception แล้วคงเข้าใจได้ไม่ยากครับ)

กระทู้ของท่าน pmorn ที่เป็นเหมือนวัคซีนรักษาโรคกระทู้นี้ เหมาะท่านที่เป็นมือใหม่ๆ หรือเป็นโรคหลงกรุหลงทางไม่มากไม่นาน(ซึ่งกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของท่านจขกท. )

ส่วนกับท่านที่เป็นโรคหลงกรุหลงทางมานานๆอย่างเรื้อรัง (ประกอบกับท่านจับพลังพระได้อีกด้วย)จนบังเกิดความเชื่อต่อพระสมเด็จกรุแปลกๆเข้ากระดูกดำ(คือโดน Inceptionไปนานแล้ว) ท่านเหล่านี้จะดื้อต่อการรับวัคซีนอย่างรุนแรง ไร้ทางเยียวยา (Hopeless) ผมคิดว่า ท่าน จขกท. คงปลงได้นานแล้ว (และคิดว่าท่านจขกท.คงตั้งใจจะทำเพียงแต่สร้างภูมิคุ้มกันต่อคนรอบข้างได้เท่านั้นครับ )

สุดท้ายโรคหลงกรุหลงทาง ก็ยังคงอยู่และแพร่กระจายเรื่อยๆ (จากที่ผมสังเกตเอง) ซึ่งแต่ก่อนผมเคยสงสัยว่าเชื่อกันเข้าไปได้ยังไง แต่พอได้ดูได้อ่านข่าว พวกระเบิดพลีชีพ(ระเบิดฆ่าตัวตาย) พวกเขาเหล่านี้เชื่อว่าพอพลีชีพไปแล้ว ตายไปพระผู้เป็นเจ้าจะให้ขึ้นสวรรค์และแถมเมียให้อีกคนละ7คน เสวยสุขบนนั้นนิรันดร ......ขนาดนี้มันยังเชื่อกันลง
นับประสาอะไรกับโรคหลงกรุหลงทาง ที่เชื่อแล้วภูมิใจได้เงินใช้ อย่างนี้จึงพากันทำใจเชื่อได้ลงคอ(ติดเชื้อโรคหลงกรุหลงทาง)

 

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ เชิงประวัติศาสตร์ มีข้ออ้างอิง มีที่มาที่ไป อ่านแล้วได้ความรู้มากครับ

 

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ

 

แสดงความยินดีกับเจ้าของกระทู้และเพื่อนฯด้วยครับข้อมูลเพียบ
เราเข้ามาศึกษาเหมือนกัน  ครับ และมีมาให้ชม ๑ องค์และให้ความเห็นได้เต็มที่ครับ

 

พิมพ์นี้งามหลายๆครับท่าน

 

....แค่ 1 ตัวอย่าง

....ไปเจอมาลองเขาไปศึกษา ค้นคว้า หาข้อมูลให้รอบด้านดูนะครับ...

....ก่อนที่จะสรุป และเสนอแนะสู่สาธารณะ

...ขออนุโมทนา

 

test test กระทู้ดีไม่อยากให้ตก เดี๋ยวจะมาปั่นกระทู้ต่อ

 

หลังจากได้อ่านทุกหน้าเกือบทุกข้อความมาแล้ว ยอมรับว่าเคยตามหาพระกรุวังหน้า พระวัดพระแก้วเหมือนกัน อ่านแล้วก็เลยคัดพระได้ 2 อัน ปลอมแน่ พระไกเซอรหลังคาถาชินบัญชร คิดว่าปลอมเหมือนกัน กับพระติดพลอยเหลี่ยม ปลอมแน่ตามรูป

 

(ออกตัวก่อนเลยว่าประสบการณ์น้อยมาๆในเรื่องพระเครื่องผิดถูกอย่างไรขออภัยไว้นะที่นี้เลยครับ)
แต่ข้องใจกับพระอีกอันที่ได้มา เป็นเบญสิริห้าสี แต่เป็นพระพรหมลิขิต ปัญหาคือหลังเป็นพระครุฑ ..... ดังนั้นต้องพิสูจน์แบบวิทยาศาสตร์หน่อย ตรงรูปที่มีพระครุฑ จุดที่วงไว้เป็นจุดที่มีภาษาพระเครื่องเขาเรียกผงตะไบทองหรือเปล่า ? น่าพิสูจน์ว่ามันจะเป็นทองแท้หรือไม่???
อ่านในเน็ตบอกว่าถ้าทองแท้โดนไฟจะไม่เปลี่ยนสี....มันเล็กมากจะเอาไปขีดกับกระเบื้องที่ยังไม่เคลือบก็ไม่ได้อีก คงต้องแกะมาเผาไฟดูอาการซะแล้ว

 

แกะแล้วเอาเข็มสะกิดออกมา ที่บ้านไม่มีกล้องให้ถ่ายรูปดีๆเลย ได้แค่นี้โทษทุกท่านจริงๆ เสร็จแล้วขออนุญาติสิ่งศักดิ์สิทธิไม่ได้ลบลู่ แต่เพื่อเป็นการศึกษาจริงๆ เผาไฟโลด อยากรู้ว่าจะเป็นไง

 

เผาแล้วแตกครับ แตกออกกระเด็นไปไหนนี่พยายามหาตั้งนาน กว่าจะเจอ เหลือชิ้นนิดเดียว พอเอาเข็มจิ้มติดได้แผ่นสีทองติดปลายเข็ม เอาน่าคราวนี้จะได้เผาเต็มๆซะที

 

อันนี้ไม่ได้อัดวิดีโอไว้ ไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่มีหลักฐาน เล่าสู่กันฟังแล้วกัน ผมเผาไปไม่กี่วินาที แผ่นสีทองนั้นได้กลายเป็นแสงสีขาวสว่างแปลกมาก แล้วก็ลอยขึ้นฟ้าคล้ายๆแบบควันธูป แล้วสลายหายไปทันที ผมคิดว่าน่าจะเป็นทองจริง ผมจะเอาไปใส่ขึ้นคอแล้วละครับสำหรับพระเครื่องอันนี้


หากเป็นจริง ของจริง แสดงว่าต้องมีอยู่จริง แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะทันหรือไม่ทันหลวงปู่โต ผมไม่ทราบเลย ใครมีข้อมูลมากกว่านี้ช่วยมาเล่าแจ้งได้ไหม ตราครุฑด้านหลังของแท้ต้องมีแน่ๆ แต่ประวัติต้องไม่ใช่เรื่องนิทานที่นักขายท่าพระจันทร์หลอกเราแน่ๆ ผมเองก็เคยไปเดิน ยอมรับจริงๆว่า ปลอมสุดๆ ขนาดดูพระไม่เป็นไม่เก่งเรายังรู้เลยว่าปลอม ขนาดไม่ได้ไปบูชาที่ท่าพระจันทร์ ยังโดนมา 2 เลยเหอะๆ

 

มาต่อด้วยโปรเจคอีกอัน อันนี้อีกองค์ ทุบกรอบมาพิสูจน์กันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย รูปเหมือนหลวงปู่โต แต่หลังเป็นร.5 เหอะๆ อ่านมาทั้งหมดนี้ อันนี้แววจะปลอมเกินครึ่งไปซะแล้วซิ แต่อันนี้พิสูจน์ไม่ยาก เพราะภาษาพระเครื่องลูกปัดที่ติดอยู่เขาว่าเป็นแร่เมฑพันธ์อะไรนี่ละ เหอะๆ แร่จริงต้องเผาไฟแล้วไม่ไหม้ มาพิสูจน์กันดีกว่าองค์นี้จะจริงหรือโดนหลอกอีกไหม

 

เอาแล้วไงกะว่าหลอมละลายแน่ๆ ผมเผาหลายรอบ เผาเท่าไรก็ไม่ไหม้ไฟ แต่มันกลายเป็นสีแดงได้แล้วก็กลับมาเป็นสีเดิม??? แร่จริงรึ ไม่ใช่ลูกปัดหรอกหรือ งง
จากนี้ไปจะทำไงต่อดีอ่าครับ ทุบดูดีไหมครับ พี่น้อง ขอเสียงหน่อย เป็นเรื่องแล้วไง

 

เผาแล้วเป็นขี้เถ้า น่าจะเป็นทองคำเปลววิทยาศาสตร์
เพราะถ้าเป็นทองแท้เย็นแล้วจะจับตัวเป็นก้อนเหมือนเดิม

เม็ดลูกปัดคงจะเป็นพวกแก้วหลอม หรือพวกแร่แฮมาไทส์พวกนี้จะทนไฟได้ระดับหนึ่ง
ลองทุบดูก็ดี ผมก็อยากรู้เช่นกัน

 

มันจริงๆๆ จะตามอ่านต่อไปเรื่อยๆ ขอบคุรมากๆๆ ครับ เอามาลงอีกเยอะๆนะครับ สนุกดี แถมได้ความรู้ปึก

 

เรียบร้อยโรงเรียนท่าพระจันทร์ พอทุบแล้ว ทุบๆๆๆ ออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปรากฎว่า เป็นเศษแก้วชัดๆ สัมผัสแล้วก็มีความคมแหลมด้วย ดังนั้นสรุป ปลอมครับ ไอ้พวกมารสังคมเอ้ยหลอกลวงชาวบ้านกันจังนะมรึง ฮือๆๆๆๆ โดนเข้าแล้ว ขอให้ระวังไว้นะครับใครเห็นมันใสๆไม่ใช่พลาสติกก็อย่าไปคิดว่าแท้เด็ดขาดเลย ตัวอย่างก็ผมนี่ไง 3 องค์ปลอมหมดพระกรุสายนี้ แน่จริงกล้าพิสูจน์อย่างผมกันไหมละพวกที่ว่าแท้ๆอ่ะ พลอยดำพลอยแดงเหล็กไหลดำแปะอะไรพวกนั้น กล้าก็มาพิสูจน์กันดูสิจะมีของใครแท้ไหม

เออ ผมลองเผาทองอย่างที่คุณ ศนิวารบอกแล้ว จริงด้วยครับเป็นขี้เถ้าไม่เห็นทองเลย แต่กับทองพระพรหมลิขิตมันแปลกทำไมเป็นแสงขาวแล้วลอยขึ้นฟ้างงมากๆ สงสัยต้องให้ผู้เชียวชาญส่องพิสูจน์ภายหลังเอา เพราะผมไม่เชี่ยวเลยดูผ่านๆเอา พระเหรียญยิ่งไม่แตะเลยครับ ปัจจุบันผมบูชาพระใหม่ๆแล้ว แท้แน่ สบายใจกว่าครับ เลิกเก็บพระเก่าแล้วครับตอนนี้ เพิ่งเห็นกระทู้นี้เลยเอามาชำแร่ะให้รู้กันไปเลยครับ

เรื่องมันเกิดขึ้นว่าลูกค้ามาซื้อของ เห็นแขวนพระโชว์ก็เลยถามว่าพระอะไร ลูกค้าบอกสมเด็จเบญสิริ หลังครุฑ พระวัดพระแก้ว แต่ผมมองด้วยตาดูเก่าน้อยไป เลยเกิดความสงสัยค้นหากูเกิ้ล ไปๆมาๆเจอกระทู้นี้เขาถึงรู้ความจริงก็วันนี้เอง มีคนโดนหลอกกันเยอะมากๆครับอย่าให้มันทำมาหากินได้ง่ายๆแบบนี้อีก

ขอบคุณที่ทุกท่านช่วยกันเผยแพร่ครับขอบคุณมากๆครับ หวังว่ากระทู้นี้จะทำให้ใครตาสว่างกันมากขึ้น ทุกอย่างพิสูจน์กันได้จริงๆครับ สวัสดีครับ

 

อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ โปรดแจ้งที่อยู่ และรับของคืนด้วย นาย...sitt.....
และ vichi....
ผมโดนเยอะ ว่างๆจะลงรูป ให้ดูครับ